ซ่งจื่อหรูบอกท่านปู่เก้าว่านางวางโจ๊กไว้ที่ไหน อย่าลืมให้อาไช่กินและกินทีละน้อย มีไข่4ฟองช่วงนี้นางอาจจะยุ่งนิดหน่อยให้ต้มไข่กับมันเทศกินไปก่อน
เมื่อถึงบ้านก็เห็นซ่งจื่อเย่วกับซ่งจื่อห่าวช่วยกันกวาดลานหน้าบ้าน ช่างเป็นเด็กรู้ความจริง
"หิวแล้วสิ มากินโจ๊กกันเถอะ วันนี้พี่ต้มโจ๊กเกาลัดด้วย กินมากหน่อยจะได้ตัวสูงๆ"
"พี่ใหญ่ พี่อาไช่จะตายไหมเจ้าคะ ข้าได้ยินคนพูดว่าพี่อาไช่ป่วยจนจะไม่ไหวแล้ว"ซ่งจื่อเย่วรู้ว่าเขาป่วยหลี่อาไช่เคยเลี้ยงนางกับจื่อห่าวเวลาที่ท่านแม่กับพี่สาวไปรับจ้างซ่งจื่อหรุจึงบอกนาง
"พี่อาไช่จะไม่ตายหรอก....เขาเป็นเด็กดีกตัญญูยิ่งนักเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแน่ๆ"
แต่ละปีมีเด็กไม่น้อยที่จากไปก่อนวัยอันควรเพราความอดอยากหิวโหย ทารกบางคนถูกโยนทิ้งบนเขามิใช่เพราะบิดามารดาไม่รัก หากแต่สถานการณ์บังคับให้เป็นเช่นนี้ บ้านไหนมีลูกมากก็ขายลูกขายหลานให้กับบ้านขุนนางหรือบ้านเศรษฐีพวกเขาคิดว่าอย่างน้อยก็มีเสื้อผ้าใส่มีข้าวให้กิน
นี่เป็นความเข้าใจของชาวบ้านว่าลูกไปจะมีชีวิตที่ดีขึ้นแต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นไปเสียทั้งหมด บางคนถูกนายจ้างทารุนอนุบางคนถูกขายต่อ จนราชสำนักต้องออกกฎหมายห้ามซื้อขายคนที่มีทะเบียนราษฎร์ กลางยามเฉิน( 07.00-08.59) หลังจากที่กินมื้อเช้าเรียบร้อย ซ่งจื่อหรูก็หยิบมีดมาเหลาปลายไม้ไผ่จน จุดกองไฟจากนั้นนำปลายแหลมนำมาลนไฟใช้หินขัดจนเกิดความคม อีกครึ่งชั่วยามชาวบ้านก็พากันมา มีหลี่ฝูเหยาผู้นำของหมู่บ้านเดินนำหน้า
"ตื่นแต่เช้าเชียว เจ้าสี่ปู่ใหญ่ยังคิดว่าเช้าเกินไปหรือไม่ "
"สวัสดีเจ้าค่ะท่านปู่ใหญ่ สวัสดีท่านลุงและท่านอาทุกท่านเจ้าค่ะ ไม่เช้าไปหรอกเจ้าค่ะเวลานี้กำลังดี"
"สวัสดีขอรับ/เจ้าค่ะ"
ซ่งจื่อเย่วและซ่งจื่อห่าวคำนับผุ้อาวุโสทั้งหลายพร้อมกัน เมื่อทักทายเสร็จก็ลงมือทำงานโดยเริ่มจากถางหญ้าและเถาวัลย์ที่เลื้อยอยู่บนไม้ไผ่ท่อนเดิมที่ผุพัง
ส่วนซ่งจื่อหรูรับหน้าที่ดายหญ้าบริเวณบ้านตอนสำรวจไม่ได้แหวกดูมาตอนนี้พบของดีมากมาย แม่เจ้าแถวนี้เคยเป็นภูเขาไฟมาก่อนนี่มันดินภูเขาไฟ ดูท่าคงเคยเกิดดินถล่มจึงมีก้อนหินกระจายทั่วบริเวณถ้ากำจัดก้อนหินเหล่านี้หมดนี่มันสวรรค์ของเกษตรกรเลยนะ ซ่งจื่อหรูยืนยิ้มจนตาหยีฮั่วเฟยหรงที่เพิ่งมาถึงเห็นเข้าก็ถึงกับชะงัก ช่างเป็นรอยยิ้มที่สดใสเสียจริงๆ เจ้าตัวยุ่งขนาดชีวิตลำบากเจ้ายังยิ้มได้
ทุกคนลงมือกันอย่างแข็งขันใครมีหน้าที่รื้อก็รื้อใครมีหน้าที่ขุดก็ขุด เพียงไม่นานก็รื้อรั้วเก่าและฟันเถาวัลย์จนเกลี้ยงเหลือแค่ถากหญ้าบริเวณรอบๆบ้าน ขุดเป็นร่องลึกประมาน30ชุ่น(30นิ้ว) ระหว่างที่ขนต้นไผ่ที่ตัดท่อนก็สังเกตุเห็นปลายด้านบนถูกเหลาจนแหลม ซ้ำยังมีรอยเหมือนกับลนไฟไว้จึงอดสงสัยและถามไถ่ไม่ได้
"จื่อหรูเอ๊ย เหตุใดจึงเหลาปลายแหลมเพียงนี้แล้วนี้เจ้าเอาไฟเผารึ"ลุงหกเอ่ยถามหลังจากเห้นท่อนไม้ไผ่ที่หลาวจนแหลมและถุกลนไฟที่ปลาย
"ท่านลุงหก ที่ลนไฟเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความแหลมคมของปลายเจ้าค่ะ หากมีคนอยากปีนรั้วเข้ามาด้านแหลมของมันจะป้องกันได้เจ้าค่ะ"
"ดีๆ จื่อหรูสมกับเป็นลูกหลานช่างไม้เสียจริงๆ หลี่ไหลฝูกับตาเฒ่าซ่งจื่อหยางคงตายตาหลับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
หลี่ฝูเหยาดีใจเงยหน้าขึ้นฟ้าหัวเราะดังลั่นใครว่าเด็กผู้หญิงไม่ได้เรื่อง นี่ไงนางคือหลานของเขาแม้จะเป็นหลานของน้องชายแต่ก็สกุลหลี่มิใช่หรือ
