"เหตุใดตอนนั้นท่านไม่พูดเช่นนี้"
หลี่จงยังคงไม่เชื่อสิ่งที่พี่ชายกล่าวหาพี่สะใภ้เขา แต่หากมองความเป็นจริงอย่างใจเป็นกลาง หรือว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ทุกวันครบรอบการจากไปของพี่สะใภ้ ที่พี่ชายเขาไม่เคยไปเยี่ยมหลุมศพนางเลยเพราะฝังใจเรื่องนี้มาโดยตลอด
"ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนที่เชื่อเพียงสิ่งที่ตาเห็น ใจที่เจ้าแอบรักหยวนชิงตั้งแต่ก่อนที่นางจะแต่งกับข้าเลยไม่เชื่อสิ่งที่ข้าเล่า เจ้าโชคดีแล้วที่มิใช่ผู้ถูกนางเลือก มิเช่นนั้นเจ้าจะเจ็บปวดเช่นข้าจนถึงทุกวันนี้"
หลี่จงได้แต่นั่งเงียบหลังจากฟังพี่ชายระบายความลับนี้ออกมา
จะเป็นดั่งพี่ชายเขากล่าวมาจริงหรือ สตรีจิตใจดีมีเมตตาอย่างหยวนชิงจะสมสู่กับปีศาจ หากเป็นเช่นนั้นจริง หยวนชิงจะใช้เวลาตอนไหนออกไปพบเจอกับปีศาจตนนั้นในเมื่อหลี่ต้งไม่เคยให้นางออกจากเรือนไปที่ใดเลยด้วยซ้ำ
"ท่านพ่อ ท่านบอกข้าได้หรือไม่ ปีศาจที่สังหารท่านแม่คือปีศาจตนใด"
หลี่ชิงชิงปาดน้ำตาออกจากแก้ม
ความเสียใจแปรเปลี่ยนให้นางกลายเป็นคนเข้มแข็งและฝังแค้นไว้ในอก
"เจ้าถามเพื่อการใด จะแก้แค้นแทนแม่เจ้าหรือ"
หลี่ต้งประชดประชันบุตรสาว หากแต่เสียงตอบกลับที่แสนหนักแน่นของดรุณีน้อยตรงหน้าทำเขากลั้วหัวเราะออกมาอย่างทนไม่ไหว
"เจ้าค่ะ ข้าจะแก้แค้นแทนท่านแม่"
"ฮ่า ๆ แม่เสือยังไม่คิดจะกินลูกตนเอง หากเจ้าฆ่าปีศาจที่เป็นผู้ให้กำเนิด แค่คิดก็เนรคุณ อกตัญญูแล้ว"
เสียงหัวเราะอย่างกับคนสติวิปลาสของหลี่ต้งทำเอาหลี่ชิงชิงกำหมัดแน่นทั้งสองข้าง
นางมิได้โกรธเคืองสิ่งที่บิดาดูถูก นางเพียงแค่แค้นใจตัวเองที่เกิดมาเป็นเช่นนี้ จะแก้แค้นก็กลายเป็นลูกอกตัญญู หากปล่อยผ่านนางคงไม่กล้าไปพบหน้ามารดาที่ปรโลก
"เสี่ยวชิงเจ้าอย่าไปเชื่อพ่อเจ้าเลย อารู้จักแม่เจ้าดี หยวนชิงไม่มีทางเป็นดั่งที่พ่อเจ้ากล่าวหา อาว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรเข้าใจผิดเป็นแน่"
"ฮ่า ๆ หลี่จงหนอหลี่จง เจ้าช่างภักดีต่อหยวนชิงเสียจริง หากข้ารู้ว่าเจ้ารักนางมากเช่นนี้ ข้าคงมิแย่งนางมาจากเจ้า"
