ซ่งจื่อหรูพยายามค้นหาความทรงจำของร่างเดิมไม่ให้ตกหล่น ในเมื่อนางต้องมาดูแลน้องทำหน้าที่แทนพ่อแม่และคุณปู่แล้วนางจะต้องทำให้ดี ใจจริงนางอยากขึ้นเขามากกว่าแต่ตอนนี้เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว (15.00 - 16.59 น.)
จากที่สำรวจตอนที่วิญญาณมาถึงนางเห็นของดีมากมาย แต่ใกล้ค่ำไม่อาจทิ้งน้องไว้ลำพังได้ ไม่รู้ว่าคนบ้านใหญ่รู้ว่านางฟื้นแล้วจะมาหาเรื่องอะไรอีก
ซ่งจื่อหรูมองรอบบริเวณบ้านรั้วนั่นต้องเร่งทำอย่างน้อยก็ป้องกันคนจากบ้านใหญ่มารังแกเด็กๆ และคนอื่นๆ ที่ไม่หวังดีอีก เถาวัลย์หลายขนาดเลื้อยพันไปมา
ที่นี่คือแคว้นต้าเหลียง หมู่บ้านที่นางอาศัยอยู่คือหมู่บ้านหลี่ซาน หมู่บ้านข้างๆ คือหมู่บ้านไป๋ซานและหมู่บ้านเถาซานตั้งอยู่ในตำบลซานสุยเมืองเสียนหยาง เมื่อสี่ปีก่อนท่านพ่อบาดเจ็บจากการล่าสัตว์ แม่เฒ่าหลี่ไม่อยากจ่ายค่ารักษาจึงถูกบังคับให้ต้องแยกบ้านและไม่ให้อะไรเลย แต่เพราะเกรงกลัวอำนาจของหลี่ฝูเหยาหลี่เจิ้งของหมู่บ้านอีกทั้งยังเป็นพี่สามีคนโตของนาง
เขาข่มขู่นางว่าจะส่งจดหมายหาหลี่ไหลฝูน้องชายให้หย่ากับนางซะหากนางไม่ยินยอม แม่เฒ่าหลี่จึงยอมให้หลี่ต้าซานได้กระท่อมหลั
เก่าของบ้านหลี่ไป
แต่หลังจากนั้นไม่นานเพราะไม่ได้รับการรักษาท่านพ่อจึงจากไป ขณะที่ท่านแม่คลอดซ่งจื่อห่าวได้เพียงสองเดือน แม่เฒ่าหลี่อ้างว่าน้องชายเป็นตัวอัปมงคลทำให้บิดาต้องตายจึงขับไล่นางซ่งและบุตรสาวทั้งสอง ในที่สุดนางซ่งจึงพาลูกมาอยู่ที่บ้านเดิมอีกทั้งต้องเลี้ยงเด็กอ่อน2เดือนกับลูกสาวสองคน8ขวบกว่ากับคนนึงอายุไม่เต็ม2ขวบดี
นางซ่งทำได้เพียงรับปักผ้าขายไปวันๆ ซ่งจื่อหรูมีหน้าที่ไปส่งผ้าปักที่ตำบลทุกๆครึ่งเดือนจะไปส่งงาน ผ้าเช็ดหน้าผืนละ5อีแปะ ด้ายและผ้าเป็นของร้านฮวาเหยียนนางซ่งเพียงแค่รับจ้างปัก
แต่ทุกครั้งที่ซ่งจื่อหรูไปส่งผ้าขากลับมาจะต้องเจอแม่เฒ่าหลี่มาดักรอเพื่อแย่งชิงเงินค่าแรงของนาง บางครั้งก็ทุบตีเพราะซ่งจื่อหรูไม่ยอมให้ มีท่านย่าท่านยายใจดีในหมู่บ้านสงสาร จึงให้นางและแม่มาช่วยงานเพื่อแลกอาหารในบางครั้ง
หลังจากท่านพ่อจากไปได้ไม่นานท่านแม่ก็จากไปอีกจนถึงตอนนี้น่าจะได้เกือบสองปีแล้ว เหลือซ่งจื่อเย่วอายุ5ขวบและซ่งจื่อห่าวอายุเกือบสามขวบเอาไว้ให้เลี้ยง บางวันต้องเอาน้องไปฝากท่านย่าท่านยายที่ตนเองไปช่วยงานหรือส่งผ้าปัก จนในที่สุดวันสุดท้ายของชีวิต นางก็ต้องจากน้องๆ สาเหตุก็เพียงเพราะไข่สองฟองเท่านั้นคนสกุลหลี่ช่างเป็นพวกเลวร้ายจริงๆ
ซ่งจื่อหรูพาน้องๆไปเช็ดหน้าตาที่ริมลำธาร ก่อนจะพากันเข้าบ้านปิดประตูจากนั้นก็ยกโต๊ะที่ใช้นั่งกินข้าวมากั้นประตูไว้อีกที เนื่องจากประตูถูกทุบจึงต้องใช้โต๊ะมากันลมและบดบังแทน ร่างกายนี้มีความพิเศษคือสามารถยกของที่หนัก200-300ได้สบายๆ
"จื่อเย่ว จื่อห่าวคืนนี้กินมันเทศที่เหลือไปก่อนนะ ส่วนหมั่นโถวที่พี่ห้าเอามาให้เก็บไว้อุ่นในตอนเช้าพรุ่งนี้"
"เจ้าค่ะ/ขอรับ"ซ่งจื่อเย่วและซ่งอวิ่นห่าวรับคำ
"รีบกินรีบนอนเถอะฝนตั้งเค้ามาครึ้มแล้ว คงจะมืดเร็วแน่ๆ"
ซ่งจื่อหรูพาน้องเข้านอนไม่ทันเท่าไหรฝนก็จะกระหน่ำอย่างแรงซ่งจื่อหรูคิดว่าจะขึ้นเขา นางจำทุกรายละเอียดตอนที่ไปสำรวจได้ดีว่าตรงไหนมีสิ่งใดบ้าง คงต้องเริ่มจากเขาชิงลั่วฝั่งที่ติดหมู่บ้านก่อนแล้วกัน อย่างน้อยก็ไม่ต้องถางทางเพราะชาวบ้านมักขึ้นไปหาของป่าเป็นประจำทางขึ้นลงจึงไม่รกสักเท่าไหร่