"จื่อหรู หากปู่เจ้ากลับมาปู่ใหญ่จะให้เจ้ากลับมาใช้แซ่หลี่ตามเดิม ตอนที่ย่าเจ้าสั่งให้แม่เจ้าเปลี่ยนแซ่หากข้ารู้สักนิด ข้าจะคัดค้านวันนั้นต้องโทษปู่ใหญ่ที่ไม่อยู่ตอนเกิดเรื่อง"
ซ่งจื่อหรูชอบท่านปู่ใหญ่และท่านลุงท่านอาในสกุลหลี่ แต่หากวันนึงนางเกิดก้าวหน้าก็ไม่ต้องการให้บ้านใหญ่ได้ประโยชน์ นางรู้ดีว่าตนเองต้องก้าวหน้ากว่านี้แน่ๆ นางเป็นใครผู้จัดการใหญ่ที่ครอบคลุมเครือข่ายอุปโภคบริโภคเชียวนะ แค่แคว้นเล็กๆนางจะผงาดไม่ได้เชียวหรือ ขณะที่ซ่งจื่อหรูกำลังคิดก็ได้ยินเสียงน้องชายตัวน้อยกล่าวขึ้น
"ท่านปู่ใหญ่ขอรับ ท่านตาของพวกเราไร้ญาติขาดมิตร แม้แต่ตอนจากไปพวกเรายังมิอาจส่งท่านตาได้ สกุลหลี่ไม่ไร้คนสืบสกุลแต่สกุลซ่งเหลือเพียงพวกเราแล้วขอรับ"
ทุกคนอ้าปากค้าง ว่าไปแล้วเหตุผลนี้ใช่ว่าฟังไม่ขึ้นที่นี่ทุกคนล้วนแซ่หลี่ มีเพียงหูต้าเปียว ฮั่วหย่ง ซ่งจื่อหยาง ที่มาจากที่อื่นเป็นคนต่างแซ่เท่านั้นซ่งจื่อหรูกดไลค์ให้เจ้าตัวน้อยจนนิ้วล๊อค ฮ่าๆๆๆ น้องพี่ฉลาดเหมือนพี่จริงๆ
"ตระกูลซ่งเหตุใดถึงวาสนาดีเพียงนี้กัน" ชาวบ้านเอ่ยอย่างเสียดายพวกเขาแซ่หลี่ก้อยากได้ลูกหลานแซ่หลี่ที่ฉลาด นึกๆไปก็ยิ่งรังเกียจนางเฉินภรรยาของอารองหลี่ไหลฝูคนนั้น นางช่างโง่งมไม่รู้ว่าอารองแต่งสตรีเช่นนี้เข้าสกุลได้อย่างไร อยากขับไล่เสียจริงๆติดแต่ว่าหลี่ฝูเหยาผู้นำตระกูลตอนนี้และยังเป็นพี่สามีหญิงใจร้ายคนนั้นด้วย
ทุกคนจึงพยักหน้า ซ่งจื่อหรูลูบหัวน้องชายเบาๆนางยิ้มให้ซ่งจื่อเย่วกอดเอวพี่สาวไว้ ทุกคนที่เห็นภาพนี้ล้วนน้ำตาคลอแม้แต่ชายอกสามศอกก็มีมิอาจกลั้น
"ทำงานต่อเถอะ จะได้เสร็จไวๆหากฝนหยุดน้ำลดสัตว์ป่าบนเขาเทียนซานอาจข้ามลำธารมาได้ทุกเมื่อ"
หลี่ฝูงเหยาสั่งงานต่อ ซ่งจื่อหรูอธิบาย ให้ทำแบบปักเสาห่างกัน2จั้งตีแนวกั้นด้วยต้นไผ่ยาว ระยะทางช่อง6ฉื่อได้4ช่องจากนั้นนำท่อนไผ่มาขัดสลับฟันปลาเริ่มจากด้านบน ลงมาจนถึงร่องที่ขุดไว้ไม้ที่ตัดเมื่อวานไม่พอจึงต้องตัดเพิ่ม ซ่งจื่อหรูละจากงานตรงหน้าเดินเข้าไปในบ้านเริ่มก่อไฟนำกรวดละเอียดที่ร่อนในลำธารไว้เมื่อวานและล้างไว้จนสะอาดใส่ในกะทะพอเริ่มร้อนใส่เกาลัดลงไปคั่ว ใต้เตาใส่หัวมันเทศเอาไว้เพียงครึ่งชั่วยามเกาลัดคั่วก็ส่งกลิ่นไปถึงด้านนอก
"แม่หนูจื่อหรูทำอะไรนั่นหอมเสียจริง"ชาวบ้านได้กลิ่นหอมจึงมองหน้ากัน
"พวกเราเอาอาหารมาเอง รีบกินเถอะจะได้ทำงานต่อ เด็กสามคนนั่นมีกินก็ดีแล้ว"
ฮั่วเฟยหรงเข้าไปเพื่อช่วยนางนางถกแขนเสื้อร่อนทรายออกจากเกาะลัด รอยสักนั้นหายไปแล้วฮั่วเฟยหรงลังเลอยู่ครู่นึงซ่งจื่อหนูเห็นเขาเงียบไม่พูดจึงเอ่ยปากถาม
"พี่หรง ท่านดูแปลกไปนะวันนี้ มีอะไรจะพูดกับข้าหรือไม่เจ้าคะ"
"เจ้าตัวยุ่ง...ข้าขอถามอะไรสักหน่อยเจ้าเคยได้ยินเรื่องตระกูลเฟิ่งหรือไม่"
"เหมือนจะไม่เคยได้ยินนะ ท่านมีคนรู้จักหรือว่าญาติพี่น้องอยากหาข่าวคราวหรือเจ้าคะ"
"อืม..สหายท่านพ่อนะ ครั้งสุดท้ายหลายปีก่อนได้ยินว่าเคยอาศัยอยู่แถวตำบล"
"พี่ชาย...วันๆนอกจากไปส่งงานปักให้ท่านแม่ก็ไม่เคยไปไหน พอท่านแม่จากไปข้าก็รับผ้าปักน้อยลงเพราะต้องประหยัดเทียนประหยัดน้ำมันตะเกียง สุดท้ายเรื่องเข้าตำบลแทบเป็นไปไม่ได้เลยเจ้าค่ะนานๆครั้งจะได้ไป อีกอย่างข้าไม่ยากทิ้งน้องๆ ฝากป้าหูบ่อยๆก็เกรงใจนาง ล่าสุดไปส่งงานแต่ทางร้านมีปัญหาเรื่องหาคนดูแลร้านใหม่จึงไม่ได้ให้งานมา หากครั้งหน้ามีโอกาสเข้าเมืองข้าจะลองถามไถ่ให้นะเจ้าคะ"
