ซ่งจื่อหรูตรงไปยังโรงเรือน ทันทีที่เห็นก็ใช้มือลูบหน้าอกตัวเองอย่าโล่งใจ พริกที่เพิ่งเก็บเมื่อต้นปีมัดแขวนเรียงราย ข้าวโพด ถั่วเหลืองและถั่วลิสงก็อยู่ในกระสอบ มีข้าวเปลือกอยู่เกือบยี่สิบกระสอบนอกนั้นเป็นไหดินเผาหลายขนาดเรียงรายมีแค่นี้แหละมีแค่นี้จริงๆเฮ้อ
"ไปดูไก่กับลูกหมูสักหน่อยดีกว่า"
เดือนมาถึงโรงเลี้ยง ก็ได้ยินเสียงลูกหมูน้องอี๊ดๆๆๆ นับแล้วมีประมาณ60ตัว สั่งลุงหวังคนดูแลว่าให้รับซื้อมาแค่20ตัวไหงซื้อมาขนาดนี้จะเลี้ยงไงก่อน ดีที่ตอนนั้นขุดบ่อน้ำใกล้โรงเลี้ยงไม่งั้นกว่าจะตักน้ำจากลำธารมาคงเหนื่อยตายพอดี ที่นี่ไม่มีใครเข้ามาได้ซ่งจื่อหรูถอดเสื้อตัวนอกออก ใช้จอบค่อยๆขุดร่องให้มูลของหมูไหลตามร่อง ไปรวมที่เดียวกัน จากนั้นก็ล้างพื้นกรงใช้เวลาชั่วโมงกว่าก็เรียบร้อย
ถัดมาก็ทำความสะอาดโรงเลี้ยงไก่ ลูกไก่ฟักครบแล้วกำลังส่งเสียงเจี๊ยบๆๆๆลั่นระงม ซ่งจื่อหรูกวาดเศษหญ้าฟางที่มีมูลไก่เต็มไปหมดจากนั้นก็กองรวมกัน ก่อนจะขนไปยังลานกว้างตากไว้ทำปุ๋ย ปูหญ้าฟางใหม่ลงไปยังดีที่ก่อนจะฟักลูกไก่และลงลูกหมูในฟาร์ม ได้เตรียมอาหารสัตว์ไว้เพียงพอแล้วทำทุกอย่างเรียบร้อยก็ให้อาหารพวกมัน
แม้ว่าจะสว่างจ้าแต่ในนี้กลับไม่ร้อนแต่อย่างใด เสร็จงานตรงหน้าแล้วเหลือเพียงรดน้ำต้นไม้ในสวนขุดร่องน้ำให้ไหลไปยังสวนต้นไม้รากย่อมยาวและไปได้ไกลเพียงแค่มีแหล่งน้ำใกล้ๆ ก็สามารถดูดซึมได้เอง ซ่งจื่อหรูเสร็จงานทั้งหมดเหลือเพียงแค่ขุดดินพรวนดินเตรียมปลูกผักแต่ตอนนี้ข้างนอกน่าจะใกล้สว่างแล้วนางอยู่ในนี้มาเกิน5ชั่วโมง ซ่งจื่อหรูเด็ดลูกพีชมานั่งกินใต้ต้น จากนั้นก็วักน้ำในลำธารมาดื่ม ล้างเครื่องมือเก็บเข้าที่เรียบร้อย
"พรุ่งนี้ ลองค้นดูว่ามีแบบร่างเครื่องสีข้าวหรือไม่ เฮ้อมิติที่ดีควรแบบเปิดแล้วใช้ได้เลยไม่ใช่ต้องมานั่งรดน้ำพรวนดินแบบนี้นะคะคุณปู่ สงสัยคุณปู่ไม่อ่านนิยายทะลุมิติแน่ๆ ง่วงแล้วไปนอนดีกว่าพรุ่งนี้มีงานต้องทำ"
ซ่งจื่อหรูหยิบเสื้อมาใส่ตามเดิมจากนั้นก็ออกมาจากมิติ เอ๋ทำไมข้างนอกผ่านไปแค่ครึ่งชั่วยามเองละหรือเวลาในนั้นเร็วกว่า ตอนนี้นางง่วงมากพรุ่งนี้ค่อยคิดเถอะ ซ่งจื่อหรูหลับไป โดยไม่รู้ว่ามีสายตากำลังมองนางอยู่อย่างอาลัยอาวรณ์
"ไปกันเถอะ หากเจ้ายังรั้งอยู่แบบนี้เด็กๆจะยิ่งเป็นอันตราย"
" หากเราไปแล้วไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้พบกันอีก หรือหากไม่ได้พบอีกเลยขอข้ามองหน้าพวกเขาให้นานหน่อยเถอะเจ้าค่ะ?"
"เชื่อท่านพ่อเถอะ ยังไงก็ต้องจาก ข้าเองรักพวกเขาไม่ต่างกัน แต่ถ้าพวกเรายังอยู่เด็กๆจะยิ่งอันตราย"
เสียงร้องไห้สะอื้นทำให้ซ่งจื่อหรูหงุดหงิด นางพลิกตัวลืมตาแต่กลับไม่เห็นใคร จากนั้นก็ล้มตัวลงจะนอนต่อแต่ข้างตัวกลับมีบางอย่างวางไว้ เมื่อหยิบมาดูก็เป็นตั๋วเงินใบละ100ตำลึง10ใบ และ50ตำลึงกับ10ตำลึงอย่างละยี่สิบใบ ก้อนตำลึง10ก้อน เหรียญอีแปะ3พวง มีจดหมายเขียนประโยคสั้นเพียงแค่
" เงินเหล่านี้เก็บไว้ใช้จ่าย จงใช้ชีวิตให้ดี อย่าไว้ใจใคร"
มุมล่างมีรูปนกเฟิ่งหวง ดูเหมือนตระกูลซ่งจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เงินทั้งหมดเป็นจำนวนสองพันสามสิบสามตำลึงช่างเถอะแปลว่าคนที่มาไม่ได้คิดร้าย ซ่งจื่อหรูเก็บตั๋วเงินและจดหมายไว้ในกล่องในมิติก่อนจะล้มตัวนอนต่อ จงใช้ชีวิตให้ดี และอย่าไว้ใจใคร ประโยคนี้หมายความว่าอย่างไร?
