เนื่องจากชาวบ้านหลายคนจึงเลื่อยต้นไผ่ได้รวดเร็วแต่ก็ไม่เร็วเท่าซ่งจื่อหรู แค่พริบตานางก็เลื่อยต้นไผ่ไปเกือบร้อยต้น พ่อลูกสกุลฮั่วและชาวบ้านต่างอ้าปากค้าง มีเพียงเด็กบ้านหลี่กับซ่งจื่อเย่วที่ไม่รู้สึกแปลกแถมหัวเราะกับท่าทางของพวกเขา
"พี่ใหญ่กับพี่รองมีพรสวรรค์ด้านกำลัง เรื่องออกแรงล้วนไม่มีใครเทียบพวกนางได้หากไม่ใช่เพราะปกป้องข้ากับพี่รอง พี่ใหญ่ของข้าคงไม่ถูกปีศาจเฒ่าทุบตีหรอกขอรับ"
ซ่งจื่อห่าวพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ปีศาจเฒ่าที่ซ่งจื่อห่าวพูดน่าจะหมายถึงแม่เฒ่าหลี่ เด็กคนนี้ปกติคนนึกว่าใบ้แต่เวลาพูดทำเอาคนไปไม่ถูกเชียวเด็กๆสกุลซ่งนี่ช่างประหลาดแท้ เหตุใดประหลาดนะหรือแม่หนูซ่งจื่อเย่วนั่น ใช้เพียงมือเดียวก็สามารลากไผ่ทั้งต้นมาวางเรียงราย
" ข้าว่าไม่ต้องห่วงสามพี่น้องนี่จะดีกว่า ควรห่วงคนที่จะมาหาเรื่องพวกนางเถอะฮ่า ฮ่า ฮ่า"
"ยังไงก็ยังเด็ก เล่ห์เหลี่ยมของผู้ใหญ่นั้นมากมายนัก "
ครั้นยามที่หลี่ต้าซานยังอยู่ เขาเป็นคนอัธยาศัยดีมีน้ำใจไม่ว่าผู้ใดไหว้วานก็มักไม่ปฏิเสธ สะใภ้ซ่งก็อ่อนโยนสั่งสอนบุตรสาวได้ดีเด็กทั้งสามวางตัวดี ผู้คนในหมู่บ้านจึงรักและเอ็นดู
ปลายยามเซินก็ตัดต้นไผ่ได้เกือบสามร้อยต้น ไผ่หนึ่งต้นเลื่อยได้3ท่อนๆละ2จั้งดูเหมือนจะได้600ท่อน อีกทั้งไผ่ต้นยาวสำหรับวางแนวนอนอีกเกือบห้าสิบท่อน
"นี่คงเพียงพอแล้ว พรุ่งนี้คงเหลือแต่รอรื้อรั้วเก่ากับขุดหลุมสำหรับปักเสา สำหรับนำท่อนนำไผ่ลงปักเอาล่ะพวกเราต้องไปแล้ว"
ถึงเวลาหุงหาแล้ว ชาวบ้านจึงกลับไปฮั่วหย่งเองก็กำลังจะไปเขาหันมาหาซ่งจื่อหรูก่อนจะเอ่ยขึ้น
ฮั่วเฟยหย่ง"แม่หนู เหตุใดข้าจึงคุ้นหน้าเจ้านัก ได้ยินว่าตาเจ้าเป็นช่างไม้ ท่านตาเจ้าเป็นคนหมู่บ้านหลี่เช่นนั่นรึ"
ซ่งจื่อหรู"ท่าตาข้าอพยพมาจากชายแดนเป่ยเหลียงเจ้าค่ะ ยามนั้นมีสงครามและโรคระบาดจึงหนีมา ครอบครัวพัดพรากเหลือตัวคนเดียว ได้เจอกับท่านยายที่ค่ายผู้ลี้ภััยเมืองเสียนหยาง ต่อมาทางการได้ให้จับจองที่ดิน จึงมาตั้งรกรากอยู่ตำบลซานสุ่ยหมู่บ้านหลี่ซานแห่งนี้เจ้าค่ะ บางทีหน้าตาข้าอาจดูโหลก็เป็นได้"
ฮั่วเฟยหย่ง"หน้าตาดูโหล มันคือสิ่งใดเหตุใดคำพูดเจ้าช่างฟังดูประหลาด"
ซ่งจื่อหรู"เอ่อ..หมายถึงว่าหน้าตาธรรมดาๆพบเห็นทั่วไปน่ะเจ้าค่ะ"
ฮั่วเฟยหย่ว"อืม...ข้ามีสหายคนนึงเจ้าดูคล้ายคลึงกับเจ้า น้องสามเจ้าแทบจะถอดแบบภรรยาของเขามาเชียวฃ้ายังคิดว่าเป็นญาติกันเสียอีก ขออภัยเจ้าด้วยที่ถามวุ่นวาย"
ซ่งจื่อหรู"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านอาฮั่ว ความรู้สึกอยากตามหาคนที่เราคุ้นเคยข้าเข้าใจ ท่านตาเองก็ต้องการตามหาครอบครัวมาตลอด จนกระทั่งหญ้าบนหลุมสูงเท่าตัวคนก็ยังไม่อาจสมหวัง"
ฮั่วหย่งได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยถึงหลี่ซิ่วไฉ
ฮั่วเฟยหย่ง"หลี่ซิ่วไฉนับว่าไม่เลว เป็นบัณฑิตที่ดีน่าเสียดายโอกาส หากได้เรียนรู้กับเขาบ้างก็นับว่าดี"
จากนั้นจึงบอกลาเด็กๆ ฮั่วเฟยหรงยิ้มให้นาง ซ่งจื่อหรูตาพร่ามัว ให้ตายอย่ายิ้มให้ข้าได้ไหมพี่ชาย ท่านกำลังจะฆ่าคนด้วยรอยยิ้มเชียวนะ ในขณะที่สาวน้อยหลี่ถิงถิงหน้าย่นกำลังทำปากไม่พอใจ
ซ่งจื่อเย่ว"พี่ห้าเป็นอะไรหรือเจ้าคะ"
หลี่ถองถิง"จื่อเย่ว มันเทศนั่นเป็นสิ่งเดียวที่บ้านเจ้ามีตอนนี้คนอื่นรู้แล้วว่ากินได้ อีกหน่อยพวกเจ้าจะกินอะไร"
