ซูหยิงเซี่ยนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน และหลังจากฟ้าสาง เธอก็ตัดสินใจที่จะไปหาหลินหย่ง เพราะหานซานเฉียนคนนี้ไม่ใช่หานซานเฉียน และหลินหย่งก็เคยติดต่อกับหานซานเฉียนมาก่อน บางทีเขาอาจจะช่วยเหลืออะไรได้บ้างในช่วงเวลาตลอดทั้งคืนซูหยิงเซี่ยจิตใจสับสนวุ่นวาย เธอลองคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดต่าง ๆ แม้กระทั่งคิดไปว่าหานซานเฉียนอาจประสบอุบัติเหตุ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวและกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการสอบถาม ซูหยิงเซี่ยจึงได้รู้ว่าหลินหย่งอยู่ที่ไนท์คลับเมจิกซิตี้ แต่เธอมาที่นี่แต่เช้าประตูที่นี่จึงปิดสนิท เพราะที่นี่คือไนท์คลับ แล้วประตูจะเปิดตอนเช้าได้อย่างไรกันซูหยิงเซี่ยทำได้เพียงแค่เคาะประตูอย่างสุดกำลัง เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน คนที่อยู่ด้านในก็รู้สึกตกใจและเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ “โหวกเหวกอะไรตั้งแต่เช้าตรู่เนี่ย อยากตายหรือไง?” “ฉันอยากพบหลินหย่ง” ซูหยิงเซี่ยไม่ค่อยได้สัมผัสกับเหตุการณ์แบบนี้บ่อยนัก นับประสาอะไรกับผู้คนในพื้นที่สีเทา ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับลูกสมุนของหลินหย่งที่ดูดุดันโหดเหี้ยม เธอจึงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย เมื่อลูกสมุนคนนั้นเห็นว่าสาวงามอย่างซูหยิงเซี่ย เขา
”คุณผู้หญิงซู คุณเป็นภรรยาของเขานะครับ ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร แล้วพวกเราจะรู้ได้ยังไงครับ?” ม่อหยางพูด ซูหยิงเซี่ยรู้ว่า ถ้าเธอแค่อยากถามพวกเขาเกี่ยวกับหานซานเฉียนก็คงไม่ได้ความอะไรกลับมา จึงได้แต่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทั้งหมดให้ฟัง เมื่อม่อหยางได้ยินแบบนี้ สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นทันใด ก่อนหน้านี้หานซานเฉียนได้พูดอะไรบางอย่างที่แปลกประหลาดออกมา ผมที่ไม่เหมือนผม ผมที่ไม่ใช่ผม ในขณะนั้นม่อหยางรู้สึกสับสนและไม่เข้าใจเลย แต่ตอนนี้ม่อหยางเข้าใจแล้วว่าทำไมหานซานเฉียนถึงพูดแบบนั้น ในเมืองหยุนเฉิง มีคนคนหนึ่งที่เหมือนกับเขาทุกประการปรากฏตัวขึ้น! “คุณผู้หญิงซู คุณแน่ใจเหรอว่าเขาไม่ใช่หานซานเฉียนจริง ๆ?” ม่อหยางถาม แม้เขาจะคิดว่าหานซานเฉียนไม่มีทางขืนใจซูหยิงเซี่ย แต่ผู้ชายน่ะ เวลาหื่นกระหายขึ้นมาก็ไม่แน่เหมือนกัน “ค่ะ” ซูหยิงเซี่ยพยักหน้าอย่างหนักแน่น เธอมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ในเรื่องนี้ จึงพูดอีกว่า “เขายังบอกว่า ฉันยังไม่เคยนอนกับเขา เขาที่เขาพูดถึง น่าจะหมายถึงหานซานเฉียน” ม่อหยางสูดหายใจเข้าลึก นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน “ใช่สิ หานซานเฉียนเคยบอกผมไว้ว่า ใ