หลี่ต้งสติแตกไปแล้ว เขาส่ายหน้าอย่างเวทนาน้องชายแท้ ๆ ใช้วาจาเหยียบย่ำความรู้สึกที่แสนบริสุทธิ์ของน้องชายที่มีต่อเขาและพี่สะใภ้อย่างหยวนชิง
"พี่ใหญ่ ข้ายอมรับว่าเมื่อก่อนข้าชอบพี่สะใภ้ แต่ข้ามิเคยคิดแย่งนางจากท่าน เพราะข้ารู้ว่าทั้งหัวใจนางมีแค่ท่านผู้เดียว"
"พูดได้ดี ๆ แต่น่าเสียดาย สิ่งที่เจ้าเชื่อใจหยวนชิงข้าไม่เชื่อนางเลยสักครึ่งใจ ข้าตาสว่างตั้งแต่เห็นนางไปพบปีศาจตนนั้นที่ตีนเขาแล้ว เจ้าบอกเองมิใช่หรือว่าข้ารักนางมากถึงขั้นไม่ให้ออกจากเรือน แล้วเหตุใดวันนั้นนางต้องไปโผล่ที่ตีนเขาลูกนั้นทั้ง ๆ ที่ท้องแก่ใกล้คลอดกัน"
หลี่ต้งจ้องตาน้องชายอย่างไม่ลดละ เขามองเห็นความวูบไหวไขว้เขวในดวงตาของหลี่จงครู่หนึ่ง
"วันนั้นพี่สะใภ้อาจจะ..."
หลี่จงเงียบเสียงเมื่อหาข้อแก้ต่างให้หยวนชิงไม่ได้
"เจ้าแก้ตัวให้นางไม่ได้ เพราะไม่มีเหตุผลอื่น นอกจากพี่สะใภ้เจ้าต้องการลักลอบไปพบชู้ปีศาจของนางอย่างไรเล่า"
หลี่จงอยากจะแย้ง ทว่าพอเห็นหลี่ชิงชิงนั่งนิ่งราวกับสติล่องลอยจึงได้แต่หักห้ามใจเอาไว้ไม่ต่อเถียงอีกคน
เวลาเช่นนี้ความรู้สึกของหลี่ชิงชิงสำคัญที่สุด ต่อให้เขาหาความจริงมาพูด หลี่ต้งคงหาเรื่องมาโต้แย้งให้หลานสาวผู้นี้สับสนเพิ่มความบอบช้ำมากกว่าเดิมอยู่ดี
"ดูเจ้าสิ พอหาเหตุผลมาเถียงต่อไม่ได้ก็ได้แต่เงียบ ยอมรับเสียเถอะว่าคนที่นั่งข้างเจ้าตอนนี้เป็นลูกของหยวนชิงกับปีศาจ..."
"กรี๊ด!!!"
หลี่ต้งยังพูดไม่จบประโยคดี หลี่ชิงชิงที่เงียบมานานก็กรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียง พลันร่างทั้งร่างของนางก็มีเพลิงสีเขียวมรกตพวยพุ่งออกมาแผดเผาทุกอย่างที่อยู่ใกล้
โชคดีที่ทั้งหลี่ต้งและหลี่จงวิ่งหนีออกห่างทัน อัคคีแสนร้อนแรงนั้นจึงแผดเผาเพียงกระท่อมจนมอดไหม้ภายในพริบตา
ฮึ่ม!
เสียงฟ้าคำรามดังห่าใหญ่พร้อมกับเม็ดฝนมากมายหลั่งเป็นสายดับเพลิงอัคคีนั้นในพริบตา
ตุบ...
ดรุณีน้อยสลบล้มลงบนพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำฝนเวทย์
"กางค่ายกลเกล็ดพิรุณ"
นักพรตในอาภรณ์สีขาวเหินลงจากฟ้าปรากฏขึ้นตรงหน้าของหลี่ต้งและหลี่จง ผู้มาเยือนสั่งลูกศิษย์อีกสามคนร่ายเขตอาคมล้อมรอบตัวหลี่ชิงชิงเอาไว้
"ท่านคือ..."