หลี่หาน"น้องห้า พวกเขามาช่วยน้องสี่ตัดไม้น้องสี่ตอบแทนก็เป็นเรื่องของน้ำใจ ตอนนี้ขอแค่มีอาหารทุกคนล้วนแต่จะขอบคุณ"
หลี่ถิงถิง"ข้าแค่ห่วงพี่สี่กับน้องอีกสองคนเท่านั้น"
ซ่งจื่อหรู"อย่ากังวลเลย พี่มีวิธีหาอาหารอีกหลายอย่าง"
ทั้งสองคนบอกลาซ่งจื่อหรู หลี่ถิงถิงแอบเอาข้าวอบห่อใบบัวแล้วซุกไว้ในตระกร้าก่อนจะเอาเถาใบมันเทศปิดทับ เพื่อเอาไปให้ท่านแม่ที่กำลังตั้งครรภ์
พรุ่งนี้ต้องทำรั้วบ้าน ไม่รู้ว่ามีคนมาเท่าไหร่กันแน่ ไม่สามารถทำอาหารเลี้ยงผู้คนได้ พระอาทิตย์เริ่มลับเหลี่ยมเขา ความมืดเริ่มเข้ามาแทนแสงสว่าง วันนี้เป็นวันที่สองแล้วที่นางอยู่ที่นี่ ฝนเริ่มตั้งเค้าซ่งจื่อหรูคว้ามีดไปยังรั้วที่โย้เย้ จัดการตัดเถาวัลย์มาหลายเส้น จากนั้นก็นำไม้ไผ่มาหั่นท่อนประมาณเกือบหนึ่งจั้ง ผ่าเป็นซีกๆ ใช้เถาวัลย์มัดเข้ากันทีละซีกจนได้เป็นแผ่นขนาดประตูหนึ่งฐาน จากนั้นก็ผูกติดกับโครงประตูเดิม ตอนนี้ประตูบ้านชั่วคราวก็ทำเสร็จแล้ว กลับมาจุดไฟในหลุมโชคดีเก็บลูกสนแห้งมาได้จำนวนหนึ่ง พรุ่งนี้ต้องทำรั้ว ไม่สามารถไปเก็บฟืนได้ เด็กทั้งสองบ้วนปาก ล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว จึงเข้านอน ซ่งจื่อหรูนั่งทุบลูกเกาลัด แยกเปลือกออกมาจากหนาม ประมาณแล้วได้เกาลัดเกือบ สามสิบชั่ง เปลือกเก็บไว้ใกล้ปากหลุมอบให้แห้ง ใช้เป็นฟืนได้ชั่วคราว
ซ่งจื่อหรู"มีเสื้อผ้าแค่สองชุด ฝนตกซักไม่ได้ จะหยิบผ้าที่มีออกมาใช้ก็ไม่อาจหาที่มาของเงินที่ซื้อผ้าได้ จะขึ้นเขาคงฝากทั้งคู่กับอาสะใภ้ฮั่วบ่อยๆไม่ได้ ล้อมรั้วเรียบร้อย คงต้องวางค่ายกลสักที ต่อให้คนมากหากอยากเข้ามาก็ต้องดูว่าเจ้าบินได้ไหม คงมีแต่ทำเช่นนี้แหละ "
นั่งทุบเกาลัดอยู่นานหนามแหลมทิ่มตำจนมือและข้อมือมีเลือดซึม มือแทบจะพรุนเพราะไม่มีถุงมือ ซ่งจื่อหรูวางงานตรงหน้าและปีนขึ้นเตียงกำลังจะล้มตัวลงนอนก็รู้สึกเจ็บที่ข้อมือข้างซ้าย จึงใช้มือข้างขวาลูบเบา ก่อนจะรู้สึกเหมือนโลกหมุนได้ มีบางอย่างกำลังดูดนางเข้าไป
"ให้ตายสิ เจ๊เพิ่งจะฟื้นได้สองวัน จะให้ตายรอบสองรึไงนะ"
ขณะที่มึนๆงงๆ ก็ถูกเหวี่ยงมายังสถานที่แห่งหนึ่ง เบื้องหน้ามีไร่กับบ้านหลังเล็กๆ นี่มันไร่ของคุณปู่ แต่เหมือนจะย่อส่วนลงเหลือเพียงประมาณ สามไร่ มีโรงเรือนกับบ้านหลังน้อยๆ ซ่งจื่อหรูเดินสำรวจ"มีลำธารตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เฮ้อนี่เจ๊ตายกลายเป็นวิญญาณอีกรอบเหรอ Oh my god . ถ้าให้ตายหลายรอบจะให้เกิดใหม่ทำไม นี่เทพชะตา ท่านว่างมากหรือ ข้าไม่ได้เสียใจหรอกก็แค่สงสารแต่เด็กพวกนั้นถ้าตื่นมาแล้วรู้ว่าพี่สาวตัวเองตายไปแล้วจะทำอย่างไร""คิดอะไรมั่วซั่วกัน หลานยังไม่ตายสักหน่อย""คุณปู่ คุณปู่จริงๆด้วย หนูตายแล้วหรือว่าฝันอยู่กันแน่ คุณปู่ขาหนูคิดถึงคุณปู่มากเลยค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ล่ะคะ พวกท่านอยู่ที่ไหน"ซ่งจื่อหรูกอดซ่งฮั่นเหลียงแน่น"เด็กโง่ หลานยังไม่ตาย ที่นี่คือกำไลที่หลานใส่ติดตัวตลอดเวลา นี่เป็นสิ่งที่ปู่สามารถทำเพื่อหลานได้ จำไว้จงใช้มันอย่างมีสติ""คุณปู่หมายความว่ายังไงคะ หนูไม่เข้าใจ""เดี๋ยวหลานก็รู้เอง เรื่องนี้แม้แต่น้องๆก็เอ่ยไม่ได้ สิ่งที่พวกเขาตามหา มันอยู่กับหลานมาตลอด""ใครตามหาอะไรคะ คุณปู่ขาทำไมหนูไม่เข้าใจสักอย่าง""ปู่ต้องไปแล้ว หลานรักบางอย่างต้องรอให้ถึงเวลาของมัน"ซ่งฮ
