ซ่งจื่อหรูหาไม้ง่ามมาได้สองอันก็ปักลงด้านบนปากหลุมทั้งสองฝั่งๆ ล่ะหนึ่งอัน เขี่ยกองฟืนให้เป็นถ่านแดงนำมันเทศวางลงไปพร้อมกลบถ่านจากนั้นนำปลามาวางบนไม้ง่ามค่อยๆ พลิกไปมา จนปลาย่างเริ่มส่งกลิ่น เกือบจะปลายยามเหมาแล้วเด็กสองคนถูกกลิ่นหอมของปลาย่างปลุกให้ตื่น ซ่งจื่อหรูนำมันเทศที่สุกแล้วกับปลาย่างวางบนใบบัวที่ตัดมาเมื่อวาน จากนั้นก็นำหม้อแตกครึ่งใบมาต้มน้ำ
ซ่งจื่อเย่วได้กลิ่นจึงวิ่งมาหาพี่สาว
"พี่ใหญ่..ท่านทำอะไรหอมจังเลยเจ้าค่ะ"
"พี่ย่างปลาน่ะ จื่อเย่วกับจื่อห่าวพับผ้าห่มให้เรียบร้อยแล้วมาล้างหน้าพี่ต้มนำอุ่นให้แล้ว"
แม้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนแต่เนื่องจากอยู่ติดเชิงเขาอากาศจึงหนาวเย็นกว่าที่อื่น เด็กๆพากันเก็บที่นอนพับผ้าห่มเก่าที่ถูกปะชุนจนหาสีเดิมไม่ได้ เอ๋มีผ้าห่มผืนใหม่ด้วย พี่ใหญ่คงเอามาจากใต้เตียงท่านตาแน่ๆ มิน่าเมื่อคืนนี้พวกเขาอุ่นมากแถมพี่ใหญ่ยังกอดพวกเขาอีกด้วย
มือน้อยๆ ช่วยกันพับผ้า จากนั้นก็มาล้างหน้า ซ่งจื่อหรูนำหมั่นโถวสามลูกห่อใบบัววางอุ่นในหม้อแตก หม้ออีกใบถูกใช้ต้มน้ำดื่ม ซ่งจื่อหรูค่อยๆบิมันเทศและหมั่นโถวให้ซ่งจื่อห่าว จากนั้นก็แกะเนื้อปลาให้น้องทั้งสอง เมื่ออิ่มแล้วจึงดับไฟในหลุม
ซ่งจื่อหรูนำจอบเล่มเล็กออกมาและมีดอันใหญ่กับเลื่อยขนาดกลางๆ สำหรับถางทางและตัดต้นไม้ ใส่ตระกร้า นำผ้าห่มเก็บที่เดิม หลังจากนั้นปิดกล่องล๊อคแล้วก็นำแผ่นหินมาปิดทับคลุมด้วยหญ้าฟางที่ใช้นอนอีกที
"วันนี้พี่จะขึ้นเขา ในบ้านไม่มีของกินแล้วไปกันเถอะ"
ซ่งจื่อหรูเอ่ยกับน้องชายน้องสาวหลังจากนั้นก็สะพายตระกร้า ซ่งจื่อหรูก็จูงมือเด็กทั้งสอง พวกเขาคิดว่าพี่สาวจะพาไปบ้านท่านป้าหูแต่ผิดทางพี่ใหญ่ พาเดินมายังชายป่าถัดจากกระท่อมพวกเขาประมาณร้อยก้าว ก่อนจะหยุดหน้ากระท่อมหลังนึงแล้วตะโกนเรียก
ซ่งจื่อหรูเรียกคนด้านใน
"ท่านอาฮั่ว ท่านอาสะใภ้ฮั่วท่านอยู่หรือไม่เจ้าคะ"
"มาแล้วๆ ..ใครกันมาเรียกกันแต่เช้าเชียว แค่กๆ"
เสียงสตรีดังมาจากด้านในพร้อมกับเสียงไอไม่หยุด ไม่นานก็มีสตรีคนนึงเดินออกมา แต่งกายด้วยผ้าฝ้ายธรรมดาแต่ก็สะอาดสะอ้าน ร่างกายนางผ่ายผอม เหมือนใบไม้ที่เริ่มเหลืองใกล้ร่วงหล่นเต็มที แต่กระนั้นก็มิอาจปกปิดคงามงามของนางได้
นางคือฮั่วหรานภรรยาของฮั่วหย่ง ทั้งคู่เพิ่งจะย้ายมาอยู่หมู่บ้านหลี่ซานได้สี่ปีกว่าแล้ว อาศัยฮั่วหย่งพอมีฝีมือจึงออกล่าสัตว์ป่าบนเขาไปขาย ทั้งคู่มีบุตรชายอายุ15 เขามักไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับคนนอก และยังมีบุตรสาวอายุสี่ขวบ ร่างกายฮั่วหรานไม่ค่อยจะดีนัก มาอยู่ที่นี่ตอนใกล้คลอด
หลังจากคลอดบุตรสาวสุขภาพก็อ่อนแอมาตลอด ท่านอาฮั่วหย่งมีฝีมือในการล่าสัตว์ เหตุใดไม่พาภรรยาไปหาหมอในเมืองกัน เอาแต่หาหมอเท้าเปล่าอยู่เช่นนี้ ช่างเถอะเรื่องบ้านคนอื่นอย่ายื่นมือเป็นดีที่สุด จากนั้นจึงเอ่ยถึงจุดประสงค์ของการมา
"สวัสดีเจ้าค่ะท่านอาสะใภ้ฮั่ว"ซ่งจื่อหรูทักทายสตรีตรงหน้า
"จื่อเย่ว จื่อห่าว สวัสดีอาสะใภ้ฮั่วขอรับ/เจ้าค่ะ"
