ในห้องขังใหญ่ แม้แต่ตอนกลางดึก หานจุนก็ยังไม่กล้าที่จะผ่อนคลายการระมัดระวังตัว เพราะเขาไม่รู้ว่ากวานหย่งจะลากเขาขึ้นมาทุบตีอีกครั้งเมื่อไหร่ ในห้องขังใหญ่สถานะของเขาก็คือแมลงผู้น่าสงสารที่ถูกคนอื่นเหยียบย่ำ กวานหยงใช้วิธีทุบตีและดุด่าเพื่อความสนุกของตัวเองยังดีที่ได้ออกมาจากสถานที่อันน่ากลัวนั้นแล้ว และไม่ต้องทนทรมานเพราะกวานหยงอีกต่อไป หานจุนอดไม่ได้ที่จะคิดถึงหานซานเฉียน ตอนนี้เขากำลังขัดห้องน้ำอยู่ หรือว่ากำลังคุกเข่าร้องเพลงต่อหน้ากวานหยงกันนะ? “น่าเสียดายที่กวานหย่งโดนขังให้อยู่ในคุกเป็นเวลานาน ฉันก็เลยไม่มีโอกาสได้แก้แค้น หวังว่าพวกนายจะปฏิบัติต่อน้องชายของฉันเป็นอย่างดีนะ ลากมันมาทุบตีสักสองสามครั้งทุกวันก็จะดีมาก คนไร้ค่าคนนั้นเพียงพอให้พวกนายได้เล่นสนุกกันแล้วล่ะ” หานจุนพึมพำกับตัวเองพร้อมกับหัวเราะออกมาหานจุนคิดไปเองว่าหานซานเฉียนคงกำลังทุกข์ทรมานในคุก แต่ในตอนนี้กวานหยงกำลังนวดให้หานซานเฉียนอยู่ต่างงหากหานจุนที่ผ่อนคลายผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าเป็นเวลาตีสามแล้วเมื่อไม่เห็นซูหยิงเซี่ยนอนอยู่ข้าง ๆ หานจุนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ไอ้คนไร้
ซูหยิงเซี่ยกำลังดิ้นรนอย่างสุดกำลังพร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง จนเสียงของเธอนั้นดังไปถึงหูของเจี่ยงหลานและคนอื่น ๆ อย่างรวดเร็วเหอถิงเป็นคนแรกที่ไปถึงห้องของเธอ เมื่อเห็นหานจุนใช้กำลังบังคับซูหยิงเซี่ย เธอจึงรีบร้องตะโกนลั่นทันทีไม่นานเจี่ยงหลานและซูกั๋วเย่าทั้งสองคนก็มาถึงทั้งสามคนช่วยกันผลักหานจุนออกไป และเข้าไปปกป้องซูหยิงเซี่ยไว้ “หานซานเฉียน แกทำบ้าอะไร” ซูกั๋วเย่ารู้สึกโกรธจัด ตลอดสามปีที่ผ่านมา ซูหยิงเซี่ยไม่ยินยอมมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหานซานเฉียน คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้เขากลายเป็นคนที่โหดร้ายเช่นนี้ “ไอ้สารเลว ไม่คิดเลยว่าแกจะกล้าใช้กำลังบังคับขืนใจลูกสาวของฉัน ฉันจะไปแจ้งตำรวจแน่” เจี่ยงหลานพูดด้วยความโกรธจัดเหอถิงเองก็มีความรู้สึกเดือดดาลมากเช่นกัน เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมหานซานเฉียนถึงกลายเป็นคนแบบนี้ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถ้าซูหยิงเซี่ยไม่เต็มใจ เขาก็ไม่สามารถบังคับขืนใจเธอได้หานจุนที่ไม่ใช่หานซานเฉียนเผชิญกับความลำบากใจของทั้งสามคน เขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากพูดขึ้นว่า “พวกคุณจะยุ่งเรื่องของคนทำไม ผมจะหลับนอนกับภรรยาของผมก็เป็นเรื่องธรรมดา พวกคุณคิด
