สกุลหลี่แม่เฒ่าหลี่ตื่นขึ้นมาไม่เห็นอาหารวางตรงหน้าก็ด่ากราด"สายป่านนี้ยังไม่ตื่นมาทำอาหารอีก นางหวง นางหวังพวกเจ้าไปตายที่ไหนกันหมดเสียงแม่เฒ่าหลี่นั้นเทียบกับเสียงนาฬิกาปลุกประจำหมู่บ้านได้ดีที่เดียว ใคนอยากนอนต่อก็คงนอนไม่ได้"เฮ้อ นี่ตาเฒ่าพี่สะใภ้รองไม่อยู่หมู่บ้านเราสงบเงียบ พอนางกลับมาวุ่นวายไม่รู้จบเสียจริง"ช่างนางเถอะ เถียงนางไปก็เสียเปรียบนางเปล่าๆ""ข้าจะบ้าตาย เมื่อคืนนางก็ร้องไห้คร่ำครวญข้ายังนึกว่าเจ้าสี่บ้านนางตายแล้วเสียอีก"ปู่ห้าไม่อยากให้คนในบ้านยุ่งเกี่ยวกับนาง การกระทำของหลี่ต้าเหวินเป็นสิ่งที่ผู้อาวุโสล้วนรับไม่ได้ แม่เฒ่าหลี่โหวกเหวกอยู่นาน ในที่สุดหวงซื่อก็ลุกขึ้นมา หลี่ถิงถิงจับมือนางแล้วส่ายหน้า"ท่านแม่ ท่านนอนต่ออีกหน่อยเถอะ ไม่มีผู้ใดทำเดี๋ยวนางก็ทำเองนั่นแหละเจ้าค่ะ"หลี่ถิงถิงเชื่อฟังพี่สี่ อย่าปล่อยให้ท่านแม่ทำงานหนักเกินไป"แต่ว่าย่าเจ้า..."หวงซื่อกังวล"แม่ของลูก เข้านอนต่อสักนิดเถอะ พวกเราขุดมันเทศกันมาเหนื่อยแทบขาดใจ เดี๋ยวสักพักค่อยลุกก็ได้ ทางด้านท่านแม่เดี๋ยวข้าจะไปพูดกับนางเอง"หลี่ต้าจูบอกแก่ภรรยา ขณะที่แม่เฒ่าหลี่เดินมากระชากประตูด่าทอ"เจ้า
ในทัณฑสถานแห่งนึงมีบุรุษแต่งกายด้วยชุดนักโทษนั่งอยู่ด้านใน ด้านนอกมีชายหนุ่มแต่งกายด้วยชุดสูทราคาแพง สวมแว่นตาสีดำแบรนด์ดัง เขายกหูโทรศัพท์เพื่อเจรจากับคนด้านใน"ทำไม แกเอาฉันเข้าคุกแล้วนึกใจดีมาเยี่ยมงั้นเหรอ ซ่งอวิ่นห่าว เรื่องไม่ได้ง่ายอย่าแกคิดหรอก แกนึกว่าพี่สาวแกตายแล้วทุกอย่างจะจบเหรอ นี่มันเพิ่งเริ่มต้น"ซ่งอู่เยาะเย้ยซ่งอวิ่นห่าว อย่าคิดว่าเขาอยู่ในนี้แล้วทุกอย่างจะจบคนพวกนั้นเลวร้ายกว่าที่คิด"ผมยังมีโอกาสที่จะจัดการเรื่องราวต่าง แต่ดูเหมือนว่าคุณอามากกว่าที่ไม่มีโอกาสนั้น"ซ่งอวิ่นห่าวยกยิ้มมุมปากหลังจากเอ่ยจบ ซ่งอู่หัวเราะเย้ยเขา"งั้นแกมาที่นี่ทำไม มาเยาะเย้ยฉันที่เห็นฉันเป็นแบบนี้เพราะฝีมือแกงั้นสิ ฮ่าๆๆแกมันก็แค่เด็กเมื่อวานซืน ถ้าไม่มีพี่สาวแกสักคนแกมันก็แค่ขยะชิ้นนึง""เจ้าหนี้ที่บ่อนกำลังตามหาลูกกับเมียอาอยู่ ผมเป็นคนซ่อนพวกเขาไว้เอง อาอยากให้ใครเป็นคนเจอพวกเขาคนแรกดี""แกคิดจะทำอะไร ไอ้สารเลวเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเขา มีอะไรแกก็มาทำกับฉันสิวะ""ผมไม่รู้มาก่อนว่าอาเป็นคนรักครอบครัว อาติดหนี้พนันหลายสิบล้าน หากว่าอาเป็นคนรักครอบครัวจริงๆคงไม่ทำ"ซ่งอวิ่นห่าวเยาะเย้ยท
