หมู่บ้านหลี่ซานเสียงเรียกอยู่หน้าประตู จิงอี้จึงเดินไปเปิด ทันทีที่ทุกคนเห็นก็ทำสีหน้าสงสัยเหตุใดคนผู้นี้จึงไม่คุ้นใบหน้าสักนิด"เอ่อ คือว่าข้าชื่อจิงอี้ นั่นพี่ชายข้าจิงเสวียนเป็นหลานท่านอาฮั่วนะ ท่านอาฝากให้ข้าดูแลอาสะใภ้ตอนที่เขาไปทำธุระขอรับ"จิงอี้อธิบายให้ทุกคนฟัง จากนั้นพวกเขาก็พยักหน้ารับรู้ก่อนจะพากันเดินเข้ามา ซ่งจื่อเย่วกับซ่งจื่อห่าวทักทาย"อรุณสวัสดิ์ลุงใหญ่ ลุงรอง ป้าสะใภ้ทั้งสอง พี่รอง พี่สาม พี่ห้า อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะขอรับ"ซ่งจื่อเย่วซ่งจื่อห่าวทักทาย"อรุณสวัสดิ์ลุงใหญ่ ลุงรอง ป้าใหญ่ ป้ารอง"ซ่งจื่อหรูทักทายผู้อาวุโสตรงหน้า"อรุณสวัสดิ์ลุงใหญ่ลุงรองนี่คงเป็นป้าสะใภ้ทั้งสอง ข้าฮั่วหรานส่วนนั้นบุตรสาวของข้านางชื่อฮั่วเฟยเซียน พอดีสามีข้าไม่อยู่เลยมาอาศัยอยู่บ้านอาหรูสักพัก"ฮั่วหรานแนะนำตัวพร้อมกับชี้ไปยังบุตรสาวที่ยืนอยู่ข้างๆสองพี่น้องบ้านซ่ง"สวัสดีน้องสะใภ้ฮั่วนี่ลูกๆของพวกเรา"หลี่ต้าโจวอ่ยทักทาย ส่วนหลี่ต้าจูเขาพอคุ้นเคยกับนางบ้างแล้ว เมื่อทักทายทำความรู้จักกันเรียบร้อย ก็นั่งลงกินมื้อเช้า"พี่สี่ ข้าหิวจนจะกินท่านได้อยู่แล้ว ""ถิงถิง อย่ากวนพี่สี่ของเจ้าสิ "หวงซ
หลังจากที่หลี่ต้าโจวและหลี่หานเดินทางไปแล้ว ซ่งจื่อหรูก็ลงมือทำงานต่อ เดิมทีจะให้เด็กๆงมหินแต่เกรงอันตรายจึงล้มเลิกความคิด จากนั้นก็ให้นำไหไปช่วยกันล้าง มีหลี่อาไช่คอยควบคุมความเรียบร้อยซ่งจื่อหรูแกะเปลือกหน่อไม้ออก ฮั่วหรานนั่งเย็บขอบฝ้าฝ่ายที่ซ่งจื่อหรูตัดเป็นชิ้นๆให้ สามคนพี่น้องช่วยกันปลอกเปลือก จิงอี้และจิงเสวียนแบกตระกร้าเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อขนเปลือกเกาลัดมาทำเชื้อฟืนชาวบ้านตกตะลึงมีหนุ่มรูปงามมาจากไหนกัน แม้ว่าไม่เทียบเท่าพ่อลูกสกุลฮั่วแต่ก็นี่ก็รูปงามไม่น้อย ทั้งสองคนทำตัวไม่ถูกที่ถูกเหล่าป้าๆจ้องมอง"เอ่อ ข้าน้อยจิงอี้นี่พี่ชายข้าจิงเสวียนสวัสดีทุกท่าน พวกเราเป็นหลานท่านอาฮั่วขอรับเพิ่งจะมาอยู่ได้เพียงครึ่งเดือน""อ้อๆๆ เป็นหลานพี่ฮั่วนี่เองข้าก็ว่าอยู่ บ้านเจ้านี่รูปงามทั้งบ้านจริงๆ สาวๆในหมู่บ้านกลางคืนจะละเมอกันไหมล่ะเนี่ย"ชาวบ้านคนนึงหยอกเย้า เมื่อทักทายกันเรียบร้อยก็ช่วยทั้งสองโกยเปลือกเกาลัดใส่ตระกร้า ทางด้านซ่งจื่อหรูติดไฟตั้งน้ำต้มหน่อไม้ เสียงหูเจียวเจียวตะโกนเรียกมาแต่ปากประตูรั้ว"อาหรู ข้ามาแล้ววันนี้หูจื่อขอมาเล่นกับจื่อห่าวด้วย"หูเจียวเจียวจุงมือน้องชายเดินเ