ยามเหมาแล้วซ่งจื่อหรูตื่นแต่เช้า แม้ไม่มีอาหารจะเลี้ยงแขกได้แต่เกาลัดคั่วก็คงไม่น่าเกลียดเกินไป ที่จริงนางอยากใช้สิ่งนี้หาเงินแต่หลังจากที่ได้ยินว่าหลานชายของลุงเก้าป่วยเพราะที่บ้านไม่มีอาหารซ่งจื่อหรูจึงไม่คิดหวงสิ่งนี้ อีกอย่างการขายเกาลัดโดยพาน้องไปด้วยคงไม่สะดวกในห้วงกำไลพอมีผลไม้กับไข่ ให้พอประทังไปสักระยะจนกว่าจะขึ้นเขาครั้งต่อไปซ่งจื่อหรูนำหม้อที่เก็บไว้ออกมาใช้และนำเกาลัดมาต้มเป็นโจ๊ก เมื่อคืนนำตระกร้าเก่าที่ไม่ได้ใช้มาซ่อมแซมแล้วแอบวางดักไว้ ฝนตกตอนยามอวิ๋น(03.00-04.59)อาจมีปลาที่ชะตาขาดหลงมาติดก็ได้ ซ่งจื่อหรูยังคงก่อเตาไฟด้วยหินสามก้อน หลังจากต้มเกาลัดจนเป็นโจ๊กเนื้อเนียน ก็ลดไฟลงก่อนจะเปิดประตูบ้านเดินไปยังลำธาร อยากหยิบไข่ในห้วงกำไลออกมาจะขาดใจแต่หาที่มาของไข่ไม่ได้จะเดือดร้อนอีกเมื่อถึงลำธารก็ยกตระกร้าขึ้นเป็นไปตามคาด ปลาติดในตระกร้าเกือบยี่สิบตัว หนักตัวละเกือบห้าชั่ง นำปลามาขอดเกล็ดควักใส้ ล้างจนสะอาด ค่อยไล่เป็นชิ้นไม่บางไม่หนา จากนั้นเดินไปถอนต้นหอมป่าและของตรงข้างรั้วติดฝั่งลำธารที่สำรวจเจอก่อนหน้า ล้างต้นหอมและขิงกลับเข้าบ้านตั้งหม้ออีกใบใส่น้ำ ตามด้วยขิงทุบกับต
ซ่งจื่อหรูบอกท่านปู่เก้าว่านางวางโจ๊กไว้ที่ไหน อย่าลืมให้อาไช่กินและกินทีละน้อย มีไข่4ฟองช่วงนี้นางอาจจะยุ่งนิดหน่อยให้ต้มไข่กับมันเทศกินไปก่อนเมื่อถึงบ้านก็เห็นซ่งจื่อเย่วกับซ่งจื่อห่าวช่วยกันกวาดลานหน้าบ้าน ช่างเป็นเด็กรู้ความจริง"หิวแล้วสิ มากินโจ๊กกันเถอะ วันนี้พี่ต้มโจ๊กเกาลัดด้วย กินมากหน่อยจะได้ตัวสูงๆ""พี่ใหญ่ พี่อาไช่จะตายไหมเจ้าคะ ข้าได้ยินคนพูดว่าพี่อาไช่ป่วยจนจะไม่ไหวแล้ว"ซ่งจื่อเย่วรู้ว่าเขาป่วยหลี่อาไช่เคยเลี้ยงนางกับจื่อห่าวเวลาที่ท่านแม่กับพี่สาวไปรับจ้างซ่งจื่อหรุจึงบอกนาง"พี่อาไช่จะไม่ตายหรอก....เขาเป็นเด็กดีกตัญญูยิ่งนักเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแน่ๆ"แต่ละปีมีเด็กไม่น้อยที่จากไปก่อนวัยอันควรเพราความอดอยากหิวโหย ทารกบางคนถูกโยนทิ้งบนเขามิใช่เพราะบิดามารดาไม่รัก หากแต่สถานการณ์บังคับให้เป็นเช่นนี้ บ้านไหนมีลูกมากก็ขายลูกขายหลานให้กับบ้านขุนนางหรือบ้านเศรษฐีพวกเขาคิดว่าอย่างน้อยก็มีเสื้อผ้าใส่มีข้าวให้กินนี่เป็นความเข้าใจของชาวบ้านว่าลูกไปจะมีชีวิตที่ดีขึ้นแต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นไปเสียทั้งหมด บางคนถูกนายจ้างทารุนอนุบางคนถูกขายต่อ จนราชสำนักต้องออกกฎหมายห้ามซื้อข
ทั้งคู่ยกหม้อที่ใส่เกาลัดคั่วกับมันเทศเผาออกมา ทุกคนที่กำลังนั่งกินได้กลิ่นหอมถึงกับกลืนน้ำลาย" จื่อหรูหลานยกอะไรมาหรือนั่น กลิ่นหอมเสียจริงเชียว" หลี่ฝูเหยาเอ่ยถามเมื่อเห็นนางยกถาดไม้ออกมา"นี่คือเกาลัดคั่วเจ้าค่ะส่วนนี่มันเทศเผา ท่านปู่ใหญ่ท่านอาและท่านลุงทุกท่านลองชิมสิเจ้าคะ""เฮ้ ท่านหลี่เจิ้งเจ้าสิ่งนี้อร่อยยิ่งนักเมื่อวานนางให้ข้าไปสองหัว ข้าทำตามวิธีของนางให้ยายแก่บ้านข้าปอกแล้วหั่นต้มใส่ข้าวเป็นข้าต้มหวานนักเชียวอีกทั้งอิ่มท้องอีกด้วย""จริงอย่างที่พี่หกพูด พวกข้าก็ได้อร่อยจนลูกๆข้ายังอยากกินอีกเลย"ท่านลุงหกและท่านลุงแปดพยักหน้าบอกกล่าวแก่คนที่มาล้อมรั้วทุกคนก็หยิบกินคนละหัว เนื้อมันละเอียดนุ่มหวานหอมเพราะเป็นสิ่งที่ไม่มีสารปรุงแต่ง ธรรมชาติล้วนๆอีกทั้งบริเวณบ้านนางและภูเขาสองลูกเป็นภูเขาไฟมาก่อนจึงอุดมด้วยสารอาหาร ซ่งจื่อหรูทุบเปลือกเกาลัดออกป้อนซ่งจื่อเย่วและซ่งจื่อห่าว"พี่ใหญ่อร่อยมากเจ้าค่ะ จื่อห่าวอร่อยไหม""กินดีๆระวังติดคอค่อยๆไม่ต้องรีบในบ้านยังมีอีกพี่หรงท่านลองกินดูสักหน่อยเถอะข้าบอกแล้วว่าอร่อย"จื่อห่าวพยักหน้าให้พี่รอง ซ่งจื่อหรูแกะเกาลัดส่งให้ฮั่วเฟยหรง เขามอ
