ซ่งจื่อหรูใช้เทียนส่องดู เห็นมีตะเกียงอยู่ตรงมุมห้อง จึงเดินไปจุดตะเกียงที่อยู่ตามมุม จากนั้นในห้องก็สว่าง พบว่าภายในห้องใต้ดินนางพบเจอหีบเรียงราย ในนั้นมีเครื่องมือช่างมากมาย มีชั้นหนังสือและมีหนังสือหลายเล่ม ในยุคสมัยนี้เหล็กและหนังสือล้วนแต่มีราคาแพง มีผ้าหลายพัยอยู่ในหีบ แต่ไม่มีอาหารใดๆนอกจากเมล็ดพันธุ์บางชนิด
ไม่เห็นว่าบ้านนี้จะปลูกอะไรสักต้นแล้วจะมีเมล็ดพันธุ์ไว้ทำไมกัน เฮ้อ!!ซ่งจื่อหรูถอนหายใจ ไม่มีอะไรแลกเป็นเงินได้สักอย่างมีแค่ของเหล่านี้
แต่ถึงกระนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ช่างไม้ธรรมดาคนนึงไม่น่าจะมีไว้ครอบครองได้ แต่เหตุใดท่านตาจึงทำตัวเหมือนคนยากจน จากนั้นก็สำรวจต่อค้นเจอสุราเหลืออยู่สองไห ซ่งจื่อหรูหยิบสุรามาหนึ่งไหเพื่อจะใช้เช็ดบริเวณบาดแผลที่ศรีษะ นางใช้ชามที่วางอยู่เอาสุรามาเช็ดทำความสะอาด
จากนั้นก็รินสุราลงไปก่อนจะใช้ผ้าค่อยๆจุ่มสุรามาเช็ดแผลบริเวณศรีษะ ซ่งจื่อหรูเช็ดเลือดที่เกอะกรังออก ทำให้ปากแผลเปิดเลือดจึงซึมๆ ออกมา อย่างน้อยก็ฆ่าเชื้อ พรุ่งนี้หาทางขึ้นเขาสักครั้งเผื่อเจอสมุนไพรมารักษาได้บ้าง
หลังจากจัดการบาดแผลเสร็จก็ดับตะเกียงก่อนจะขึ้นมาจากห้องใต้ดิน ความรู้สึกเหมือนกับว่าหลังกำแพงมีคนอยู่แต่คงไม่ใช่กระมัง ซ่งจื่อหรูจึงไม่ได้ยินเสียงสะอื้นนั้น เมื่อขึ้นมาจากห้องใต้ดินก็เห็นเด็กทั้งสองคนยังคงหลับ แต่สีหน้าไม่ค่อยดีนักกระสับกระส่ายเพราะอากาศหนาว
ซ่งจื่อหรูเติมฟืนอีกสองท่อนเพื่อให้ห้องอบอุ่นนำผ้าห่มติดมาหนึ่งผืน วันนี้เด็กทั้งสองเห็นสิ่งของที่ท่านตาแอบซ่อนแล้ว การมีผ้าห่มเพิ่มขึ้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ห่มผ้าให้น้องๆแล้วจากนั้นก็คลานขึ้นไปนอนกอดน้องๆ เอาไว้ ที่นี่ต่างจากชาติที่แล้วมากนัก ชาติก่อนมีเงินมากมายตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเดิม ชาตินี้นางยากจน ไม่มีแม้แต่ข้าวสักกำมือ
ซ่งจื่อหรูหลับตาลงและหลับไป อยู่ๆนางก็มาอยู่ในห้องขนาดใหญ่ มีคนเกือบร้อยคนนั่งอยู่ มีคุณยายกับอวิ๋นห่าวนั่งจับมือกัน ด้านบนมีผู้ชายท่าทางน่าเกรงขามนั่งอยู่บนบันลัง เหมือนจะเป็นห้องพิจารณาคดีในศาล
"ซ่งอู่ มีพยานและหลักฐานพร้อมมูล คุณจ้างวานฆ่าหลานสาวตนเองซ่งเหลียนฮวา คนขับรถบรรทุกรับสารภาพหมดแล้ว"
ทนายเอ่ยถามจำเลยตรงหน้าเขาถูกซ่งอว๋นห่าวฟ้องว่าเป็นผู้จ้างวานฆ่าพี่สาวของเขาซ่งเหลียฮวา
"ผมขอคัดค้าน..ทนายเหลียนคุณซ่งเป็นอาแท้ๆ เหตุผลจูงใจคืออะไร ซ่งเหลียนฮวาคือหลานสาวของเขา พูดอะไรควรให้น้ำหนักกับหลักฐานด้วย"
"ท่านผู้พิพากษา กระผมขออนุญาตินำคลิปมาเปิดเผยได้ไหมครับ"
ชายด้านบนพยักหน้า ทันทีที่คลิปถูกเปิดก็เห็นว่ารถบรรทุกจอดรถอยู่ตรงเนินเขาพอรถของซ่งเหลียนฮวามาถึงเขาก็พุ่งชนโดยตรงอย่างตั้งใจ หลังจากถูกจับกุมเขายอมรับสารภาพว่าถูกว่าจ้างให้ขับรถพุ่งชนซ่งเหลียนฮวา และเมื่อสืบไปคดีอุบัติเหตุของซ่งเหวินกับภรรยาก็เป็นฝีมืผู้ชายคนนี้
แต่ซ่งอู่ไม่ยอมรับเขาอ้างว่าไม่เคยรู้จักกับคนขับรถบรรทุกมาก่อน สุดท้ายจึงเบิกตัวพยานอีกสองคน นั้นก็คือนักวิจัยพฤษศาสตร์ ที่ขณะเกิดเหตุพวกเขากำลังทำการสำรวจอยู่บนเขา คลิปที่ได้มาจากโดรนที่พวกเขากำลังบินสำรวจเห็นทั้งคู่พูดคุยกันก่อนเกิดเหตุ ซ่งอู่จำนนต่อพยานหลักฐาน เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในคดีจ้างงานฆ่า
ซ่งอวิ๋นห่าวจับมือคุณยายแน่น น้ำตาค่อยๆ ซึม "พี่ครับ ผมบอกแล้วว่าพี่ต้องไม่ตายฟรี ตอนนี้ผมเข้มแข็งแล้วครับ"
ซ่งเหลียนฮวาลูบผมเขาด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะได้ยินเสียงไก่ขันมาไกลๆ ก่อนหน้าซ่งเหลียนฮวารู้สึกแปลกๆ หลายครั้ง เธอเป็นคนขับรถระมัดระวังมาแต่ไหนแต่ไร แต่พักหลังเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งจนคิดว่าตัวเองสมควรจัดการมรดกทุกอย่างให้น้องชาย หากเธอยังอยู่จะให้เขาอยู่อย่างมีความสุข แต่งงานมีครอบครัวแต่หากเธอเกิดเหตุไม่คาดฝันต้องจากไปเขาจะได้มีชีตอยู่อย่างมั่นคง จึงทำพินัยกรรมยกทุกอย่างให้ซ่งอวิ๋นห่าวอย่างไม่ลังเล เธอเคยคิดว่าอาจเป็นคู่แข่งทางธุรกิจหรือเพื่อนร่วมงานที่อิจฉา ไม่คิดว่าคุณอาที่เธอเคารพมาตลอดจะเป็นคนเอาชีวิตเธอ ตอนนี้ซ่งอวิ๋นห่าวน่าจะเติบโตด้วยตัวเองได้แล้ว ไม่ต้องให้เธอคอยปกป้องอีก
เอ้อ อี้ เอ้ก เอ้กกกกกกก เสียงไก่จากในหมู่บ้านร้องขันยามเช้าที่ดูเหมือนว่าจะเป็นปลายยามอิ๋น (03.00 - 04.59 น.)
