ทั้งคู่เดินมาจนถึงกระท่อมของซ่งจื่อหรูเขาจึงวางตระกร้าลงและช่วยนางยกไปไว้ในลานบ้าน จากนั้นก็ส่งไก่ฟ้าให้สองตัว
"พี่หรง หมายความว่าอย่างไรกันไก่สองตัวท่านเป็นคนล่าได้ ข้าล่ามาได้เพียงตัวเดียวเท่านั่นเอง"ซ่งจื่อหรูตกใจที่เขาไม่เอาแต่ให้นาง
"อืม..ข้าให้เจ้าตัวนึง ถ้าหมดข้าสามารถไปล่าใหม่ได้อย่างกังวลเลย"
"พี่หรง ท่านว่าไก่ฟ้านี่แลกเป็นเงินได้หรือไม่เจ้าคะ" นางอยากได้ที่สุดตอนนี้คือเงิน
"ปกติราคาจะอยู่ที่ชั่งละ30อีแปะ หากขนสวยจะได้ถึง40อีแปะไก่พวกนี้น่าจะหนักประมาณตัวละ5ชั่ง ทำไมเจ้าอยากขายรึ"
"ขอบอกตามตรง บ้านข้าไม่มีอะไรสักอย่าง อย่าถามหาข้าวสารสักกำหรือแป้งสาลีสักครึ่งถุงเลยเจ้าค่ะ"
"ปกติข้าไปแลกที่บ้านท่านผู้นำน่ะ ถึงจะราคาถูกสักหน่อยแต่แค่ไก่ฟ้าสองตัวเดินทางเข้าตัวตำบลคงไม่คุ้ม"
"พี่หรง ท่านช่วยไปแลกให้ข้าสักหน่อยได้ไหมเจ้าคะ"
สายตาออดอ้อนนั้นช่างชวนให้คนตกอยู่ในภวังค์เสียจริงๆ เทียบกับสายตาเชิญชวนของเหล่าสตรีอื่นๆ ที่ส่งให้เขาๆ กับชอบสายตาสดใสคู่นี้ตรงหน้ามากกว่า"
"ได้ ว่าแต่แล้วเจ้าต้องการอะไรบ้าง"
"ข้าขอข้าวสาร เกลือ น้ำมัน ก็พอเจ้าค่ะ ข้าก็ไม่รู้ว่าจะได้สักเท่าไหร่ ข้าเจอหม้อกับกะทะที่ท่านตาเก็บซ่อนไว้จึงอยากหุงข้าวให้น้องได้กินสักมื้อ"
"อืม เจ้าจะไปรับน้องๆ ที่บ้านข้าเลยหรือไม่ "
"ข้ารอท่านมาก่อนค่อยไปพร้อมกันดีกว่า"
ทั้งคู่แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนฮั่วเฟยหรงดีใจ นางบอกว่าจะรอเขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร วันนี้ที่เห็นนางอีกครั้งเขากลับรู้สึกว่าเขาเจอคนที่ตามหามานนานเจอแล้ว เหมือนนางหนีไปเทีายวเล่นแล้วเพิ่งคิดได้ว่าเขารออยู่จึงกลับมา ฮั่วเฟยหรงจึงรีบเดินไปยังบ้านของหลี่ฝูเหยา จากนั้นก็เจรจาขายไก่ป่าสองตัว เนื่องจากต้องนำไปส่งเหลาอาหารอีกทีราคาจึงลดลง ไก่ฟ้าสองตัวหนัก10ชั่งหลี่ซ่งเหวินรับซื้อชั่งละ20อีแปะ ฮั่วเฟยหรงแลกได้เงินมา200อีแปะ
"ท่านอาซ่งเหวิน มิทราบว่า เกลือ ข้าวสาร และน้ำมัน มีราคาเท่าใดขอรับ"
"ข้าวสารชั่งละ20อีแปะ เกลือชั่งละ40อีแปะ น้ำมันไหละ80อีแปะ"
ฮั่วเฟยหรงพยักหน้า ร้องอ้อๆอยู่สามที
"เช่นนั้น รบกวนท่านอาสักหน่อย ข้าต้องการข้าวสาร3ชั่ง เกลือครึ่งชั่ง น้ำมันครึ่งไหขอรับ"
"วันนี้ขอบใจเจ้ามาก ไม่เช่นนั้นนางคงเสียเปรียบอีก"หลี่ฝูเหยาเอ่ยขึ้น ทำไมทุกทีที่เกิดเรื่องต้องเป็นตอนที่เขาไม่อยู่นะ เมื่อไหร่เจ้ารองจะกลับสักที อยากจัดการหญิงแก่ชั่วร้ายนี่จริงๆ
ฮั่วเฟยหรงไม่กล่าวอันใด ได้แต่พยักหน้ารับของมาถือไว้ ก่อนกลับเขาหันมาเอ่ยบางอย่างกับหลี่ฝูเหยา
"ตอนนั้นท่านแม่ข้าเจ็บท้อง ท่านพ่อก็ไม่อยู่ อากาศหนาวหมอตำแยมาไม่ได้ หมอในหมู่บ้านก็ปฏิเสธไม่ยอมทำคลอด มีเพียงท่านอาหลี่ต้าซาน ยอมทนหนาวเหน็บเดินเท้าเข้าไปยังในตัวตำบลเพื่อเชิญหมอตำแย เกวียนวัวก็วิ่งไม่ได้ แต่ท่านอาหลี่ยอมให้หมอตำแยขี่หลังจนมาถึงหมู่บ้าน ท่านแม่ข้าจึงคลอดเฟยเซียนออกมาอย่างปลอดภัย บุญคุณนี้ที่จริงข้าควรตอบแทนเขา แต่น่าเสียดายที่คนไม่อยู่แล้ว"
หลี่ฝูเหยาพ่นควันจากกล้องยาสูบ ที่ต้าซานถูกสัตว์ป่าทำร้ายก็เพราะช่วยปกป้องบุตรชายคนเล็กของเขาหลี่ซ่งเต๋อครั้งเมื่อตอนไปล่าสัตว์ คงต้องดูแลเด็กสามคนให้มากกว่านี้
"เฮ้อ คนดีๆมักอายุสั้น เจ้าว่ามั้ย พรุ่งนี้ข้าจะเกณฑ์คนไปช่วยนางล้อมรั้วสักหน่อย ขากลับผ่านบ้านนางเจ้าแวะบอกกล่าวนางให้ข้าด้วย"
มาถึงบ้านสกุลซ่งก็เห็นเด็กคนนั้นกำลังทำความสะอาดห้องครัวที่ถูกทุบ นำหินมาก่อแทนเตา ดูเหมือนหม้อกะทะนั้นน่าจะเป็นของที่ท่านผู้เฒ่าเก็บซ่อนเอาไว้ นางคล่องแคล่วมาก ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนในตัวเด็กคนนี้มีทั้งความกล้าหาญ และความเฉลียวฉลาดเกินกว่าอายุ ฮั่วเฟยหรงเดินเข้าไปหา
"เจ้าตัวยุ่ง ไก่ป่านั้นขายได้200อีแปะ ซื้อข้าวสาร2ชั่ง เกลือครึ่งชั่ง น้ำมันครึ่งไห ทั้งหมด100อีแปะ นี่เงินที่เหลือ"
ซ่งจื่อหรูดันมือที่ถือเงินอยู่กลับไป วันนี้นางได้รับความช่วยเหลือจากบุรุษตรงหน้ามากมายแล้ว หากเป็นชาติก่อนอายุขนาดนี้ คงกำลังนั่งเล่นเกมส์ ถ่ายคลิปลงโซเชียลอยู่เลย เด็กในยุคสมัยนี้โตวัยจริงๆ
"พี่หรง วันนี้ต้องขอบคุณท่านมาก หากไม่ได้ท่านข้าเองคงรับมือลำบาก อีกทั้งยังบาดเจ็บอยู่"
"เจ้าไม่โกรธ เกลียดข้าหรือ"
"เกลียดท่าน? ข้าจะเกลียดท่านด้วยเหตุอันใดกัน" ซ่งจื่อหรูไม่เข้าใจ
"เรื่องบิดาของเจ้า...."