หมู่บ้านหลี่ซานเสียงเรียกอยู่หน้าประตู จิงอี้จึงเดินไปเปิด ทันทีที่ทุกคนเห็นก็ทำสีหน้าสงสัยเหตุใดคนผู้นี้จึงไม่คุ้นใบหน้าสักนิด"เอ่อ คือว่าข้าชื่อจิงอี้ นั่นพี่ชายข้าจิงเสวียนเป็นหลานท่านอาฮั่วนะ ท่านอาฝากให้ข้าดูแลอาสะใภ้ตอนที่เขาไปทำธุระขอรับ"จิงอี้อธิบายให้ทุกคนฟัง จากนั้นพวกเขาก็พยักหน้ารับรู้ก่อนจะพากันเดินเข้ามา ซ่งจื่อเย่วกับซ่งจื่อห่าวทักทาย"อรุณสวัสดิ์ลุงใหญ่ ลุงรอง ป้าสะใภ้ทั้งสอง พี่รอง พี่สาม พี่ห้า อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะขอรับ"ซ่งจื่อเย่วซ่งจื่อห่าวทักทาย"อรุณสวัสดิ์ลุงใหญ่ ลุงรอง ป้าใหญ่ ป้ารอง"ซ่งจื่อหรูทักทายผู้อาวุโสตรงหน้า"อรุณสวัสดิ์ลุงใหญ่ลุงรองนี่คงเป็นป้าสะใภ้ทั้งสอง ข้าฮั่วหรานส่วนนั้นบุตรสาวของข้านางชื่อฮั่วเฟยเซียน พอดีสามีข้าไม่อยู่เลยมาอาศัยอยู่บ้านอาหรูสักพัก"ฮั่วหรานแนะนำตัวพร้อมกับชี้ไปยังบุตรสาวที่ยืนอยู่ข้างๆสองพี่น้องบ้านซ่ง"สวัสดีน้องสะใภ้ฮั่วนี่ลูกๆของพวกเรา"หลี่ต้าโจวอ่ยทักทาย ส่วนหลี่ต้าจูเขาพอคุ้นเคยกับนางบ้างแล้ว เมื่อทักทายทำความรู้จักกันเรียบร้อย ก็นั่งลงกินมื้อเช้า"พี่สี่ ข้าหิวจนจะกินท่านได้อยู่แล้ว ""ถิงถิง อย่ากวนพี่สี่ของเจ้าสิ "หวงซ
หลังจากที่หลี่ต้าโจวและหลี่หานเดินทางไปแล้ว ซ่งจื่อหรูก็ลงมือทำงานต่อ เดิมทีจะให้เด็กๆงมหินแต่เกรงอันตรายจึงล้มเลิกความคิด จากนั้นก็ให้นำไหไปช่วยกันล้าง มีหลี่อาไช่คอยควบคุมความเรียบร้อยซ่งจื่อหรูแกะเปลือกหน่อไม้ออก ฮั่วหรานนั่งเย็บขอบฝ้าฝ่ายที่ซ่งจื่อหรูตัดเป็นชิ้นๆให้ สามคนพี่น้องช่วยกันปลอกเปลือก จิงอี้และจิงเสวียนแบกตระกร้าเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อขนเปลือกเกาลัดมาทำเชื้อฟืนชาวบ้านตกตะลึงมีหนุ่มรูปงามมาจากไหนกัน แม้ว่าไม่เทียบเท่าพ่อลูกสกุลฮั่วแต่ก็นี่ก็รูปงามไม่น้อย ทั้งสองคนทำตัวไม่ถูกที่ถูกเหล่าป้าๆจ้องมอง"เอ่อ ข้าน้อยจิงอี้นี่พี่ชายข้าจิงเสวียนสวัสดีทุกท่าน พวกเราเป็นหลานท่านอาฮั่วขอรับเพิ่งจะมาอยู่ได้เพียงครึ่งเดือน""อ้อๆๆ เป็นหลานพี่ฮั่วนี่เองข้าก็ว่าอยู่ บ้านเจ้านี่รูปงามทั้งบ้านจริงๆ สาวๆในหมู่บ้านกลางคืนจะละเมอกันไหมล่ะเนี่ย"ชาวบ้านคนนึงหยอกเย้า เมื่อทักทายกันเรียบร้อยก็ช่วยทั้งสองโกยเปลือกเกาลัดใส่ตระกร้า ทางด้านซ่งจื่อหรูติดไฟตั้งน้ำต้มหน่อไม้ เสียงหูเจียวเจียวตะโกนเรียกมาแต่ปากประตูรั้ว"อาหรู ข้ามาแล้ววันนี้หูจื่อขอมาเล่นกับจื่อห่าวด้วย"หูเจียวเจียวจุงมือน้องชายเดินเ