ทั้งบ้านมีเพียงห้องนอนใหญ่ของท่านตาที่ยังใช้ได้เพียงห้องเดียว ซ่งจื่อหรูใช้จอบขุดหลุมเล็กๆ ลึก30ชุ่น ไว้ใช้ก่อกองไฟเล็กๆ ในห้องอบอุ่นและให้แสงสว่าง เทียนที่มีเหลือยาวไม่ถึง3ชุ่นด้วยซ้ำ จำเป็นต้องประหยัดครั้งก่อนไปส่งผ้าปักแต่เพราะทางร้านมีการเปลี่ยนแปลงจึงไม่ได้ให้งานมา ตอนนี้ในบ้านไม่มีเงินเหลือแล้ว ข้างนอกพายุฤดูร้อนกำลังกระหน่ำอย่างแรง เมื่อจัดการให้น้องๆ นอนหลับก็เริ่มสำรวจบ้านหลังนี้ จากความทรงจำจึงนึกถึงคำพูดของผู้เป็นตาได้ทุกคำ
"หรูเอ๋อร์...นี่เป็นที่สำหรับหลานและน้องๆ มันคือสถานที่ปลอดภัยยามพวกเจ้าเดือดร้อน"
"ท่านตาเจ้าคะ...ท่านแม่รู้หรือไม่เจ้าคะว่าบ้านท่านตามีห้องใต้ดิน"
"มารดาเจ้าเป็นคนจิตใจดีเหมือนท่านยายของเจ้า บิดาเจ้าก็กตัญญูจนเกินขอบเขต จนทำให้ลูกเมียถูกรังแก ห้ามบอกแม่กับพ่อของเจ้าเกี่ยวกับที่นี่เด็ดขาด"
"เจ้าค่ะ..ท่านตา"
"หลังกำแพงนี้ห้ามหลานเปิดมันตอนที่ไม่พร้อม จำไว้หลังกำแพงนั่นมีอันตราย อย่าเข้าไปจนกว่าจะแน่ใจว่าดูแลตนเองและน้องๆ ได้แล้ว"
นี่เป็น บทสนทนา เมื่อครั้งที่ซ่งจื่อหรูมาดูแลท่านตาเมื่อครั้งท่านตาป่วยหนัก พ่อเฒ่าซ่งบอกรายละเอียดของห้องกับกับหลานสาว เขารู้ดีว่าไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้พิษที่ถูกคนทำร้ายถึงเวลาเอาชีวิตเขาแล้ว เขาหวังว่าสักวันหนึ่งหลานสาวคนนี้จะนำพาตระกูลของเขาให้รุ่งเรืองได้อีกครั้ง
แม้ว่าตนเองจะอยู่ไม่ถึงวันนั้นก็ตามซ่งจื่อหรูรอจนแน่ใจว่าน้องๆนอนหลับสนิทนางจะหาคำตอบจากเรื่องนี้
ซ่งจื่อหรูจุดเทียนเดินไปที่ตู้ไม้เก่าๆ ใบใหญ่กว้างมาณเมตรครึ่งสูง3เมตรและเปิดประตูออก ใช้เทียนส่องที่พื้นตู้ก่อนจะคลำหาบางอย่าง สักพักก็เจอห่วงเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ด้านล่างนางค่อยๆดึงขึ้น จากพื้นตู้ก็กลายเป็นประตูบานหนึ่ง ด้านล่างมีบันไดลงไป นางหันไปมองซ่งจื่อเย่วและซ่งจื่อห่าวที่หลับสนิทก่อนจะเดินลงบันไดไปยังห้องใต้ดินตามความทรงจำเดิม
ซ่งจื่อหรูใช้เทียนส่องดู เห็นมีตะเกียงอยู่ตรงมุมห้อง จึงเดินไปจุดตะเกียงที่อยู่ตามมุม จากนั้นในห้องก็สว่าง พบว่าภายในห้องใต้ดินนางพบเจอหีบเรียงราย ในนั้นมีเครื่องมือช่างมากมาย มีชั้นหนังสือและมีหนังสือหลายเล่ม ในยุคสมัยนี้เหล็กและหนังสือล้วนแต่มีราคาแพง มีผ้าหลายพัยอยู่ในหีบ แต่ไม่มีอาหารใดๆนอกจากเมล็ดพันธุ์บางชนิดไม่เห็นว่าบ้านนี้จะปลูกอะไรสักต้นแล้วจะมีเมล็ดพันธุ์ไว้ทำไมกัน เฮ้อ!!ซ่งจื่อหรูถอนหายใจ ไม่มีอะไรแลกเป็นเงินได้สักอย่างมีแค่ของเหล่านี้แต่ถึงกระนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ช่างไม้ธรรมดาคนนึงไม่น่าจะมีไว้ครอบครองได้ แต่เหตุใดท่านตาจึงทำตัวเหมือนคนยากจน จากนั้นก็สำรวจต่อค้นเจอสุราเหลืออยู่สองไห ซ่งจื่อหรูหยิบสุรามาหนึ่งไหเพื่อจะใช้เช็ดบริเวณบาดแผลที่ศรีษะ นางใช้ชามที่วางอยู่เอาสุรามาเช็ดทำความสะอาดจากนั้นก็รินสุราลงไปก่อนจะใช้ผ้าค่อยๆจุ่มสุรามาเช็ดแผลบริเวณศรีษะ ซ่งจื่อหรูเช็ดเลือดที่เกอะกรังออก ทำให้ปากแผลเปิดเลือดจึงซึมๆ ออกมา อย่างน้อยก็ฆ่าเชื้อ พรุ่งนี้หาทางขึ้นเขาสักครั้งเผื่อเจอสมุนไพรมารักษาได้บ้างหลังจากจัดการบาดแผลเสร็จก็ดับตะเกียงก่อนจะขึ้นมาจากห้องใต้ดิน ความรู้ส