"ที่ผ่านมาข้าไม่เกลียดท่านรวมถึงคนบ้านท่านเลย ที่ท่านพ่อทำเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนพึงมีนั้นคือคุณธรรมและความเมตตา ไม่ใช่ว่าท่านพ่อข้าตายเพราะไปตามหมอตำแยสักหน่อย ถ้าท่านย่ายอมรักษาท่านพ่อแต่แรกเขาก็อาจไม่ตาย ที่ข้าไม่อยากพบปะกับท่านก็เพราะอาเล็ก ข้าอยากอยู่อย่างสงบ แต่ดูเหมือนพวกนางจะไม่ยอมอยู่เงียบๆ"
"เรื่องบางออกหน้ามากนักคงไม่ดี หากอยากให้น้องชายได้เรียนหนังสือสอบขุนนาง น้องสาวได้คู่ครองที่ดี บางอย่างเจ้าควรไว้หน้าพวกนางบ้าง"
"แล้วข้าล่ะ หากไว้หน้านางแล้วจะหาคู่ครองที่ดีได้หรือไม่"
"เจ้ามีคนที่คู่ควรอยู่แล้ว ไม่ต้องเสาะหาหรอก"
ซ่งจื่อหรู ทำสีหน้างงๆ ก่อนจะนำของที่ฮั่วเฟยหรงนำมาเก็บในช่องลับ นางจึงไม่เห็นสีหน้าและใบหูที่แดงเสียจนเหมือนลูกมะเขือเทศของฮั่วเฟยหรง
"ไปรับเด็กๆกันเถอะ เลยมาครึ่งวันแล้ว ท่านอาสะใภ้ร่างกายอ่อนแอ ข้าไม่อยากให้นางลำบากมากนัก"
ทั้งคู่เดินมาถึงกระท่อมก็เห็นเด็กสามคนนั่งเล่นอยู่ด้วยกัน ซ่งจื่อห่าวอ่อนกว่าฮั่วเฟยเซียนเป็นน้องเล็กสุด ซ่งจื่อเย่วคอยดูน้องๆ โดยมีฮั่วหรานนั่งปักผ้าอยู่บนแคร่ เมื่อเห็นบุตรชายและซ่งจื่อหรูเดินมาด้วยกันก็แปลกใจ แล้วเอ่ยปากทักทายคนทั้งสอง
"หรงเอ๋อร์แม่หนูจื่อหรูเหตุใดพวกเจ้าจึงมาด้วยกันได้เล่า"อั่วหรานเห็นทั้งคู่มาด้วยกันก็แปลกใจ
"ข้าเจอนางโดยบังเอิญขอรับท่านแม่ เห็นว่านางนำน้องสองคนมาฝากท่านและกำลังจะมารับ"
ซ่งจื่อหรูไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงโกหกและไม่บอกว่าขึ้นเขากับนาง แต่ในเมื่อเขาไม่ต้องการจะพูดนางก็ไม่อาจถามไถ่ได้ จึงเพียงเอ่ยถามกับฮั่วหรานเท่านั้น
"อาสะใภ้ จท่อเย่วกับจื่อห่าวทั้งสองคนไม่ได้ทำให้ท่านลำบากใช่ไหมเจ้าคะ"
"ที่ไหนกัน แม่หนูจื่อเย่วรู้ความยิ่งนัก ปัดกวาดเช็ดถูเรือนข้าเสียสะอาดสะอ้าน ส่วนจื่อห่าวก็เล่นกับเซียนเซียน ทั้งคู่เป็นเด็กดีมากเชียวล่ะ"
"ขอบคุณมากเจ้าค่ะ วันนี้รบกวนท่านมากแล้วข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ จื่อเย่ว จื่อห่าว บอกลาท่านอาสะใภ้ กับพี่เฟยหรงและเฟยเซียนเสียสิ"
"อาสะใภ้ พี่เฟยหรง จื่อเย่วขอตัวกลับก่อนนะเจ้าคะ"
"จื่อห่าวก็กลับก่อนนะขอรับ ข้าไปก่อนนะพี่เฟยเซียน"
"อืม..กลับบ้านดีๆถ้าไม่สะดวกจะพาพวกเขาไปไหนด้วยเจ้าก็มาฝากข้าได้ มีเด็กเยอะๆบ้านจะได้ไม่เงียบเหงา อ้อ..มันเทศนั้นรสชาติดียิ่งนักขอบใจเจ้ามาก"
ทั้งสามลาฮั่วหราน ฮั่วเฟยหรง และฮั่วเฟยเซียนก่อนจะรีบกลับบ้าน วันนี้มีเรื่องนางข่มขู่เรื่องปลดภรรยาของท่านปูู่ คงสงบได้อีกหลายวัน ใช้เวลาช่วงนี้จัดการรั้ว กับซ่อมแซมบ้านสักหน่อย เมื่อสักครู่ฮั่วเฟยหรงบอกแล้วว่าท่านปู่ฝูเหยาจะพาคนมาช่วยนางล้อมรั้ว
ณ.โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งมีงานเลี้ยงเปิดตัวสินค้าใหม่ของเจียงหม่ากรุ๊ปซึ่งเป็นผู้นำด้านอุปโภคบริโภค มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีสาขาอยู่เกือบห้าสิบสาขาทั่วประเทศ เจียงหม่ากรุ๊ปก่อตั้งโดยประธานหม่า หม่าซุน วันนี้ซ่งเหลียนฮวาซึ่งเป็นผู้จัดการใหญ่ในเครือทั้งหมดของเจียงหม่ากรุ๊ป กำลังยืนทยอยส่งแขกและผู้ถือหุ้นของบริษัท วันนี้ซ่งเหลียนฮวาแต่งกายด้วยเสื้อเชิตสีขาวคอวี เผยให้เห็นลำคอยาวระหง สวมสร้อยคอเป็นจี้หยกสีขาวแกะสลักเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวใส่ต่างหูเข้าชุดกับสร้อยคอ สวมกำไลหยกมันแพะสีงาช้าง กำไลนั้นสวยงามดูมีมนต์ขลังมากดูแล้วน่าจะเป็นของเก่าโบราณคลุมด้วยเสื้อสูทสีแดงเชอรี่แขนสั้นและกระโปรงสีเดียวกัน"นี่ยายเกี๊ยวน้ำ...