"ท่านคือ..."หลี่จงเคยเห็นการแต่งกายเช่นนี้ หากแต่เขากลับไม่รู้ชื่อนักพรตหญิงตรงหน้า"ข้าคือเจ้าสำนักเมฆาล่องลอย หยวนจี""ท่านแซ่หยวนหรือ ไม่ทราบท่านเกี่ยวข้องอันใดกับหยวนชิง"หลี่ต้งได้ยินชื่อแซ่ของนักพรตท่านนี้จากปากนางเองจึงใคร่สงสัย"เจ้ารู้จักหยวนชิง?"เจ้าสำนักหยวนจีทั้งดีใจระคนแปลกใจที่ชาวบ้านผู้นี้เอ่ยนามของพี่น้องร่วมสาบานนาง"นางคือพี่สะใภ้ข้า" หลี่จงเป็นคนตอบคำถามเพราะกลัวพี่ชายจะพลั้งปากพูดอะไรไม่เข้าหูนักพรตหญิงตรงหน้าเข้า"เช่นนั้นเองรึ ข้ากับหยวนชิงเป็นศิษย์จากสำนักเมฆาล่องลอยรุ่นแรก ถูกเจ้าสำนักรุ่นก่อนเก็บมาเลี้ยงจึงใช้แซ่เดียวกัน เปรียบเสมือนพี่น้องร่วมสาบานกัน"เจ้าสำนักเมฆาล่องลอยหยวนจีอธิบายสิ่งที่สกุลหลี่ไม่เคยรู้มาก่อนให้ฟัง"เหตุใดพี่สะใภ้ถึงไม่เคยบอกเรื่องนี้แก่เรา""เรื่องนี้หากเล่าแล้วยาวนัก เมื่อยี่สิบปีก่อน หยวนชิงกับข้าต่างก็ถูกอาจารย์หมายหัวไม่คนใดก็คนหนึ่งจะต้องได้ขึ้นเป็นเจ้าสำนักคนต่อไป ทว่าหยวนชิงมีนิสัยเป็นคนรักอิสระ ไม่ชอบอยู่ในกฎในเกณฑ์ นางไม่อยากถูกจองจำไว้ที่เขาเมฆาที่เงียบสงบนั้น สุดท้ายจึงตัดสินใจหนีลงจากเขาและปกปิดตัวตนจากสำนักเมฆาล่องลอยไม่ใ
แปดปีต่อมา..."สงบดั่งสายน้ำ แข็งแกร่งดั่งภูผา เมตตาดั่งท้องนภา คุณธรรมยิ่งใหญ่เหนือทั้งปวง"เสียงท่องปณิธานของสำนักเมฆาล่องลอยดังขึ้นจากเหล่าดรุณและดรุณีน้อยรุ่นที่แปดของสำนักศึกษาแห่งนี้"เสี่ยวโยวเจ้าว่าศิษย์พี่ห้ากำลังเข้าฌานหรือหลับกันแน่"เสียงกระซิบดังขึ้นเบา ๆ หลังจากศิษย์รุ่นเยาว์ท่องกฎของสำนักศึกษาจบไปสามรอบแล้ว ทว่าศิษย์พี่ที่ทำหน้าที่สอนสั่งพวกเขาในวันนี้กลับนั่งขัดสมาธิหลับตานิ่งไม่ออกคำสั่งอันใดเฉกเช่นทุกวัน"ข้าว่าศิษย์พี่ห้าต้องหลับแน่ ๆ"เจ้าของชื่อเสี่ยวโยวตอบกลับพลางป้องปากส่งต่อแผนการที่ผุดขึ้นมาในหัวหมาด ๆ ให้กับเหล่าศิษย์ชั้นเดียวกันส่งต่อจนครบทุกคน"พร้อมนะ"ดรุณีน้อยเสี่ยวโยวที่ทั้งแสบ ทั้งแก่นแก้ว ผู้นำจอมวางแผนมองสบตาศิษย์คนอื่น ๆ พร้อมทั้งส่งสัญญาณชูนิ้วขึ้นทีละนิ้วจนครบสามนิ้วแล้วเอ่ย"คำนับอาจารย์อาหยวนอวิ๋น"เสียงเหล่าศิษย์วัยเยาว์จอมแสบดังลั่นจนคนที่แอบงีบหลับสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินว่าผู้ใดมา"ศิษย์พี่ใหญ่ข้าไม่ได้หลับนะเจ้าคะ""ฮ่า ๆ ศิษย์พี่ห้าถูกพวกเราหลอกแล้ว"บรรดาศิษย์รุ่นเยาว์ต่างพากันหัวเราะเสียงลั่นเมื่อปลุกคนขี้เซาที่แอบหลับได้สำเร็จ ทว่าเวลาต่อม