ซ่งจื่อหรูหาไม้ง่ามมาได้สองอันก็ปักลงด้านบนปากหลุมทั้งสองฝั่งๆ ล่ะหนึ่งอัน เขี่ยกองฟืนให้เป็นถ่านแดงนำมันเทศวางลงไปพร้อมกลบถ่านจากนั้นนำปลามาวางบนไม้ง่ามค่อยๆ พลิกไปมา จนปลาย่างเริ่มส่งกลิ่น เกือบจะปลายยามเหมาแล้วเด็กสองคนถูกกลิ่นหอมของปลาย่างปลุกให้ตื่น ซ่งจื่อหรูนำมันเทศที่สุกแล้วกับปลาย่างวางบนใบบัวที่ตัดมาเมื่อวาน จากนั้นก็นำหม้อแตกครึ่งใบมาต้มน้ำซ่งจื่อเย่วได้กลิ่นจึงวิ่งมาหาพี่สาว"พี่ใหญ่..ท่านทำอะไรหอมจังเลยเจ้าค่ะ""พี่ย่างปลาน่ะ จื่อเย่วกับจื่อห่าวพับผ้าห่มให้เรียบร้อยแล้วมาล้างหน้าพี่ต้มนำอุ่นให้แล้ว"แม้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนแต่เนื่องจากอยู่ติดเชิงเขาอากาศจึงหนาวเย็นกว่าที่อื่น เด็กๆพากันเก็บที่นอนพับผ้าห่มเก่าที่ถูกปะชุนจนหาสีเดิมไม่ได้ เอ๋มีผ้าห่มผืนใหม่ด้วย พี่ใหญ่คงเอามาจากใต้เตียงท่านตาแน่ๆ มิน่าเมื่อคืนนี้พวกเขาอุ่นมากแถมพี่ใหญ่ยังกอดพวกเขาอีกด้วยมือน้อยๆ ช่วยกันพับผ้า จากนั้นก็มาล้างหน้า ซ่งจื่อหรูนำหมั่นโถวสามลูกห่อใบบัววางอุ่นในหม้อแตก หม้ออีกใบถูกใช้ต้มน้ำดื่ม ซ่งจื่อหรูค่อยๆบิมันเทศและหมั่นโถวให้ซ่งจื่อห่าว จากนั้นก็แกะเนื้อปลาให้น้องทั้งสอง เมื่ออิ่มแล้วจึงดับ
ทั้งคู่เดินมาเพียงครึ่งถ้วยชาก็ถึงตีนเขา มีรอยเท้าชาวบ้านที่มาหาของป่าเต็มไปหมด ซ่งจื่อหรูจึงหันมาพูดกับฮั่วเฟยหรง"ท่านพี่ฮั่ว พวกเราไปอีกด้านเถอะทางนี้คงไม่มีอะไรเหลือให้หาแล้ว"ซ่งจื่อหรูชักชวน"อืม"ฮั่วเฟยหรงเพียงแค่พยักหน้าแล้วเดินนำซ่งจื่อหรูไปอีกด้าน ซ่งจื่อหรูตัวเตี้ยกว่าจึงส่งมีดให้เขา เมื่อฮั่วเฟยหรงรับมีดมาฮั่วเฟยหรงก็ใช้มันฟันกิ่งไม้ที่ระเกะระกะพร้อมกับมองหาอาหารหรือผักป่าที่กินได้ เดินมาเกือบครึ่งชั่วยามก็ถึงบริเวณที่มีต้นไม้สูงสลับเตี้ย มีลูกหล่นอยู่บนพื้นลักษณะมีหนามแหลมหล่นอยู่ใต้ต้นและบนต้นอีกมากมาย มันคือต้นเกาลัดแม้ว่าล่วงหน้าจะรู้ว่าตรงนี้มีอะไร แต่ซ่งจื่อหรูก็เหนื่อยพอประมาณตอนที่สำรวจนั้นเป็นเพียงร่างวิญญาณ แต่พอตอนนี้ต้องเดินเท้าเข้ามากลับรู้สึกเหนื่อยยิ่งนัก ที่บ้านไม่มีข้าวสาร แต่เกาลัดสามารถต้มเป็นโจ๊กได้ ดูเหมือนพายุฤดูร้อนน่าจะอยู่อีกสองสามวัน หาเจอเห็ดให้มากหน่อยตากแห้งเอาไว้คงพอมีอาหารให้กิน ข้างบ้านมีลำธาร ปลามีไม่น้อยคนยุคนี้ไม่นิยมกินปลาเพราะมีกลิ่นคาว แต่นางกินได้แถมยังสามารถทำให้อร่อยด้วย"ท่านพี่ฮั่ว เรามาเก็บเกาลัดกันเถอะ""หนามแหลมเพียงนี้เจ้าจะเ
ทั้งสองคนเดินมาถึงกลางทางระหว่างท้ายหมู่บ้านก็เจอกับอาหญิงของนางหลี่อ้ายเสิ่นและบุตรสสวของลุงใหญ่หลี่ม่านอวี้ ทันทีที่เห็นซ่งจื่อหรู หลี่อ้ายเสิ่นก็เปิดปากด่าทอ แต่ละคำล้วนไม่น่าฟัง"นังเด็กเหลือขอไหนว่าใกล้ตายแล้วไง ทำไมยังออกมาลอยหน้าข้างนอกได้อีก"หลี่อ้ายเสิ่นเปิดปากก็ด่าทอซ่งจื่อหรู"น้องสี่ เจอกับท่านอาเล็กเจอกับข้าเหตุใดเจ้าจึงไม่ทำความเคารพ อีกทั้งยังเมินเฉย" หลี่ม่านอวี้ที่คอยเป็นลูกไล่ของหลี่อ้านเสิ่นต่อว่าซ่งจื่อหรูเช่นกันสองดรุณีน้องแต่งกายด้วยกระโปรงผ้าฝ้ายลายดอกสีชมพูคือหลี่อ้ายเสิ่น ส่วนชุดกระโปรงสีฟ้าคือหลี่ม่านอวี้ บนศรีษะปักด้วยดอกไม้เข้ากันกับชุด แม้ว่าหน้าตาไม่ถือว่าโดดเด่นแต่สำหรับหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นไม้งามซ่งจื่อหรูคร้านจะสนใจคนทั้งสองจึงเดินผ่านหน้าไป หลี่อ้ายเสิ่นเห็นคนที่เดินตามหลังซ่งจื่อหรู ก็ทนไม่ได้เห็นแล้วก็แทบจะเข้าไปฉีกอกซ่งจื่อหรูให้ขาดเป็นชิ้นๆ ฮั่วเฟยหรงนั้นเป็นหนุ่มรูปงาม สตรีในหมู่บ้านใครบ้างเห็นแล้วจะไม่หวั่นไหว บางคนถึงกับละเมอใฝ่ฝันหนึ่งในนั้นก็มีหลี่อ้ายเสิ่นอยู่ด้วย หลี่อ้ายเสิ่นอายุสิบสามอีกไม่กี่วันก็จะอายุสิบสี่ปีสามรถพูดคุ
