ซ่งจื่อหรูหาไม้ง่ามมาได้สองอันก็ปักลงด้านบนปากหลุมทั้งสองฝั่งๆ ล่ะหนึ่งอัน เขี่ยกองฟืนให้เป็นถ่านแดงนำมันเทศวางลงไปพร้อมกลบถ่านจากนั้นนำปลามาวางบนไม้ง่ามค่อยๆ พลิกไปมา จนปลาย่างเริ่มส่งกลิ่น เกือบจะปลายยามเหมาแล้วเด็กสองคนถูกกลิ่นหอมของปลาย่างปลุกให้ตื่น ซ่งจื่อหรูนำมันเทศที่สุกแล้วกับปลาย่างวางบนใบบัวที่ตัดมาเมื่อวาน จากนั้นก็นำหม้อแตกครึ่งใบมาต้มน้ำ
ซ่งจื่อเย่วได้กลิ่นจึงวิ่งมาหาพี่สาว
"พี่ใหญ่..ท่านทำอะไรหอมจังเลยเจ้าค่ะ"
"พี่ย่างปลาน่ะ จื่อเย่วกับจื่อห่าวพับผ้าห่มให้เรียบร้อยแล้วมาล้างหน้าพี่ต้มนำอุ่นให้แล้ว"
แม้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนแต่เนื่องจากอยู่ติดเชิงเขาอากาศจึงหนาวเย็นกว่าที่อื่น เด็กๆพากันเก็บที่นอนพับผ้าห่มเก่าที่ถูกปะชุนจนหาสีเดิมไม่ได้ เอ๋มีผ้าห่มผืนใหม่ด้วย พี่ใหญ่คงเอามาจากใต้เตียงท่านตาแน่ๆ มิน่าเมื่อคืนนี้พวกเขาอุ่นมากแถมพี่ใหญ่ยังกอดพวกเขาอีกด้วย
มือน้อยๆ ช่วยกันพับผ้า จากนั้นก็มาล้างหน้า ซ่งจื่อหรูนำหมั่นโถวสามลูกห่อใบบัววางอุ่นในหม้อแตก หม้ออีกใบถูกใช้ต้มน้ำดื่ม ซ่งจื่อหรูค่อยๆบิมันเทศและหมั่นโถวให้ซ่งจื่อห่าว จากนั้นก็แกะเนื้อปลาให้น้องทั้งสอง เมื่ออิ่มแล้วจึงดับไฟในหลุม
ซ่งจื่อหรูนำจอบเล่มเล็กออกมาและมีดอันใหญ่กับเลื่อยขนาดกลางๆ สำหรับถางทางและตัดต้นไม้ ใส่ตระกร้า นำผ้าห่มเก็บที่เดิม หลังจากนั้นปิดกล่องล๊อคแล้วก็นำแผ่นหินมาปิดทับคลุมด้วยหญ้าฟางที่ใช้นอนอีกที
"วันนี้พี่จะขึ้นเขา ในบ้านไม่มีของกินแล้วไปกันเถอะ"
ซ่งจื่อหรูเอ่ยกับน้องชายน้องสาวหลังจากนั้นก็สะพายตระกร้า ซ่งจื่อหรูก็จูงมือเด็กทั้งสอง พวกเขาคิดว่าพี่สาวจะพาไปบ้านท่านป้าหูแต่ผิดทางพี่ใหญ่ พาเดินมายังชายป่าถัดจากกระท่อมพวกเขาประมาณร้อยก้าว ก่อนจะหยุดหน้ากระท่อมหลังนึงแล้วตะโกนเรียก
ซ่งจื่อหรูเรียกคนด้านใน
"ท่านอาฮั่ว ท่านอาสะใภ้ฮั่วท่านอยู่หรือไม่เจ้าคะ"
"มาแล้วๆ ..ใครกันมาเรียกกันแต่เช้าเชียว แค่กๆ"
เสียงสตรีดังมาจากด้านในพร้อมกับเสียงไอไม่หยุด ไม่นานก็มีสตรีคนนึงเดินออกมา แต่งกายด้วยผ้าฝ้ายธรรมดาแต่ก็สะอาดสะอ้าน ร่างกายนางผ่ายผอม เหมือนใบไม้ที่เริ่มเหลืองใกล้ร่วงหล่นเต็มที แต่กระนั้นก็มิอาจปกปิดคงามงามของนางได้
นางคือฮั่วหรานภรรยาของฮั่วหย่ง ทั้งคู่เพิ่งจะย้ายมาอยู่หมู่บ้านหลี่ซานได้สี่ปีกว่าแล้ว อาศัยฮั่วหย่งพอมีฝีมือจึงออกล่าสัตว์ป่าบนเขาไปขาย ทั้งคู่มีบุตรชายอายุ15 เขามักไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับคนนอก และยังมีบุตรสาวอายุสี่ขวบ ร่างกายฮั่วหรานไม่ค่อยจะดีนัก มาอยู่ที่นี่ตอนใกล้คลอด
หลังจากคลอดบุตรสาวสุขภาพก็อ่อนแอมาตลอด ท่านอาฮั่วหย่งมีฝีมือในการล่าสัตว์ เหตุใดไม่พาภรรยาไปหาหมอในเมืองกัน เอาแต่หาหมอเท้าเปล่าอยู่เช่นนี้ ช่างเถอะเรื่องบ้านคนอื่นอย่ายื่นมือเป็นดีที่สุด จากนั้นจึงเอ่ยถึงจุดประสงค์ของการมา
"สวัสดีเจ้าค่ะท่านอาสะใภ้ฮั่ว"ซ่งจื่อหรูทักทายสตรีตรงหน้า
"จื่อเย่ว จื่อห่าว สวัสดีอาสะใภ้ฮั่วขอรับ/เจ้าค่ะ"