กลางป่าลึก ชายฉกรรจ์กลุ่มนึงกำลังฝึกกันอย่างขะมักเขม้น ฮั่วเฟยหย่งนั่งยู่บนก้อนหิน มองดูการฝึกด้านล่าง"ท่านอ๋อง..ซื่อจื่อเหมือนจะเปลี่ยนไปพะยะค่ะ เวลาที่มองแม่นางซ่งดูเหมือนสายตาจะอ่อนโยนกว่าปกติ" จิงอี้กล่าวแก่ฮั่วเฟยหย่ง"ที่จิงอี้กล่าวมานั้นเป็นความจริงพะย่ะค่ะ กระหม่อมก็เห็นเช่นนั้นวันนี้ยังไปช่วยนางทำรั้ว ตอนเย็นเด็กคนนั้นยังให้ปลามาสามตัวบอกให้ซื่อจื่อทำน้ำแกงให้พระชายาเสวย อีกทั้งให้ต้มมันเทศใส่ขิงให้พระชายาเสวยด้วย นางกล่าวว่าพระชายา ถูกความเย็นตอนที่คลอดท่านหญิงควรทำให้ร่างกายอบอุ่นพะย่ะค่ะ""เจ้าหมายความว่านางมีความรู้เรื่องการแพทย์ เช่นนั้นรึ""กระหม่อมเองก็ไม่แน่ใจพะย่ะค่ะ"จิงเสวียนไม่กล้าบอกว่ามีหรือไม่แต่อาการพระชายาก็ดีขึ้น"อืม..จิงเสียนเจ้าสืบได้อะไรมาบ้าง""ที่เด็กซ่งจื่อหรูคนนั้นพูดเป็นความจริงพะย่ะค่ะ ผู้เฒ่าซ่งหนีสงครามมา แต่งงานกับสตรีแซ่เหวินที่เจอกันที่ค่ายผู้ลี้ภัย จากนั้นมีบุตรสาวหนึ่งคน ต่อมาบุตรสาวแต่งงานกับลูกชายคนที่สามสกุลหลี่ เรื่องหลังจากนั้นก็ตามที่ท่านอ๋องทรงทราบ""คุณชายเฟิ่งก่อนที่ตระกูลถูกกวาดล้าง ดูเหมือนจะแต่งงานกับคุณหนูสายรองสกุลหลิวมีบุตรชาย
ซ่งจื่อหรูตรงไปยังโรงเรือน ทันทีที่เห็นก็ใช้มือลูบหน้าอกตัวเองอย่าโล่งใจ พริกที่เพิ่งเก็บเมื่อต้นปีมัดแขวนเรียงราย ข้าวโพด ถั่วเหลืองและถั่วลิสงก็อยู่ในกระสอบ มีข้าวเปลือกอยู่เกือบยี่สิบกระสอบนอกนั้นเป็นไหดินเผาหลายขนาดเรียงรายมีแค่นี้แหละมีแค่นี้จริงๆเฮ้อ"ไปดูไก่กับลูกหมูสักหน่อยดีกว่า"เดือนมาถึงโรงเลี้ยง ก็ได้ยินเสียงลูกหมูน้องอี๊ดๆๆๆ นับแล้วมีประมาณ60ตัว สั่งลุงหวังคนดูแลว่าให้รับซื้อมาแค่20ตัวไหงซื้อมาขนาดนี้จะเลี้ยงไงก่อน ดีที่ตอนนั้นขุดบ่อน้ำใกล้โรงเลี้ยงไม่งั้นกว่าจะตักน้ำจากลำธารมาคงเหนื่อยตายพอดี ที่นี่ไม่มีใครเข้ามาได้ซ่งจื่อหรูถอดเสื้อตัวนอกออก ใช้จอบค่อยๆขุดร่องให้มูลของหมูไหลตามร่อง ไปรวมที่เดียวกัน จากนั้นก็ล้างพื้นกรงใช้เวลาชั่วโมงกว่าก็เรียบร้อยถัดมาก็ทำความสะอาดโรงเลี้ยงไก่ ลูกไก่ฟักครบแล้วกำลังส่งเสียงเจี๊ยบๆๆๆลั่นระงม ซ่งจื่อหรูกวาดเศษหญ้าฟางที่มีมูลไก่เต็มไปหมดจากนั้นก็กองรวมกัน ก่อนจะขนไปยังลานกว้างตากไว้ทำปุ๋ย ปูหญ้าฟางใหม่ลงไปยังดีที่ก่อนจะฟักลูกไก่และลงลูกหมูในฟาร์ม ได้เตรียมอาหารสัตว์ไว้เพียงพอแล้วทำทุกอย่างเรียบร้อยก็ให้อาหารพวกมันแม้ว่าจะสว่างจ้าแต่ในนี้