เสร็จงานแล้วไปต่อกันดีไหม"หลิวเฟยซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานเอ่ยชวน เพราะซ่งเหลียนฮวาชอบกินเกี๊ยวน้ำมากๆเพื่อนๆ เลยตั้งฉายาเกี๊ยวน้ำให้เธอ"ไม่ดีกว่าฉันว่าจะแวะไปบ้านไร่สักหน่อยน่ะ ไม่ได้ไปมาสามอาทิตย์แล้ว"ซ่งเหลียนฮวาปฏิเสธเพื่อนสาว"ก็หล่อนมั่วแต่คอยดูแลน้องชายนี่นา อย่าหาว่าฉันจุ้นเลยนะ อาห่าวปีนี้ก็จบมหาวิทยาลัยแล้วลองปล่อยให้เขาดูแลตัวเองบ้างเถอะ""ตั้งแต่แม่กับพ่อและ
เมื่อร่ำลาซ่งอวิ๋นห่าวเรียบร้อยทั้งสี่คนก็จับมือกันเดินตามแสงสว่างเบื้องหน้าไปยังทางเดินเล็กๆ เดินอยู่อึดใจนึงทั้งสี่ก็มาโผล่ที่กระท่อมดินมุงด้วยหญ้าคาหลังหนึ่งสภาพกระท่อมผุพัง หลังคาทะลุ กำแพงดินมีหญ้าขึ้นแซมยามลมพัดปลิวต้นหญ้าก็แกว่งไกวตามสายลม บริเวณกระท่อมมีรั้วไม้ไผ่ทำแบบง่ายๆ แทบจะใช้กันสิ่งใดไม่ได้เลย มีเถาวัลย์ขึ้นเลื้อยพันเต็มไปหมด บริเวณในรั้วก็มีไม้เลื้อยสลับกับต้นไม้ใบหญ้าที่ขึ้นรกกระท่อมหลังนี้อยู่ติดบริเวณตีนเขามีลำธารกว้างประมาณ10เมตรลึกประมาณ60-80เซน กั้นกลางระหว่างบ้านกับภูเขาอีกลูก ด้านหน้าประตูรั้วมีบึงบัวขนาดเกือบ600-700ไร่สุดลูกหูลูกตา บริเวณบ้านทั้งหมดน่าจะประมาณ300ตารางวา ซ่งเหลียนฮวาทำสีหน้างงๆ เหตุใดจึงมาโผล่ที่นี่กัน"หลานรัก หนูลองไปสำรวจบริเวณภูเขากับบึงบัวที่นี่สักหน่อยเถอะ สิ่งใดอยู่ตรงไหน ใช้ประโยชน์อย่างไรจงอย่าลืม พยายามจดจำรายละเอียดทุกจุดที่ผ่านตา เส้นทางไหนไปทางใดจงตั้งใจสำรวจให้ถี่ถ้วน มันจะดีต่อหลานในอนาคต"ซ่งฮั่นเหลียงเอ่ยกับหลานสาวแม้ว่าจะไม่เข้าใจที่คุณปู่สื่อสารมากนัก แต่เธอก็ยอมทำตาม เนื่องจากเป็นเพียงร่างวิญญาณการเคลื่อนที่จึงไม่เหน็ดเหน
ซ่งเหลียนฮวายอมรับการเกิดใหม่ครั้งนี้ อย่างน้อยครั้งนึงในอดีตก็คงเคยเป็นครอบครัวเดียวกันมาก่อน แม้จะไม่สมเหตุสมผลในบางเรื่อง แต่โบราณว่าไว้วาสนาจะนำพาให้คนเราได้พบเจอแต่หากสิ้นวาสนาก็ต้องพรากจากกันวาสนาของเธอกับคุณพ่อคุณแม่และคุณปู่รวมถึงอวิ่นห่าวทั้งสองภพต่างสิ้นสุดลงแล้ว ส่วนเด็กทั้งสองคนก็คือวาสนาในชาตินี้"พ่อคะ แม่คะ คุณปู่ จากนี้ไปหนูจะดูแลพวกเขาให้ดี จะทำหน้าที่ๆคุณพ่อคุณแม่และคุณปู่มอบหมายอย่างดีที่สุด ขอบคุณมากนะคะที่คืนน้องๆให้หนู พวกเขาจะต้องโตไปอย่างดีคะ หนูให้สัญญาค่ะ"สายลมอุ่นๆ พัดอยู่รอบตัวเธอเห็นวิญญาณซ่งจื่อหรูเจ้าของร่างเดิมกำลังจับมือกับพ่อแม่และปู่ของเธอพวกเขายิ้ม ซ่งเหลียนฮวายิ้มตอบ พวกเขาค่อยๆ เลือนหายไปในแสงสีขาวที่เคยพาเธอมาก่อนหน้า ซ่งจื่อเย่วเห็นพี่สาวลืมตาขึ้นก็ดีใจรีบจับมือนางพร้อมถามไถ่"พี่ใหญ่ท่านตื่นแล้ว ท่านเป็นอย่างไรบ้างเจ็บตรงไหนไหมเจ้าคะ"ซ่งจื่อเย่วเป็นห่วงพี่สาว ซ่งเหลียนฮวาลูกขึ้นนั่งตอนนี้เธอยอมรับแล้วว่าเธอคือซ่งจื่อหรู และเด็กสองคนนี้คือน้องของเธอ"จื่อเย่ว จื่อห่าว น้องพี่พวกเจ้าอยู่นี่ตรงหน้าพี่จริงๆด้วย"ซ่งจื่อหรูโอบกอดเด็กทั้งสองแน่น น