"อืม..ช่างเถอะไม่สำคัญหรอกพบก็ดีไม่พบก็ช่างยกของเหล่านี้ออกไปเถอะเจ้าทำให้พวกเขาไม่ใช่หรือ"
ทั้งคู่ยกหม้อที่ใส่เกาลัดคั่วกับมันเทศเผาออกมา ทุกคนที่กำลังนั่งกินได้กลิ่นหอมถึงกับกลืนน้ำลาย" จื่อหรูหลานยกอะไรมาหรือนั่น กลิ่นหอมเสียจริงเชียว" หลี่ฝูเหยาเอ่ยถามเมื่อเห็นนางยกถาดไม้ออกมา"นี่คือเกาลัดคั่วเจ้าค่ะส่วนนี่มันเทศเผา ท่านปู่ใหญ่ท่านอาและท่านลุงทุกท่านลองชิมสิเจ้าคะ""เฮ้ ท่านหลี่เจิ้งเจ้าสิ่งนี้อร่อยยิ่งนักเมื่อวานนางให้ข้าไปสองหัว ข้าทำตามวิธีของนางให้ยายแก่บ้านข้าปอกแล้วหั่นต้มใส่ข้าวเป็นข้าต้มหวานนักเชียวอีกทั้งอิ่มท้องอีกด้วย""จริงอย่างที่พี่หกพูด พวกข้าก็ได้อร่อยจนลูกๆข้ายังอยากกินอีกเลย"ท่านลุงหกและท่านลุงแปดพยักหน้าบอกกล่าวแก่คนที่มาล้อมรั้วทุกคนก็หยิบกินคนละหัว เนื้อมันละเอียดนุ่มหวานหอมเพราะเป็นสิ่งที่ไม่มีสารปรุงแต่ง ธรรมชาติล้วนๆอีกทั้งบริเวณบ้านนางและภูเขาสองลูกเป็นภูเขาไฟมาก่อนจึงอุดมด้วยสารอาหาร ซ่งจื่อหรูทุบเปลือกเกาลัดออกป้อนซ่งจื่อเย่วและซ่งจื่อห่าว"พี่ใหญ่อร่อยมากเจ้าค่ะ จื่อห่าวอร่อยไหม""กินดีๆระวังติดคอค่อยๆไม่ต้องรีบในบ้านยังมีอีกพี่หรงท่านลองกินดูสักหน่อยเถอะข้าบอกแล้วว่าอร่อย"จื่อห่าวพยักหน้าให้พี่รอง ซ่งจื่อหรูแกะเกาลัดส่งให้ฮั่วเฟยหรง เขามอ
กลางป่าลึก ชายฉกรรจ์กลุ่มนึงกำลังฝึกกันอย่างขะมักเขม้น ฮั่วเฟยหย่งนั่งยู่บนก้อนหิน มองดูการฝึกด้านล่าง"ท่านอ๋อง..ซื่อจื่อเหมือนจะเปลี่ยนไปพะยะค่ะ เวลาที่มองแม่นางซ่งดูเหมือนสายตาจะอ่อนโยนกว่าปกติ" จิงอี้กล่าวแก่ฮั่วเฟยหย่ง"ที่จิงอี้กล่าวมานั้นเป็นความจริงพะย่ะค่ะ กระหม่อมก็เห็นเช่นนั้นวันนี้ยังไปช่วยนางทำรั้ว ตอนเย็นเด็กคนนั้นยังให้ปลามาสามตัวบอกให้ซื่อจื่อทำน้ำแกงให้พระชายาเสวย อีกทั้งให้ต้มมันเทศใส่ขิงให้พระชายาเสวยด้วย นางกล่าวว่าพระชายา ถูกความเย็นตอนที่คลอดท่านหญิงควรทำให้ร่างกายอบอุ่นพะย่ะค่ะ""เจ้าหมายความว่านางมีความรู้เรื่องการแพทย์ เช่นนั้นรึ""กระหม่อมเองก็ไม่แน่ใจพะย่ะค่ะ"จิงเสวียนไม่กล้าบอกว่ามีหรือไม่แต่อาการพระชายาก็ดีขึ้น"อืม..จิงเสียนเจ้าสืบได้อะไรมาบ้าง""ที่เด็กซ่งจื่อหรูคนนั้นพูดเป็นความจริงพะย่ะค่ะ ผู้เฒ่าซ่งหนีสงครามมา แต่งงานกับสตรีแซ่เหวินที่เจอกันที่ค่ายผู้ลี้ภัย จากนั้นมีบุตรสาวหนึ่งคน ต่อมาบุตรสาวแต่งงานกับลูกชายคนที่สามสกุลหลี่ เรื่องหลังจากนั้นก็ตามที่ท่านอ๋องทรงทราบ""คุณชายเฟิ่งก่อนที่ตระกูลถูกกวาดล้าง ดูเหมือนจะแต่งงานกับคุณหนูสายรองสกุลหลิวมีบุตรชาย
ซ่งจื่อหรูตรงไปยังโรงเรือน ทันทีที่เห็นก็ใช้มือลูบหน้าอกตัวเองอย่าโล่งใจ พริกที่เพิ่งเก็บเมื่อต้นปีมัดแขวนเรียงราย ข้าวโพด ถั่วเหลืองและถั่วลิสงก็อยู่ในกระสอบ มีข้าวเปลือกอยู่เกือบยี่สิบกระสอบนอกนั้นเป็นไหดินเผาหลายขนาดเรียงรายมีแค่นี้แหละมีแค่นี้จริงๆเฮ้อ"ไปดูไก่กับลูกหมูสักหน่อยดีกว่า"เดือนมาถึงโรงเลี้ยง ก็ได้ยินเสียงลูกหมูน้องอี๊ดๆๆๆ นับแล้วมีประมาณ60ตัว สั่งลุงหวังคนดูแลว่าให้รับซื้อมาแค่20ตัวไหงซื้อมาขนาดนี้จะเลี้ยงไงก่อน ดีที่ตอนนั้นขุดบ่อน้ำใกล้โรงเลี้ยงไม่งั้นกว่าจะตักน้ำจากลำธารมาคงเหนื่อยตายพอดี ที่นี่ไม่มีใครเข้ามาได้ซ่งจื่อหรูถอดเสื้อตัวนอกออก ใช้จอบค่อยๆขุดร่องให้มูลของหมูไหลตามร่อง ไปรวมที่เดียวกัน จากนั้นก็ล้างพื้นกรงใช้เวลาชั่วโมงกว่าก็เรียบร้อยถัดมาก็ทำความสะอาดโรงเลี้ยงไก่ ลูกไก่ฟักครบแล้วกำลังส่งเสียงเจี๊ยบๆๆๆลั่นระงม ซ่งจื่อหรูกวาดเศษหญ้าฟางที่มีมูลไก่เต็มไปหมดจากนั้นก็กองรวมกัน ก่อนจะขนไปยังลานกว้างตากไว้ทำปุ๋ย ปูหญ้าฟางใหม่ลงไปยังดีที่ก่อนจะฟักลูกไก่และลงลูกหมูในฟาร์ม ได้เตรียมอาหารสัตว์ไว้เพียงพอแล้วทำทุกอย่างเรียบร้อยก็ให้อาหารพวกมันแม้ว่าจะสว่างจ้าแต่ในนี้