เกวียนวัวของหลี่ซ่งเหวินเดินทางมาถึงตัวตำบล ก็ตรงไปที่ร้านจินปู่เตี้ยนเพื่อรับชุดของทั้งสามคน หลี่ต้าโจวเองก็มีชุดใหม่เช่นกันหลี่หานเป็นคนซื้อให้เขา น้องสี่บอกแล้วว่าข้างนอกให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก จากนั้นก็ไปรับหลี่เหิงที่สำนักศึกษา ได้พบกับอาจารย์อู๋จี๋เจ้าของสำนัก"คาราวะท่านอาจารย์อู๋ ข้าน้อยหลี่ต้าโจวเป็นบิดาของหลี่เหิงขอรับ พวกเรามารับเขาไปเข้าสอบ""อืม...ข้ายังเสียดายหากปีนี้เขาไม่ลงสอบอีกก็ต้องถูกให้ออกจากที่นี่ แล้วสองคนข้างเจ้านั้นจะเดินทางไปสอบด้วยหรือ"อู๋จี๋มองไปยังหลี่หานและเอ้อหลาง"ขอรับคนนี้บุตรชายคนรองชื่อหลี่เหิง เด็กอีกคนเป็นบุตรชายของซิ่วไฉหมู่บ้านขอรับ""อ้อ บุตรชายของเจ้าไม่ได้มาเรียนด้วยกัน คุณชายหลี่น้องชายท่านหลี่ต้าเหวินก่อเรื่องไว้ไม่น้อย ว่าแต่เจ้าหนูเจ้ามั่นใจแค่ไหนกันในเมื่อไม่เคยมาเรียน"ประโยคหลังอาจารย์อู๋หันไปถามหลี่หาน"ตอบอาจารย์อู๋ ข้าน้อยเองก็มิมั่นใจเท่าใดนัก แต่น้องสาวข้าบอกว่าจงลงมือทำแม้ทำไม่ได้ก็ยังดีกว่ามานั่งเสียใจว่าไม่เคยได้ทำขอรับ ข้าอยากให้นางภูมิใจ แม้จะมีความหวังเพียงน้อยนิด""ฮ่าๆๆๆๆ คุณชายหลี่ท่านมีลูกที่ดียิ่งนัก น้องสาวเจ้า
ก๊อกๆๆๆ"ท่านเจ้าเมือง ด้านนอกมีคนมาพบใต้เท้าขอรับ"ทั้งสองมองหน้าก่อนจะหยุดบทสนทนาเซี่ยอวิ๋นจึวเอ่ยถามเจ้าหน้าที่ด้านนอก"เป็นผู้ใดได้บอกนามหรือไม่ มาด้วยเหตุอันใด""กุนซือเซี่ย ท่านผู้นั้นมิได้เอ่ยสิ่งใดเพียงแต่ให้ข้าน้อยนำสิ่งนี้มาให้ เขาบอกว่าจะรอพวกท่านที่สวนไผ่ทิศตะวันออกของเมืองขอรับ"เสี่ยอวิ่นเปิดประตูรับของสิ่งนั้นมาส่งให้เซี่ยหนานอิน พอเห็นของสิ่งนั้นเขาก็รีบร้อนออกไปทันที แต่ไม่วายกำชับให้คนรับใช้ส่วนตัวเก็บอาหารเหล่านั้นเอาไว้ห้ามทิ้ง ยังกินไม่อิ่มเลยถ้าไม่ใช่คนสำคัญเขาจะทิ้งมาได้อย่างไรเด็กคนนั้นหากเอามาเป็นแม่ครัวที่จวนคงได้ลาบปากทุกวันเพียงไม่นานรถม้ามาถึงสวนไผ่ก็พบบุรุษสี่คนยืนรออยู่ สองคนนั้นแต่กายคล้ายทหาร ส่วนอีกสองคนแม้ว่าเสื้อผ้าจะธรรมดาแต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้นน่าเกรงขาม เขาเดาได้ทันที"ข้าน้อยเซี่ยหนานอินเจ้าเมืองกว่างผิงถวายพระพรจ้าวอ๋องพะย่ะค่ะ คาราวะซื่อจื่อขอรับ"เซี่ยหนานอินคาราวะจ้าวเฟยหย่งกับจ้าวเฟยหรง"อืมใต้เท้าเซี่ย หรือจะให้ข้าเรียกท่านว่านายน้อยเฟิ่งดี"จ้าวเฟยหย่งเอ่ยปากทักทายเซี่ยหนานอิน"ท่านอ๋องล้อกระหม่อมเล่นแล้ว เหตุใดถึงเรียกเช่นนั้นเล่าพะย่