"อาห่าวน้องพี่ตอนนี้ชีวิตเธอมั่นคงและดูแลตัวเองได้แล้ว ชาตินี้พี่จะดูแลจื่อห่าวที่กำลังนอนหลับอยู่นี่ให้มีชีวิตดีเหมือนกับเธอตอนนี้ และนี่คือพี่สาวของเธออาเย่วไงซ่งอวิ่นเย่ว อีกหน่อยก็จะเป็นสาวงาม เติบโตไปพร้อมกับเธออีกคน"
ซ่งเหลียฮวาในร่างซ่งจื่อหรูน้ำตาไหล น้องชายของนางในชาติก่อนมั่นคงแล้ว หน้าที่นางคือดูแลปกป้องสองคนที่กำลังนอนหลับอยู่นี้ นางลูบหัวเด็กทั้งสองเบาๆ ในเมื่อมาอยู่ที่นี่ก็ควรใช้ชีวิตให้ดี
แม้ไม่อาจเป็นพี่ที่ดีพร้อมแต่นางพร้อมที่จะทำให้ดีที่สุดเพื่อน้องๆทั้งสองคน เรื่องด้านล่างนั้น น้องๆ ของนางยังไม่สมควรรับรู้เกี่ยวกับมัน อดีตของท่านตายังไม่ชัดเจน คนที่สามารถอดทนต่อคำดูหมิ่นเหยียดหยามได้ ยามเห็นลูกหลานถูกรังแกยังอดทนได้แสดงว่าเรื่องที่เกิดก่อนหน้าคงร้ายแรงมากกว่าหลายพันเท่าเป็นแน่ ตอนนี้เธอคือซ่งจื่อหรูของหมู่บ้านหลี่ซาน ดูท่าคงต้องขึ้นเขาสักรอบจริงๆ ฝนเพิ่งจะตก ทางขึ้นเขาลื่นยิ่งนักไม่สามารถเอาเด็กทั้งสองคนไปด้วยได้ แต่จะฝากใครล่ะ
คิดสักพักซ่งจื่อหรูก็คว้าตะเกียงที่หยิบมาจากห้องใต้ดินเดินออกไปนอกบ้านเพื่อขุดมันเทศสิบกว่าหัว จากนั้นก็เดินไปยังลำธารแสงจากตะเกียงเผยให้เห็นปลามากมาย เนื่องจากฝนเพิ่งจะตก ปลาเหล่านี้ได้น้ำใหม่ก็ออกมาแหวกว่าย ซ่งจื่อหรูกลับไปหยิบมีดมาเหลาไม้จนแหลมและค่อยไปรอจังหวะ ปลาตัวที่ว่ายช้าจากนั้นก็พุ่งไม้แหลมออกไป ไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็ได้ปลาขนาด5-6ชั่งมาได้5ตัว จากนั้นล้างขี้ดินที่ติดอยูกับหัวมันเทศ ทำการขอดเกล็ดผ่าท้องควักไส้ปลาจนสะอาด ใช้ไม้เสียบปลาไว้
เมื่อเดินกลับมายังกระท่อม ในครัวแทบจะไม่เหมือนครัวนักเพราะถูกแม่เฒ่าหลี่ทุบทำลาย ซ่งจื่อหรูหยิบฟืนที่เหลือเพียงมัดเดียวที่ซ่อนพ้นจากสายตาปีศาจอย่างแม่เฒ่าหลี่ออกมาก่อนเดินกลับไปในห้อง เพิ่มฟืนในหลุม ข้างนอกฝนตกดินชื้น ห้องครัวก็ถูกทำลายคงต้องอาศัยหลุมก่อไฟในห้องเผามันเทศย่างปลาไปก่อน วันนี้ต้องขึ้นเขาไปเก็บฟืนและหาอาหาร ป้าหูบอกว่าจะไปเยี่ยมญาติหลายวันคงออกเดินทางแล้ว เช่นนั้นคงต้องหาคนรับฝากเด็กๆก่อน
ซ่งจื่อหรูหาไม้ง่ามมาได้สองอันก็ปักลงด้านบนปากหลุมทั้งสองฝั่งๆ ล่ะหนึ่งอัน เขี่ยกองฟืนให้เป็นถ่านแดงนำมันเทศวางลงไปพร้อมกลบถ่านจากนั้นนำปลามาวางบนไม้ง่ามค่อยๆ พลิกไปมา จนปลาย่างเริ่มส่งกลิ่น เกือบจะปลายยามเหมาแล้วเด็กสองคนถูกกลิ่นหอมของปลาย่างปลุกให้ตื่น ซ่งจื่อหรูนำมันเทศที่สุกแล้วกับปลาย่างวางบนใบบัวที่ตัดมาเมื่อวาน จากนั้นก็นำหม้อแตกครึ่งใบมาต้มน้ำซ่งจื่อเย่วได้กลิ่นจึงวิ่งมาหาพี่สาว"พี่ใหญ่..ท่านทำอะไรหอมจังเลยเจ้าค่ะ""พี่ย่างปลาน่ะ จื่อเย่วกับจื่อห่าวพับผ้าห่มให้เรียบร้อยแล้วมาล้างหน้าพี่ต้มนำอุ่นให้แล้ว"แม้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนแต่เนื่องจากอยู่ติดเชิงเขาอากาศจึงหนาวเย็นกว่าที่อื่น เด็กๆพากันเก็บที่นอนพับผ้าห่มเก่าที่ถูกปะชุนจนหาสีเดิมไม่ได้ เอ๋มีผ้าห่มผืนใหม่ด้วย พี่ใหญ่คงเอามาจากใต้เตียงท่านตาแน่ๆ มิน่าเมื่อคืนนี้พวกเขาอุ่นมากแถมพี่ใหญ่ยังกอดพวกเขาอีกด้วยมือน้อยๆ ช่วยกันพับผ้า จากนั้นก็มาล้างหน้า ซ่งจื่อหรูนำหมั่นโถวสามลูกห่อใบบัววางอุ่นในหม้อแตก หม้ออีกใบถูกใช้ต้มน้ำดื่ม ซ่งจื่อหรูค่อยๆบิมันเทศและหมั่นโถวให้ซ่งจื่อห่าว จากนั้นก็แกะเนื้อปลาให้น้องทั้งสอง เมื่ออิ่มแล้วจึงดับ