"เอ๋ พวกเจ้าคือบุตรสาวบุตรชายของพี่สาวหว่านเอ๋อร์กับพี่ต้าซานกระมัง"ฮั่วหรานจำซ่งจื่อหรูได้
ฮั่วหรานหลังจากย้ายมาอยู่ที่นี่ก็พอได้ยินเรื่องราวของสกุลหลี่มาบ้าง หลังจากที่หลี่ต้าซานตายนางซ่งถูกไล่ให้มาอยู่บ้านเดิมจึงมีโอกาสพูดคุยและสนิทกัน หลี่ต้าซานนับเป็นผู้มีพระคุณของนางก็ว่าได้ แต่หลังจากที่แม่ของเด็กเหล่านี้จากไปก็แทบจะไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลย
"เป็นข้าเองเจ้าค่ะ มิทราบว่าท่านอาฮั่วและอาสะใภ้สบายดีนะเจ้าคะ"
"ก็อย่างที่เจ้าเห็นนี่แหละ อายุมากขึ้นก็เจ็บป่วยง่าย ว่าแต่วันนี้เจ้ามีธุระอะไรกับข้าและสามีหรือไม่จึงมาเช้าเยี่ยงนี้"
"คือขออภัยที่ข้าไร้มารยาท ข้ามีเรื่องขอรบกวนไม่ทราบว่าอาสะใภ้จะสะดวกหรือไม่เจ้าค่ะ"
"ว่ามาเถอะ พ่อกับแม่เจ้าเองก็ช่วยเหลือข้าไว้ไม่น้อย"
"เนื่องจากก่อนหน้า ท่านป้าหูบอกว่าจะกลับไปเยี่ยมบ้าน คิดว่าเมื่อเช้าคงเดินทางแล้วท่านอาสะใภ้ข้าจึงอยากรบกวนฝากน้องทั้งสองแก่ท่านสักครึ่งวันเจ้าค่ะนี่เป็นปลาย่างกับมันเทศเผาเจ้าค่ะ ท่านอาสะใภ้ลองทานดู มันเทศหวานยิ่งนัก"
ซ่งจื่อหรูส่งห่อใบบัวให้ฮั่วหรานสองห่อ
"ก็แค่เด็กสองคนจะลำบากอะไรกัน บ้านเจ้าก็ใช่ว่าจะมั่งมี เอ่อขอโทษด้วยข้าไม่ได้ตั้งใจจะดูแคลน"ฮั่วหรานเอ่ยกับนาง
"อาศัยไหว้วานผู้คนก็ควรมีน้ำใจ หากไม่มีท่านช่วย ลำพังแค่ข้าจะพาน้องๆ ขึ้นเขาด้วยคงลำบาก แต่ว่าตอนนี้ข้ายังมีเพียงเท่านี้หวังว่าอาสะใภ้จะไม่ถือสานะเจ้าคะ ส่วนห่อนี้เป็นของน้องๆ ข้าเผื่อว่าข้ากลับมาช้า ท่านอาสะใภ้จะยอมช่วยข้าสักวันได้ไหมเจ้าคะ"
"ย่อมได้..เด็กสองคนจากที่เคยได้ยินล้วนเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย ที่เจ้ามาฝากบ้านข้าเป็นเพราะท่านย่าเจ้าหวาดกลัวผู้ชายของข้าล่ะสิ เอาล่ะไปเถอะ ระวังตัวด้วยอย่าเข้าไปลึกนัก"
"จื่อเย่ว จื่อห่าวอยู่บ้านท่านอาฮั่วดีๆ จงเชื่อฟังอาสะใภ้และช่วยนางดูน้องสาวตัวน้อยดีๆ เดี๋ยวพี่กลับมา" ซ่งจื่อหรูสั่งน้องๆ
"พวกเราจะเป็นเด็กดี พี่ใหญ่หากเจอท่านอาเล็กกับท่านย่าพี่ต้องเดินหนีนะเจ้าคะ"ส่งจื่อโย่วรับปากแต่ก็อดห่วงพี่สาวไม่ได้
"พี่ใหญ่...ปลอดภัยกลับมานะขอรับ"
ซ่งจื่อหรูสะพายตระกร้าขึ้นบ่า เดินมุ่งหน้าไปยังเขาชิงลั่วด้านฝั่งเดียวกับหมู่บ้าน ระหว่างทางเจอกับเด็กผู้ชายคนนึง แม้จะใส่เสื้อผ้าเก่าๆ แต่ก็ดูสะอาดสะอ้าน เสื้อสีน้ำเงินที่เริ่มซีด รองเท้าฟางที่ดูเพิ่งจะเย็บใหม่ๆ เด็กคนนี้หน้าตาถือว่าหล่อเหลามาก เขาคือฮั่วเฟยหรงบุตรชายของฮั่วหย่งกับฮั่วหราน
ไม่แปลกที่เขาจะหน้าตาดีเพราะพ่อกับแม่ของเขาถือว่าหน้าตาดี โดยเฉพาะฮั่วหรานนี่เข้าขั้นหญิงงามเลยทีเดียว บุรุษในหมู่บ้านมักจะคอยมาแอบส่องบ่อยๆ แต่ว่ากันว่าท่านอาฮั่วเฟยหย่งคนนั้นเคยเป็นทหารออกรบฆ่าคนไม่กระพริบตา แม้จะชื่นชอบแต่ก็ต้องรู้ด้วยว่านั่นคือสตรีของใคร
"เอ่อ พี่ชายฮั่ว ข้าชื่อจื่อหรู ซ่งจื่อหรูบ้านข้าห่างจากท่านไม่ไกล ข้ากำลังจะขึ้นเขาพี่ชายฮั่วเองก็จะขึ้นเขาเช่นกันใช่หรือไม่"
ซ่งจื่อหรูทักทายฮั่วเฟยหรงชะงักเท้าก่อนจะหยุดมองเด็กสาวที่เรียกเขา หลังจากนั้นก็รับคำ
"อืม..."