"เอ๋ พวกเจ้าคือบุตรสาวบุตรชายของพี่สาวหว่านเอ๋อร์กับพี่ต้าซานกระมัง"ฮั่วหรานจำซ่งจื่อหรูได้
ฮั่วหรานหลังจากย้ายมาอยู่ที่นี่ก็พอได้ยินเรื่องราวของสกุลหลี่มาบ้าง หลังจากที่หลี่ต้าซานตายนางซ่งถูกไล่ให้มาอยู่บ้านเดิมจึงมีโอกาสพูดคุยและสนิทกัน หลี่ต้าซานนับเป็นผู้มีพระคุณของนางก็ว่าได้ แต่หลังจากที่แม่ของเด็กเหล่านี้จากไปก็แทบจะไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลย
"เป็นข้าเองเจ้าค่ะ มิทราบว่าท่านอาฮั่วและอาสะใภ้สบายดีนะเจ้าคะ"
"ก็อย่างที่เจ้าเห็นนี่แหละ อายุมากขึ้นก็เจ็บป่วยง่าย ว่าแต่วันนี้เจ้ามีธุระอะไรกับข้าและสามีหรือไม่จึงมาเช้าเยี่ยงนี้"
"คือขออภัยที่ข้าไร้มารยาท ข้ามีเรื่องขอรบกวนไม่ทราบว่าอาสะใภ้จะสะดวกหรือไม่เจ้าค่ะ"
"ว่ามาเถอะ พ่อกับแม่เจ้าเองก็ช่วยเหลือข้าไว้ไม่น้อย"
"เนื่องจากก่อนหน้า ท่านป้าหูบอกว่าจะกลับไปเยี่ยมบ้าน คิดว่าเมื่อเช้าคงเดินทางแล้วท่านอาสะใภ้ข้าจึงอยากรบกวนฝากน้องทั้งสองแก่ท่านสักครึ่งวันเจ้าค่ะนี่เป็นปลาย่างกับมันเทศเผาเจ้าค่ะ ท่านอาสะใภ้ลองทานดู มันเทศหวานยิ่งนัก"
ซ่งจื่อหรูส่งห่อใบบัวให้ฮั่วหรานสองห่อ
"ก็แค่เด็กสองคนจะลำบากอะไรกัน บ้านเจ้าก็ใช่ว่าจะมั่งมี เอ่อขอโทษด้วยข้าไม่ได้ตั้งใจจะดูแคลน"ฮั่วหรานเอ่ยกับนาง
"อาศัยไหว้วานผู้คนก็ควรมีน้ำใจ หากไม่มีท่านช่วย ลำพังแค่ข้าจะพาน้องๆ ขึ้นเขาด้วยคงลำบาก แต่ว่าตอนนี้ข้ายังมีเพียงเท่านี้หวังว่าอาสะใภ้จะไม่ถือสานะเจ้าคะ ส่วนห่อนี้เป็นของน้องๆ ข้าเผื่อว่าข้ากลับมาช้า ท่านอาสะใภ้จะยอมช่วยข้าสักวันได้ไหมเจ้าคะ"
"ย่อมได้..เด็กสองคนจากที่เคยได้ยินล้วนเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย ที่เจ้ามาฝากบ้านข้าเป็นเพราะท่านย่าเจ้าหวาดกลัวผู้ชายของข้าล่ะสิ เอาล่ะไปเถอะ ระวังตัวด้วยอย่าเข้าไปลึกนัก"
"จื่อเย่ว จื่อห่าวอยู่บ้านท่านอาฮั่วดีๆ จงเชื่อฟังอาสะใภ้และช่วยนางดูน้องสาวตัวน้อยดีๆ เดี๋ยวพี่กลับมา" ซ่งจื่อหรูสั่งน้องๆ
"พวกเราจะเป็นเด็กดี พี่ใหญ่หากเจอท่านอาเล็กกับท่านย่าพี่ต้องเดินหนีนะเจ้าคะ"ส่งจื่อโย่วรับปากแต่ก็อดห่วงพี่สาวไม่ได้
"พี่ใหญ่...ปลอดภัยกลับมานะขอรับ"
ซ่งจื่อหรูสะพายตระกร้าขึ้นบ่า เดินมุ่งหน้าไปยังเขาชิงลั่วด้านฝั่งเดียวกับหมู่บ้าน ระหว่างทางเจอกับเด็กผู้ชายคนนึง แม้จะใส่เสื้อผ้าเก่าๆ แต่ก็ดูสะอาดสะอ้าน เสื้อสีน้ำเงินที่เริ่มซีด รองเท้าฟางที่ดูเพิ่งจะเย็บใหม่ๆ เด็กคนนี้หน้าตาถือว่าหล่อเหลามาก เขาคือฮั่วเฟยหรงบุตรชายของฮั่วหย่งกับฮั่วหราน
ไม่แปลกที่เขาจะหน้าตาดีเพราะพ่อกับแม่ของเขาถือว่าหน้าตาดี โดยเฉพาะฮั่วหรานนี่เข้าขั้นหญิงงามเลยทีเดียว บุรุษในหมู่บ้านมักจะคอยมาแอบส่องบ่อยๆ แต่ว่ากันว่าท่านอาฮั่วเฟยหย่งคนนั้นเคยเป็นทหารออกรบฆ่าคนไม่กระพริบตา แม้จะชื่นชอบแต่ก็ต้องรู้ด้วยว่านั่นคือสตรีของใคร
"เอ่อ พี่ชายฮั่ว ข้าชื่อจื่อหรู ซ่งจื่อหรูบ้านข้าห่างจากท่านไม่ไกล ข้ากำลังจะขึ้นเขาพี่ชายฮั่วเองก็จะขึ้นเขาเช่นกันใช่หรือไม่"
ซ่งจื่อหรูทักทายฮั่วเฟยหรงชะงักเท้าก่อนจะหยุดมองเด็กสาวที่เรียกเขา หลังจากนั้นก็รับคำ
"อืม..."