เกวียนวัวของหลี่ซ่งเหวินเดินทางมาถึงตัวตำบล ก็ตรงไปที่ร้านจินปู่เตี้ยนเพื่อรับชุดของทั้งสามคน หลี่ต้าโจวเองก็มีชุดใหม่เช่นกันหลี่หานเป็นคนซื้อให้เขา น้องสี่บอกแล้วว่าข้างนอกให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก จากนั้นก็ไปรับหลี่เหิงที่สำนักศึกษา ได้พบกับอาจารย์อู๋จี๋เจ้าของสำนัก"คาราวะท่านอาจารย์อู๋ ข้าน้อยหลี่ต้าโจวเป็นบิดาของหลี่เหิงขอรับ พวกเรามารับเขาไปเข้าสอบ""อืม...ข้ายังเสียดายหากปีนี้เขาไม่ลงสอบอีกก็ต้องถูกให้ออกจากที่นี่ แล้วสองคนข้างเจ้านั้นจะเดินทางไปสอบด้วยหรือ"อู๋จี๋มองไปยังหลี่หานและเอ้อหลาง"ขอรับคนนี้บุตรชายคนรองชื่อหลี่เหิง เด็กอีกคนเป็นบุตรชายของซิ่วไฉหมู่บ้านขอรับ""อ้อ บุตรชายของเจ้าไม่ได้มาเรียนด้วยกัน คุณชายหลี่น้องชายท่านหลี่ต้าเหวินก่อเรื่องไว้ไม่น้อย ว่าแต่เจ้าหนูเจ้ามั่นใจแค่ไหนกันในเมื่อไม่เคยมาเรียน"ประโยคหลังอาจารย์อู๋หันไปถามหลี่หาน"ตอบอาจารย์อู๋ ข้าน้อยเองก็มิมั่นใจเท่าใดนัก แต่น้องสาวข้าบอกว่าจงลงมือทำแม้ทำไม่ได้ก็ยังดีกว่ามานั่งเสียใจว่าไม่เคยได้ทำขอรับ ข้าอยากให้นางภูมิใจ แม้จะมีความหวังเพียงน้อยนิด""ฮ่าๆๆๆๆ คุณชายหลี่ท่านมีลูกที่ดียิ่งนัก น้องสาวเจ้า
ก๊อกๆๆๆ"ท่านเจ้าเมือง ด้านนอกมีคนมาพบใต้เท้าขอรับ"ทั้งสองมองหน้าก่อนจะหยุดบทสนทนาเซี่ยอวิ๋นจึวเอ่ยถามเจ้าหน้าที่ด้านนอก"เป็นผู้ใดได้บอกนามหรือไม่ มาด้วยเหตุอันใด""กุนซือเซี่ย ท่านผู้นั้นมิได้เอ่ยสิ่งใดเพียงแต่ให้ข้าน้อยนำสิ่งนี้มาให้ เขาบอกว่าจะรอพวกท่านที่สวนไผ่ทิศตะวันออกของเมืองขอรับ"เสี่ยอวิ่นเปิดประตูรับของสิ่งนั้นมาส่งให้เซี่ยหนานอิน พอเห็นของสิ่งนั้นเขาก็รีบร้อนออกไปทันที แต่ไม่วายกำชับให้คนรับใช้ส่วนตัวเก็บอาหารเหล่านั้นเอาไว้ห้ามทิ้ง ยังกินไม่อิ่มเลยถ้าไม่ใช่คนสำคัญเขาจะทิ้งมาได้อย่างไรเด็กคนนั้นหากเอามาเป็นแม่ครัวที่จวนคงได้ลาบปากทุกวันเพียงไม่นานรถม้ามาถึงสวนไผ่ก็พบบุรุษสี่คนยืนรออยู่ สองคนนั้นแต่กายคล้ายทหาร ส่วนอีกสองคนแม้ว่าเสื้อผ้าจะธรรมดาแต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้นน่าเกรงขาม เขาเดาได้ทันที"ข้าน้อยเซี่ยหนานอินเจ้าเมืองกว่างผิงถวายพระพรจ้าวอ๋องพะย่ะค่ะ คาราวะซื่อจื่อขอรับ"เซี่ยหนานอินคาราวะจ้าวเฟยหย่งกับจ้าวเฟยหรง"อืมใต้เท้าเซี่ย หรือจะให้ข้าเรียกท่านว่านายน้อยเฟิ่งดี"จ้าวเฟยหย่งเอ่ยปากทักทายเซี่ยหนานอิน"ท่านอ๋องล้อกระหม่อมเล่นแล้ว เหตุใดถึงเรียกเช่นนั้นเล่าพะย่
สองพ่อลูกออกจากป่าไผ่ตรงไปยังที่นัดพบกับคนของฮ่องเต้ จ้าวเฟยหย่งเห็นสีหน้าบุตรชายมีคำถามมากมาย ก็คิดว่าถึงแม้ต้องบอกความจริงสักที เมื่อขึ้นหลังม้าก็ควบออกจากเมือง มาถึงกลางทางจึงผ่อนแรงให้ม้าเดินเหยาะๆ จากนั้นก็เอ่ยปาก" หรงเอ๋อร์ ลูกสงสัยใช่ไหมว่าเหตุใดเสด็จลุงเจ้ากับพ่อจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของสกุลเฟิ่ง"จ้าวอ๋องถามบุตรชาย"พะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ แค่สุสานหลวงแห่งหนึ่งลูกมองเยี่ยงไรก็หาความสมเหตุสมผลมิเจอ สมบัตินั้นสามารถทำให้ทั้งสี่แคว้นยอมก่อสงคราม องค์ชายต่างๆยอมก่อกบฏเชียวหรือพะย่ะค่ะ หรือว่าเป็นภูเขาทองคำกัน""ลูกเคยได้ยินเรื่องกองทัพมังกรดำหรือไม่?""