หลังจากที่หลี่ต้าโจวและหลี่หานเดินทางไปแล้ว ซ่งจื่อหรูก็ลงมือทำงานต่อ เดิมทีจะให้เด็กๆงมหินแต่เกรงอันตรายจึงล้มเลิกความคิด จากนั้นก็ให้นำไหไปช่วยกันล้าง มีหลี่อาไช่คอยควบคุมความเรียบร้อยซ่งจื่อหรูแกะเปลือกหน่อไม้ออก ฮั่วหรานนั่งเย็บขอบฝ้าฝ่ายที่ซ่งจื่อหรูตัดเป็นชิ้นๆให้ สามคนพี่น้องช่วยกันปลอกเปลือก จิงอี้และจิงเสวียนแบกตระกร้าเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อขนเปลือกเกาลัดมาทำเชื้อฟืนชาวบ้านตกตะลึงมีหนุ่มรูปงามมาจากไหนกัน แม้ว่าไม่เทียบเท่าพ่อลูกสกุลฮั่วแต่ก็นี่ก็รูปงามไม่น้อย ทั้งสองคนทำตัวไม่ถูกที่ถูกเหล่าป้าๆจ้องมอง"เอ่อ ข้าน้อยจิงอี้นี่พี่ชายข้าจิงเสวียนสวัสดีทุกท่าน พวกเราเป็นหลานท่านอาฮั่วขอรับเพิ่งจะมาอยู่ได้เพียงครึ่งเดือน""อ้อๆๆ เป็นหลานพี่ฮั่วนี่เองข้าก็ว่าอยู่ บ้านเจ้านี่รูปงามทั้งบ้านจริงๆ สาวๆในหมู่บ้านกลางคืนจะละเมอกันไหมล่ะเนี่ย"ชาวบ้านคนนึงหยอกเย้า เมื่อทักทายกันเรียบร้อยก็ช่วยทั้งสองโกยเปลือกเกาลัดใส่ตระกร้า ทางด้านซ่งจื่อหรูติดไฟตั้งน้ำต้มหน่อไม้ เสียงหูเจียวเจียวตะโกนเรียกมาแต่ปากประตูรั้ว"อาหรู ข้ามาแล้ววันนี้หูจื่อขอมาเล่นกับจื่อห่าวด้วย"หูเจียวเจียวจุงมือน้องชายเดินเ
เกวียนวัวของหลี่ซ่งเหวินเดินทางมาถึงตัวตำบล ก็ตรงไปที่ร้านจินปู่เตี้ยนเพื่อรับชุดของทั้งสามคน หลี่ต้าโจวเองก็มีชุดใหม่เช่นกันหลี่หานเป็นคนซื้อให้เขา น้องสี่บอกแล้วว่าข้างนอกให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก จากนั้นก็ไปรับหลี่เหิงที่สำนักศึกษา ได้พบกับอาจารย์อู๋จี๋เจ้าของสำนัก"คาราวะท่านอาจารย์อู๋ ข้าน้อยหลี่ต้าโจวเป็นบิดาของหลี่เหิงขอรับ พวกเรามารับเขาไปเข้าสอบ""อืม...ข้ายังเสียดายหากปีนี้เขาไม่ลงสอบอีกก็ต้องถูกให้ออกจากที่นี่ แล้วสองคนข้างเจ้านั้นจะเดินทางไปสอบด้วยหรือ"อู๋จี๋มองไปยังหลี่หานและเอ้อหลาง"ขอรับคนนี้บุตรชายคนรองชื่อหลี่เหิง เด็กอีกคนเป็นบุตรชายของซิ่วไฉหมู่บ้านขอรับ""อ้อ บุตรชายของเจ้าไม่ได้มาเรียนด้วยกัน คุณชายหลี่น้องชายท่านหลี่ต้าเหวินก่อเรื่องไว้ไม่น้อย ว่าแต่เจ้าหนูเจ้ามั่นใจแค่ไหนกันในเมื่อไม่เคยมาเรียน"ประโยคหลังอาจารย์อู๋หันไปถามหลี่หาน"ตอบอาจารย์อู๋ ข้าน้อยเองก็มิมั่นใจเท่าใดนัก แต่น้องสาวข้าบอกว่าจงลงมือทำแม้ทำไม่ได้ก็ยังดีกว่ามานั่งเสียใจว่าไม่เคยได้ทำขอรับ ข้าอยากให้นางภูมิใจ แม้จะมีความหวังเพียงน้อยนิด""ฮ่าๆๆๆๆ คุณชายหลี่ท่านมีลูกที่ดียิ่งนัก น้องสาวเจ้า
ก๊อกๆๆๆ"ท่านเจ้าเมือง ด้านนอกมีคนมาพบใต้เท้าขอรับ"ทั้งสองมองหน้าก่อนจะหยุดบทสนทนาเซี่ยอวิ๋นจึวเอ่ยถามเจ้าหน้าที่ด้านนอก"เป็นผู้ใดได้บอกนามหรือไม่ มาด้วยเหตุอันใด""กุนซือเซี่ย ท่านผู้นั้นมิได้เอ่ยสิ่งใดเพียงแต่ให้ข้าน้อยนำสิ่งนี้มาให้ เขาบอกว่าจะรอพวกท่านที่สวนไผ่ทิศตะวันออกของเมืองขอรับ"เสี่ยอวิ่นเปิดประตูรับของสิ่งนั้นมาส่งให้เซี่ยหนานอิน พอเห็นของสิ่งนั้นเขาก็รีบร้อนออกไปทันที แต่ไม่วายกำชับให้คนรับใช้ส่วนตัวเก็บอาหารเหล่านั้นเอาไว้ห้ามทิ้ง ยังกินไม่อิ่มเลยถ้าไม่ใช่คนสำคัญเขาจะทิ้งมาได้อย่างไรเด็กคนนั้นหากเอามาเป็นแม่ครัวที่จวนคงได้ลาบปากทุกวันเพียงไม่นานรถม้ามาถึงสวนไผ่ก็พบบุรุษสี่คนยืนรออยู่ สองคนนั้นแต่กายคล้ายทหาร ส่วนอีกสองคนแม้ว่าเสื้อผ้าจะธรรมดาแต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้นน่าเกรงขาม เขาเดาได้ทันที"ข้าน้อยเซี่ยหนานอินเจ้าเมืองกว่างผิงถวายพระพรจ้าวอ๋องพะย่ะค่ะ คาราวะซื่อจื่อขอรับ"เซี่ยหนานอินคาราวะจ้าวเฟยหย่งกับจ้าวเฟยหรง"อืมใต้เท้าเซี่ย หรือจะให้ข้าเรียกท่านว่านายน้อยเฟิ่งดี"จ้าวเฟยหย่งเอ่ยปากทักทายเซี่ยหนานอิน"ท่านอ๋องล้อกระหม่อมเล่นแล้ว เหตุใดถึงเรียกเช่นนั้นเล่าพะย่
สองพ่อลูกออกจากป่าไผ่ตรงไปยังที่นัดพบกับคนของฮ่องเต้ จ้าวเฟยหย่งเห็นสีหน้าบุตรชายมีคำถามมากมาย ก็คิดว่าถึงแม้ต้องบอกความจริงสักที เมื่อขึ้นหลังม้าก็ควบออกจากเมือง มาถึงกลางทางจึงผ่อนแรงให้ม้าเดินเหยาะๆ จากนั้นก็เอ่ยปาก" หรงเอ๋อร์ ลูกสงสัยใช่ไหมว่าเหตุใดเสด็จลุงเจ้ากับพ่อจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของสกุลเฟิ่ง"จ้าวอ๋องถามบุตรชาย"พะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ แค่สุสานหลวงแห่งหนึ่งลูกมองเยี่ยงไรก็หาความสมเหตุสมผลมิเจอ สมบัตินั้นสามารถทำให้ทั้งสี่แคว้นยอมก่อสงคราม องค์ชายต่างๆยอมก่อกบฏเชียวหรือพะย่ะค่ะ หรือว่าเป็นภูเขาทองคำกัน""ลูกเคยได้ยินเรื่องกองทัพมังกรดำหรือไม่?""เคยได้ยินมาบ้างพะย่ะค่ะ ว่ากันว่าก่อตั้งโดยราชวงศ์ก่อนหน้าดูเหมือนจะเป็นฮ่องเต้พระองค์แรกของราชวงศ์หนาน หนานฉู่เยี่ยน ใช่หรือไม่พะย่ะค่ะ""ถูกต้อง หนานฉู่เยี่ยนก่อตั้งกองทัพมังกรดำ ว่ากันว่ามีอนุภาพมากนัก""หากเป็นเช่นนั้น เหตุใดราชวงศ์หนานจึงล่มสลายแตกเป็นสี่แคว้นล่ะพะย่ะค่ะเสด็จพ่อ ในเมื่อกองทัพเกรียงไกรเช่นนั้น""กองทัพมังกรดำถูกฝึกให้หลบซ่อนออกฆ่า รุกรับ เดินหน้าถอยทัพไม่มีใครเทียบ แต่พวกเขาเชื่อฟังเพียงป้ายคำสั่ง ไม่ใช่คนไม่ว่าผู้