ฮั่วเฟยหรงแค่พยักหน้า ช่างเป็นเด็กที่เย็นชาจริงๆ ยังกับใครติดหนี้เจ้ากัน ทั้งคู่เดินขึ้นเขาไปด้วยกัน ถึงจะล่าสัตว์ได้มาแต่สกุลฮั่วก็ไม่ได้ร่ำรวย แม้ว่าฮั่วเฟยหรงจะอายุ15 ถึงเวลาควรพูดเรื่องแต่งงานได้แล้ว
แต่หน้าตาดีแล้วอย่างไรกินแทนข้าวได้รึ บ้านยากจน และยังมีมารดาที่เจ็บออดๆ แอดๆ ทั้งมีน้องสาวต้องเลี้ยงดู ใครจะอยากยกลูกสาวให้กัน
บิดาล่าสัตว์ขึ้นเขาครั้งนึงเป็นเวลานาน ชะตากรรมไม่อาจรู้ หากเกิดเหมือนเจ้าสามบ้านหลี่นั่นล่ะ อยู่ๆก็ทิ้งให้ลูกๆกลายเป็นเด็กกำพร้า
ทั้งคู่เดินมาเพียงครึ่งถ้วยชาก็ถึงตีนเขา มีรอยเท้าชาวบ้านที่มาหาของป่าเต็มไปหมด ซ่งจื่อหรูจึงหันมาพูดกับฮั่วเฟยหรง"ท่านพี่ฮั่ว พวกเราไปอีกด้านเถอะทางนี้คงไม่มีอะไรเหลือให้หาแล้ว"ซ่งจื่อหรูชักชวน"อืม"ฮั่วเฟยหรงเพียงแค่พยักหน้าแล้วเดินนำซ่งจื่อหรูไปอีกด้าน ซ่งจื่อหรูตัวเตี้ยกว่าจึงส่งมีดให้เขา เมื่อฮั่วเฟยหรงรับมีดมาฮั่วเฟยหรงก็ใช้มันฟันกิ่งไม้ที่ระเกะระกะพร้อมกับมองหาอาหารหรือผักป่าที่กินได้ เดินมาเกือบครึ่งชั่วยามก็ถึงบริเวณที่มีต้นไม้สูงสลับเตี้ย มีลูกหล่นอยู่บนพื้นลักษณะมีหนามแหลมหล่นอยู่ใต้ต้นและบนต้นอีกมากมาย มันคือต้นเกาลัดแม้ว่าล่วงหน้าจะรู้ว่าตรงนี้มีอะไร แต่ซ่งจื่อหรูก็เหนื่อยพอประมาณตอนที่สำรวจนั้นเป็นเพียงร่างวิญญาณ แต่พอตอนนี้ต้องเดินเท้าเข้ามากลับรู้สึกเหนื่อยยิ่งนัก ที่บ้านไม่มีข้าวสาร แต่เกาลัดสามารถต้มเป็นโจ๊กได้ ดูเหมือนพายุฤดูร้อนน่าจะอยู่อีกสองสามวัน หาเจอเห็ดให้มากหน่อยตากแห้งเอาไว้คงพอมีอาหารให้กิน ข้างบ้านมีลำธาร ปลามีไม่น้อยคนยุคนี้ไม่นิยมกินปลาเพราะมีกลิ่นคาว แต่นางกินได้แถมยังสามารถทำให้อร่อยด้วย"ท่านพี่ฮั่ว เรามาเก็บเกาลัดกันเถอะ""หนามแหลมเพียงนี้เจ้าจะเ
ทั้งสองคนเดินมาถึงกลางทางระหว่างท้ายหมู่บ้านก็เจอกับอาหญิงของนางหลี่อ้ายเสิ่นและบุตรสสวของลุงใหญ่หลี่ม่านอวี้ ทันทีที่เห็นซ่งจื่อหรู หลี่อ้ายเสิ่นก็เปิดปากด่าทอ แต่ละคำล้วนไม่น่าฟัง"นังเด็กเหลือขอไหนว่าใกล้ตายแล้วไง ทำไมยังออกมาลอยหน้าข้างนอกได้อีก"หลี่อ้ายเสิ่นเปิดปากก็ด่าทอซ่งจื่อหรู"น้องสี่ เจอกับท่านอาเล็กเจอกับข้าเหตุใดเจ้าจึงไม่ทำความเคารพ อีกทั้งยังเมินเฉย" หลี่ม่านอวี้ที่คอยเป็นลูกไล่ของหลี่อ้านเสิ่นต่อว่าซ่งจื่อหรูเช่นกันสองดรุณีน้องแต่งกายด้วยกระโปรงผ้าฝ้ายลายดอกสีชมพูคือหลี่อ้ายเสิ่น ส่วนชุดกระโปรงสีฟ้าคือหลี่ม่านอวี้ บนศรีษะปักด้วยดอกไม้เข้ากันกับชุด แม้ว่าหน้าตาไม่ถือว่าโดดเด่นแต่สำหรับหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นไม้งามซ่งจื่อหรูคร้านจะสนใจคนทั้งสองจึงเดินผ่านหน้าไป หลี่อ้ายเสิ่นเห็นคนที่เดินตามหลังซ่งจื่อหรู ก็ทนไม่ได้เห็นแล้วก็แทบจะเข้าไปฉีกอกซ่งจื่อหรูให้ขาดเป็นชิ้นๆ ฮั่วเฟยหรงนั้นเป็นหนุ่มรูปงาม สตรีในหมู่บ้านใครบ้างเห็นแล้วจะไม่หวั่นไหว บางคนถึงกับละเมอใฝ่ฝันหนึ่งในนั้นก็มีหลี่อ้ายเสิ่นอยู่ด้วย หลี่อ้ายเสิ่นอายุสิบสามอีกไม่กี่วันก็จะอายุสิบสี่ปีสามรถพูดคุ
ฮั่วเฟยหรงมองหญิงชราอย่างรังเกียจ แต่ในที่สุดก็เอ่ยปาก"แม่เฒ่าข้าถามสักคำ ท่านมีเหตุผลใดจะให้เด็กคนนี้กตัญญูต่อท่าน?"น้ำเสียงที่ถามคำถามของฮั่วเฟยหรงนั้นทำเอายายแก่ถึงกับใจคอไม่ดี แต่ต้องเสแสร้งว่าไม่กลัว"หึ..มันเป็นหลานข้า ข้าเป็นย่ามันต้องมีเหตุผลอันใด""เหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้น"ฮัวเฟยหรงเอ่ยขัด"ท่านพี่เฟยหรง...