"ท่านอ๋อง ลูกเราโตแล้วพระองค์เองก็อย่าทรงชักสีหน้าใส่เด็กคนนั้นเลยเพคะ หม่อมฉันเองก็แปลกใจเหตุใดจึงรู้สึกผุกพันกับนางนักก็ไม่รู้""เจ้าต้องลมหนาวไม่ได้นางยังเอาเด็กสองคนมาฝากให้ดูแลจนเจ้าต้องออกมานั่งเฝ้าพวกเขาด้านนอกจะไม่ให้โมโหนางบ้างเกรงว่าจะไม่ได้ จริงสิเมื่อคืนไม่ได้ยินเสียงเจ้าไอเลยขอโทษนะหรานเอ๋อร์ข้าละเลยเจ้าจริงๆดูท่าข้าควรรีบสะสางเรื่องราวแล้วพาเจ้ากลับเมืองหลวงสักที""เมื่อคืนไม่มีอาการไอแถมยังรู้สึกอุ่นด้วยเพคะ อาจเพราะหรงเอ๋อร์ทำมันต้มน้ำขิงให้กินเห็นบอกว่าอาหรูบอกมาว่ากินน้ำขิงร่างกายจะอุ่นขึ้น ท่านอ๋องถ้าไม่ได้บิดาของเด็กสามคนนั้นยอมเดินฝ่าหิมะไปตามหมอในตำบล ยอมทิ้งศักดิ์ศรีบุรุษให้หมอตำแยขึ้นหลังมาหม่อมฉันกับลูกหญิงก็อาจไม่รอดแล้ว ต่อไปเจอหน้าพวกนางทรงทำดีสักหน่อยเถอะเพคะอย่าให้ใครว่าได้ว่าพวกเราเป็นถึงเชื้อพระวงศ์แต่ไร้คุณธรรมไม่รู้คุณคน""ได้ๆหรานเอ๋อร์ทุกอย่างล้วนฟังเจ้า นอนพักอีกหน่อยเถอะเซียนเอ๋อร์ยังไม่ตื่นเลยอีกอย่างฟ้าก็ยังไม่สว่าง""ไม่แล้วเพคะเมื่อคืนหลับสบายนัก หม่อมฉันไม่ได้นอนหลับสนิทเช่นนี้มานานแล้วทุกคืนพออากาศเย็นต้องลุกขึ้นมาไอ""ถ้าเช่นนั้น ข้าจะให้คน
เมื่อทั้งคู่มาถึงร้านบะหมี่ ก็นั่งลงเจ้าของร้านเป็นชายชราท่าทางใจดีคนนึงเด็กสาวที่อยู่ข้างๆคงเป็นหลานสาว นางทำงานคล่องแคล่วเพียงพริบตาก็จัดร้านเรียบร้อยซ่งจื่อหรูนั่งลงสั่งบะหมี่ทันที"ท่านตาเอาบะหมี่เนื้อสองชาม ขอไข่ดาวด้วยนะเจ้าคะ""อ้อๆๆ ได้ๆๆๆ อาหลิงเอ๊ยต้อนรับลูกค้าหน่อยเร็วๆเข้า"ชายชรารับคำก่อนจะหันไปสั่งเด็กน้อยที่ช่วยงานอยู่"เจ้าค่ะท่านปู่ พี่ชาย พี่สาวสวัสดีเจ้าค่ะรับน้ำชาแล้วรอบะหมี่สักครู่นะเจ้าคะ"เด็กน้อยเจื้อยแจ้วก่อนจะรินชาใส่ชามสองใบส่งให้ทั้งคู่ คนเริ่มพลุกพล่านร้านค้าเริ่มร้องตะโกนขายของ"บะหมี่มาแล้วเจ้าค่ะทานให้อร่อยนะเจ้าคะ ลูกค้าสามท่านต้องการรับอะไรดีเจ้าคะ"เด็กน้องยกบะหมี่มาวางจากนั้นก็รีบวิ่งไปรับรองอีกโต๊ะ บนใบหน้ามีแต่รอยยิ้มหญิงชราคนนึงกำลังล้างผักอยู่ใกล้ๆคงจะเป็นย่าของเด็กน้อย ซ่งจื่อหรูหันหลังไปมองตามเด็กน้อยไป ทันใดก็เห็นสตรีคนที่ใส่หมวกคลุมผ้าเลิกผ้าขึ้นพร้อมกับยกน้ำชาขึ้นดื่มซ่งจื่อหรูตัวชา ไม่ใช่แค่เหมือนแน่ๆแต่ว่าเป็นคนๆเดียวกันชัดเจน นางไม่มีคู่แฝดเป็นลูกคนเดียว ซ่งจื่อหรูอยู่ในภวังค์จนไม่ได้ยินเสียงหลี่เหิงเรียก"น้องสี่ น้องสี่ น้องสี่ เจ้าเป็น
เมืองกว่าผิงจุดประทัดฉลองที่พระชายาคลอดบุตรจัดงานเลี้ยงถึงสามวันสามคืนกินดื่มไม่อั้น จากเมืองที่ไม่มีใครใส่ใจตอนนี้เพราะพระชายากมาเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในแคว้น ซ่งจื่อหรูออกเดือนมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วนางอยู่้ดือนถึงสองเดือนครึ่งเชียวตอนนี้กำลังให้นมคู่แฝดอยู่ ในห้องนางมีมิติที่สามารถทำให้น้ำนมตนเองพอเลี้ยงลูกโดยไม่ต้องพึ่งพาแม่นมจินเสี่ยวฮวาประคองท้องเดินมาหา ท่านอากับท่านลุงนี่วันๆไม่ทำงานทำการหรือเมียท้องลูกคนที่สี่แล้วนะ"พระชายา ตำหนักองค์ชายส่งข่าวมาพระยาหลี่กำลังจะคลอด ท่านจะไปหรือไม่""ข้าอยากไปแต่ว่ากลัวท่านอ๋องดุเอา เลยส่งจื่อเย่วให้ไปแทนแล้ว อาสะใภ้จะคลอดเมื่อใดนี่เจ้าคะ""อีกสี่เดือน ข้าพูดกับเจ้าแบบเปิดอกเลยนะหลานสี่ไม่พิธีรีตรอง เจ้าว่าพวกบุรุษนี่เหตุใดถึงหมกมุ่นกันนัก ข้านี่แทบจะไม่ได้หลับได้นอนสักคืน ขนาดท้องแล้วท่านพี่ยังสรรหาท่าทางอะไรมาก็ไม่รู้""คิกๆๆ อาสะใภ้ธรรมดาผัวเมียแหละเจ้าคะ เดี๋ยวอีกสามเดือนท่านปู่กลับมาแล้วข้าจะจัดงานฉลอง พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สามก็จะมาเช่นกันเจ้าค่ะ"อืมข้าไปล่ะ ไปฟังก่อนว่านางได้บุตรชายหรือบุตรสาว"เจ้าแฝดหลับไปแล้วซ่งจื่อหรูเ