เคยได้ยินมาบ้างพะย่ะค่ะ ว่ากันว่าก่อตั้งโดยราชวงศ์ก่อนหน้าดูเหมือนจะเป็นฮ่องเต้พระองค์แรกของราชวงศ์หนาน หนานฉู่เยี่ยน ใช่หรือไม่พะย่ะค่ะ""ถูกต้อง หนานฉู่เยี่ยนก่อตั้งกองทัพมังกรดำ ว่ากันว่ามีอนุภาพมากนัก""หากเป็นเช่นนั้น เหตุใดราชวงศ์หนานจึงล่มสลายแตกเป็นสี่แคว้นล่ะพะย่ะค่ะเสด็จพ่อ ในเมื่อกองทัพเกรียงไกรเช่นนั้น""กองทัพมังกรดำถูกฝึกให้หลบซ่อนออกฆ่า รุกรับ เดินหน้าถอยทัพไม่มีใครเทียบ แต่พวกเขาเชื่อฟังเพียงป้ายคำสั่ง ไม่ใช่คนไม่ว่าผู้
วันนี้ซ่งจื่อหนูตื่นแต่เช้า สี่วันมานี้หมู่บ้านสงบเรียบร้อย ไม่ไดัยินเสียงแม่เฒ่าหลี่ด่าผู้ใด นางยังคงปรนนิบัติบุตรชายหลี่ต้าเหวินอยู่ในบ้าน หลังจากลุงใหญ่หลี่ต้าโจวเดินทางนางก็อาละวาดยกใหญ่ จนสะใภ้ใหญ่หวังซื่อลุกขึ้นมาอาละวาดบ้าง ไล่กวดตีนางไปทั่วหมู่บ้าน ชาวบ้านเห็นใจแม่เฒ่าหลี่แต่ก็พูดเพียงว่า"ป้าหลี่ นางเป็นเช่นนี้ก็เพราะบุตรชายท่านมิใช่หรือ วันหลังท่านก็อย่าโวยวายจนกระตุ้นความคลั่งของนางก็สิ้นเรื่อง""น่านสิเจ้าคะ ป้าหลี่โบราณว่าอย่าถือสาคนสติไม่ดี ท่านเป็นคนสติครบถ้วนเหตุใดไม่ยับยั้งตนเองด่ากราดไปทั่วจนอาการนางกำเริบ""พากเจ้าๆๆๆ แต่ละคนรวมหัวกันรังแกยายเฒ่าอย่างข้าฮือๆๆเจ้าข้าเอ๊ยใครก็ได้มาดูที"แม่เฒ่าหลี่นางลงไปทุบอกชกหัวร้องห่มร้องไห้ หวังซื่อได้ยินก็วิ่งมานั่งร้องไห้แข่งกับนางบ้าง จนหลี่ม่านอวี้กับหลี่ต้าจูต้องมาพานางกลับไป ปล่อยแม่เฒ่าหลี่อยู่กลางลานไร้คนสนใจ หลี่อ้ายเสิ่นอับอายจนไม่อยากออกจากบ้าน ตั้งแต่วันนั้นนางจึงเงียบมาตลอด ส่วนหลี่ต้าเหวินไม่แน่ใจว่าวางแผนอันใดอยู่เสียงตีฆ้องดังมาจากทางหน้าหมู่บ้าน เด็กๆวิ่งออกไปดูเนื่องจากยังเช้าอยู่ ชาวบ้านจึงยังคงอยู่ในบ้าน เมื่
หลี่เสี่ยวม่านไม่อยู่รอท่านยายตื่นนางเกรงใจไห่เมิ่งหยวน จึงพูดคุยกับป้าสะใภ้ใหญ่ไม่นานก็ขอตัวกลั บ ไห่เมิ่งหยวนพานางกลับแต่ขากลับมาถึงครึ่งทางเขาก็เลี้ยวไปอีกทาง มีเส้นทางเส้นเล็กๆแยกลงไป"ท่านพี่เมิ่งหยวนเราจะไปที่ใดเจ้าคะ" หลี่เสี่ยวม่านเห็นเขาไม่กลับทางเดิมจึงสงสัย" เด็กดีข้าอยากพาเจ้าไปดูอะไรสักหน่อย"ไม่นานทุ่งดอกไม้หลากหลายสีก็ปรากฎอยู่ตรงหน้า หลี่เสี่ยวม่านชอบมันมาก ไห่เมิ่งหยวนอุ้มนางลงจากหลังม้า หลี่เสี่ยวม่านวิ่งเล่นกลางทุ่ง นางอายุเพียงสิบแปดไม่ว่าอย่างไรก็ยังมีความเป็นเด็กสาวหลี่เสี่ยวม่านยืนกางแขนสูดอากาศตรงหน้า