"ท่านอ๋อง ลูกเราโตแล้วพระองค์เองก็อย่าทรงชักสีหน้าใส่เด็กคนนั้นเลยเพคะ หม่อมฉันเองก็แปลกใจเหตุใดจึงรู้สึกผุกพันกับนางนักก็ไม่รู้""เจ้าต้องลมหนาวไม่ได้นางยังเอาเด็กสองคนมาฝากให้ดูแลจนเจ้าต้องออกมานั่งเฝ้าพวกเขาด้านนอกจะไม่ให้โมโหนางบ้างเกรงว่าจะไม่ได้ จริงสิเมื่อคืนไม่ได้ยินเสียงเจ้าไอเลยขอโทษนะหรานเอ๋อร์ข้าละเลยเจ้าจริงๆดูท่าข้าควรรีบสะสางเรื่องราวแล้วพาเจ้ากลับเมืองหลวงสักที""เมื่อคืนไม่มีอาการไอแถมยังรู้สึกอุ่นด้วยเพคะ อาจเพราะหรงเอ๋อร์ทำมันต้มน้ำขิงให้กินเห็นบอกว่าอาหรูบอกมาว่ากินน้ำขิงร่างกายจะอุ่นขึ้น ท่านอ๋องถ้าไม่ได้บิดาของเด็กสามคนนั้นยอมเดินฝ่าหิมะไปตามหมอในตำบล ยอมทิ้งศักดิ์ศรีบุรุษให้หมอตำแยขึ้นหลังมาหม่อมฉันกับลูกหญิงก็อาจไม่รอดแล้ว ต่อไปเจอหน้าพวกนางทรงทำดีสักหน่อยเถอะเพคะอย่าให้ใครว่าได้ว่าพวกเราเป็นถึงเชื้อพระวงศ์แต่ไร้คุณธรรมไม่รู้คุณคน""ได้ๆหรานเอ๋อร์ทุกอย่างล้วนฟังเจ้า นอนพักอีกหน่อยเถอะเซียนเอ๋อร์ยังไม่ตื่นเลยอีกอย่างฟ้าก็ยังไม่สว่าง""ไม่แล้วเพคะเมื่อคืนหลับสบายนัก หม่อมฉันไม่ได้นอนหลับสนิทเช่นนี้มานานแล้วทุกคืนพออากาศเย็นต้องลุกขึ้นมาไอ""ถ้าเช่นนั้น ข้าจะให้คน
เมื่อทั้งคู่มาถึงร้านบะหมี่ ก็นั่งลงเจ้าของร้านเป็นชายชราท่าทางใจดีคนนึงเด็กสาวที่อยู่ข้างๆคงเป็นหลานสาว นางทำงานคล่องแคล่วเพียงพริบตาก็จัดร้านเรียบร้อยซ่งจื่อหรูนั่งลงสั่งบะหมี่ทันที"ท่านตาเอาบะหมี่เนื้อสองชาม ขอไข่ดาวด้วยนะเจ้าคะ""อ้อๆๆ ได้ๆๆๆ อาหลิงเอ๊ยต้อนรับลูกค้าหน่อยเร็วๆเข้า"ชายชรารับคำก่อนจะหันไปสั่งเด็กน้อยที่ช่วยงานอยู่"เจ้าค่ะท่านปู่ พี่ชาย พี่สาวสวัสดีเจ้าค่ะรับน้ำชาแล้วรอบะหมี่สักครู่นะเจ้าคะ"เด็กน้อยเจื้อยแจ้วก่อนจะรินชาใส่ชามสองใบส่งให้ทั้งคู่ คนเริ่มพลุกพล่านร้านค้าเริ่มร้องตะโกนขายของ"บะหมี่มาแล้วเจ้าค่ะทานให้อร่อยนะเจ้าคะ ลูกค้าสามท่านต้องการรับอะไรดีเจ้าคะ"เด็กน้องยกบะหมี่มาวางจากนั้นก็รีบวิ่งไปรับรองอีกโต๊ะ บนใบหน้ามีแต่รอยยิ้มหญิงชราคนนึงกำลังล้างผักอยู่ใกล้ๆคงจะเป็นย่าของเด็กน้อย ซ่งจื่อหรูหันหลังไปมองตามเด็กน้อยไป ทันใดก็เห็นสตรีคนที่ใส่หมวกคลุมผ้าเลิกผ้าขึ้นพร้อมกับยกน้ำชาขึ้นดื่มซ่งจื่อหรูตัวชา ไม่ใช่แค่เหมือนแน่ๆแต่ว่าเป็นคนๆเดียวกันชัดเจน นางไม่มีคู่แฝดเป็นลูกคนเดียว ซ่งจื่อหรูอยู่ในภวังค์จนไม่ได้ยินเสียงหลี่เหิงเรียก"น้องสี่ น้องสี่ น้องสี่ เจ้าเป็น
นางจึงหันหลังกลับจากนั้นก็ไปเลือกร้านอื่น เดินมาสักพักจนเจอร้านในตรอกเล็กมีป้ายเขียนง่ายๆว่า จินปู่เตี้ยน ร้านผ้าของสกุลจินเดินเข้ามาก็เจอสตรีวัยสามสิบปีลายๆลุกขึ้นมาต้อนรับ"แม่หนู เจ้ากำลังหาสิ่งใดกัน ให้ข้าช่วยดีหรือไม่"จินเหนียงทักทายเด็กสาวตรงหน้านางไม่เคยตัดสินใครจากการแต่งตัว"เถ้าแก่เนี้ย ข้าอยากได้ชุดสำเร็จเจ้าค่ะ ของเด็กผู้ชายสามขวบกว่ากับเด็กผู้หญิงห้าขวบกว่า""มาถูกร้านแล้ว นี่เป็นเนื้อผ้าธรรมดาราคาชุดละ70อีแปะ ถูกมากแล้วปกติข้าขาย90อีแปะเชียวนะ แต่เห็นการแต่งตัวของเจ้าแล้ว คิดว่าคงมีใจซื้อจริงจึงลดให้ อย่าคิดว่าข้าดูถูกเจ้าล่ะ""งั้นของเด็กผู้ชายข้าขอสองชุด สีฟ้ากับสีน้ำเงิน ส่วนของเด็กผู้หญิง เอาสีชมพูกับสีเหลืองเจ้าค่ะ""แล้วของเจ้าล่ะ ถ้าเอาข้าคิดราคาเดียวกัน ปกติขนาดตัวเท่าเจ้าอยู่ที่ชุดล่ะ100อีแปะ""เถ้าแก่เนี้ย ท่านรับงานปักหรือไม่เจ้าคะ""เฮ้อ พูดก็พูดเถอะ เมื่อก่อนคุณหนูอวี้เซียนดูแลฮวาเหยียนนางมีน้ใจนักไม่เคยกดหัวร้านเล็กอย่างพวกเราเลย พอคุณหนูอวี้เซียนถูกปลดให้ไปดูแลร้านเบ็ดเตล็ดที่กำลังจะขาดทุน ได้ข่าวว่าหากภายในสิ้นปียังทำกำไรไม่ได้จะให้นางแต่งไปอยู่เป่ยเหลียง
