เมื่อทั้งคู่มาถึงร้านบะหมี่ ก็นั่งลงเจ้าของร้านเป็นชายชราท่าทางใจดีคนนึงเด็กสาวที่อยู่ข้างๆคงเป็นหลานสาว นางทำงานคล่องแคล่วเพียงพริบตาก็จัดร้านเรียบร้อยซ่งจื่อหรูนั่งลงสั่งบะหมี่ทันที
"ท่านตาเอาบะหมี่เนื้อสองชาม ขอไข่ดาวด้วยนะเจ้าคะ"
"อ้อๆๆ ได้ๆๆๆ อาหลิงเอ๊ยต้อนรับลูกค้าหน่อยเร็วๆเข้า"ชายชรารับคำก่อนจะหันไปสั่งเด็กน้อยที่ช่วยงานอยู่
"เจ้าค่ะท่านปู่ พี่ชาย พี่สาวสวัสดีเจ้าค่ะรับน้ำชาแล้วรอบะหมี่สักครู่นะเจ้าคะ"
เด็กน้อยเจื้อยแจ้วก่อนจะรินชาใส่ชามสองใบส่งให้ทั้งคู่ คนเริ่มพลุกพล่านร้านค้าเริ่มร้องตะโกนขายของ
"บะหมี่มาแล้วเจ้าค่ะทานให้อร่อยนะเจ้าคะ ลูกค้าสามท่านต้องการรับอะไรดีเจ้าคะ"
เด็กน้องยกบะหมี่มาวางจากนั้นก็รีบวิ่งไปรับรองอีกโต๊ะ บนใบหน้ามีแต่รอยยิ้มหญิงชราคนนึงกำลังล้างผักอยู่ใกล้ๆคงจะเป็นย่าของเด็กน้อย ซ่งจื่อหรูหันหลังไปมองตามเด็กน้อยไป ทันใดก็เห็นสตรีคนที่ใส่หมวกคลุมผ้าเลิกผ้าขึ้นพร้อมกับยกน้ำชาขึ้นดื่มซ่งจื่อหรูตัวชา ไม่ใช่แค่เหมือนแน่ๆแต่ว่าเป็นคนๆเดียวกันชัดเจน นางไม่มีคู่แฝดเป็นลูกคนเดียว ซ่งจื่อหรูอยู่ในภวังค์จนไม่ได้ยินเสียงหลี่เหิงเรียก
"น้องสี่ น้องสี่ น้องสี่ เจ้าเป็นอะไรไป อย่าทำข้าตกใจสิ"หลี่เหิงเรียกนางหลายครั้ง
"พี่ใหญ่ ท่านบอกข้าทีท่านว่าคนที่ตายไปแล้วจะฟื้นคืนชีพมาได้หรือไม่"
"น้องสี่ สำลักบะหมี่จนน้ำแกงขังในหัวเจ้าหรือไง คนตายที่ไหนจะฟื้น"
"แล้วหากบอกคนอื่นว่าตายไปแล้วล่ะ แต่ที่จริงยังไม่ตายล่ะ"
"น้องสี่เจ้าเป็นอะไรไป รีบกินรีบกลับเถอะ หากจื่อเย่วจื่อห่าวตื่นมาไม่เจอจะเสียขวัญ"
ซ่งจื่อหรูพยักหน้า เมื่อทั้งคู่กินบะหมี่เสร็จก็จ่ายเงินบะหมี่เนื้อราคาชามละ7อีแปะใส่ไข่ด้วยเป็น10อีแปะ ซ่งจื่อหรูนับเงินอีแปะจ่ายร้านบะหมี่จากนั้นก็จูงมือหลี่เหิงออกมา ในหัวนางกำลังคิดถึงผู้หญิงอีกคนที่เพิ่งบังเอิญเจอ
"น้องสี่ เจ้ามีเรื่องกังวลใจหรือ วางใจเถอะข้าจะไม่ให้ท่านย่าขายน้องห้ากับพวกเจ้าแน่ๆ"
"พี่ใหญ่เรื่องนั้นข้าไม่ห่วงหรอกข้าย่อมมีทางออกแน่ๆ อีกสองวันพวกเราจะขึ้นเขาไปขุดมันเทศหากบ้านไหนคนเยอะก็จะได้ส่วนแบ่งเยอะ ท่านจะกลับบ้านหรือไม่"
"ข้าอาจลาหยุดได้ ความจริงข้าอยากตามรอยท่านปู่เป็นช่างไม้การสอบขุนนางสำหรับข้าไม่ใช่เส้นทางที่ต้องการ น้องสี่ว่าแต่มันเทศคือสิ่งใด"
"มันเทศคืออาหารน่ะท่านตาข้าทดลองปลูกมานานข้าขึ้นเขาแล้วพบว่าบนเขามีอยู่เกือบสามหมู่ พี่ใหญ่ข้ายอมรับว่าป้าสะใภ้ใหญ่บางครั้งนางน่ารังเกียจแต่บ้านเดิมนางก็ไม่มีตัวตน นางจึงอยากอาศัยท่านฉุดรั้งความน้อยเนื้อต่ำใจเหล่านั้น"
"เป็นช่างไม้ไม่ดีตรงไหนท่านปู่ก็ใช้อาชีพนี้เลี้ยงดูครอบครัวได้ ท่านตาเจ้าหากไม่ล้มป่วยก็คงเหมือนท่านปู่ตอนนี้"
"อย่าพูดเลยนี่เป็นเงิน100อีแปะ พี่ใหญ่เก็บดีๆอย่าให้อาสี่รู้ท่านเอาเงินนี่ไปซื้อใบสมัครสอบถงเซิงเสีย ประกาศผลหากไม่ติดค่อยคิดเรื่องลาออกหากสอบติดค่อยมาว่ากันอีกทีเรื่องอนาคต แม้ว่าพี่สามจะน่ารำคาญไปหน่อยแต่อย่างน้อยก็ไม่น่ารังเกียจ นางยังต้องการๆสนับสนุนจากบ้านเดิมหากแต่งงานออกไปจำไว้เก็บให้ดีทางที่ดีเก็บไว้กับตัว"
