ซูหยิงเซี่ยนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน และหลังจากฟ้าสาง เธอก็ตัดสินใจที่จะไปหาหลินหย่ง เพราะหานซานเฉียนคนนี้ไม่ใช่หานซานเฉียน และหลินหย่งก็เคยติดต่อกับหานซานเฉียนมาก่อน บางทีเขาอาจจะช่วยเหลืออะไรได้บ้างในช่วงเวลาตลอดทั้งคืนซูหยิงเซี่ยจิตใจสับสนวุ่นวาย เธอลองคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดต่าง ๆ แม้กระทั่งคิดไปว่าหานซานเฉียนอาจประสบอุบัติเหตุ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวและกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการสอบถาม ซูหยิงเซี่ยจึงได้รู้ว่าหลินหย่งอยู่ที่ไนท์คลับเมจิกซิตี้ แต่เธอมาที่นี่แต่เช้าประตูที่นี่จึงปิดสนิท เพราะที่นี่คือไนท์คลับ แล้วประตูจะเปิดตอนเช้าได้อย่างไรกันซูหยิงเซี่ยทำได้เพียงแค่เคาะประตูอย่างสุดกำลัง เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน คนที่อยู่ด้านในก็รู้สึกตกใจและเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ “โหวกเหวกอะไรตั้งแต่เช้าตรู่เนี่ย อยากตายหรือไง?” “ฉันอยากพบหลินหย่ง” ซูหยิงเซี่ยไม่ค่อยได้สัมผัสกับเหตุการณ์แบบนี้บ่อยนัก นับประสาอะไรกับผู้คนในพื้นที่สีเทา ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับลูกสมุนของหลินหย่งที่ดูดุดันโหดเหี้ยม เธอจึงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย เมื่อลูกสมุนคนนั้นเห็นว่าสาวงามอย่างซูหยิงเซี่ย เขา
”คุณผู้หญิงซู คุณเป็นภรรยาของเขานะครับ ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร แล้วพวกเราจะรู้ได้ยังไงครับ?” ม่อหยางพูด ซูหยิงเซี่ยรู้ว่า ถ้าเธอแค่อยากถามพวกเขาเกี่ยวกับหานซานเฉียนก็คงไม่ได้ความอะไรกลับมา จึงได้แต่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทั้งหมดให้ฟัง เมื่อม่อหยางได้ยินแบบนี้ สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นทันใด ก่อนหน้านี้หานซานเฉียนได้พูดอะไรบางอย่างที่แปลกประหลาดออกมา ผมที่ไม่เหมือนผม ผมที่ไม่ใช่ผม ในขณะนั้นม่อหยางรู้สึกสับสนและไม่เข้าใจเลย แต่ตอนนี้ม่อหยางเข้าใจแล้วว่าทำไมหานซานเฉียนถึงพูดแบบนั้น ในเมืองหยุนเฉิง มีคนคนหนึ่งที่เหมือนกับเขาทุกประการปรากฏตัวขึ้น! “คุณผู้หญิงซู คุณแน่ใจเหรอว่าเขาไม่ใช่หานซานเฉียนจริง ๆ?” ม่อหยางถาม แม้เขาจะคิดว่าหานซานเฉียนไม่มีทางขืนใจซูหยิงเซี่ย แต่ผู้ชายน่ะ เวลาหื่นกระหายขึ้นมาก็ไม่แน่เหมือนกัน “ค่ะ” ซูหยิงเซี่ยพยักหน้าอย่างหนักแน่น เธอมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ในเรื่องนี้ จึงพูดอีกว่า “เขายังบอกว่า ฉันยังไม่เคยนอนกับเขา เขาที่เขาพูดถึง น่าจะหมายถึงหานซานเฉียน” ม่อหยางสูดหายใจเข้าลึก นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน “ใช่สิ หานซานเฉียนเคยบอกผมไว้ว่า ใ