ไห่เมิ่งหยวนเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง เขาโอบเอวนางไว้รั้งแผ่นหลังนางเข้าหาตัว หลี่เสี่ยวม่านตกใจเล็กน้อย จนได้ยินเสียงลมหายใจข้างหู เขากระซิบชื่อนางเสียงหวาน" เสี่ยวม่าน ข้ารักเจ้าข้าอยากดูแลเจ้าชั่วชีวิต เจ้ารังเกียจข้าหรือไม่"หลี่เสี่ยวม่านหันกลับมามองหน้าเขา ก่อนจะถามให้แน่ใจ"ท่านพี่เมิ่งหยวน ท่านรักข้าจริงๆหรือ ข้าเป็นสตรีน่าเบื่อมากนะเจ้าคะ นอกจากปรนนิบัติท่านยาย หุงหาอาหารพอได้ ข้าก็ไม่มีความสามารถอะไรเลย"" ข้าต้องการสตรีอ่อนหวาน ยามข้าเหนื่อยมาแค่เห็นหน้
ร่างเล็กๆวิ่งไปแล้วไห่เมิ่งหยวนหลั่งน้ำตาเบาๆ ไว้อาลัยให้กับลูกรักของเขา แต่พอเอ่ยถึงหลี่เสี่ยวม่านไห่เมิ่งหยวนก็เงียบทันที เขาให้ศิษย์รักของเขาซ่งจื่อหรูช่วยเป็นแม่สื่อให้ นางรับปากจะช่วยแต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความจริงใจของเขาด้วยหลี่เสี่ยวม่านมารับยาบำรุงไปให้ท่านยายของนางทุกๆสามวัน เดิมทีเขาสามารถจัดยาบำรุงให้นางได้หลายเทียบแต่เช่นนั้นจะได้เห็นหน้านางในดวงใจบ่อยๆได้อย่างไรเล่า ซ่งจื่อเย่วเรียกอาหญิงเสียงหวานก่อนจะมีขนมเต็มปากวันนี้หลี่เสี่ยวม่านมารับยาแล้วจะเลยไปบ้านท่านยายเลย นางเห็นเขาจึงยิ้มให้รอยยิ้มที่ส่งมาให้เขานั้นช่างงดงามเสียจริง ไห่เมิ่งหยวนยอมรับแล้วว่าว่าเหตุใดเหล่าองค์ชาย องครักษ์ และคุณชายทั้งหลายรวมถึงตัวเขา จึงอยากมาเป็นเขยหมู่บ้านหลี่ซานกันทั้งนั้นไม่มีหมู่บ้านไหนจะรวมเอาบุตรหลานหน้าตาดีและงดงามไว้ได้เท่าที่นี่อีกแล้ว สายเลือดสกุลหลี่ตั้งแต่หลี่ฝูเหยามาจนถึงหลี่เป่าเป่า และบุตรของจิงอี้กับหลี่อ้ายเสิ่นนั้นรูปงามทุกคนสกุลหลี่หมู่บ้านหลี่ซานแห่งนี้กว่าสามร้อยชีวิตไม่มีบุตรหลานขี้เหร่จริงๆซ่งจื่อเย่วกินขนมที่อาหญิงนางเอามาให้ นอกจากพี่ใหญ่ก็มีท่านอาเสี่ยวม่านนี่แหล
จ้าวเฟยหรงเสียงแหบพร่าข้างล่างของเขาทรมานยิ่งนักมันตึงจนแทบจะระเบิด มือหนาละจากดอกบัวงามค่อยๆไต่ลงจนเจอกุหลาบดอกตูม นิ้วเรียวสวยทักทายหยอกล้อกับเกสรจนซ่งจื่อหรูต้องชันเข่าขึ้นให้เขาสำรวจกลีบดอกที่อ่อนนุ่มของนางนิ้วเรียวยาวส่งเข้าไปทักทายในกายสาวจนซ่งจื่อหรูต้องจิกไหล่เขาแน่น อ้าปากหายใจเพื่อลดความหวามรัญจวนที่เขามอบให้ ในที่สุดหน้าท้องแบนราบก็กระตุกเกร็งนางหอบหายใจจ้าวเฟยหรงเลื่อนใบหน้าลงดูดดื่มน้ำหวานที่ผลิออกมาจากกุหลาบแสนสวย ก่อนจะมองร่างงามตรงหน้าด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ซ่งจื่อหรูจับศรีษะเขาแน่นแนบกับกลางความสาวหวีดร้องกระตุกเกร็งอีกครั้งจากนั้นนางก็ช่วยคนตัวโตให้ได้ปลดปล่อย สะโพกแกร่งของจ้าวเฟยหรงเกร็งกระตุกยามที่มือนุ่มนิ่มนั้นเร่งจังหวะให้เขา