เพิ่งเข้าตำบลครั้งแรกก็ลืมนั่นลืมนี่จึงเดินกลับไปยังร้านข้าสารอีกรอบ เถ้าแก่เห็นว่าก่อนหน้านางซื้อของเยอะจึงต้อนรับดีกว่าเดิม"แม่นางน้อย เจ้าลืมซื้อสิ่งใดรึ หากร้านข้ามีย่อมขายให้ราคาย่อมเยาว์""เถ้าแก่ ข้าลืมซื้อน้ำตาลเจ้าค่ะ ช้าซื้อของเยอะเกินไป หากลืมน้ำตาลคงแย่ อีกหน่อยพวกเขาคงไม่จ้างข้าเข้าเมืองอีก""อ้อ ที่แท้เจ้าก็รับจ้างคนในหมู่บ้านหรอกรึ เอาน้ำตาลอะไรข้าจะจัดหาให้ จะคิดเจ้าถูกลงหน่อยให้เจ้าได้กำไรบ้าง""น้ำตาลทรายขาว5ชั่ง น้ำตาลทรายแดง3ชั่ง น้ำตาลกรวด 3ชั่งเจ้าค่ะ""น้ำตาลทรายขาวชั่งละ35อีแปะ น้ำตาลทรายแดง25อีแปะน้ำตาลกรวด30อีแปะทั้งหมดเป็น340อีแปะ คิดเจ้า330อีแปะเจ้าจะได้กำไรจากค่าเหนื่อยเอาส่วนต่างไว้นั่งเกวียนกลับบ้าน""ขอบคุณเจ้าค่ะ วันหลังหากมีคนต้องการซื้อของข้าจะมาร้านท่านนะเจ้าคะ เถ้าแก่ท่านรับซื้อของจากข้างนอกหรือไม่เจ้าคะ""ต้องดูก่อนว่าเป็นอะไรหากมีก็นำมาขายได้ ข้าแซ่เหลียงชื่อเว่ยอู่""ข้าแซ่ซ่งชื่อจื่อหรูเจ้าค่ะ ข้าอยู่หมู่บ้านหลี่ซาน""อ้อ หลี่ซ่งเหวินที่ทำงานอยู่ที่ว่าการมักมาซื้อของข้าไปขายบ่อยๆ พวกเจ้ามาจากที่หมู่บ้านเดียวกัน""ใช่เจ้าค่ะ เขาเป็นท่านลุงของข้
"พี่ใหญ่ ท่านแต่งออกมาแล้วจะยุ่งทำไม ข้าต้องมาตามหาสามีข้า นังเด็กแพศยาออกมาเดี๋ยวนี้นะ เจ้าเอาสามีพวกข้าไปซ่อนไว้ที่ไหน โอ๊ย พี่ใหญ่ท่านกล้าตีข้าหรือ" สะใภ้หวังทั้งสองไม่ให้ความสำคัญกับพี่สามีคนนี้จึงเยาะเย้ยดูถูกหวังซื่อตบพวกนางทันทีผัวะๆๆตุบตับๆ ใครจะคิดว่าหวังซื่อจะตบตีน้องสะใภ้ ทั้งสามชุนละมุนหลี่ม่านอวี้วิ่งมาถึงก็เข้าช่วยมารดาตนจนถูกคนโตกว่าตบตีจนร้องไห้ ชาวบ้านที่เป็นสตรีก็วุ่นวายแยกทั้งสามออกจากกัน"เห็นไหมเจ้าทำอะไรลงไป นังซ่งจื่อหรูหากไม่ใช่เจ้าไปยั่วยวยคนเขาจะมาถึงที่หรือ" หลี่อ้ายเสิ่นชี้หน้าด่า"ข้าไม่เชื่อว่าเป็นนาง หึเจ้าคงไม่ลืมเรื่องปลดภรรยาของอาไหลฝูหรอกนะ หากกล่าวเหลวไหลระวังมารดาเจ้าจะถูกปลด" ป้าสะใภ้หกชี้หน้าหลี่อ้ายเสิ่น"ใช่ๆๆๆ"หลายเสียงก็สนับสนุน พวกเขาไม่ชอบเด็กอ้ายเสิ่นคนนี้จริงๆ ไม่รู้ว่าแม่เฒ่าหลี่เลี้ยงบุตรสาวอย่างไร พฤติกรรมน่ารังเกียจนัก"ใช่จื่อหรูของพวกเรา ถูกนังปีศาจเฒ่านั่นตี จนปางตายยังหอบสังขารไปหาอาหารแถมยังไม่หวงยังคิดแบ่งปันเสบียงผู้อื่นอีก""หลี่อ้ายเสิ่นคนบ้านเจ้านอกจากหาเรื่องยังสร้างประโยชน์อะไรบ้าง"ชาวบ้านก็เริ่มไม่พอใจตะโกนใส่หน้านางแต
เซี่ยหนานอินถูกเจ้าอาวาสลากไปเด็กสามคนจึงเป็นอิสระ ซ่งจื่อเย่ว ซ่งจื่อห่าวและจ้าวเฟยเซียนอยู่กับจางอวี้เซียน มีองครักษ์ของจวนเจ้าเมืองดูแล จิงอี้ถูกสั่งห้ามเข้าใกล้หลี่อ้ายเสิ่น จนกว่าจะแต่งงานนางถูกหลี่ไหลฝูพาไปฟังธรรมด้านในด้วยเดินมาถึงหลังวัดส่วยเอี๊ยหลี่ม่านอวี้ก็นั่งลงบนก้อนหินกลางป่าท้อ"นั่งก่อนเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว"หลี่ม่านอวี้ถอนหายใจ"พี่สาม ท่านคิดอะไรอยู่ทำไมดูท่านทำหน้าสงสัยตลอดเวลา"ซ่งจื่อหรูเห็นสีหน้าพี่สามเหมือนท้อใจตอนที่จิงอี้เดินมาหาหลี่อ้ายเสิ่น"เมื่อคืนอาเขยไปหาอาเล็ก