เมื่อเฉินหลิงเหยารู้ว่าซูหยิงเซี่ยต้องมาอยู่ที่บ้านเธอหลายวันก็แอบรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะเธอเพิ่งพยายามเตือนซูหยิงเซี่ยอย่างปากเปียกปากแฉะให้ทำตามความต้องการของหานซานเฉียน แต่เธอดันย้ายออกจากคฤหาสน์แบบนี้ คงไม่ใช่เพราะหานซานเฉียนเย็นชากว่าเดิมหรอกใช่ไหม? เฉินหลิงเหยาซักไซ้ต่อทางโทรศัพท์แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไร เธอจึงต้องเก็บกวาดภายในบ้านให้พร้อม หลังจากนั้นไม่นาน ซูหยิงเซี่ยก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบน้อยใหญ่ เฉินหลิงเหยาเห็นแล้วก็รู้สึกสิ้นหวังทันที ไม่ใช่ว่าเธอกลัวซูหยิงเซี่ยรบกวน แต่การที่ซูหยิงเซี่ยทำแบบนี้ แสดงว่าเธอไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับหานซานเฉียนเลยอย่างนั้นเหรอ? “หยิงเซี่ย นี่เธอตั้งใจมาอยู่กับฉันนานขนาดนั้นเลยเหรอ? เกิดอะไรขึ้น?” เฉินหลิงเหยาเอ่ยถาม เธอรู้จักนิสัยใจคอของเพื่อนสนิทคนนี้ดี ซูหยิงเซี่ยเข้าใจดีว่า ถ้าไม่บอกความจริงกับเธอ เธอจะต้องซักไซ้จนถึงที่สุด “เธอเชื่อไหมว่าบนโลกนี้มีคนที่หน้าตาเหมือนกันทุกอย่าง?” ซูหยิงเซี่ยกล่าว “ฝาแฝดไง จะมีอะไรไม่น่าเชื่อไปกว่านี้อีกล่ะ?” เฉินหลิงเหยากล่าว ซูหยิงเซี่ยได้ยินแบบนั้นก็สะดุ้งเฮือก ไม่ว่าจ
หานซานเฉียนจดจำทุกคำที่ตี้สู่พูดจนขึ้นใจ หลังจากหมดเวลาปล่อยนักโทษเดินเล่นแล้ว เขาก็กลับมาที่ห้องขังใหญ่ แล้วเริ่มขบคิดอย่างจริงจัง ในฐานะพี่ใหญ่ของห้องใหญ่ ก่อนหน้านี้มีแต่คนมานวดให้กวานหยง แต่ตอนนี้ทุกครั้งที่หมดเวลาปล่อยนักโทษเดินเล่น เขาจะเป็นคนเข้ามานวดให้หานซานเฉียนเอง กวานหยงมีความสงสัยอยู่ในใจมาโดยตลอด ทำไมจู่ ๆ หานจุนถึงได้เปลี่ยนไปอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินแบบนี้? เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน นิสัยใจคอไม่เหมือนเดิม ทักษะก็ไม่เหมือนเดิม เขาถึงขั้นสงสัยว่าหานจุนคนเดิมถูกคนอื่นแอบเข้ามาสับเปลี่ยนตัวด้วยซ้ำ แต่เรื่องนี้เขาไม่กล้าที่จะพูดออกไปอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่รู้ว่าต้องร่วมมือกันกี่คนถึงจะทำการแบบนี้ได้ ถ้าคนอื่นรู้ถึงการคาดเดาของเขา เขาคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแน่นอน “พี่ใหญ่หาน เป็นไงบ้างครับ?” กวานหยงถามด้วยสีหน้าเคอะเขิน “ถ้าฉันได้ออกไป ฉันคงคิดถึงการนวดของนาย” หานซานเฉียนพูดด้วยรอยยิ้ม ออกไป! เหงื่อเย็นผุดออกมาบนหน้าผากของกวานหยง โทษของเขาคือสิบปี ถ้าให้ออกไปตอนนี้มันจะไม่เร็วเกินไปหน่อยเหรอ? “กวานหยง ฉันยังไม่รู้เลยว่านายทำผิดอะไรถึงเข้ามาที่นี่ คงทำเรื่องโหดเหี้ยม