วันนี้ซ่งจื่อหนูตื่นแต่เช้า สี่วันมานี้หมู่บ้านสงบเรียบร้อย ไม่ไดัยินเสียงแม่เฒ่าหลี่ด่าผู้ใด นางยังคงปรนนิบัติบุตรชายหลี่ต้าเหวินอยู่ในบ้าน หลังจากลุงใหญ่หลี่ต้าโจวเดินทางนางก็อาละวาดยกใหญ่ จนสะใภ้ใหญ่หวังซื่อลุกขึ้นมาอาละวาดบ้าง ไล่กวดตีนางไปทั่วหมู่บ้าน ชาวบ้านเห็นใจแม่เฒ่าหลี่แต่ก็พูดเพียงว่า"ป้าหลี่ นางเป็นเช่นนี้ก็เพราะบุตรชายท่านมิใช่หรือ วันหลังท่านก็อย่าโวยวายจนกระตุ้นความคลั่งของนางก็สิ้นเรื่อง""น่านสิเจ้าคะ ป้าหลี่โบราณว่าอย่าถือสาคนสติไม่ดี ท่านเป็นคนสติครบถ้วนเหตุใดไม่ยับยั้งตนเองด่ากราดไปทั่วจนอาการนางกำเริบ""พากเจ้าๆๆๆ แต่ละคนรวมหัวกันรังแกยายเฒ่าอย่างข้าฮือๆๆเจ้าข้าเอ๊ยใครก็ได้มาดูที"แม่เฒ่าหลี่นางลงไปทุบอกชกหัวร้องห่มร้องไห้ หวังซื่อได้ยินก็วิ่งมานั่งร้องไห้แข่งกับนางบ้าง จนหลี่ม่านอวี้กับหลี่ต้าจูต้องมาพานางกลับไป ปล่อยแม่เฒ่าหลี่อยู่กลางลานไร้คนสนใจ หลี่อ้ายเสิ่นอับอายจนไม่อยากออกจากบ้าน ตั้งแต่วันนั้นนางจึงเงียบมาตลอด ส่วนหลี่ต้าเหวินไม่แน่ใจว่าวางแผนอันใดอยู่เสียงตีฆ้องดังมาจากทางหน้าหมู่บ้าน เด็กๆวิ่งออกไปดูเนื่องจากยังเช้าอยู่ ชาวบ้านจึงยังคงอยู่ในบ้าน เมื่
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทางการกลับไปแล้วซ่งจื่อหรูจึงถือโอกาสเข้าเมือง อีกสามวันจะเซ่นไหว้บรรพบุรุษจำเป็นต้องซื้อของ วันนี้ท่านปู่จะกลับมาแล้วยังไงก็ต้องต้อนรับ ไม่รู้ว่าทางบ้านใหญ่จะทำอย่างไรบ้างหลี่ม่านอวี้กับหลี่ถิงถิงเรียนรู้การทำอาหารจากซ่งจื่อหรูไปบ้างนางสอนเท่าที่วัตถุดิบในบ้านจะหาได้นางไม่ต้องการให้แม่เฒ่าหลี่กับบุตรชายได้ผลประโยชน์เดิมทีตั้งใจรอฟังข่าวจากทางด้านเซี่ยหนานอินติดต่อมาก่อน แต่ว่านางไม่อยากหวังมากนัก ลงมือก่อนได้เปรียบจึงทำผัดหน่อไม้แห้งกับสามชั้น มันเทศในบริเวณที่ดินของบ้านตนปลอกแล้วนำมานึ่ง จากนั้นก็ตากแดดเด็กน้อยคนนั้นรู้สึกจะเป็นหลานชายของปู่หกกลับบ้านไปนำตระแกรงมาให้สี่ใบ ซ่งจื่อหรูนำใบบัวมาลวกน้ำร้อน ก่อนจะนำไปผึ่งให้แห้งจากนั้นก็ห่อมันเทศหนึบ ตักผัดหน่อไม้แห้งกับหมูสามชั้น ต้มหน่อไม้แห้งพะโล้กับเครื่องในหมูที่เหลือใส่ในโถหลังจากที่พะโล้ของเขียงหมูจางต้าหู่โด่งดังก็ไม่มีผู้ใดไม่กล้ากินเครื่องในอีกหมูในมิติตัวโตมากแล้ว แม่พันธุ์ที่ตั้งท้องก็ใกล้คลอด ต้องหาทางนำออกมาสักทีไก่เหล่านั้นอีกมีสามร้อยกว่าตัวแต่ละตัวโตเกือบสามชั่งแล้ว ขืนยังให้อยู่ในมิติผักที่นางอุ
ซ่งจื่อหรูถามเขา เมิ่งหยวนมีสีหน้าตกใจแต่ก็พยักหน้า เดิมทีนางต้องการขึ้นเขาแต่เพราะห่วงความปลอดภัยคนในบ้านจึงไม่กล้าออกไป แม้ว่าจิงอี้และจิงเสวียนจะคอยดูแล แต่นางสังเกตุว่าพวกเขาจะหายไปทุกๆยามอวิ๋น(03.00-04.59) หลี่ต้าเหวินเป็นคนเจ้าเล่ห์ นางไม่ไว้ใจหากทิ้งเด็กๆไว้"เจ้ารู้จักหญ้าเหมันต์หรือ แม้ว่าท่านตาเจ้าจะมีความรู้มากมายแต่หญ้าชนิดนี้แม้แต่หมอก็มิแน่ว่าจะรู้จัก