เสียงไก่ในหมู่บ้านขันปลุกให้หลายๆบ้านลุกขึ้นมาหุงหาอาหาร ยามเหมาซ่งจื่อหรูอยากจะเลี้ยงอาหารคนที่มาช่วยสักมื้อ จึงล้างหน้าล้างตาก่อนจะเดินไปทางบ้านสกุลฮั่ว นางยืนอยู่ไม่กล้าเรียกคนด้านในเพราะยังเช้าอยู่เหมือนคนข้างในจะรู้ว่ามีคนมา
สักพักก็มีแสงสว่างจากในบ้านส่องออกมาฮั่วเฟยหรงเปิดประตูมองเห็นร่างผอมบางยืนอยู่ด้านนอกรั้ว นางคงมีเรื่องให้ช่วยสินะถึงมาแต่เช้าเด็กคนนี้เมื่อก่อนเดินห่างเขาสามจั้งหลังจากเปิดใจตอนนี้ตื่นมาก็เจอหน้าเขารู้สึกหวานในอกอุ่นในใจยิ่งนัก
"เจ้าตัวยุ่ง มาแต่เช้าเชียวที่บ้านมีเรื่องอะไรหรือไม่?"ฮั่วเฟยหรงทักทายคนตัวเล็กซ่งจื่อหรูย่นจมูกปากน้อยๆยู่จนดูน่ารักในสายตาของเขา
"พี่ชาย ท่านเรียกชื่อข้าเถอะขอร้องจะเรียกอาหรู จื่อหรู เสี่ยวหรูก็ได้ ท่านเรียกข้าเจ้าตัวยุ่งๆเหมือนกับว่าข้าอายุ5ขวบ"
"ก็ใครใช้ให้เจ้านี่นะชอบทำตัวเองให้ยุ่งทั้งวันข้าว่าชื่อนี้เหมาะแก่เจ้าที่สุด ว่าแต่เจ้ายังไม่ได้บอกข้าเลยว่ามีเรื่องอะไรถึงมาแต่เช้า"
"พี่หรง ข้าอยากเลี้ยงอาหารชาวบ้านที่มาช่วยสักมื้อจึงอยากขอยืมเงินที่เอาไก่ไปแลกเมื่อวันก่อนสักหน่อยเจ้าค่ะท่านไม่ต้องกังวลนะเจ้าคะข้ามีทางคืนให้ท่านแน่นอน"
"อ้อ รอสักครู่ข้าจะไปหยิบให้ "
ฮั่วเฟยหรงเข้าไปในบ้านหยิบเงินมาส่งให้นางห้าพวง ซ่งจื่อหรูสีหน้ามึนงงจำได้ว่าเหลือแค่100อีแปะแล้วเพิ่มมาจากไหนกัน เขาเห็นสีหน้าของนางจึงอธิบาย
"อาหรู ท่านพ่อข้ากลับมามิใช่หรือเขาล่าหมูป่ากับกวางได้แลกเป็นเงินได้หลายตำลึง เงินนี่ไม่ต้องคืนหรอกข้าให้เจ้าเมื่อคืนท่านแม่นอนหลับสนิทนัก ต้องขอบใจที่เจ้าบอกให้ข้าต้มน้ำแกงกับน้ำขิงบำรุงนาง ว่าแต่เจ้าจะเข้าตัวตำบลหรือ?"
"เจ้าค่ะข้าจะเดินเท้าไป ท่านให้เงินมามากพอขากลับอาจจ้างเกวียนเจ้าค่ะ"
"อาหรุข้าไปเป็นเพื่อนเจ้าดีกว่า ฟ้ายังมืดอยู่เลยเจ้ายังเด็กนักไปคนเดียวอันตราย"
"พี่หรงข้าอายุสิบสามแล้วอีกอย่างมิใช่ว่าไม่เคยเข้าตำบลเสียเมื่อไหร่กัน ข้าขอบคุณที่ท่านเป็นห่วงหากท่านอยากช่วยจริงๆรบกวนท่านช่วยไปอยู่เป็นเพื่อนจื่อเย่วกับจื่อห่าวได้ไหมเจ้าคะข้าจะได้รีบไปรีบกลับ"
ซ่งจื่อหรูอยากซื้อของมาตุนไว้เก็บในมิติตอนนี้ในมือมีเงินแค่ต้องหาทางเอามาใช้ ไม่ว่าจะเป็นเงินของใครก็ช่างเถอะ ในเมื่อมาให้ถึงบ้านไม่ได้ขโมยสักหน่อย อีกอย่างตอนนี้หยิ่งไปใช่ว่าจะอิ่มท้องฮั่วเฟยหรงรับปากว่าจะไปอยู่เป็นเพื่อนซ่งจื่อเย่วและว่งจื่อห่าวก่อนจะเข้าไปหยิบตระกร้าในบ้านมาส่งให้นาง
"ตระกร้าของเจ้าพังหมดแล้วเพราะวันก่อนขนเกาลัดกลับมาสภาพนั้นฟืนยังดูดีกว่าเลยกระมัง เจ้าเอาใบนี้ไปใช้เถอะรีบไปรีบมาล่ะ"
"ขอบคุณมากเจ้าค่ะ ไว้ทุกอย่างเรียบร้อยข้าจะนำมาคืนท่านนะเจ้าคะ"
จากนั้นทั้งคู่ก็เดินไปยังกระท่อมของบ้านซ่งเด็กๆยังไม่ตื่นฮั่วเฟยหรงนั่งอยู่เฝ้าพวกเขา ในมือถือหนังสือที่หยิบติดมาอ่านอย่างตั้งใจ ซ่งจื่อหรูรีบออกเดินทาง ตำบลห่างจากหมู่บ้านสิบลี้ จะว่าไกลก็ไม่ไกลจะว่าใกล้ก็ไม่ใกล้นักสำหรับร่างเด็กอายุสิบสี่นี้