ท่านแม่ข้าแก่แล้ว คนในหมู่บ้านล้วนแต่ต้องกตัญญู ฮ่องเต้พระองค์นี้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ยิ่งนักนะเจ้าคะ"หลี่อ้ายเสิ่นกล่าวเสียงหวาน นางมั่นใจว่าเขาต้องคล้อยตาม ความกตัญญูของฮ่องเต้เป็นที่ประจักษ์ และระบุเป็นกฎหมายต้าเย่ว นางกำลังโอ้อวดว่าตนมีความรู้ และคิดว่าเขาต้องพอใจในตัวนาง แต่ฮั่วเฟยหรงกลับไม่ใส่ใจและเมินเฉย"แม่เฒ่าข้าขอถามท่าน ท่านบอกว่าจะให้เด็กคนนีกตัญญูต่อท่านในฐานะผู้อาวุโส แต่คำนึงนางก็คนนอก อีกคำนางก็คนอื่น ท่านบอกว่าตนเองแซ่หลี่ส่วนนางแซ่ซ่ง ในเมื่อไม่ใช่คนในครอบครัวท่านแล้วจะให้นางกตัญญูด้วยเหตุผลเหล่านี้ข้าคิดว่าคงไม่ได้ ที่ข้ากล่าวมาถูกหรือไม่ขอรับท่านปู่ฝูเหยา"หลี่ฝูเหยากระแทกไม้เท้าตึงๆสามหน หญิงชราน่ารังเกียจช่างหน้าด้านยิ่งนัก"นังเฒ่า ข้าเห็นแก่เจ้าที่เ
ทั้งคู่เดินมาจนถึงกระท่อมของซ่งจื่อหรูเขาจึงวางตระกร้าลงและช่วยนางยกไปไว้ในลานบ้าน จากนั้นก็ส่งไก่ฟ้าให้สองตัว"พี่หรง หมายความว่าอย่างไรกันไก่สองตัวท่านเป็นคนล่าได้ ข้าล่ามาได้เพียงตัวเดียวเท่านั่นเอง"ซ่งจื่อหรูตกใจที่เขาไม่เอาแต่ให้นาง"อืม..ข้าให้เจ้าตัวนึง ถ้าหมดข้าสามารถไปล่าใหม่ได้อย่างกังวลเลย""พี่หรง ท่านว่าไก่ฟ้านี่แลกเป็นเงินได้หรือไม่เจ้าคะ" นางอยากได้ที่สุดตอนนี้คือเงิน"ปกติราคาจะอยู่ที่ชั่งละ30อีแปะ หากขนสวยจะได้ถึง40อีแปะไก่พวกนี้น่าจะหนักประมาณตัวละ5ชั่ง ทำไมเจ้าอยากขายรึ""ขอบอกตามตรง บ้านข้าไม่มีอะไรสักอย่าง อย่าถามหาข้าวสารสักกำหรือแป้งสาลีสักครึ่งถุงเลยเจ้าค่ะ""ปกติข้าไปแลกที่บ้านท่านผู้นำน่ะ ถึงจะราคาถูกสักหน่อยแต่แค่ไก่ฟ้าสองตัวเดินทางเข้าตัวตำบลคงไม่คุ้ม""พี่หรง ท่านช่วยไปแลกให้ข้าสักหน่อยได้ไหมเจ้าคะ"สายตาออดอ้อนนั้นช่างชวนให้คนตกอยู่ในภวังค์เสียจริงๆ เทียบกับสายตาเชิญชวนของเหล่าสตรีอื่นๆ ที่ส่งให้เขาๆ กับชอบสายตาสดใสคู่นี้ตรงหน้ามากกว่า""ได้ ว่าแต่แล้วเจ้าต้องการอะไรบ้าง""ข้าขอข้าวสาร เกลือ น้ำมัน ก็พอเจ้าค่ะ ข้าก็ไม่รู้ว่าจะได้สักเท่าไหร่ ข้าเจอหม้อกับก
ฮั่วหย่ง1580 คำหลังจากกลับมาถึงบ้านซ่งจื่อหรูก็ให้เด็กไปช่วยกันเก็บกวาดบริเวณบ้าน ตนเองนำมันเทศไปล้าง แกะเอาเมล็ดเกาลัดออก คว้าเลื่อยไปตัดต้นไผ่มาหนึ่งต้น เลื่อยต้นไผ่ออกเป็นท่อนละประมาณ8ชุ่น ล้างจนสะอาด ก่อไฟโดยใช้หินสามก้อนวางแทนเตา นำหม้อออกมาสองใบ จากนั้นนำหม้อใส่น้ำตั้งไฟ นำข้าวสารมาล้าง หั่นมันเทศเป็นสี่เหลี่ยม ผ่าครึ่งเกาลัด นำสามอย่างมารวมกันโรยเกลือเล็กน้อย คลุกเบาๆเหยาะน้ำมันเล็กน้อย จึงนำมากรอกใส่ท่อนไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ นำใบบัวมาปิดปากกระบอก แล้วเรียงตั้งในหม้อคอยเติมน้ำ สักพักก็ได้กลิ่นหอมของข้าว ปลายังเหลือ1ตัวเอาออกมากจากโอ่งแตก ทำความสะอาดขอดเกล็ดควักใส้ เคล้าเกลือแล้วนำมาย่าง"พี่ใหญ่...หอมจังเลยเจ้าค่ะ"ซ่งจื่อเย่วทำจมูกฟุดฟิด"พี่ใหญ่ มีข้าวด้วยหรือขอรับ"ส่งจื่อห่างท้องร้องเขาไม่ได้กินข้ามานานแล้ว"ได้ๆเจ้าแมวจอมหิวโหยสองคน วันนี้เจ้าจะได้กินปลากับข้าวสวยร้อนๆ""พี่ใหญ่เก่งจังเลยเจ้าค่ะ พวกเรามีข้าวกินแล้วไม่ต้องกินแต่น้ำในลำธารอีกแล้ว""เด็กดี ต่อไปต้องขยันห้ามเกียจคร้าน คนขยันจึงไม่อดตาย จื่อเย่วกับจื่อห่าวเป็นเด็กดีพี่ใหญ่จะให้ได้กินข้าวขาวทุกวันดีหรือไม่""ดีเจ้า