ฮั่วเฟยหรงแค่พยักหน้า ช่างเป็นเด็กที่เย็นชาจริงๆ ยังกับใครติดหนี้เจ้ากัน ทั้งคู่เดินขึ้นเขาไปด้วยกัน ถึงจะล่าสัตว์ได้มาแต่สกุลฮั่วก็ไม่ได้ร่ำรวย แม้ว่าฮั่วเฟยหรงจะอายุ15 ถึงเวลาควรพูดเรื่องแต่งงานได้แล้ว
แต่หน้าตาดีแล้วอย่างไรกินแทนข้าวได้รึ บ้านยากจน และยังมีมารดาที่เจ็บออดๆ แอดๆ ทั้งมีน้องสาวต้องเลี้ยงดู ใครจะอยากยกลูกสาวให้กัน
บิดาล่าสัตว์ขึ้นเขาครั้งนึงเป็นเวลานาน ชะตากรรมไม่อาจรู้ หากเกิดเหมือนเจ้าสามบ้านหลี่นั่นล่ะ อยู่ๆก็ทิ้งให้ลูกๆกลายเป็นเด็กกำพร้า
ทั้งคู่เดินมาเพียงครึ่งถ้วยชาก็ถึงตีนเขา มีรอยเท้าชาวบ้านที่มาหาของป่าเต็มไปหมด ซ่งจื่อหรูจึงหันมาพูดกับฮั่วเฟยหรง"ท่านพี่ฮั่ว พวกเราไปอีกด้านเถอะทางนี้คงไม่มีอะไรเหลือให้หาแล้ว"ซ่งจื่อหรูชักชวน"อืม"ฮั่วเฟยหรงเพียงแค่พยักหน้าแล้วเดินนำซ่งจื่อหรูไปอีกด้าน ซ่งจื่อหรูตัวเตี้ยกว่าจึงส่งมีดให้เขา เมื่อฮั่วเฟยหรงรับมีดมาฮั่วเฟยหรงก็ใช้มันฟันกิ่งไม้ที่ระเกะระกะพร้อมกับมองหาอาหารหรือผักป่าที่กินได้ เดินมาเกือบครึ่งชั่วยามก็ถึงบริเวณที่มีต้นไม้สูงสลับเตี้ย มีลูกหล่นอยู่บนพื้นลักษณะมีหนามแหลมหล่นอยู่ใต้ต้นและบนต้นอีกมากมาย มันคือต้นเกาลัดแม้ว่าล่วงหน้าจะรู้ว่าตรงนี้มีอะไร แต่ซ่งจื่อหรูก็เหนื่อยพอประมาณตอนที่สำรวจนั้นเป็นเพียงร่างวิญญาณ แต่พอตอนนี้ต้องเดินเท้าเข้ามากลับรู้สึกเหนื่อยยิ่งนัก ที่บ้านไม่มีข้าวสาร แต่เกาลัดสามารถต้มเป็นโจ๊กได้ ดูเหมือนพายุฤดูร้อนน่าจะอยู่อีกสองสามวัน หาเจอเห็ดให้มากหน่อยตากแห้งเอาไว้คงพอมีอาหารให้กิน ข้างบ้านมีลำธาร ปลามีไม่น้อยคนยุคนี้ไม่นิยมกินปลาเพราะมีกลิ่นคาว แต่นางกินได้แถมยังสามารถทำให้อร่อยด้วย"ท่านพี่ฮั่ว เรามาเก็บเกาลัดกันเถอะ""หนามแหลมเพียงนี้เจ้าจะเ
ทั้งสองคนเดินมาถึงกลางทางระหว่างท้ายหมู่บ้านก็เจอกับอาหญิงของนางหลี่อ้ายเสิ่นและบุตรสสวของลุงใหญ่หลี่ม่านอวี้ ทันทีที่เห็นซ่งจื่อหรู หลี่อ้ายเสิ่นก็เปิดปากด่าทอ แต่ละคำล้วนไม่น่าฟัง"นังเด็กเหลือขอไหนว่าใกล้ตายแล้วไง ทำไมยังออกมาลอยหน้าข้างนอกได้อีก"หลี่อ้ายเสิ่นเปิดปากก็ด่าทอซ่งจื่อหรู"น้องสี่ เจอกับท่านอาเล็กเจอกับข้าเหตุใดเจ้าจึงไม่ทำความเคารพ อีกทั้งยังเมินเฉย" หลี่ม่านอวี้ที่คอยเป็นลูกไล่ของหลี่อ้านเสิ่นต่อว่าซ่งจื่อหรูเช่นกันสองดรุณีน้องแต่งกายด้วยกระโปรงผ้าฝ้ายลายดอกสีชมพูคือหลี่อ้ายเสิ่น ส่วนชุดกระโปรงสีฟ้าคือหลี่ม่านอวี้ บนศรีษะปักด้วยดอกไม้เข้ากันกับชุด แม้ว่าหน้าตาไม่ถือว่าโดดเด่นแต่สำหรับหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นไม้งามซ่งจื่อหรูคร้านจะสนใจคนทั้งสองจึงเดินผ่านหน้าไป หลี่อ้ายเสิ่นเห็นคนที่เดินตามหลังซ่งจื่อหรู ก็ทนไม่ได้เห็นแล้วก็แทบจะเข้าไปฉีกอกซ่งจื่อหรูให้ขาดเป็นชิ้นๆ ฮั่วเฟยหรงนั้นเป็นหนุ่มรูปงาม สตรีในหมู่บ้านใครบ้างเห็นแล้วจะไม่หวั่นไหว บางคนถึงกับละเมอใฝ่ฝันหนึ่งในนั้นก็มีหลี่อ้ายเสิ่นอยู่ด้วย หลี่อ้ายเสิ่นอายุสิบสามอีกไม่กี่วันก็จะอายุสิบสี่ปีสามรถพูดคุ
ฮั่วเฟยหรงมองหญิงชราอย่างรังเกียจ แต่ในที่สุดก็เอ่ยปาก"แม่เฒ่าข้าถามสักคำ ท่านมีเหตุผลใดจะให้เด็กคนนี้กตัญญูต่อท่าน?"น้ำเสียงที่ถามคำถามของฮั่วเฟยหรงนั้นทำเอายายแก่ถึงกับใจคอไม่ดี แต่ต้องเสแสร้งว่าไม่กลัว"หึ..มันเป็นหลานข้า ข้าเป็นย่ามันต้องมีเหตุผลอันใด""เหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้น"ฮัวเฟยหรงเอ่ยขัด"ท่านพี่เฟยหรง...