ฮั่วเฟยหรงมองหญิงชราอย่างรังเกียจ แต่ในที่สุดก็เอ่ยปาก"แม่เฒ่าข้าถามสักคำ ท่านมีเหตุผลใดจะให้เด็กคนนี้กตัญญูต่อท่าน?"น้ำเสียงที่ถามคำถามของฮั่วเฟยหรงนั้นทำเอายายแก่ถึงกับใจคอไม่ดี แต่ต้องเสแสร้งว่าไม่กลัว"หึ..มันเป็นหลานข้า ข้าเป็นย่ามันต้องมีเหตุผลอันใด""เหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้น"ฮัวเฟยหรงเอ่ยขัด"ท่านพี่เฟยหรง...ท่านแม่ข้าแก่แล้ว คนในหมู่บ้านล้วนแต่ต้องกตัญญู ฮ่องเต้พระองค์นี้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ยิ่งนักนะเจ้าคะ"หลี่อ้ายเสิ่นกล่าวเสียงหวาน นางมั่นใจว่าเขาต้องคล้อยตาม ความกตัญญูของฮ่องเต้เป็นที่ประจักษ์ และระบุเป็นกฎหมายต้าเย่ว นางกำลังโอ้อวดว่าตนมีความรู้ และคิดว่าเขาต้องพอใจในตัวนาง แต่ฮั่วเฟยหรงกลับไม่ใส่ใจและเมินเฉย"แม่เฒ่าข้าขอถามท่าน ท่านบอกว่าจะให้เด็กคนนีกตัญญูต่อท่านในฐานะผู้อาวุโส แต่คำนึงนางก็คนนอก อีกคำนางก็คนอื่น ท่านบอกว่าตนเองแซ่หลี่ส่วนนางแซ่ซ่ง ในเมื่อไม่ใช่คนในครอบครัวท่านแล้วจะให้นางกตัญญูด้วยเหตุผลเหล่านี้ข้าคิดว่าคงไม่ได้ ที่ข้ากล่าวมาถูกหรือไม่ขอรับท่านปู่ฝูเหยา"หลี่ฝูเหยากระแทกไม้เท้าตึงๆสามหน หญิงชราน่ารังเกียจช่างหน้าด้านยิ่งนัก"นังเฒ่า ข้าเห็นแก่เจ้าที่เ
ทั้งคู่เดินมาจนถึงกระท่อมของซ่งจื่อหรูเขาจึงวางตระกร้าลงและช่วยนางยกไปไว้ในลานบ้าน จากนั้นก็ส่งไก่ฟ้าให้สองตัว"พี่หรง หมายความว่าอย่างไรกันไก่สองตัวท่านเป็นคนล่าได้ ข้าล่ามาได้เพียงตัวเดียวเท่านั่นเอง"ซ่งจื่อหรูตกใจที่เขาไม่เอาแต่ให้นาง"อืม..ข้าให้เจ้าตัวนึง ถ้าหมดข้าสามารถไปล่าใหม่ได้อย่างกังวลเลย""พี่หรง ท่านว่าไก่ฟ้านี่แลกเป็นเงินได้หรือไม่เจ้าคะ" นางอยากได้ที่สุดตอนนี้คือเงิน"ปกติราคาจะอยู่ที่ชั่งละ30อีแปะ หากขนสวยจะได้ถึง40อีแปะไก่พวกนี้น่าจะหนักประมาณตัวละ5ชั่ง ทำไมเจ้าอยากขายรึ""ขอบอกตามตรง บ้านข้าไม่มีอะไรสักอย่าง อย่าถามหาข้าวสารสักกำหรือแป้งสาลีสักครึ่งถุงเลยเจ้าค่ะ""ปกติข้าไปแลกที่บ้านท่านผู้นำน่ะ ถึงจะราคาถูกสักหน่อยแต่แค่ไก่ฟ้าสองตัวเดินทางเข้าตัวตำบลคงไม่คุ้ม""พี่หรง ท่านช่วยไปแลกให้ข้าสักหน่อยได้ไหมเจ้าคะ"สายตาออดอ้อนนั้นช่างชวนให้คนตกอยู่ในภวังค์เสียจริงๆ เทียบกับสายตาเชิญชวนของเหล่าสตรีอื่นๆ ที่ส่งให้เขาๆ กับชอบสายตาสดใสคู่นี้ตรงหน้ามากกว่า""ได้ ว่าแต่แล้วเจ้าต้องการอะไรบ้าง""ข้าขอข้าวสาร เกลือ น้ำมัน ก็พอเจ้าค่ะ ข้าก็ไม่รู้ว่าจะได้สักเท่าไหร่ ข้าเจอหม้อกับก
