หลังจากที่หานจุนนั่งแท็กซี่มาถึงโครงการคฤหาสน์เขาหยุนติง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เรียกหานซานเฉียนด้วยความเคารพ ซึ่งนั่นทำให้หานจุนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ในสายตาของหานจุน หานซานเฉียนควรจะมีชีวิตในเมืองหยุนเฉิงอย่างเลวร้ายถึงจะถูกต้อง ทำไมถึงมีทั้งผู้หญิงที่ชื่นชอบเขา และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแสดงเคารพนบนอบต่อเขา หรือว่าคนไร้ค่าอย่างเขายังสามารถทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าในเมืองหยุนเฉิงได้? สาเหตุที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแสดงท่าทีเคารพต่อหานซานเฉียนนั้นเป็นเพราะว่าพวกเขาเป็นคนของตระกูลเทียน และความสัมพันธ์ของตระกูลเทียนกับหานซานเฉียนนั้นไม่จำเป็นต้องอธิบายใด ๆ อีกเมื่อมาถึงคฤหาสน์ใจกลางภูเขา หานจุนก็กดกริ่งที่ประตูใหญ่ หลังจากที่เหอถิงเห็นหานซานเฉียน เธอก็ยิ้มให้พร้อมกับพูดว่า “ในที่สุดคุณก็กลับมาสักทีนะคะ”คนนี้น่าจะเป็นแม่บ้านเหอถิงของคฤหาสน์หลังนี้ หานจุนจึงพยักหน้ารับนิ่ง ๆ โดยที่ไม่พูดอะไร เหอถิงขมวดคิ้ว ปกติแล้วหานซานเฉียนจะเป็นคนที่เรียบง่ายและไม่ถือตัว แต่ทำไมวันนี้เขากลับแสดงท่าทีหยิ่งยโสเช่นนี้ เขาเพิ่งจากไปไม่กี่วันเองไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงเปลี่ยนไปมากขนาดน
“หยิงเซี่ย ในที่สุดลูกก็กลับมาสักที”“ถ้าลูกยังไม่กลับมา บ้านหลังนี้คงจะพังพินาศไปแล้ว” เมื่อเห็นซูหยิงเซี่ย เจี่ยงหลานและซูกั๋วเย่าทั้งสองคนก็รีบเดินเข้าไปข้าง ๆ เธออย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นใบหน้าบวมช้ำของพ่อ ซูหยิงเซี่ยจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “พ่อคะ พ่อไปทำอะไรมาคะ ทำไมถึงคนโดนทำร้ายมาแบบนี้?” “ลูกยังถามมาได้ ทั้งหมดนี่เขาเป็นคนทำ เขาทำร้ายแม่ของลูกด้วย พ่อไปหาเขาเพื่อถามเหตุผล แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เขาก็ทำร้ายพ่ออีกคน” ซูกั๋วเย่ากัดฟันพูดหานซานเฉียนเป็นคนทำอย่างนั้นเหรอ?จะเป็นไปได้อย่างไร! ทำไมเขาต้องทำร้ายคนด้วยล่ะ“พ่อกับแม่อย่าพูดจาใส่ร้ายหานซานเฉียนสิคะ เขาจะทำร้ายพ่อกับแม่ได้ยังไงกัน” เดิมทีซูหยิงเซี่ยไม่เชื่อคำพูดของพวกเขาอยู่แล้ว หานซานเฉียนเป็นคนแบบไหนเธอรู้ดีที่สุด เขาจะลงมือทำร้ายคนอื่นได้อย่างไร? ทันใดนั้น หานจุนก็ลุกขึ้นยืนแล้วหันกลับมาพูดว่า “ผมเป็นคนทำเอง คุณไม่ต้องสงสัยหรอก”เมื่อหานจุนเห็นซูหยิงเซี่ย เขาก็ตกตะลึงในความงดงามของเธอทันที รูปลักษณ์ของเธอดูดีกว่านางแบบทั้งหมดที่เขาเคยเล่นด้วยเสียอีก หานซานเฉียนคนไร้ค่าคนนั้นโชคดีชะมัด แต่งงานเข้าตระกูลซูแล้วย