ซ่งจื่อหรูไม่รู้เลยว่าตอนนี้นางกลายเป็นคนสำคัญที่ฮั่วเฟยหรูต้องการปกป้องไปแล้ว สามพี่น้องนั่งกินข้าวกันอย่างอร่อยสักพักร่างเล็กๆที่คุ้นตาก็เดินเข้ารั้วมา"น้องห้าเจ้ามาแล้วหรือพี่คิดว่าวันนี้เจ้าจะมาได้เสียอีก เอะนั่นพี่รองก็มาได้ด้วยดีจริงๆ"หลี่ถิงถิงจุงมือหลี่หานเดินเข้ามา นางยิ้มตาหยีจนเห็นหันครบทุกซี่ก่อนจะนั่งลงข้างๆซ่งจื่อเย่ว หลี่หานนั่งใกล้กันกับซ่งจื่อห่าว"พี่รอง..ท่านเจ็บตรงไหนบ้าง ขออภัยจริงๆวันหลังหากมีเรื่องท่านก็อย่าขวางท่านย่าเลย นางทำอะไรข้าไม่ได้หรอกกลับกันท่านจะถูกนางตีเสียเอง"ซ่งจื่อหรูรู้สึกสงสารพี่ชายลูกพี่ลูกน้องคนนี้ เขามักปกป้องพวกนางสามพี่น้องและทุกครั้งที่พยายามปกป้องพวกนางพี่รองมักจะถูกตบตีเสมอ"ข้าไม่เป็นไรมากหรอก เจ้าสองคนเสียอีกน้องสี่น้องห้าต่อไปก็พยายามอย่ามีเรื่องกับท่านย่านักเลย อยู่ให้ห่างนางสักหน่อยถูกตีจนเป็นรอยถึงเวลาออกเรือน จะหาบุรุษที่ดีมาแต่งงานได้อย่างไร""เหอะ..ข้าต้องหาบุรุษเช่นท่านพ่อข้าขยันขันแข็งถึงแม้จะกตัญญูจนซื่อบื้อเกินไปหน่อยแต่ก็รักท่านแม่ข้าและข้ายิ่งนัก" หลี่ถิงถิงหมายมั่นหลี่หานกับซ่งจื่อหรูหัวเราะกับคำพูดของหลี่ถิงถิง นี่ถ้า
เนื่องจากชาวบ้านหลายคนจึงเลื่อยต้นไผ่ได้รวดเร็วแต่ก็ไม่เร็วเท่าซ่งจื่อหรู แค่พริบตานางก็เลื่อยต้นไผ่ไปเกือบร้อยต้น พ่อลูกสกุลฮั่วและชาวบ้านต่างอ้าปากค้าง มีเพียงเด็กบ้านหลี่กับซ่งจื่อเย่วที่ไม่รู้สึกแปลกแถมหัวเราะกับท่าทางของพวกเขา"พี่ใหญ่กับพี่รองมีพรสวรรค์ด้านกำลัง เรื่องออกแรงล้วนไม่มีใครเทียบพวกนางได้หากไม่ใช่เพราะปกป้องข้ากับพี่รอง พี่ใหญ่ของข้าคงไม่ถูกปีศาจเฒ่าทุบตีหรอกขอรับ"ซ่งจื่อห่าวพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ปีศาจเฒ่าที่ซ่งจื่อห่าวพูดน่าจะหมายถึงแม่เฒ่าหลี่ เด็กคนนี้ปกติคนนึกว่าใบ้แต่เวลาพูดทำเอาคนไปไม่ถูกเชียวเด็กๆสกุลซ่งนี่ช่างประหลาดแท้ เหตุใดประหลาดนะหรือแม่หนูซ่งจื่อเย่วนั่น ใช้เพียงมือเดียวก็สามารลากไผ่ทั้งต้นมาวางเรียงราย" ข้าว่าไม่ต้องห่วงสามพี่น้องนี่จะดีกว่า ควรห่วงคนที่จะมาหาเรื่องพวกนางเถอะฮ่า ฮ่า ฮ่า""ยังไงก็ยังเด็ก เล่ห์เหลี่ยมของผู้ใหญ่นั้นมากมายนัก "ครั้นยามที่หลี่ต้าซานยังอยู่ เขาเป็นคนอัธยาศัยดีมีน้ำใจไม่ว่าผู้ใดไหว้วานก็มักไม่ปฏิเสธ สะใภ้ซ่งก็อ่อนโยนสั่งสอนบุตรสาวได้ดีเด็กทั้งสามวางตัวดี ผู้คนในหมู่บ้านจึงรักและเอ็นดูปลายยามเซินก็ตัดต้นไผ่ได้เกือบสามร้อยต
ขณะที่มึนๆงงๆ ก็ถูกเหวี่ยงมายังสถานที่แห่งหนึ่ง เบื้องหน้ามีไร่กับบ้านหลังเล็กๆ นี่มันไร่ของคุณปู่ แต่เหมือนจะย่อส่วนลงเหลือเพียงประมาณ สามไร่ มีโรงเรือนกับบ้านหลังน้อยๆ ซ่งจื่อหรูเดินสำรวจ"มีลำธารตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เฮ้อนี่เจ๊ตายกลายเป็นวิญญาณอีกรอบเหรอ Oh my god . ถ้าให้ตายหลายรอบจะให้เกิดใหม่ทำไม นี่เทพชะตา ท่านว่างมากหรือ ข้าไม่ได้เสียใจหรอกก็แค่สงสารแต่เด็กพวกนั้นถ้าตื่นมาแล้วรู้ว่าพี่สาวตัวเองตายไปแล้วจะทำอย่างไร""คิดอะไรมั่วซั่วกัน หลานยังไม่ตายสักหน่อย""คุณปู่ คุณปู่จริงๆด้วย หนูตายแล้วหรือว่าฝันอยู่กันแน่ คุณปู่ขาหนูคิดถึงคุณปู่มากเลยค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ล่ะคะ พวกท่านอยู่ที่ไหน"ซ่งจื่อหรูกอดซ่งฮั่นเหลียงแน่น"เด็กโง่ หลานยังไม่ตาย ที่นี่คือกำไลที่หลานใส่ติดตัวตลอดเวลา นี่เป็นสิ่งที่ปู่สามารถทำเพื่อหลานได้ จำไว้จงใช้มันอย่างมีสติ""คุณปู่หมายความว่ายังไงคะ หนูไม่เข้าใจ""เดี๋ยวหลานก็รู้เอง เรื่องนี้แม้แต่น้องๆก็เอ่ยไม่ได้ สิ่งที่พวกเขาตามหา มันอยู่กับหลานมาตลอด""ใครตามหาอะไรคะ คุณปู่ขาทำไมหนูไม่เข้าใจสักอย่าง""ปู่ต้องไปแล้ว หลานรักบางอย่างต้องรอให้ถึงเวลาของมัน"ซ่งฮ