ทั้งคู่เดินมาเพียงครึ่งถ้วยชาก็ถึงตีนเขา มีรอยเท้าชาวบ้านที่มาหาของป่าเต็มไปหมด ซ่งจื่อหรูจึงหันมาพูดกับฮั่วเฟยหรง"ท่านพี่ฮั่ว พวกเราไปอีกด้านเถอะทางนี้คงไม่มีอะไรเหลือให้หาแล้ว"ซ่งจื่อหรูชักชวน"อืม"ฮั่วเฟยหรงเพียงแค่พยักหน้าแล้วเดินนำซ่งจื่อหรูไปอีกด้าน ซ่งจื่อหรูตัวเตี้ยกว่าจึงส่งมีดให้เขา เมื่อฮั่วเฟยหรงรับมีดมาฮั่วเฟยหรงก็ใช้มันฟันกิ่งไม้ที่ระเกะระกะพร้อมกับมองหาอาหารหรือผักป่าที่กินได้ เดินมาเกือบครึ่งชั่วยามก็ถึงบริเวณที่มีต้นไม้สูงสลับเตี้ย มีลูกหล่นอยู่บนพื้นลักษณะมีหนามแหลมหล่นอยู่ใต้ต้นและบนต้นอีกมากมาย มันคือต้นเกาลัดแม้ว่าล่วงหน้าจะรู้ว่าตรงนี้มีอะไร แต่ซ่งจื่อหรูก็เหนื่อยพอประมาณตอนที่สำรวจนั้นเป็นเพียงร่างวิญญาณ แต่พอตอนนี้ต้องเดินเท้าเข้ามากลับรู้สึกเหนื่อยยิ่งนัก ที่บ้านไม่มีข้าวสาร แต่เกาลัดสามารถต้มเป็นโจ๊กได้ ดูเหมือนพายุฤดูร้อนน่าจะอยู่อีกสองสามวัน หาเจอเห็ดให้มากหน่อยตากแห้งเอาไว้คงพอมีอาหารให้กิน ข้างบ้านมีลำธาร ปลามีไม่น้อยคนยุคนี้ไม่นิยมกินปลาเพราะมีกลิ่นคาว แต่นางกินได้แถมยังสามารถทำให้อร่อยด้วย"ท่านพี่ฮั่ว เรามาเก็บเกาลัดกันเถอะ""หนามแหลมเพียงนี้เจ้าจะเ
ทั้งสองคนเดินมาถึงกลางทางระหว่างท้ายหมู่บ้านก็เจอกับอาหญิงของนางหลี่อ้ายเสิ่นและบุตรสสวของลุงใหญ่หลี่ม่านอวี้ ทันทีที่เห็นซ่งจื่อหรู หลี่อ้ายเสิ่นก็เปิดปากด่าทอ แต่ละคำล้วนไม่น่าฟัง"นังเด็กเหลือขอไหนว่าใกล้ตายแล้วไง ทำไมยังออกมาลอยหน้าข้างนอกได้อีก"หลี่อ้ายเสิ่นเปิดปากก็ด่าทอซ่งจื่อหรู"น้องสี่ เจอกับท่านอาเล็กเจอกับข้าเหตุใดเจ้าจึงไม่ทำความเคารพ อีกทั้งยังเมินเฉย" หลี่ม่านอวี้ที่คอยเป็นลูกไล่ของหลี่อ้านเสิ่นต่อว่าซ่งจื่อหรูเช่นกันสองดรุณีน้องแต่งกายด้วยกระโปรงผ้าฝ้ายลายดอกสีชมพูคือหลี่อ้ายเสิ่น ส่วนชุดกระโปรงสีฟ้าคือหลี่ม่านอวี้ บนศรีษะปักด้วยดอกไม้เข้ากันกับชุด แม้ว่าหน้าตาไม่ถือว่าโดดเด่นแต่สำหรับหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นไม้งามซ่งจื่อหรูคร้านจะสนใจคนทั้งสองจึงเดินผ่านหน้าไป หลี่อ้ายเสิ่นเห็นคนที่เดินตามหลังซ่งจื่อหรู ก็ทนไม่ได้เห็นแล้วก็แทบจะเข้าไปฉีกอกซ่งจื่อหรูให้ขาดเป็นชิ้นๆ ฮั่วเฟยหรงนั้นเป็นหนุ่มรูปงาม สตรีในหมู่บ้านใครบ้างเห็นแล้วจะไม่หวั่นไหว บางคนถึงกับละเมอใฝ่ฝันหนึ่งในนั้นก็มีหลี่อ้ายเสิ่นอยู่ด้วย หลี่อ้ายเสิ่นอายุสิบสามอีกไม่กี่วันก็จะอายุสิบสี่ปีสามรถพูดคุ
ฮั่วเฟยหรงมองหญิงชราอย่างรังเกียจ แต่ในที่สุดก็เอ่ยปาก"แม่เฒ่าข้าถามสักคำ ท่านมีเหตุผลใดจะให้เด็กคนนี้กตัญญูต่อท่าน?"น้ำเสียงที่ถามคำถามของฮั่วเฟยหรงนั้นทำเอายายแก่ถึงกับใจคอไม่ดี แต่ต้องเสแสร้งว่าไม่กลัว"หึ..มันเป็นหลานข้า ข้าเป็นย่ามันต้องมีเหตุผลอันใด""เหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้น"ฮัวเฟยหรงเอ่ยขัด"ท่านพี่เฟยหรง...ท่านแม่ข้าแก่แล้ว คนในหมู่บ้านล้วนแต่ต้องกตัญญู ฮ่องเต้พระองค์นี้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ยิ่งนักนะเจ้าคะ"หลี่อ้ายเสิ่นกล่าวเสียงหวาน นางมั่นใจว่าเขาต้องคล้อยตาม ความกตัญญูของฮ่องเต้เป็นที่ประจักษ์ และระบุเป็นกฎหมายต้าเย่ว นางกำลังโอ้อวดว่าตนมีความรู้ และคิดว่าเขาต้องพอใจในตัวนาง แต่ฮั่วเฟยหรงกลับไม่ใส่ใจและเมินเฉย"แม่เฒ่าข้าขอถามท่าน ท่านบอกว่าจะให้เด็กคนนีกตัญญูต่อท่านในฐานะผู้อาวุโส แต่คำนึงนางก็คนนอก อีกคำนางก็คนอื่น ท่านบอกว่าตนเองแซ่หลี่ส่วนนางแซ่ซ่ง ในเมื่อไม่ใช่คนในครอบครัวท่านแล้วจะให้นางกตัญญูด้วยเหตุผลเหล่านี้ข้าคิดว่าคงไม่ได้ ที่ข้ากล่าวมาถูกหรือไม่ขอรับท่านปู่ฝูเหยา"หลี่ฝูเหยากระแทกไม้เท้าตึงๆสามหน หญิงชราน่ารังเกียจช่างหน้าด้านยิ่งนัก"นังเฒ่า ข้าเห็นแก่เจ้าที่เ