ในห้องขังใหญ่ แม้แต่ตอนกลางดึก หานจุนก็ยังไม่กล้าที่จะผ่อนคลายการระมัดระวังตัว เพราะเขาไม่รู้ว่ากวานหย่งจะลากเขาขึ้นมาทุบตีอีกครั้งเมื่อไหร่ ในห้องขังใหญ่สถานะของเขาก็คือแมลงผู้น่าสงสารที่ถูกคนอื่นเหยียบย่ำ กวานหยงใช้วิธีทุบตีและดุด่าเพื่อความสนุกของตัวเองยังดีที่ได้ออกมาจากสถานที่อันน่ากลัวนั้นแล้ว และไม่ต้องทนทรมานเพราะกวานหยงอีกต่อไป หานจุนอดไม่ได้ที่จะคิดถึงหานซานเฉียน ตอนนี้เขากำลังขัดห้องน้ำอยู่ หรือว่ากำลังคุกเข่าร้องเพลงต่อหน้ากวานหยงกันนะ? “น่าเสียดายที่กวานหย่งโดนขังให้อยู่ในคุกเป็นเวลานาน ฉันก็เลยไม่มีโอกาสได้แก้แค้น หวังว่าพวกนายจะปฏิบัติต่อน้องชายของฉันเป็นอย่างดีนะ ลากมันมาทุบตีสักสองสามครั้งทุกวันก็จะดีมาก คนไร้ค่าคนนั้นเพียงพอให้พวกนายได้เล่นสนุกกันแล้วล่ะ” หานจุนพึมพำกับตัวเองพร้อมกับหัวเราะออกมาหานจุนคิดไปเองว่าหานซานเฉียนคงกำลังทุกข์ทรมานในคุก แต่ในตอนนี้กวานหยงกำลังนวดให้หานซานเฉียนอยู่ต่างงหากหานจุนที่ผ่อนคลายผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าเป็นเวลาตีสามแล้วเมื่อไม่เห็นซูหยิงเซี่ยนอนอยู่ข้าง ๆ หานจุนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ไอ้คนไร้
ซูหยิงเซี่ยกำลังดิ้นรนอย่างสุดกำลังพร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง จนเสียงของเธอนั้นดังไปถึงหูของเจี่ยงหลานและคนอื่น ๆ อย่างรวดเร็วเหอถิงเป็นคนแรกที่ไปถึงห้องของเธอ เมื่อเห็นหานจุนใช้กำลังบังคับซูหยิงเซี่ย เธอจึงรีบร้องตะโกนลั่นทันทีไม่นานเจี่ยงหลานและซูกั๋วเย่าทั้งสองคนก็มาถึงทั้งสามคนช่วยกันผลักหานจุนออกไป และเข้าไปปกป้องซูหยิงเซี่ยไว้ “หานซานเฉียน แกทำบ้าอะไร” ซูกั๋วเย่ารู้สึกโกรธจัด ตลอดสามปีที่ผ่านมา ซูหยิงเซี่ยไม่ยินยอมมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหานซานเฉียน คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้เขากลายเป็นคนที่โหดร้ายเช่นนี้ “ไอ้สารเลว ไม่คิดเลยว่าแกจะกล้าใช้กำลังบังคับขืนใจลูกสาวของฉัน ฉันจะไปแจ้งตำรวจแน่” เจี่ยงหลานพูดด้วยความโกรธจัดเหอถิงเองก็มีความรู้สึกเดือดดาลมากเช่นกัน เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมหานซานเฉียนถึงกลายเป็นคนแบบนี้ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถ้าซูหยิงเซี่ยไม่เต็มใจ เขาก็ไม่สามารถบังคับขืนใจเธอได้หานจุนที่ไม่ใช่หานซานเฉียนเผชิญกับความลำบากใจของทั้งสามคน เขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากพูดขึ้นว่า “พวกคุณจะยุ่งเรื่องของคนทำไม ผมจะหลับนอนกับภรรยาของผมก็เป็นเรื่องธรรมดา พวกคุณคิด