"อาจารย์ป้า"ทันทีที่มาถึงที่พำนักส่วนตัวของเจ้าสำนักหยวนจี หลี่ชิงชิงก็รีบเข้ามากอดมาหอมผู้มีพระคุณของนางทันที"นี่ผู้ใดกัน เหตุใดถึงไม่คุ้นหน้า"หยวนจีแกล้งเย้าแหย่หลานรักเล่น ทำเอาคนถูกแกล้งถึงกับอมลมจนแก้มป่องทั้งสองข้าง แต่ก็แค่ประเดี๋ยว แก้มน้อย ๆ นั้นก็ซุกถูบนตักนิ่มของหยวนจีอย่างออดอ้อนเช่นเดิม"ชิงชิงคิดถึงอาจารย์ป้าที่สุดเจ้าค่ะ"มือบางเอื้อมขึ้นมาลูบผมบุตรสาวของศิษย์น้องนางที่ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าด้วยความเอ็นดู"คิดถึงอาจารย์แล้วตั้งใจใฝ่เรียน ฝึกในวิชาหรือไม่"คำถามแรกพุ่งเป้าไปเช่นนี้เลยหรือ แต่ไม่เป็นไร หลี่ชิงชิงไม่เคยออกนอกลู่นอกทางอยู่แล้ว"ตอนนี้ข้าฝึกชำระจิตที่ถ้ำเหมันต์จนเรียกว่าสนิทกับภูติน้ำแข็งได้แล้ว"คนถูกถามคุยโวโอ้อวดอย่างภูมิใจ"หืม... เหมือนเรื่องนี้จะเป็นเรื่องเล่าตั้งแต่อาจารย์ยังไม่เข้าฌานมิใช่หรือ"คนถูกจับได้ว่าแอบเกเรวิชาไม่เลื่อนขั้นถึงกับยิ้มแห้งหัวเราะแหะ ๆ แก้เขิน"โธ่ ท่านป้าคนสวย ชิงเอ๋อร์หมายถึงว่าตอนนี้มีเพื่อนเป็นภูติน้ำแข็งเพิ่มมาอีกเป็นกองทัพ เยอะกว่าเมื่อก่อนตั้ง..."นัยน์ตาน้ำหมึกกลอกกลิ้งไปมาคล้ายกำลังนับจำนวนในใจ เวลาที่หลี่ชิงชิงจะออดอ
แดนสวรรค์ , หุบเขาวังมังกรฟ้า"เรียนมหาเทพ นายท่านยังไม่ออกจากฌานขอรับ"ภูติหิ่งห้อยอาเล่ย ภูติรับใช้คนสนิทของเทียนหั่วหลงรายงานมหาเทพผู้ครองแดนสวรรค์ที่วันนี้เขามีเรื่องต้องคุยกับเจ้าของหุบเขาวังมังกรฟ้าแห่งนี้ให้กระจ่าง"ข้าจะเข้าไปดึงเจ้ามังกรหัวดื้อออกจากฌานให้ท่านเอง"เสียงหงุดหงิดใจของพยัคฆ์ขาวไป๋จินซวนเอ่ยขึ้นเดิมที่วิสัยของไป๋จินซวนชอบอิสระ เป็นหนุ่มเจ้าสำราญ พูดจาโผงผาง หากคนไม่สนิทด้วยจะมองว่าเขาก้าวร้าวไม่รู้จักยำเกรงผู้อาวุโสกว่า"เจ้าเสือขาวอันธพาล เอะอะก็จะใช้แต่กำลัง"เสียงสตรีนางหนึ่งเหินเวหาลงมายืนเคียงข้างมหาเทพเทียนวั่งพร้อมกล่าวตำหนิไป๋จินซวน"หงส์เพลิงเช่นเจ้ากล้าตำหนิผู้อาวุโสกว่าเช่นข้ารึ!""