ทั้งคู่เดินมาจนถึงกระท่อมของซ่งจื่อหรูเขาจึงวางตระกร้าลงและช่วยนางยกไปไว้ในลานบ้าน จากนั้นก็ส่งไก่ฟ้าให้สองตัว"พี่หรง หมายความว่าอย่างไรกันไก่สองตัวท่านเป็นคนล่าได้ ข้าล่ามาได้เพียงตัวเดียวเท่านั่นเอง"ซ่งจื่อหรูตกใจที่เขาไม่เอาแต่ให้นาง"อืม..ข้าให้เจ้าตัวนึง ถ้าหมดข้าสามารถไปล่าใหม่ได้อย่างกังวลเลย""พี่หรง ท่านว่าไก่ฟ้านี่แลกเป็นเงินได้หรือไม่เจ้าคะ" นางอยากได้ที่สุดตอนนี้คือเงิน"ปกติราคาจะอยู่ที่ชั่งละ30อีแปะ หากขนสวยจะได้ถึง40อีแปะไก่พวกนี้น่าจะหนักประมาณตัวละ5ชั่ง ทำไมเจ้าอยากขายรึ""ขอบอกตามตรง บ้านข้าไม่มีอะไรสักอย่าง อย่าถามหาข้าวสารสักกำหรือแป้งสาลีสักครึ่งถุงเลยเจ้าค่ะ""ปกติข้าไปแลกที่บ้านท่านผู้นำน่ะ ถึงจะราคาถูกสักหน่อยแต่แค่ไก่ฟ้าสองตัวเดินทางเข้าตัวตำบลคงไม่คุ้ม""พี่หรง ท่านช่วยไปแลกให้ข้าสักหน่อยได้ไหมเจ้าคะ"สายตาออดอ้อนนั้นช่างชวนให้คนตกอยู่ในภวังค์เสียจริงๆ เทียบกับสายตาเชิญชวนของเหล่าสตรีอื่นๆ ที่ส่งให้เขาๆ กับชอบสายตาสดใสคู่นี้ตรงหน้ามากกว่า""ได้ ว่าแต่แล้วเจ้าต้องการอะไรบ้าง""ข้าขอข้าวสาร เกลือ น้ำมัน ก็พอเจ้าค่ะ ข้าก็ไม่รู้ว่าจะได้สักเท่าไหร่ ข้าเจอหม้อกับก
ณ.โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งมีงานเลี้ยงเปิดตัวสินค้าใหม่ของเจียงหม่ากรุ๊ปซึ่งเป็นผู้นำด้านอุปโภคบริโภค มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีสาขาอยู่เกือบห้าสิบสาขาทั่วประเทศ เจียงหม่ากรุ๊ปก่อตั้งโดยประธานหม่า หม่าซุน วันนี้ซ่งเหลียนฮวาซึ่งเป็นผู้จัดการใหญ่ในเครือทั้งหมดของเจียงหม่ากรุ๊ป กำลังยืนทยอยส่งแขกและผู้ถือหุ้นของบริษัท วันนี้ซ่งเหลียนฮวาแต่งกายด้วยเสื้อเชิตสีขาวคอวี เผยให้เห็นลำคอยาวระหง สวมสร้อยคอเป็นจี้หยกสีขาวแกะสลักเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวใส่ต่างหูเข้าชุดกับสร้อยคอ สวมกำไลหยกมันแพะสีงาช้าง กำไลนั้นสวยงามดูมีมนต์ขลังมากดูแล้วน่าจะเป็นของเก่าโบราณคลุมด้วยเสื้อสูทสีแดงเชอรี่แขนสั้นและกระโปรงสีเดียวกัน"นี่ยายเกี๊ยวน้ำ...เสร็จงานแล้วไปต่อกันดีไหม"หลิวเฟยซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานเอ่ยชวน เพราะซ่งเหลียนฮวาชอบกินเกี๊ยวน้ำมากๆเพื่อนๆ เลยตั้งฉายาเกี๊ยวน้ำให้เธอ"ไม่ดีกว่าฉันว่าจะแวะไปบ้านไร่สักหน่อยน่ะ ไม่ได้ไปมาสามอาทิตย์แล้ว"ซ่งเหลียนฮวาปฏิเสธเพื่อนสาว"ก็หล่อนมั่วแต่คอยดูแลน้องชายนี่นา อย่าหาว่าฉันจุ้นเลยนะ อาห่าวปีนี้ก็จบมหาวิทยาลัยแล้วลองปล่อยให้เขาดูแลตัวเองบ้างเถอะ""ตั้งแต่แม่กับพ่อและ