เมื่อเฉินหลิงเหยารู้ว่าซูหยิงเซี่ยต้องมาอยู่ที่บ้านเธอหลายวันก็แอบรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะเธอเพิ่งพยายามเตือนซูหยิงเซี่ยอย่างปากเปียกปากแฉะให้ทำตามความต้องการของหานซานเฉียน แต่เธอดันย้ายออกจากคฤหาสน์แบบนี้ คงไม่ใช่เพราะหานซานเฉียนเย็นชากว่าเดิมหรอกใช่ไหม? เฉินหลิงเหยาซักไซ้ต่อทางโทรศัพท์แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไร เธอจึงต้องเก็บกวาดภายในบ้านให้พร้อม หลังจากนั้นไม่นาน ซูหยิงเซี่ยก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบน้อยใหญ่ เฉินหลิงเหยาเห็นแล้วก็รู้สึกสิ้นหวังทันที ไม่ใช่ว่าเธอกลัวซูหยิงเซี่ยรบกวน แต่การที่ซูหยิงเซี่ยทำแบบนี้ แสดงว่าเธอไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับหานซานเฉียนเลยอย่างนั้นเหรอ? “หยิงเซี่ย นี่เธอตั้งใจมาอยู่กับฉันนานขนาดนั้นเลยเหรอ? เกิดอะไรขึ้น?” เฉินหลิงเหยาเอ่ยถาม เธอรู้จักนิสัยใจคอของเพื่อนสนิทคนนี้ดี ซูหยิงเซี่ยเข้าใจดีว่า ถ้าไม่บอกความจริงกับเธอ เธอจะต้องซักไซ้จนถึงที่สุด “เธอเชื่อไหมว่าบนโลกนี้มีคนที่หน้าตาเหมือนกันทุกอย่าง?” ซูหยิงเซี่ยกล่าว “ฝาแฝดไง จะมีอะไรไม่น่าเชื่อไปกว่านี้อีกล่ะ?” เฉินหลิงเหยากล่าว ซูหยิงเซี่ยได้ยินแบบนั้นก็สะดุ้งเฮือก ไม่ว่าจ
หานซานเฉียนจดจำทุกคำที่ตี้สู่พูดจนขึ้นใจ หลังจากหมดเวลาปล่อยนักโทษเดินเล่นแล้ว เขาก็กลับมาที่ห้องขังใหญ่ แล้วเริ่มขบคิดอย่างจริงจัง ในฐานะพี่ใหญ่ของห้องใหญ่ ก่อนหน้านี้มีแต่คนมานวดให้กวานหยง แต่ตอนนี้ทุกครั้งที่หมดเวลาปล่อยนักโทษเดินเล่น เขาจะเป็นคนเข้ามานวดให้หานซานเฉียนเอง กวานหยงมีความสงสัยอยู่ในใจมาโดยตลอด ทำไมจู่ ๆ หานจุนถึงได้เปลี่ยนไปอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินแบบนี้? เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน นิสัยใจคอไม่เหมือนเดิม ทักษะก็ไม่เหมือนเดิม เขาถึงขั้นสงสัยว่าหานจุนคนเดิมถูกคนอื่นแอบเข้ามาสับเปลี่ยนตัวด้วยซ้ำ แต่เรื่องนี้เขาไม่กล้าที่จะพูดออกไปอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่รู้ว่าต้องร่วมมือกันกี่คนถึงจะทำการแบบนี้ได้ ถ้าคนอื่นรู้ถึงการคาดเดาของเขา เขาคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแน่นอน “พี่ใหญ่หาน เป็นไงบ้างครับ?” กวานหยงถามด้วยสีหน้าเคอะเขิน “ถ้าฉันได้ออกไป ฉันคงคิดถึงการนวดของนาย” หานซานเฉียนพูดด้วยรอยยิ้ม ออกไป! เหงื่อเย็นผุดออกมาบนหน้าผากของกวานหยง โทษของเขาคือสิบปี ถ้าให้ออกไปตอนนี้มันจะไม่เร็วเกินไปหน่อยเหรอ? “กวานหยง ฉันยังไม่รู้เลยว่านายทำผิดอะไรถึงเข้ามาที่นี่ คงทำเรื่องโหดเหี้ยม