ฮั่วหย่ง1580 คำหลังจากกลับมาถึงบ้านซ่งจื่อหรูก็ให้เด็กไปช่วยกันเก็บกวาดบริเวณบ้าน ตนเองนำมันเทศไปล้าง แกะเอาเมล็ดเกาลัดออก คว้าเลื่อยไปตัดต้นไผ่มาหนึ่งต้น เลื่อยต้นไผ่ออกเป็นท่อนละประมาณ8ชุ่น ล้างจนสะอาด ก่อไฟโดยใช้หินสามก้อนวางแทนเตา นำหม้อออกมาสองใบ จากนั้นนำหม้อใส่น้ำตั้งไฟ นำข้าวสารมาล้าง หั่นมันเทศเป็นสี่เหลี่ยม ผ่าครึ่งเกาลัด นำสามอย่างมารวมกันโรยเกลือเล็กน้อย คลุกเบาๆเหยาะน้ำมันเล็กน้อย จึงนำมากรอกใส่ท่อนไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ นำใบบัวมาปิดปากกระบอก แล้วเรียงตั้งในหม้อคอยเติมน้ำ สักพักก็ได้กลิ่นหอมของข้าว ปลายังเหลือ1ตัวเอาออกมากจากโอ่งแตก ทำความสะอาดขอดเกล็ดควักใส้ เคล้าเกลือแล้วนำมาย่าง"พี่ใหญ่...หอมจังเลยเจ้าค่ะ"ซ่งจื่อเย่วทำจมูกฟุดฟิด"พี่ใหญ่ มีข้าวด้วยหรือขอรับ"ส่งจื่อห่างท้องร้องเขาไม่ได้กินข้ามานานแล้ว"ได้ๆเจ้าแมวจอมหิวโหยสองคน วันนี้เจ้าจะได้กินปลากับข้าวสวยร้อนๆ""พี่ใหญ่เก่งจังเลยเจ้าค่ะ พวกเรามีข้าวกินแล้วไม่ต้องกินแต่น้ำในลำธารอีกแล้ว""เด็กดี ต่อไปต้องขยันห้ามเกียจคร้าน คนขยันจึงไม่อดตาย จื่อเย่วกับจื่อห่าวเป็นเด็กดีพี่ใหญ่จะให้ได้กินข้าวขาวทุกวันดีหรือไม่""ดีเจ้า
ซ่งจื่อหรูไม่รู้เลยว่าตอนนี้นางกลายเป็นคนสำคัญที่ฮั่วเฟยหรูต้องการปกป้องไปแล้ว สามพี่น้องนั่งกินข้าวกันอย่างอร่อยสักพักร่างเล็กๆที่คุ้นตาก็เดินเข้ารั้วมา"น้องห้าเจ้ามาแล้วหรือพี่คิดว่าวันนี้เจ้าจะมาได้เสียอีก เอะนั่นพี่รองก็มาได้ด้วยดีจริงๆ"หลี่ถิงถิงจุงมือหลี่หานเดินเข้ามา นางยิ้มตาหยีจนเห็นหันครบทุกซี่ก่อนจะนั่งลงข้างๆซ่งจื่อเย่ว หลี่หานนั่งใกล้กันกับซ่งจื่อห่าว"พี่รอง..ท่านเจ็บตรงไหนบ้าง ขออภัยจริงๆวันหลังหากมีเรื่องท่านก็อย่าขวางท่านย่าเลย นางทำอะไรข้าไม่ได้หรอกกลับกันท่านจะถูกนางตีเสียเอง"ซ่งจื่อหรูรู้สึกสงสารพี่ชายลูกพี่ลูกน้องคนนี้ เขามักปกป้องพวกนางสามพี่น้องและทุกครั้งที่พยายามปกป้องพวกนางพี่รองมักจะถูกตบตีเสมอ"ข้าไม่เป็นไรมากหรอก เจ้าสองคนเสียอีกน้องสี่น้องห้าต่อไปก็พยายามอย่ามีเรื่องกับท่านย่านักเลย อยู่ให้ห่างนางสักหน่อยถูกตีจนเป็นรอยถึงเวลาออกเรือน จะหาบุรุษที่ดีมาแต่งงานได้อย่างไร""เหอะ..ข้าต้องหาบุรุษเช่นท่านพ่อข้าขยันขันแข็งถึงแม้จะกตัญญูจนซื่อบื้อเกินไปหน่อยแต่ก็รักท่านแม่ข้าและข้ายิ่งนัก" หลี่ถิงถิงหมายมั่นหลี่หานกับซ่งจื่อหรูหัวเราะกับคำพูดของหลี่ถิงถิง นี่ถ้า
เมืองกว่าผิงจุดประทัดฉลองที่พระชายาคลอดบุตรจัดงานเลี้ยงถึงสามวันสามคืนกินดื่มไม่อั้น จากเมืองที่ไม่มีใครใส่ใจตอนนี้เพราะพระชายากมาเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในแคว้น ซ่งจื่อหรูออกเดือนมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วนางอยู่้ดือนถึงสองเดือนครึ่งเชียวตอนนี้กำลังให้นมคู่แฝดอยู่ ในห้องนางมีมิติที่สามารถทำให้น้ำนมตนเองพอเลี้ยงลูกโดยไม่ต้องพึ่งพาแม่นมจินเสี่ยวฮวาประคองท้องเดินมาหา ท่านอากับท่านลุงนี่วันๆไม่ทำงานทำการหรือเมียท้องลูกคนที่สี่แล้วนะ"พระชายา ตำหนักองค์ชายส่งข่าวมาพระยาหลี่กำลังจะคลอด ท่านจะไปหรือไม่""ข้าอยากไปแต่ว่ากลัวท่านอ๋องดุเอา เลยส่งจื่อเย่วให้ไปแทนแล้ว อาสะใภ้จะคลอดเมื่อใดนี่เจ้าคะ""อีกสี่เดือน ข้าพูดกับเจ้าแบบเปิดอกเลยนะหลานสี่ไม่พิธีรีตรอง เจ้าว่าพวกบุรุษนี่เหตุใดถึงหมกมุ่นกันนัก ข้านี่แทบจะไม่ได้หลับได้นอนสักคืน ขนาดท้องแล้วท่านพี่ยังสรรหาท่าทางอะไรมาก็ไม่รู้""คิกๆๆ อาสะใภ้ธรรมดาผัวเมียแหละเจ้าคะ เดี๋ยวอีกสามเดือนท่านปู่กลับมาแล้วข้าจะจัดงานฉลอง พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สามก็จะมาเช่นกันเจ้าค่ะ"อืมข้าไปล่ะ ไปฟังก่อนว่านางได้บุตรชายหรือบุตรสาว"เจ้าแฝดหลับไปแล้วซ่งจื่อหรูเ