ตอนที่ท่านปู่ไปคุยเรื่องแต่งงานของนางที่บ้านปู่ใหญ่" หลี่ม่านอวี้พูดไปถอนหายใจไป"อาเขย เจ้าหมายถึงจิงอี้หรือ"จิงเสวียนถาม"เจ้าค่ะพี่จิงเสวียน เขาบอกให้ข้าเรียกเขาอย่างนั้น อาเขยนำปิ่นปักผมไปให้อาเล็ก ข้าบอกว่าเข้าไม่ได้ท่านปู่สั่งไว้ เขาก็อ้อนวอน ข้าจึงให้แค่แป๊บเดียว""จากนั้นล่ะ เกิดอะไรขึ้น ท่านปู่พี่จับได้หรือ" หูเจียวเจียวหูผึ่งก่อนมานั่งจะดักหน้าหลี่ม่านอวี้แล้วถามนาง" เปล่าหรอกเจียวเจียว ข้าให้เวลาอาเขยแค่ครึ่งเข่อ พอเห็นท่านปู่มาก็จะไปตามเขา แต่พอเปิดประตู ก็เห็นเขากัดปากอาเล็กอยู่ ริมฝีป
ถึงเวลาอาหาร วันนี้ทุกคนกินข้าวที่บ้านของซ่งจื่อหรู ฮั่วเฟยหย่งเอ่ยกับพวกเขา"เรื่องที่จิงอี้ทำนับว่าร้ายแรง แม้กฎเกณฑ์ต้าเหลียงไม่เข้มงวดตีกรอบเกินไป แต่นั่นคือทั้งชีวิตของสตรี พวกนางต้องเสียสละร่างกายคลอดบุตรให้เจ้า ต้องคอยดูแลบ้านช่อง หากต่อไปใครชิงสุกก่อนห่ามไม่เข้าออกตามธรรมเนียมข้าไม่เอาไว้แน่ จะรักใคร่นอกกายข้าไม่ว่า แต่ห้ามเลยเถิดจนกว่าจะเข้าหอ"ประโยคสุดท้ายเว้นไว้ให้เจ้าเด็กบ้าเฟยหรงนี่ หากไม่ให้ได้ชิมน้ำหวานเลยคงอกแตกตาย"พะย่ะค่ะ "ทุกคนรับคำพร้อมเพรียงจากนั้นก็กินข้าวต่อ หลังมื้อเย็นทุกคนรีบนอน เช้าต้องไปแต่เช้า ซ่งจื่อหรูอยากเข้าไปในมิตินึกถึงกรอบรูปที่อยู่ๆก็มาวางบนเตียง แต่พรุ่งนี้ต้องเดินทางเลยเว้นไปก่อนหลี่เหิงถือเสื่อเข้ามา แต่จ้าวเทียนเฟยบอกว่าพื้นนั้นเย็นเกินไป ให้ขึ้นมานอนด้วยกัน เขาลังเลอยู่พักใหญ่เกรงว่าจะไม่สมควร จ้าวเทียนเฟยบอกว่า ให้หลี่เหิงนอนด้านใน เวลาเขาทำธุระจะได้ปลุกง่ายหลี่เหิงได้นอนที่บ้านก็สบายใจหลับไม่รู้เรื่อง แม้กระทั่งถูกคนตัวโตเอาเปรียบเขาเกือบค่อนคืน ตื่นมาได้แต่งงคิดว่าตนเองถูกยุงหรือมดกัด แต่ทำไมพี่เทียนเฟยถึงไม่มีรอยอะไรเลยยามเหมาทุกคนตื
ลานบ้านหลี่ หลี่ไหลฝูยืนอยู่กำลังจะซัดฝ่ามืออกไป หลี่อ้ายเสิ่นวิ่งไปขวางเขาปกป้องจิงอี้ที่นอนกระอักเลือดอยู่ หลี่ต้าโจวกับหลี่ต้าจูถูกบิดาโยนไปคนละทิศละทาง"ท่านลุงหลี่ค่อยพูดเถอะ นี่มันเรื่องอะไรกัน จิงอี้เจ้าว่ามาสิ"จ้าวเฟยหย่งไกล่เกลี่ย จิงอี้พยุงตัวเองขึ้นหลี่ไหลฝูวรยุทธไม่เลวเลย เทียบกับท่านอ๋องเขาสูสีทีเดียว ใครจะรู้ช่างไม้หมู่บ้านกันดารจะมีฝีมือขนาดนี้"นายท่าน ข้าต้องการแต่งงานกับอ้ายเสิ่น แต่ผู้เฒ่าหลี่ไม่ยอมขอรับ""นางยังไม่ถึงวัยปักปิ่นด้วยซ้ำ อีกตั้งครึ่งเดือน เจ้ารอวันนั้นค่อยพูดคุยไม่ได้หรือไง" จิงเสวียนดุน้องชาย"พี่ใหญ่ข้ารอไม่ได้หรอก อ้ายเสิ่นนางก็รอไม่ได้ด้วยหากจิงอี้น้อยรอไม่ไหวจะทำไง ข้ากับนางเอ่อ ป่านนี้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวน้อยในท้องนางเกิดหรือยังอาจเกิดแล้วมั้ง"หลี่ไหลฝูซัดฝ่ามือใส่จิงอี้ด้วยความโมโห จ้าวเทียนหยางที่ไม่รู้ว่าโผล่มาตอนไหนสกัดฝ่ามือเขาจนไปปะทะต้นไม้ในบ้านหักโค่นลงมาจิวเสวียนหอบหายใจด้วยความโมโหที่นี่ไม่มีคนอื่นเขาจึงเค้นฟันพูดกับน้องชาย"หานจิงอี้ ไอ้เด็กสารเลวหากเป็นชาวบ้านจะไปอะไรลับล่อๆก็ยังพอทน แต่เจ้าเป็นใคร ท่านลุงรู้เรื่องนี้จะว่าอย่างไรหรือต