สองพ่อลูกออกจากป่าไผ่ตรงไปยังที่นัดพบกับคนของฮ่องเต้ จ้าวเฟยหย่งเห็นสีหน้าบุตรชายมีคำถามมากมาย ก็คิดว่าถึงแม้ต้องบอกความจริงสักที เมื่อขึ้นหลังม้าก็ควบออกจากเมือง มาถึงกลางทางจึงผ่อนแรงให้ม้าเดินเหยาะๆ จากนั้นก็เอ่ยปาก" หรงเอ๋อร์ ลูกสงสัยใช่ไหมว่าเหตุใดเสด็จลุงเจ้ากับพ่อจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของสกุลเฟิ่ง"จ้าวอ๋องถามบุตรชาย"พะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ แค่สุสานหลวงแห่งหนึ่งลูกมองเยี่ยงไรก็หาความสมเหตุสมผลมิเจอ สมบัตินั้นสามารถทำให้ทั้งสี่แคว้นยอมก่อสงคราม องค์ชายต่างๆยอมก่อกบฏเชียวหรือพะย่ะค่ะ หรือว่าเป็นภูเขาทองคำกัน""ลูกเคยได้ยินเรื่องกองทัพมังกรดำหรือไม่?""เคยได้ยินมาบ้างพะย่ะค่ะ ว่ากันว่าก่อตั้งโดยราชวงศ์ก่อนหน้าดูเหมือนจะเป็นฮ่องเต้พระองค์แรกของราชวงศ์หนาน หนานฉู่เยี่ยน ใช่หรือไม่พะย่ะค่ะ""ถูกต้อง หนานฉู่เยี่ยนก่อตั้งกองทัพมังกรดำ ว่ากันว่ามีอนุภาพมากนัก""หากเป็นเช่นนั้น เหตุใดราชวงศ์หนานจึงล่มสลายแตกเป็นสี่แคว้นล่ะพะย่ะค่ะเสด็จพ่อ ในเมื่อกองทัพเกรียงไกรเช่นนั้น""กองทัพมังกรดำถูกฝึกให้หลบซ่อนออกฆ่า รุกรับ เดินหน้าถอยทัพไม่มีใครเทียบ แต่พวกเขาเชื่อฟังเพียงป้ายคำสั่ง ไม่ใช่คนไม่ว่าผู้
วันนี้ซ่งจื่อหนูตื่นแต่เช้า สี่วันมานี้หมู่บ้านสงบเรียบร้อย ไม่ไดัยินเสียงแม่เฒ่าหลี่ด่าผู้ใด นางยังคงปรนนิบัติบุตรชายหลี่ต้าเหวินอยู่ในบ้าน หลังจากลุงใหญ่หลี่ต้าโจวเดินทางนางก็อาละวาดยกใหญ่ จนสะใภ้ใหญ่หวังซื่อลุกขึ้นมาอาละวาดบ้าง ไล่กวดตีนางไปทั่วหมู่บ้าน ชาวบ้านเห็นใจแม่เฒ่าหลี่แต่ก็พูดเพียงว่า"ป้าหลี่ นางเป็นเช่นนี้ก็เพราะบุตรชายท่านมิใช่หรือ วันหลังท่านก็อย่าโวยวายจนกระตุ้นความคลั่งของนางก็สิ้นเรื่อง""น่านสิเจ้าคะ ป้าหลี่โบราณว่าอย่าถือสาคนสติไม่ดี ท่านเป็นคนสติครบถ้วนเหตุใดไม่ยับยั้งตนเองด่ากราดไปทั่วจนอาการนางกำเริบ""พากเจ้าๆๆๆ แต่ละคนรวมหัวกันรังแกยายเฒ่าอย่างข้าฮือๆๆเจ้าข้าเอ๊ยใครก็ได้มาดูที"แม่เฒ่าหลี่นางลงไปทุบอกชกหัวร้องห่มร้องไห้ หวังซื่อได้ยินก็วิ่งมานั่งร้องไห้แข่งกับนางบ้าง จนหลี่ม่านอวี้กับหลี่ต้าจูต้องมาพานางกลับไป ปล่อยแม่เฒ่าหลี่อยู่กลางลานไร้คนสนใจ หลี่อ้ายเสิ่นอับอายจนไม่อยากออกจากบ้าน ตั้งแต่วันนั้นนางจึงเงียบมาตลอด ส่วนหลี่ต้าเหวินไม่แน่ใจว่าวางแผนอันใดอยู่เสียงตีฆ้องดังมาจากทางหน้าหมู่บ้าน เด็กๆวิ่งออกไปดูเนื่องจากยังเช้าอยู่ ชาวบ้านจึงยังคงอยู่ในบ้าน เมื่
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทางการกลับไปแล้วซ่งจื่อหรูจึงถือโอกาสเข้าเมือง อีกสามวันจะเซ่นไหว้บรรพบุรุษจำเป็นต้องซื้อของ วันนี้ท่านปู่จะกลับมาแล้วยังไงก็ต้องต้อนรับ ไม่รู้ว่าทางบ้านใหญ่จะทำอย่างไรบ้างหลี่ม่านอวี้กับหลี่ถิงถิงเรียนรู้การทำอาหารจากซ่งจื่อหรูไปบ้างนางสอนเท่าที่วัตถุดิบในบ้านจะหาได้นางไม่ต้องการให้แม่เฒ่าหลี่กับบุตรชายได้ผลประโยชน์เดิมทีตั้งใจรอฟังข่าวจากทางด้านเซี่ยหนานอินติดต่อมาก่อน