ซ่งจื่อหรูเดินไม่ไหวแล้ว นางใกล้คลอดเต็มที ตอนนี้องค์ชายห้าผู้น่าสงสารกำลังนั่งอยู่มีหลี่ถิงถิงกอดเขาไว้แน่นก่อนหน้านางแพ้ท้องอาการคือเหม็นขี้หน้าเขา แต่พอเขาไม่อยู่ก็ร้องไห้หามาตอนนี้แพ้ท้องอีกแบบต้องเห็นเขาตลอดเวลา นั่งกอดแขนเขาแน่นดมแต่กลิ่นกายเขา หากไม่อยู่ต้องถอดเสื้อตัวที่เคยใส่ทิ้งไว้ให้ไม่งั้นเอาแต่งอแง เฮ้อ ไอ้ลูกคนนี้คลอดมาเมื่อไหร่จะส่งไปให้เสด็จแม่เลี้ยง ขนาดยังไม่คลอดยังทำเขาปวดหัวขนาดนี้เลย"อาหรู ไม่ถึงเดือนก็คลอดแล้ว เราจะได้เห็นหน้าผลงานของข้ากับเจ้าสักที อุตส่าห์อดหลับอดนอน บางวันก็เลยมื้อข้าวมาขยันปั้นพวกเขาเนี่ย""ท่านอ๋อง ตรัสอะไรของพระองค์ ไม่ทรงเห็นหรือเพคะว่ามีคนอื่น"จ้าวเฟยหรงไม่วนใจกระชับอ้อกอดที่ตอนนี้ท้องนางใหญ่มากแล้วแต่เขาก็โอบมันจนได้"เสด็จพี่ข้าคิดว่า จะส่งเจ้าตัวยุ่งนี่ไปให้เสด็จแม่เลี้ยง งอแงเหลือทนตั้งแต่ยังไม่คลอดเลย"จ้าเทียนหยางลูบท้องหลี่ถิงถิงแล้วแสร้งบ่นเจ้าตัวเล็ก ปรากฏว่าเขาถูกถีบเบาๆจนทุกคนหัวเราะตำหนักเหลียนฮวาที่ตอนนี้กำลังวุ่นวาย ซ่งจื่อหรูเจ็บท้องมากว่าหนึ่งชั่วยามแล้วยังไม่คลอด จ้าวเฟยหรงก็จะเข้าไปหาเมียที่นอนร้องท่าเดียว จนเซียวอว
หลี่ถิงถิงครรภ์ใหญ่แล้วนางตั้งครรภ์ได้หกเดือนส่วนซ่งจื่อหรูอีกไม่กี่วันก็คลอดแล้ว ซ่งจื่อหรูกำลังคำนวณค่าแรงคนงานหลี่ซ่งเต๋อนำตั๋วเงินมาให้หลานสาวกำลังกลับบ้าน เห็นจินเสี่ยวฮวาพูดคุยอยู่กับชาวตะวันตกที่มาแลกเปลี่ยนสินค้า โดยมีล่ามที่ซ่งจื่อหรูสอนคอยแปลให้หากว่าไอ้ฝรั่งผมทองไม่เอ่ยชมว่านางสวยเป็นสตรีที่งดงาม และถามว่านางมีคู่ครองหรือยัง คงไม่ทำให้ประมุขหอโกรธจนอุ้มเมียมาลงโทษอยู่จนตอนนี้ยังไม่เลิกหรอก"อร๊ายท่านอา เบาหน่อย ข้าจะไม่ไหวแล้วนะอร๊าย โอ๊ยท่านโกรธอะไรมา ข้าเสียวจะตายแล้วอื้อ" จินเสี่ยวฮวาประท้วง"ไอ้หัวทองผิวเผือกนั่นเกี้ยวเมียข้าไม่โมโหได้หรือ เสี่ยวฮวาจ๋าคนดีตั้งแต่เจ้าคลอดลูกมายิ่งสวยวันสวยคืนดูสิ ตรงนี้ก็อวบอิ่ม ตรงนี้ก็เต็มมือแน่นไปหมดหืม อ่าห์รักเจ้าจริงๆเมียจ๋า"ตอนนี้เขาขึ้นเป็นประมุขหอเหลียนฮวาแทนท่านอารองหลี่ไหลฝูแล้ว หลานสาวเขาสร้างเรือสำราญอะไรสักอย่างให้ล่องไปเรื่อยๆ ท่านอาวางมือจากยุทธภพออกท่องเที่ยวกับท่านพ่อจะกลับในอีกหกเดือน หลี่ไค่ซุนกำลังถูกฝึกให้พร้อมอนาคตหลี่ไค่ซุนนั่งมองสตรีที่กำลังวาดภาพอยู่ตรงหน้า เขาลุกไปหยิบพู่กันออกก่อนจะช้อนนางขึ้นแล้ววางบนเตีย
ตั้งแต่วันที่หลี่ถิงถิงยอมตามใจเขาจากนั้นจ้าวเทียนหยางก็อยู่แต่ในห้องไม่ยอมปล่อยคนรักออกมา จนมีเรื่องให้ต้องไปทำก็อิดออดจนถูกหลี่ถิงถิงต้องดุจริงจัง จะถึงวันแต่งงานแล้วอีกครึ่งเดือนหลี่ถิงถิงอยู่ๆก็เกิดเกลียดขี้หน้าคนตัวโตขึ้นมาดื้อๆ"อย่ามาใกล้หม่อมฉันนะเพคะ หม่อมฉันเหม็นขี้หน้าพระองค์""คนดี ข้าทำอะไรผิดกันถิงถิงคนงามอย่าทำแบบนี้สิ มีอะไรบอกมาเถอะ""ไม่มี ไม่รู้อยู่ๆหม่อมฉันก็ไม่อยากอยู่พระองค์ เหม็นขี้หน้าจะตายอยู่แล้วฮือๆๆๆ องค์ชายหม่อมฉันรักองค์ชายนะเพคะแต่อย่ามาใกล้ได้ไหมฮือๆๆ"จ้าวเทียนหยางอ่อนใจ เมียอยู่ๆก็เกลียดขี้หน้าเขาไม่มีสาเหตุวันนี้ทุกคนมากินข้าวร่วมกันที่ตำหนักเหลียนฮวา อาหารมากมายถูกยกขึ้นโต๊ะแต่ซ่งจื่อหรูกับหลี่ถิงถิงเกิดไม่อยากกิน พอเห็นหน้าจ้าวเทียนหยางยิ่งเกิดอยากอาเจียนจนต้องอุ้มกลับห้อง"น้องห้าเป็นอะไรไป อาจารย์รบกวนท่านตรวจนางสักหน่อยเถอะ "ซ่งจื่อหรูให้ไห่มิ่งหยวนไปดูหลี่ถิงถิงที่ตอนนี้เอาแต่ร้องไห้ นางบอกรักจ้าวเทียนหยางแต่ไม่อยากเจอหน้าเขาตกลงนี่มันอะไร เสียงร้องไห้หาคนรักสักพักก็อาเจียนไล่เขาออกมากซ่งจื่อหรูจะลุกไปดูน้องสาวก็หน้ามืดจนจ้าวเฟยหรงต้องมาประค