ทั้งสองบอกลากันเดือนหน้าจะถึงฤดูการสอบ หลังจากสอบก็ถึงเทศกาลเชงเม้งเขาจะกลับบ้านสักที เขาพลาดทุกครั้งเพราะอาสี่มักมารีดไถเงินจนหมดแม้แต่ค่าใบสมัครเพียง20อีแปะก็ไม่มีจึงไม่เคยได้วัดความสามารถตนเอง เขาละอายใจต่อครอบครัวอาสามจริงๆอาสามที่คอยเอ็นดูพวกเขามาตลอด ท่านตาซ่งมักทำของเล่นมาให้แต่ทุกอย่างกลับถูกท่านย่าทำพัง ครอบครัวดีๆกลายเป็นขุมนรก
ซ่งจื่อหรูจำคนได้ไม่ผิดแน่ทำไมต้องโกหกทุกคนว่าตาย เมื่อคืนนี้คงเป็นพวกเขาที่นำเงินจำนวนนั้นมาวางไว้ นางเคยอยู่หน่วยสอดแนมมาก่อนตะวันออกกลางก็ประจำมาแล้วอยู่ที่นั่นจะนอนยังต้องตื่นตัว แต่เมื่อคืนพวกเขามาหาโดยที่นางไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไม่ใช่คนธรรมดาแน่ มีเหตุอะไรที่ต้องทิ้งเด็กๆไว้ลำพัง
ในเมื่อพวกเขาเลือกที่จะทอดทิ้งเหตุใดนางต้องวิ่งไขว่คว้ากัน จากนั้นก็ไม่ใส่ใจเดินซื้อของผ้าที่มีอยู่นั้นเนื้อดีเกินไปไม่เหมาะสำหรับชาวบ้าน หาซื้อผ้าธรรมดาดีกว่า จากนั้นก็อาศัยความทรงจำไปยังนางที่เคยส่งผ้าปัก เมื่อมาถึงก็ถูกคนดูแลร้านไล่ออกมา ร้านนี้ชื่อฮวาเหยียนเป็นร้านของสกุลจาง
"ขอทานที่ไหน กล้ามาเหยียบร้านเราให้สกปรกแปดเปื้อน ไปๆๆๆไสหัวไป"
"อาเฉิงมีเรื่องอะไรกัน"
"ขอทานขอรับหลงจุ๊ ไม่รู้ว่ามาจากไหน อ้างว่าเคยมาส่งงานที่นี่ ข้าไล่ออกไปแล้ว"
"อืม..ดีๆเหอะคุณหนูใหญ่นะคุณหนูใหญ่ตอนนั้นนายท่านปล่อยให้นางเป็นผู้ดูแลร้านแล้วอย่างไร กระทั่งขอทานยังกล้าต้อนรับให้เข้ามา สมควรแล้วที่ให้คุณหนูรองมาดูแทน"
"จริงขอรับ นางไม่เหมาะกับแพรพรรณสวยๆงามๆหรอก เหมาะกับขายถั่วขายรำเช่นนั้นแหละ"
จางเฉิงและจางลิ่วเป็นคนดูแลคนใหม่ของร้านฮวาเหยียนจึงไม่รู้จักซ่งจื่อหรู
นางจึงหันหลังกลับจากนั้นก็ไปเลือกร้านอื่น เดินมาสักพักจนเจอร้านในตรอกเล็กมีป้ายเขียนง่ายๆว่า จินปู่เตี้ยน ร้านผ้าของสกุลจินเดินเข้ามาก็เจอสตรีวัยสามสิบปีลายๆลุกขึ้นมาต้อนรับ"แม่หนู เจ้ากำลังหาสิ่งใดกัน ให้ข้าช่วยดีหรือไม่"จินเหนียงทักทายเด็กสาวตรงหน้านางไม่เคยตัดสินใครจากการแต่งตัว"เถ้าแก่เนี้ย ข้าอยากได้ชุดสำเร็จเจ้าค่ะ ของเด็กผู้ชายสามขวบกว่ากับเด็กผู้หญิงห้าขวบกว่า""มาถูกร้านแล้ว นี่เป็นเนื้อผ้าธรรมดาราคาชุดละ70อีแปะ ถูกมากแล้วปกติข้าขาย90อีแปะเชียวนะ แต่เห็นการแต่งตัวของเจ้าแล้ว คิดว่าคงมีใจซื้อจริงจึงลดให้ อย่าคิดว่าข้าดูถูกเจ้าล่ะ""งั้นของเด็กผู้ชายข้าขอสองชุด สีฟ้ากับสีน้ำเงิน ส่วนของเด็กผู้หญิง เอาสีชมพูกับสีเหลืองเจ้าค่ะ""แล้วของเจ้าล่ะ ถ้าเอาข้าคิดราคาเดียวกัน ปกติขนาดตัวเท่าเจ้าอยู่ที่ชุดล่ะ100อีแปะ""เถ้าแก่เนี้ย ท่านรับงานปักหรือไม่เจ้าคะ""เฮ้อ พูดก็พูดเถอะ เมื่อก่อนคุณหนูอวี้เซียนดูแลฮวาเหยียนนางมีน้ใจนักไม่เคยกดหัวร้านเล็กอย่างพวกเราเลย พอคุณหนูอวี้เซียนถูกปลดให้ไปดูแลร้านเบ็ดเตล็ดที่กำลังจะขาดทุน ได้ข่าวว่าหากภายในสิ้นปียังทำกำไรไม่ได้จะให้นางแต่งไปอยู่เป่ยเหลียง