จนต้องเขาต้องครวญครางเสียงแหบพร่าแล้วฟุบลงบนทรวงอกของนาง ดูดเม้มยอดทับทิมสีหวานของนางเพื่อคลายความเสียวซ่านของตนเองจ้าวเฟยหรงมองหญิงคนรักดวงตาเยิ้มหวาน มือหนากอบกุมทรวงอกสาวเขาอยากชื่นใจอีกรอบแต่ถูกนางดุตีมือเขาแล้วจับออก" พอแล้วท่านพี่ เดี๋ยวก็ใจอ่อนจนได้เลยเถิดกันพอดี ข้ารักท่านจึงอยากเก็บไว้ให้ท่านจนถึงวันที่เราเข้าหอ" ซ่งจื่อหรูประท้วง
เพราะช่วงนี้เพราะการก่อสร้างตำหนักใหม่ของจ้าวอ๋องมำให้บางครั้งจ้าวเฟยหรงต้องไปคุมแทนพระบิดา จ้าวอ๋องเลือกที่ดินเชิงเขาไท่ซานห่างจากตัวตำบลเสียนหยางเพียงหกสิบลี้ เขารู้ดีว่าบุตรชายอยากให้ตำหนักใหม่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านหลี่ซาน เมื่อบุตรชายเขาแต่งงานกับซ่งจื่อหรูการไปกลับเป็นเรื่องง่ายจิงเสวียนเดินทางกลับเมืองหลวงไปได้เกือบปีแล้ว ส่วนซ่งจื่อห่าวนั้นตอนนี้ยังอยู่ที่หมู่บ้านหลี่ซาน เนื่องจากซ่งจื่อหรูทำใจไม่ได้ที่จะให้น้องชายวัยเจ็ดขวบต้องไปเดียวดายที่เมืองหลวงแม้ว่าจะพักที่จวนหาน มีพี่สาวเช่นหลี่ม่านอวี้ดูแลซ่งจื่อหรูก็ยังไม่วางใจ หลี่ม่านอวี้เป็นนายหญิงของจวน นางมีเรื่องต้องจัดการมากมายจึงให้ซ่งจื่อห่าวอยู่ก่อน12เมื่อไหรนางจึงจะปล่อยไปเรือกลไฟสร้างเสร็จแล้วและเริ่มทดลองใช้ เดิมทีขนส่งอาหารพืชพันธุ์เข้าเมืองหลวงต้องใช้เวลาถึงเดือนครึ่ง แต่ตอนนี้เพียงแค่เจ็ดวันคนที่เมืองหลวงก็ได้อาหารสดใหม่แล้ว รถรางติดตั้งในอำเภอต่างๆของเมืองกว่างผิง ไม่มีมูลวัวมูลม้าให้เห็น ม้าและวัวถูกใช้ยามเดินทางไกลหรือต้องขนข้าวของหนักๆซ่งจื่อหรูช่วงนี้ได้เข้าไปในมิติบ่อยขึ้นเพราะชายคนรักบางครั้งต้องค้างคืนที่ตำบ
ทั้งคู่ส่งสายตาฟาดฟันกันอยู่ ไห่เมิ่งหยวนไปที่โรงครัวให้คนงานนำอาหารมาส่งให้สาวๆที่นั่งรออยู่ เขานำสุราสมุนไพรที่หมักเองมาหนึ่งกา ก่อนจะวางลงบนโต๊ะ"คุณหนูจื่อหรู นี่เป็นสุราสมุนไพรที่ข้าเพิ่งจะหมักได้ที่ เห็นท่านบอกว่าอยากลองชิมข้าเลยนำมาให้ เรื่องที่ท่านอยากเรียนวิชาแพทย์จริงจัง หากท่านไม่รังเกียจที่ข้าเคยทำไม่ดีกับท่านก่อนหน้า ข้าก็ยินดีสอน"ไห่เมิ่งหยวนเริ่มชักชวนซ่งจื่อหรูดีใจนางอยากเรียนวิชาแพทย์เคยอ้อนวอนเขามาหลายครั้งแล้ว เมื่อก่อนพอเรียนรู้เล็กน้อยไม่แตกฉาน จึงไม่รู้ว่ากำลังถูกไห่เมิ่งหยวนหลอกนางให้มาอยู่ฝ่ายเขา นางเริ่มกรึ่มๆจึงรินสุราที่เขาเพิ่งให้มา ก่อนจะคุกเข่าลงคาราวะเขาส่งจอกสุราน้ำเสียงอ้อแอ้แต่สติยังรับรู้"ศิษย์ซ่งจื่อหรูคาราวะอาจารย์เจ้าค่ะ วันนี้มีแต่สุราไว้รอฤกษ์งามยามดีข้าจะยกน้ำชากราบท่านอย่างเป็นทางการนะเจ้าคะ"ซ่งจื่อหรูที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้นิดๆ" เด็กดีๆ อาจารย์รับรู้ความตั้งใจเจ้าแล้ว พร้อมเมื่อไหร่ก็มาเริ่มเรียนได้"ไฟเมิ่งหยวนรับจอกเหล้าคาราวะทันทีไหเมิ่งหยวนลูบศรีษะนางเบาๆ ที่จริงเขาเอ็นดูเด็กคนนี่มานานตั้งแต่เรื่องราวยังไม่พัวพันขนาดนี้ ไม่คิดว่าวันน