เมื่อร่ำลาซ่งอวิ๋นห่าวเรียบร้อยทั้งสี่คนก็จับมือกันเดินตามแสงสว่างเบื้องหน้าไปยังทางเดินเล็กๆ เดินอยู่อึดใจนึงทั้งสี่ก็มาโผล่ที่กระท่อมดินมุงด้วยหญ้าคาหลังหนึ่งสภาพกระท่อมผุพัง หลังคาทะลุ กำแพงดินมีหญ้าขึ้นแซมยามลมพัดปลิวต้นหญ้าก็แกว่งไกวตามสายลม บริเวณกระท่อมมีรั้วไม้ไผ่ทำแบบง่ายๆ แทบจะใช้กันสิ่งใดไม่ได้เลย มีเถาวัลย์ขึ้นเลื้อยพันเต็มไปหมด บริเวณในรั้วก็มีไม้เลื้อยสลับกับต้นไม้ใบหญ้าที่ขึ้นรกกระท่อมหลังนี้อยู่ติดบริเวณตีนเขามีลำธารกว้างประมาณ10เมตรลึกประมาณ60-80เซน กั้นกลางระหว่างบ้านกับภูเขาอีกลูก ด้านหน้าประตูรั้วมีบึงบัวขนาดเกือบ600-700ไร่สุดลูกหูลูกตา บริเวณบ้านทั้งหมดน่าจะประมาณ300ตารางวา ซ่งเหลียนฮวาทำสีหน้างงๆ เหตุใดจึงมาโผล่ที่นี่กัน"หลานรัก หนูลองไปสำรวจบริเวณภูเขากับบึงบัวที่นี่สักหน่อยเถอะ สิ่งใดอยู่ตรงไหน ใช้ประโยชน์อย่างไรจงอย่าลืม พยายามจดจำรายละเอียดทุกจุดที่ผ่านตา เส้นทางไหนไปทางใดจงตั้งใจสำรวจให้ถี่ถ้วน มันจะดีต่อหลานในอนาคต"ซ่งฮั่นเหลียงเอ่ยกับหลานสาวแม้ว่าจะไม่เข้าใจที่คุณปู่สื่อสารมากนัก แต่เธอก็ยอมทำตาม เนื่องจากเป็นเพียงร่างวิญญาณการเคลื่อนที่จึงไม่เหน็ดเหน
ซ่งเหลียนฮวายอมรับการเกิดใหม่ครั้งนี้ อย่างน้อยครั้งนึงในอดีตก็คงเคยเป็นครอบครัวเดียวกันมาก่อน แม้จะไม่สมเหตุสมผลในบางเรื่อง แต่โบราณว่าไว้วาสนาจะนำพาให้คนเราได้พบเจอแต่หากสิ้นวาสนาก็ต้องพรากจากกันวาสนาของเธอกับคุณพ่อคุณแม่และคุณปู่รวมถึงอวิ่นห่าวทั้งสองภพต่างสิ้นสุดลงแล้ว ส่วนเด็กทั้งสองคนก็คือวาสนาในชาตินี้"พ่อคะ แม่คะ คุณปู่ จากนี้ไปหนูจะดูแลพวกเขาให้ดี จะทำหน้าที่ๆคุณพ่อคุณแม่และคุณปู่มอบหมายอย่างดีที่สุด ขอบคุณมากนะคะที่คืนน้องๆให้หนู พวกเขาจะต้องโตไปอย่างดีคะ หนูให้สัญญาค่ะ"สายลมอุ่นๆ พัดอยู่รอบตัวเธอเห็นวิญญาณซ่งจื่อหรูเจ้าของร่างเดิมกำลังจับมือกับพ่อแม่และปู่ของเธอพวกเขายิ้ม ซ่งเหลียนฮวายิ้มตอบ พวกเขาค่อยๆ เลือนหายไปในแสงสีขาวที่เคยพาเธอมาก่อนหน้า ซ่งจื่อเย่วเห็นพี่สาวลืมตาขึ้นก็ดีใจรีบจับมือนางพร้อมถามไถ่"พี่ใหญ่ท่านตื่นแล้ว ท่านเป็นอย่างไรบ้างเจ็บตรงไหนไหมเจ้าคะ"ซ่งจื่อเย่วเป็นห่วงพี่สาว ซ่งเหลียนฮวาลูกขึ้นนั่งตอนนี้เธอยอมรับแล้วว่าเธอคือซ่งจื่อหรู และเด็กสองคนนี้คือน้องของเธอ"จื่อเย่ว จื่อห่าว น้องพี่พวกเจ้าอยู่นี่ตรงหน้าพี่จริงๆด้วย"ซ่งจื่อหรูโอบกอดเด็กทั้งสองแน่น น
ทั้งคู่เดินมาจนถึงกระท่อมของซ่งจื่อหรูเขาจึงวางตระกร้าลงและช่วยนางยกไปไว้ในลานบ้าน จากนั้นก็ส่งไก่ฟ้าให้สองตัว"พี่หรง หมายความว่าอย่างไรกันไก่สองตัวท่านเป็นคนล่าได้ ข้าล่ามาได้เพียงตัวเดียวเท่านั่นเอง"ซ่งจื่อหรูตกใจที่เขาไม่เอาแต่ให้นาง"อืม..ข้าให้เจ้าตัวนึง ถ้าหมดข้าสามารถไปล่าใหม่ได้อย่างกังวลเลย""พี่หรง ท่านว่าไก่ฟ้านี่แลกเป็นเงินได้หรือไม่เจ้าคะ" นางอยากได้ที่สุดตอนนี้คือเงิน"ปกติราคาจะอยู่ที่ชั่งละ30อีแปะ หากขนสวยจะได้ถึง40อีแปะไก่พวกนี้น่าจะหนักประมาณตัวละ5ชั่ง ทำไมเจ้าอยากขายรึ""ขอบอกตามตรง บ้านข้าไม่มีอะไรสักอย่าง อย่าถามหาข้าวสารสักกำหรือแป้งสาลีสักครึ่งถุงเลยเจ้าค่ะ""ปกติข้าไปแลกที่บ้านท่านผู้นำน่ะ ถึงจะราคาถูกสักหน่อยแต่แค่ไก่ฟ้าสองตัวเดินทางเข้าตัวตำบลคงไม่คุ้ม""พี่หรง ท่านช่วยไปแลกให้ข้าสักหน่อยได้ไหมเจ้าคะ"สายตาออดอ้อนนั้นช่างชวนให้คนตกอยู่ในภวังค์เสียจริงๆ เทียบกับสายตาเชิญชวนของเหล่าสตรีอื่นๆ ที่ส่งให้เขาๆ กับชอบสายตาสดใสคู่นี้ตรงหน้ามากกว่า""ได้ ว่าแต่แล้วเจ้าต้องการอะไรบ้าง""ข้าขอข้าวสาร เกลือ น้ำมัน ก็พอเจ้าค่ะ ข้าก็ไม่รู้ว่าจะได้สักเท่าไหร่ ข้าเจอหม้อกับก