ทำไมจะไม่ได้ในเมื่อเจ้าแก่แต่อายุ หากสมองอ่อนกว่าข้ายิ่งนัก"หงส์เพลิงจูฮวาเหยียน สตรีนางเดียวที่เป็นหนึ่งในสี่สัตว์เทพแลบลิ้นปริ้นตาเย้าแหย่คู่กัดอย่างพยัคฆ์ขาวไป๋จินซวน"พวกเจ้าสำรวมด้วย"เสียงทุ้มมาพร้อมรูปลักษณ์ที่สงบนิ่งและงดงามของเต่าดำเสวียนอวี่ดังปราม"คาราวะมหาเทพเทียนวั่ง"ผู้อาวุโสสุดอย่างเต่าดำรีบค้อมคำนับองค์มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ ทำให้ทั้งไป๋จินซวนและจูฮวาเหยียนรีบ
"มนุษย์ผู้ใดถึงได้มีอาคมแก่กล้าสามารถปิดผนึกพลังสัตว์เทพอย่างพวกเราได้"เสวียนอวี่กล่าวอย่างสงสัย"ผู้ที่สามารถผนึกพลังเทพได้ต้องเป็นขั้นปรมาจารย์หรือไม่ก็นักพรตที่บำเพ็ญเพียรไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยปีมนุษย์"ทั้งเต่าดำและมังกรฟ้าต่างคิดเช่นเดียวกับสิ่งที่มหาเทพเทียนวั่งกล่าว"ที่เจ้าออกฌานในครั้งนี้เพราะสะสมพลังวิญญาณได้มากแล้วหรือ"มหาเทพเทียนวั่งรับรู้ถึงพลังที่ไหลเวียนในตัวของตนเองเพิ่มพูลขึ้น เช่นนี้แปลว่ามังกรฟ้าคงสั่งสมพลังมาได้มากเช่นกัน"ได้กลับคืนมาประมาณหนึ่ง แต่ยังไม่เพียงพอถึงห้าในสิบส่วน"เข้าฌานมาครึ่งปี อย่างน้อยพลังใหม่บวกพลังเก่าที่หลงเหลืออยู่ต้องได้กลับคืนมามากกว่าแปดส่วนถึงจะถูก หากเป็นเช่นนี้เท่ากับว่าการเข้าฌานของเขาเสียเวลาเปล่าแล้ว"หรือเพราะพลังวิญญาณครึ่งหนึ่งของเจ้าอยู่กับมนุษย์ ทำให้การเพิ่มพลังวิญญาณขัดแย้งกัน"เทียนหั่วหลงก็คิดเช่นเดียวกับที่มหาเทพเทียนวั่งกล่าว"แล้วเหตุใดจู่ ๆ เจ้าถึงออกจากฌาน หรือว่าพวกข้ามารบกวน" เสวียนอวี่ถามไถ่บ้าง"มิใช่เพราะเหตุนั้น เมื่อครู่แม้จะแค่ประเดี๋ยวเดียวแต่ข้าก็รับรู้ได้ถึงพลังวิญญาณที่หายไป""หมายความเช่นไร"ไม่ใช่แค่มหาเทพ