เทียนหงฮุย ลูกชายของเทียนฉางเฉิง และเป็นพ่อของเทียนหลิงเอ๋อร์ในงานเลี้ยงวันเกิดของเทียนฉางเฉิง หานซานเฉียนได้รับเชิญให้นั่งที่โต๊ะหลัก ขณะนั้นเทียนฉางเฉิงยังแนะนำหานซานเฉียนให้ตระกูลเทียนรู้จัก แม้ว่าในตอนนั้นเทียนหงฮุยจะรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับตัวตนของหานซานเฉียน แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ หลังจากที่เขาได้ยินเทียนหลิงเอ๋อร์พูดถึงเรื่องของหานซานเฉียนขึ้นมา เขาก็พอเข้าใจถึงเหตุผลของเทียนฉางเฉิงที่ชื่นชมหานซานเฉียน ทำไมเขาถึงมาสถานที่แบบนี้ แถมยังเดินสวนทางกันราวกับไม่รู้จักกันอีกต่างหาก! เทียนหงฮุยกลับมาบ้าน และเมื่อถึงเช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็ไปพบเทียนฉางเฉิงทันที “พ่อครับ หานซานเฉียนเป็นคนแบบไหนเหรอครับ?” เทียนหงฮุยเอ่ยถามเทียนฉางเฉิง ช่วงนี้เทียนฉางเฉิงมีความสุขมากเพราะได้เป็นลูกศิษย์ของหานซานเฉียน แต่ทำไมจู่ ๆ เทียนหงฮุยถึงเอ่ยถามเรื่องของหานซานเฉียนขึ้นมาแบบนี้ล่ะ? “ทำไมจู่ ๆ ถึงได้สนใจหานซานเฉียนขึ้นมาล่ะ?” เทียนฉางเฉิงเอ่ยถาม เดิมทีเทียนหงฮุยไม่สนใจเรื่องนี้ และเขาก็ไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งด้วยเช่นกันถึงแม้จะพูดได้ว่าตอนนี้เทียนฉางเฉิงจะไม่ถามเพียงแค่เรื่องของบริษัทเท่านั
ซูหยิงเซี่ยนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน และหลังจากฟ้าสาง เธอก็ตัดสินใจที่จะไปหาหลินหย่ง เพราะหานซานเฉียนคนนี้ไม่ใช่หานซานเฉียน และหลินหย่งก็เคยติดต่อกับหานซานเฉียนมาก่อน บางทีเขาอาจจะช่วยเหลืออะไรได้บ้างในช่วงเวลาตลอดทั้งคืนซูหยิงเซี่ยจิตใจสับสนวุ่นวาย เธอลองคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดต่าง ๆ แม้กระทั่งคิดไปว่าหานซานเฉียนอาจประสบอุบัติเหตุ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวและกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการสอบถาม ซูหยิงเซี่ยจึงได้รู้ว่าหลินหย่งอยู่ที่ไนท์คลับเมจิกซิตี้ แต่เธอมาที่นี่แต่เช้าประตูที่นี่จึงปิดสนิท เพราะที่นี่คือไนท์คลับ แล้วประตูจะเปิดตอนเช้าได้อย่างไรกันซูหยิงเซี่ยทำได้เพียงแค่เคาะประตูอย่างสุดกำลัง เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน คนที่อยู่ด้านในก็รู้สึกตกใจและเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ “โหวกเหวกอะไรตั้งแต่เช้าตรู่เนี่ย อยากตายหรือไง?” “ฉันอยากพบหลินหย่ง” ซูหยิงเซี่ยไม่ค่อยได้สัมผัสกับเหตุการณ์แบบนี้บ่อยนัก นับประสาอะไรกับผู้คนในพื้นที่สีเทา ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับลูกสมุนของหลินหย่งที่ดูดุดันโหดเหี้ยม เธอจึงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย เมื่อลูกสมุนคนนั้นเห็นว่าสาวงามอย่างซูหยิงเซี่ย เขา