"ท่านอ๋อง ลูกเราโตแล้วพระองค์เองก็อย่าทรงชักสีหน้าใส่เด็กคนนั้นเลยเพคะ หม่อมฉันเองก็แปลกใจเหตุใดจึงรู้สึกผุกพันกับนางนักก็ไม่รู้""เจ้าต้องลมหนาวไม่ได้นางยังเอาเด็กสองคนมาฝากให้ดูแลจนเจ้าต้องออกมานั่งเฝ้าพวกเขาด้านนอกจะไม่ให้โมโหนางบ้างเกรงว่าจะไม่ได้ จริงสิเมื่อคืนไม่ได้ยินเสียงเจ้าไอเลยขอโทษนะหรานเอ๋อร์ข้าละเลยเจ้าจริงๆดูท่าข้าควรรีบสะสางเรื่องราวแล้วพาเจ้ากลับเมืองหลวงสักที""เมื่อคืนไม่มีอาการไอแถมยังรู้สึกอุ่นด้วยเพคะ อาจเพราะหรงเอ๋อร์ทำมันต้มน้ำขิงให้กินเห็นบอกว่าอาหรูบอกมาว่ากินน้ำขิงร่างกายจะอุ่นขึ้น ท่านอ๋องถ้าไม่ได้บิดาของเด็กสามคนนั้นยอมเดินฝ่าหิมะไปตามหมอในตำบล ยอมทิ้งศักดิ์ศรีบุรุษให้หมอตำแยขึ้นหลังมาหม่อมฉันกับลูกหญิงก็อาจไม่รอดแล้ว ต่อไปเจอหน้าพวกนางทรงทำดีสักหน่อยเถอะเพคะอย่าให้ใครว่าได้ว่าพวกเราเป็นถึงเชื้อพระวงศ์แต่ไร้คุณธรรมไม่รู้คุณคน""ได้ๆหรานเอ๋อร์ทุกอย่างล้วนฟังเจ้า นอนพักอีกหน่อยเถอะเซียนเอ๋อร์ยังไม่ตื่นเลยอีกอย่างฟ้าก็ยังไม่สว่าง""ไม่แล้วเพคะเมื่อคืนหลับสบายนัก หม่อมฉันไม่ได้นอนหลับสนิทเช่นนี้มานานแล้วทุกคืนพออากาศเย็นต้องลุกขึ้นมาไอ""ถ้าเช่นนั้น ข้าจะให้คน
เมื่อทั้งคู่มาถึงร้านบะหมี่ ก็นั่งลงเจ้าของร้านเป็นชายชราท่าทางใจดีคนนึงเด็กสาวที่อยู่ข้างๆคงเป็นหลานสาว นางทำงานคล่องแคล่วเพียงพริบตาก็จัดร้านเรียบร้อยซ่งจื่อหรูนั่งลงสั่งบะหมี่ทันที"ท่านตาเอาบะหมี่เนื้อสองชาม ขอไข่ดาวด้วยนะเจ้าคะ""อ้อๆๆ ได้ๆๆๆ อาหลิงเอ๊ยต้อนรับลูกค้าหน่อยเร็วๆเข้า"ชายชรารับคำก่อนจะหันไปสั่งเด็กน้อยที่ช่วยงานอยู่"เจ้าค่ะท่านปู่ พี่ชาย พี่สาวสวัสดีเจ้าค่ะรับน้ำชาแล้วรอบะหมี่สักครู่นะเจ้าคะ"เด็กน้อยเจื้อยแจ้วก่อนจะรินชาใส่ชามสองใบส่งให้ทั้งคู่ คนเริ่มพลุกพล่านร้านค้าเริ่มร้องตะโกนขายของ"บะหมี่มาแล้วเจ้าค่ะทานให้อร่อยนะเจ้าคะ ลูกค้าสามท่านต้องการรับอะไรดีเจ้าคะ"เด็กน้องยกบะหมี่มาวางจากนั้นก็รีบวิ่งไปรับรองอีกโต๊ะ บนใบหน้ามีแต่รอยยิ้มหญิงชราคนนึงกำลังล้างผักอยู่ใกล้ๆคงจะเป็นย่าของเด็กน้อย ซ่งจื่อหรูหันหลังไปมองตามเด็กน้อยไป ทันใดก็เห็นสตรีคนที่ใส่หมวกคลุมผ้าเลิกผ้าขึ้นพร้อมกับยกน้ำชาขึ้นดื่มซ่งจื่อหรูตัวชา ไม่ใช่แค่เหมือนแน่ๆแต่ว่าเป็นคนๆเดียวกันชัดเจน นางไม่มีคู่แฝดเป็นลูกคนเดียว ซ่งจื่อหรูอยู่ในภวังค์จนไม่ได้ยินเสียงหลี่เหิงเรียก"น้องสี่ น้องสี่ น้องสี่ เจ้าเป็น
นางจึงหันหลังกลับจากนั้นก็ไปเลือกร้านอื่น เดินมาสักพักจนเจอร้านในตรอกเล็กมีป้ายเขียนง่ายๆว่า จินปู่เตี้ยน ร้านผ้าของสกุลจินเดินเข้ามาก็เจอสตรีวัยสามสิบปีลายๆลุกขึ้นมาต้อนรับ"แม่หนู เจ้ากำลังหาสิ่งใดกัน ให้ข้าช่วยดีหรือไม่"จินเหนียงทักทายเด็กสาวตรงหน้านางไม่เคยตัดสินใครจากการแต่งตัว"เถ้าแก่เนี้ย ข้าอยากได้ชุดสำเร็จเจ้าค่ะ ของเด็กผู้ชายสามขวบกว่ากับเด็กผู้หญิงห้าขวบกว่า""มาถูกร้านแล้ว นี่เป็นเนื้อผ้าธรรมดาราคาชุดละ70อีแปะ ถูกมากแล้วปกติข้าขาย90อีแปะเชียวนะ แต่เห็นการแต่งตัวของเจ้าแล้ว คิดว่าคงมีใจซื้อจริงจึงลดให้ อย่าคิดว่าข้าดูถูกเจ้าล่ะ""งั้นของเด็กผู้ชายข้าขอสองชุด สีฟ้ากับสีน้ำเงิน ส่วนของเด็กผู้หญิง เอาสีชมพูกับสีเหลืองเจ้าค่ะ""แล้วของเจ้าล่ะ ถ้าเอาข้าคิดราคาเดียวกัน ปกติขนาดตัวเท่าเจ้าอยู่ที่ชุดล่ะ100อีแปะ""เถ้าแก่เนี้ย ท่านรับงานปักหรือไม่เจ้าคะ""เฮ้อ พูดก็พูดเถอะ เมื่อก่อนคุณหนูอวี้เซียนดูแลฮวาเหยียนนางมีน้ใจนักไม่เคยกดหัวร้านเล็กอย่างพวกเราเลย พอคุณหนูอวี้เซียนถูกปลดให้ไปดูแลร้านเบ็ดเตล็ดที่กำลังจะขาดทุน ได้ข่าวว่าหากภายในสิ้นปียังทำกำไรไม่ได้จะให้นางแต่งไปอยู่เป่ยเหลียง