เพราะต้องเตรียมงานแต่งซ่งจื่อหรูจึงให้คนงานหยุดเจ็ดวันเพื่อให้พวกเขาได้พักผ่อนแต่ยังคงจ่ายค่าแรงให้ทุกคนดีใจ ตลาดหลี่ซานที่ตั้งชื่อตามชื่อหมู่บ้าน คึกคักเพราะคนมาหาซื้อสินค้าเนื่องจากเป็นตลาดโต้รุ่ง แม้จะกลางคืนก็ไม่เงียบเหงาแสงจากต้นเหมันต์ส่องสว่างตามทางเดิน โคมไฟประดับประดาทั่วทั้งสามหมู่บ้าน เมืองหลวงยังไม่คึกคักเท่านี้เลย เพราะซ่งจื่อหรูชอบหิวตอนดึก ตลาดนี้จึงขายทั้งกลางวันและกลางคืนซ่งจื่อหรูนอนไม่หลับยืนมองลงไปยังโรงทอผ้าความทรงจำบางอย่างเหมือนหายไป จำได้แค่ว่าคุณปู่มาบอกลาและอวิ่นห่าวมาหาครั้งสุดท้ายตอนนั้นเขาอายุสี่สิบแล้วบุตรสาวคนโตอยู่ชั้นมัธยมใบหน้าคล้ายกับนางตอนอยู่มัธยมเช่นกันส่วนคนเล็กเหมือนแม่ซ่งจื่อหรูมาอยู่ที่นี่อีกไม่กี่วันก็ครบสามปี ผ่านเรื่องราวมากมายแต่เหมือนเรื่องราวบางอย่างอยู่ๆก็เหมือนกับค่อยๆหายไปจากความทรงจำบางครั้งก็เหมือนจะเลือนลางจากนั้นก็นึกไม่ออกอีกเลยจ้าวเฟยหรงเห็นคนรักยืนมองเหม่อไปยังที่บ้านเก่าจึงเดินมากอดนาง เขาจับไหล่นางหันกลับมาก่อนจะจุมพิตอ้อยอิ่งอยู่นานจึงถอนริมฝีปาก ซ่งจื่อหรูกอดเอวหนาไว้ซบหน้ากับอกกว้าง"เป็นอะไรไปเด็กดี ข้าเห็นเจ้ายืนนิ่ง
ไห่เมิ่งหยวนสะบัดแขนเสื้อแล้วหันหลังเตรียมเดินจากไป สายตาเขาเห็นสตรีนางหนึ่งแต่กายด้วยกระโปรงสีเขียวอ่อน ทำผมทรงมวยต่ำปล่อยผมครึ่งศรีษะ ปักด้วยปิ่นผีเสื้อ มีกระดิ่งเงินลูกเล็กๆห้อยตรงปลาย เวลาก้าวเดินเสียงดังกรุ๊งกริ๊งกำลังเดินมาทางเขาไห่เมิ่งหยวน มองร่างบางระหงกำลังเดินใกล้เข้ามา นางเป็นใครกันเหตุใดถึงไม่เคยเห็นนางช่างงดงาม หลี่เสี่ยวม่านที่กำลังเดินมาทางศาลาเจอกับไห่เมิ่งหยวนนางจึงยิ้มให้แล้วค้อมศรีษะเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปในศาลาได้ยินเสียงหวานนั่นเรียกหาบิดา"เสี่ยวม่านถวายพระพรท่านอ๋อง คาราวะซื่อจื่อ ลูกคาราวะท่านพ่อ ท่านอารอง พี่รอง และใต้เท้าเซี่ยเจ้าค่ะ"หลี่เสี่ยวม่านเคารพทุกคนที่อยู่ในศาลา"เจ้าเล็ก กลับมาแล้วหรือท่านยายเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"หลี่ฝูเหยาทักทายบุตรสาว"ท่านยายทานข้าวได้เยอะแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านแม่นางขออยู่เป็นเพื่อนท่านยายก่อน ท่านแม่เกรงว่าไม่อยู่บ้านนานๆ ท่านพ่อเองก็งานยุ่งจึงให้ลูกกลับมาช่วยงานพี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้รองกำลังตั้งครรภ์ต้องระวังการลุกนั่งเจ้าค่ะ""เสี่ยวม่านเอ๊ยลำบากเจ้าแล้ว แม่เจ้าจะกลับมางานแต่งม่านอวี้หรือไม่"หลี่เสี่ยวม่านเดินไปประคองบิดาให้