ซ่งจื่อหรูเดินไปเด็ดใบบัว เห็นฝักบัวมากมาย จากความทรงจำเด็กคนนี้ไม่เคยกิน ไม่รู้ว่าคนที่นี่รู้หรือไม่ว่ามันกินได้ บึงบัวที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ นับว่าอาหารอุดมสมบูรณ์ยายแก่นั่นยึดจานชามยังไม่พอ แต่ยังทุบทำลาย จะไปทวงคืนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ เพราะร่างกายนี้ยังอ่อนแอแต่ก็จดใส่บัญชีหนังหมาเรียบร้อยแล้ว ซ่งจื่อหรูจึงใช้ใบบัวชั่วคราว รอให้จัดการรั้วและประตูบ้านก่อน ค่อยเอาของที่ท่านตาเก็บไว้มาใช้สอย ซ่งจื่อหรูหอบใบบัวกับฝักบัวหอบใหญ่กลับมา"เด็กๆ ดูสิพี่ได้อะไรมา เห็นไหมฝักบัวแก่กำลังกินเลย"ซ่งจื่อหรูเอ่ยปาก"สิ่งนี้กินได้หรือเจ้าคะพี่ใหญ่ ข้าไม่เคยเห็นใครกินมาก่อน" ซ่งจื่อเย่วเห็นสิ่งที่พี่สาวนำมาก็สงสัย ซ่งจื่อห่าวเองก็อดถามไม่ได้เช่นกัน"อร่อยไหมขอรับพี่ใหญ่""กินได้สิ อร่อยมากด้วยเดี๋ยวพี่แกะให้นะ"ซ่งจื่อหรูตอบน้องๆก่อนจะนั่งลงวางฝักบัวข้างๆ และใช้ไม้ค่อยๆ เขี่ยมันเทศออกจากกองถ่านที่เป็นขี้เถ้าจนหมดแล้ว ปัดเศษขี้เถ้าออกและนำวางบนใบบัว"จื่อเย่ว..พี่สี่ฟื้นหรือยัง"เสียงเรียกจากประตูรั้วดังมา ซ่งจื่อหรูหันไปตามเสียงก็เห็นเด็กสาวคนนึงอายุประมาณ9ขวบ ใส่เสื้อผ้าทีมีรอยปะชุนเต็มไปหมด รองเท้าฟางที
หลี่ถิงถิงเมื่อมาถึงที่นาก็ตะโกนเรียกบิดากับมารดาทันที"ท่านแม่ ท่านพ่อ""ถิงถิง ตัดหญ้าเสร็จแล้วหรือ ลูกมาทำอะไรที่นี่ รีบกลับบ้านเถอะเดี๋ยวจะถูกท่านย่าตำหนิได้อีก"หวงซื่อเอ่ยตอบบุตรสาวหลี่ถิงถิงมองบน"ใครสนใจนางกัน ต่อให้รีบกลับไปก็ถูกด่าอยู่ดี คนในบ้านนอกจากท่านกับท่านแม่ยังมีใครทำงานบ้าน นั่งๆ นอนๆ จนข้านึกว่าพวกเขาแขนขาพิการเสียอีก อย่าพูดถึงเลยเจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านดูสิเจ้าคะข้ามีอะไรมาฝากพวกท่านด้วย"หลี่ถิงถิงค่อยๆ เอามันเทศที่ห่อใบบัวมาให้หลี่ต้าจูและนางหวง ทั้งสองมองหน้ากันงงๆ ว่าบุตรสาวนำสิ่งใดมาให้"นี่คือมันเทศเจ้าค่ะ อร่อยมากพวกท่านลองกินสิเจ้าคะ มีฝักบัวด้วยเจ้าค่ะ""ถิงถิง..อะไรคือมันเทศนี่มันคือสิ่งใดกัน"หวงซื่อสงสัยสิ่งที่บุตรสาวนำมา"มันคือสิ่งที่เติบโตใต้ดินเจ้าค่ะ มีฝักบัวด้วยนะเจ้าคะหวานอร่อยมากเจ้าค่ะท่านแม่""อาซู่..สิ่งที่ลูกนำมาล้วนเพราะกตัญญูจะถามให้มากความทำไมกัน"หลี่ต้าจูเอ็นดูบุตรสาวจึงบอกแก่ภรรยาว่าอย่าไปคาดคั้นนาง"ท่านพ่อท่านแม่ นี้เป็นสิ่งที่พี่สี่หาเจอ และก็รู้ว่ามันกินได้เจ้าค่ะ อย่าบอกใครนะเจ้าคะ โดยเฉพาะท่านย่า""วางใจเถอะแม่กับพ่อรู้ดี ทุกวันนี้ก็ได
ซ่งจื่อหรูพยายามค้นหาความทรงจำของร่างเดิมไม่ให้ตกหล่น ในเมื่อนางต้องมาดูแลน้องทำหน้าที่แทนพ่อแม่และคุณปู่แล้วนางจะต้องทำให้ดี ใจจริงนางอยากขึ้นเขามากกว่าแต่ตอนนี้เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว (15.00 - 16.59 น.)จากที่สำรวจตอนที่วิญญาณมาถึงนางเห็นของดีมากมาย แต่ใกล้ค่ำไม่อาจทิ้งน้องไว้ลำพังได้ ไม่รู้ว่าคนบ้านใหญ่รู้ว่านางฟื้นแล้วจะมาหาเรื่องอะไรอีกซ่งจื่อหรูมองรอบบริเวณบ้านรั้วนั่นต้องเร่งทำอย่างน้อยก็ป้องกันคนจากบ้านใหญ่มารังแกเด็กๆ และคนอื่นๆ ที่ไม่หวังดีอีก เถาวัลย์หลายขนาดเลื้อยพันไปมาที่นี่คือแคว้นต้าเหลียง หมู่บ้านที่นางอาศัยอยู่คือหมู่บ้านหลี่ซาน หมู่บ้านข้างๆ คือหมู่บ้านไป๋ซานและหมู่บ้านเถาซานตั้งอยู่ในตำบลซานสุยเมืองเสียนหยาง เมื่อสี่ปีก่อนท่านพ่อบาดเจ็บจากการล่าสัตว์ แม่เฒ่าหลี่ไม่อยากจ่ายค่ารักษาจึงถูกบังคับให้ต้องแยกบ้านและไม่ให้อะไรเลย แต่เพราะเกรงกลัวอำนาจของหลี่ฝูเหยาหลี่เจิ้งของหมู่บ้านอีกทั้งยังเป็นพี่สามีคนโตของนางเขาข่มขู่นางว่าจะส่งจดหมายหาหลี่ไหลฝูน้องชายให้หย่ากับนางซะหากนางไม่ยินยอม แม่เฒ่าหลี่จึงยอมให้หลี่ต้าซานได้กระท่อมหลัเก่าของบ้านหลี่ไปแต่หลังจากนั้นไม่นานเพ
