เหอเซียวเซียวโกรธมากจนหน้าเขียว เธอคิดว่าตอนที่พบกับหานซานเฉียนครั้งแรก เขาเป็นเพียงคนระดับฮวงที่ต่ำต้อยเท่านั้น แต่ตอนนี้เขากลายเป็นคนที่แข็งแกร่งในระดับเทียนแล้ว ช่องว่างขนาดใหญ่ของสถานะนี้ เขากลับทำสำเร็จเพียงแค่ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนอาจกล่าวได้ว่าตอนนี้หานซานเฉียนเป็นต้นแบบของเทียนฉีไปแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับหลินตง ในตอนนั้นเขานำหน้าไปมากกว่าสิบก้าวด้วยซ้ำแล้วมองดูตัวเองอีกครั้ง บุตรสาวของผู้นำซานเตี้ยนผู้สูงส่ง ตอนนี้ถูกลดระดับลงมาอยู่ระดับฮวงแล้วแม้ว่าตัวตนของการเป็นลูกสาวของผู้นำซานเตี้ยนจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่สถานะที่แท้จริงของเธอนั้นแตกต่างจากหานซานเฉียนมานานแล้วเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่สามารถเอาชนะหานซานเฉียนได้ เหอเซียวเซียวจึงไม่ทำให้ตัวเองต้องขายหน้าอีกต่อไป แต่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความเกลียดชังและความเยือกเย็น เธอจ้องไปที่หานซานเฉียนไม่วางตา“หานซานเฉียน ได้ใจไปเถอะ สักวันหนึ่งฉันจะเหยียบย่ำนายไว้ใต้เท้าของฉัน” เหอเสี่ยวเซียวพูดอย่างเย็นชาหานซานเฉียนพูดด้วยสีหน้าไม่แยแส "เหอเซียวเซียว นอกเหนือจากตัวตนของคุณในฐานะลูกสาวของผู้นำแห่งซานเตี้ยนแล้ว คุณไม่มีอะไรอีกในเที
“ขอ ขอโทษ” หานซานเฉียนรีบขอโทษและรีบออกจากห้องไปทันทีท่าทีของเจียงหยิงหยิงนั้นแปลกมาก หากเป็นเด็กผู้หญิงทั่วไป ถูกบุกเข้าไปในห้องและเห็นเธอเปลือยเปล่า คงจะตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก แต่เธอกลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย แถมยังรู้สึกได้ถึงความเสียดายที่อธิบายไม่ถูก โดยหวังว่าหานซานเฉียนจะออกไปแบบนี้หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้ว เจียงหยิงหยิงก็เปิดประตูตามปกติแล้วถามหานซานเฉียน "พี่ซานเฉียน รีบมาหาฉันแบบนี้ มีเรื่องอะไรเหรอคะ?"หานซานเฉียนคิดว่าการพบกันคงจะทำให้ทั้งคู่รู้สึกอึกอัด แต่เขาไม่คิดว่าเจียงหยิงหยิงจะทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดูเหมือนว่าเรื่องเมื่อครู่ไม่ได้ทำให้เธอกลัว หรือทำให้เธอตื่นตระหนกใด ๆ เลย“เราต้องกลับไปที่หยุนเฉิงทันที” หานซานเฉียนกล่าวเจียงหยิงหยิงเริ่มกังวล หานซานเฉียนรีบกลับไปที่หยุนเฉิงแบบนี้ แสดงว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้น“เกิดอะไรขึ้นกับพี่หยิงเซี่ยเหรอคะ หรือว่าเนี่ยนเอ๋อร์?” เจียงหยิงหยิงถาม“ไปกันเถอะ ไว้ฉันจะอธิบายให้ฟังระหว่างทาง”พวกเขาทั้งสองออกจากเทียนฉี โดยไม่ต้องรับกระเป๋าเดินทางใด ๆระหว่างทางหานซานเฉียนก็อธิบายสาเหตุของเรื่องนี้ให้เจียงหยิงหยิงฟัง ซึ่ง
