เมื่อหนานกงหลิวหลีถูกนำตัวไปที่คุกใต้ดิน เธอก็ถูกขังไว้ในกรงเหล็กที่หานซานเฉียนอยู่ทันทีสิ่งนี้ทำให้หนานกงหลิวหลีประหลาดใจ และทำให้หานซานเฉียนงงงวยมากหรือว่าเธอทำผิดอะไรมาอย่างนั้นเหรอ? ไม่อย่างนั้นหนานกงป๋อหลิงจะขังเธอไว้ทำไม?“เกิดอะไรขึ้น?” หานซานเฉียนถามหนานกงหลิวหลีหนานกงหลิวหลีเองก็คิดไม่ออกเธอไม่เข้าใจว่าทำไมหนานกงป๋อหลิงถึงให้เธอมาเฝ้าหานซานเฉียน ยิ่งไม่ต้องถามถึงว่าทำเธอถึงถูกอยู่ที่นี่กับเขา"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณปู่แค่ขอให้ฉันมาเฝ้าดูนาย แต่ทำไมเขาถึงต้องขังฉันไว้แบบนี้ด้วย!" หนานกงหลิวหลีดูหวาดกลัวมาก เธอกังวลว่าตัวเองจะทำอะไรผิดไปถึงได้ถูกหนานกงป๋อหลิงลงโทษโดยไม่รู้ตัว แต่เธออยู่ในตระกูลหนานกงมาตั้งหลายปี เว้นแต่เรื่องชีวิตส่วนตัวของเธอที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อย เธอก็ไม่เคยทำผิดอะไรถ้าเธอถูกขังเพราะชีวิตส่วนตัวยุ่งเหยิง เธอก็ควรจะถูกขังไปนานแล้ว ทำไมถึงต้องรอจนถึงตอนนี้ด้วยล่ะ?หานซานเฉียนขมวดคิ้ว หนานกงป๋อหลิงส่งหนานกงหลิวหลีมาเฝ้าเขามันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลยเขาอยู่ในกรงเหล็กและไม่มีโอกาสหนีไปไหนได้ ทำไมหนานกงป๋อหลิงต้องทำอะไรแบบนี้?“ทำอย่างไรดี หรือว่าฉันจ
ใบหน้าของหนานกงเยี่ยนซีดราวกับกระดาษ เขาไม่คิดว่าเฉิงเฟิงจะจบลงแบบนี้หนึ่งหมัด!แค่หมัดเดียว เฉิงเฟิงก็ตายด้วยน้ำมือของกงเทียนฉากนี้ดูเหมือนคุ้นตาเหลือเกินหานซานเฉียนก็จัดการคนที่หนานกงเฟิงพามาด้วยหมัดเดียวเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?หรือว่าจะมีเพียงหานซานเฉียนคนเดียวเท่านั้นที่สามารถสร้างความหวังให้กับตระกูลหนานกงได้?หนานกงเยี่ยนไม่พอใจเป็นอย่างมากพยายามมาตั้งหลายปี เขาไม่สามารถยอมรับการพ่ายแพ้ให้กับหนานกงซุนแบบนี้ได้ และหากสูญเสียสิทธิ์ในการสืบทอดตำแหน่งผู้นำ เขาจะยังสามารถอยู่ในตระกูลหนานกงได้อีกหรือ?"ดูเหมือนว่าในตระกูลหนานกงจะไม่มีใครคู่ควรกับความสนใจของฉันเลยสินะ" จวงถางยืนขึ้นด้วยสีหน้าผิดหวังหนานกงป๋อหลิงกำหมัดแน่น เขาโค้งตัวลงและพูดกับจวงถางว่า "ท่านอาจารย์จวงได้โปรดให้โอกาสตระกูลหนานกงอีกครั้ง ผมจะไปพาคนมาเดี๋ยวนี้"ในฐานะผู้นำของตระกูลหนานกง การที่หนานกงป๋อหลิงกำหมัดโค้งคำนับนั้นคือความเคารพอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าจวงถางจะไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไปแล้ว แต่ในเมื่อเขาจะเอาทรัพย์สินจำนวนมากจากหนานกงป๋อหลิง ดูเหมือนว่าก็ต้องมอบโอกาสนี้กับเขาด้วย "ได้ ฉันจะให้โอกาสคุณอีก