เพิ่งเข้าตำบลครั้งแรกก็ลืมนั่นลืมนี่จึงเดินกลับไปยังร้านข้าสารอีกรอบ เถ้าแก่เห็นว่าก่อนหน้านางซื้อของเยอะจึงต้อนรับดีกว่าเดิม"แม่นางน้อย เจ้าลืมซื้อสิ่งใดรึ หากร้านข้ามีย่อมขายให้ราคาย่อมเยาว์""เถ้าแก่ ข้าลืมซื้อน้ำตาลเจ้าค่ะ ช้าซื้อของเยอะเกินไป หากลืมน้ำตาลคงแย่ อีกหน่อยพวกเขาคงไม่จ้างข้าเข้าเมืองอีก""อ้อ ที่แท้เจ้าก็รับจ้างคนในหมู่บ้านหรอกรึ เอาน้ำตาลอะไรข้าจะจัดหาให้ จะคิดเจ้าถูกลงหน่อยให้เจ้าได้กำไรบ้าง""น้ำตาลทรายขาว5ชั่ง น้ำตาลทรายแดง3ชั่ง น้ำตาลกรวด 3ชั่งเจ้าค่ะ""น้ำตาลทรายขาวชั่งละ35อีแปะ น้ำตาลทรายแดง25อีแปะน้ำตาลกรวด30อีแปะทั้งหมดเป็น340อีแปะ คิดเจ้า330อีแปะเจ้าจะได้กำไรจากค่าเหนื่อยเอาส่วนต่างไว้นั่งเกวียนกลับบ้าน""ขอบคุณเจ้าค่ะ วันหลังหากมีคนต้องการซื้อของข้าจะมาร้านท่านนะเจ้าคะ เถ้าแก่ท่านรับซื้อของจากข้างนอกหรือไม่เจ้าคะ""ต้องดูก่อนว่าเป็นอะไรหากมีก็นำมาขายได้ ข้าแซ่เหลียงชื่อเว่ยอู่""ข้าแซ่ซ่งชื่อจื่อหรูเจ้าค่ะ ข้าอยู่หมู่บ้านหลี่ซาน""อ้อ หลี่ซ่งเหวินที่ทำงานอยู่ที่ว่าการมักมาซื้อของข้าไปขายบ่อยๆ พวกเจ้ามาจากที่หมู่บ้านเดียวกัน""ใช่เจ้าค่ะ เขาเป็นท่านลุงของข้
"พี่ใหญ่ ท่านแต่งออกมาแล้วจะยุ่งทำไม ข้าต้องมาตามหาสามีข้า นังเด็กแพศยาออกมาเดี๋ยวนี้นะ เจ้าเอาสามีพวกข้าไปซ่อนไว้ที่ไหน โอ๊ย พี่ใหญ่ท่านกล้าตีข้าหรือ" สะใภ้หวังทั้งสองไม่ให้ความสำคัญกับพี่สามีคนนี้จึงเยาะเย้ยดูถูกหวังซื่อตบพวกนางทันทีผัวะๆๆตุบตับๆ ใครจะคิดว่าหวังซื่อจะตบตีน้องสะใภ้ ทั้งสามชุนละมุนหลี่ม่านอวี้วิ่งมาถึงก็เข้าช่วยมารดาตนจนถูกคนโตกว่าตบตีจนร้องไห้ ชาวบ้านที่เป็นสตรีก็วุ่นวายแยกทั้งสามออกจากกัน"เห็นไหมเจ้าทำอะไรลงไป นังซ่งจื่อหรูหากไม่ใช่เจ้าไปยั่วยวยคนเขาจะมาถึงที่หรือ" หลี่อ้ายเสิ่นชี้หน้าด่า"ข้าไม่เชื่อว่าเป็นนาง หึเจ้าคงไม่ลืมเรื่องปลดภรรยาของอาไหลฝูหรอกนะ หากกล่าวเหลวไหลระวังมารดาเจ้าจะถูกปลด" ป้าสะใภ้หกชี้หน้าหลี่อ้ายเสิ่น"ใช่ๆๆๆ"หลายเสียงก็สนับสนุน พวกเขาไม่ชอบเด็กอ้ายเสิ่นคนนี้จริงๆ ไม่รู้ว่าแม่เฒ่าหลี่เลี้ยงบุตรสาวอย่างไร พฤติกรรมน่ารังเกียจนัก"ใช่จื่อหรูของพวกเรา ถูกนังปีศาจเฒ่านั่นตี จนปางตายยังหอบสังขารไปหาอาหารแถมยังไม่หวงยังคิดแบ่งปันเสบียงผู้อื่นอีก""หลี่อ้ายเสิ่นคนบ้านเจ้านอกจากหาเรื่องยังสร้างประโยชน์อะไรบ้าง"ชาวบ้านก็เริ่มไม่พอใจตะโกนใส่หน้านางแต
"อะไรนะ บัณฑิตจะไปสถานที่เช่นนั้นได้อย่างไร เมียต้าโจวเรื่องนี้กระทบถึงเด็กคนอื่นในหมู่บ้านนะเจ้าพูดให้ดีๆ" หลี่ฝูเหยาถึงกับหน้าดำเป็นก้นหม้อ ชื่อเสียงหมู่บ้านจะถูกทำลายไม่ได้"ลุงใหญ่ แม่สื่อที่ข้าคุยนางบอกข้าเอง นางบอกว่าสกุลไป๋ทางนั้นไม่ต้องการหมั้นหมาย แล้วฮือๆข้าลำบากเพื่ออะไร ลูกข้าคัดหนังสือจนมือไร้เรี่ยวแรง อาของเขากลับเอาเปรียบถึงเพียงนี้ เงินที่ข้าส่งไปกลับไม่ถึงมือ ฮือๆๆ""อีสารเลว เจ้าเป็นสะใภ้แบบไหนมาข้าจะตีเจ้าให้ตาย เหอะบุตรสาวเจ้ากับเจ้าห้าไม่ช้าก็จะถูกขายแล้ว ข้าไม่สนใจพวกเจ้าหรอก"หลี่อ้ายเสิ่นชี้หน้าด่าพี่สะใภ้คนโต"อาเล็ก ท่านเป็นสตรียังไม่ออกเรือนแสดงท่าทีเช่นนี้สมควรรึ ท่านอยากเป็นฮูหยินแต่กิริยาที่ท่านทำยังเทียบไม่ได้กับสาวใช้เลย หากท่านย่ากล้าขายน้องสาวข้าไปก็ไม่จำเป็นต้องกตัญญูอีกต่อไป"หลี่หานกางแขนป้องมารดาเอ่ยพร้อมกับมองเหยียดอาสาว"นี่พวกเจ้าสองคนมาทำอะไรอยู่ที่นี่ สามีพวกเจ้าถูกคนคุมบ่อนตีจนขาหักตอนนี้ถูกหามกลับมาที่บ้านแล้ว" ชาวบ้านหมู่บ้านเถาซานวิ่งมาตามสะใภ้แซ่หวังมั้งสองคน" เสียเวลาข้ามากแล้ว ก่อนจะไปจ่ายมาคนละแปดตำลึงยกเว้นป้าใหญ่ นางเสียหายพอแล้ว ข้