เทียนหงฮุย ลูกชายของเทียนฉางเฉิง และเป็นพ่อของเทียนหลิงเอ๋อร์ในงานเลี้ยงวันเกิดของเทียนฉางเฉิง หานซานเฉียนได้รับเชิญให้นั่งที่โต๊ะหลัก ขณะนั้นเทียนฉางเฉิงยังแนะนำหานซานเฉียนให้ตระกูลเทียนรู้จัก แม้ว่าในตอนนั้นเทียนหงฮุยจะรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับตัวตนของหานซานเฉียน แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ หลังจากที่เขาได้ยินเทียนหลิงเอ๋อร์พูดถึงเรื่องของหานซานเฉียนขึ้นมา เขาก็พอเข้าใจถึงเหตุผลของเทียนฉางเฉิงที่ชื่นชมหานซานเฉียน ทำไมเขาถึงมาสถานที่แบบนี้ แถมยังเดินสวนทางกันราวกับไม่รู้จักกันอีกต่างหาก! เทียนหงฮุยกลับมาบ้าน และเมื่อถึงเช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็ไปพบเทียนฉางเฉิงทันที “พ่อครับ หานซานเฉียนเป็นคนแบบไหนเหรอครับ?” เทียนหงฮุยเอ่ยถามเทียนฉางเฉิง ช่วงนี้เทียนฉางเฉิงมีความสุขมากเพราะได้เป็นลูกศิษย์ของหานซานเฉียน แต่ทำไมจู่ ๆ เทียนหงฮุยถึงเอ่ยถามเรื่องของหานซานเฉียนขึ้นมาแบบนี้ล่ะ? “ทำไมจู่ ๆ ถึงได้สนใจหานซานเฉียนขึ้นมาล่ะ?” เทียนฉางเฉิงเอ่ยถาม เดิมทีเทียนหงฮุยไม่สนใจเรื่องนี้ และเขาก็ไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งด้วยเช่นกันถึงแม้จะพูดได้ว่าตอนนี้เทียนฉางเฉิงจะไม่ถามเพียงแค่เรื่องของบริษัทเท่านั
ซูหยิงเซี่ยนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน และหลังจากฟ้าสาง เธอก็ตัดสินใจที่จะไปหาหลินหย่ง เพราะหานซานเฉียนคนนี้ไม่ใช่หานซานเฉียน และหลินหย่งก็เคยติดต่อกับหานซานเฉียนมาก่อน บางทีเขาอาจจะช่วยเหลืออะไรได้บ้างในช่วงเวลาตลอดทั้งคืนซูหยิงเซี่ยจิตใจสับสนวุ่นวาย เธอลองคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดต่าง ๆ แม้กระทั่งคิดไปว่าหานซานเฉียนอาจประสบอุบัติเหตุ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวและกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการสอบถาม ซูหยิงเซี่ยจึงได้รู้ว่าหลินหย่งอยู่ที่ไนท์คลับเมจิกซิตี้ แต่เธอมาที่นี่แต่เช้าประตูที่นี่จึงปิดสนิท เพราะที่นี่คือไนท์คลับ แล้วประตูจะเปิดตอนเช้าได้อย่างไรกันซูหยิงเซี่ยทำได้เพียงแค่เคาะประตูอย่างสุดกำลัง เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน คนที่อยู่ด้านในก็รู้สึกตกใจและเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ “โหวกเหวกอะไรตั้งแต่เช้าตรู่เนี่ย อยากตายหรือไง?” “ฉันอยากพบหลินหย่ง” ซูหยิงเซี่ยไม่ค่อยได้สัมผัสกับเหตุการณ์แบบนี้บ่อยนัก นับประสาอะไรกับผู้คนในพื้นที่สีเทา ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับลูกสมุนของหลินหย่งที่ดูดุดันโหดเหี้ยม เธอจึงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย เมื่อลูกสมุนคนนั้นเห็นว่าสาวงามอย่างซูหยิงเซี่ย เขา