ซ่งจื่อหรูใช้เทียนส่องดู เห็นมีตะเกียงอยู่ตรงมุมห้อง จึงเดินไปจุดตะเกียงที่อยู่ตามมุม จากนั้นในห้องก็สว่าง พบว่าภายในห้องใต้ดินนางพบเจอหีบเรียงราย ในนั้นมีเครื่องมือช่างมากมาย มีชั้นหนังสือและมีหนังสือหลายเล่ม ในยุคสมัยนี้เหล็กและหนังสือล้วนแต่มีราคาแพง มีผ้าหลายพัยอยู่ในหีบ แต่ไม่มีอาหารใดๆนอกจากเมล็ดพันธุ์บางชนิดไม่เห็นว่าบ้านนี้จะปลูกอะไรสักต้นแล้วจะมีเมล็ดพันธุ์ไว้ทำไมกัน เฮ้อ!!ซ่งจื่อหรูถอนหายใจ ไม่มีอะไรแลกเป็นเงินได้สักอย่างมีแค่ของเหล่านี้แต่ถึงกระนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ช่างไม้ธรรมดาคนนึงไม่น่าจะมีไว้ครอบครองได้ แต่เหตุใดท่านตาจึงทำตัวเหมือนคนยากจน จากนั้นก็สำรวจต่อค้นเจอสุราเหลืออยู่สองไห ซ่งจื่อหรูหยิบสุรามาหนึ่งไหเพื่อจะใช้เช็ดบริเวณบาดแผลที่ศรีษะ นางใช้ชามที่วางอยู่เอาสุรามาเช็ดทำความสะอาดจากนั้นก็รินสุราลงไปก่อนจะใช้ผ้าค่อยๆจุ่มสุรามาเช็ดแผลบริเวณศรีษะ ซ่งจื่อหรูเช็ดเลือดที่เกอะกรังออก ทำให้ปากแผลเปิดเลือดจึงซึมๆ ออกมา อย่างน้อยก็ฆ่าเชื้อ พรุ่งนี้หาทางขึ้นเขาสักครั้งเผื่อเจอสมุนไพรมารักษาได้บ้างหลังจากจัดการบาดแผลเสร็จก็ดับตะเกียงก่อนจะขึ้นมาจากห้องใต้ดิน ความรู้ส
ซ่งจื่อหรูหาไม้ง่ามมาได้สองอันก็ปักลงด้านบนปากหลุมทั้งสองฝั่งๆ ล่ะหนึ่งอัน เขี่ยกองฟืนให้เป็นถ่านแดงนำมันเทศวางลงไปพร้อมกลบถ่านจากนั้นนำปลามาวางบนไม้ง่ามค่อยๆ พลิกไปมา จนปลาย่างเริ่มส่งกลิ่น เกือบจะปลายยามเหมาแล้วเด็กสองคนถูกกลิ่นหอมของปลาย่างปลุกให้ตื่น ซ่งจื่อหรูนำมันเทศที่สุกแล้วกับปลาย่างวางบนใบบัวที่ตัดมาเมื่อวาน จากนั้นก็นำหม้อแตกครึ่งใบมาต้มน้ำซ่งจื่อเย่วได้กลิ่นจึงวิ่งมาหาพี่สาว"พี่ใหญ่..ท่านทำอะไรหอมจังเลยเจ้าค่ะ""พี่ย่างปลาน่ะ จื่อเย่วกับจื่อห่าวพับผ้าห่มให้เรียบร้อยแล้วมาล้างหน้าพี่ต้มนำอุ่นให้แล้ว"แม้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนแต่เนื่องจากอยู่ติดเชิงเขาอากาศจึงหนาวเย็นกว่าที่อื่น เด็กๆพากันเก็บที่นอนพับผ้าห่มเก่าที่ถูกปะชุนจนหาสีเดิมไม่ได้ เอ๋มีผ้าห่มผืนใหม่ด้วย พี่ใหญ่คงเอามาจากใต้เตียงท่านตาแน่ๆ มิน่าเมื่อคืนนี้พวกเขาอุ่นมากแถมพี่ใหญ่ยังกอดพวกเขาอีกด้วยมือน้อยๆ ช่วยกันพับผ้า จากนั้นก็มาล้างหน้า ซ่งจื่อหรูนำหมั่นโถวสามลูกห่อใบบัววางอุ่นในหม้อแตก หม้ออีกใบถูกใช้ต้มน้ำดื่ม ซ่งจื่อหรูค่อยๆบิมันเทศและหมั่นโถวให้ซ่งจื่อห่าว จากนั้นก็แกะเนื้อปลาให้น้องทั้งสอง เมื่ออิ่มแล้วจึงดับ
ทั้งคู่เดินมาจนถึงกระท่อมของซ่งจื่อหรูเขาจึงวางตระกร้าลงและช่วยนางยกไปไว้ในลานบ้าน จากนั้นก็ส่งไก่ฟ้าให้สองตัว"พี่หรง หมายความว่าอย่างไรกันไก่สองตัวท่านเป็นคนล่าได้ ข้าล่ามาได้เพียงตัวเดียวเท่านั่นเอง"ซ่งจื่อหรูตกใจที่เขาไม่เอาแต่ให้นาง"อืม..ข้าให้เจ้าตัวนึง ถ้าหมดข้าสามารถไปล่าใหม่ได้อย่างกังวลเลย""พี่หรง ท่านว่าไก่ฟ้านี่แลกเป็นเงินได้หรือไม่เจ้าคะ" นางอยากได้ที่สุดตอนนี้คือเงิน"ปกติราคาจะอยู่ที่ชั่งละ30อีแปะ หากขนสวยจะได้ถึง40อีแปะไก่พวกนี้น่าจะหนักประมาณตัวละ5ชั่ง ทำไมเจ้าอยากขายรึ""ขอบอกตามตรง บ้านข้าไม่มีอะไรสักอย่าง อย่าถามหาข้าวสารสักกำหรือแป้งสาลีสักครึ่งถุงเลยเจ้าค่ะ""ปกติข้าไปแลกที่บ้านท่านผู้นำน่ะ ถึงจะราคาถูกสักหน่อยแต่แค่ไก่ฟ้าสองตัวเดินทางเข้าตัวตำบลคงไม่คุ้ม""พี่หรง ท่านช่วยไปแลกให้ข้าสักหน่อยได้ไหมเจ้าคะ"สายตาออดอ้อนนั้นช่างชวนให้คนตกอยู่ในภวังค์เสียจริงๆ เทียบกับสายตาเชิญชวนของเหล่าสตรีอื่นๆ ที่ส่งให้เขาๆ กับชอบสายตาสดใสคู่นี้ตรงหน้ามากกว่า""ได้ ว่าแต่แล้วเจ้าต้องการอะไรบ้าง""ข้าขอข้าวสาร เกลือ น้ำมัน ก็พอเจ้าค่ะ ข้าก็ไม่รู้ว่าจะได้สักเท่าไหร่ ข้าเจอหม้อกับก