หลี่อาไช่พาจ้าวเฟยเซียนหัดขี่ม้า ไม่นานนางก็เริ่มขี่คล่องขึ้น พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้วแสงสีแดงงดงามกระทบใบหน้านวล หลี่อาไช่กระชบอ้อมแขนคนตรงหน้า ค่อยๆควบม้าๆช้าๆพาคนรักเขากลับบ้าน"เซียนเซียน ขอพี่หอมสักทีได้ไหม เจ้าน่ารักจนพี่อดใจไม่ไหวนะ""แค่ครั้งเดียวนะ เดี๋ยวเสด็จพ่อกับเสด็จพี่รู้เข้าเอาท่านตายแน่"หลี่อาไช่ก้อมลงหอมแก้มนางจากนั้นก็กดคางลงบนศรีษะจ้าวเฟยเซียนพามาส่งที่ตำหลักก่อนเข้าประตูยังแอบหอมนางอีกสองครั้ง อุ้มนางลงจากหลังม้าแต่ไม่ยอมให้เท้าถึงพื้น เขาอุ้มพาจ้าวเฟยเซียนมาส่งถึงตำหนักใน จ้าวเฟยหรงคิ้วกระตุก ไอ้เด็กนี่มันเกินไปไหมน้องสาวข้าสิบสองเองนะ"หม่อมฉันทูลลานะพะย่ะค่ะ พอดียังไม่ได้ไปคาราวะท่านแม่เลย พี่สี่ข้าไปก่อนนะขอรับ"หลี่อาไช่ไปแล้วแต่มีคนหน้าตึงอยู่ตรงนี้จนซ่งจื่อหรูหัวเราะเขา"คิกๆ ท่านอ๋องทีนี้เขาใจหัวอกท่านปู่กับท่านอาหม่อมฉันหรือยังเพคะ ทรงหวงน้องสาวเป็นด้วยหรือ อื้อ"จ้าวเฟยหรงไม่ปล่อยให้เมียสาวล้อเลียน เขาช้อนอุ้มพานางเข้าห้องลงโทษที่หัวเราะเยาะ"อื้อ ท่านอ๋องหม่อมฉันไม่ไหวแล้ว อร๊าย นับวันยิ่งโลดโผนนะเพคะ อึ๊ยสะ เสียว ท่านอ๋อง""บอกแล้วไงจะสอนให้ ตั้งใจเรียนนะเ
อาชาสีดำทะมึนน่าเกรงขามกำลังควบมาทางหน้าหมู่บ้าน ด้านหลังมีอีกสองคนตามมาด้วย เมื่อมาถึงหน้าหมู่บ้านสกุลหลี่ก็ลงจากม้า ทหารคนสนิทรับสายจูงไป เด็กน้อยวัยสองขวบเดินเตาะแตะๆมาหากางแขนให้อุ้ม"เสี่ยวเว่ยเด็กดี ตัวสูงขึ้นแล้วมาให้พี่อุ้มหน่อย" อู๋กังเดินตามบุตรชายมาหลี่อาไช่เห็นเขาจึงทักทาย"ท่านพ่อ ท่านแม่อยู่ก็เดือนหรือขอรับ"อู๋กังพยักหน้า เขาแต่งงานกับไป๋ลู่มีบุตรชายหนึ่งคนและเพิ่งจะได้บุตรสาวอีกหนึ่งคน หลี่อาไช่ตอนนี้อายุสิบหกแล้วฝีมือเก่งกาจจนได้เป็นแม่ทัพตะวันออกควบคุมเจ็ดมณฑล"อาไช่ คนสกุลหวังเหล่านั้นฝีมืลูกหรือเปล่า หากจบได้ก็จบเถอะมารดาเจ้านางอยู่สงบสุขแล้ว"อู๋กังรักเขาเสมือนบุตรตนเอง ไม่อยากให้เขาเคียดแค้นเรื่องในอดีต จนทำลายอนาคต หลี่อาไช่ถอนหายใจ"เดิมทีก็ไม่อยากจะยุ่ง แต่ใครจะรู้ว่าสองผัวเมียนั้นเคยขายท่านแม่ของข้าไม่พอ ยังคิดจะขายน้องสาวคนเล็ก อาเล็กนางอายุเท่ากับข้า ท่านปู่ท่านย่าจากไปลุงใหญ่เปรียบเหมือนบิดา จัดการทุกอย่างให้แต่งงานไปก็ยังดีแต่นี่จะให้ไปเป็นอนุเศรษฐี ข้าไม่สั่งสอนคงไม่ได้ขอรับท่านพ่อ""แล้วทำเช่นไร อย่าให้มารดาเจ้ารู้เล่า""ข้าส่งบ้านใหญ่ไปชายแดนเนรเทศทั้ง
ซ่งจื่อหรูไม่มีความลับกับจ้าวเฟยหรงอีกต่อไป นางพาเขาเข้ามาในมิติครั้งแรกนางลองดูหลังจากที่รู้ว่าเข้ามาได้ที่นี่ก็เป็นสวรรค์ของคนสองคนไม่มีความวุ่นวายมีเพียงสายลมแสงแดดอ่อนๆ สวนดอกไม้หลากสีสัน ในลำธารร่างเปลือยของซ่งจื่อหรูกำลังแหวกว่าย จ้าวเฟยหรงนั่งมองอย่างหลงไหล ก่อนจะเดินลงน้ำไปหาคนรัก จ้าวเฟยหรงจูมนางดูดดื่ม รั้งแผ่นหลังนางเข้าหาให้ทรวงอกลอยเด่นจากนั้นก็ก้มลงดูดเม้นจนซ่งจื่อหรูครางออกมาก่อนจะช้อนร่างงามเดินขึ้นฝั่งพาเข้าไปในบ้านวางลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม ซ่งจื่อหรูยังสงสัยจากเตียงโบราณอันเดิมอยู่ๆ กลายเป็นเตียงติดสปิงได้ไง เพิ่งเข้าใจก็วันนี้แหละเฮ้อ ริมฝีปากครอบครองทรวงอกอวบอิ่มราวกับเด็กน้อยดื่มน้ำนมจากอกมารดา ซ่งจื่อหรูเต็มสิบแปดมาครึ่งกว่าปีแล้ว จ้าวเฟยหรงอยากรักนางเต็มทีผ่านช่วงอันตรายมาแล้ว เขาแข็งขึงจะระเบิดอยู่แล้ว ปากน้อยๆกับมือน้อยๆนั้นดับอารมณ์เขาไม่อิ่ม"ท่านอ๋อง เบาๆสิเพคะอดอยากหรืออย่างไรไม่ใช่ว่าให้ท่านทุกคืนหรือ""เมียจ๋า เข้าหอกันนะข้าทนไม่ไหวแล้ว นับวันเจ้ายิ่งงามนักคนดี นี่เลยเวลามาแล้วรู้ไหมฉู่ซีฮวนเด็กคนนั้นลูกชายเพิ่งได้สามเดือนหลี่ซินซินก็ตั้งครรภ์คนที่สองแ
จ้าวเฟยหรงอุ้มพระชายาคนงามกลับไปแล้วไห่เมิ่งหยวนบอกว่าถูกแทงเกือบเข้าจุดสำคัญห่างไปเพียงครึ่งชุ่น หากร่วมหอแล้วตั้งครรภ์อาจเป็นอันตรายทั้งแม่และลูก รออีกสักหนึ่งปีให้นางหายดีกว่านี้ก่อน หนิงอ๋องจึงทำได้แค่เพียงนอนกอดคนรักและหาเศษหาเรอแค่นั้น ซ่งจื่อหรูสงสารเขาแต่ต้องใจแข็งนางอยากให้ร่างกายสมบูรณ์ นางต้องการตั้งครรภ์คลอดบุตรให้เขาเท่าที่เขาอยากมี"เอ่อ ซินซินไปเดินเล่นเป็นเพื่อนข้าหน่อยสิ เจ้าว่างหรือไม่"ฉู่ซีฮวนเอ่ยถามสาวน้อยตรงหน้า เขาบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่นี่มาสามเดือนกว่าแล้ว สาวน้อยคนนี้คือคนที่คอยดูแลเขา นางมีดวงตากลมโต ใบหน้าหวานปากจิ้มลิ้มรับกับจมูกที่รั้นนิดๆ บางครั้งเอาแต่ใจแง่งอนกับท่านปู่ของนาง มิน่าคนราชวงศ์ต้าเหลียงถึงมารวมกันอยู่ที่นี่ หมู่บ้านนี้ล้วนแซ่หลี่มองไปทางไหนหาคนขี้เหร่ไม่เจอจริงๆ รวมถึงแม่สาวน้อยตรงหน้าคนนี้ด้วย"พี่ซีฮวนจะไปไหนหรือเจ้าคะ ข้าว่างพอดีท่านหายแล้วควรออกมาเดินบ้างก็ดี"หลี่ซินซินมองหน้าเขา ยังมีองครักษ์ยืนอยู่ฉู่ซีฮวนจึงจุงมืนางพาออกมา"เจ้ากลัวไหม บนเขาชิงลั่วมีดงดอกไม้อยู่ข้าอยากไปนั่งเล่นที่นั่น"ฉู่ซีฮวนเอ่ยขึ้น หลี่ซินซินส่ายหน้าเขาจึงโอบเอว
ยามอวิ๋นเปลือกตาของซ่งจื่อหรูค่อยๆขยับ ขนตาที่งามงอนคู่นั้นกระพริบช้าๆ ซ่งจื่อหรูลืมตาขึ้นก็เห็นว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงในตำหนักเหลียนฮวา รู้สึกถึงอะไรบางอย่างพาดอยู่ที่หน้าท้อง นาวหันไปดูก็เห็นเป็นจ้าเฟยหรงนอนกอดนางอยู่เขาและนางสวมชุดแต่งงานซ่งจื่อหรูพยายามนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา นางจำไว้ว่าอวิ่นเย่วและอวิ่นห่าวพานางมาส่ง วันนี้เป็นวันแต่งงานของนางและเขา เพียงเพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้แม้ต้องแต่งกับร่างไร้วิญญาณเขาก็ไม่หวั่น ซ่งจื่อหรูพลิกตัวเข้าหาอกกว้างก่อนใช้มือค่อยไปลูบไล้ใบหน้างามนั้น"ท่านพี่ ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน ท่านพี่ของข้าฮือๆๆ"จ้าวเฟยหรงรู้สึกตัวลืมตา คนตรงหน้าฟื้นแล้วนางกำลังร้องไห้แขนเรียวกอดเอวหนาของเขาเอาไว้แน่น นางบอกรักเขานางคิดถึงเขา"น้องหญิง เจ้ากลับมาแล้วเด็กดีของข้า ในที่สุดเจ้าก็กลับมาสักที"จ้าวเฟยหรงร้องไห้นับจากวันที่นางหลับไหลไม่มีวันใดที่น้ำตาลูกผู้ชายของเขาไม่หลั่งริน แต่วันนี้เขาร้องไห้เพราะในที่สุดนางก็กลับมาสักที จ้าวเฟยหรงกดร่างนุ่มนิ่มเอาไว้จุมพิตนางดูดดื่ม จนคนตัวเล็กต้องประท้วง"อื้อๆๆๆท่านพี่ข้าหายใจไม่ออกท่านกอดแน่นเกินไปแล้ว ""ทูลหัว คนดีของข้า ข