"ศิษย์จะรีบไปรีบกลับ ท่านเจ้าสำนักโปรดดูแลตนเองด้วย"วันนี้เป็นวันที่หลี่ชิงชิงจะได้ลงเขาครั้งแรกตั้งแต่มาอาศัยอยู่ที่นี่บรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้องต่างพากันมายืนส่งนางลงเขาด้วยความเป็นห่วง ยกเว้นคนเดียวที่ใบหน้าบ่งบอกถึงความสุขยามที่ไม่มีนางอยู่บนเขาเมฆาแห่งนี้"ศิษย์น้องห้า เจ้าต้องรักษาตัวเองให้ดี อย่าได้ใจร้อนโผงผาง พบเจอมิตรจงผูกไมตรี หากพบอันตรายจงเอาตัวรอดให้ได้"หยวนอวิ๋นกล่าวสั่งสอนศิษย์น้องที่เขาทั้งรักและเอ็นดูนางเป็นที่สุด โดยหารู้ไม่ว่าการกระทำที่อบอุ่นของเขาทำให้จิตใจของสตรีนางหนึ่งเกิดความมืดขึ้น"ศิษย์น้องสาม เจ้าดูสายตาศิษย์พี่ใหญ่สิ อาลัยอาวรน้องห้ายิ่งนัก"หงยวี่ ศิษย์ลำดับที่สองของสำนักเมฆาล่องลอยพูดเชิงเสี้ยมให้อีกคนที่มีใจให้กับหยวนอวิ๋นเกิดความคับแค้นใจต่อหลี่ชิงชิงสองมือแน่งน้อยกำหมัดแน่นยามที่ได้ฟังคำยุยงนั้นของศิษย์พี่รองนาง"ท่านเจ้าสำนักจะให้น้องห้าลงเขาคนเดียวหรือเจ้าคะ"เยว่ฟางปรับเปลี่ยนสีหน้าได้เร็วยิ่งนัก ความมาดร้ายในดวงตาเมื่อครู่หายไปแล้ว มีแต่ความใสซื่อปรากฎขึ้นแทนหงยวี่เห็นศิษย์น้องสามตีสองหน้าเก่งเช่นนี้ถึงกับชื่นชมในใจ"ความจริงมีเสี่ยวเซียงไปกับข
"ว้าว! ที่นี่หมู่บ้านตงเหลียงของเจ้าหรือ"หลังออกจากประตูมิติของเจ้าสำนักหยวนจี กว่างเซียงเซียงก็ได้เปิดหูเปิดตากับบรรยากาศของหมู่บ้านนอกเขตเขาเมฆาในรอบหลายสิบปี"แต่ก่อนไม่เห็นสวยงามเช่นนี้เลย"หลี่ชิงชิงมองบ้านเกิดตนเองพลางวิเคราะห์ตอนที่นางอยู่จนถึงเก้าขวบ เหตุใดหมู่บ้านไม่ครึกครื้นเช่นตอนนี้ ดูเสาโคมไฟที่สูงตระหง่านตรงนั้นสิ เมื่อก่อนไม่เห็นจะมี แล้วไหนจะต้นไม้ดอกไม้ที่ขึ้นทั้งสองข้างทางเดินเข้าหมู่บ้านอีก ตอนที่นางแปดเก้าขวบยังไม่เห็นจะผลิดอกชูช่อสวยงามเช่นตอนนี้สักนิด"ข้าอยากเห็นข้างในหมู่บ้านเจ้าแล้ว รีบเข้าไปเถอะ"กว่างเซียงเซียงตื่นเต้นกว่าเจ้าของถิ่นเกิดเสียอีก นางทั้งดึงพลางวิ่งนำให้หลี่ชิงชิงที่ดูโอ้เอ้เดินตามให้ไว"ช้าก่อนเซียงเซียง"จู่ ๆ หลี่ชิงชิงก็รู้สึกถึงความผิดปกติของหมู่บ้านแห่งนี้ถึงแม้นางจะจากไปถึงแปดปีแล้ว แต่หมู่บ้านที่ห่างไกลเมืองหลวงไร้ขุนนางเหลียวแลมาแต่ไหนแต่ไร ไม่น่าเจริญจนสวยงามรวดเร็วถึงเพียงนี้ ลางสังหรณ์บางอย่างกำลังบอกนางว่าอย่าเข้าไปเด็ดขาด"มีอะไรหรือ"กว่างเซียงเซียงรีบหยุดเท้าที่กำลังจะก้าวข้ามเขตเสาโคมที่อยู่ด้านหน้าทางเข้าหมู่บ้าน"ข้ารู้สึก