ฮั่วเฟยหรงมองหญิงชราอย่างรังเกียจ แต่ในที่สุดก็เอ่ยปาก"แม่เฒ่าข้าถามสักคำ ท่านมีเหตุผลใดจะให้เด็กคนนี้กตัญญูต่อท่าน?"น้ำเสียงที่ถามคำถามของฮั่วเฟยหรงนั้นทำเอายายแก่ถึงกับใจคอไม่ดี แต่ต้องเสแสร้งว่าไม่กลัว"หึ..มันเป็นหลานข้า ข้าเป็นย่ามันต้องมีเหตุผลอันใด""เหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้น"ฮัวเฟยหรงเอ่ยขัด"ท่านพี่เฟยหรง...ท่านแม่ข้าแก่แล้ว คนในหมู่บ้านล้วนแต่ต้องกตัญญู ฮ่องเต้พระองค์นี้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ยิ่งนักนะเจ้าคะ"หลี่อ้ายเสิ่นกล่าวเสียงหวาน นางมั่นใจว่าเขาต้องคล้อยตาม ความกตัญญูของฮ่องเต้เป็นที่ประจักษ์ และระบุเป็นกฎหมายต้าเย่ว นางกำลังโอ้อวดว่าตนมีความรู้ และคิดว่าเขาต้องพอใจในตัวนาง แต่ฮั่วเฟยหรงกลับไม่ใส่ใจและเมินเฉย"แม่เฒ่าข้าขอถามท่าน ท่านบอกว่าจะให้เด็กคนนีกตัญญูต่อท่านในฐานะผู้อาวุโส แต่คำนึงนางก็คนนอก อีกคำนางก็คนอื่น ท่านบอกว่าตนเองแซ่หลี่ส่วนนางแซ่ซ่ง ในเมื่อไม่ใช่คนในครอบครัวท่านแล้วจะให้นางกตัญญูด้วยเหตุผลเหล่านี้ข้าคิดว่าคงไม่ได้ ที่ข้ากล่าวมาถูกหรือไม่ขอรับท่านปู่ฝูเหยา"หลี่ฝูเหยากระแทกไม้เท้าตึงๆสามหน หญิงชราน่ารังเกียจช่างหน้าด้านยิ่งนัก"นังเฒ่า ข้าเห็นแก่เจ้าที่เ
ทั้งสองคนเดินมาถึงกลางทางระหว่างท้ายหมู่บ้านก็เจอกับอาหญิงของนางหลี่อ้ายเสิ่นและบุตรสสวของลุงใหญ่หลี่ม่านอวี้ ทันทีที่เห็นซ่งจื่อหรู หลี่อ้ายเสิ่นก็เปิดปากด่าทอ แต่ละคำล้วนไม่น่าฟัง"นังเด็กเหลือขอไหนว่าใกล้ตายแล้วไง ทำไมยังออกมาลอยหน้าข้างนอกได้อีก"หลี่อ้ายเสิ่นเปิดปากก็ด่าทอซ่งจื่อหรู"น้องสี่ เจอกับท่านอาเล็กเจอกับข้าเหตุใดเจ้าจึงไม่ทำความเคารพ อีกทั้งยังเมินเฉย" หลี่ม่านอวี้ที่คอยเป็นลูกไล่ของหลี่อ้านเสิ่นต่อว่าซ่งจื่อหรูเช่นกันสองดรุณีน้องแต่งกายด้วยกระโปรงผ้าฝ้ายลายดอกสีชมพูคือหลี่อ้ายเสิ่น ส่วนชุดกระโปรงสีฟ้าคือหลี่ม่านอวี้ บนศรีษะปักด้วยดอกไม้เข้ากันกับชุด แม้ว่าหน้าตาไม่ถือว่าโดดเด่นแต่สำหรับหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นไม้งามซ่งจื่อหรูคร้านจะสนใจคนทั้งสองจึงเดินผ่านหน้าไป หลี่อ้ายเสิ่นเห็นคนที่เดินตามหลังซ่งจื่อหรู ก็ทนไม่ได้เห็นแล้วก็แทบจะเข้าไปฉีกอกซ่งจื่อหรูให้ขาดเป็นชิ้นๆ ฮั่วเฟยหรงนั้นเป็นหนุ่มรูปงาม สตรีในหมู่บ้านใครบ้างเห็นแล้วจะไม่หวั่นไหว บางคนถึงกับละเมอใฝ่ฝันหนึ่งในนั้นก็มีหลี่อ้ายเสิ่นอยู่ด้วย หลี่อ้ายเสิ่นอายุสิบสามอีกไม่กี่วันก็จะอายุสิบสี่ปีสามรถพูดคุ
ทั้งคู่เดินมาเพียงครึ่งถ้วยชาก็ถึงตีนเขา มีรอยเท้าชาวบ้านที่มาหาของป่าเต็มไปหมด ซ่งจื่อหรูจึงหันมาพูดกับฮั่วเฟยหรง"ท่านพี่ฮั่ว พวกเราไปอีกด้านเถอะทางนี้คงไม่มีอะไรเหลือให้หาแล้ว"ซ่งจื่อหรูชักชวน"อืม"ฮั่วเฟยหรงเพียงแค่พยักหน้าแล้วเดินนำซ่งจื่อหรูไปอีกด้าน ซ่งจื่อหรูตัวเตี้ยกว่าจึงส่งมีดให้เขา เมื่อฮั่วเฟยหรงรับมีดมาฮั่วเฟยหรงก็ใช้มันฟันกิ่งไม้ที่ระเกะระกะพร้อมกับมองหาอาหารหรือผักป่าที่กินได้ เดินมาเกือบครึ่งชั่วยามก็ถึงบริเวณที่มีต้นไม้สูงสลับเตี้ย มีลูกหล่นอยู่บนพื้นลักษณะมีหนามแหลมหล่นอยู่ใต้ต้นและบนต้นอีกมากมาย