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยกันสักพัก ฟางจ้านก็เดินเข้าไปในคฤหาสน์ใจกลางภูเขาซือจิง หานเทียนหยาง และคนอื่น ๆ กำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น แต่ไม่เห็ซูหยิงเซี่ยเลยนับตั้งแต่ซูหยิงเซี่ยเริ่มแก่ตัวมากขึ้น เธอก็ไม่ต้องการเห็นใคร และแม้แต่กระจกที่บ้านก็ถูกทุบทิ้งไปจนหมดสำหรับผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาว การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ไม่อาจยอมรับได้ ซูหยิงเซี่ยไม่รู้ว่าเธอจะเผชิญหน้ากับหานซานเฉียนอย่างไรในอนาคต เธอกลัวมากว่าเขาจะกลับมาหยุนเฉิงอย่างกะทันหันเธอไม่อยากให้หานซานเฉียนเห็นตัวตนที่น่าเกลียดของเธอ และเธอถึงขั้นเคยคิดที่จะอยากตายแต่เมื่อซูหยิงเซี่ยคิดว่าหานเนี่ยนยังเด็กอยู่ เธอก็ไม่กล้าตาย เธอไม่อยากให้หานเนี่ยนสูญเสียแม่ไปตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนี้“คุณฟาง”“คุณฟาง”“คุณฟาง”หลายคนยืนขึ้นและทักทายฟางจ้าน“หยิงเซี่ยล่ะ?” ฟางจ้านถามซือจิงเหลือบมองหานเทียนหยาง ในครอบครัวนี้หากจะพูดอะไร.ต้องได้รับความยินยอมจากหานเทียนหยางก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของซูหยิงเซี่ย ซือจิงไม่กล้าพูดเองตามใจชอบ“คุณฟาง ที่คุณมาครั้งนี้ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” หานเทียนหยางถาม“ซานเฉียนไม่ได้ก
เฉินหลิงเหยารู้ชัดเจนมากเกี่ยวกับเหตุผลที่หานซานเฉียนต้องเช่าบ้าน เป็นเพราะหานซานเฉียนและซูหยิงเซี่ยต้องแสร้งทำเป็นหย่าร้างกัน เขาจึงย้ายออกจากคฤหาสน์ใจกลางภูเขาชั่วคราว แต่การที่เขาบังเอิญอาศัยอยู่ถัดจากหยางเหมิงและกลายเป็นเพื่อนบ้านกันทำให้เฉินหลิงเหยาประหลาดใจเล็กน้อย เพราะหยางเหมิงก็เป็นผู้หญิงที่ไม่เลวคนหนึ่ง ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างหานซานเฉียนกับเธอหรือเปล่าเพื่อคลายข้อสงสัยขอตัวเอง เฉินหลิงเหยาจึงถามขึ้นอย่างตรงประเด็น "ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาหรอกใช่ไหม?"หยางเหมิงโบกมือด้วยความตื่นตระหนกและพูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า "คุณเฉิน คุณกำลังคิดอะไรอยู่คะ ระหว่างฉันกับเขาไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ"เฉินหลิงเหยาขมวดคิ้ว หากไม่มีอะไร ทำไมหยางเหมิงถึงได้ตื่นตระหนกมากขนาดนี้ล่ะ เห็นได้ชัดว่ามีความรู้สึกผิดอยู่ในสายตาของเธอ“ไม่มีอะไรจริง ๆ งั้นเหรอ แต่สายตาของเธอมันบอกว่ามีอะไรบางอย่างนะ” เฉินหลิงเหยายืนขึ้น เดินตรงไปที่หยางเหมิง และมองตรงไปที่เธอหยางเหมิงไม่กล้ามองเข้าไปในดวงตาของเฉินหลิงเหยา แม้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง แต่ในช่วงเวลานั้น หยางเหมิงก็มีคว