ซ่งจื่อหรูเดินไปทางหลังบ้านก็เห็นบรรดาท่านป้าดายหญ้าที่สูงเกือบเท่าตัวคนจนเกือบเสร็จ มองเห็นเหล่าพืชต้นเล็กๆ มีผลยาวสีเขียวสีแดง โอ้สวรรค์จ๋า มีพริก มีฟักทอง ต้นกระเทียม ถึงแม้จะขึ้นกระจัดกระจายแต่ก็เยอะพอควร ที่ตอนแรกไม่เห็นเพราะตอนนั้นสำรวจแต่ภูเขากับบริเวณบึงบัว ที่จริงบ้านนี้มีของดีไม่น้อย"ท่านป้า...ตรงนั้นไม่ต้องถางเจ้าค่ะ""เอ๋ ทำไมรึจื่อหรู หญ้าพวกนี้ถางไปเดี๋ยวก็ขึ้นอีกต้องขุดรากออก""ไม่ใช่เจ้าค่ะมันกินได้ ต้นนั้นเรียกว่าพริก ที่เลื้อยๆเรียกว่าฟักทองเจ้าค่ะ ส่วนนั่นต้นกระเทียมป่า ริมน้ำนั่นคือเผือกเจ้าค่ะ พวกท่านช่วยเก็บเจ้าลูกเขียวๆแดงๆให้ข้าสักหน่อย มื้อกลางวันข้าจะทำอาหารที่พวกท่านไม่เคยกินให้ชิมเจ้าค่ะ""เอ่อ จื่อหรูลุงหกถางเจ้าฟักทองนั่นเยอะเชียว กินได้จริงๆหรือ ""ท่านลุงเก็บลูกที่ถางไปแล้วไว้ให้ข้าเถอะเจ้าค่ะ กินได้หรือไม่เดี๋ยวก็รู้"แม้ไม่แน่ใจแต่ทุกคนก็พร้อมใจกันเก็บให้นาง อย่างไรเลยหากเด็กคนนี้บอกว่ากินได้ มีอาหารเพิ่มใครจะไม่เอากัน ซ่งจื่อหรูนำตับหมูออกมาหนึ่งพวงก่อนจะหั่นเป็นชิ้นไม่หนาไม่บาง จากนั้นก็คลุกด้วยขิงกับเหล้าเหลือง"ให้ตายเถอะกลัวไม่มีข้าวกิน ลืมซื้อแ
เมื่อมาถึงก็เหลือแค่เก็บกวาดก็เสร็จ ตอนนี้พื้นที่ๆเคยมีวัชพืชรกเต็มไปหมด กลายเป็นพื้นที่โล่ง รั้วทั้งสี่ด้านล้อมเสร็จแล้ว หินมากมายถูกกองไว้ ต้นหลิวขนาดใหญ่ถูกเลื่อยกิ่งที่ยื่นออกไปด้านนอก เพื่อป้องกันคนจะปีนเข้ามา เดิมทีหลี่ฝูเหยาต้องการโค่นออกเพื่อให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น แต่นางบอกจะเก็บไว้เป็นร่มเงาให้น้องๆนั่งเล่น"เจ้าสี่มาแล้วรึ"หลี่ฝูเหยาเอ่ยถาม"แม่หนูสี่เข้าอยากถามเจ้าว่าจะแบ่งปันอย่างไรดี เรื่องมันเทศเหล่านั้น" ผู้นำหมู่บ้านไป๋ซานเอ่ยขึ้น"อืมให้ผู้ชายขุดมันเทศ ผู้หญิงเก็บเกาลัด เด็กๆที่พอใช้งานได้ ก็ให้รับหน้าที่ขนลงเขา เอามารวมที่ลานต้นไหวปากทางเชื่อมสามหมู่บ้านนั่นแหละเจ้าค่ะ""จริงด้วยแม่หนูสี่ ไอ้ที่เจ้าเรียกว่าพริกนั้น กินแล้วอยากกินอีกถึงจะทำให้ข้าร้องไห้ก็เถอะ" ชาวบ้านยังคิดถึงรสชาตินั้นจึงเอ่ยถาม"พริกช่วยให้เจริญอาหาร ขับเหงื่อ ขับลมได้เจ้าค่ะ ข้าเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้หากเพาะแล้วขยายพันธุ์ได้ พวกเราก็มีอาหารเพิ่ม จริงสิ บ้านข้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่รบกวนทุกท่านจนเกินไป ช่วยไปซ่อมแซมบ้านปู่เก้าให้สักหน่อยได้ไหมเจ้าคะ"ซ่งจื่อหรูเอ่ยแก่คนที่มาช่วยงาน"เจ้าไปบ้านเจ้าเก้ามา
หลี่เสี่ยวม่านไม่อยู่รอท่านยายตื่นนางเกรงใจไห่เมิ่งหยวน จึงพูดคุยกับป้าสะใภ้ใหญ่ไม่นานก็ขอตัวกลั บ ไห่เมิ่งหยวนพานางกลับแต่ขากลับมาถึงครึ่งทางเขาก็เลี้ยวไปอีกทาง มีเส้นทางเส้นเล็กๆแยกลงไป"ท่านพี่เมิ่งหยวนเราจะไปที่ใดเจ้าคะ" หลี่เสี่ยวม่านเห็นเขาไม่กลับทางเดิมจึงสงสัย" เด็กดีข้าอยากพาเจ้าไปดูอะไรสักหน่อย"ไม่นานทุ่งดอกไม้หลากหลายสีก็ปรากฎอยู่ตรงหน้า หลี่เสี่ยวม่านชอบมันมาก ไห่เมิ่งหยวนอุ้มนางลงจากหลังม้า หลี่เสี่ยวม่านวิ่งเล่นกลางทุ่ง นางอายุเพียงสิบแปดไม่ว่าอย่างไรก็ยังมีความเป็นเด็กสาวหลี่เสี่ยวม่านยืนกางแขนสูดอากาศตรงหน้า ไห่เมิ่งหยวนเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง เขาโอบเอวนางไว้รั้งแผ่นหลังนางเข้าหาตัว หลี่เสี่ยวม่านตกใจเล็กน้อย จนได้ยินเสียงลมหายใจข้างหู เขากระซิบชื่อนางเสียงหวาน" เสี่ยวม่าน ข้ารักเจ้าข้าอยากดูแลเจ้าชั่วชีวิต เจ้ารังเกียจข้าหรือไม่"หลี่เสี่ยวม่านหันกลับมามองหน้าเขา ก่อนจะถามให้แน่ใจ"ท่านพี่เมิ่งหยวน ท่านรักข้าจริงๆหรือ ข้าเป็นสตรีน่าเบื่อมากนะเจ้าคะ นอกจากปรนนิบัติท่านยาย หุงหาอาหารพอได้ ข้าก็ไม่มีความสามารถอะไรเลย"" ข้าต้องการสตรีอ่อนหวาน ยามข้าเหนื่อยมาแค่เห็นหน้