ซ่งจื่อหรู หลี่ไหลฝู หลี่ฝูเหยา จ้าวอ๋องเซี่ยหนานอินและหลี่ซ่งเต๋อที่กำลังปรึกษาเรื่องสั่งงานให้คนงานประกอบชิ้นส่วนของเรือ ซ่งจื่อหรูให้ท่านปู่ของนางสร้างศาลากลางบึงบัวเป็นศาลากว้างถึงสี่จั้งยาวแปดจั้ง(กว้าง10ม.ยาว20ม.โดยประมาณ)สร้างโต๊ะประชุมกว้างหนึ่งจั้งยาวสามจั้งเอาไว้ประชุมงานสำคัญแบบแปลนเรือกางอยู่บนโต๊ะจ้าวเฟยหรงพาจิงอี้กับจิงเสวียนไปคุมการต่อเรือ ซ่งจื่อหรูต้องการสร้างเรือสามแบบ แบบที่หนึ่งขนาดกลางสำหรับครอบครัวใหญ่ไว้ท่องเที่ยวพักผ่อน ขนาดใหญ่มีโกดังสำหรับพ่อค้าที่ต้งการเดินทางๆเรือเพื่อค้าขายต่างแดน และขนาดใหญ่สำหรับกองทัพ ซ่งจื่อหรูจะติดอาวุธให้เรือด้วย"ลูกสะใภ้ เรือที่เจ้าสร้างออกมาหากสำเร็จจะขายอย่างไร"จ้าวอ๋องที่ตอนนี้เรียกซ่งจื่อหรูว่าลูกสะใภ้ทูกคำ ใครจะกล้าคัดค้านพวกเขากัน สองพ่อลูกสกุลจ้าวนี้นอกจากวรยุทธที่เหนือคนอื่นยังมีความหน้าด้านอีกด้วยที่ไม่มีใครเปรียบได้" ลำเล็กสำหรับครอบครองในครัวเรือนได้ ลูกว่าลำละห้าแสนตำลึงกำลังดีเพคะ ลำใหญ่สำหรับกลุ่มการค้าสักสองล้านห้าหมื่นตำลึง ส่วนเรือที่ขายให้กองทัพลูกจะติดอาวุธให้ด้วย ลำละห้าล้านตำลึง ห้าล้านตำลึงถ้าเทียบกับการที่จ
จ้าวเฟยหรงนอนกอดร่างระหงอย่างหวงแหน ซ่งจื่อหรูกับซ่งจื่อเย่วยิ่งโตเป็นสาวยิ่งงดงามเปรียบดังดอกไม้งามเมืองกว่างผิงเลยทีเดียว ทั้งคู่นอนหลับจนนางรู้สึกมีมือหยาบกร้านมาลูบผม ซ่งจื่อหรูรู้สึกตัวจึงลืมตา พอเห็นคนที่ปรากฏตรงหน้าก็ลุกขึ้นทันทีสวมกอดแล้วร้องไห้"เหลียนฮวาหนูร้องไห้ทำไมกัน บอกปู่สิ"ส่งฮั่นเหลียงลูบหลังหลานสาว"คุณปู่คะ คุณปู่มาหาหนูสักทีอวิ่นห่าวเขามาไม่ได้อีกแล้ว หนูอยู่ที่นี่คิดถึงทุกคน""เหลียนฮวา ไปคุยกับปู่ข้างนอกเถอะ"ซ่งจื่อหรูหันไปมองคนที่นอนหลับข้างๆ หันกลับมามองหน้าปู่ของนาง"มาเถอะเขาไม่ตื่นหรอก"ซ่งฮั่นเหลียงบอกนางซ่งจื่อหรูจึงลุดเดินตามซ่งฮั่นเหลียงออกไป ทั้งคู่ยืนอยู่ริมระเบียงทอดมองลงมาที่โรงทอผ้าที่ก่อนหน้าเคยเป็นบ้านนางมาก่อนและเป็นสถานที่ๆเกิดเรื่องราว"คุณปู่คะ ทำไมตราประทับนั่งถึงเลือกหนู สกุลเฟิ่งผ่านมาหลายรุ่นเหตุใดต้องเป็นหนูที่มาแก้ไข""เดิมทีไข่มุกจันทราไม่ใช่ของดี ตั้งแต่ฮั่นอู๋ตี้ได้มันมาก็เริ่มเปลี่ยนไป โหดร้ายไล่ฆ่าคนไม่เลือกแม้กระทั่งบุตรตนเอง แต่ไข่มุกก็เสริมพลังอำนาจให้แก่เขา ตำหนักเทพในตอนนั้นออกอุบายให้เขาสร้างสุสานและบอกวิธีคืนชีพหลังจากตาย ค