แต่ว่านางไม่อยากหวังมากนัก ลงมือก่อนได้เปรียบจึงทำผัดหน่อไม้แห้งกับสามชั้น มันเทศในบริเวณที่ดินของบ้านตนปลอกแล้วนำมานึ่ง จากนั้นก็ตากแดดเด็กน้อยคนนั้นรู้สึกจะเป็นหลานชายของปู่หกกลับบ้านไปนำตระแกรงมาให้สี่ใบ ซ่งจื่อหรูนำใบบัวมาลวกน้ำร้อน ก่อนจะนำไปผึ่งให้แห้งจากนั้นก็ห่อมันเทศหนึบ ตักผัดหน่อไม้แห้งกับหมูสามชั้น ต้มหน่อไม้แห้งพะโล้กับเครื่องในหมูที่เหลือใส่ในโถหลังจากที่พะโล้ของเขียงหมูจางต้าหู่โด่งดังก็ไม่มีผู้ใดไม่กล้ากินเครื่องในอีกหมูในมิติตัวโตมากแล้ว แม่พันธุ์ที่ตั้งท้องก็ใกล้คลอด ต้องหาทางนำออกมาสักทีไก่เหล่านั้นอีกมีสามร้อยกว่าตัวแต่ละตัวโตเกือบสามชั่งแล้ว ขืนยังให้อยู่ในมิติผักที่นางอุ
ซ่งจื่อหรูถามเขา เมิ่งหยวนมีสีหน้าตกใจแต่ก็พยักหน้า เดิมทีนางต้องการขึ้นเขาแต่เพราะห่วงความปลอดภัยคนในบ้านจึงไม่กล้าออกไป แม้ว่าจิงอี้และจิงเสวียนจะคอยดูแล แต่นางสังเกตุว่าพวกเขาจะหายไปทุกๆยามอวิ๋น(03.00-04.59) หลี่ต้าเหวินเป็นคนเจ้าเล่ห์ นางไม่ไว้ใจหากทิ้งเด็กๆไว้"เจ้ารู้จักหญ้าเหมันต์หรือ แม้ว่าท่านตาเจ้าจะมีความรู้มากมายแต่หญ้าชนิดนี้แม้แต่หมอก็มิแน่ว่าจะรู้จัก อีกทั้งยังหายากข้าเคยเห็นแต่ภาพวาด กับรู้เพียงวิธีใช้" เมิ่งหยวนถามซ่งจื่อหรูนางพยักหน้าให้เขา"ข้ารู้จักเจ้าค่ะ แต่ที่หายากเพราะต้องหาตอนกลางคืนเท่านั้น ท่านหมอเมิ่งอาการอาสะใภ้จะกำเริบอีกครั้งเมื่อไหร่เจ้าคะ""สมุนไพรที่เจ้าให้นางแช่มีสรรพคุณดีมาก น่าจะไม่กำเริบอีกครึ่งเดือน นี่เป็นยาบำรุงช่วงนี้ยาเดิมห้ามใช้แล้ว ไม่เช่นนั้นหากนางต่อต้านฤทธิ์ยาจะยิ่งรักษายากขึ้น ข้าต้องไปแล้วมีคนไข้รออยู่ นังหนูเจ้าเป็นคนมีความสามารถทีเดียว ถ้าเป็นคนอื่นคงทำอะไรไม่ถูก"เมิ่งหยวนไม่รับค่ารักษา จากนั้นก็สะพายล่วมยาเดินจากไป ซ่งจื่อหรูมองตาม ลักษณะเช่นนี้ย่อมไม่ใช่หมอชาวบ้านแน่ๆ กระบี่จ่อคอขนาดนั้นหากเป็นคนธรรมดาย่อมตกใจจนเข่าอ่อนแล้ว แต่เขา
เซี่ยหนานอินถูกเจ้าอาวาสลากไปเด็กสามคนจึงเป็นอิสระ ซ่งจื่อเย่ว ซ่งจื่อห่าวและจ้าวเฟยเซียนอยู่กับจางอวี้เซียน มีองครักษ์ของจวนเจ้าเมืองดูแล จิงอี้ถูกสั่งห้ามเข้าใกล้หลี่อ้ายเสิ่น จนกว่าจะแต่งงานนางถูกหลี่ไหลฝูพาไปฟังธรรมด้านในด้วยเดินมาถึงหลังวัดส่วยเอี๊ยหลี่ม่านอวี้ก็นั่งลงบนก้อนหินกลางป่าท้อ"นั่งก่อนเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว"หลี่ม่านอวี้ถอนหายใจ"พี่สาม ท่านคิดอะไรอยู่ทำไมดูท่านทำหน้าสงสัยตลอดเวลา"ซ่งจื่อหรูเห็นสีหน้าพี่สามเหมือนท้อใจตอนที่จิงอี้เดินมาหาหลี่อ้ายเสิ่น"เมื่อคืนอาเขยไปหาอาเล็ก