ร่างเล็กๆวิ่งไปแล้วไห่เมิ่งหยวนหลั่งน้ำตาเบาๆ ไว้อาลัยให้กับลูกรักของเขา แต่พอเอ่ยถึงหลี่เสี่ยวม่านไห่เมิ่งหยวนก็เงียบทันที เขาให้ศิษย์รักของเขาซ่งจื่อหรูช่วยเป็นแม่สื่อให้ นางรับปากจะช่วยแต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความจริงใจของเขาด้วยหลี่เสี่ยวม่านมารับยาบำรุงไปให้ท่านยายของนางทุกๆสามวัน เดิมทีเขาสามารถจัดยาบำรุงให้นางได้หลายเทียบแต่เช่นนั้นจะได้เห็นหน้านางในดวงใจบ่อยๆได้อย่างไรเล่า ซ่งจื่อเย่วเรียกอาหญิงเสียงหวานก่อนจะมีขนมเต็มปากวันนี้หลี่เสี่ยวม่านมารับยาแล้วจะเลยไปบ้านท่านยายเลย นางเห็นเขาจึงยิ้มให้รอยยิ้มที่ส่งมาให้เขานั้นช่างงดงามเสียจริง ไห่เมิ่งหยวนยอมรับแล้วว่าว่าเหตุใดเหล่าองค์ชาย องครักษ์ และคุณชายทั้งหลายรวมถึงตัวเขา จึงอยากมาเป็นเขยหมู่บ้านหลี่ซานกันทั้งนั้นไม่มีหมู่บ้านไหนจะรวมเอาบุตรหลานหน้าตาดีและงดงามไว้ได้เท่าที่นี่อีกแล้ว สายเลือดสกุลหลี่ตั้งแต่หลี่ฝูเหยามาจนถึงหลี่เป่าเป่า และบุตรของจิงอี้กับหลี่อ้ายเสิ่นนั้นรูปงามทุกคนสกุลหลี่หมู่บ้านหลี่ซานแห่งนี้กว่าสามร้อยชีวิตไม่มีบุตรหลานขี้เหร่จริงๆซ่งจื่อเย่วกินขนมที่อาหญิงนางเอามาให้ นอกจากพี่ใหญ่ก็มีท่านอาเสี่ยวม่านนี่แหล
จ้าวเฟยหรงเสียงแหบพร่าข้างล่างของเขาทรมานยิ่งนักมันตึงจนแทบจะระเบิด มือหนาละจากดอกบัวงามค่อยๆไต่ลงจนเจอกุหลาบดอกตูม นิ้วเรียวสวยทักทายหยอกล้อกับเกสรจนซ่งจื่อหรูต้องชันเข่าขึ้นให้เขาสำรวจกลีบดอกที่อ่อนนุ่มของนางนิ้วเรียวยาวส่งเข้าไปทักทายในกายสาวจนซ่งจื่อหรูต้องจิกไหล่เขาแน่น อ้าปากหายใจเพื่อลดความหวามรัญจวนที่เขามอบให้ ในที่สุดหน้าท้องแบนราบก็กระตุกเกร็งนางหอบหายใจจ้าวเฟยหรงเลื่อนใบหน้าลงดูดดื่มน้ำหวานที่ผลิออกมาจากกุหลาบแสนสวย ก่อนจะมองร่างงามตรงหน้าด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ซ่งจื่อหรูจับศรีษะเขาแน่นแนบกับกลางความสาวหวีดร้องกระตุกเกร็งอีกครั้งจากนั้นนางก็ช่วยคนตัวโตให้ได้ปลดปล่อย สะโพกแกร่งของจ้าวเฟยหรงเกร็งกระตุกยามที่มือนุ่มนิ่มนั้นเร่งจังหวะให้เขา จนต้องเขาต้องครวญครางเสียงแหบพร่าแล้วฟุบลงบนทรวงอกของนาง ดูดเม้มยอดทับทิมสีหวานของนางเพื่อคลายความเสียวซ่านของตนเองจ้าวเฟยหรงมองหญิงคนรักดวงตาเยิ้มหวาน มือหนากอบกุมทรวงอกสาวเขาอยากชื่นใจอีกรอบแต่ถูกนางดุตีมือเขาแล้วจับออก" พอแล้วท่านพี่ เดี๋ยวก็ใจอ่อนจนได้เลยเถิดกันพอดี ข้ารักท่านจึงอยากเก็บไว้ให้ท่านจนถึงวันที่เราเข้าหอ" ซ่งจื่อหรูประท้วง
เพราะช่วงนี้เพราะการก่อสร้างตำหนักใหม่ของจ้าวอ๋องมำให้บางครั้งจ้าวเฟยหรงต้องไปคุมแทนพระบิดา จ้าวอ๋องเลือกที่ดินเชิงเขาไท่ซานห่างจากตัวตำบลเสียนหยางเพียงหกสิบลี้ เขารู้ดีว่าบุตรชายอยากให้ตำหนักใหม่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านหลี่ซาน เมื่อบุตรชายเขาแต่งงานกับซ่งจื่อหรูการไปกลับเป็นเรื่องง่ายจิงเสวียนเดินทางกลับเมืองหลวงไปได้เกือบปีแล้ว ส่วนซ่งจื่อห่าวนั้นตอนนี้ยังอยู่ที่หมู่บ้านหลี่ซาน เนื่องจากซ่งจื่อหรูทำใจไม่ได้ที่จะให้น้องชายวัยเจ็ดขวบต้องไปเดียวดายที่เมืองหลวงแม้ว่าจะพักที่จวนหาน