เพิ่งเข้าตำบลครั้งแรกก็ลืมนั่นลืมนี่จึงเดินกลับไปยังร้านข้าสารอีกรอบ เถ้าแก่เห็นว่าก่อนหน้านางซื้อของเยอะจึงต้อนรับดีกว่าเดิม"แม่นางน้อย เจ้าลืมซื้อสิ่งใดรึ หากร้านข้ามีย่อมขายให้ราคาย่อมเยาว์""เถ้าแก่ ข้าลืมซื้อน้ำตาลเจ้าค่ะ ช้าซื้อของเยอะเกินไป หากลืมน้ำตาลคงแย่ อีกหน่อยพวกเขาคงไม่จ้างข้าเข้าเมืองอีก""อ้อ ที่แท้เจ้าก็รับจ้างคนในหมู่บ้านหรอกรึ เอาน้ำตาลอะไรข้าจะจัดหาให้ จะคิดเจ้าถูกลงหน่อยให้เจ้าได้กำไรบ้าง""น้ำตาลทรายขาว5ชั่ง น้ำตาลทรายแดง3ชั่ง น้ำตาลกรวด 3ชั่งเจ้าค่ะ""น้ำตาลทรายขาวชั่งละ35อีแปะ น้ำตาลทรายแดง25อีแปะน้ำตาลกรวด30อีแปะทั้งหมดเป็น340อีแปะ คิดเจ้า330อีแปะเจ้าจะได้กำไรจากค่าเหนื่อยเอาส่วนต่างไว้นั่งเกวียนกลับบ้าน""ขอบคุณเจ้าค่ะ วันหลังหากมีคนต้องการซื้อของข้าจะมาร้านท่านนะเจ้าคะ เถ้าแก่ท่านรับซื้อของจากข้างนอกหรือไม่เจ้าคะ""ต้องดูก่อนว่าเป็นอะไรหากมีก็นำมาขายได้ ข้าแซ่เหลียงชื่อเว่ยอู่""ข้าแซ่ซ่งชื่อจื่อหรูเจ้าค่ะ ข้าอยู่หมู่บ้านหลี่ซาน""อ้อ หลี่ซ่งเหวินที่ทำงานอยู่ที่ว่าการมักมาซื้อของข้าไปขายบ่อยๆ พวกเจ้ามาจากที่หมู่บ้านเดียวกัน""ใช่เจ้าค่ะ เขาเป็นท่านลุงของข้
"พี่ใหญ่ ท่านแต่งออกมาแล้วจะยุ่งทำไม ข้าต้องมาตามหาสามีข้า นังเด็กแพศยาออกมาเดี๋ยวนี้นะ เจ้าเอาสามีพวกข้าไปซ่อนไว้ที่ไหน โอ๊ย พี่ใหญ่ท่านกล้าตีข้าหรือ" สะใภ้หวังทั้งสองไม่ให้ความสำคัญกับพี่สามีคนนี้จึงเยาะเย้ยดูถูกหวังซื่อตบพวกนางทันทีผัวะๆๆตุบตับๆ ใครจะคิดว่าหวังซื่อจะตบตีน้องสะใภ้ ทั้งสามชุนละมุนหลี่ม่านอวี้วิ่งมาถึงก็เข้าช่วยมารดาตนจนถูกคนโตกว่าตบตีจนร้องไห้ ชาวบ้านที่เป็นสตรีก็วุ่นวายแยกทั้งสามออกจากกัน"เห็นไหมเจ้าทำอะไรลงไป นังซ่งจื่อหรูหากไม่ใช่เจ้าไปยั่วยวยคนเขาจะมาถึงที่หรือ" หลี่อ้ายเสิ่นชี้หน้าด่า"ข้าไม่เชื่อว่าเป็นนาง หึเจ้าคงไม่ลืมเรื่องปลดภรรยาของอาไหลฝูหรอกนะ หากกล่าวเหลวไหลระวังมารดาเจ้าจะถูกปลด" ป้าสะใภ้หกชี้หน้าหลี่อ้ายเสิ่น"ใช่ๆๆๆ"หลายเสียงก็สนับสนุน พวกเขาไม่ชอบเด็กอ้ายเสิ่นคนนี้จริงๆ ไม่รู้ว่าแม่เฒ่าหลี่เลี้ยงบุตรสาวอย่างไร พฤติกรรมน่ารังเกียจนัก"ใช่จื่อหรูของพวกเรา ถูกนังปีศาจเฒ่านั่นตี จนปางตายยังหอบสังขารไปหาอาหารแถมยังไม่หวงยังคิดแบ่งปันเสบียงผู้อื่นอีก""หลี่อ้ายเสิ่นคนบ้านเจ้านอกจากหาเรื่องยังสร้างประโยชน์อะไรบ้าง"ชาวบ้านก็เริ่มไม่พอใจตะโกนใส่หน้านางแต
"อะไรนะ บัณฑิตจะไปสถานที่เช่นนั้นได้อย่างไร เมียต้าโจวเรื่องนี้กระทบถึงเด็กคนอื่นในหมู่บ้านนะเจ้าพูดให้ดีๆ" หลี่ฝูเหยาถึงกับหน้าดำเป็นก้นหม้อ ชื่อเสียงหมู่บ้านจะถูกทำลายไม่ได้"ลุงใหญ่ แม่สื่อที่ข้าคุยนางบอกข้าเอง นางบอกว่าสกุลไป๋ทางนั้นไม่ต้องการหมั้นหมาย แล้วฮือๆข้าลำบากเพื่ออะไร ลูกข้าคัดหนังสือจนมือไร้เรี่ยวแรง อาของเขากลับเอาเปรียบถึงเพียงนี้ เงินที่ข้าส่งไปกลับไม่ถึงมือ ฮือๆๆ""อีสารเลว เจ้าเป็นสะใภ้แบบไหนมาข้าจะตีเจ้าให้ตาย เหอะบุตรสาวเจ้ากับเจ้าห้าไม่ช้าก็จะถูกขายแล้ว ข้าไม่สนใจพวกเจ้าหรอก"หลี่อ้ายเสิ่นชี้หน้าด่าพี่สะใภ้คนโต"อาเล็ก ท่านเป็นสตรียังไม่ออกเรือนแสดงท่าทีเช่นนี้สมควรรึ ท่านอยากเป็นฮูหยินแต่กิริยาที่ท่านทำยังเทียบไม่ได้กับสาวใช้เลย หากท่านย่ากล้าขายน้องสาวข้าไปก็ไม่จำเป็นต้องกตัญญูอีกต่อไป"หลี่หานกางแขนป้องมารดาเอ่ยพร้อมกับมองเหยียดอาสาว"นี่พวกเจ้าสองคนมาทำอะไรอยู่ที่นี่ สามีพวกเจ้าถูกคนคุมบ่อนตีจนขาหักตอนนี้ถูกหามกลับมาที่บ้านแล้ว" ชาวบ้านหมู่บ้านเถาซานวิ่งมาตามสะใภ้แซ่หวังมั้งสองคน" เสียเวลาข้ามากแล้ว ก่อนจะไปจ่ายมาคนละแปดตำลึงยกเว้นป้าใหญ่ นางเสียหายพอแล้ว ข้