ท่านแม่ข้าแก่แล้ว คนในหมู่บ้านล้วนแต่ต้องกตัญญู ฮ่องเต้พระองค์นี้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ยิ่งนักนะเจ้าคะ"หลี่อ้ายเสิ่นกล่าวเสียงหวาน นางมั่นใจว่าเขาต้องคล้อยตาม ความกตัญญูของฮ่องเต้เป็นที่ประจักษ์ และระบุเป็นกฎหมายต้าเย่ว นางกำลังโอ้อวดว่าตนมีความรู้ และคิดว่าเขาต้องพอใจในตัวนาง แต่ฮั่วเฟยหรงกลับไม่ใส่ใจและเมินเฉย"แม่เฒ่าข้าขอถามท่าน ท่านบอกว่าจะให้เด็กคนนีกตัญญูต่อท่านในฐานะผู้อาวุโส แต่คำนึงนางก็คนนอก อีกคำนางก็คนอื่น ท่านบอกว่าตนเองแซ่หลี่ส่วนนางแซ่ซ่ง ในเมื่อไม่ใช่คนในครอบครัวท่านแล้วจะให้นางกตัญญูด้วยเหตุผลเหล่านี้ข้าคิดว่าคงไม่ได้ ที่ข้ากล่าวมาถูกหรือไม่ขอรับท่านปู่ฝูเหยา"หลี่ฝูเหยากระแทกไม้เท้าตึงๆสามหน หญิงชราน่ารังเกียจช่างหน้าด้านยิ่งนัก"นังเฒ่า ข้าเห็นแก่เจ้าที่เ
ทั้งคู่เดินมาจนถึงกระท่อมของซ่งจื่อหรูเขาจึงวางตระกร้าลงและช่วยนางยกไปไว้ในลานบ้าน จากนั้นก็ส่งไก่ฟ้าให้สองตัว"พี่หรง หมายความว่าอย่างไรกันไก่สองตัวท่านเป็นคนล่าได้ ข้าล่ามาได้เพียงตัวเดียวเท่านั่นเอง"ซ่งจื่อหรูตกใจที่เขาไม่เอาแต่ให้นาง"อืม..ข้าให้เจ้าตัวนึง ถ้าหมดข้าสามารถไปล่าใหม่ได้อย่างกังวลเลย""พี่หรง ท่านว่าไก่ฟ้านี่แลกเป็นเงินได้หรือไม่เจ้าคะ" นางอยากได้ที่สุดตอนนี้คือเงิน"ปกติราคาจะอยู่ที่ชั่งละ30อีแปะ หากขนสวยจะได้ถึง40อีแปะไก่พวกนี้น่าจะหนักประมาณตัวละ5ชั่ง ทำไมเจ้าอยากขายรึ""ขอบอกตามตรง บ้านข้าไม่มีอะไรสักอย่าง อย่าถามหาข้าวสารสักกำหรือแป้งสาลีสักครึ่งถุงเลยเจ้าค่ะ""ปกติข้าไปแลกที่บ้านท่านผู้นำน่ะ ถึงจะราคาถูกสักหน่อยแต่แค่ไก่ฟ้าสองตัวเดินทางเข้าตัวตำบลคงไม่คุ้ม""พี่หรง ท่านช่วยไปแลกให้ข้าสักหน่อยได้ไหมเจ้าคะ"สายตาออดอ้อนนั้นช่างชวนให้คนตกอยู่ในภวังค์เสียจริงๆ เทียบกับสายตาเชิญชวนของเหล่าสตรีอื่นๆ ที่ส่งให้เขาๆ กับชอบสายตาสดใสคู่นี้ตรงหน้ามากกว่า""ได้ ว่าแต่แล้วเจ้าต้องการอะไรบ้าง""ข้าขอข้าวสาร เกลือ น้ำมัน ก็พอเจ้าค่ะ ข้าก็ไม่รู้ว่าจะได้สักเท่าไหร่ ข้าเจอหม้อกับก
ฮั่วหย่ง1580 คำหลังจากกลับมาถึงบ้านซ่งจื่อหรูก็ให้เด็กไปช่วยกันเก็บกวาดบริเวณบ้าน ตนเองนำมันเทศไปล้าง แกะเอาเมล็ดเกาลัดออก คว้าเลื่อยไปตัดต้นไผ่มาหนึ่งต้น เลื่อยต้นไผ่ออกเป็นท่อนละประมาณ8ชุ่น ล้างจนสะอาด ก่อไฟโดยใช้หินสามก้อนวางแทนเตา นำหม้อออกมาสองใบ จากนั้นนำหม้อใส่น้ำตั้งไฟ นำข้าวสารมาล้าง หั่นมันเทศเป็นสี่เหลี่ยม ผ่าครึ่งเกาลัด นำสามอย่างมารวมกันโรยเกลือเล็กน้อย คลุกเบาๆเหยาะน้ำมันเล็กน้อย จึงนำมากรอกใส่ท่อนไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ นำใบบัวมาปิดปากกระบอก แล้วเรียงตั้งในหม้อคอยเติมน้ำ สักพักก็ได้กลิ่นหอมของข้าว ปลายังเหลือ1ตัวเอาออกมากจากโอ่งแตก ทำความสะอาดขอดเกล็ดควักใส้ เคล้าเกลือแล้วนำมาย่าง"พี่ใหญ่...หอมจังเลยเจ้าค่ะ"ซ่งจื่อเย่วทำจมูกฟุดฟิด"พี่ใหญ่ มีข้าวด้วยหรือขอรับ"ส่งจื่อห่างท้องร้องเขาไม่ได้กินข้ามานานแล้ว"ได้ๆเจ้าแมวจอมหิวโหยสองคน วันนี้เจ้าจะได้กินปลากับข้าวสวยร้อนๆ""พี่ใหญ่เก่งจังเลยเจ้าค่ะ พวกเรามีข้าวกินแล้วไม่ต้องกินแต่น้ำในลำธารอีกแล้ว""เด็กดี ต่อไปต้องขยันห้ามเกียจคร้าน คนขยันจึงไม่อดตาย จื่อเย่วกับจื่อห่าวเป็นเด็กดีพี่ใหญ่จะให้ได้กินข้าวขาวทุกวันดีหรือไม่""ดีเจ้า