มีพี่สาวเช่นหลี่ม่านอวี้ดูแลซ่งจื่อหรูก็ยังไม่วางใจ หลี่ม่านอวี้เป็นนายหญิงของจวน นางมีเรื่องต้องจัดการมากมายจึงให้ซ่งจื่อห่าวอยู่ก่อน12เมื่อไหรนางจึงจะปล่อยไปเรือกลไฟสร้างเสร็จแล้วและเริ่มทดลองใช้ เดิมทีขนส่งอาหารพืชพันธุ์เข้าเมืองหลวงต้องใช้เวลาถึงเดือนครึ่ง แต่ตอนนี้เพียงแค่เจ็ดวันคนที่เมืองหลวงก็ได้อาหารสดใหม่แล้ว รถรางติดตั้งในอำเภอต่างๆของเมืองกว่างผิง ไม่มีมูลวัวมูลม้าให้เห็น ม้าและวัวถูกใช้ยามเดินทางไกลหรือต้องขนข้าวของหนักๆซ่งจื่อหรูช่วงนี้ได้เข้าไปในมิติบ่อยขึ้นเพราะชายคนรักบางครั้งต้องค้างคืนที่ตำบ
ทั้งคู่ส่งสายตาฟาดฟันกันอยู่ ไห่เมิ่งหยวนไปที่โรงครัวให้คนงานนำอาหารมาส่งให้สาวๆที่นั่งรออยู่ เขานำสุราสมุนไพรที่หมักเองมาหนึ่งกา ก่อนจะวางลงบนโต๊ะ"คุณหนูจื่อหรู นี่เป็นสุราสมุนไพรที่ข้าเพิ่งจะหมักได้ที่ เห็นท่านบอกว่าอยากลองชิมข้าเลยนำมาให้ เรื่องที่ท่านอยากเรียนวิชาแพทย์จริงจัง หากท่านไม่รังเกียจที่ข้าเคยทำไม่ดีกับท่านก่อนหน้า ข้าก็ยินดีสอน"ไห่เมิ่งหยวนเริ่มชักชวนซ่งจื่อหรูดีใจนางอยากเรียนวิชาแพทย์เคยอ้อนวอนเขามาหลายครั้งแล้ว เมื่อก่อนพอเรียนรู้เล็กน้อยไม่แตกฉาน จึงไม่รู้ว่ากำลังถูกไห่เมิ่งหยวนหลอกนางให้มาอยู่ฝ่ายเขา นางเริ่มกรึ่มๆจึงรินสุราที่เขาเพิ่งให้มา ก่อนจะคุกเข่าลงคาราวะเขาส่งจอกสุราน้ำเสียงอ้อแอ้แต่สติยังรับรู้"ศิษย์ซ่งจื่อหรูคาราวะอาจารย์เจ้าค่ะ วันนี้มีแต่สุราไว้รอฤกษ์งามยามดีข้าจะยกน้ำชากราบท่านอย่างเป็นทางการนะเจ้าคะ"ซ่งจื่อหรูที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้นิดๆ" เด็กดีๆ อาจารย์รับรู้ความตั้งใจเจ้าแล้ว พร้อมเมื่อไหร่ก็มาเริ่มเรียนได้"ไฟเมิ่งหยวนรับจอกเหล้าคาราวะทันทีไหเมิ่งหยวนลูบศรีษะนางเบาๆ ที่จริงเขาเอ็นดูเด็กคนนี่มานานตั้งแต่เรื่องราวยังไม่พัวพันขนาดนี้ ไม่คิดว่าวันน
เพราะต้องเตรียมงานแต่งซ่งจื่อหรูจึงให้คนงานหยุดเจ็ดวันเพื่อให้พวกเขาได้พักผ่อนแต่ยังคงจ่ายค่าแรงให้ทุกคนดีใจ ตลาดหลี่ซานที่ตั้งชื่อตามชื่อหมู่บ้าน คึกคักเพราะคนมาหาซื้อสินค้าเนื่องจากเป็นตลาดโต้รุ่ง แม้จะกลางคืนก็ไม่เงียบเหงาแสงจากต้นเหมันต์ส่องสว่างตามทางเดิน โคมไฟประดับประดาทั่วทั้งสามหมู่บ้าน เมืองหลวงยังไม่คึกคักเท่านี้เลย เพราะซ่งจื่อหรูชอบหิวตอนดึก ตลาดนี้จึงขายทั้งกลางวันและกลางคืนซ่งจื่อหรูนอนไม่หลับยืนมองลงไปยังโรงทอผ้าความทรงจำบางอย่างเหมือนหายไป จำได้แค่ว่าคุณปู่มาบอกลาและอวิ่นห่าวมาหาครั้งสุดท้ายตอนนั้นเขาอายุสี่สิบแล้วบุตรสาวคนโตอยู่ชั้นมัธยมใบหน้าคล้ายกับนางตอนอยู่มัธยมเช่นกันส่วนคนเล็กเหมือนแม่ซ่งจื่อหรูมาอยู่ที่นี่อีกไม่กี่วันก็ครบสามปี ผ่านเรื่องราวมากมายแต่เหมือนเรื่องราวบางอย่างอยู่ๆก็เหมือนกับค่อยๆหายไปจากความทรงจำบางครั้งก็เหมือนจะเลือนลางจากนั้นก็นึกไม่ออกอีกเลยจ้าวเฟยหรงเห็นคนรักยืนมองเหม่อไปยังที่บ้านเก่าจึงเดินมากอดนาง เขาจับไหล่นางหันกลับมาก่อนจะจุมพิตอ้อยอิ่งอยู่นานจึงถอนริมฝีปาก ซ่งจื่อหรูกอดเอวหนาไว้ซบหน้ากับอกกว้าง"เป็นอะไรไปเด็กดี ข้าเห็นเจ้ายืนนิ่ง