อีกทั้งยังหายากข้าเคยเห็นแต่ภาพวาด กับรู้เพียงวิธีใช้" เมิ่งหยวนถามซ่งจื่อหรูนางพยักหน้าให้เขา"ข้ารู้จักเจ้าค่ะ แต่ที่หายากเพราะต้องหาตอนกลางคืนเท่านั้น ท่านหมอเมิ่งอาการอาสะใภ้จะกำเริบอีกครั้งเมื่อไหร่เจ้าคะ""สมุนไพรที่เจ้าให้นางแช่มีสรรพคุณดีมาก น่าจะไม่กำเริบอีกครึ่งเดือน นี่เป็นยาบำรุงช่วงนี้ยาเดิมห้ามใช้แล้ว ไม่เช่นนั้นหากนางต่อต้านฤทธิ์ยาจะยิ่งรักษายากขึ้น ข้าต้องไปแล้วมีคนไข้รออยู่ นังหนูเจ้าเป็นคนมีความสามารถทีเดียว ถ้าเป็นคนอื่นคงทำอะไรไม่ถูก"เมิ่งหยวนไม่รับค่ารักษา จากนั้นก็สะพายล่วมยาเดินจากไป ซ่งจื่อหรูมองตาม ลักษณะเช่นนี้ย่อมไม่ใช่หมอชาวบ้านแน่ๆ กระบี่จ่อคอขนาดนั้นหากเป็นคนธรรมดาย่อมตกใจจนเข่าอ่อนแล้ว แต่เขา
ซ่งจื่อหรูเดินไปเปิดประตูรั้วก็เห็นหลี่ถิงถิงยืนอยู่ ด้านหลังมีเกวียนวัวตามมา ในเกวียนมีข้าวของวางไว้"พี่สี่พวกเขาบอกว่ามาจากโรงเหล็กในตำบลนำของที่พี่สั่งไว้มาส่งเจ้าค่ะ"หลี่ถิงถิงอธิบาย ซ่งจื่อหรูพยักหน้าจากนั้นคนงานก็ช่วยนางขนของมาไว้ด้านใน ซ่งจื่อหรูจ่ายเงินส่วนที่เหลือคนงานของร้านเหล็กก็กลับไป"น้องห้า พี่มีเรื่องต้องทำเจ้าช่วยไปตามพี่สามมาหาพี่สักหน่อย รีบไปรีบมา"ซ่งจื่อหรูสั่งจบหลี่ถิงถิงก็รับคำและรีบวิ่งกลับบ้าน แค่เพียงถ้วยชาหลี่ม่านอวี้ก็เดินตามมา"น้องสี่ มีอะไรหรือไม่พี่กลัวท่านแม่อาละวาดอีก เมื่อวานนางก็ตีกับท่านย่า"หลี่ม่านอวี้เอ่ยถาม"พี่สามข้าต้องการให้ท่านเข้าตำบลแทนข้าสักหน่อย หนึ่งไปจินปู่เตี้ยนนำจดหมายไปให้จินเหนียง สองนำจดหมายและสิ่งของเหล่านี้ไปที่ร้านเถ้าแก่เหลียง สามนำร่มและพัดสองเล่มนี้ไปร้านหนึ่งในใต้หล้าของคุณหนูจาง จางอวี้เซียน จากนั้นซื้อของสำหรับต้อนรับท่านปู่วันนี้ กับซื้อของเซ่นไหว้บรรพบุรุษตามรายการที่เขียน พี่จิงเสวียนจะไปเป็นเพื่อนท่านเอง ให้ถิงถิงดูแลป้าสะใภ้ใหญ่หนึ่งวัน นางไม่เป็นไรหรอกถ้าไม่มีใครไปกระตุ้นนาง"เมื่อบอกกล่าวหลี่ม่านอวี้เรียบร้อยนา
หลี่เสี่ยวม่านไม่อยู่รอท่านยายตื่นนางเกรงใจไห่เมิ่งหยวน จึงพูดคุยกับป้าสะใภ้ใหญ่ไม่นานก็ขอตัวกลั บ ไห่เมิ่งหยวนพานางกลับแต่ขากลับมาถึงครึ่งทางเขาก็เลี้ยวไปอีกทาง มีเส้นทางเส้นเล็กๆแยกลงไป"ท่านพี่เมิ่งหยวนเราจะไปที่ใดเจ้าคะ" หลี่เสี่ยวม่านเห็นเขาไม่กลับทางเดิมจึงสงสัย" เด็กดีข้าอยากพาเจ้าไปดูอะไรสักหน่อย"ไม่นานทุ่งดอกไม้หลากหลายสีก็ปรากฎอยู่ตรงหน้า หลี่เสี่ยวม่านชอบมันมาก ไห่เมิ่งหยวนอุ้มนางลงจากหลังม้า หลี่เสี่ยวม่านวิ่งเล่นกลางทุ่ง นางอายุเพียงสิบแปดไม่ว่าอย่างไรก็ยังมีความเป็นเด็กสาวหลี่เสี่ยวม่านยืนกางแขนสูดอากาศตรงหน้า