ซ่งจื่อหรูไม่รู้เลยว่าตอนนี้นางกลายเป็นคนสำคัญที่ฮั่วเฟยหรูต้องการปกป้องไปแล้ว สามพี่น้องนั่งกินข้าวกันอย่างอร่อยสักพักร่างเล็กๆที่คุ้นตาก็เดินเข้ารั้วมา"น้องห้าเจ้ามาแล้วหรือพี่คิดว่าวันนี้เจ้าจะมาได้เสียอีก เอะนั่นพี่รองก็มาได้ด้วยดีจริงๆ"หลี่ถิงถิงจุงมือหลี่หานเดินเข้ามา นางยิ้มตาหยีจนเห็นหันครบทุกซี่ก่อนจะนั่งลงข้างๆซ่งจื่อเย่ว หลี่หานนั่งใกล้กันกับซ่งจื่อห่าว"พี่รอง..ท่านเจ็บตรงไหนบ้าง ขออภัยจริงๆวันหลังหากมีเรื่องท่านก็อย่าขวางท่านย่าเลย นางทำอะไรข้าไม่ได้หรอกกลับกันท่านจะถูกนางตีเสียเอง"ซ่งจื่อหรูรู้สึกสงสารพี่ชายลูกพี่ลูกน้องคนนี้ เขามักปกป้องพวกนางสามพี่น้องและทุกครั้งที่พยายามปกป้องพวกนางพี่รองมักจะถูกตบตีเสมอ"ข้าไม่เป็นไรมากหรอก เจ้าสองคนเสียอีกน้องสี่น้องห้าต่อไปก็พยายามอย่ามีเรื่องกับท่านย่านักเลย อยู่ให้ห่างนางสักหน่อยถูกตีจนเป็นรอยถึงเวลาออกเรือน จะหาบุรุษที่ดีมาแต่งงานได้อย่างไร""เหอะ..ข้าต้องหาบุรุษเช่นท่านพ่อข้าขยันขันแข็งถึงแม้จะกตัญญูจนซื่อบื้อเกินไปหน่อยแต่ก็รักท่านแม่ข้าและข้ายิ่งนัก" หลี่ถิงถิงหมายมั่นหลี่หานกับซ่งจื่อหรูหัวเราะกับคำพูดของหลี่ถิงถิง นี่ถ้า
เนื่องจากชาวบ้านหลายคนจึงเลื่อยต้นไผ่ได้รวดเร็วแต่ก็ไม่เร็วเท่าซ่งจื่อหรู แค่พริบตานางก็เลื่อยต้นไผ่ไปเกือบร้อยต้น พ่อลูกสกุลฮั่วและชาวบ้านต่างอ้าปากค้าง มีเพียงเด็กบ้านหลี่กับซ่งจื่อเย่วที่ไม่รู้สึกแปลกแถมหัวเราะกับท่าทางของพวกเขา"พี่ใหญ่กับพี่รองมีพรสวรรค์ด้านกำลัง เรื่องออกแรงล้วนไม่มีใครเทียบพวกนางได้หากไม่ใช่เพราะปกป้องข้ากับพี่รอง พี่ใหญ่ของข้าคงไม่ถูกปีศาจเฒ่าทุบตีหรอกขอรับ"ซ่งจื่อห่าวพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ปีศาจเฒ่าที่ซ่งจื่อห่าวพูดน่าจะหมายถึงแม่เฒ่าหลี่ เด็กคนนี้ปกติคนนึกว่าใบ้แต่เวลาพูดทำเอาคนไปไม่ถูกเชียวเด็กๆสกุลซ่งนี่ช่างประหลาดแท้ เหตุใดประหลาดนะหรือแม่หนูซ่งจื่อเย่วนั่น ใช้เพียงมือเดียวก็สามารลากไผ่ทั้งต้นมาวางเรียงราย" ข้าว่าไม่ต้องห่วงสามพี่น้องนี่จะดีกว่า ควรห่วงคนที่จะมาหาเรื่องพวกนางเถอะฮ่า ฮ่า ฮ่า""ยังไงก็ยังเด็ก เล่ห์เหลี่ยมของผู้ใหญ่นั้นมากมายนัก "ครั้นยามที่หลี่ต้าซานยังอยู่ เขาเป็นคนอัธยาศัยดีมีน้ำใจไม่ว่าผู้ใดไหว้วานก็มักไม่ปฏิเสธ สะใภ้ซ่งก็อ่อนโยนสั่งสอนบุตรสาวได้ดีเด็กทั้งสามวางตัวดี ผู้คนในหมู่บ้านจึงรักและเอ็นดูปลายยามเซินก็ตัดต้นไผ่ได้เกือบสามร้อยต
ขณะที่มึนๆงงๆ ก็ถูกเหวี่ยงมายังสถานที่แห่งหนึ่ง เบื้องหน้ามีไร่กับบ้านหลังเล็กๆ นี่มันไร่ของคุณปู่ แต่เหมือนจะย่อส่วนลงเหลือเพียงประมาณ สามไร่ มีโรงเรือนกับบ้านหลังน้อยๆ ซ่งจื่อหรูเดินสำรวจ"มีลำธารตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เฮ้อนี่เจ๊ตายกลายเป็นวิญญาณอีกรอบเหรอ Oh my god . ถ้าให้ตายหลายรอบจะให้เกิดใหม่ทำไม นี่เทพชะตา ท่านว่างมากหรือ ข้าไม่ได้เสียใจหรอกก็แค่สงสารแต่เด็กพวกนั้นถ้าตื่นมาแล้วรู้ว่าพี่สาวตัวเองตายไปแล้วจะทำอย่างไร""คิดอะไรมั่วซั่วกัน หลานยังไม่ตายสักหน่อย""คุณปู่ คุณปู่จริงๆด้วย หนูตายแล้วหรือว่าฝันอยู่กันแน่ คุณปู่ขาหนูคิดถึงคุณปู่มากเลยค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ล่ะคะ พวกท่านอยู่ที่ไหน"ซ่งจื่อหรูกอดซ่งฮั่นเหลียงแน่น"เด็กโง่ หลานยังไม่ตาย ที่นี่คือกำไลที่หลานใส่ติดตัวตลอดเวลา นี่เป็นสิ่งที่ปู่สามารถทำเพื่อหลานได้ จำไว้จงใช้มันอย่างมีสติ""คุณปู่หมายความว่ายังไงคะ หนูไม่เข้าใจ""เดี๋ยวหลานก็รู้เอง เรื่องนี้แม้แต่น้องๆก็เอ่ยไม่ได้ สิ่งที่พวกเขาตามหา มันอยู่กับหลานมาตลอด""ใครตามหาอะไรคะ คุณปู่ขาทำไมหนูไม่เข้าใจสักอย่าง""ปู่ต้องไปแล้ว หลานรักบางอย่างต้องรอให้ถึงเวลาของมัน"ซ่งฮ