ซ่งจื่อหรูเดินไปทางหลังบ้านก็เห็นบรรดาท่านป้าดายหญ้าที่สูงเกือบเท่าตัวคนจนเกือบเสร็จ มองเห็นเหล่าพืชต้นเล็กๆ มีผลยาวสีเขียวสีแดง โอ้สวรรค์จ๋า มีพริก มีฟักทอง ต้นกระเทียม ถึงแม้จะขึ้นกระจัดกระจายแต่ก็เยอะพอควร ที่ตอนแรกไม่เห็นเพราะตอนนั้นสำรวจแต่ภูเขากับบริเวณบึงบัว ที่จริงบ้านนี้มีของดีไม่น้อย"ท่านป้า...ตรงนั้นไม่ต้องถางเจ้าค่ะ""เอ๋ ทำไมรึจื่อหรู หญ้าพวกนี้ถางไปเดี๋ยวก็ขึ้นอีกต้องขุดรากออก""ไม่ใช่เจ้าค่ะมันกินได้ ต้นนั้นเรียกว่าพริก ที่เลื้อยๆเรียกว่าฟักทองเจ้าค่ะ ส่วนนั่นต้นกระเทียมป่า ริมน้ำนั่นคือเผือกเจ้าค่ะ พวกท่านช่วยเก็บเจ้าลูกเขียวๆแดงๆให้ข้าสักหน่อย มื้อกลางวันข้าจะทำอาหารที่พวกท่านไม่เคยกินให้ชิมเจ้าค่ะ""เอ่อ จื่อหรูลุงหกถางเจ้าฟักทองนั่นเยอะเชียว กินได้จริงๆหรือ ""ท่านลุงเก็บลูกที่ถางไปแล้วไว้ให้ข้าเถอะเจ้าค่ะ กินได้หรือไม่เดี๋ยวก็รู้"แม้ไม่แน่ใจแต่ทุกคนก็พร้อมใจกันเก็บให้นาง อย่างไรเลยหากเด็กคนนี้บอกว่ากินได้ มีอาหารเพิ่มใครจะไม่เอากัน ซ่งจื่อหรูนำตับหมูออกมาหนึ่งพวงก่อนจะหั่นเป็นชิ้นไม่หนาไม่บาง จากนั้นก็คลุกด้วยขิงกับเหล้าเหลือง"ให้ตายเถอะกลัวไม่มีข้าวกิน ลืมซื้อแ
เมื่อมาถึงก็เหลือแค่เก็บกวาดก็เสร็จ ตอนนี้พื้นที่ๆเคยมีวัชพืชรกเต็มไปหมด กลายเป็นพื้นที่โล่ง รั้วทั้งสี่ด้านล้อมเสร็จแล้ว หินมากมายถูกกองไว้ ต้นหลิวขนาดใหญ่ถูกเลื่อยกิ่งที่ยื่นออกไปด้านนอก เพื่อป้องกันคนจะปีนเข้ามา เดิมทีหลี่ฝูเหยาต้องการโค่นออกเพื่อให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น แต่นางบอกจะเก็บไว้เป็นร่มเงาให้น้องๆนั่งเล่น"เจ้าสี่มาแล้วรึ"หลี่ฝูเหยาเอ่ยถาม"แม่หนูสี่เข้าอยากถามเจ้าว่าจะแบ่งปันอย่างไรดี เรื่องมันเทศเหล่านั้น" ผู้นำหมู่บ้านไป๋ซานเอ่ยขึ้น"อืมให้ผู้ชายขุดมันเทศ ผู้หญิงเก็บเกาลัด เด็กๆที่พอใช้งานได้ ก็ให้รับหน้าที่ขนลงเขา เอามารวมที่ลานต้นไหวปากทางเชื่อมสามหมู่บ้านนั่นแหละเจ้าค่ะ""จริงด้วยแม่หนูสี่ ไอ้ที่เจ้าเรียกว่าพริกนั้น กินแล้วอยากกินอีกถึงจะทำให้ข้าร้องไห้ก็เถอะ" ชาวบ้านยังคิดถึงรสชาตินั้นจึงเอ่ยถาม"พริกช่วยให้เจริญอาหาร ขับเหงื่อ ขับลมได้เจ้าค่ะ ข้าเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้หากเพาะแล้วขยายพันธุ์ได้ พวกเราก็มีอาหารเพิ่ม จริงสิ บ้านข้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่รบกวนทุกท่านจนเกินไป ช่วยไปซ่อมแซมบ้านปู่เก้าให้สักหน่อยได้ไหมเจ้าคะ"ซ่งจื่อหรูเอ่ยแก่คนที่มาช่วยงาน"เจ้าไปบ้านเจ้าเก้ามา
ปลายยามซวี(19.00-20.59)เกวียนวัวค่อยๆเคลื่อนเข้ามาในหมู่บ้าน แล้วหยุดตรงที่หน้าบ้านของหลี่ฝูเหยา หลี่ต้าจูยืนรออยู่แล้ว หลี่เหิงลงจากเกวียนมา ก่อนจะคาราวะเขา"เหตุใดไม่เจอเพียงปีกว่าเจ้าซูบผอมเพียงนี้ เจ้าใหญ่เงินที่ทางบ้านส่งไป ไม่พอให้เจ้ากินอยู่หรือ"หลี่ต้าจูเอ่ยถามหลานชายคนโต"พี่ใหญ่ ท่านผอมมากท่านแม่อยู่บ้านน้องสี่ ท่านย่าพอทะเลาะกับท่านพ่อเสร็จก็ออกไปนางบอกจะกลับบ้านเดิมสักสองสามวัน ไม่อยากเห็นหน้าพวกเรา" หลี่หานเอ่ยกับพี่ชาย ก่อนจะพากันเดินเข้าบ้านหลี่ฝูเหยา หลี่เหิงถามอาการของหวังซื่อกับซ่งจื่อหรู"ตอนนี้นางเป็นอย่างไรบ้าง"หลี่เหิงถามน้องสาวซ่งจื่อหรู"อาการ Panic ละมั้ง อ้อข้าหมายถึงนางสะเทือนใจน่ะ"หลี่ต้าจูทักทายลุงใหญ่ของเขาก่อนจะเอ่ยกับหลี่ฝูเหยาอย่างเกรงใจ"ลุงใหญ่รบกวนท่านอีกแล้ว เป็นอย่างที่ท่านกล่าวมาคนบ้านข้าหาเรื่องไม่เว้นวันจริงๆ""ช่างเถอะๆ ใครใช้ให้เจ้าเป็นลูกเจ้ารองน้องชายข้าล่ะ วันนี้มาดึกดื่นมีอะไรกันแน่"หลี่ต้าจูเป็นคนเอ่ยขึ้น จากนั้นก็ตามด้วยหลี่หาน ยังไม่ทันฟังจนจบหลี่ฝูเหยาก็แทบจะไปที่ตำบลลากคอหลี่ต้าเหวินมาลงโทษตามกฎบรรชนเสียจริงๆ"ท่านพ่ออย่าโมโหเลย ร
หลี่ต้าจูเดินเหม่อ หลี่เหิงและหลี่หานเองก็ไม่ต่างกัน ในบ้านของซ่งจื่อหรูหลี่ม่านอวี้นั่งรออยู่หลี่หวังซื่อหลับไปแล้ว ทันทีที่เห็นหลี่เหิงหลี่ม่านอวี้ก็โผเข้าใส่ร้องไห้ ซ่งจื่อหรูให้หลี่เหิงกับหลี่หานนอนอีกห้องส่วนหลี่ถิงถิงขอบิดานอนค้างกับพี่สี่ของนาง หลี่ต้าจูต้องกลับบ้านเพราะป้ารองที่กำลังตั้งครรภ์ไม่มีใครอยู่ด้วย ซ่งจื่อหรูเล่านิทานต่อจากเมื่อวานเด็กๆ หลับหมดแล้ว นางอยากเข้าไปในมิติแต่วันนี้คงไม่ไหว ทะลุมิติมาที่นี่ได้สามวันยังไม่มีวันไหนได้พัก ใครบอกว่าสมัยโบราณนั้นไม่วุ่นวาย นี่ไงวุ่นวายสุดๆหลี่เหิงรีบกลับทันทีที่ได้ข่าว จึงยังไม่ได้กินอะไร ซ่งจื่อหรูเองก็เหนื่อยมาก นางเข้าครัว หยิบไข่ไก่ออกมา ต้มกับน้ำตาลทรายแดง ให้ตัวเองและพี่ไปคนละ2ฟอง ทั้งหมดออกไปคุยหน้าบ้านที่ตอนนี้ดายหญ้าและกวาดจนเตียน ทั้งสี่คนนั่งกินไข่หวานไม่มีใครเอ่ยอะไรจนพระจันทร์ตรงศรีษะจึงรู้ว่าเป็นเวลาปลายยามจื่อแล้ว(23.00-00.59)"เหตุใดท่านพ่อไม่มาตามหาท่านแม่สักนิด"หลี่เหิงถามขึ้นมา"พี่ใหญ่ ท่านไม่กลับบ้านมานานท่านคงไม่รู้ ท่านพ่อเอาแต่ขลุกอยู่บ้านแม่หม้ายเหล่านั้น หากท่านแม่โวยวายก็จะถูกตี เมื่อก่อนตอนข้ายังเด็
เซี่ยหนานอินถูกเจ้าอาวาสลากไปเด็กสามคนจึงเป็นอิสระ ซ่งจื่อเย่ว ซ่งจื่อห่าวและจ้าวเฟยเซียนอยู่กับจางอวี้เซียน มีองครักษ์ของจวนเจ้าเมืองดูแล จิงอี้ถูกสั่งห้ามเข้าใกล้หลี่อ้ายเสิ่น จนกว่าจะแต่งงานนางถูกหลี่ไหลฝูพาไปฟังธรรมด้านในด้วยเดินมาถึงหลังวัดส่วยเอี๊ยหลี่ม่านอวี้ก็นั่งลงบนก้อนหินกลางป่าท้อ"นั่งก่อนเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว"หลี่ม่านอวี้ถอนหายใจ"พี่สาม ท่านคิดอะไรอยู่ทำไมดูท่านทำหน้าสงสัยตลอดเวลา"ซ่งจื่อหรูเห็นสีหน้าพี่สามเหมือนท้อใจตอนที่จิงอี้เดินมาหาหลี่อ้ายเสิ่น"เมื่อคืนอาเขยไปหาอาเล็ก ตอนที่ท่านปู่ไปคุยเรื่องแต่งงานของนางที่บ้านปู่ใหญ่" หลี่ม่านอวี้พูดไปถอนหายใจไป"อาเขย เจ้าหมายถึงจิงอี้หรือ"จิงเสวียนถาม"เจ้าค่ะพี่จิงเสวียน เขาบอกให้ข้าเรียกเขาอย่างนั้น อาเขยนำปิ่นปักผมไปให้อาเล็ก ข้าบอกว่าเข้าไม่ได้ท่านปู่สั่งไว้ เขาก็อ้อนวอน ข้าจึงให้แค่แป๊บเดียว""จากนั้นล่ะ เกิดอะไรขึ้น ท่านปู่พี่จับได้หรือ" หูเจียวเจียวหูผึ่งก่อนมานั่งจะดักหน้าหลี่ม่านอวี้แล้วถามนาง" เปล่าหรอกเจียวเจียว ข้าให้เวลาอาเขยแค่ครึ่งเข่อ พอเห็นท่านปู่มาก็จะไปตามเขา แต่พอเปิดประตู ก็เห็นเขากัดปากอาเล็กอยู่ ริมฝีป