ไห่เมิ่งหยวนเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง เขาโอบเอวนางไว้รั้งแผ่นหลังนางเข้าหาตัว หลี่เสี่ยวม่านตกใจเล็กน้อย จนได้ยินเสียงลมหายใจข้างหู เขากระซิบชื่อนางเสียงหวาน" เสี่ยวม่าน ข้ารักเจ้าข้าอยากดูแลเจ้าชั่วชีวิต เจ้ารังเกียจข้าหรือไม่"หลี่เสี่ยวม่านหันกลับมามองหน้าเขา ก่อนจะถามให้แน่ใจ"ท่านพี่เมิ่งหยวน ท่านรักข้าจริงๆหรือ ข้าเป็นสตรีน่าเบื่อมากนะเจ้าคะ นอกจากปรนนิบัติท่านยาย หุงหาอาหารพอได้ ข้าก็ไม่มีความสามารถอะไรเลย"" ข้าต้องการสตรีอ่อนหวาน ยามข้าเหนื่อยมาแค่เห็นหน้
ร่างเล็กๆวิ่งไปแล้วไห่เมิ่งหยวนหลั่งน้ำตาเบาๆ ไว้อาลัยให้กับลูกรักของเขา แต่พอเอ่ยถึงหลี่เสี่ยวม่านไห่เมิ่งหยวนก็เงียบทันที เขาให้ศิษย์รักของเขาซ่งจื่อหรูช่วยเป็นแม่สื่อให้ นางรับปากจะช่วยแต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความจริงใจของเขาด้วยหลี่เสี่ยวม่านมารับยาบำรุงไปให้ท่านยายของนางทุกๆสามวัน เดิมทีเขาสามารถจัดยาบำรุงให้นางได้หลายเทียบแต่เช่นนั้นจะได้เห็นหน้านางในดวงใจบ่อยๆได้อย่างไรเล่า ซ่งจื่อเย่วเรียกอาหญิงเสียงหวานก่อนจะมีขนมเต็มปากวันนี้หลี่เสี่ยวม่านมารับยาแล้วจะเลยไปบ้านท่านยายเลย นางเห็นเขาจึงยิ้มให้รอยยิ้มที่ส่งมาให้เขานั้นช่างงดงามเสียจริง ไห่เมิ่งหยวนยอมรับแล้วว่าว่าเหตุใดเหล่าองค์ชาย องครักษ์ และคุณชายทั้งหลายรวมถึงตัวเขา จึงอยากมาเป็นเขยหมู่บ้านหลี่ซานกันทั้งนั้นไม่มีหมู่บ้านไหนจะรวมเอาบุตรหลานหน้าตาดีและงดงามไว้ได้เท่าที่นี่อีกแล้ว สายเลือดสกุลหลี่ตั้งแต่หลี่ฝูเหยามาจนถึงหลี่เป่าเป่า และบุตรของจิงอี้กับหลี่อ้ายเสิ่นนั้นรูปงามทุกคนสกุลหลี่หมู่บ้านหลี่ซานแห่งนี้กว่าสามร้อยชีวิตไม่มีบุตรหลานขี้เหร่จริงๆซ่งจื่อเย่วกินขนมที่อาหญิงนางเอามาให้ นอกจากพี่ใหญ่ก็มีท่านอาเสี่ยวม่านนี่แหล
จ้าวเฟยหรงเสียงแหบพร่าข้างล่างของเขาทรมานยิ่งนักมันตึงจนแทบจะระเบิด มือหนาละจากดอกบัวงามค่อยๆไต่ลงจนเจอกุหลาบดอกตูม นิ้วเรียวสวยทักทายหยอกล้อกับเกสรจนซ่งจื่อหรูต้องชันเข่าขึ้นให้เขาสำรวจกลีบดอกที่อ่อนนุ่มของนางนิ้วเรียวยาวส่งเข้าไปทักทายในกายสาวจนซ่งจื่อหรูต้องจิกไหล่เขาแน่น อ้าปากหายใจเพื่อลดความหวามรัญจวนที่เขามอบให้ ในที่สุดหน้าท้องแบนราบก็กระตุกเกร็งนางหอบหายใจจ้าวเฟยหรงเลื่อนใบหน้าลงดูดดื่มน้ำหวานที่ผลิออกมาจากกุหลาบแสนสวย ก่อนจะมองร่างงามตรงหน้าด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ซ่งจื่อหรูจับศรีษะเขาแน่นแนบกับกลางความสาวหวีดร้องกระตุกเกร็งอีกครั้งจากนั้นนางก็ช่วยคนตัวโตให้ได้ปลดปล่อย สะโพกแกร่งของจ้าวเฟยหรงเกร็งกระตุกยามที่มือนุ่มนิ่มนั้นเร่งจังหวะให้เขา