ห้องรับรองตำบลซานสุ่ย มีเซี่ยหนานอินนั่งอยู่ด้านบน เซี่ยอวิ๋นนั่งอยู่ซ้ายมือด้านข้าง ถัดไปคือมีกังฉินนายอำเภอ เจ้ากรมโยธา หลี่ไหลฝู หลี่ฝูเหยา ด้านขวามีซ่งจื่อหรู จ้าวเฟยหย่ง จ้าวเฟยเหรงนั่งอยู่ แผนที่เมืองของมณฑลกว่างผิงถูกกางออกบนโต๊ะ เผยให้เห็นเส้นทางน้ำขนาดใหญ่น้อย ซ่งจื่อหรูใช้พู่กันกากบาทจุดที่เรือควรจอดแวะ จึงได้ทั้งหมด ห้าท่าเรือ“หากสร้างท่าเรือตามนี้จะใช้เวลานานเท่าใด” เซี่ยหนานอินถามขึ้น“ใต้เท้างบประมาณคือเงินส่วนตัวของท่านเพียงแค่แปดหมื่นตำลึงจะสร้างพร้อมกันไม่ได้เจ้าค่ะ มีท่าเรือก็ต้องมีที่พักท่านลองออกประกาศหานายทุนเชื่อข้าสิว่าต้องมีคนร่วมลงทุนแน่ๆ”“นายทุนคือสิ่งใดอาหรู แล้วพวกเขาจะยอมให้เงินแก่เราหรือ”จ้าวเฟยหย่งไม่เข้าใจสิ่งที่นาพูดซ่งจื่อหรูจึงอธิบาย“ท่านอาฮั่ว นายทุนคือคนที่ออกเงินให้เรา ก่อน ท่านเจ้ากรมท่านคำนวนที่ดินจากริมฝั่งออกมา ปล่อยเช่าที่ดินให้คนที่ต้องการทำโรงเตี๊ยมและร้านค้าต่างๆเช่าค้าขาย ทำสัญญาระยะยาวสิบปีต่อสัญญาทุกๆสามปี จ่ายค่าเช่ารายเดือน เก็บมัดจำครึ่งหนึ่ง สร้างใกล้เสร็จเก็บส่วนที่เหลือ หากไม่จ่ายภายในเวลาที่กำหนดถือว่าผิดสัญญา จากนั้นให้ปล่อย
อาหารเสร็จแล้ว เด็กๆถูกองค์ชายห้าพาไปเล่นบนเขาแต่เช้าแล้ว ลูกเสือขาวนอนหลับลุงใหญ่ถามนางว่าเจ้าของแพะถามว่านางรับซื้อหรือไม่ เขาต้องการเงินเป็นค่าสินสอดให้บุตรชาย นางมีเงินจากการขายหมูคราวก่อนหากจะใช้ก็ไม่แปลก จึงตกลงซื้อแพะสองตัวและวัวสามตัวจากบ้านท่านป้าคนนั้น หลังเตรียมอาหารเสร็จเด็กๆกลับมาแล้ว เซียวอวี้หรานกำลังจับล้างหน้าล้างตาเพื่อมานั่งกินข้าว หลี่ไหลฝูเดินมาหา ซ่งจื่อหรูจัดโต๊ะนอกบ้าน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะท่านปู่ เมื่อคืนหลับสบายหรือไม่เจ้าคะ" ซ่งจื่อหรูเดินไปคล้องแขนชายชรามานั่ง"อรุณสวัสดิ์ท่านปู่ ขอให้สุขภาพแข็งแรงเจ้าค่ะ/ขอบรับ"ซ่งจื่อเย่วกับซ่งจื่อห่าวก็ลุกขึ้นคำนับเช่นกันจ้าวเทียนเฟยเอ่ยทักทาย หลี่ไหลฝูมองออกว่าครอบครัวฮั่วเฟยหย่งไม่ใช่คนธรรมดา จึงไม่คิดถือสาเรื่องมารยาท"วันนี้ปู่จะเรียกชาวบ้านมาคุย เรื่องว่าต้องขึ้นเขาใช้ไม้ชนิดใดสร้างสะพาน ช่วงบ่ายจะไปตำบล วาดโครงสร้างท่าเรือ เจ้าเองก็สามารถวางค่ายกลทำงานช่างได้ ก็ไปด้วยกันหลายคนจะได้ช่วยกันคิด"หลี่ไหลฝูบอกหลานสาว"ก็ดีเจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นช่วงเช้าก็แบ่งงานในหมู่บ้านก่อน ช่วงบ่ายค่อยเข้าตำบล อ้อท่านอาฮั่วมาพอดี"ซ่งจื่อห
ทุกคนกินอาหารพูดคุยกันหลี่อ้ายเสิ่นที่ตนเองไม่มีผู้ใดสนทนาด้วยจึงลุกออกจากลานต้นไหวเดินกลับบ้าน เผอิญสวนกับจ้าวเฟยหรงจึงทักทายเขาจ้าวเฟยหรงแค่เพียงพยักหน้า เท้าของหลี่อ้ายเสิ่นหนักอึ้งนางผิดหรือที่เกิดเป็นบุตรสาวของหญิงผู้นั้นทุกคนไม่สนใจนางแล้วนางจะหน้าด้านอยู่ทำไม อยู่ๆก็มีมือแข็งแกร่งมากระชากนางลากไป รู้อีกที่นางก็ติดอยู่กับกำแพงในบ้าน จิงอี้มองหน้านาง"ข้าบอกเจ้าแล้วว่าห้ามยุ่งกับคุณชายข้าหรือที่ข้าเตือนเจ้าไม่คิดฟัง"จิงอี้กดหลี่อ้ายเสิ่นกับกำแพง"ข้าแค่บังเอิญเจอเขา แล้วอย่างไรหากข้าอยากคุยแล้วทำไม หากเขาชอบข้าแล้วอย่างไรท่านมีสิทธ์อะไร"หลี่อ้ายเสิ่นโมโหคนตรงหน้า"เจ้าไม่คู่ควรกับเขา เจ้าอย่าใฝ่สูงเกินไปนัก"เพี๊ยะหลี่อ้ายเสิ่นสะบัดหลุดออดมาก่อนจะตบหน้าจิงอี้จนหันทันที"ข้าคู่ควรหรือไม่ก็ให้เขาตัดสินใจ ไม่ใช่เจ้ามาข่มขู่ข้า อื้อๆๆๆๆ"จิงอี้ไม่ปล่อยให้นางพูดจบเขาก้มลงประกบปปากนาง หลี่อ้ายเสิ่นใช้มือสองข้าทุบตีผลักเขาออก แต่ก็ไม่เป็นผล จิงอี้ปล่อยนางก่อนจะมองจ้องหน้า"วันหลังจำให้ดี ข้าไม่ได้ขู่เจ้า"" จิงอี้ ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้า คนสารเลวเจ้าว่าข้าเป็นลูกหญิงแพศยาแล้วเจ้าเล่า เอา