ซ่งจื่อหรูเดินไม่ไหวแล้ว นางใกล้คลอดเต็มที ตอนนี้องค์ชายห้าผู้น่าสงสารกำลังนั่งอยู่มีหลี่ถิงถิงกอดเขาไว้แน่นก่อนหน้านางแพ้ท้องอาการคือเหม็นขี้หน้าเขา แต่พอเขาไม่อยู่ก็ร้องไห้หามาตอนนี้แพ้ท้องอีกแบบต้องเห็นเขาตลอดเวลา นั่งกอดแขนเขาแน่นดมแต่กลิ่นกายเขา หากไม่อยู่ต้องถอดเสื้อตัวที่เคยใส่ทิ้งไว้ให้ไม่งั้นเอาแต่งอแง เฮ้อ ไอ้ลูกคนนี้คลอดมาเมื่อไหร่จะส่งไปให้เสด็จแม่เลี้ยง ขนาดยังไม่คลอดยังทำเขาปวดหัวขนาดนี้เลย"อาหรู ไม่ถึงเดือนก็คลอดแล้ว เราจะได้เห็นหน้าผลงานของข้ากับเจ้าสักที อุตส่าห์อดหลับอดนอน บางวันก็เลยมื้อข้าวมาขยันปั้นพวกเขาเนี่ย""ท่านอ๋อง ตรัสอะไรของพระองค์ ไม่ทรงเห็นหรือเพคะว่ามีคนอื่น"จ้าวเฟยหรงไม่วนใจกระชับอ้อกอดที่ตอนนี้ท้องนางใหญ่มากแล้วแต่เขาก็โอบมันจนได้"เสด็จพี่ข้าคิดว่า จะส่งเจ้าตัวยุ่งนี่ไปให้เสด็จแม่เลี้ยง งอแงเหลือทนตั้งแต่ยังไม่คลอดเลย"จ้าเทียนหยางลูบท้องหลี่ถิงถิงแล้วแสร้งบ่นเจ้าตัวเล็ก ปรากฏว่าเขาถูกถีบเบาๆจนทุกคนหัวเราะตำหนักเหลียนฮวาที่ตอนนี้กำลังวุ่นวาย ซ่งจื่อหรูเจ็บท้องมากว่าหนึ่งชั่วยามแล้วยังไม่คลอด จ้าวเฟยหรงก็จะเข้าไปหาเมียที่นอนร้องท่าเดียว จนเซียวอว
หลี่ถิงถิงครรภ์ใหญ่แล้วนางตั้งครรภ์ได้หกเดือนส่วนซ่งจื่อหรูอีกไม่กี่วันก็คลอดแล้ว ซ่งจื่อหรูกำลังคำนวณค่าแรงคนงานหลี่ซ่งเต๋อนำตั๋วเงินมาให้หลานสาวกำลังกลับบ้าน เห็นจินเสี่ยวฮวาพูดคุยอยู่กับชาวตะวันตกที่มาแลกเปลี่ยนสินค้า โดยมีล่ามที่ซ่งจื่อหรูสอนคอยแปลให้หากว่าไอ้ฝรั่งผมทองไม่เอ่ยชมว่านางสวยเป็นสตรีที่งดงาม และถามว่านางมีคู่ครองหรือยัง คงไม่ทำให้ประมุขหอโกรธจนอุ้มเมียมาลงโทษอยู่จนตอนนี้ยังไม่เลิกหรอก"อร๊ายท่านอา เบาหน่อย ข้าจะไม่ไหวแล้วนะอร๊าย โอ๊ยท่านโกรธอะไรมา ข้าเสียวจะตายแล้วอื้อ" จินเสี่ยวฮวาประท้วง"ไอ้หัวทองผิวเผือกนั่นเกี้ยวเมียข้าไม่โมโหได้หรือ เสี่ยวฮวาจ๋าคนดีตั้งแต่เจ้าคลอดลูกมายิ่งสวยวันสวยคืนดูสิ ตรงนี้ก็อวบอิ่ม ตรงนี้ก็เต็มมือแน่นไปหมดหืม อ่าห์รักเจ้าจริงๆเมียจ๋า"ตอนนี้เขาขึ้นเป็นประมุขหอเหลียนฮวาแทนท่านอารองหลี่ไหลฝูแล้ว หลานสาวเขาสร้างเรือสำราญอะไรสักอย่างให้ล่องไปเรื่อยๆ ท่านอาวางมือจากยุทธภพออกท่องเที่ยวกับท่านพ่อจะกลับในอีกหกเดือน หลี่ไค่ซุนกำลังถูกฝึกให้พร้อมอนาคตหลี่ไค่ซุนนั่งมองสตรีที่กำลังวาดภาพอยู่ตรงหน้า เขาลุกไปหยิบพู่กันออกก่อนจะช้อนนางขึ้นแล้ววางบนเตีย
ตั้งแต่วันที่หลี่ถิงถิงยอมตามใจเขาจากนั้นจ้าวเทียนหยางก็อยู่แต่ในห้องไม่ยอมปล่อยคนรักออกมา จนมีเรื่องให้ต้องไปทำก็อิดออดจนถูกหลี่ถิงถิงต้องดุจริงจัง จะถึงวันแต่งงานแล้วอีกครึ่งเดือนหลี่ถิงถิงอยู่ๆก็เกิดเกลียดขี้หน้าคนตัวโตขึ้นมาดื้อๆ"อย่ามาใกล้หม่อมฉันนะเพคะ หม่อมฉันเหม็นขี้หน้าพระองค์""คนดี ข้าทำอะไรผิดกันถิงถิงคนงามอย่าทำแบบนี้สิ มีอะไรบอกมาเถอะ""ไม่มี ไม่รู้อยู่ๆหม่อมฉันก็ไม่อยากอยู่พระองค์ เหม็นขี้หน้าจะตายอยู่แล้วฮือๆๆๆ องค์ชายหม่อมฉันรักองค์ชายนะเพคะแต่อย่ามาใกล้ได้ไหมฮือๆๆ"จ้าวเทียนหยางอ่อนใจ เมียอยู่ๆก็เกลียดขี้หน้าเขาไม่มีสาเหตุวันนี้ทุกคนมากินข้าวร่วมกันที่ตำหนักเหลียนฮวา อาหารมากมายถูกยกขึ้นโต๊ะแต่ซ่งจื่อหรูกับหลี่ถิงถิงเกิดไม่อยากกิน พอเห็นหน้าจ้าวเทียนหยางยิ่งเกิดอยากอาเจียนจนต้องอุ้มกลับห้อง"น้องห้าเป็นอะไรไป อาจารย์รบกวนท่านตรวจนางสักหน่อยเถอะ "ซ่งจื่อหรูให้ไห่มิ่งหยวนไปดูหลี่ถิงถิงที่ตอนนี้เอาแต่ร้องไห้ นางบอกรักจ้าวเทียนหยางแต่ไม่อยากเจอหน้าเขาตกลงนี่มันอะไร เสียงร้องไห้หาคนรักสักพักก็อาเจียนไล่เขาออกมากซ่งจื่อหรูจะลุกไปดูน้องสาวก็หน้ามืดจนจ้าวเฟยหรงต้องมาประค