จนต้องเขาต้องครวญครางเสียงแหบพร่าแล้วฟุบลงบนทรวงอกของนาง ดูดเม้มยอดทับทิมสีหวานของนางเพื่อคลายความเสียวซ่านของตนเองจ้าวเฟยหรงมองหญิงคนรักดวงตาเยิ้มหวาน มือหนากอบกุมทรวงอกสาวเขาอยากชื่นใจอีกรอบแต่ถูกนางดุตีมือเขาแล้วจับออก" พอแล้วท่านพี่ เดี๋ยวก็ใจอ่อนจนได้เลยเถิดกันพอดี ข้ารักท่านจึงอยากเก็บไว้ให้ท่านจนถึงวันที่เราเข้าหอ" ซ่งจื่อหรูประท้วง
เพราะช่วงนี้เพราะการก่อสร้างตำหนักใหม่ของจ้าวอ๋องมำให้บางครั้งจ้าวเฟยหรงต้องไปคุมแทนพระบิดา จ้าวอ๋องเลือกที่ดินเชิงเขาไท่ซานห่างจากตัวตำบลเสียนหยางเพียงหกสิบลี้ เขารู้ดีว่าบุตรชายอยากให้ตำหนักใหม่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านหลี่ซาน เมื่อบุตรชายเขาแต่งงานกับซ่งจื่อหรูการไปกลับเป็นเรื่องง่ายจิงเสวียนเดินทางกลับเมืองหลวงไปได้เกือบปีแล้ว ส่วนซ่งจื่อห่าวนั้นตอนนี้ยังอยู่ที่หมู่บ้านหลี่ซาน เนื่องจากซ่งจื่อหรูทำใจไม่ได้ที่จะให้น้องชายวัยเจ็ดขวบต้องไปเดียวดายที่เมืองหลวงแม้ว่าจะพักที่จวนหาน มีพี่สาวเช่นหลี่ม่านอวี้ดูแลซ่งจื่อหรูก็ยังไม่วางใจ หลี่ม่านอวี้เป็นนายหญิงของจวน นางมีเรื่องต้องจัดการมากมายจึงให้ซ่งจื่อห่าวอยู่ก่อน12เมื่อไหรนางจึงจะปล่อยไปเรือกลไฟสร้างเสร็จแล้วและเริ่มทดลองใช้ เดิมทีขนส่งอาหารพืชพันธุ์เข้าเมืองหลวงต้องใช้เวลาถึงเดือนครึ่ง แต่ตอนนี้เพียงแค่เจ็ดวันคนที่เมืองหลวงก็ได้อาหารสดใหม่แล้ว รถรางติดตั้งในอำเภอต่างๆของเมืองกว่างผิง ไม่มีมูลวัวมูลม้าให้เห็น ม้าและวัวถูกใช้ยามเดินทางไกลหรือต้องขนข้าวของหนักๆซ่งจื่อหรูช่วงนี้ได้เข้าไปในมิติบ่อยขึ้นเพราะชายคนรักบางครั้งต้องค้างคืนที่ตำบ
ทั้งคู่ส่งสายตาฟาดฟันกันอยู่ ไห่เมิ่งหยวนไปที่โรงครัวให้คนงานนำอาหารมาส่งให้สาวๆที่นั่งรออยู่ เขานำสุราสมุนไพรที่หมักเองมาหนึ่งกา ก่อนจะวางลงบนโต๊ะ"คุณหนูจื่อหรู นี่เป็นสุราสมุนไพรที่ข้าเพิ่งจะหมักได้ที่ เห็นท่านบอกว่าอยากลองชิมข้าเลยนำมาให้ เรื่องที่ท่านอยากเรียนวิชาแพทย์จริงจัง หากท่านไม่รังเกียจที่ข้าเคยทำไม่ดีกับท่านก่อนหน้า ข้าก็ยินดีสอน"ไห่เมิ่งหยวนเริ่มชักชวนซ่งจื่อหรูดีใจนางอยากเรียนวิชาแพทย์เคยอ้อนวอนเขามาหลายครั้งแล้ว เมื่อก่อนพอเรียนรู้เล็กน้อยไม่แตกฉาน จึงไม่รู้ว่ากำลังถูกไห่เมิ่งหยวนหลอกนางให้มาอยู่ฝ่ายเขา นางเริ่มกรึ่มๆจึงรินสุราที่เขาเพิ่งให้มา ก่อนจะคุกเข่าลงคาราวะเขาส่งจอกสุราน้ำเสียงอ้อแอ้แต่สติยังรับรู้"ศิษย์ซ่งจื่อหรูคาราวะอาจารย์เจ้าค่ะ วันนี้มีแต่สุราไว้รอฤกษ์งามยามดีข้าจะยกน้ำชากราบท่านอย่างเป็นทางการนะเจ้าคะ"ซ่งจื่อหรูที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้นิดๆ" เด็กดีๆ อาจารย์รับรู้ความตั้งใจเจ้าแล้ว พร้อมเมื่อไหร่ก็มาเริ่มเรียนได้"ไฟเมิ่งหยวนรับจอกเหล้าคาราวะทันทีไหเมิ่งหยวนลูบศรีษะนางเบาๆ ที่จริงเขาเอ็นดูเด็กคนนี่มานานตั้งแต่เรื่องราวยังไม่พัวพันขนาดนี้ ไม่คิดว่าวันน