”คุณผู้หญิงซู คุณเป็นภรรยาของเขานะครับ ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร แล้วพวกเราจะรู้ได้ยังไงครับ?” ม่อหยางพูด ซูหยิงเซี่ยรู้ว่า ถ้าเธอแค่อยากถามพวกเขาเกี่ยวกับหานซานเฉียนก็คงไม่ได้ความอะไรกลับมา จึงได้แต่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทั้งหมดให้ฟัง เมื่อม่อหยางได้ยินแบบนี้ สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นทันใด ก่อนหน้านี้หานซานเฉียนได้พูดอะไรบางอย่างที่แปลกประหลาดออกมา ผมที่ไม่เหมือนผม ผมที่ไม่ใช่ผม ในขณะนั้นม่อหยางรู้สึกสับสนและไม่เข้าใจเลย แต่ตอนนี้ม่อหยางเข้าใจแล้วว่าทำไมหานซานเฉียนถึงพูดแบบนั้น ในเมืองหยุนเฉิง มีคนคนหนึ่งที่เหมือนกับเขาทุกประการปรากฏตัวขึ้น! “คุณผู้หญิงซู คุณแน่ใจเหรอว่าเขาไม่ใช่หานซานเฉียนจริง ๆ?” ม่อหยางถาม แม้เขาจะคิดว่าหานซานเฉียนไม่มีทางขืนใจซูหยิงเซี่ย แต่ผู้ชายน่ะ เวลาหื่นกระหายขึ้นมาก็ไม่แน่เหมือนกัน “ค่ะ” ซูหยิงเซี่ยพยักหน้าอย่างหนักแน่น เธอมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ในเรื่องนี้ จึงพูดอีกว่า “เขายังบอกว่า ฉันยังไม่เคยนอนกับเขา เขาที่เขาพูดถึง น่าจะหมายถึงหานซานเฉียน” ม่อหยางสูดหายใจเข้าลึก นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน “ใช่สิ หานซานเฉียนเคยบอกผมไว้ว่า ใ
เมื่อเฉินหลิงเหยารู้ว่าซูหยิงเซี่ยต้องมาอยู่ที่บ้านเธอหลายวันก็แอบรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะเธอเพิ่งพยายามเตือนซูหยิงเซี่ยอย่างปากเปียกปากแฉะให้ทำตามความต้องการของหานซานเฉียน แต่เธอดันย้ายออกจากคฤหาสน์แบบนี้ คงไม่ใช่เพราะหานซานเฉียนเย็นชากว่าเดิมหรอกใช่ไหม? เฉินหลิงเหยาซักไซ้ต่อทางโทรศัพท์แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไร เธอจึงต้องเก็บกวาดภายในบ้านให้พร้อม หลังจากนั้นไม่นาน ซูหยิงเซี่ยก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบน้อยใหญ่ เฉินหลิงเหยาเห็นแล้วก็รู้สึกสิ้นหวังทันที ไม่ใช่ว่าเธอกลัวซูหยิงเซี่ยรบกวน แต่การที่ซูหยิงเซี่ยทำแบบนี้ แสดงว่าเธอไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับหานซานเฉียนเลยอย่างนั้นเหรอ? “หยิงเซี่ย นี่เธอตั้งใจมาอยู่กับฉันนานขนาดนั้นเลยเหรอ? เกิดอะไรขึ้น?” เฉินหลิงเหยาเอ่ยถาม เธอรู้จักนิสัยใจคอของเพื่อนสนิทคนนี้ดี ซูหยิงเซี่ยเข้าใจดีว่า ถ้าไม่บอกความจริงกับเธอ เธอจะต้องซักไซ้จนถึงที่สุด “เธอเชื่อไหมว่าบนโลกนี้มีคนที่หน้าตาเหมือนกันทุกอย่าง?” ซูหยิงเซี่ยกล่าว “ฝาแฝดไง จะมีอะไรไม่น่าเชื่อไปกว่านี้อีกล่ะ?” เฉินหลิงเหยากล่าว ซูหยิงเซี่ยได้ยินแบบนั้นก็สะดุ้งเฮือก ไม่ว่าจ