ตอนที่ท่านปู่ไปคุยเรื่องแต่งงานของนางที่บ้านปู่ใหญ่" หลี่ม่านอวี้พูดไปถอนหายใจไป"อาเขย เจ้าหมายถึงจิงอี้หรือ"จิงเสวียนถาม"เจ้าค่ะพี่จิงเสวียน เขาบอกให้ข้าเรียกเขาอย่างนั้น อาเขยนำปิ่นปักผมไปให้อาเล็ก ข้าบอกว่าเข้าไม่ได้ท่านปู่สั่งไว้ เขาก็อ้อนวอน ข้าจึงให้แค่แป๊บเดียว""จากนั้นล่ะ เกิดอะไรขึ้น ท่านปู่พี่จับได้หรือ" หูเจียวเจียวหูผึ่งก่อนมานั่งจะดักหน้าหลี่ม่านอวี้แล้วถามนาง" เปล่าหรอกเจียวเจียว ข้าให้เวลาอาเขยแค่ครึ่งเข่อ พอเห็นท่านปู่มาก็จะไปตามเขา แต่พอเปิดประตู ก็เห็นเขากัดปากอาเล็กอยู่ ริมฝีป
ถึงเวลาอาหาร วันนี้ทุกคนกินข้าวที่บ้านของซ่งจื่อหรู ฮั่วเฟยหย่งเอ่ยกับพวกเขา"เรื่องที่จิงอี้ทำนับว่าร้ายแรง แม้กฎเกณฑ์ต้าเหลียงไม่เข้มงวดตีกรอบเกินไป แต่นั่นคือทั้งชีวิตของสตรี พวกนางต้องเสียสละร่างกายคลอดบุตรให้เจ้า ต้องคอยดูแลบ้านช่อง หากต่อไปใครชิงสุกก่อนห่ามไม่เข้าออกตามธรรมเนียมข้าไม่เอาไว้แน่ จะรักใคร่นอกกายข้าไม่ว่า แต่ห้ามเลยเถิดจนกว่าจะเข้าหอ"ประโยคสุดท้ายเว้นไว้ให้เจ้าเด็กบ้าเฟยหรงนี่ หากไม่ให้ได้ชิมน้ำหวานเลยคงอกแตกตาย"พะย่ะค่ะ "ทุกคนรับคำพร้อมเพรียงจากนั้นก็กินข้าวต่อ หลังมื้อเย็นทุกคนรีบนอน เช้าต้องไปแต่เช้า ซ่งจื่อหรูอยากเข้าไปในมิตินึกถึงกรอบรูปที่อยู่ๆก็มาวางบนเตียง แต่พรุ่งนี้ต้องเดินทางเลยเว้นไปก่อนหลี่เหิงถือเสื่อเข้ามา แต่จ้าวเทียนเฟยบอกว่าพื้นนั้นเย็นเกินไป ให้ขึ้นมานอนด้วยกัน เขาลังเลอยู่พักใหญ่เกรงว่าจะไม่สมควร จ้าวเทียนเฟยบอกว่า ให้หลี่เหิงนอนด้านใน เวลาเขาทำธุระจะได้ปลุกง่ายหลี่เหิงได้นอนที่บ้านก็สบายใจหลับไม่รู้เรื่อง แม้กระทั่งถูกคนตัวโตเอาเปรียบเขาเกือบค่อนคืน ตื่นมาได้แต่งงคิดว่าตนเองถูกยุงหรือมดกัด แต่ทำไมพี่เทียนเฟยถึงไม่มีรอยอะไรเลยยามเหมาทุกคนตื
ลานบ้านหลี่ หลี่ไหลฝูยืนอยู่กำลังจะซัดฝ่ามืออกไป หลี่อ้ายเสิ่นวิ่งไปขวางเขาปกป้องจิงอี้ที่นอนกระอักเลือดอยู่ หลี่ต้าโจวกับหลี่ต้าจูถูกบิดาโยนไปคนละทิศละทาง"ท่านลุงหลี่ค่อยพูดเถอะ นี่มันเรื่องอะไรกัน จิงอี้เจ้าว่ามาสิ"จ้าวเฟยหย่งไกล่เกลี่ย จิงอี้พยุงตัวเองขึ้นหลี่ไหลฝูวรยุทธไม่เลวเลย เทียบกับท่านอ๋องเขาสูสีทีเดียว ใครจะรู้ช่างไม้หมู่บ้านกันดารจะมีฝีมือขนาดนี้"นายท่าน ข้าต้องการแต่งงานกับอ้ายเสิ่น แต่ผู้เฒ่าหลี่ไม่ยอมขอรับ""นางยังไม่ถึงวัยปักปิ่นด้วยซ้ำ อีกตั้งครึ่งเดือน เจ้ารอวันนั้นค่อยพูดคุยไม่ได้หรือไง" จิงเสวียนดุน้องชาย"พี่ใหญ่ข้ารอไม่ได้หรอก อ้ายเสิ่นนางก็รอไม่ได้ด้วยหากจิงอี้น้อยรอไม่ไหวจะทำไง