ฮั่วเฟยหรงมองหญิงชราอย่างรังเกียจ แต่ในที่สุดก็เอ่ยปาก"แม่เฒ่าข้าถามสักคำ ท่านมีเหตุผลใดจะให้เด็กคนนี้กตัญญูต่อท่าน?"น้ำเสียงที่ถามคำถามของฮั่วเฟยหรงนั้นทำเอายายแก่ถึงกับใจคอไม่ดี แต่ต้องเสแสร้งว่าไม่กลัว"หึ..มันเป็นหลานข้า ข้าเป็นย่ามันต้องมีเหตุผลอันใด""เหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้น"ฮัวเฟยหรงเอ่ยขัด"ท่านพี่เฟยหรง...ท่านแม่ข้าแก่แล้ว คนในหมู่บ้านล้วนแต่ต้องกตัญญู ฮ่องเต้พระองค์นี้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ยิ่งนักนะเจ้าคะ"หลี่อ้ายเสิ่นกล่าวเสียงหวาน นางมั่นใจว่าเขาต้องคล้อยตาม ความกตัญญูของฮ่องเต้เป็นที่ประจักษ์ และระบุเป็นกฎหมายต้าเย่ว นางกำลังโอ้อวดว่าตนมีความรู้ และคิดว่าเขาต้องพอใจในตัวนาง แต่ฮั่วเฟยหรงกลับไม่ใส่ใจและเมินเฉย"แม่เฒ่าข้าขอถามท่าน ท่านบอกว่าจะให้เด็กคนนีกตัญญูต่อท่านในฐานะผู้อาวุโส แต่คำนึงนางก็คนนอก อีกคำนางก็คนอื่น ท่านบอกว่าตนเองแซ่หลี่ส่วนนางแซ่ซ่ง ในเมื่อไม่ใช่คนในครอบครัวท่านแล้วจะให้นางกตัญญูด้วยเหตุผลเหล่านี้ข้าคิดว่าคงไม่ได้ ที่ข้ากล่าวมาถูกหรือไม่ขอรับท่านปู่ฝูเหยา"หลี่ฝูเหยากระแทกไม้เท้าตึงๆสามหน หญิงชราน่ารังเกียจช่างหน้าด้านยิ่งนัก"นังเฒ่า ข้าเห็นแก่เจ้าที่เ
ทั้งสองคนเดินมาถึงกลางทางระหว่างท้ายหมู่บ้านก็เจอกับอาหญิงของนางหลี่อ้ายเสิ่นและบุตรสสวของลุงใหญ่หลี่ม่านอวี้ ทันทีที่เห็นซ่งจื่อหรู หลี่อ้ายเสิ่นก็เปิดปากด่าทอ แต่ละคำล้วนไม่น่าฟัง"นังเด็กเหลือขอไหนว่าใกล้ตายแล้วไง ทำไมยังออกมาลอยหน้าข้างนอกได้อีก"หลี่อ้ายเสิ่นเปิดปากก็ด่าทอซ่งจื่อหรู"น้องสี่ เจอกับท่านอาเล็กเจอกับข้าเหตุใดเจ้าจึงไม่ทำความเคารพ อีกทั้งยังเมินเฉย" หลี่ม่านอวี้ที่คอยเป็นลูกไล่ของหลี่อ้านเสิ่นต่อว่าซ่งจื่อหรูเช่นกันสองดรุณีน้องแต่งกายด้วยกระโปรงผ้าฝ้ายลายดอกสีชมพูคือหลี่อ้ายเสิ่น ส่วนชุดกระโปรงสีฟ้าคือหลี่ม่านอวี้ บนศรีษะปักด้วยดอกไม้เข้ากันกับชุด แม้ว่าหน้าตาไม่ถือว่าโดดเด่นแต่สำหรับหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นไม้งามซ่งจื่อหรูคร้านจะสนใจคนทั้งสองจึงเดินผ่านหน้าไป หลี่อ้ายเสิ่นเห็นคนที่เดินตามหลังซ่งจื่อหรู ก็ทนไม่ได้เห็นแล้วก็แทบจะเข้าไปฉีกอกซ่งจื่อหรูให้ขาดเป็นชิ้นๆ ฮั่วเฟยหรงนั้นเป็นหนุ่มรูปงาม สตรีในหมู่บ้านใครบ้างเห็นแล้วจะไม่หวั่นไหว บางคนถึงกับละเมอใฝ่ฝันหนึ่งในนั้นก็มีหลี่อ้ายเสิ่นอยู่ด้วย หลี่อ้ายเสิ่นอายุสิบสามอีกไม่กี่วันก็จะอายุสิบสี่ปีสามรถพูดคุ
ทั้งคู่เดินมาเพียงครึ่งถ้วยชาก็ถึงตีนเขา มีรอยเท้าชาวบ้านที่มาหาของป่าเต็มไปหมด ซ่งจื่อหรูจึงหันมาพูดกับฮั่วเฟยหรง"ท่านพี่ฮั่ว พวกเราไปอีกด้านเถอะทางนี้คงไม่มีอะไรเหลือให้หาแล้ว"ซ่งจื่อหรูชักชวน"อืม"ฮั่วเฟยหรงเพียงแค่พยักหน้าแล้วเดินนำซ่งจื่อหรูไปอีกด้าน ซ่งจื่อหรูตัวเตี้ยกว่าจึงส่งมีดให้เขา เมื่อฮั่วเฟยหรงรับมีดมาฮั่วเฟยหรงก็ใช้มันฟันกิ่งไม้ที่ระเกะระกะพร้อมกับมองหาอาหารหรือผักป่าที่กินได้ เดินมาเกือบครึ่งชั่วยามก็ถึงบริเวณที่มีต้นไม้สูงสลับเตี้ย มีลูกหล่นอยู่บนพื้นลักษณะมีหนามแหลมหล่นอยู่ใต้ต้นและบนต้นอีกมากมาย มันคือต้นเกาลัดแม้ว่าล่วงหน้าจะรู้ว่าตรงนี้มีอะไร แต่ซ่งจื่อหรูก็เหนื่อยพอประมาณตอนที่สำรวจนั้นเป็นเพียงร่างวิญญาณ แต่พอตอนนี้ต้องเดินเท้าเข้ามากลับรู้สึกเหนื่อยยิ่งนัก ที่บ้านไม่มีข้าวสาร แต่เกาลัดสามารถต้มเป็นโจ๊กได้ ดูเหมือนพายุฤดูร้อนน่าจะอยู่อีกสองสามวัน หาเจอเห็ดให้มากหน่อยตากแห้งเอาไว้คงพอมีอาหารให้กิน ข้างบ้านมีลำธาร ปลามีไม่น้อยคนยุคนี้ไม่นิยมกินปลาเพราะมีกลิ่นคาว แต่นางกินได้แถมยังสามารถทำให้อร่อยด้วย"ท่านพี่ฮั่ว เรามาเก็บเกาลัดกันเถอะ""หนามแหลมเพียงนี้เจ้าจะเ