เซี่ยหนานอินถูกเจ้าอาวาสลากไปเด็กสามคนจึงเป็นอิสระ ซ่งจื่อเย่ว ซ่งจื่อห่าวและจ้าวเฟยเซียนอยู่กับจางอวี้เซียน มีองครักษ์ของจวนเจ้าเมืองดูแล จิงอี้ถูกสั่งห้ามเข้าใกล้หลี่อ้ายเสิ่น จนกว่าจะแต่งงานนางถูกหลี่ไหลฝูพาไปฟังธรรมด้านในด้วยเดินมาถึงหลังวัดส่วยเอี๊ยหลี่ม่านอวี้ก็นั่งลงบนก้อนหินกลางป่าท้อ"นั่งก่อนเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว"หลี่ม่านอวี้ถอนหายใจ"พี่สาม ท่านคิดอะไรอยู่ทำไมดูท่านทำหน้าสงสัยตลอดเวลา"ซ่งจื่อหรูเห็นสีหน้าพี่สามเหมือนท้อใจตอนที่จิงอี้เดินมาหาหลี่อ้ายเสิ่น"เมื่อคืนอาเขยไปหาอาเล็ก ตอนที่ท่านปู่ไปคุยเรื่องแต่งงานของนางที่บ้านปู่ใหญ่" หลี่ม่านอวี้พูดไปถอนหายใจไป"อาเขย เจ้าหมายถึงจิงอี้หรือ"จิงเสวียนถาม"เจ้าค่ะพี่จิงเสวียน เขาบอกให้ข้าเรียกเขาอย่างนั้น อาเขยนำปิ่นปักผมไปให้อาเล็ก ข้าบอกว่าเข้าไม่ได้ท่านปู่สั่งไว้ เขาก็อ้อนวอน ข้าจึงให้แค่แป๊บเดียว""จากนั้นล่ะ เกิดอะไรขึ้น ท่านปู่พี่จับได้หรือ" หูเจียวเจียวหูผึ่งก่อนมานั่งจะดักหน้าหลี่ม่านอวี้แล้วถามนาง" เปล่าหรอกเจียวเจียว ข้าให้เวลาอาเขยแค่ครึ่งเข่อ พอเห็นท่านปู่มาก็จะไปตามเขา แต่พอเปิดประตู ก็เห็นเขากัดปากอาเล็กอยู่ ริมฝีป
ถึงเวลาอาหาร วันนี้ทุกคนกินข้าวที่บ้านของซ่งจื่อหรู ฮั่วเฟยหย่งเอ่ยกับพวกเขา"เรื่องที่จิงอี้ทำนับว่าร้ายแรง แม้กฎเกณฑ์ต้าเหลียงไม่เข้มงวดตีกรอบเกินไป แต่นั่นคือทั้งชีวิตของสตรี พวกนางต้องเสียสละร่างกายคลอดบุตรให้เจ้า ต้องคอยดูแลบ้านช่อง หากต่อไปใครชิงสุกก่อนห่ามไม่เข้าออกตามธรรมเนียมข้าไม่เอาไว้แน่ จะรักใคร่นอกกายข้าไม่ว่า แต่ห้ามเลยเถิดจนกว่าจะเข้าหอ"ประโยคสุดท้ายเว้นไว้ให้เจ้าเด็กบ้าเฟยหรงนี่ หากไม่ให้ได้ชิมน้ำหวานเลยคงอกแตกตาย"พะย่ะค่ะ "ทุกคนรับคำพร้อมเพรียงจากนั้นก็กินข้าวต่อ หลังมื้อเย็นทุกคนรีบนอน เช้าต้องไปแต่เช้า ซ่งจื่อหรูอยากเข้าไปในมิตินึกถึงกรอบรูปที่อยู่ๆก็มาวางบนเตียง แต่พรุ่งนี้ต้องเดินทางเลยเว้นไปก่อนหลี่เหิงถือเสื่อเข้ามา แต่จ้าวเทียนเฟยบอกว่าพื้นนั้นเย็นเกินไป ให้ขึ้นมานอนด้วยกัน เขาลังเลอยู่พักใหญ่เกรงว่าจะไม่สมควร จ้าวเทียนเฟยบอกว่า ให้หลี่เหิงนอนด้านใน เวลาเขาทำธุระจะได้ปลุกง่ายหลี่เหิงได้นอนที่บ้านก็สบายใจหลับไม่รู้เรื่อง แม้กระทั่งถูกคนตัวโตเอาเปรียบเขาเกือบค่อนคืน ตื่นมาได้แต่งงคิดว่าตนเองถูกยุงหรือมดกัด แต่ทำไมพี่เทียนเฟยถึงไม่มีรอยอะไรเลยยามเหมาทุกคนตื
ลานบ้านหลี่ หลี่ไหลฝูยืนอยู่กำลังจะซัดฝ่ามืออกไป หลี่อ้ายเสิ่นวิ่งไปขวางเขาปกป้องจิงอี้ที่นอนกระอักเลือดอยู่ หลี่ต้าโจวกับหลี่ต้าจูถูกบิดาโยนไปคนละทิศละทาง"ท่านลุงหลี่ค่อยพูดเถอะ นี่มันเรื่องอะไรกัน จิงอี้เจ้าว่ามาสิ"จ้าวเฟยหย่งไกล่เกลี่ย จิงอี้พยุงตัวเองขึ้นหลี่ไหลฝูวรยุทธไม่เลวเลย เทียบกับท่านอ๋องเขาสูสีทีเดียว ใครจะรู้ช่างไม้หมู่บ้านกันดารจะมีฝีมือขนาดนี้"นายท่าน ข้าต้องการแต่งงานกับอ้ายเสิ่น แต่ผู้เฒ่าหลี่ไม่ยอมขอรับ""นางยังไม่ถึงวัยปักปิ่นด้วยซ้ำ อีกตั้งครึ่งเดือน เจ้ารอวันนั้นค่อยพูดคุยไม่ได้หรือไง" จิงเสวียนดุน้องชาย"พี่ใหญ่ข้ารอไม่ได้หรอก อ้ายเสิ่นนางก็รอไม่ได้ด้วยหากจิงอี้น้อยรอไม่ไหวจะทำไง ข้ากับนางเอ่อ ป่านนี้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวน้อยในท้องนางเกิดหรือยังอาจเกิดแล้วมั้ง"หลี่ไหลฝูซัดฝ่ามือใส่จิงอี้ด้วยความโมโห จ้าวเทียนหยางที่ไม่รู้ว่าโผล่มาตอนไหนสกัดฝ่ามือเขาจนไปปะทะต้นไม้ในบ้านหักโค่นลงมาจิวเสวียนหอบหายใจด้วยความโมโหที่นี่ไม่มีคนอื่นเขาจึงเค้นฟันพูดกับน้องชาย"หานจิงอี้ ไอ้เด็กสารเลวหากเป็นชาวบ้านจะไปอะไรลับล่อๆก็ยังพอทน แต่เจ้าเป็นใคร ท่านลุงรู้เรื่องนี้จะว่าอย่างไรหรือต