“หาน… หานซานเฉียน!” หนานกงเชียนชิวมองไปยังหานซานเฉียนอย่างหวาดผวา ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่ได้? เขาไม่ได้ติดคุกแทนหานจุนที่อยู่ในเรือนจำหยุนหลงหรอกหรือ? ทำไมถึงออกมาที่นี่ได้! หานซานเฉียนแค่สะบัดมือไปมา ชายชุดดำที่เพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้ก็ตายจนร่างแน่นิ่ง เมื่อหนานกงเชียนชิวเห็นภาพนี้ สีหน้าก็ยิ่งซีดเซียวลง นี่คือยอดฝีมือที่เธอหามา และกำลังจะส่งเข้าไปฆ่าหานซานเฉียนในเรือนจำหยุนหลง ทำไมถึงตายด้วยน้ำมือของคนไร้ประโยชน์อย่างหานซานเฉียนได้ง่ายดายขนาดนี้! ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเหยียนจุนอยู่ในห้องของเธอ หนานกงเชียนชิวคงคิดว่าเหยียนจุนเป็นคนทำเรื่องนี้อย่างแน่นอน แต่… แต่เหยียนจุนอยู่ข้างเธอมาตลอด “หนานกงเชียนชิว คนไร้ประโยชน์แบบนี้ คุณยังคิดอาศัยคนให้มาฆ่าผมอยู่เหรอ?” หานซานเฉียนพูดอย่างเย็นชา หนานกงเชียนชิวกัดฟันกรอดมองหานซานเฉียน แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่สนใจว่าแกจะใช้วิธีไหนฆ่าเขา แต่แกรู้หรือเปล่าว่า การแหกคุกของแกจะนำพาหายนะมาสู่ตระกูลหานยังไงบ้าง?” “หายนะเหรอครับ?” หานซานเฉียนยิ้มเยาะแล้วพูดต่อว่า “หนานกงเชียนชิว มันเป็นฝีมือของคุณทั้งหมด ทำไมคุณถึงคิดว่าคนอย่างหานซานเฉียนจะยินด
คืนวันนั้น หานซานเฉียนนั่งเครื่องบินกลับมาถึงเมืองหยุนเฉิง ซึ่งเป็นเวลาก่อนฟ้าสาง เขามาถึงคฤหาสน์บนเนินเขาอย่างร้อนใจจนเหมือนถูกเผา ด้วยความหวังว่าซูหยิงเซี่ยจะไม่คิดว่าหานจุนคือตนเอง ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาหานซานเฉียนก็ไม่กล้าจินตนาการเหมือนกัน เจี่ยงหลานและคนอื่น ๆ ยังคงนอนหลับอยู่ แต่หานซานเฉียนไม่เห็นใครในห้องของซูหยิงเซี่ยเลย แถมไม่มีหานจุนด้วย ทำให้หัวใจของหานซานเฉียนเย็นยะเยือกจนถึงขีดสุด สองคนนี้ไม่อยู่บ้าน แล้วไปไหนกัน? เสียงเปิดประตูปลุกเหอถิงให้ตื่นขึ้นมา เหอถิงเดินไปที่ห้องนั่งเล่นอย่างสะลึมสะลือ พอเห็นหานซานเฉียน เธอก็พูดขึ้นมาว่า “คุณไม่ต้องมองหาซูหยิงเซี่ยหรอก เธอไม่อยู่บ้าน” น้ำเสียงของเหอถิงเย็นชามากแถมยังแฝงไปด้วยการตำหนิ หานซานเฉียนรู้ทันทีว่าหานจุนต้องทำอะไรบางอย่างที่ทำให้เหอถิงไม่พอใจแน่ “ป้าเหอครับ หยิงเซี่ยไปไหน?” หานซานเฉียนเอ่ยถาม ในสายตาของเหอถิง หานซานเฉียนกับหานจุนเป็นคนคนเดียวกัน ดังนั้นเธอย่อมไม่มีทางบอกหานซานเฉียนว่าซูหยิงเซี่ยอยู่ที่ไหน “หานซานเฉียน ทำไมตอนนี้คุณถึงกลายเป็นแบบนี้ล่ะ?” เหอถิงทั้งสับสนและโมโห ทันใดนั้น เจี่ยงหลานและซูกั๋ว