เพราะต้องเตรียมงานแต่งซ่งจื่อหรูจึงให้คนงานหยุดเจ็ดวันเพื่อให้พวกเขาได้พักผ่อนแต่ยังคงจ่ายค่าแรงให้ทุกคนดีใจ ตลาดหลี่ซานที่ตั้งชื่อตามชื่อหมู่บ้าน คึกคักเพราะคนมาหาซื้อสินค้าเนื่องจากเป็นตลาดโต้รุ่ง แม้จะกลางคืนก็ไม่เงียบเหงาแสงจากต้นเหมันต์ส่องสว่างตามทางเดิน โคมไฟประดับประดาทั่วทั้งสามหมู่บ้าน เมืองหลวงยังไม่คึกคักเท่านี้เลย เพราะซ่งจื่อหรูชอบหิวตอนดึก ตลาดนี้จึงขายทั้งกลางวันและกลางคืนซ่งจื่อหรูนอนไม่หลับยืนมองลงไปยังโรงทอผ้าความทรงจำบางอย่างเหมือนหายไป จำได้แค่ว่าคุณปู่มาบอกลาและอวิ่นห่าวมาหาครั้งสุดท้ายตอนนั้นเขาอายุสี่สิบแล้วบุตรสาวคนโตอยู่ชั้นมัธยมใบหน้าคล้ายกับนางตอนอยู่มัธยมเช่นกันส่วนคนเล็กเหมือนแม่ซ่งจื่อหรูมาอยู่ที่นี่อีกไม่กี่วันก็ครบสามปี ผ่านเรื่องราวมากมายแต่เหมือนเรื่องราวบางอย่างอยู่ๆก็เหมือนกับค่อยๆหายไปจากความทรงจำบางครั้งก็เหมือนจะเลือนลางจากนั้นก็นึกไม่ออกอีกเลยจ้าวเฟยหรงเห็นคนรักยืนมองเหม่อไปยังที่บ้านเก่าจึงเดินมากอดนาง เขาจับไหล่นางหันกลับมาก่อนจะจุมพิตอ้อยอิ่งอยู่นานจึงถอนริมฝีปาก ซ่งจื่อหรูกอดเอวหนาไว้ซบหน้ากับอกกว้าง"เป็นอะไรไปเด็กดี ข้าเห็นเจ้ายืนนิ่ง
ไห่เมิ่งหยวนสะบัดแขนเสื้อแล้วหันหลังเตรียมเดินจากไป สายตาเขาเห็นสตรีนางหนึ่งแต่กายด้วยกระโปรงสีเขียวอ่อน ทำผมทรงมวยต่ำปล่อยผมครึ่งศรีษะ ปักด้วยปิ่นผีเสื้อ มีกระดิ่งเงินลูกเล็กๆห้อยตรงปลาย เวลาก้าวเดินเสียงดังกรุ๊งกริ๊งกำลังเดินมาทางเขาไห่เมิ่งหยวน มองร่างบางระหงกำลังเดินใกล้เข้ามา นางเป็นใครกันเหตุใดถึงไม่เคยเห็นนางช่างงดงาม หลี่เสี่ยวม่านที่กำลังเดินมาทางศาลาเจอกับไห่เมิ่งหยวนนางจึงยิ้มให้แล้วค้อมศรีษะเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปในศาลาได้ยินเสียงหวานนั่นเรียกหาบิดา"เสี่ยวม่านถวายพระพรท่านอ๋อง คาราวะซื่อจื่อ ลูกคาราวะท่านพ่อ ท่านอารอง พี่รอง และใต้เท้าเซี่ยเจ้าค่ะ"หลี่เสี่ยวม่านเคารพทุกคนที่อยู่ในศาลา"เจ้าเล็ก กลับมาแล้วหรือท่านยายเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"หลี่ฝูเหยาทักทายบุตรสาว"ท่านยายทานข้าวได้เยอะแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านแม่นางขออยู่เป็นเพื่อนท่านยายก่อน ท่านแม่เกรงว่าไม่อยู่บ้านนานๆ ท่านพ่อเองก็งานยุ่งจึงให้ลูกกลับมาช่วยงานพี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้รองกำลังตั้งครรภ์ต้องระวังการลุกนั่งเจ้าค่ะ""เสี่ยวม่านเอ๊ยลำบากเจ้าแล้ว แม่เจ้าจะกลับมางานแต่งม่านอวี้หรือไม่"หลี่เสี่ยวม่านเดินไปประคองบิดาให้