"เจ้าดูนั่น ของกินเยอะแยะเลย"หลังจากเข้ามาในดินแดนมายาอย่างไม่รู้ตัว ทั้งกว่างเซียงเซียงและหลี่ชิงชิงยังคงเดินวนเวียนอยู่เพียงตลาดกลางหมู่บ้าน พวกนางวิ่งเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ราวกับหลงลืมว่ามาที่หมู่บ้านนี้เพื่อการใด"ข้าต้องซื้อไก่กลับไปฝากท่านอาสี่ แล้วก็สุราเลิศรสไปฝากท่านพ่อ"หลี่ชิงชิงกำลังถูกวิชามายาควบคุมจิตใจ นางเดินไปยังร้านขายไก่สดเพื่อซื้อไก่ดั่งใจหมาย เสร็จแล้วจึงไปที่ร้านสุราเพื่อซื้อสุราหมักขึ้นชื่อของหมู่บ้านมาไหหนึ่ง"ชิงชิงเจ้ามาดูนี่สิ หอมจัง ข้าอยากกิน"กว่างเซียงเซียงกวักมือเรียก นางยืนอยู่หน้าร้านขายเกี๊ยวน้ำกลิ่นหอมโชยมาแต่ไกลจนท้องน้อย ๆ ส่งเสียงประท้วง"เถ้าแก่ ขอเกี๊ยวน้ำสองชาม"กว่างเซียงเซียงเห็นสหายรักเดินมาจวนจะถึงร้านจึงรีบสั่งเถ้าแก่ตัวอ้วนพุงพุ้ย"มานั่งนี่มาหลี่ชิงชิงสหายรักข้า บ้านเกิดเจ้านี่ช่างงดงามจนข้าไม่อยากกลับเขาเมฆาอีกเลย"แววตากว่างเซียงเซียงไร้ประกายขัดแย้งกับสิ่งที่นางกล่าว หากคนดีใจหรือชมชอบสิ่งที่เป็นอยู่ดวงตานั้นต้องเป็นประกาย เหตุใดสหายตรงหน้าดวงตาถึงได้อับแสงลงเช่นนั้น"เกี๊ยวน้ำของเสี่ยวชิงกับเสี่ยวเซียงมาแล้ว"เสียงเถ้าแก่ร้านเกี๊ยว
"เป็นพระมหากรุณาธิคุณเพคะ"หลี่ชิงชิงแอบชำเรืองมองเห็นมังกรฟ้ายิ้มให้ตนอยู่จึงรีบหลบสายตานั้นบ้าจริง! ทำไมนางต้องใจสั่นเช่นนี้ด้วย พวงแก้มก็ร้อนวูบวาบ หัวใจยังมาเต้นแรงจนยากควบคุมอีก"หงส์เพลิงจูฮวาเหยียน""เพคะมหาเทพ""แม้เจ้าจะมีความชอบในศึกครั้งนี้ หากแต่ไม่สามารถลบล้างความผิดก่อนหน้าได้""เรียนมหาเทพ หากเป็นเรื่องสับเปลี่ยนตะวันจันทรา เป็นข้าเองที่ไหว้วานหงส์เพลิงให้ทำเช่นนั้น"เทียนหั่วหลงรู้ว่ามหาเทพเทียนวั่งจะกล่าวโทษเรื่องนี้กับหงส์เพลิงจึงรีบบอกความจริง"มังกรฟ้าไหว้วานข้าก็จริง แต่ถ้าข้าไม่ยินดีทำก็ไม่มีผู้ใดบังคับได้ มหาเทพโปรดลงทัณฑ์ข้าในเรื่องนี้เพียงผู้เดียวด้วย""ฮวาเหยียน"จูฮวาเหยียนคลี่ยิ้มให้กับมังกรฟ้าที่ส่งแววตาเสียใจและรู้สึกผิดให้นาง'ข้าเต็มใจทำเพื่อท่าน'จูฮวาเหยียนบอกทางสายตาให้กับมังกรฟ้า