ถึงเวลาอาหาร วันนี้ทุกคนกินข้าวที่บ้านของซ่งจื่อหรู ฮั่วเฟยหย่งเอ่ยกับพวกเขา"เรื่องที่จิงอี้ทำนับว่าร้ายแรง แม้กฎเกณฑ์ต้าเหลียงไม่เข้มงวดตีกรอบเกินไป แต่นั่นคือทั้งชีวิตของสตรี พวกนางต้องเสียสละร่างกายคลอดบุตรให้เจ้า ต้องคอยดูแลบ้านช่อง หากต่อไปใครชิงสุกก่อนห่ามไม่เข้าออกตามธรรมเนียมข้าไม่เอาไว้แน่ จะรักใคร่นอกกายข้าไม่ว่า แต่ห้ามเลยเถิดจนกว่าจะเข้าหอ"ประโยคสุดท้ายเว้นไว้ให้เจ้าเด็กบ้าเฟยหรงนี่ หากไม่ให้ได้ชิมน้ำหวานเลยคงอกแตกตาย"พะย่ะค่ะ "ทุกคนรับคำพร้อมเพรียงจากนั้นก็กินข้าวต่อ หลังมื้อเย็นทุกคนรีบนอน เช้าต้องไปแต่เช้า ซ่งจื่อหรูอยากเข้าไปในมิตินึกถึงกรอบรูปที่อยู่ๆก็มาวางบนเตียง แต่พรุ่งนี้ต้องเดินทางเลยเว้นไปก่อนหลี่เหิงถือเสื่อเข้ามา แต่จ้าวเทียนเฟยบอกว่าพื้นนั้นเย็นเกินไป ให้ขึ้นมานอนด้วยกัน เขาลังเลอยู่พักใหญ่เกรงว่าจะไม่สมควร จ้าวเทียนเฟยบอกว่า ให้หลี่เหิงนอนด้านใน เวลาเขาทำธุระจะได้ปลุกง่ายหลี่เหิงได้นอนที่บ้านก็สบายใจหลับไม่รู้เรื่อง แม้กระทั่งถูกคนตัวโตเอาเปรียบเขาเกือบค่อนคืน ตื่นมาได้แต่งงคิดว่าตนเองถูกยุงหรือมดกัด แต่ทำไมพี่เทียนเฟยถึงไม่มีรอยอะไรเลยยามเหมาทุกคนตื
ลานบ้านหลี่ หลี่ไหลฝูยืนอยู่กำลังจะซัดฝ่ามืออกไป หลี่อ้ายเสิ่นวิ่งไปขวางเขาปกป้องจิงอี้ที่นอนกระอักเลือดอยู่ หลี่ต้าโจวกับหลี่ต้าจูถูกบิดาโยนไปคนละทิศละทาง"ท่านลุงหลี่ค่อยพูดเถอะ นี่มันเรื่องอะไรกัน จิงอี้เจ้าว่ามาสิ"จ้าวเฟยหย่งไกล่เกลี่ย จิงอี้พยุงตัวเองขึ้นหลี่ไหลฝูวรยุทธไม่เลวเลย เทียบกับท่านอ๋องเขาสูสีทีเดียว ใครจะรู้ช่างไม้หมู่บ้านกันดารจะมีฝีมือขนาดนี้"นายท่าน ข้าต้องการแต่งงานกับอ้ายเสิ่น แต่ผู้เฒ่าหลี่ไม่ยอมขอรับ""นางยังไม่ถึงวัยปักปิ่นด้วยซ้ำ อีกตั้งครึ่งเดือน เจ้ารอวันนั้นค่อยพูดคุยไม่ได้หรือไง" จิงเสวียนดุน้องชาย"พี่ใหญ่ข้ารอไม่ได้หรอก อ้ายเสิ่นนางก็รอไม่ได้ด้วยหากจิงอี้น้อยรอไม่ไหวจะทำไง ข้ากับนางเอ่อ ป่านนี้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวน้อยในท้องนางเกิดหรือยังอาจเกิดแล้วมั้ง"หลี่ไหลฝูซัดฝ่ามือใส่จิงอี้ด้วยความโมโห จ้าวเทียนหยางที่ไม่รู้ว่าโผล่มาตอนไหนสกัดฝ่ามือเขาจนไปปะทะต้นไม้ในบ้านหักโค่นลงมาจิวเสวียนหอบหายใจด้วยความโมโหที่นี่ไม่มีคนอื่นเขาจึงเค้นฟันพูดกับน้องชาย"หานจิงอี้ ไอ้เด็กสารเลวหากเป็นชาวบ้านจะไปอะไรลับล่อๆก็ยังพอทน แต่เจ้าเป็นใคร ท่านลุงรู้เรื่องนี้จะว่าอย่างไรหรือต
ห้องรับรองตำบลซานสุ่ย มีเซี่ยหนานอินนั่งอยู่ด้านบน เซี่ยอวิ๋นนั่งอยู่ซ้ายมือด้านข้าง ถัดไปคือมีกังฉินนายอำเภอ เจ้ากรมโยธา หลี่ไหลฝู หลี่ฝูเหยา ด้านขวามีซ่งจื่อหรู จ้าวเฟยหย่ง จ้าวเฟยเหรงนั่งอยู่ แผนที่เมืองของมณฑลกว่างผิงถูกกางออกบนโต๊ะ เผยให้เห็นเส้นทางน้ำขนาดใหญ่น้อย ซ่งจื่อหรูใช้พู่กันกากบาทจุดที่เรือควรจอดแวะ จึงได้ทั้งหมด ห้าท่าเรือ“หากสร้างท่าเรือตามนี้จะใช้เวลานานเท่าใด” เซี่ยหนานอินถามขึ้น“ใต้เท้างบประมาณคือเงินส่วนตัวของท่านเพียงแค่แปดหมื่นตำลึงจะสร้างพร้อมกันไม่ได้เจ้าค่ะ มีท่าเรือก็ต้องมีที่พักท่านลองออกประกาศหานายทุนเชื่อข้าสิว่าต้องมีคนร่วมลงทุนแน่ๆ”“นายทุนคือสิ่งใดอาหรู แล้วพวกเขาจะยอมให้เงินแก่เราหรือ”จ้าวเฟยหย่งไม่เข้าใจสิ่งที่นาพูดซ่งจื่อหรูจึงอธิบาย“ท่านอาฮั่ว นายทุนคือคนที่ออกเงินให้เรา ก่อน ท่านเจ้ากรมท่านคำนวนที่ดินจากริมฝั่งออกมา ปล่อยเช่าที่ดินให้คนที่ต้องการทำโรงเตี๊ยมและร้านค้าต่างๆเช่าค้าขาย ทำสัญญาระยะยาวสิบปีต่อสัญญาทุกๆสามปี จ่ายค่าเช่ารายเดือน เก็บมัดจำครึ่งหนึ่ง สร้างใกล้เสร็จเก็บส่วนที่เหลือ หากไม่จ่ายภายในเวลาที่กำหนดถือว่าผิดสัญญา จากนั้นให้ปล่อย