ภรรยาของคนเหล่านั้นไม่เต็มใจที่จะมาหมู่บ้านกันดารแต่เพราะขัดสามีตนเองไม่ได้ ทุกคนนั่งลงหลี่ฝูเหยากล่าวเริ่มงานเลี้ยง อาหารตรงหน้าทำให้สตรีทั้งหลายไม่กล้ากินแม้แต่บรรดาอาจารย์ในสำนักศึกษาก็ลังเล ยกเว้นกัวฉิน เซี่ยหนานอิน และอู๋จี๋ พวกเขาเคยได้ทานพวกมันแล้วจึงรู้ว่าอร่อยไม่นานนักก็มีรถม้ามาเพิ่มอีกสามคัน จางอวี้เซียนก้าวลงมา ตามด้วยจินเหนียงและบุตรสาว คันที่สองคือจางต้าหู่ คันสุดท้ายเถ้าแก่เหลียง ซ่งจื่อหรูเข้าไปทักทายพวกเขา"สวัสดีเจ้าค่ะท่านอาจาง ท่านลุงเหลียง พี่จินเหนียง พี่อวี้เซียน ข้าเตรียมโต๊ะไว้ให้พวกท่านแล้ว"เซี่ยหนานอินเห็นสตรีที่เดินตามซ่งจื่อหรูมาก็จำได้นางคือคนที่เขียนจดหมายร้องเรียนขอหย่าบิดาแทนมารดา เพื่อทวงสินเดิมที่ถูกยึดไปกลับคืน เนื่องจากบิดาแต่งอนุโดยที่ภรรยาเอกไม่เห็นชอบ" นี่คือผู้นำทั้งสามหมู่บ้านที่เราจะร่วมมือกันเจ้าค่ะ ส่วนนี่คือท่านปู่ของข้าหลี่ไหลฝู ทุกท่านพวกเขาคือเถ้าแก่ที่ข้าต้องการให้เป็นคนกระจายสินค้าของพวกกเราในอนาคต เถ้าแก่ร้านท่านนี้คือจินเหนียงแห่งร้านจินปู่เตี้ยน นี่คือเถ้าแก่จางแห่งร้านหนึ่งในใต้หล้าจางอวี้เซียน เถ้าเแก่เหลียงเว่ยแห่งร้านธัญพืช
หลี่เหิงกลับมาแล้ว หลี่ม่านอวี้หลี่อ้ายเสิ่นและบรรดาท่านป้าในหมู่บ้านมาช่วยงานที่บ้านของซ่งจื่อหรู เหล่าบุรุษทั้งหลายถูกสั่งให้ไปนำหญ้าเหมันต์ลงปลูก เกาฟ่านกับเกาหม่ารับคำสั่งให้ไปติดต่อกับเกาหยวนเพื่อซื้อข่าวจากหอฮวาเซียงจ้าวเทียนเฟยออกมานั่ง เขาอมยิ้มทันทีที่มองเห็นหนุ่มน้อยคนเมื่อเช้ากำลังช่วยน้องสาวและเหล่าบรรดาสตรีทั้งหลายที่วุ่นวายอยู่หน้าเห็นตาคอยฟังคำสั่งซ่งจื่อหรู ว่าอาหารชนิดไหนทำเช่นไร มีหน่อไม้เส้น มีหน่อไม้ดอง รากบัว กุ้งมังกรน้อย มีหอยขม ที่เด็กๆช่วยกันจับแต่เช้าเห็ดสนที่ให้เด็กๆขึ้นเขาชิงลั่วไปหามา นางทำปลาเปรี้ยวหวาน สามชั้นต้มหน่อไม้แห้ง หอยขมผัดพริกหมาล่า กุ้งมังกรอบน้ำมันพริก รากบัวต้มกระดูกหมู หน่อไม้ดองต้มปลา หน่อไม้ดองผัดเครื่องในไก่ ไก่ขอทาน เครื่องในหมูพะโล้ และสามชั้นตุ๋นผักกาดอง ของหวานคือผลบัวหิมะ และผูเถาที่นางเอาออกมาจากมิติ แต่ทำทีว่าเก็บมาจากต้นที่ปลูก เนื่องจากติดลูกดกมากจึงไม่มีใครสงสัยกุหลาบนางแอบเอาไปตากในมิติตอนนี้สามารถชงชาได้แล้ว มีเกษรดอกบัว ชาดีบัว ของเหล่านี้ต้องให้พวกเขาลิ้มลอง หากต้องการเปิดตลาดในต้าเหลียงต้องอาศัยปากต่อปาก ยุคนี้ไม่มีโซลเ
บ้านเชิงเขาซ่งจื่อหรูทำอาหารเสร็จแล้ววันนี้มีอาหารไม่มากเพราะต้องจัดงานเลี้ยง เห็นจิงเสวียนเดินมารับสำรับจึงหาจังหวะเอ่ยถามสิ่งที่ต้องการ"พี่จิงเสวียน ตอนที่ข้าไม่อยู่นอกจากจางอวิ๋นคนนั้นยังมีใครมาที่นี่บ้าง"" นอกจากจางอวิ่นยังมีอีกสามคนที่เหลือน่าจะเป็นคนติดตาม มีอะไรหรือเปล่า" จิงเสวียนถามนางกลับซ่งจื่อหรูส่ายหน้า"ไม่มีอะไร ี่จิงเสวียนข้ามีเรื่องอยากให้ท่านช่วยแต่เรื่องนี้แม้แต่พี่หรงก็ห้ามรู้ ท่านรับปากข้าได้หรือไม่"จิงเสวียนพยักหน้าเขารับสำรับอาหารไป จ้าวเทียนหยางโดดเข้ามา พร้อมมองหาน้องๆตัวน้อย เขาจะพาเด็กพวกนี้ไปเล่นบนเขา จ้าวเทียนหยางมาถึงก็เรียกหาเด็กทั้งสอง"แม่นางน้อย เซียนเอ๋อร์กับจื่อเย่วตื่นหรือยัง""คงกำลังพับพ้าห่มอยู่กระมัง ท่านมีอะไร"ซ่งจื่อหรูยังเอ่ยไม่จบจ้าวเทียนหยางก็หายไปในห้องครู่เดียวก็อุ้มเด็กน้อยสองคนออกมามีซ่งจื่อห่าวขี่หลังอีกคน ใช้วิชาตัวเบาพาเหินไปบนเขาซ่งจื่อหรูร้องห้ามแต่ไม่ทัน ฉินลู่ที่เพิ่งกลับมาต้องรีบตามไป องค์ชายนะองค์ชายก็รู้ว่านางหวงน้องๆเพียงใด โรคเก่าของท่านกำเริบหรือไงนะ" อาหรู หยางเอ๋อร์กัยเฟยเอ๋อร์มักชอบเล่นกับเด็กๆลูกของบ่าวในจวนเสมอ