เมื่อเห็นหนานกงเฟิงดิ้นอย่างต่อเนื่อง แม่ของเธอก็รีบวิ่งเข้าไปทุบตีหานซานเฉียนรัว ๆ เพื่อพยายามช่วยลูกชายของเธอ แต่กำลังของผู้หญิงจะเทียบหานซานเฉียนได้อย่างไร?หานซานเฉียนเตะเธอไปด้านข้างและพูดกับหนานกงเฟิงอย่างไร้ความปรานี "หนานกงข่ายตายใต้ไม้ของนาย ฉันแค่บีบคอนาย มันยังน้อยไปมากสำหรับนาย หากตกนรกไปแล้วอย่าลืมขอโทษหนานกงข่ายด้วยล่ะ"ใบหน้าของหนานกงเฟิงเปลี่ยนเป็นสีแดง ริมฝีปากของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วงเนื่องจากขาดออกซิเจน การเคลื่อนไหวดิ้นรนของเขาอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ และในที่สุดขาของเขาก็ทิ้งตรงเมื่อเห็นฉากนี้ แม่ของหนานกงเฟิงก็รู้สึกหวาดกลัวจนดวงตาของแข็งค้างเมื่อหานซานเฉียนเดินไปหาเธอ เธอคุกเข่าลงต่อหน้าหานซานเฉียนอย่างไม่รู้ตัวและพูดว่า "ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันไม่ควรฆ่าผู้หญิงคนนั้นเลย ฉันไม่ควรฆ่าเธอ!"“คุณทำแบบนั้นทำไม” หานซานเฉียนถามอย่างเย็นชา“เพราะเธอตั้งครรภ์อีกแล้ว ฉันกลัวว่าเธอจะขโมยความโดดเด่นของฉันไป ฉันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำแบบนั้น” แม่ของหนานกงเฟิงกล่าวมีเสียงโครมครามดังขึ้นในหัวของหานซานเฉียน หนึ่งร่างสองชีวิต!เธอฆ่าแม่ของหนานก
จวงถางหลับตาตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่กงเทียนขึ้นไปบนสังเวียน จวงถางก็ชัดเจนกับตอนจบแล้ว หานซานเฉียนไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากความตาย กระบวนการที่น่าเบื่อแบบนี้ไม่มีความหมายสำหรับเขาในการรับชม ปิดตาลงเพื่อพักจิตใจยังจะดีเสียกว่า“เขาจะทำได้จริงเหรอ?”"ตอนนี้ตระกูลหนากงของเราขึ้นอยู่กับเขาแล้ว"“ถ้าแพ้ ตระกูลหนานกงของเราก็อาจไม่มีโอกาสได้เข้าสู่ระดับนั้นอีกเลย”ทุกคนต่างก็รูสึกตื่นเต้น สำหรับผู้ที่ไม่ได้ท้าชิงตำแหน่งผู้นำ พวกเขาหวังว่าหานซานเฉียนจะชนะ เพราะเกียรติยศของตระกูล ก็คือเกียรติยศของพวกเขาเช่นกัน หากตระกูลเก่งกาจ พวกเขาก็จะแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ขึ้นยกเว้นหนานกงเยี่ยน เขาเป็นคนเดียวที่ต้องการให้หานซานเฉียนตาย เพราะมีเพียงให้หานซานเฉียนตายเท่านั้น หนานกงซุนถึงจะกลับไปยืนตรงจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้งตอนนั้นเอง การรุกของกงเทียนมาถึงแล้ว และหานซานเฉียนก็โบกกำปั้นขึ้นเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการเผชิญหน้ากับกงเทียนแบบตัวต่อตัวเมื่อกงเทียนสังเกตเห็นความตั้งใจของหานซานเฉียนเขาก็แสดงสีหน้าของเย้ยหยัน ขยะแบบนี้ยังกล้าเผชิญหน้ากับเขา!“หมัดนี้ ฉันจะทำให้มือขวาของนายใช้การไม่ได้อีก!” กงเท