เฉินหลิงเหยาตกใจมากจนแขนขาอ่อนแอ สำหรับเธอ เสียเงินได้ แต่จะสูญเสียความบริสุทธิ์ไม่ได้ และตอนนี้เธอก็ไม่ได้ขาดแคลนเงิน และทุกสิ่งที่สามารถแก้ไขได้ด้วยเงินก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่“ฉันให้เงินนายได้มากเท่าที่นายต้องการ” เฉินหลิงเหยากล่าว“แต่ฉันไม่สนใจเงิน ถ้าเธอยอมให้ความร่วมมือ เธอก็จะไม่เจ็บตัวมากนัก” หานซานเฉียนกล่าวเฉินหลิงเหยาตกใจมากจนร้องไห้ "พี่ชาย ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันยังไม่ได้แต่งงานเลย"หานซานเฉียนไม่คิดว่าเฉินหลิงเหยาจะหวาดกลัวขนาดนี้ เขารีบถอดหน้ากากและหมวกออก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงปกติ "เฉินหลิงเหยา ผมแค่ล้อเล่น คุณไม่ต้องกลัวขนาดนั้น"เฉินหลิงเหยาตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้เธอมองในกระจกมองหลังและเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย หลังจากตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เฉินหลิงเหยาก็โกรธขึ้นมาทันที“หานซานเฉียน คุณไม่มีอะไรทำแล้วหรือไง ฉันไม่มีความแค้นอะไรกับคุณ ทำไมต้องแกล้งฉันให้ตกใจกลัวด้วย” เฉินหลิงเหยาพูดด้วยสีหน้าโกรธเคืองหานซานเฉียนมองเจียงหยิงหยิงด้วยความสับสน เจียงหยิงหยิงเองก็แสดงสีหน้าแปลกใจเหมือนกันพูดตามหลัก หากข่าวการเสียชีวิตของหานซานเฉียนแพร่กระจายไปทั่วหยุนเฉิงแล้ว ด้วยคว
เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา ตัวล็อกประตูคลายเกลียวออก แต่ก็ยังไม่ได้เปิดออกหานซานเฉียนไม่รีบร้อน เขารู้ว่าซูหยิงเซี่ยต้องการการเตรียมตัวด้านจิตใจ เพราะตอนนี้เธอแตกต่างจากเมื่อก่อน“ไม่ต้องกังวล ผมจะรักษาคุณให้ได้” หานซานเฉียนพูดต่อประตูเปิดออกทีละน้อย ซูหยิงเซี่ยก้มศีรษะลงต่ำ และสิ่งที่ดึงดูดสายตาของหานซานเฉียนก็คือผมสีขาว ซึ่งนั่นทำให้หานซานเฉียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดใจเมื่อเข้าไปในห้อง สิ่งแรกที่หานซานเฉียนทำคือกอดซูหยิงเซี่ยไว้ในอ้อมแขนของเขา อย่างที่เขาพูด ไม่ว่าซูหยิงเซี่ยจะเป็นอย่างไร ความรักที่เขามีต่อเธอจะไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าเธอจะแก่มากก็ตาม หานซานเฉียนก็จะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไปซูหยิงเซี่ยรู้สึกถึงร่างกายที่คุ้นเคยนี้ และอดไม่ได้ที่จะกอดเอวของหานซานเฉียน“ฉันกลัวมากว่ามันจะเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันกลัวว่าจะสูญเสียคุณ ฉันกลัวว่าเนี่ยนเอ๋อร์จะสูญเสียแม่ของเธอไป” ซูหยิงเซี่ยร้องไห้อย่างขมขื่น เมื่ออยู่ต่อหน้าหานซานเฉียน เธอก็ทำเป็นแข็งแกร่งไม่ไหวอีกต่อไปหานซานเฉียนลูบหลังซู่หยิงเซี่ยเบา ๆ แล้วพูดว่า "ไม่ต้องกังวล ผมจะไม่ปล่อยให้เนี่ยนเอ๋อร์สูญเสียแม่ของเธอไป และผมจะช่วยคุณอย่