ซ่งจื่อหรู หลี่ไหลฝู หลี่ฝูเหยา จ้าวอ๋องเซี่ยหนานอินและหลี่ซ่งเต๋อที่กำลังปรึกษาเรื่องสั่งงานให้คนงานประกอบชิ้นส่วนของเรือ ซ่งจื่อหรูให้ท่านปู่ของนางสร้างศาลากลางบึงบัวเป็นศาลากว้างถึงสี่จั้งยาวแปดจั้ง(กว้าง10ม.ยาว20ม.โดยประมาณ)สร้างโต๊ะประชุมกว้างหนึ่งจั้งยาวสามจั้งเอาไว้ประชุมงานสำคัญแบบแปลนเรือกางอยู่บนโต๊ะจ้าวเฟยหรงพาจิงอี้กับจิงเสวียนไปคุมการต่อเรือ ซ่งจื่อหรูต้องการสร้างเรือสามแบบ แบบที่หนึ่งขนาดกลางสำหรับครอบครัวใหญ่ไว้ท่องเที่ยวพักผ่อน ขนาดใหญ่มีโกดังสำหรับพ่อค้าที่ต้งการเดินทางๆเรือเพื่อค้าขายต่างแดน และขนาดใหญ่สำหรับกองทัพ ซ่งจื่อหรูจะติดอาวุธให้เรือด้วย"ลูกสะใภ้ เรือที่เจ้าสร้างออกมาหากสำเร็จจะขายอย่างไร"จ้าวอ๋องที่ตอนนี้เรียกซ่งจื่อหรูว่าลูกสะใภ้ทูกคำ ใครจะกล้าคัดค้านพวกเขากัน สองพ่อลูกสกุลจ้าวนี้นอกจากวรยุทธที่เหนือคนอื่นยังมีความหน้าด้านอีกด้วยที่ไม่มีใครเปรียบได้" ลำเล็กสำหรับครอบครองในครัวเรือนได้ ลูกว่าลำละห้าแสนตำลึงกำลังดีเพคะ ลำใหญ่สำหรับกลุ่มการค้าสักสองล้านห้าหมื่นตำลึง ส่วนเรือที่ขายให้กองทัพลูกจะติดอาวุธให้ด้วย ลำละห้าล้านตำลึง ห้าล้านตำลึงถ้าเทียบกับการที่จ
จ้าวเฟยหรงนอนกอดร่างระหงอย่างหวงแหน ซ่งจื่อหรูกับซ่งจื่อเย่วยิ่งโตเป็นสาวยิ่งงดงามเปรียบดังดอกไม้งามเมืองกว่างผิงเลยทีเดียว ทั้งคู่นอนหลับจนนางรู้สึกมีมือหยาบกร้านมาลูบผม ซ่งจื่อหรูรู้สึกตัวจึงลืมตา พอเห็นคนที่ปรากฏตรงหน้าก็ลุกขึ้นทันทีสวมกอดแล้วร้องไห้"เหลียนฮวาหนูร้องไห้ทำไมกัน บอกปู่สิ"ส่งฮั่นเหลียงลูบหลังหลานสาว"คุณปู่คะ คุณปู่มาหาหนูสักทีอวิ่นห่าวเขามาไม่ได้อีกแล้ว หนูอยู่ที่นี่คิดถึงทุกคน""เหลียนฮวา ไปคุยกับปู่ข้างนอกเถอะ"ซ่งจื่อหรูหันไปมองคนที่นอนหลับข้างๆ หันกลับมามองหน้าปู่ของนาง"มาเถอะเขาไม่ตื่นหรอก"ซ่งฮั่นเหลียงบอกนางซ่งจื่อหรูจึงลุดเดินตามซ่งฮั่นเหลียงออกไป ทั้งคู่ยืนอยู่ริมระเบียงทอดมองลงมาที่โรงทอผ้าที่ก่อนหน้าเคยเป็นบ้านนางมาก่อนและเป็นสถานที่ๆเกิดเรื่องราว"คุณปู่คะ ทำไมตราประทับนั่งถึงเลือกหนู สกุลเฟิ่งผ่านมาหลายรุ่นเหตุใดต้องเป็นหนูที่มาแก้ไข""เดิมทีไข่มุกจันทราไม่ใช่ของดี ตั้งแต่ฮั่นอู๋ตี้ได้มันมาก็เริ่มเปลี่ยนไป โหดร้ายไล่ฆ่าคนไม่เลือกแม้กระทั่งบุตรตนเอง แต่ไข่มุกก็เสริมพลังอำนาจให้แก่เขา ตำหนักเทพในตอนนั้นออกอุบายให้เขาสร้างสุสานและบอกวิธีคืนชีพหลังจากตาย ค