หานซานเฉียนจดจำทุกคำที่ตี้สู่พูดจนขึ้นใจ หลังจากหมดเวลาปล่อยนักโทษเดินเล่นแล้ว เขาก็กลับมาที่ห้องขังใหญ่ แล้วเริ่มขบคิดอย่างจริงจัง ในฐานะพี่ใหญ่ของห้องใหญ่ ก่อนหน้านี้มีแต่คนมานวดให้กวานหยง แต่ตอนนี้ทุกครั้งที่หมดเวลาปล่อยนักโทษเดินเล่น เขาจะเป็นคนเข้ามานวดให้หานซานเฉียนเอง กวานหยงมีความสงสัยอยู่ในใจมาโดยตลอด ทำไมจู่ ๆ หานจุนถึงได้เปลี่ยนไปอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินแบบนี้? เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน นิสัยใจคอไม่เหมือนเดิม ทักษะก็ไม่เหมือนเดิม เขาถึงขั้นสงสัยว่าหานจุนคนเดิมถูกคนอื่นแอบเข้ามาสับเปลี่ยนตัวด้วยซ้ำ แต่เรื่องนี้เขาไม่กล้าที่จะพูดออกไปอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่รู้ว่าต้องร่วมมือกันกี่คนถึงจะทำการแบบนี้ได้ ถ้าคนอื่นรู้ถึงการคาดเดาของเขา เขาคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแน่นอน “พี่ใหญ่หาน เป็นไงบ้างครับ?” กวานหยงถามด้วยสีหน้าเคอะเขิน “ถ้าฉันได้ออกไป ฉันคงคิดถึงการนวดของนาย” หานซานเฉียนพูดด้วยรอยยิ้ม ออกไป! เหงื่อเย็นผุดออกมาบนหน้าผากของกวานหยง โทษของเขาคือสิบปี ถ้าให้ออกไปตอนนี้มันจะไม่เร็วเกินไปหน่อยเหรอ? “กวานหยง ฉันยังไม่รู้เลยว่านายทำผิดอะไรถึงเข้ามาที่นี่ คงทำเรื่องโหดเหี้ยม
“หาน… หานซานเฉียน!” หนานกงเชียนชิวมองไปยังหานซานเฉียนอย่างหวาดผวา ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่ได้? เขาไม่ได้ติดคุกแทนหานจุนที่อยู่ในเรือนจำหยุนหลงหรอกหรือ? ทำไมถึงออกมาที่นี่ได้! หานซานเฉียนแค่สะบัดมือไปมา ชายชุดดำที่เพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้ก็ตายจนร่างแน่นิ่ง เมื่อหนานกงเชียนชิวเห็นภาพนี้ สีหน้าก็ยิ่งซีดเซียวลง นี่คือยอดฝีมือที่เธอหามา และกำลังจะส่งเข้าไปฆ่าหานซานเฉียนในเรือนจำหยุนหลง ทำไมถึงตายด้วยน้ำมือของคนไร้ประโยชน์อย่างหานซานเฉียนได้ง่ายดายขนาดนี้! ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเหยียนจุนอยู่ในห้องของเธอ หนานกงเชียนชิวคงคิดว่าเหยียนจุนเป็นคนทำเรื่องนี้อย่างแน่นอน แต่… แต่เหยียนจุนอยู่ข้างเธอมาตลอด “หนานกงเชียนชิว คนไร้ประโยชน์แบบนี้ คุณยังคิดอาศัยคนให้มาฆ่าผมอยู่เหรอ?” หานซานเฉียนพูดอย่างเย็นชา หนานกงเชียนชิวกัดฟันกรอดมองหานซานเฉียน แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่สนใจว่าแกจะใช้วิธีไหนฆ่าเขา แต่แกรู้หรือเปล่าว่า การแหกคุกของแกจะนำพาหายนะมาสู่ตระกูลหานยังไงบ้าง?” “หายนะเหรอครับ?” หานซานเฉียนยิ้มเยาะแล้วพูดต่อว่า “หนานกงเชียนชิว มันเป็นฝีมือของคุณทั้งหมด ทำไมคุณถึงคิดว่าคนอย่างหานซานเฉียนจะยินด