ข้ากับนางเอ่อ ป่านนี้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวน้อยในท้องนางเกิดหรือยังอาจเกิดแล้วมั้ง"หลี่ไหลฝูซัดฝ่ามือใส่จิงอี้ด้วยความโมโห จ้าวเทียนหยางที่ไม่รู้ว่าโผล่มาตอนไหนสกัดฝ่ามือเขาจนไปปะทะต้นไม้ในบ้านหักโค่นลงมาจิวเสวียนหอบหายใจด้วยความโมโหที่นี่ไม่มีคนอื่นเขาจึงเค้นฟันพูดกับน้องชาย"หานจิงอี้ ไอ้เด็กสารเลวหากเป็นชาวบ้านจะไปอะไรลับล่อๆก็ยังพอทน แต่เจ้าเป็นใคร ท่านลุงรู้เรื่องนี้จะว่าอย่างไรหรือต
ห้องรับรองตำบลซานสุ่ย มีเซี่ยหนานอินนั่งอยู่ด้านบน เซี่ยอวิ๋นนั่งอยู่ซ้ายมือด้านข้าง ถัดไปคือมีกังฉินนายอำเภอ เจ้ากรมโยธา หลี่ไหลฝู หลี่ฝูเหยา ด้านขวามีซ่งจื่อหรู จ้าวเฟยหย่ง จ้าวเฟยเหรงนั่งอยู่ แผนที่เมืองของมณฑลกว่างผิงถูกกางออกบนโต๊ะ เผยให้เห็นเส้นทางน้ำขนาดใหญ่น้อย ซ่งจื่อหรูใช้พู่กันกากบาทจุดที่เรือควรจอดแวะ จึงได้ทั้งหมด ห้าท่าเรือ“หากสร้างท่าเรือตามนี้จะใช้เวลานานเท่าใด” เซี่ยหนานอินถามขึ้น“ใต้เท้างบประมาณคือเงินส่วนตัวของท่านเพียงแค่แปดหมื่นตำลึงจะสร้างพร้อมกันไม่ได้เจ้าค่ะ มีท่าเรือก็ต้องมีที่พักท่านลองออกประกาศหานายทุนเชื่อข้าสิว่าต้องมีคนร่วมลงทุนแน่ๆ”“นายทุนคือสิ่งใดอาหรู แล้วพวกเขาจะยอมให้เงินแก่เราหรือ”จ้าวเฟยหย่งไม่เข้าใจสิ่งที่นาพูดซ่งจื่อหรูจึงอธิบาย“ท่านอาฮั่ว นายทุนคือคนที่ออกเงินให้เรา ก่อน ท่านเจ้ากรมท่านคำนวนที่ดินจากริมฝั่งออกมา ปล่อยเช่าที่ดินให้คนที่ต้องการทำโรงเตี๊ยมและร้านค้าต่างๆเช่าค้าขาย ทำสัญญาระยะยาวสิบปีต่อสัญญาทุกๆสามปี จ่ายค่าเช่ารายเดือน เก็บมัดจำครึ่งหนึ่ง สร้างใกล้เสร็จเก็บส่วนที่เหลือ หากไม่จ่ายภายในเวลาที่กำหนดถือว่าผิดสัญญา จากนั้นให้ปล่อย
อาหารเสร็จแล้ว เด็กๆถูกองค์ชายห้าพาไปเล่นบนเขาแต่เช้าแล้ว ลูกเสือขาวนอนหลับลุงใหญ่ถามนางว่าเจ้าของแพะถามว่านางรับซื้อหรือไม่ เขาต้องการเงินเป็นค่าสินสอดให้บุตรชาย นางมีเงินจากการขายหมูคราวก่อนหากจะใช้ก็ไม่แปลก จึงตกลงซื้อแพะสองตัวและวัวสามตัวจากบ้านท่านป้าคนนั้น หลังเตรียมอาหารเสร็จเด็กๆกลับมาแล้ว เซียวอวี้หรานกำลังจับล้างหน้าล้างตาเพื่อมานั่งกินข้าว หลี่ไหลฝูเดินมาหา ซ่งจื่อหรูจัดโต๊ะนอกบ้าน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะท่านปู่ เมื่อคืนหลับสบายหรือไม่เจ้าคะ" ซ่งจื่อหรูเดินไปคล้องแขนชายชรามานั่ง"อรุณสวัสดิ์ท่านปู่ ขอให้สุขภาพแข็งแรงเจ้าค่ะ/ขอบรับ"ซ่งจื่อเย่วกับซ่งจื่อห่าวก็ลุกขึ้นคำนับเช่นกันจ้าวเทียนเฟยเอ่ยทักทาย หลี่ไหลฝูมองออกว่าครอบครัวฮั่วเฟยหย่งไม่ใช่คนธรรมดา จึงไม่คิดถือสาเรื่องมารยาท"วันนี้ปู่จะเรียกชาวบ้านมาคุย เรื่องว่าต้องขึ้นเขาใช้ไม้ชนิดใดสร้างสะพาน ช่วงบ่ายจะไปตำบล วาดโครงสร้างท่าเรือ เจ้าเองก็สามารถวางค่ายกลทำงานช่างได้ ก็ไปด้วยกันหลายคนจะได้ช่วยกันคิด"หลี่ไหลฝูบอกหลานสาว"ก็ดีเจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นช่วงเช้าก็แบ่งงานในหมู่บ้านก่อน ช่วงบ่ายค่อยเข้าตำบล อ้อท่านอาฮั่วมาพอดี"ซ่งจื่อห