มันคือต้นเกาลัดแม้ว่าล่วงหน้าจะรู้ว่าตรงนี้มีอะไร แต่ซ่งจื่อหรูก็เหนื่อยพอประมาณตอนที่สำรวจนั้นเป็นเพียงร่างวิญญาณ แต่พอตอนนี้ต้องเดินเท้าเข้ามากลับรู้สึกเหนื่อยยิ่งนัก ที่บ้านไม่มีข้าวสาร แต่เกาลัดสามารถต้มเป็นโจ๊กได้ ดูเหมือนพายุฤดูร้อนน่าจะอยู่อีกสองสามวัน หาเจอเห็ดให้มากหน่อยตากแห้งเอาไว้คงพอมีอาหารให้กิน ข้างบ้านมีลำธาร ปลามีไม่น้อยคนยุคนี้ไม่นิยมกินปลาเพราะมีกลิ่นคาว แต่นางกินได้แถมยังสามารถทำให้อร่อยด้วย"ท่านพี่ฮั่ว เรามาเก็บเกาลัดกันเถอะ""หนามแหลมเพียงนี้เจ้าจะเ
ซ่งจื่อหรูหาไม้ง่ามมาได้สองอันก็ปักลงด้านบนปากหลุมทั้งสองฝั่งๆ ล่ะหนึ่งอัน เขี่ยกองฟืนให้เป็นถ่านแดงนำมันเทศวางลงไปพร้อมกลบถ่านจากนั้นนำปลามาวางบนไม้ง่ามค่อยๆ พลิกไปมา จนปลาย่างเริ่มส่งกลิ่น เกือบจะปลายยามเหมาแล้วเด็กสองคนถูกกลิ่นหอมของปลาย่างปลุกให้ตื่น ซ่งจื่อหรูนำมันเทศที่สุกแล้วกับปลาย่างวางบนใบบัวที่ตัดมาเมื่อวาน จากนั้นก็นำหม้อแตกครึ่งใบมาต้มน้ำซ่งจื่อเย่วได้กลิ่นจึงวิ่งมาหาพี่สาว"พี่ใหญ่..ท่านทำอะไรหอมจังเลยเจ้าค่ะ""พี่ย่างปลาน่ะ จื่อเย่วกับจื่อห่าวพับผ้าห่มให้เรียบร้อยแล้วมาล้างหน้าพี่ต้มนำอุ่นให้แล้ว"แม้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนแต่เนื่องจากอยู่ติดเชิงเขาอากาศจึงหนาวเย็นกว่าที่อื่น เด็กๆพากันเก็บที่นอนพับผ้าห่มเก่าที่ถูกปะชุนจนหาสีเดิมไม่ได้ เอ๋มีผ้าห่มผืนใหม่ด้วย พี่ใหญ่คงเอามาจากใต้เตียงท่านตาแน่ๆ มิน่าเมื่อคืนนี้พวกเขาอุ่นมากแถมพี่ใหญ่ยังกอดพวกเขาอีกด้วยมือน้อยๆ ช่วยกันพับผ้า จากนั้นก็มาล้างหน้า ซ่งจื่อหรูนำหมั่นโถวสามลูกห่อใบบัววางอุ่นในหม้อแตก หม้ออีกใบถูกใช้ต้มน้ำดื่ม ซ่งจื่อหรูค่อยๆบิมันเทศและหมั่นโถวให้ซ่งจื่อห่าว จากนั้นก็แกะเนื้อปลาให้น้องทั้งสอง เมื่ออิ่มแล้วจึงดับ
ซ่งจื่อหรูใช้เทียนส่องดู เห็นมีตะเกียงอยู่ตรงมุมห้อง จึงเดินไปจุดตะเกียงที่อยู่ตามมุม จากนั้นในห้องก็สว่าง พบว่าภายในห้องใต้ดินนางพบเจอหีบเรียงราย ในนั้นมีเครื่องมือช่างมากมาย มีชั้นหนังสือและมีหนังสือหลายเล่ม ในยุคสมัยนี้เหล็กและหนังสือล้วนแต่มีราคาแพง มีผ้าหลายพัยอยู่ในหีบ แต่ไม่มีอาหารใดๆนอกจากเมล็ดพันธุ์บางชนิดไม่เห็นว่าบ้านนี้จะปลูกอะไรสักต้นแล้วจะมีเมล็ดพันธุ์ไว้ทำไมกัน เฮ้อ!!ซ่งจื่อหรูถอนหายใจ ไม่มีอะไรแลกเป็นเงินได้สักอย่างมีแค่ของเหล่านี้แต่ถึงกระนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ช่างไม้ธรรมดาคนนึงไม่น่าจะมีไว้ครอบครองได้ แต่เหตุใดท่านตาจึงทำตัวเหมือนคนยากจน จากนั้นก็สำรวจต่อค้นเจอสุราเหลืออยู่สองไห ซ่งจื่อหรูหยิบสุรามาหนึ่งไหเพื่อจะใช้เช็ดบริเวณบาดแผลที่ศรีษะ นางใช้ชามที่วางอยู่เอาสุรามาเช็ดทำความสะอาดจากนั้นก็รินสุราลงไปก่อนจะใช้ผ้าค่อยๆจุ่มสุรามาเช็ดแผลบริเวณศรีษะ ซ่งจื่อหรูเช็ดเลือดที่เกอะกรังออก ทำให้ปากแผลเปิดเลือดจึงซึมๆ ออกมา อย่างน้อยก็ฆ่าเชื้อ พรุ่งนี้หาทางขึ้นเขาสักครั้งเผื่อเจอสมุนไพรมารักษาได้บ้างหลังจากจัดการบาดแผลเสร็จก็ดับตะเกียงก่อนจะขึ้นมาจากห้องใต้ดิน ความรู้ส