ซ่งจื่อหรูหาไม้ง่ามมาได้สองอันก็ปักลงด้านบนปากหลุมทั้งสองฝั่งๆ ล่ะหนึ่งอัน เขี่ยกองฟืนให้เป็นถ่านแดงนำมันเทศวางลงไปพร้อมกลบถ่านจากนั้นนำปลามาวางบนไม้ง่ามค่อยๆ พลิกไปมา จนปลาย่างเริ่มส่งกลิ่น เกือบจะปลายยามเหมาแล้วเด็กสองคนถูกกลิ่นหอมของปลาย่างปลุกให้ตื่น ซ่งจื่อหรูนำมันเทศที่สุกแล้วกับปลาย่างวางบนใบบัวที่ตัดมาเมื่อวาน จากนั้นก็นำหม้อแตกครึ่งใบมาต้มน้ำซ่งจื่อเย่วได้กลิ่นจึงวิ่งมาหาพี่สาว"พี่ใหญ่..ท่านทำอะไรหอมจังเลยเจ้าค่ะ""พี่ย่างปลาน่ะ จื่อเย่วกับจื่อห่าวพับผ้าห่มให้เรียบร้อยแล้วมาล้างหน้าพี่ต้มนำอุ่นให้แล้ว"แม้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนแต่เนื่องจากอยู่ติดเชิงเขาอากาศจึงหนาวเย็นกว่าที่อื่น เด็กๆพากันเก็บที่นอนพับผ้าห่มเก่าที่ถูกปะชุนจนหาสีเดิมไม่ได้ เอ๋มีผ้าห่มผืนใหม่ด้วย พี่ใหญ่คงเอามาจากใต้เตียงท่านตาแน่ๆ มิน่าเมื่อคืนนี้พวกเขาอุ่นมากแถมพี่ใหญ่ยังกอดพวกเขาอีกด้วยมือน้อยๆ ช่วยกันพับผ้า จากนั้นก็มาล้างหน้า ซ่งจื่อหรูนำหมั่นโถวสามลูกห่อใบบัววางอุ่นในหม้อแตก หม้ออีกใบถูกใช้ต้มน้ำดื่ม ซ่งจื่อหรูค่อยๆบิมันเทศและหมั่นโถวให้ซ่งจื่อห่าว จากนั้นก็แกะเนื้อปลาให้น้องทั้งสอง เมื่ออิ่มแล้วจึงดับ
ซ่งจื่อหรูใช้เทียนส่องดู เห็นมีตะเกียงอยู่ตรงมุมห้อง จึงเดินไปจุดตะเกียงที่อยู่ตามมุม จากนั้นในห้องก็สว่าง พบว่าภายในห้องใต้ดินนางพบเจอหีบเรียงราย ในนั้นมีเครื่องมือช่างมากมาย มีชั้นหนังสือและมีหนังสือหลายเล่ม ในยุคสมัยนี้เหล็กและหนังสือล้วนแต่มีราคาแพง มีผ้าหลายพัยอยู่ในหีบ แต่ไม่มีอาหารใดๆนอกจากเมล็ดพันธุ์บางชนิดไม่เห็นว่าบ้านนี้จะปลูกอะไรสักต้นแล้วจะมีเมล็ดพันธุ์ไว้ทำไมกัน เฮ้อ!!ซ่งจื่อหรูถอนหายใจ ไม่มีอะไรแลกเป็นเงินได้สักอย่างมีแค่ของเหล่านี้แต่ถึงกระนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ช่างไม้ธรรมดาคนนึงไม่น่าจะมีไว้ครอบครองได้ แต่เหตุใดท่านตาจึงทำตัวเหมือนคนยากจน จากนั้นก็สำรวจต่อค้นเจอสุราเหลืออยู่สองไห ซ่งจื่อหรูหยิบสุรามาหนึ่งไหเพื่อจะใช้เช็ดบริเวณบาดแผลที่ศรีษะ นางใช้ชามที่วางอยู่เอาสุรามาเช็ดทำความสะอาดจากนั้นก็รินสุราลงไปก่อนจะใช้ผ้าค่อยๆจุ่มสุรามาเช็ดแผลบริเวณศรีษะ ซ่งจื่อหรูเช็ดเลือดที่เกอะกรังออก ทำให้ปากแผลเปิดเลือดจึงซึมๆ ออกมา อย่างน้อยก็ฆ่าเชื้อ พรุ่งนี้หาทางขึ้นเขาสักครั้งเผื่อเจอสมุนไพรมารักษาได้บ้างหลังจากจัดการบาดแผลเสร็จก็ดับตะเกียงก่อนจะขึ้นมาจากห้องใต้ดิน ความรู้ส