เมื่อมองไปที่ซูหยิงเซี่ย หัวใจของหานซานเฉียนก็เต้นเร็วขึ้นมากในทันทีเพราะเขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และไข่มุกนี้จะนำมาการเปลี่ยนแปลงอะไรมาให้กับซูหยิงเซี่ยความไม่รู้อนาคตนี้กำลังท้าทายขีดจำกัดความกลัวของหานซานเฉียน แม้ว่าเขาจะอยู่ในถ้ำราชาปีศาจ แต่หานซานเฉียนก็ไม่เคยกลัวเลยเพราะซูหยิงเซี่ยมีค่ามากกว่าชีวิตของเขามาช้านานแล้ว เขายอมตายดีกว่าให้ซูหยิงเซี่ยตกอยู่ในอันตราย“ฝู๋เหยา หากคุณมีความสัมพันธ์กับเธอจริง ๆ คุณต้องช่วยปกป้องชีวิตเธอด้วย ผมถึงจะรู้ได้ว่าคุณต้องการทำอะไร” หานซานเฉียนพูดเสียงทุ้มในเวลานี้ เสียงที่ตื่นเต้นของม่อหยางก็ดังมาจากห้องนั่งเล่นหลังจากรู้ว่าหานซานเฉียนกลับมาแล้ว ม่อหยางก็รีบมาที่คฤหาสน์ใจกลางภูเขาโดยเร็วที่สุด สำหรับเขา เขาได้เกิดใหม่เพราะหานซานเฉียน และเป็นเพราะหานซานเฉียนเขาถึงสามารถมายืนอยู่ในจุดที่เขาอยู่ทุกวันนี้ได้ก่อนที่หานซานเฉียนจะออกจากหยุนเฉิง เขามอบทุกอย่างให้เขา แต่เขากลับล้มเหลวในการปกป้องซูหยิงเซี่ย ในมุมมองของม่อหยางการที่ซูหยิงเซี่ยป่วยหนักมันเป็นความรับผิดชอบของเขาเมื่อหานซานเฉียนเดินออกมาจากห้อง ม่อหยางก็คุกเข่าลงตรงหน้าเขา“ซา
สีหน้าของหานเทียนหยางและเหยียนจุนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้เมื่อดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง และอ้าปากค้าง จนหานซานเฉียนสามารถมองเห็นต่อมทอนซิลของทั้งสองได้อย่างชัดเจน “ถ้าต้องให้ผมเลื่อนระดับอีก เกรงว่าคงจะเหลือแต่ตำแหน่งของอี้เหล่าแล้วล่ะครับ” หานซานเฉียนกล่าวต่อลมหายใจของหานเทียนหยางหนักขึ้นมาก และหน้าอกของเขาก็กระเพื่อมอย่างรุนแรงหานซานเฉียนเพิ่งจะไปเทียนฉีแค่หนึ่งเดือน เขาก็สามารถท้ายทายบททดสอบสำเร็จทั้งสี่ระดับ เทียน ตี้ เชวียน ฮวง มันช่างเหลือเชื่อจริง ๆ สำหรับหานเทียนหยาง“ซานเฉียน นาย...นายไม่ได้ล้อพวกเราเล่นใช่ไหม” เหยียนจุนถามเสียงสั่น เทียนฉีคือวังสูงสุดของนักรบ แม้ว่าเหยียนจุนจะไม่เคยไปที่นั่น แต่เขาก็รู้ว่ามีปรมาจารย์มากมายอยู่ที่นั่น ในความเห็นของเขา มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่หานซานเฉียนจะสามารถเลื่อนระดับสำเร็จภายในครั้งเดียว คิดไม่ถึงเลยว่าเด็กนี่จะเก่งขนาดที่เลื่อนไปถึงระดับเทียน“ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ผมเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทียนแล้วจริง ๆ” หานซานเฉียนกล่าวหานเทียนหยางเดินไปหาหานซานเฉียน และยื่นมือที่สั่นเทาของเขาออกไปคว้าแขนของหานซานเฉียนแล้วพูดว่า "ซานเฉียน นาย..