ไห่เมิ่งหยวนสะบัดแขนเสื้อแล้วหันหลังเตรียมเดินจากไป สายตาเขาเห็นสตรีนางหนึ่งแต่กายด้วยกระโปรงสีเขียวอ่อน ทำผมทรงมวยต่ำปล่อยผมครึ่งศรีษะ ปักด้วยปิ่นผีเสื้อ มีกระดิ่งเงินลูกเล็กๆห้อยตรงปลาย เวลาก้าวเดินเสียงดังกรุ๊งกริ๊งกำลังเดินมาทางเขาไห่เมิ่งหยวน มองร่างบางระหงกำลังเดินใกล้เข้ามา นางเป็นใครกันเหตุใดถึงไม่เคยเห็นนางช่างงดงาม หลี่เสี่ยวม่านที่กำลังเดินมาทางศาลาเจอกับไห่เมิ่งหยวนนางจึงยิ้มให้แล้วค้อมศรีษะเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปในศาลาได้ยินเสียงหวานนั่นเรียกหาบิดา"เสี่ยวม่านถวายพระพรท่านอ๋อง คาราวะซื่อจื่อ ลูกคาราวะท่านพ่อ ท่านอารอง พี่รอง และใต้เท้าเซี่ยเจ้าค่ะ"หลี่เสี่ยวม่านเคารพทุกคนที่อยู่ในศาลา"เจ้าเล็ก กลับมาแล้วหรือท่านยายเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"หลี่ฝูเหยาทักทายบุตรสาว"ท่านยายทานข้าวได้เยอะแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านแม่นางขออยู่เป็นเพื่อนท่านยายก่อน ท่านแม่เกรงว่าไม่อยู่บ้านนานๆ ท่านพ่อเองก็งานยุ่งจึงให้ลูกกลับมาช่วยงานพี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้รองกำลังตั้งครรภ์ต้องระวังการลุกนั่งเจ้าค่ะ""เสี่ยวม่านเอ๊ยลำบากเจ้าแล้ว แม่เจ้าจะกลับมางานแต่งม่านอวี้หรือไม่"หลี่เสี่ยวม่านเดินไปประคองบิดาให้
ซ่งจื่อหรู หลี่ไหลฝู หลี่ฝูเหยา จ้าวอ๋องเซี่ยหนานอินและหลี่ซ่งเต๋อที่กำลังปรึกษาเรื่องสั่งงานให้คนงานประกอบชิ้นส่วนของเรือ ซ่งจื่อหรูให้ท่านปู่ของนางสร้างศาลากลางบึงบัวเป็นศาลากว้างถึงสี่จั้งยาวแปดจั้ง(กว้าง10ม.ยาว20ม.โดยประมาณ)สร้างโต๊ะประชุมกว้างหนึ่งจั้งยาวสามจั้งเอาไว้ประชุมงานสำคัญแบบแปลนเรือกางอยู่บนโต๊ะจ้าวเฟยหรงพาจิงอี้กับจิงเสวียนไปคุมการต่อเรือ ซ่งจื่อหรูต้องการสร้างเรือสามแบบ แบบที่หนึ่งขนาดกลางสำหรับครอบครัวใหญ่ไว้ท่องเที่ยวพักผ่อน ขนาดใหญ่มีโกดังสำหรับพ่อค้าที่ต้งการเดินทางๆเรือเพื่อค้าขายต่างแดน และขนาดใหญ่สำหรับกองทัพ ซ่งจื่อหรูจะติดอาวุธให้เรือด้วย"ลูกสะใภ้ เรือที่เจ้าสร้างออกมาหากสำเร็จจะขายอย่างไร"จ้าวอ๋องที่ตอนนี้เรียกซ่งจื่อหรูว่าลูกสะใภ้ทูกคำ ใครจะกล้าคัดค้านพวกเขากัน สองพ่อลูกสกุลจ้าวนี้นอกจากวรยุทธที่เหนือคนอื่นยังมีความหน้าด้านอีกด้วยที่ไม่มีใครเปรียบได้" ลำเล็กสำหรับครอบครองในครัวเรือนได้ ลูกว่าลำละห้าแสนตำลึงกำลังดีเพคะ ลำใหญ่สำหรับกลุ่มการค้าสักสองล้านห้าหมื่นตำลึง ส่วนเรือที่ขายให้กองทัพลูกจะติดอาวุธให้ด้วย ลำละห้าล้านตำลึง ห้าล้านตำลึงถ้าเทียบกับการที่จ
จ้าวเฟยหรงนอนกอดร่างระหงอย่างหวงแหน ซ่งจื่อหรูกับซ่งจื่อเย่วยิ่งโตเป็นสาวยิ่งงดงามเปรียบดังดอกไม้งามเมืองกว่างผิงเลยทีเดียว ทั้งคู่นอนหลับจนนางรู้สึกมีมือหยาบกร้านมาลูบผม ซ่งจื่อหรูรู้สึกตัวจึงลืมตา พอเห็นคนที่ปรากฏตรงหน้าก็ลุกขึ้นทันทีสวมกอดแล้วร้องไห้"เหลียนฮวาหนูร้องไห้ทำไมกัน บอกปู่สิ"ส่งฮั่นเหลียงลูบหลังหลานสาว"คุณปู่คะ คุณปู่มาหาหนูสักทีอวิ่นห่าวเขามาไม่ได้อีกแล้ว หนูอยู่ที่นี่คิดถึงทุกคน""เหลียนฮวา ไปคุยกับปู่ข้างนอกเถอะ"ซ่งจื่อหรูหันไปมองคนที่นอนหลับข้างๆ หันกลับมามองหน้าปู่ของนาง"มาเถอะเขาไม่ตื่นหรอก"ซ่งฮั่นเหลียงบอกนางซ่งจื่อหรูจึงลุดเดินตามซ่งฮั่นเหลียงออกไป ทั้งคู่ยืนอยู่ริมระเบียงทอดมองลงมาที่โรงทอผ้าที่ก่อนหน้าเคยเป็นบ้านนางมาก่อนและเป็นสถานที่ๆเกิดเรื่องราว"คุณปู่คะ ทำไมตราประทับนั่งถึงเลือกหนู สกุลเฟิ่งผ่านมาหลายรุ่นเหตุใดต้องเป็นหนูที่มาแก้ไข""เดิมทีไข่มุกจันทราไม่ใช่ของดี ตั้งแต่ฮั่นอู๋ตี้ได้มันมาก็เริ่มเปลี่ยนไป โหดร้ายไล่ฆ่าคนไม่เลือกแม้กระทั่งบุตรตนเอง แต่ไข่มุกก็เสริมพลังอำนาจให้แก่เขา ตำหนักเทพในตอนนั้นออกอุบายให้เขาสร้างสุสานและบอกวิธีคืนชีพหลังจากตาย ค