ซ่งจื่อหรูพยายามค้นหาความทรงจำของร่างเดิมไม่ให้ตกหล่น ในเมื่อนางต้องมาดูแลน้องทำหน้าที่แทนพ่อแม่และคุณปู่แล้วนางจะต้องทำให้ดี ใจจริงนางอยากขึ้นเขามากกว่าแต่ตอนนี้เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว (15.00 - 16.59 น.)จากที่สำรวจตอนที่วิญญาณมาถึงนางเห็นของดีมากมาย แต่ใกล้ค่ำไม่อาจทิ้งน้องไว้ลำพังได้ ไม่รู้ว่าคนบ้านใหญ่รู้ว่านางฟื้นแล้วจะมาหาเรื่องอะไรอีกซ่งจื่อหรูมองรอบบริเวณบ้านรั้วนั่นต้องเร่งทำอย่างน้อยก็ป้องกันคนจากบ้านใหญ่มารังแกเด็กๆ และคนอื่นๆ ที่ไม่หวังดีอีก เถาวัลย์หลายขนาดเลื้อยพันไปมาที่นี่คือแคว้นต้าเหลียง หมู่บ้านที่นางอาศัยอยู่คือหมู่บ้านหลี่ซาน หมู่บ้านข้างๆ คือหมู่บ้านไป๋ซานและหมู่บ้านเถาซานตั้งอยู่ในตำบลซานสุยเมืองเสียนหยาง เมื่อสี่ปีก่อนท่านพ่อบาดเจ็บจากการล่าสัตว์ แม่เฒ่าหลี่ไม่อยากจ่ายค่ารักษาจึงถูกบังคับให้ต้องแยกบ้านและไม่ให้อะไรเลย แต่เพราะเกรงกลัวอำนาจของหลี่ฝูเหยาหลี่เจิ้งของหมู่บ้านอีกทั้งยังเป็นพี่สามีคนโตของนางเขาข่มขู่นางว่าจะส่งจดหมายหาหลี่ไหลฝูน้องชายให้หย่ากับนางซะหากนางไม่ยินยอม แม่เฒ่าหลี่จึงยอมให้หลี่ต้าซานได้กระท่อมหลัเก่าของบ้านหลี่ไปแต่หลังจากนั้นไม่นานเพ
หลี่ถิงถิงเมื่อมาถึงที่นาก็ตะโกนเรียกบิดากับมารดาทันที"ท่านแม่ ท่านพ่อ""ถิงถิง ตัดหญ้าเสร็จแล้วหรือ ลูกมาทำอะไรที่นี่ รีบกลับบ้านเถอะเดี๋ยวจะถูกท่านย่าตำหนิได้อีก"หวงซื่อเอ่ยตอบบุตรสาวหลี่ถิงถิงมองบน"ใครสนใจนางกัน ต่อให้รีบกลับไปก็ถูกด่าอยู่ดี คนในบ้านนอกจากท่านกับท่านแม่ยังมีใครทำงานบ้าน นั่งๆ นอนๆ จนข้านึกว่าพวกเขาแขนขาพิการเสียอีก อย่าพูดถึงเลยเจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านดูสิเจ้าคะข้ามีอะไรมาฝากพวกท่านด้วย"หลี่ถิงถิงค่อยๆ เอามันเทศที่ห่อใบบัวมาให้หลี่ต้าจูและนางหวง ทั้งสองมองหน้ากันงงๆ ว่าบุตรสาวนำสิ่งใดมาให้"นี่คือมันเทศเจ้าค่ะ อร่อยมากพวกท่านลองกินสิเจ้าคะ มีฝักบัวด้วยเจ้าค่ะ""ถิงถิง..อะไรคือมันเทศนี่มันคือสิ่งใดกัน"หวงซื่อสงสัยสิ่งที่บุตรสาวนำมา"มันคือสิ่งที่เติบโตใต้ดินเจ้าค่ะ มีฝักบัวด้วยนะเจ้าคะหวานอร่อยมากเจ้าค่ะท่านแม่""อาซู่..สิ่งที่ลูกนำมาล้วนเพราะกตัญญูจะถามให้มากความทำไมกัน"หลี่ต้าจูเอ็นดูบุตรสาวจึงบอกแก่ภรรยาว่าอย่าไปคาดคั้นนาง"ท่านพ่อท่านแม่ นี้เป็นสิ่งที่พี่สี่หาเจอ และก็รู้ว่ามันกินได้เจ้าค่ะ อย่าบอกใครนะเจ้าคะ โดยเฉพาะท่านย่า""วางใจเถอะแม่กับพ่อรู้ดี ทุกวันนี้ก็ได
ซ่งจื่อหรูเดินไปเด็ดใบบัว เห็นฝักบัวมากมาย จากความทรงจำเด็กคนนี้ไม่เคยกิน ไม่รู้ว่าคนที่นี่รู้หรือไม่ว่ามันกินได้ บึงบัวที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ นับว่าอาหารอุดมสมบูรณ์ยายแก่นั่นยึดจานชามยังไม่พอ แต่ยังทุบทำลาย จะไปทวงคืนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ เพราะร่างกายนี้ยังอ่อนแอแต่ก็จดใส่บัญชีหนังหมาเรียบร้อยแล้ว ซ่งจื่อหรูจึงใช้ใบบัวชั่วคราว รอให้จัดการรั้วและประตูบ้านก่อน ค่อยเอาของที่ท่านตาเก็บไว้มาใช้สอย ซ่งจื่อหรูหอบใบบัวกับฝักบัวหอบใหญ่กลับมา"เด็กๆ ดูสิพี่ได้อะไรมา เห็นไหมฝักบัวแก่กำลังกินเลย"ซ่งจื่อหรูเอ่ยปาก"สิ่งนี้กินได้หรือเจ้าคะพี่ใหญ่ ข้าไม่เคยเห็นใครกินมาก่อน" ซ่งจื่อเย่วเห็นสิ่งที่พี่สาวนำมาก็สงสัย ซ่งจื่อห่าวเองก็อดถามไม่ได้เช่นกัน"อร่อยไหมขอรับพี่ใหญ่""กินได้สิ อร่อยมากด้วยเดี๋ยวพี่แกะให้นะ"ซ่งจื่อหรูตอบน้องๆก่อนจะนั่งลงวางฝักบัวข้างๆ และใช้ไม้ค่อยๆ เขี่ยมันเทศออกจากกองถ่านที่เป็นขี้เถ้าจนหมดแล้ว ปัดเศษขี้เถ้าออกและนำวางบนใบบัว"จื่อเย่ว..พี่สี่ฟื้นหรือยัง"เสียงเรียกจากประตูรั้วดังมา ซ่งจื่อหรูหันไปตามเสียงก็เห็นเด็กสาวคนนึงอายุประมาณ9ขวบ ใส่เสื้อผ้าทีมีรอยปะชุนเต็มไปหมด รองเท้าฟางที