หานซานเฉียนไม่ตอบคำถาม ม่อหยางรู้ว่าเขาจงใจไม่พูดถึงมัน ดังนั้นจึงไม่ถามอะไรไปมากกว่านี้ เมื่อม่อหยางกับหลินหย่งออกไปโทรศัพท์ ท้องถนนในเมืองหยุนเฉิงช่วงเช้าตรู่ก็คึกคักขึ้นมาทันที ผู้คนหลายร้อยคนเดินขวักไขว่ไปมาบนท้องถนน เดินเข้าไปในโรงแรมบ้าง คลับบ้าง ตลอดจนสถานบันเทิงแต่ละแห่ง เพื่อพลิกแผ่นดินตามหาตัวหานจุน ส่วนหานจุนในเวลานี้ ยังคงไม่ยินดีที่จะออกจากดินแดนอันหอมหวานในคฤหาสน์จินเฉียว อาจเป็นเพราะอยู่ในเรือนจำหยุนหลงมานานเกินไป และไม่ได้สัมผัสกับความงดงามของสตรีมานาน เขาจึงปรารถนาจะได้รับการปรนนิบัติจากผู้หญิงทุกคนในคฤหาสน์จินเฉียว “คนไร้ค่าคนนั้น คงไม่เคยได้เสพสุขกับสวัสดิการแบบนี้มาก่อน ช่างน่าสงสารจริง ๆ!” หานจุนพูดแล้วหัวเราะไปพร้อมกับใช้มือซ้ายโอบไหล่หญิงสาว มือขวากอดเอวหญิงสาวราวกับราชา ยิ่งนึกถึงสภาพของหานซานเฉียน เขาก็ยิ่งรู้สึกสมเพชมากขึ้นเท่านั้น ถูกตระกูลหานเตะออกมาอยู่ยังสถานที่เล็ก ๆ อย่างเมืองหยุนเฉิง แต่กลับไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น ตกอับถูกคนรังแก แถมถูกคนอื่นมองเป็นคนไร้ประโยชน์อีก “แต่นายไม่ต้องกังวลไปหรอก ฉันจะช่วยชำระล้างให้นายและบอกผู้คนในเมืองห
ที่สำคัญไปกว่านั้น ในความคิดของซูหยิงเซี่ย เรื่องชุดชั้นในแม้แต่หานซานเฉียนก็ไม่ควรรู้ แล้วเขา… เขาไปเห็นอะไรมาอย่างนั้นเหรอ? “ว่าไง ตอนนี้คุณเชื่อผมหรือยัง?” หานซานเฉียนพูดด้วยรอยยิ้ม ซูหยิงเซี่ยหน้าแดงก่ำ เธอคิดว่าถ้าเป็นเรื่องกินนอนก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ทำไมเขาถึงรู้ว่าตนเองไม่ชอบใส่ชุดชั้นในที่เข้าชุดกัน? “คุณ… คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันจับคู่ชุดชั้นในยังไง?” ซูหยิงเซี่ยเอ่ยถาม “อะแฮ่ม” หานซานเฉียนกระแอมไออกมาด้วยความเขินอาย รู้ได้อย่างไรงั้นเหรอ? ก็ต้องแอบดูสิถึงได้รู้ แต่ถ้าบอกไปอย่างนี้ ซูหยิงเซี่ยต้องทุบเขาตายแน่ “เอ่อ… ในตู้เสื้อผ้ามันรกเละเทะน่ะ ผมเลยเดาเอา” หานซานเฉียนตอบอย่างขอไปที “เดาอะไร ฉันว่าคุณต้องเคยแอบดูแน่ ๆ ไอ้คนลามก” เฉินหลิงเหยาชอบดูเรื่องสนุกโดยไม่สนใจว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ระหว่างมองไปที่หานซานเฉียนอย่างดูถูกแล้วเอ่ยขึ้น หานซานเฉียนจ้องไปที่เฉินหลิงเหยาแล้วพูดขึ้นว่า “คืนเงินผมมาได้แล้ว” เมื่อเฉินหลิงเหยาได้ยินแบบนั้น ก็ก้มหน้าลงอย่างช่วยไม่ได้ แม้แต่เรื่องนี้เขาก็รู้ ดูท่าทางจะเป็นหานซานเฉียนไม่ผิดตัวจริง ๆ “อืม… เรื่องของพวกคุณสองคน ปรึกษากันเอาเองแล้ว