หลี่อาไช่พาจ้าวเฟยเซียนหัดขี่ม้า ไม่นานนางก็เริ่มขี่คล่องขึ้น พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้วแสงสีแดงงดงามกระทบใบหน้านวล หลี่อาไช่กระชบอ้อมแขนคนตรงหน้า ค่อยๆควบม้าๆช้าๆพาคนรักเขากลับบ้าน"เซียนเซียน ขอพี่หอมสักทีได้ไหม เจ้าน่ารักจนพี่อดใจไม่ไหวนะ""แค่ครั้งเดียวนะ เดี๋ยวเสด็จพ่อกับเสด็จพี่รู้เข้าเอาท่านตายแน่"หลี่อาไช่ก้อมลงหอมแก้มนางจากนั้นก็กดคางลงบนศรีษะจ้าวเฟยเซียนพามาส่งที่ตำหลักก่อนเข้าประตูยังแอบหอมนางอีกสองครั้ง อุ้มนางลงจากหลังม้าแต่ไม่ยอมให้เท้าถึงพื้น เขาอุ้มพาจ้าวเฟยเซียนมาส่งถึงตำหนักใน จ้าวเฟยหรงคิ้วกระตุก ไอ้เด็กนี่มันเกินไปไหมน้องสาวข้าสิบสองเองนะ"หม่อมฉันทูลลานะพะย่ะค่ะ พอดียังไม่ได้ไปคาราวะท่านแม่เลย พี่สี่ข้าไปก่อนนะขอรับ"หลี่อาไช่ไปแล้วแต่มีคนหน้าตึงอยู่ตรงนี้จนซ่งจื่อหรูหัวเราะเขา"คิกๆ ท่านอ๋องทีนี้เขาใจหัวอกท่านปู่กับท่านอาหม่อมฉันหรือยังเพคะ ทรงหวงน้องสาวเป็นด้วยหรือ อื้อ"จ้าวเฟยหรงไม่ปล่อยให้เมียสาวล้อเลียน เขาช้อนอุ้มพานางเข้าห้องลงโทษที่หัวเราะเยาะ"อื้อ ท่านอ๋องหม่อมฉันไม่ไหวแล้ว อร๊าย นับวันยิ่งโลดโผนนะเพคะ อึ๊ยสะ เสียว ท่านอ๋อง""บอกแล้วไงจะสอนให้ ตั้งใจเรียนนะเ
อาชาสีดำทะมึนน่าเกรงขามกำลังควบมาทางหน้าหมู่บ้าน ด้านหลังมีอีกสองคนตามมาด้วย เมื่อมาถึงหน้าหมู่บ้านสกุลหลี่ก็ลงจากม้า ทหารคนสนิทรับสายจูงไป เด็กน้อยวัยสองขวบเดินเตาะแตะๆมาหากางแขนให้อุ้ม"เสี่ยวเว่ยเด็กดี ตัวสูงขึ้นแล้วมาให้พี่อุ้มหน่อย" อู๋กังเดินตามบุตรชายมาหลี่อาไช่เห็นเขาจึงทักทาย"ท่านพ่อ ท่านแม่อยู่ก็เดือนหรือขอรับ"อู๋กังพยักหน้า เขาแต่งงานกับไป๋ลู่มีบุตรชายหนึ่งคนและเพิ่งจะได้บุตรสาวอีกหนึ่งคน หลี่อาไช่ตอนนี้อายุสิบหกแล้วฝีมือเก่งกาจจนได้เป็นแม่ทัพตะวันออกควบคุมเจ็ดมณฑล"อาไช่ คนสกุลหวังเหล่านั้นฝีมืลูกหรือเปล่า หากจบได้ก็จบเถอะมารดาเจ้านางอยู่สงบสุขแล้ว"อู๋กังรักเขาเสมือนบุตรตนเอง ไม่อยากให้เขาเคียดแค้นเรื่องในอดีต จนทำลายอนาคต หลี่อาไช่ถอนหายใจ"เดิมทีก็ไม่อยากจะยุ่ง แต่ใครจะรู้ว่าสองผัวเมียนั้นเคยขายท่านแม่ของข้าไม่พอ ยังคิดจะขายน้องสาวคนเล็ก อาเล็กนางอายุเท่ากับข้า ท่านปู่ท่านย่าจากไปลุงใหญ่เปรียบเหมือนบิดา จัดการทุกอย่างให้แต่งงานไปก็ยังดีแต่นี่จะให้ไปเป็นอนุเศรษฐี ข้าไม่สั่งสอนคงไม่ได้ขอรับท่านพ่อ""แล้วทำเช่นไร อย่าให้มารดาเจ้ารู้เล่า""ข้าส่งบ้านใหญ่ไปชายแดนเนรเทศทั้ง
ซ่งจื่อหรูไม่มีความลับกับจ้าวเฟยหรงอีกต่อไป นางพาเขาเข้ามาในมิติครั้งแรกนางลองดูหลังจากที่รู้ว่าเข้ามาได้ที่นี่ก็เป็นสวรรค์ของคนสองคนไม่มีความวุ่นวายมีเพียงสายลมแสงแดดอ่อนๆ สวนดอกไม้หลากสีสัน ในลำธารร่างเปลือยของซ่งจื่อหรูกำลังแหวกว่าย จ้าวเฟยหรงนั่งมองอย่างหลงไหล ก่อนจะเดินลงน้ำไปหาคนรัก จ้าวเฟยหรงจูมนางดูดดื่ม รั้งแผ่นหลังนางเข้าหาให้ทรวงอกลอยเด่นจากนั้นก็ก้มลงดูดเม้นจนซ่งจื่อหรูครางออกมาก่อนจะช้อนร่างงามเดินขึ้นฝั่งพาเข้าไปในบ้านวางลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม ซ่งจื่อหรูยังสงสัยจากเตียงโบราณอันเดิมอยู่ๆ กลายเป็นเตียงติดสปิงได้ไง เพิ่งเข้าใจก็วันนี้แหละเฮ้อ ริมฝีปากครอบครองทรวงอกอวบอิ่มราวกับเด็กน้อยดื่มน้ำนมจากอกมารดา ซ่งจื่อหรูเต็มสิบแปดมาครึ่งกว่าปีแล้ว จ้าวเฟยหรงอยากรักนางเต็มทีผ่านช่วงอันตรายมาแล้ว เขาแข็งขึงจะระเบิดอยู่แล้ว ปากน้อยๆกับมือน้อยๆนั้นดับอารมณ์เขาไม่อิ่ม"ท่านอ๋อง เบาๆสิเพคะอดอยากหรืออย่างไรไม่ใช่ว่าให้ท่านทุกคืนหรือ""เมียจ๋า เข้าหอกันนะข้าทนไม่ไหวแล้ว นับวันเจ้ายิ่งงามนักคนดี นี่เลยเวลามาแล้วรู้ไหมฉู่ซีฮวนเด็กคนนั้นลูกชายเพิ่งได้สามเดือนหลี่ซินซินก็ตั้งครรภ์คนที่สองแ
จ้าวเฟยหรงอุ้มพระชายาคนงามกลับไปแล้วไห่เมิ่งหยวนบอกว่าถูกแทงเกือบเข้าจุดสำคัญห่างไปเพียงครึ่งชุ่น หากร่วมหอแล้วตั้งครรภ์อาจเป็นอันตรายทั้งแม่และลูก รออีกสักหนึ่งปีให้นางหายดีกว่านี้ก่อน หนิงอ๋องจึงทำได้แค่เพียงนอนกอดคนรักและหาเศษหาเรอแค่นั้น ซ่งจื่อหรูสงสารเขาแต่ต้องใจแข็งนางอยากให้ร่างกายสมบูรณ์ นางต้องการตั้งครรภ์คลอดบุตรให้เขาเท่าที่เขาอยากมี"เอ่อ ซินซินไปเดินเล่นเป็นเพื่อนข้าหน่อยสิ เจ้าว่างหรือไม่"ฉู่ซีฮวนเอ่ยถามสาวน้อยตรงหน้า เขาบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่นี่มาสามเดือนกว่าแล้ว สาวน้อยคนนี้คือคนที่คอยดูแลเขา นางมีดวงตากลมโต ใบหน้าหวานปากจิ้มลิ้มรับกับจมูกที่รั้นนิดๆ บางครั้งเอาแต่ใจแง่งอนกับท่านปู่ของนาง มิน่าคนราชวงศ์ต้าเหลียงถึงมารวมกันอยู่ที่นี่ หมู่บ้านนี้ล้วนแซ่หลี่มองไปทางไหนหาคนขี้เหร่ไม่เจอจริงๆ รวมถึงแม่สาวน้อยตรงหน้าคนนี้ด้วย"พี่ซีฮวนจะไปไหนหรือเจ้าคะ ข้าว่างพอดีท่านหายแล้วควรออกมาเดินบ้างก็ดี"หลี่ซินซินมองหน้าเขา ยังมีองครักษ์ยืนอยู่ฉู่ซีฮวนจึงจุงมืนางพาออกมา"เจ้ากลัวไหม บนเขาชิงลั่วมีดงดอกไม้อยู่ข้าอยากไปนั่งเล่นที่นั่น"ฉู่ซีฮวนเอ่ยขึ้น หลี่ซินซินส่ายหน้าเขาจึงโอบเอว
ยามอวิ๋นเปลือกตาของซ่งจื่อหรูค่อยๆขยับ ขนตาที่งามงอนคู่นั้นกระพริบช้าๆ ซ่งจื่อหรูลืมตาขึ้นก็เห็นว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงในตำหนักเหลียนฮวา รู้สึกถึงอะไรบางอย่างพาดอยู่ที่หน้าท้อง นาวหันไปดูก็เห็นเป็นจ้าเฟยหรงนอนกอดนางอยู่เขาและนางสวมชุดแต่งงานซ่งจื่อหรูพยายามนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา นางจำไว้ว่าอวิ่นเย่วและอวิ่นห่าวพานางมาส่ง วันนี้เป็นวันแต่งงานของนางและเขา เพียงเพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้แม้ต้องแต่งกับร่างไร้วิญญาณเขาก็ไม่หวั่น ซ่งจื่อหรูพลิกตัวเข้าหาอกกว้างก่อนใช้มือค่อยไปลูบไล้ใบหน้างามนั้น"ท่านพี่ ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน ท่านพี่ของข้าฮือๆๆ"จ้าวเฟยหรงรู้สึกตัวลืมตา คนตรงหน้าฟื้นแล้วนางกำลังร้องไห้แขนเรียวกอดเอวหนาของเขาเอาไว้แน่น นางบอกรักเขานางคิดถึงเขา"น้องหญิง เจ้ากลับมาแล้วเด็กดีของข้า ในที่สุดเจ้าก็กลับมาสักที"จ้าวเฟยหรงร้องไห้นับจากวันที่นางหลับไหลไม่มีวันใดที่น้ำตาลูกผู้ชายของเขาไม่หลั่งริน แต่วันนี้เขาร้องไห้เพราะในที่สุดนางก็กลับมาสักที จ้าวเฟยหรงกดร่างนุ่มนิ่มเอาไว้จุมพิตนางดูดดื่ม จนคนตัวเล็กต้องประท้วง"อื้อๆๆๆท่านพี่ข้าหายใจไม่ออกท่านกอดแน่นเกินไปแล้ว ""ทูลหัว คนดีของข้า ข