“หาน… หานซานเฉียน!” หนานกงเชียนชิวมองไปยังหานซานเฉียนอย่างหวาดผวา ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่ได้? เขาไม่ได้ติดคุกแทนหานจุนที่อยู่ในเรือนจำหยุนหลงหรอกหรือ? ทำไมถึงออกมาที่นี่ได้! หานซานเฉียนแค่สะบัดมือไปมา ชายชุดดำที่เพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้ก็ตายจนร่างแน่นิ่ง เมื่อหนานกงเชียนชิวเห็นภาพนี้ สีหน้าก็ยิ่งซีดเซียวลง นี่คือยอดฝีมือที่เธอหามา และกำลังจะส่งเข้าไปฆ่าหานซานเฉียนในเรือนจำหยุนหลง ทำไมถึงตายด้วยน้ำมือของคนไร้ประโยชน์อย่างหานซานเฉียนได้ง่ายดายขนาดนี้! ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเหยียนจุนอยู่ในห้องของเธอ หนานกงเชียนชิวคงคิดว่าเหยียนจุนเป็นคนทำเรื่องนี้อย่างแน่นอน แต่… แต่เหยียนจุนอยู่ข้างเธอมาตลอด “หนานกงเชียนชิว คนไร้ประโยชน์แบบนี้ คุณยังคิดอาศัยคนให้มาฆ่าผมอยู่เหรอ?” หานซานเฉียนพูดอย่างเย็นชา หนานกงเชียนชิวกัดฟันกรอดมองหานซานเฉียน แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่สนใจว่าแกจะใช้วิธีไหนฆ่าเขา แต่แกรู้หรือเปล่าว่า การแหกคุกของแกจะนำพาหายนะมาสู่ตระกูลหานยังไงบ้าง?” “หายนะเหรอครับ?” หานซานเฉียนยิ้มเยาะแล้วพูดต่อว่า “หนานกงเชียนชิว มันเป็นฝีมือของคุณทั้งหมด ทำไมคุณถึงคิดว่าคนอย่างหานซานเฉียนจะยินด
คืนวันนั้น หานซานเฉียนนั่งเครื่องบินกลับมาถึงเมืองหยุนเฉิง ซึ่งเป็นเวลาก่อนฟ้าสาง เขามาถึงคฤหาสน์บนเนินเขาอย่างร้อนใจจนเหมือนถูกเผา ด้วยความหวังว่าซูหยิงเซี่ยจะไม่คิดว่าหานจุนคือตนเอง ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาหานซานเฉียนก็ไม่กล้าจินตนาการเหมือนกัน เจี่ยงหลานและคนอื่น ๆ ยังคงนอนหลับอยู่ แต่หานซานเฉียนไม่เห็นใครในห้องของซูหยิงเซี่ยเลย แถมไม่มีหานจุนด้วย ทำให้หัวใจของหานซานเฉียนเย็นยะเยือกจนถึงขีดสุด สองคนนี้ไม่อยู่บ้าน แล้วไปไหนกัน? เสียงเปิดประตูปลุกเหอถิงให้ตื่นขึ้นมา เหอถิงเดินไปที่ห้องนั่งเล่นอย่างสะลึมสะลือ พอเห็นหานซานเฉียน เธอก็พูดขึ้นมาว่า “คุณไม่ต้องมองหาซูหยิงเซี่ยหรอก เธอไม่อยู่บ้าน” น้ำเสียงของเหอถิงเย็นชามากแถมยังแฝงไปด้วยการตำหนิ หานซานเฉียนรู้ทันทีว่าหานจุนต้องทำอะไรบางอย่างที่ทำให้เหอถิงไม่พอใจแน่ “ป้าเหอครับ หยิงเซี่ยไปไหน?” หานซานเฉียนเอ่ยถาม ในสายตาของเหอถิง หานซานเฉียนกับหานจุนเป็นคนคนเดียวกัน ดังนั้นเธอย่อมไม่มีทางบอกหานซานเฉียนว่าซูหยิงเซี่ยอยู่ที่ไหน “หานซานเฉียน ทำไมตอนนี้คุณถึงกลายเป็นแบบนี้ล่ะ?” เหอถิงทั้งสับสนและโมโห ทันใดนั้น เจี่ยงหลานและซูกั๋ว