ซ่งจื่อหรูพยายามค้นหาความทรงจำของร่างเดิมไม่ให้ตกหล่น ในเมื่อนางต้องมาดูแลน้องทำหน้าที่แทนพ่อแม่และคุณปู่แล้วนางจะต้องทำให้ดี ใจจริงนางอยากขึ้นเขามากกว่าแต่ตอนนี้เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว (15.00 - 16.59 น.)จากที่สำรวจตอนที่วิญญาณมาถึงนางเห็นของดีมากมาย แต่ใกล้ค่ำไม่อาจทิ้งน้องไว้ลำพังได้ ไม่รู้ว่าคนบ้านใหญ่รู้ว่านางฟื้นแล้วจะมาหาเรื่องอะไรอีกซ่งจื่อหรูมองรอบบริเวณบ้านรั้วนั่นต้องเร่งทำอย่างน้อยก็ป้องกันคนจากบ้านใหญ่มารังแกเด็กๆ และคนอื่นๆ ที่ไม่หวังดีอีก เถาวัลย์หลายขนาดเลื้อยพันไปมาที่นี่คือแคว้นต้าเหลียง หมู่บ้านที่นางอาศัยอยู่คือหมู่บ้านหลี่ซาน หมู่บ้านข้างๆ คือหมู่บ้านไป๋ซานและหมู่บ้านเถาซานตั้งอยู่ในตำบลซานสุยเมืองเสียนหยาง เมื่อสี่ปีก่อนท่านพ่อบาดเจ็บจากการล่าสัตว์ แม่เฒ่าหลี่ไม่อยากจ่ายค่ารักษาจึงถูกบังคับให้ต้องแยกบ้านและไม่ให้อะไรเลย แต่เพราะเกรงกลัวอำนาจของหลี่ฝูเหยาหลี่เจิ้งของหมู่บ้านอีกทั้งยังเป็นพี่สามีคนโตของนางเขาข่มขู่นางว่าจะส่งจดหมายหาหลี่ไหลฝูน้องชายให้หย่ากับนางซะหากนางไม่ยินยอม แม่เฒ่าหลี่จึงยอมให้หลี่ต้าซานได้กระท่อมหลัเก่าของบ้านหลี่ไปแต่หลังจากนั้นไม่นานเพ
หลี่ถิงถิงเมื่อมาถึงที่นาก็ตะโกนเรียกบิดากับมารดาทันที"ท่านแม่ ท่านพ่อ""ถิงถิง ตัดหญ้าเสร็จแล้วหรือ ลูกมาทำอะไรที่นี่ รีบกลับบ้านเถอะเดี๋ยวจะถูกท่านย่าตำหนิได้อีก"หวงซื่อเอ่ยตอบบุตรสาวหลี่ถิงถิงมองบน"ใครสนใจนางกัน ต่อให้รีบกลับไปก็ถูกด่าอยู่ดี คนในบ้านนอกจากท่านกับท่านแม่ยังมีใครทำงานบ้าน นั่งๆ นอนๆ จนข้านึกว่าพวกเขาแขนขาพิการเสียอีก อย่าพูดถึงเลยเจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านดูสิเจ้าคะข้ามีอะไรมาฝากพวกท่านด้วย"หลี่ถิงถิงค่อยๆ เอามันเทศที่ห่อใบบัวมาให้หลี่ต้าจูและนางหวง ทั้งสองมองหน้ากันงงๆ ว่าบุตรสาวนำสิ่งใดมาให้"นี่คือมันเทศเจ้าค่ะ อร่อยมากพวกท่านลองกินสิเจ้าคะ มีฝักบัวด้วยเจ้าค่ะ""ถิงถิง..อะไรคือมันเทศนี่มันคือสิ่งใดกัน"หวงซื่อสงสัยสิ่งที่บุตรสาวนำมา"มันคือสิ่งที่เติบโตใต้ดินเจ้าค่ะ มีฝักบัวด้วยนะเจ้าคะหวานอร่อยมากเจ้าค่ะท่านแม่""อาซู่..สิ่งที่ลูกนำมาล้วนเพราะกตัญญูจะถามให้มากความทำไมกัน"หลี่ต้าจูเอ็นดูบุตรสาวจึงบอกแก่ภรรยาว่าอย่าไปคาดคั้นนาง"ท่านพ่อท่านแม่ นี้เป็นสิ่งที่พี่สี่หาเจอ และก็รู้ว่ามันกินได้เจ้าค่ะ อย่าบอกใครนะเจ้าคะ โดยเฉพาะท่านย่า""วางใจเถอะแม่กับพ่อรู้ดี ทุกวันนี้ก็ได
ซ่งจื่อหรูเดินไปเด็ดใบบัว เห็นฝักบัวมากมาย จากความทรงจำเด็กคนนี้ไม่เคยกิน ไม่รู้ว่าคนที่นี่รู้หรือไม่ว่ามันกินได้ บึงบัวที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ นับว่าอาหารอุดมสมบูรณ์ยายแก่นั่นยึดจานชามยังไม่พอ แต่ยังทุบทำลาย จะไปทวงคืนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ เพราะร่างกายนี้ยังอ่อนแอแต่ก็จดใส่บัญชีหนังหมาเรียบร้อยแล้ว ซ่งจื่อหรูจึงใช้ใบบัวชั่วคราว รอให้จัดการรั้วและประตูบ้านก่อน ค่อยเอาของที่ท่านตาเก็บไว้มาใช้สอย ซ่งจื่อหรูหอบใบบัวกับฝักบัวหอบใหญ่กลับมา"เด็กๆ ดูสิพี่ได้อะไรมา เห็นไหมฝักบัวแก่กำลังกินเลย"ซ่งจื่อหรูเอ่ยปาก"สิ่งนี้กินได้หรือเจ้าคะพี่ใหญ่ ข้าไม่เคยเห็นใครกินมาก่อน" ซ่งจื่อเย่วเห็นสิ่งที่พี่สาวนำมาก็สงสัย ซ่งจื่อห่าวเองก็อดถามไม่ได้เช่นกัน"อร่อยไหมขอรับพี่ใหญ่""กินได้สิ อร่อยมากด้วยเดี๋ยวพี่แกะให้นะ"ซ่งจื่อหรูตอบน้องๆก่อนจะนั่งลงวางฝักบัวข้างๆ และใช้ไม้ค่อยๆ เขี่ยมันเทศออกจากกองถ่านที่เป็นขี้เถ้าจนหมดแล้ว ปัดเศษขี้เถ้าออกและนำวางบนใบบัว"จื่อเย่ว..พี่สี่ฟื้นหรือยัง"เสียงเรียกจากประตูรั้วดังมา ซ่งจื่อหรูหันไปตามเสียงก็เห็นเด็กสาวคนนึงอายุประมาณ9ขวบ ใส่เสื้อผ้าทีมีรอยปะชุนเต็มไปหมด รองเท้าฟางที