อาหารเสร็จแล้ว เด็กๆถูกองค์ชายห้าพาไปเล่นบนเขาแต่เช้าแล้ว ลูกเสือขาวนอนหลับลุงใหญ่ถามนางว่าเจ้าของแพะถามว่านางรับซื้อหรือไม่ เขาต้องการเงินเป็นค่าสินสอดให้บุตรชาย นางมีเงินจากการขายหมูคราวก่อนหากจะใช้ก็ไม่แปลก จึงตกลงซื้อแพะสองตัวและวัวสามตัวจากบ้านท่านป้าคนนั้น หลังเตรียมอาหารเสร็จเด็กๆกลับมาแล้ว เซียวอวี้หรานกำลังจับล้างหน้าล้างตาเพื่อมานั่งกินข้าว หลี่ไหลฝูเดินมาหา ซ่งจื่อหรูจัดโต๊ะนอกบ้าน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะท่านปู่ เมื่อคืนหลับสบายหรือไม่เจ้าคะ" ซ่งจื่อหรูเดินไปคล้องแขนชายชรามานั่ง"อรุณสวัสดิ์ท่านปู่ ขอให้สุขภาพแข็งแรงเจ้าค่ะ/ขอบรับ"ซ่งจื่อเย่วกับซ่งจื่อห่าวก็ลุกขึ้นคำนับเช่นกันจ้าวเทียนเฟยเอ่ยทักทาย หลี่ไหลฝูมองออกว่าครอบครัวฮั่วเฟยหย่งไม่ใช่คนธรรมดา จึงไม่คิดถือสาเรื่องมารยาท"วันนี้ปู่จะเรียกชาวบ้านมาคุย เรื่องว่าต้องขึ้นเขาใช้ไม้ชนิดใดสร้างสะพาน ช่วงบ่ายจะไปตำบล วาดโครงสร้างท่าเรือ เจ้าเองก็สามารถวางค่ายกลทำงานช่างได้ ก็ไปด้วยกันหลายคนจะได้ช่วยกันคิด"หลี่ไหลฝูบอกหลานสาว"ก็ดีเจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นช่วงเช้าก็แบ่งงานในหมู่บ้านก่อน ช่วงบ่ายค่อยเข้าตำบล อ้อท่านอาฮั่วมาพอดี"ซ่งจื่อห
ทุกคนกินอาหารพูดคุยกันหลี่อ้ายเสิ่นที่ตนเองไม่มีผู้ใดสนทนาด้วยจึงลุกออกจากลานต้นไหวเดินกลับบ้าน เผอิญสวนกับจ้าวเฟยหรงจึงทักทายเขาจ้าวเฟยหรงแค่เพียงพยักหน้า เท้าของหลี่อ้ายเสิ่นหนักอึ้งนางผิดหรือที่เกิดเป็นบุตรสาวของหญิงผู้นั้นทุกคนไม่สนใจนางแล้วนางจะหน้าด้านอยู่ทำไม อยู่ๆก็มีมือแข็งแกร่งมากระชากนางลากไป รู้อีกที่นางก็ติดอยู่กับกำแพงในบ้าน จิงอี้มองหน้านาง"ข้าบอกเจ้าแล้วว่าห้ามยุ่งกับคุณชายข้าหรือที่ข้าเตือนเจ้าไม่คิดฟัง"จิงอี้กดหลี่อ้ายเสิ่นกับกำแพง"ข้าแค่บังเอิญเจอเขา แล้วอย่างไรหากข้าอยากคุยแล้วทำไม หากเขาชอบข้าแล้วอย่างไรท่านมีสิทธ์อะไร"หลี่อ้ายเสิ่นโมโหคนตรงหน้า"เจ้าไม่คู่ควรกับเขา เจ้าอย่าใฝ่สูงเกินไปนัก"เพี๊ยะหลี่อ้ายเสิ่นสะบัดหลุดออดมาก่อนจะตบหน้าจิงอี้จนหันทันที"ข้าคู่ควรหรือไม่ก็ให้เขาตัดสินใจ ไม่ใช่เจ้ามาข่มขู่ข้า อื้อๆๆๆๆ"จิงอี้ไม่ปล่อยให้นางพูดจบเขาก้มลงประกบปปากนาง หลี่อ้ายเสิ่นใช้มือสองข้าทุบตีผลักเขาออก แต่ก็ไม่เป็นผล จิงอี้ปล่อยนางก่อนจะมองจ้องหน้า"วันหลังจำให้ดี ข้าไม่ได้ขู่เจ้า"" จิงอี้ ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้า คนสารเลวเจ้าว่าข้าเป็นลูกหญิงแพศยาแล้วเจ้าเล่า เอา