ห้องรับรองตำบลซานสุ่ย มีเซี่ยหนานอินนั่งอยู่ด้านบน เซี่ยอวิ๋นนั่งอยู่ซ้ายมือด้านข้าง ถัดไปคือมีกังฉินนายอำเภอ เจ้ากรมโยธา หลี่ไหลฝู หลี่ฝูเหยา ด้านขวามีซ่งจื่อหรู จ้าวเฟยหย่ง จ้าวเฟยเหรงนั่งอยู่ แผนที่เมืองของมณฑลกว่างผิงถูกกางออกบนโต๊ะ เผยให้เห็นเส้นทางน้ำขนาดใหญ่น้อย ซ่งจื่อหรูใช้พู่กันกากบาทจุดที่เรือควรจอดแวะ จึงได้ทั้งหมด ห้าท่าเรือ“หากสร้างท่าเรือตามนี้จะใช้เวลานานเท่าใด” เซี่ยหนานอินถามขึ้น“ใต้เท้างบประมาณคือเงินส่วนตัวของท่านเพียงแค่แปดหมื่นตำลึงจะสร้างพร้อมกันไม่ได้เจ้าค่ะ มีท่าเรือก็ต้องมีที่พักท่านลองออกประกาศหานายทุนเชื่อข้าสิว่าต้องมีคนร่วมลงทุนแน่ๆ”“นายทุนคือสิ่งใดอาหรู แล้วพวกเขาจะยอมให้เงินแก่เราหรือ”จ้าวเฟยหย่งไม่เข้าใจสิ่งที่นาพูดซ่งจื่อหรูจึงอธิบาย“ท่านอาฮั่ว นายทุนคือคนที่ออกเงินให้เรา ก่อน ท่านเจ้ากรมท่านคำนวนที่ดินจากริมฝั่งออกมา ปล่อยเช่าที่ดินให้คนที่ต้องการทำโรงเตี๊ยมและร้านค้าต่างๆเช่าค้าขาย ทำสัญญาระยะยาวสิบปีต่อสัญญาทุกๆสามปี จ่ายค่าเช่ารายเดือน เก็บมัดจำครึ่งหนึ่ง สร้างใกล้เสร็จเก็บส่วนที่เหลือ หากไม่จ่ายภายในเวลาที่กำหนดถือว่าผิดสัญญา จากนั้นให้ปล่อย
อาหารเสร็จแล้ว เด็กๆถูกองค์ชายห้าพาไปเล่นบนเขาแต่เช้าแล้ว ลูกเสือขาวนอนหลับลุงใหญ่ถามนางว่าเจ้าของแพะถามว่านางรับซื้อหรือไม่ เขาต้องการเงินเป็นค่าสินสอดให้บุตรชาย นางมีเงินจากการขายหมูคราวก่อนหากจะใช้ก็ไม่แปลก จึงตกลงซื้อแพะสองตัวและวัวสามตัวจากบ้านท่านป้าคนนั้น หลังเตรียมอาหารเสร็จเด็กๆกลับมาแล้ว เซียวอวี้หรานกำลังจับล้างหน้าล้างตาเพื่อมานั่งกินข้าว หลี่ไหลฝูเดินมาหา ซ่งจื่อหรูจัดโต๊ะนอกบ้าน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะท่านปู่ เมื่อคืนหลับสบายหรือไม่เจ้าคะ" ซ่งจื่อหรูเดินไปคล้องแขนชายชรามานั่ง"อรุณสวัสดิ์ท่านปู่ ขอให้สุขภาพแข็งแรงเจ้าค่ะ/ขอบรับ"ซ่งจื่อเย่วกับซ่งจื่อห่าวก็ลุกขึ้นคำนับเช่นกันจ้าวเทียนเฟยเอ่ยทักทาย หลี่ไหลฝูมองออกว่าครอบครัวฮั่วเฟยหย่งไม่ใช่คนธรรมดา จึงไม่คิดถือสาเรื่องมารยาท"วันนี้ปู่จะเรียกชาวบ้านมาคุย เรื่องว่าต้องขึ้นเขาใช้ไม้ชนิดใดสร้างสะพาน ช่วงบ่ายจะไปตำบล วาดโครงสร้างท่าเรือ เจ้าเองก็สามารถวางค่ายกลทำงานช่างได้ ก็ไปด้วยกันหลายคนจะได้ช่วยกันคิด"หลี่ไหลฝูบอกหลานสาว"ก็ดีเจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นช่วงเช้าก็แบ่งงานในหมู่บ้านก่อน ช่วงบ่ายค่อยเข้าตำบล อ้อท่านอาฮั่วมาพอดี"ซ่งจื่อห
ทุกคนกินอาหารพูดคุยกันหลี่อ้ายเสิ่นที่ตนเองไม่มีผู้ใดสนทนาด้วยจึงลุกออกจากลานต้นไหวเดินกลับบ้าน เผอิญสวนกับจ้าวเฟยหรงจึงทักทายเขาจ้าวเฟยหรงแค่เพียงพยักหน้า เท้าของหลี่อ้ายเสิ่นหนักอึ้งนางผิดหรือที่เกิดเป็นบุตรสาวของหญิงผู้นั้นทุกคนไม่สนใจนางแล้วนางจะหน้าด้านอยู่ทำไม อยู่ๆก็มีมือแข็งแกร่งมากระชากนางลากไป รู้อีกที่นางก็ติดอยู่กับกำแพงในบ้าน จิงอี้มองหน้านาง"ข้าบอกเจ้าแล้วว่าห้ามยุ่งกับคุณชายข้าหรือที่ข้าเตือนเจ้าไม่คิดฟัง"จิงอี้กดหลี่อ้ายเสิ่นกับกำแพง"ข้าแค่บังเอิญเจอเขา แล้วอย่างไรหากข้าอยากคุยแล้วทำไม หากเขาชอบข้าแล้วอย่างไรท่านมีสิทธ์อะไร"หลี่อ้ายเสิ่นโมโหคนตรงหน้า"เจ้าไม่คู่ควรกับเขา เจ้าอย่าใฝ่สูงเกินไปนัก"เพี๊ยะหลี่อ้ายเสิ่นสะบัดหลุดออดมาก่อนจะตบหน้าจิงอี้จนหันทันที"ข้าคู่ควรหรือไม่ก็ให้เขาตัดสินใจ ไม่ใช่เจ้ามาข่มขู่ข้า อื้อๆๆๆๆ"จิงอี้ไม่ปล่อยให้นางพูดจบเขาก้มลงประกบปปากนาง หลี่อ้ายเสิ่นใช้มือสองข้าทุบตีผลักเขาออก แต่ก็ไม่เป็นผล จิงอี้ปล่อยนางก่อนจะมองจ้องหน้า"วันหลังจำให้ดี ข้าไม่ได้ขู่เจ้า"" จิงอี้ ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้า คนสารเลวเจ้าว่าข้าเป็นลูกหญิงแพศยาแล้วเจ้าเล่า เอา