เมืองกว่าผิงจุดประทัดฉลองที่พระชายาคลอดบุตรจัดงานเลี้ยงถึงสามวันสามคืนกินดื่มไม่อั้น จากเมืองที่ไม่มีใครใส่ใจตอนนี้เพราะพระชายากมาเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในแคว้น ซ่งจื่อหรูออกเดือนมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วนางอยู่้ดือนถึงสองเดือนครึ่งเชียวตอนนี้กำลังให้นมคู่แฝดอยู่ ในห้องนางมีมิติที่สามารถทำให้น้ำนมตนเองพอเลี้ยงลูกโดยไม่ต้องพึ่งพาแม่นมจินเสี่ยวฮวาประคองท้องเดินมาหา ท่านอากับท่านลุงนี่วันๆไม่ทำงานทำการหรือเมียท้องลูกคนที่สี่แล้วนะ"พระชายา ตำหนักองค์ชายส่งข่าวมาพระยาหลี่กำลังจะคลอด ท่านจะไปหรือไม่""ข้าอยากไปแต่ว่ากลัวท่านอ๋องดุเอา เลยส่งจื่อเย่วให้ไปแทนแล้ว อาสะใภ้จะคลอดเมื่อใดนี่เจ้าคะ""อีกสี่เดือน ข้าพูดกับเจ้าแบบเปิดอกเลยนะหลานสี่ไม่พิธีรีตรอง เจ้าว่าพวกบุรุษนี่เหตุใดถึงหมกมุ่นกันนัก ข้านี่แทบจะไม่ได้หลับได้นอนสักคืน ขนาดท้องแล้วท่านพี่ยังสรรหาท่าทางอะไรมาก็ไม่รู้""คิกๆๆ อาสะใภ้ธรรมดาผัวเมียแหละเจ้าคะ เดี๋ยวอีกสามเดือนท่านปู่กลับมาแล้วข้าจะจัดงานฉลอง พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สามก็จะมาเช่นกันเจ้าค่ะ"อืมข้าไปล่ะ ไปฟังก่อนว่านางได้บุตรชายหรือบุตรสาว"เจ้าแฝดหลับไปแล้วซ่งจื่อหรูเ
ซ่งจื่อหรูเดินไม่ไหวแล้ว นางใกล้คลอดเต็มที ตอนนี้องค์ชายห้าผู้น่าสงสารกำลังนั่งอยู่มีหลี่ถิงถิงกอดเขาไว้แน่นก่อนหน้านางแพ้ท้องอาการคือเหม็นขี้หน้าเขา แต่พอเขาไม่อยู่ก็ร้องไห้หามาตอนนี้แพ้ท้องอีกแบบต้องเห็นเขาตลอดเวลา นั่งกอดแขนเขาแน่นดมแต่กลิ่นกายเขา หากไม่อยู่ต้องถอดเสื้อตัวที่เคยใส่ทิ้งไว้ให้ไม่งั้นเอาแต่งอแง เฮ้อ ไอ้ลูกคนนี้คลอดมาเมื่อไหร่จะส่งไปให้เสด็จแม่เลี้ยง ขนาดยังไม่คลอดยังทำเขาปวดหัวขนาดนี้เลย"อาหรู ไม่ถึงเดือนก็คลอดแล้ว เราจะได้เห็นหน้าผลงานของข้ากับเจ้าสักที อุตส่าห์อดหลับอดนอน บางวันก็เลยมื้อข้าวมาขยันปั้นพวกเขาเนี่ย""ท่านอ๋อง ตรัสอะไรของพระองค์ ไม่ทรงเห็นหรือเพคะว่ามีคนอื่น"จ้าวเฟยหรงไม่วนใจกระชับอ้อกอดที่ตอนนี้ท้องนางใหญ่มากแล้วแต่เขาก็โอบมันจนได้"เสด็จพี่ข้าคิดว่า จะส่งเจ้าตัวยุ่งนี่ไปให้เสด็จแม่เลี้ยง งอแงเหลือทนตั้งแต่ยังไม่คลอดเลย"จ้าเทียนหยางลูบท้องหลี่ถิงถิงแล้วแสร้งบ่นเจ้าตัวเล็ก ปรากฏว่าเขาถูกถีบเบาๆจนทุกคนหัวเราะตำหนักเหลียนฮวาที่ตอนนี้กำลังวุ่นวาย ซ่งจื่อหรูเจ็บท้องมากว่าหนึ่งชั่วยามแล้วยังไม่คลอด จ้าวเฟยหรงก็จะเข้าไปหาเมียที่นอนร้องท่าเดียว จนเซียวอว
หลี่ถิงถิงครรภ์ใหญ่แล้วนางตั้งครรภ์ได้หกเดือนส่วนซ่งจื่อหรูอีกไม่กี่วันก็คลอดแล้ว ซ่งจื่อหรูกำลังคำนวณค่าแรงคนงานหลี่ซ่งเต๋อนำตั๋วเงินมาให้หลานสาวกำลังกลับบ้าน เห็นจินเสี่ยวฮวาพูดคุยอยู่กับชาวตะวันตกที่มาแลกเปลี่ยนสินค้า โดยมีล่ามที่ซ่งจื่อหรูสอนคอยแปลให้หากว่าไอ้ฝรั่งผมทองไม่เอ่ยชมว่านางสวยเป็นสตรีที่งดงาม และถามว่านางมีคู่ครองหรือยัง คงไม่ทำให้ประมุขหอโกรธจนอุ้มเมียมาลงโทษอยู่จนตอนนี้ยังไม่เลิกหรอก"อร๊ายท่านอา เบาหน่อย ข้าจะไม่ไหวแล้วนะอร๊าย โอ๊ยท่านโกรธอะไรมา ข้าเสียวจะตายแล้วอื้อ" จินเสี่ยวฮวาประท้วง"ไอ้หัวทองผิวเผือกนั่นเกี้ยวเมียข้าไม่โมโหได้หรือ เสี่ยวฮวาจ๋าคนดีตั้งแต่เจ้าคลอดลูกมายิ่งสวยวันสวยคืนดูสิ ตรงนี้ก็อวบอิ่ม ตรงนี้ก็เต็มมือแน่นไปหมดหืม อ่าห์รักเจ้าจริงๆเมียจ๋า"ตอนนี้เขาขึ้นเป็นประมุขหอเหลียนฮวาแทนท่านอารองหลี่ไหลฝูแล้ว หลานสาวเขาสร้างเรือสำราญอะไรสักอย่างให้ล่องไปเรื่อยๆ ท่านอาวางมือจากยุทธภพออกท่องเที่ยวกับท่านพ่อจะกลับในอีกหกเดือน หลี่ไค่ซุนกำลังถูกฝึกให้พร้อมอนาคตหลี่ไค่ซุนนั่งมองสตรีที่กำลังวาดภาพอยู่ตรงหน้า เขาลุกไปหยิบพู่กันออกก่อนจะช้อนนางขึ้นแล้ววางบนเตีย