ทุกคนกินอาหารพูดคุยกันหลี่อ้ายเสิ่นที่ตนเองไม่มีผู้ใดสนทนาด้วยจึงลุกออกจากลานต้นไหวเดินกลับบ้าน เผอิญสวนกับจ้าวเฟยหรงจึงทักทายเขาจ้าวเฟยหรงแค่เพียงพยักหน้า เท้าของหลี่อ้ายเสิ่นหนักอึ้งนางผิดหรือที่เกิดเป็นบุตรสาวของหญิงผู้นั้นทุกคนไม่สนใจนางแล้วนางจะหน้าด้านอยู่ทำไม อยู่ๆก็มีมือแข็งแกร่งมากระชากนางลากไป รู้อีกที่นางก็ติดอยู่กับกำแพงในบ้าน จิงอี้มองหน้านาง"ข้าบอกเจ้าแล้วว่าห้ามยุ่งกับคุณชายข้าหรือที่ข้าเตือนเจ้าไม่คิดฟัง"จิงอี้กดหลี่อ้ายเสิ่นกับกำแพง"ข้าแค่บังเอิญเจอเขา แล้วอย่างไรหากข้าอยากคุยแล้วทำไม หากเขาชอบข้าแล้วอย่างไรท่านมีสิทธ์อะไร"หลี่อ้ายเสิ่นโมโหคนตรงหน้า"เจ้าไม่คู่ควรกับเขา เจ้าอย่าใฝ่สูงเกินไปนัก"เพี๊ยะหลี่อ้ายเสิ่นสะบัดหลุดออดมาก่อนจะตบหน้าจิงอี้จนหันทันที"ข้าคู่ควรหรือไม่ก็ให้เขาตัดสินใจ ไม่ใช่เจ้ามาข่มขู่ข้า อื้อๆๆๆๆ"จิงอี้ไม่ปล่อยให้นางพูดจบเขาก้มลงประกบปปากนาง หลี่อ้ายเสิ่นใช้มือสองข้าทุบตีผลักเขาออก แต่ก็ไม่เป็นผล จิงอี้ปล่อยนางก่อนจะมองจ้องหน้า"วันหลังจำให้ดี ข้าไม่ได้ขู่เจ้า"" จิงอี้ ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้า คนสารเลวเจ้าว่าข้าเป็นลูกหญิงแพศยาแล้วเจ้าเล่า เอา
ภรรยาของคนเหล่านั้นไม่เต็มใจที่จะมาหมู่บ้านกันดารแต่เพราะขัดสามีตนเองไม่ได้ ทุกคนนั่งลงหลี่ฝูเหยากล่าวเริ่มงานเลี้ยง อาหารตรงหน้าทำให้สตรีทั้งหลายไม่กล้ากินแม้แต่บรรดาอาจารย์ในสำนักศึกษาก็ลังเล ยกเว้นกัวฉิน เซี่ยหนานอิน และอู๋จี๋ พวกเขาเคยได้ทานพวกมันแล้วจึงรู้ว่าอร่อยไม่นานนักก็มีรถม้ามาเพิ่มอีกสามคัน จางอวี้เซียนก้าวลงมา ตามด้วยจินเหนียงและบุตรสาว คันที่สองคือจางต้าหู่ คันสุดท้ายเถ้าแก่เหลียง ซ่งจื่อหรูเข้าไปทักทายพวกเขา"สวัสดีเจ้าค่ะท่านอาจาง ท่านลุงเหลียง พี่จินเหนียง พี่อวี้เซียน ข้าเตรียมโต๊ะไว้ให้พวกท่านแล้ว"เซี่ยหนานอินเห็นสตรีที่เดินตามซ่งจื่อหรูมาก็จำได้นางคือคนที่เขียนจดหมายร้องเรียนขอหย่าบิดาแทนมารดา เพื่อทวงสินเดิมที่ถูกยึดไปกลับคืน เนื่องจากบิดาแต่งอนุโดยที่ภรรยาเอกไม่เห็นชอบ" นี่คือผู้นำทั้งสามหมู่บ้านที่เราจะร่วมมือกันเจ้าค่ะ ส่วนนี่คือท่านปู่ของข้าหลี่ไหลฝู ทุกท่านพวกเขาคือเถ้าแก่ที่ข้าต้องการให้เป็นคนกระจายสินค้าของพวกกเราในอนาคต เถ้าแก่ร้านท่านนี้คือจินเหนียงแห่งร้านจินปู่เตี้ยน นี่คือเถ้าแก่จางแห่งร้านหนึ่งในใต้หล้าจางอวี้เซียน เถ้าเแก่เหลียงเว่ยแห่งร้านธัญพืช