”คุณผู้หญิงซู คุณเป็นภรรยาของเขานะครับ ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร แล้วพวกเราจะรู้ได้ยังไงครับ?” ม่อหยางพูด ซูหยิงเซี่ยรู้ว่า ถ้าเธอแค่อยากถามพวกเขาเกี่ยวกับหานซานเฉียนก็คงไม่ได้ความอะไรกลับมา จึงได้แต่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทั้งหมดให้ฟัง เมื่อม่อหยางได้ยินแบบนี้ สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นทันใด ก่อนหน้านี้หานซานเฉียนได้พูดอะไรบางอย่างที่แปลกประหลาดออกมา ผมที่ไม่เหมือนผม ผมที่ไม่ใช่ผม ในขณะนั้นม่อหยางรู้สึกสับสนและไม่เข้าใจเลย แต่ตอนนี้ม่อหยางเข้าใจแล้วว่าทำไมหานซานเฉียนถึงพูดแบบนั้น ในเมืองหยุนเฉิง มีคนคนหนึ่งที่เหมือนกับเขาทุกประการปรากฏตัวขึ้น! “คุณผู้หญิงซู คุณแน่ใจเหรอว่าเขาไม่ใช่หานซานเฉียนจริง ๆ?” ม่อหยางถาม แม้เขาจะคิดว่าหานซานเฉียนไม่มีทางขืนใจซูหยิงเซี่ย แต่ผู้ชายน่ะ เวลาหื่นกระหายขึ้นมาก็ไม่แน่เหมือนกัน “ค่ะ” ซูหยิงเซี่ยพยักหน้าอย่างหนักแน่น เธอมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ในเรื่องนี้ จึงพูดอีกว่า “เขายังบอกว่า ฉันยังไม่เคยนอนกับเขา เขาที่เขาพูดถึง น่าจะหมายถึงหานซานเฉียน” ม่อหยางสูดหายใจเข้าลึก นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน “ใช่สิ หานซานเฉียนเคยบอกผมไว้ว่า ใ
เมื่อเฉินหลิงเหยารู้ว่าซูหยิงเซี่ยต้องมาอยู่ที่บ้านเธอหลายวันก็แอบรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะเธอเพิ่งพยายามเตือนซูหยิงเซี่ยอย่างปากเปียกปากแฉะให้ทำตามความต้องการของหานซานเฉียน แต่เธอดันย้ายออกจากคฤหาสน์แบบนี้ คงไม่ใช่เพราะหานซานเฉียนเย็นชากว่าเดิมหรอกใช่ไหม? เฉินหลิงเหยาซักไซ้ต่อทางโทรศัพท์แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไร เธอจึงต้องเก็บกวาดภายในบ้านให้พร้อม หลังจากนั้นไม่นาน ซูหยิงเซี่ยก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบน้อยใหญ่ เฉินหลิงเหยาเห็นแล้วก็รู้สึกสิ้นหวังทันที ไม่ใช่ว่าเธอกลัวซูหยิงเซี่ยรบกวน แต่การที่ซูหยิงเซี่ยทำแบบนี้ แสดงว่าเธอไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับหานซานเฉียนเลยอย่างนั้นเหรอ? “หยิงเซี่ย นี่เธอตั้งใจมาอยู่กับฉันนานขนาดนั้นเลยเหรอ? เกิดอะไรขึ้น?” เฉินหลิงเหยาเอ่ยถาม เธอรู้จักนิสัยใจคอของเพื่อนสนิทคนนี้ดี ซูหยิงเซี่ยเข้าใจดีว่า ถ้าไม่บอกความจริงกับเธอ เธอจะต้องซักไซ้จนถึงที่สุด “เธอเชื่อไหมว่าบนโลกนี้มีคนที่หน้าตาเหมือนกันทุกอย่าง?” ซูหยิงเซี่ยกล่าว “ฝาแฝดไง จะมีอะไรไม่น่าเชื่อไปกว่านี้อีกล่ะ?” เฉินหลิงเหยากล่าว ซูหยิงเซี่ยได้ยินแบบนั้นก็สะดุ้งเฮือก ไม่ว่าจ
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