ตั้งแต่วันที่หลี่ถิงถิงยอมตามใจเขาจากนั้นจ้าวเทียนหยางก็อยู่แต่ในห้องไม่ยอมปล่อยคนรักออกมา จนมีเรื่องให้ต้องไปทำก็อิดออดจนถูกหลี่ถิงถิงต้องดุจริงจัง จะถึงวันแต่งงานแล้วอีกครึ่งเดือนหลี่ถิงถิงอยู่ๆก็เกิดเกลียดขี้หน้าคนตัวโตขึ้นมาดื้อๆ"อย่ามาใกล้หม่อมฉันนะเพคะ หม่อมฉันเหม็นขี้หน้าพระองค์""คนดี ข้าทำอะไรผิดกันถิงถิงคนงามอย่าทำแบบนี้สิ มีอะไรบอกมาเถอะ""ไม่มี ไม่รู้อยู่ๆหม่อมฉันก็ไม่อยากอยู่พระองค์ เหม็นขี้หน้าจะตายอยู่แล้วฮือๆๆๆ องค์ชายหม่อมฉันรักองค์ชายนะเพคะแต่อย่ามาใกล้ได้ไหมฮือๆๆ"จ้าวเทียนหยางอ่อนใจ เมียอยู่ๆก็เกลียดขี้หน้าเขาไม่มีสาเหตุวันนี้ทุกคนมากินข้าวร่วมกันที่ตำหนักเหลียนฮวา อาหารมากมายถูกยกขึ้นโต๊ะแต่ซ่งจื่อหรูกับหลี่ถิงถิงเกิดไม่อยากกิน พอเห็นหน้าจ้าวเทียนหยางยิ่งเกิดอยากอาเจียนจนต้องอุ้มกลับห้อง"น้องห้าเป็นอะไรไป อาจารย์รบกวนท่านตรวจนางสักหน่อยเถอะ "ซ่งจื่อหรูให้ไห่มิ่งหยวนไปดูหลี่ถิงถิงที่ตอนนี้เอาแต่ร้องไห้ นางบอกรักจ้าวเทียนหยางแต่ไม่อยากเจอหน้าเขาตกลงนี่มันอะไร เสียงร้องไห้หาคนรักสักพักก็อาเจียนไล่เขาออกมากซ่งจื่อหรูจะลุกไปดูน้องสาวก็หน้ามืดจนจ้าวเฟยหรงต้องมาประค
หลี่อาไช่พาจ้าวเฟยเซียนหัดขี่ม้า ไม่นานนางก็เริ่มขี่คล่องขึ้น พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้วแสงสีแดงงดงามกระทบใบหน้านวล หลี่อาไช่กระชบอ้อมแขนคนตรงหน้า ค่อยๆควบม้าๆช้าๆพาคนรักเขากลับบ้าน"เซียนเซียน ขอพี่หอมสักทีได้ไหม เจ้าน่ารักจนพี่อดใจไม่ไหวนะ""แค่ครั้งเดียวนะ เดี๋ยวเสด็จพ่อกับเสด็จพี่รู้เข้าเอาท่านตายแน่"หลี่อาไช่ก้อมลงหอมแก้มนางจากนั้นก็กดคางลงบนศรีษะจ้าวเฟยเซียนพามาส่งที่ตำหลักก่อนเข้าประตูยังแอบหอมนางอีกสองครั้ง อุ้มนางลงจากหลังม้าแต่ไม่ยอมให้เท้าถึงพื้น เขาอุ้มพาจ้าวเฟยเซียนมาส่งถึงตำหนักใน จ้าวเฟยหรงคิ้วกระตุก ไอ้เด็กนี่มันเกินไปไหมน้องสาวข้าสิบสองเองนะ"หม่อมฉันทูลลานะพะย่ะค่ะ พอดียังไม่ได้ไปคาราวะท่านแม่เลย พี่สี่ข้าไปก่อนนะขอรับ"หลี่อาไช่ไปแล้วแต่มีคนหน้าตึงอยู่ตรงนี้จนซ่งจื่อหรูหัวเราะเขา"คิกๆ ท่านอ๋องทีนี้เขาใจหัวอกท่านปู่กับท่านอาหม่อมฉันหรือยังเพคะ ทรงหวงน้องสาวเป็นด้วยหรือ อื้อ"จ้าวเฟยหรงไม่ปล่อยให้เมียสาวล้อเลียน เขาช้อนอุ้มพานางเข้าห้องลงโทษที่หัวเราะเยาะ"อื้อ ท่านอ๋องหม่อมฉันไม่ไหวแล้ว อร๊าย นับวันยิ่งโลดโผนนะเพคะ อึ๊ยสะ เสียว ท่านอ๋อง""บอกแล้วไงจะสอนให้ ตั้งใจเรียนนะเ
อาชาสีดำทะมึนน่าเกรงขามกำลังควบมาทางหน้าหมู่บ้าน ด้านหลังมีอีกสองคนตามมาด้วย เมื่อมาถึงหน้าหมู่บ้านสกุลหลี่ก็ลงจากม้า ทหารคนสนิทรับสายจูงไป เด็กน้อยวัยสองขวบเดินเตาะแตะๆมาหากางแขนให้อุ้ม"เสี่ยวเว่ยเด็กดี ตัวสูงขึ้นแล้วมาให้พี่อุ้มหน่อย" อู๋กังเดินตามบุตรชายมาหลี่อาไช่เห็นเขาจึงทักทาย"ท่านพ่อ ท่านแม่อยู่ก็เดือนหรือขอรับ"อู๋กังพยักหน้า เขาแต่งงานกับไป๋ลู่มีบุตรชายหนึ่งคนและเพิ่งจะได้บุตรสาวอีกหนึ่งคน หลี่อาไช่ตอนนี้อายุสิบหกแล้วฝีมือเก่งกาจจนได้เป็นแม่ทัพตะวันออกควบคุมเจ็ดมณฑล"อาไช่ คนสกุลหวังเหล่านั้นฝีมืลูกหรือเปล่า หากจบได้ก็จบเถอะมารดาเจ้านางอยู่สงบสุขแล้ว"อู๋กังรักเขาเสมือนบุตรตนเอง ไม่อยากให้เขาเคียดแค้นเรื่องในอดีต จนทำลายอนาคต หลี่อาไช่ถอนหายใจ"เดิมทีก็ไม่อยากจะยุ่ง แต่ใครจะรู้ว่าสองผัวเมียนั้นเคยขายท่านแม่ของข้าไม่พอ ยังคิดจะขายน้องสาวคนเล็ก อาเล็กนางอายุเท่ากับข้า ท่านปู่ท่านย่าจากไปลุงใหญ่เปรียบเหมือนบิดา จัดการทุกอย่างให้แต่งงานไปก็ยังดีแต่นี่จะให้ไปเป็นอนุเศรษฐี ข้าไม่สั่งสอนคงไม่ได้ขอรับท่านพ่อ""แล้วทำเช่นไร อย่าให้มารดาเจ้ารู้เล่า""ข้าส่งบ้านใหญ่ไปชายแดนเนรเทศทั้ง