หลี่เหิงกลับมาแล้ว หลี่ม่านอวี้หลี่อ้ายเสิ่นและบรรดาท่านป้าในหมู่บ้านมาช่วยงานที่บ้านของซ่งจื่อหรู เหล่าบุรุษทั้งหลายถูกสั่งให้ไปนำหญ้าเหมันต์ลงปลูก เกาฟ่านกับเกาหม่ารับคำสั่งให้ไปติดต่อกับเกาหยวนเพื่อซื้อข่าวจากหอฮวาเซียงจ้าวเทียนเฟยออกมานั่ง เขาอมยิ้มทันทีที่มองเห็นหนุ่มน้อยคนเมื่อเช้ากำลังช่วยน้องสาวและเหล่าบรรดาสตรีทั้งหลายที่วุ่นวายอยู่หน้าเห็นตาคอยฟังคำสั่งซ่งจื่อหรู ว่าอาหารชนิดไหนทำเช่นไร มีหน่อไม้เส้น มีหน่อไม้ดอง รากบัว กุ้งมังกรน้อย มีหอยขม ที่เด็กๆช่วยกันจับแต่เช้าเห็ดสนที่ให้เด็กๆขึ้นเขาชิงลั่วไปหามา นางทำปลาเปรี้ยวหวาน สามชั้นต้มหน่อไม้แห้ง หอยขมผัดพริกหมาล่า กุ้งมังกรอบน้ำมันพริก รากบัวต้มกระดูกหมู หน่อไม้ดองต้มปลา หน่อไม้ดองผัดเครื่องในไก่ ไก่ขอทาน เครื่องในหมูพะโล้ และสามชั้นตุ๋นผักกาดอง ของหวานคือผลบัวหิมะ และผูเถาที่นางเอาออกมาจากมิติ แต่ทำทีว่าเก็บมาจากต้นที่ปลูก เนื่องจากติดลูกดกมากจึงไม่มีใครสงสัยกุหลาบนางแอบเอาไปตากในมิติตอนนี้สามารถชงชาได้แล้ว มีเกษรดอกบัว ชาดีบัว ของเหล่านี้ต้องให้พวกเขาลิ้มลอง หากต้องการเปิดตลาดในต้าเหลียงต้องอาศัยปากต่อปาก ยุคนี้ไม่มีโซลเ
บ้านเชิงเขาซ่งจื่อหรูทำอาหารเสร็จแล้ววันนี้มีอาหารไม่มากเพราะต้องจัดงานเลี้ยง เห็นจิงเสวียนเดินมารับสำรับจึงหาจังหวะเอ่ยถามสิ่งที่ต้องการ"พี่จิงเสวียน ตอนที่ข้าไม่อยู่นอกจากจางอวิ๋นคนนั้นยังมีใครมาที่นี่บ้าง"" นอกจากจางอวิ่นยังมีอีกสามคนที่เหลือน่าจะเป็นคนติดตาม มีอะไรหรือเปล่า" จิงเสวียนถามนางกลับซ่งจื่อหรูส่ายหน้า"ไม่มีอะไร ี่จิงเสวียนข้ามีเรื่องอยากให้ท่านช่วยแต่เรื่องนี้แม้แต่พี่หรงก็ห้ามรู้ ท่านรับปากข้าได้หรือไม่"จิงเสวียนพยักหน้าเขารับสำรับอาหารไป จ้าวเทียนหยางโดดเข้ามา พร้อมมองหาน้องๆตัวน้อย เขาจะพาเด็กพวกนี้ไปเล่นบนเขา จ้าวเทียนหยางมาถึงก็เรียกหาเด็กทั้งสอง"แม่นางน้อย เซียนเอ๋อร์กับจื่อเย่วตื่นหรือยัง""คงกำลังพับพ้าห่มอยู่กระมัง ท่านมีอะไร"ซ่งจื่อหรูยังเอ่ยไม่จบจ้าวเทียนหยางก็หายไปในห้องครู่เดียวก็อุ้มเด็กน้อยสองคนออกมามีซ่งจื่อห่าวขี่หลังอีกคน ใช้วิชาตัวเบาพาเหินไปบนเขาซ่งจื่อหรูร้องห้ามแต่ไม่ทัน ฉินลู่ที่เพิ่งกลับมาต้องรีบตามไป องค์ชายนะองค์ชายก็รู้ว่านางหวงน้องๆเพียงใด โรคเก่าของท่านกำเริบหรือไงนะ" อาหรู หยางเอ๋อร์กัยเฟยเอ๋อร์มักชอบเล่นกับเด็กๆลูกของบ่าวในจวนเสมอ