หานซานเฉียนไม่ตอบคำถาม ม่อหยางรู้ว่าเขาจงใจไม่พูดถึงมัน ดังนั้นจึงไม่ถามอะไรไปมากกว่านี้ เมื่อม่อหยางกับหลินหย่งออกไปโทรศัพท์ ท้องถนนในเมืองหยุนเฉิงช่วงเช้าตรู่ก็คึกคักขึ้นมาทันที ผู้คนหลายร้อยคนเดินขวักไขว่ไปมาบนท้องถนน เดินเข้าไปในโรงแรมบ้าง คลับบ้าง ตลอดจนสถานบันเทิงแต่ละแห่ง เพื่อพลิกแผ่นดินตามหาตัวหานจุน ส่วนหานจุนในเวลานี้ ยังคงไม่ยินดีที่จะออกจากดินแดนอันหอมหวานในคฤหาสน์จินเฉียว อาจเป็นเพราะอยู่ในเรือนจำหยุนหลงมานานเกินไป และไม่ได้สัมผัสกับความงดงามของสตรีมานาน เขาจึงปรารถนาจะได้รับการปรนนิบัติจากผู้หญิงทุกคนในคฤหาสน์จินเฉียว “คนไร้ค่าคนนั้น คงไม่เคยได้เสพสุขกับสวัสดิการแบบนี้มาก่อน ช่างน่าสงสารจริง ๆ!” หานจุนพูดแล้วหัวเราะไปพร้อมกับใช้มือซ้ายโอบไหล่หญิงสาว มือขวากอดเอวหญิงสาวราวกับราชา ยิ่งนึกถึงสภาพของหานซานเฉียน เขาก็ยิ่งรู้สึกสมเพชมากขึ้นเท่านั้น ถูกตระกูลหานเตะออกมาอยู่ยังสถานที่เล็ก ๆ อย่างเมืองหยุนเฉิง แต่กลับไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น ตกอับถูกคนรังแก แถมถูกคนอื่นมองเป็นคนไร้ประโยชน์อีก “แต่นายไม่ต้องกังวลไปหรอก ฉันจะช่วยชำระล้างให้นายและบอกผู้คนในเมืองห
ที่สำคัญไปกว่านั้น ในความคิดของซูหยิงเซี่ย เรื่องชุดชั้นในแม้แต่หานซานเฉียนก็ไม่ควรรู้ แล้วเขา… เขาไปเห็นอะไรมาอย่างนั้นเหรอ? “ว่าไง ตอนนี้คุณเชื่อผมหรือยัง?” หานซานเฉียนพูดด้วยรอยยิ้ม ซูหยิงเซี่ยหน้าแดงก่ำ เธอคิดว่าถ้าเป็นเรื่องกินนอนก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ทำไมเขาถึงรู้ว่าตนเองไม่ชอบใส่ชุดชั้นในที่เข้าชุดกัน? “คุณ… คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันจับคู่ชุดชั้นในยังไง?” ซูหยิงเซี่ยเอ่ยถาม “อะแฮ่ม” หานซานเฉียนกระแอมไออกมาด้วยความเขินอาย รู้ได้อย่างไรงั้นเหรอ? ก็ต้องแอบดูสิถึงได้รู้ แต่ถ้าบอกไปอย่างนี้ ซูหยิงเซี่ยต้องทุบเขาตายแน่ “เอ่อ… ในตู้เสื้อผ้ามันรกเละเทะน่ะ ผมเลยเดาเอา” หานซานเฉียนตอบอย่างขอไปที “เดาอะไร ฉันว่าคุณต้องเคยแอบดูแน่ ๆ ไอ้คนลามก” เฉินหลิงเหยาชอบดูเรื่องสนุกโดยไม่สนใจว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ระหว่างมองไปที่หานซานเฉียนอย่างดูถูกแล้วเอ่ยขึ้น หานซานเฉียนจ้องไปที่เฉินหลิงเหยาแล้วพูดขึ้นว่า “คืนเงินผมมาได้แล้ว” เมื่อเฉินหลิงเหยาได้ยินแบบนั้น ก็ก้มหน้าลงอย่างช่วยไม่ได้ แม้แต่เรื่องนี้เขาก็รู้ ดูท่าทางจะเป็นหานซานเฉียนไม่ผิดตัวจริง ๆ “อืม… เรื่องของพวกคุณสองคน ปรึกษากันเอาเองแล้ว
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