ภรรยาของคนเหล่านั้นไม่เต็มใจที่จะมาหมู่บ้านกันดารแต่เพราะขัดสามีตนเองไม่ได้ ทุกคนนั่งลงหลี่ฝูเหยากล่าวเริ่มงานเลี้ยง อาหารตรงหน้าทำให้สตรีทั้งหลายไม่กล้ากินแม้แต่บรรดาอาจารย์ในสำนักศึกษาก็ลังเล ยกเว้นกัวฉิน เซี่ยหนานอิน และอู๋จี๋ พวกเขาเคยได้ทานพวกมันแล้วจึงรู้ว่าอร่อยไม่นานนักก็มีรถม้ามาเพิ่มอีกสามคัน จางอวี้เซียนก้าวลงมา ตามด้วยจินเหนียงและบุตรสาว คันที่สองคือจางต้าหู่ คันสุดท้ายเถ้าแก่เหลียง ซ่งจื่อหรูเข้าไปทักทายพวกเขา"สวัสดีเจ้าค่ะท่านอาจาง ท่านลุงเหลียง พี่จินเหนียง พี่อวี้เซียน ข้าเตรียมโต๊ะไว้ให้พวกท่านแล้ว"เซี่ยหนานอินเห็นสตรีที่เดินตามซ่งจื่อหรูมาก็จำได้นางคือคนที่เขียนจดหมายร้องเรียนขอหย่าบิดาแทนมารดา เพื่อทวงสินเดิมที่ถูกยึดไปกลับคืน เนื่องจากบิดาแต่งอนุโดยที่ภรรยาเอกไม่เห็นชอบ" นี่คือผู้นำทั้งสามหมู่บ้านที่เราจะร่วมมือกันเจ้าค่ะ ส่วนนี่คือท่านปู่ของข้าหลี่ไหลฝู ทุกท่านพวกเขาคือเถ้าแก่ที่ข้าต้องการให้เป็นคนกระจายสินค้าของพวกกเราในอนาคต เถ้าแก่ร้านท่านนี้คือจินเหนียงแห่งร้านจินปู่เตี้ยน นี่คือเถ้าแก่จางแห่งร้านหนึ่งในใต้หล้าจางอวี้เซียน เถ้าเแก่เหลียงเว่ยแห่งร้านธัญพืช
หลี่เหิงกลับมาแล้ว หลี่ม่านอวี้หลี่อ้ายเสิ่นและบรรดาท่านป้าในหมู่บ้านมาช่วยงานที่บ้านของซ่งจื่อหรู เหล่าบุรุษทั้งหลายถูกสั่งให้ไปนำหญ้าเหมันต์ลงปลูก เกาฟ่านกับเกาหม่ารับคำสั่งให้ไปติดต่อกับเกาหยวนเพื่อซื้อข่าวจากหอฮวาเซียงจ้าวเทียนเฟยออกมานั่ง เขาอมยิ้มทันทีที่มองเห็นหนุ่มน้อยคนเมื่อเช้ากำลังช่วยน้องสาวและเหล่าบรรดาสตรีทั้งหลายที่วุ่นวายอยู่หน้าเห็นตาคอยฟังคำสั่งซ่งจื่อหรู ว่าอาหารชนิดไหนทำเช่นไร มีหน่อไม้เส้น มีหน่อไม้ดอง รากบัว กุ้งมังกรน้อย มีหอยขม ที่เด็กๆช่วยกันจับแต่เช้าเห็ดสนที่ให้เด็กๆขึ้นเขาชิงลั่วไปหามา นางทำปลาเปรี้ยวหวาน สามชั้นต้มหน่อไม้แห้ง หอยขมผัดพริกหมาล่า กุ้งมังกรอบน้ำมันพริก รากบัวต้มกระดูกหมู หน่อไม้ดองต้มปลา หน่อไม้ดองผัดเครื่องในไก่ ไก่ขอทาน เครื่องในหมูพะโล้ และสามชั้นตุ๋นผักกาดอง ของหวานคือผลบัวหิมะ และผูเถาที่นางเอาออกมาจากมิติ แต่ทำทีว่าเก็บมาจากต้นที่ปลูก เนื่องจากติดลูกดกมากจึงไม่มีใครสงสัยกุหลาบนางแอบเอาไปตากในมิติตอนนี้สามารถชงชาได้แล้ว มีเกษรดอกบัว ชาดีบัว ของเหล่านี้ต้องให้พวกเขาลิ้มลอง หากต้องการเปิดตลาดในต้าเหลียงต้องอาศัยปากต่อปาก ยุคนี้ไม่มีโซลเ
บ้านเชิงเขาซ่งจื่อหรูทำอาหารเสร็จแล้ววันนี้มีอาหารไม่มากเพราะต้องจัดงานเลี้ยง เห็นจิงเสวียนเดินมารับสำรับจึงหาจังหวะเอ่ยถามสิ่งที่ต้องการ"พี่จิงเสวียน ตอนที่ข้าไม่อยู่นอกจากจางอวิ๋นคนนั้นยังมีใครมาที่นี่บ้าง"" นอกจากจางอวิ่นยังมีอีกสามคนที่เหลือน่าจะเป็นคนติดตาม มีอะไรหรือเปล่า" จิงเสวียนถามนางกลับซ่งจื่อหรูส่ายหน้า"ไม่มีอะไร ี่จิงเสวียนข้ามีเรื่องอยากให้ท่านช่วยแต่เรื่องนี้แม้แต่พี่หรงก็ห้ามรู้ ท่านรับปากข้าได้หรือไม่"จิงเสวียนพยักหน้าเขารับสำรับอาหารไป จ้าวเทียนหยางโดดเข้ามา พร้อมมองหาน้องๆตัวน้อย เขาจะพาเด็กพวกนี้ไปเล่นบนเขา จ้าวเทียนหยางมาถึงก็เรียกหาเด็กทั้งสอง"แม่นางน้อย เซียนเอ๋อร์กับจื่อเย่วตื่นหรือยัง""คงกำลังพับพ้าห่มอยู่กระมัง ท่านมีอะไร"ซ่งจื่อหรูยังเอ่ยไม่จบจ้าวเทียนหยางก็หายไปในห้องครู่เดียวก็อุ้มเด็กน้อยสองคนออกมามีซ่งจื่อห่าวขี่หลังอีกคน ใช้วิชาตัวเบาพาเหินไปบนเขาซ่งจื่อหรูร้องห้ามแต่ไม่ทัน ฉินลู่ที่เพิ่งกลับมาต้องรีบตามไป องค์ชายนะองค์ชายก็รู้ว่านางหวงน้องๆเพียงใด โรคเก่าของท่านกำเริบหรือไงนะ" อาหรู หยางเอ๋อร์กัยเฟยเอ๋อร์มักชอบเล่นกับเด็กๆลูกของบ่าวในจวนเสมอ