"หุบปาก" เมื่อฟังเสียงเย้ยหยันหานซานเฉียนเหล่านั้น หนานกงป๋อหลิงก็ตวาดเสียงเย็น สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของตระกูลหนานกง คนเหล่านี้ที่ไม่ได้ทำผลประโยชน์ใด ๆ ให้กับตระกูลมีสิทธิ์มาซ้ำเติมเขาด้วยเหรอ?น้ำเสียงไม่พอใจของหนานกงป๋อหลิงทำให้คนเหล่านั้นตัวสั่น และพวกเขาก็ไม่กล้าพูดจาเยาะเย้ยหานซานเฉียนอีก แต่ในใจพวกเขายังคงเชื่อว่าหานซานเฉียนยังไงก็แพ้แน่ ๆ เพียงแต่หนานกงป๋อหลิงไม่ต้องการยอมรับ และไม่อยากเผชิญกับความจริงเท่านั้น"คุณปู่ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมจะลองหาทางอื่นดู" หนานกงเยี่ยนพูดกับหนานกงป๋อหลิงจากด้านข้าง เขาจำเป็นต้องออกตัวในเวลานี้ เพื่อให้หนานกงป๋อหลิงมองเห็นเขา และทำให้หนานกงป๋อหลิงรู้ว่าสามารถฝากความหวังของตระกูลหนานกงไว้ที่เขาได้เท่านั้น แต่น่าเสียดาย ที่หนานกงเยี่ยนเลือกจังหวะผิดไปจริง ๆ หนานกงป๋อหลิงยังไม่เต็มใจที่จะยอมรับว่าหานซานเฉียนจะแพ้ ดังนั้นคำพูดของเขานั้นจึงได้รับคำด่ากลับไปอย่างไม่ต้องสงสัย "หุบปาก ไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าเป็นใบ้" หนานกงป๋อหลิงพูดพร้อมกัดฟัน"น้องชาย นายคงไม่ได้กำลังสาปแช่งให้หานซานเฉียนแพ้อยู่ในใจหรอกใช่ไหม?" หนานกงซุนพูดขึ้นทันทีหนานกงเยี่
ทุกคนในตระกูลหนานกงรู้ดีถึงเหตุผลที่หนานกงป๋อหลิงต้องการให้หานซานเฉียนเปลี่ยนนามสกุลนี่แสดงให้เห็นว่าหนานกงป๋อหลิงให้ความสำคัญกับเขามาก และการเปลี่ยนนามสกุลหมายความว่าเขามีโอกาสเป็นผู้นำตระกูลหนานกงในอนาคต เกียรติยศอันยิ่งใหญ่แบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะได้รับเมื่อหนานกงซุนได้ยินประโยคนี้ อารมณ์ของเขาก็ตกลงสู่ก้นบึ้งของหุบเขาในทันที เพราะสำหรับเขา หานซานเฉียนเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เขาได้รับตำแหน่งผู้นำเท่านั้น หากหานซานเฉียนเปลี่ยนนามสกุลจริง และถูกเห็นความสำคัญขึ้นมา ก็จะกลายเป็นเขาเองที่เป็นเครื่องมือในการช่วยหานซานเฉียน ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่สามารถยอมรับผลลัพธ์แบบนี้ได้ แม้แต่ในตอนนี้ หนานกงซุนก็กำลังคิดว่าจะใช้หานเนี่ยนอย่างไรเพื่อบังคับให้หานซานเฉียนถอนตัวออกจากการเป็นผู้นำแต่สิ่งที่ผู้คนไม่คาดคิดก็คือ หานซานเฉียนปฏิเสธหนานกงป๋อหลิงอย่างไม่แยแส"เขา เขาปฏิเสธงั้นเหรอ?" บางคนถึงกับนึกว่าตัวเองหูฝาดและพึมพำอย่างไม่อยากจะเชื่อ"หานซานเฉียน นายหมายความว่ายังไง" หนานกงป๋อหลิงพูดอย่างไม่พอใจ“ผมจะไม่เปลี่ยนนามสกุล” หานซานเฉียนพูดเสียงเรียบทันทีที่พูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนในตระ
เกี่ยวกับคำพูดของหานซานเฉียนนั้น หนานกงซุนไม่สนใจเลยสักนิด แถมยังหัวเราะอย่างดูถูก ในความคิดของเขา คำพูดของหานซานเฉียนแสดงออกถึงความไร้ความสามารถ เขาไม่มีโอกาสที่จะตอบโต้ตัวเองได้ ดังนั้นถึงได้ประนีประนอมเช่นนี้แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่เรียกว่าไม่ฆ่าของหานซานเฉียน หมายความว่าหนานกงซุนจะมีชีวิตอยู่ด้วยความเจ็บปวด โดยที่เขาไม่สามารถแม้แต่จะร้องขอความตายหนานกงซุนที่ไม่เข้าใจความหมายของประโยคนี้ เขาไม่รู้ถึงความร้ายแรงของผลที่จะตามมา และเมื่อถึงเวลานั้นจริง ๆ เขาก็ไม่มีโอกาสให้เสียใจแล้วตามการนำทางจากจีพีเอสมายังหลุมศพแม่ของหนานกงข่ายมันเกือบจะเป็นดินแดนรกร้างที่เต็มไปด้วยวัชพืช และยากกว่าที่จะหาสุสานที่ปกคลุมไปด้วยวัชพืชเจอ เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่เธอถูกฝังที่นี่ ก็ไม่มีใครจากตระกูลหนานกงมาเยี่ยมหลุมศพของเธออีกเลยแม้ว่าเมื่อก่อนหนานกงข่ายจะยังมีชีวิตอยู่ แต่เนื่องจากเขาต้องแกล้งเป็นคนสติไม่ดี ดังนั้นจึงมาช่วยแม่ทำความสะอาดหลุมศพไม่ได้ เพราะถ้าถูกจับได้ การแกล้งเป็นคนสติของเขาก็จะถูกเปิดเผยเหตุนี้ทำให้หานซานเฉียนเห็นใจหนานกงข่ายที่ทุ่มเทอย่างหนัก เพื่อแบกรับภาระแห่งความอัปยศอดสู แล
ความโกรธของหานซานเฉียนพุ่งขึ้นทันที และเส้นเลือดบนหน้าผากของเขาก็ปูดขึ้นมา ทุกเสียงร้องไห้ของหานเนี่ยนถือเป็นการทรมานและความเจ็บปวดอย่างมากสำหรับเขา เขาอยากจะเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บแทนเธอเขารู้ว่าหนานกงเหยี่ยวกำลังเตือนเขาด้วยวิธีนี้แต่เขารู้ดีกว่าว่าการประนีประนอมกับหนานกงซุนมีแต่จะทำให้เขาไร้ศีลธรรมมากขึ้น และบางทีเขาอาจจะทำสิ่งที่มากเกินไปกับหานเนี่ยนในอนาคตด้วย“หยุดทำร้ายเธอ” หานซานเฉียนพูดผ่านไรฟันชายที่ปลายสายพูดขึ้นอย่างได้ใจ “ถ้านายไปคุกเข่าต่อหน้านางกงซุนเดี๋ยวนี้ ฉันอาจพิจารณาส่งเธอไปโรงพยาบาล ฉันคิดว่านายคงไม่อยากเห็นเด็กน้อยทนทุกข์ต่อไปหรอกใช่ไหม เพราะยังไงเธอก็เป็นลูกสาวนาย”หานซานเฉียนหายใจเข้าลึก วางสายวิดีโอคอล และเดินไปที่ห้องของหนานกงซุนหลังจากที่หนานกงซุนกลับมาที่ปราสาทโบราณ เขาก็รอหานซานเฉียนอยู่ในห้องของเขาด้วยสีหน้าได้ใจในความคิดของเขา การใช้วิธีนี้จะทำให้หานซานเฉียนเชื่อฟังเขาอย่างแน่นอน และเขาแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นหานซานเฉียนมาคุกเข่าต่อหน้าเขา และขอความเมตตา กระดิกหางเหมือนสุนัขที่น่าสงสารเมื่อเขาได้ยินเสียงเคาะประตู หนานกงซุนก็รู้ว่าหานซานเฉียนมาแล