ซ่งจื่อหรูไม่มีความลับกับจ้าวเฟยหรงอีกต่อไป นางพาเขาเข้ามาในมิติครั้งแรกนางลองดูหลังจากที่รู้ว่าเข้ามาได้ที่นี่ก็เป็นสวรรค์ของคนสองคนไม่มีความวุ่นวายมีเพียงสายลมแสงแดดอ่อนๆ สวนดอกไม้หลากสีสัน ในลำธารร่างเปลือยของซ่งจื่อหรูกำลังแหวกว่าย จ้าวเฟยหรงนั่งมองอย่างหลงไหล ก่อนจะเดินลงน้ำไปหาคนรัก จ้าวเฟยหรงจูมนางดูดดื่ม รั้งแผ่นหลังนางเข้าหาให้ทรวงอกลอยเด่นจากนั้นก็ก้มลงดูดเม้นจนซ่งจื่อหรูครางออกมาก่อนจะช้อนร่างงามเดินขึ้นฝั่งพาเข้าไปในบ้านวางลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม ซ่งจื่อหรูยังสงสัยจากเตียงโบราณอันเดิมอยู่ๆ กลายเป็นเตียงติดสปิงได้ไง เพิ่งเข้าใจก็วันนี้แหละเฮ้อ ริมฝีปากครอบครองทรวงอกอวบอิ่มราวกับเด็กน้อยดื่มน้ำนมจากอกมารดา ซ่งจื่อหรูเต็มสิบแปดมาครึ่งกว่าปีแล้ว จ้าวเฟยหรงอยากรักนางเต็มทีผ่านช่วงอันตรายมาแล้ว เขาแข็งขึงจะระเบิดอยู่แล้ว ปากน้อยๆกับมือน้อยๆนั้นดับอารมณ์เขาไม่อิ่ม"ท่านอ๋อง เบาๆสิเพคะอดอยากหรืออย่างไรไม่ใช่ว่าให้ท่านทุกคืนหรือ""เมียจ๋า เข้าหอกันนะข้าทนไม่ไหวแล้ว นับวันเจ้ายิ่งงามนักคนดี นี่เลยเวลามาแล้วรู้ไหมฉู่ซีฮวนเด็กคนนั้นลูกชายเพิ่งได้สามเดือนหลี่ซินซินก็ตั้งครรภ์คนที่สองแ
จ้าวเฟยหรงอุ้มพระชายาคนงามกลับไปแล้วไห่เมิ่งหยวนบอกว่าถูกแทงเกือบเข้าจุดสำคัญห่างไปเพียงครึ่งชุ่น หากร่วมหอแล้วตั้งครรภ์อาจเป็นอันตรายทั้งแม่และลูก รออีกสักหนึ่งปีให้นางหายดีกว่านี้ก่อน หนิงอ๋องจึงทำได้แค่เพียงนอนกอดคนรักและหาเศษหาเรอแค่นั้น ซ่งจื่อหรูสงสารเขาแต่ต้องใจแข็งนางอยากให้ร่างกายสมบูรณ์ นางต้องการตั้งครรภ์คลอดบุตรให้เขาเท่าที่เขาอยากมี"เอ่อ ซินซินไปเดินเล่นเป็นเพื่อนข้าหน่อยสิ เจ้าว่างหรือไม่"ฉู่ซีฮวนเอ่ยถามสาวน้อยตรงหน้า เขาบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่นี่มาสามเดือนกว่าแล้ว สาวน้อยคนนี้คือคนที่คอยดูแลเขา นางมีดวงตากลมโต ใบหน้าหวานปากจิ้มลิ้มรับกับจมูกที่รั้นนิดๆ บางครั้งเอาแต่ใจแง่งอนกับท่านปู่ของนาง มิน่าคนราชวงศ์ต้าเหลียงถึงมารวมกันอยู่ที่นี่ หมู่บ้านนี้ล้วนแซ่หลี่มองไปทางไหนหาคนขี้เหร่ไม่เจอจริงๆ รวมถึงแม่สาวน้อยตรงหน้าคนนี้ด้วย"พี่ซีฮวนจะไปไหนหรือเจ้าคะ ข้าว่างพอดีท่านหายแล้วควรออกมาเดินบ้างก็ดี"หลี่ซินซินมองหน้าเขา ยังมีองครักษ์ยืนอยู่ฉู่ซีฮวนจึงจุงมืนางพาออกมา"เจ้ากลัวไหม บนเขาชิงลั่วมีดงดอกไม้อยู่ข้าอยากไปนั่งเล่นที่นั่น"ฉู่ซีฮวนเอ่ยขึ้น หลี่ซินซินส่ายหน้าเขาจึงโอบเอว
ยามอวิ๋นเปลือกตาของซ่งจื่อหรูค่อยๆขยับ ขนตาที่งามงอนคู่นั้นกระพริบช้าๆ ซ่งจื่อหรูลืมตาขึ้นก็เห็นว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงในตำหนักเหลียนฮวา รู้สึกถึงอะไรบางอย่างพาดอยู่ที่หน้าท้อง นาวหันไปดูก็เห็นเป็นจ้าเฟยหรงนอนกอดนางอยู่เขาและนางสวมชุดแต่งงานซ่งจื่อหรูพยายามนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา นางจำไว้ว่าอวิ่นเย่วและอวิ่นห่าวพานางมาส่ง วันนี้เป็นวันแต่งงานของนางและเขา เพียงเพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้แม้ต้องแต่งกับร่างไร้วิญญาณเขาก็ไม่หวั่น ซ่งจื่อหรูพลิกตัวเข้าหาอกกว้างก่อนใช้มือค่อยไปลูบไล้ใบหน้างามนั้น"ท่านพี่ ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน ท่านพี่ของข้าฮือๆๆ"จ้าวเฟยหรงรู้สึกตัวลืมตา คนตรงหน้าฟื้นแล้วนางกำลังร้องไห้แขนเรียวกอดเอวหนาของเขาเอาไว้แน่น นางบอกรักเขานางคิดถึงเขา"น้องหญิง เจ้ากลับมาแล้วเด็กดีของข้า ในที่สุดเจ้าก็กลับมาสักที"จ้าวเฟยหรงร้องไห้นับจากวันที่นางหลับไหลไม่มีวันใดที่น้ำตาลูกผู้ชายของเขาไม่หลั่งริน แต่วันนี้เขาร้องไห้เพราะในที่สุดนางก็กลับมาสักที จ้าวเฟยหรงกดร่างนุ่มนิ่มเอาไว้จุมพิตนางดูดดื่ม จนคนตัวเล็กต้องประท้วง"อื้อๆๆๆท่านพี่ข้าหายใจไม่ออกท่านกอดแน่นเกินไปแล้ว ""ทูลหัว คนดีของข้า ข