ภรรยาของคนเหล่านั้นไม่เต็มใจที่จะมาหมู่บ้านกันดารแต่เพราะขัดสามีตนเองไม่ได้ ทุกคนนั่งลงหลี่ฝูเหยากล่าวเริ่มงานเลี้ยง อาหารตรงหน้าทำให้สตรีทั้งหลายไม่กล้ากินแม้แต่บรรดาอาจารย์ในสำนักศึกษาก็ลังเล ยกเว้นกัวฉิน เซี่ยหนานอิน และอู๋จี๋ พวกเขาเคยได้ทานพวกมันแล้วจึงรู้ว่าอร่อยไม่นานนักก็มีรถม้ามาเพิ่มอีกสามคัน จางอวี้เซียนก้าวลงมา ตามด้วยจินเหนียงและบุตรสาว คันที่สองคือจางต้าหู่ คันสุดท้ายเถ้าแก่เหลียง ซ่งจื่อหรูเข้าไปทักทายพวกเขา"สวัสดีเจ้าค่ะท่านอาจาง ท่านลุงเหลียง พี่จินเหนียง พี่อวี้เซียน ข้าเตรียมโต๊ะไว้ให้พวกท่านแล้ว"เซี่ยหนานอินเห็นสตรีที่เดินตามซ่งจื่อหรูมาก็จำได้นางคือคนที่เขียนจดหมายร้องเรียนขอหย่าบิดาแทนมารดา เพื่อทวงสินเดิมที่ถูกยึดไปกลับคืน เนื่องจากบิดาแต่งอนุโดยที่ภรรยาเอกไม่เห็นชอบ" นี่คือผู้นำทั้งสามหมู่บ้านที่เราจะร่วมมือกันเจ้าค่ะ ส่วนนี่คือท่านปู่ของข้าหลี่ไหลฝู ทุกท่านพวกเขาคือเถ้าแก่ที่ข้าต้องการให้เป็นคนกระจายสินค้าของพวกกเราในอนาคต เถ้าแก่ร้านท่านนี้คือจินเหนียงแห่งร้านจินปู่เตี้ยน นี่คือเถ้าแก่จางแห่งร้านหนึ่งในใต้หล้าจางอวี้เซียน เถ้าเแก่เหลียงเว่ยแห่งร้านธัญพืช
หลี่เหิงกลับมาแล้ว หลี่ม่านอวี้หลี่อ้ายเสิ่นและบรรดาท่านป้าในหมู่บ้านมาช่วยงานที่บ้านของซ่งจื่อหรู เหล่าบุรุษทั้งหลายถูกสั่งให้ไปนำหญ้าเหมันต์ลงปลูก เกาฟ่านกับเกาหม่ารับคำสั่งให้ไปติดต่อกับเกาหยวนเพื่อซื้อข่าวจากหอฮวาเซียงจ้าวเทียนเฟยออกมานั่ง เขาอมยิ้มทันทีที่มองเห็นหนุ่มน้อยคนเมื่อเช้ากำลังช่วยน้องสาวและเหล่าบรรดาสตรีทั้งหลายที่วุ่นวายอยู่หน้าเห็นตาคอยฟังคำสั่งซ่งจื่อหรู ว่าอาหารชนิดไหนทำเช่นไร มีหน่อไม้เส้น มีหน่อไม้ดอง รากบัว กุ้งมังกรน้อย มีหอยขม ที่เด็กๆช่วยกันจับแต่เช้าเห็ดสนที่ให้เด็กๆขึ้นเขาชิงลั่วไปหามา นางทำปลาเปรี้ยวหวาน สามชั้นต้มหน่อไม้แห้ง หอยขมผัดพริกหมาล่า กุ้งมังกรอบน้ำมันพริก รากบัวต้มกระดูกหมู หน่อไม้ดองต้มปลา หน่อไม้ดองผัดเครื่องในไก่ ไก่ขอทาน เครื่องในหมูพะโล้ และสามชั้นตุ๋นผักกาดอง ของหวานคือผลบัวหิมะ และผูเถาที่นางเอาออกมาจากมิติ แต่ทำทีว่าเก็บมาจากต้นที่ปลูก เนื่องจากติดลูกดกมากจึงไม่มีใครสงสัยกุหลาบนางแอบเอาไปตากในมิติตอนนี้สามารถชงชาได้แล้ว มีเกษรดอกบัว ชาดีบัว ของเหล่านี้ต้องให้พวกเขาลิ้มลอง หากต้องการเปิดตลาดในต้าเหลียงต้องอาศัยปากต่อปาก ยุคนี้ไม่มีโซลเ
บ้านเชิงเขาซ่งจื่อหรูทำอาหารเสร็จแล้ววันนี้มีอาหารไม่มากเพราะต้องจัดงานเลี้ยง เห็นจิงเสวียนเดินมารับสำรับจึงหาจังหวะเอ่ยถามสิ่งที่ต้องการ"พี่จิงเสวียน ตอนที่ข้าไม่อยู่นอกจากจางอวิ๋นคนนั้นยังมีใครมาที่นี่บ้าง"" นอกจากจางอวิ่นยังมีอีกสามคนที่เหลือน่าจะเป็นคนติดตาม มีอะไรหรือเปล่า" จิงเสวียนถามนางกลับซ่งจื่อหรูส่ายหน้า"ไม่มีอะไร ี่จิงเสวียนข้ามีเรื่องอยากให้ท่านช่วยแต่เรื่องนี้แม้แต่พี่หรงก็ห้ามรู้ ท่านรับปากข้าได้หรือไม่"จิงเสวียนพยักหน้าเขารับสำรับอาหารไป จ้าวเทียนหยางโดดเข้ามา พร้อมมองหาน้องๆตัวน้อย เขาจะพาเด็กพวกนี้ไปเล่นบนเขา จ้าวเทียนหยางมาถึงก็เรียกหาเด็กทั้งสอง"แม่นางน้อย เซียนเอ๋อร์กับจื่อเย่วตื่นหรือยัง""คงกำลังพับพ้าห่มอยู่กระมัง ท่านมีอะไร"ซ่งจื่อหรูยังเอ่ยไม่จบจ้าวเทียนหยางก็หายไปในห้องครู่เดียวก็อุ้มเด็กน้อยสองคนออกมามีซ่งจื่อห่าวขี่หลังอีกคน ใช้วิชาตัวเบาพาเหินไปบนเขาซ่งจื่อหรูร้องห้ามแต่ไม่ทัน ฉินลู่ที่เพิ่งกลับมาต้องรีบตามไป องค์ชายนะองค์ชายก็รู้ว่านางหวงน้องๆเพียงใด โรคเก่าของท่านกำเริบหรือไงนะ" อาหรู หยางเอ๋อร์กัยเฟยเอ๋อร์มักชอบเล่นกับเด็กๆลูกของบ่าวในจวนเสมอ