และนางเชื่อว่าคนฉลาดเช่นเขาอ่านแววตานั้นของนางออก"เช่นนั้นเจ้าจงไปรับผิดที่ตำหนักห้วงกาลเวลาของเทพรัตติกาลจู๋อวี่เสีย""น้อมรับพระบัญชามหาเทพ""บัดนี้ทั้งสามพิภพสงบสุขแล้ว ข้ามหาเทพเทียนวั่งขอบคุณทุกการเสียสละของทุกคนในศึกครั้งนี้"กล่าวจบมหาเทพเทียนวั่งก็เร้นกายกลับแดนสุ
หมับ!เทียนหั่วหลงเห็นแววตามุ่งมั่นนั่นแล้วรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย เขารั้งข้อมือนางไว้แน่น"ข้าจะปลอดภัย"หลี่ชิงชิงหันกลับมาส่งแววตาหวานซึ้งมาให้เขา ในประกายนั่นบอกให้มังกรฟ้าเชื่อใจนาง"เจ้าต้องปลอดภัยกลับมา"หลี่ชิงชิงยิ้มกว้างแทนคำตอบนางหันหน้ากลับไปเผชิญกับจอมมารบรรพกาลที่อยู่ในร่างของหงยวี่บรรยากาศรอบตัวหลี่ชิงชิงเปลี่ยนไป นางถูกพลังของธาตุทั้งห้าที่มองไม่เห็นห้อมล้อมเอาไว้แววตามาดมั่นเต็มไปด้วยความเยือกเย็นไม่ต่างจากเทพสงครามเฉินเสวี่ยทุกย่างก้าวที่หลี่ชิงชิงก้าวเดินเกิดเป็นคลื่นน้ำรองรับน้ำหนักของนาง"จอมมารชั่ว! เจ้าทำลายสำนักเมฆาล่องลอย เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ รวมถึงอาจารย์ป้าของข้า!"ทุกคำของนางช่างหนักหน่วง แววตามุ่งมาดหวังทำลายศัตรูตัวร้ายตรงหน้า"เจ้าลืมผู้ใดอีกหรือไม่"จอมมารบรรพกาลยั่วยุอีกคนให้นึกถึงอดีตที่แสนเจ็บปวดแววตาหลี่ชิงชิงวูบไหวไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับมาแน่วแน่ดังเดิม"ข้าจะลืมแค้นของท่านแม่ ท่านพ่อ และอาสี่ได้อย่างไร!"วันที่นางรอคอยในที่สุดก็มาถึง หลี่ชิงชิงจะได้ล้างแค้นให้กับครอบครัวที่ล่วงลับเพราะจอมมารตนนี้เสียที"วาจาสามหาวใช้ได้ วิญญาณของแม่เจ้า พ่อเจ้
: เจ้าสาวของมังกรฟ้า :มังกรฟ้าพาหลี่ชิงชิงออกมาจากห้วงจิตของนางได้สำเร็จ"มาได้สักที"มังกรทมิฬฝืนใช้พลังจนเฮือกสุดท้ายจึงเอ่ยประชดเล็กน้อยที่เห็นสหายทำภารกิจลุล่วงหลี่ชิงชิงตื่นจากการควบคุมของจอมมาร นางรีบใช้คัมภีร์เหมันสดับสวรรค์ชำระล้างพร้อมขับไล่วิญญาณชั่วร้ายที่หลงเหลืออยู่ออกจากกายจนหมดสิ้น"พวกเจ้า! พวกเจ้ากล้าขัดขวางแผนการครองใต้หล้าข้า!"เสียงแห่งความเกรี้ยวกราดของจอมมารบรรพกาลดังขึ้น มันใช้พลังทั้งหมดสะบั้นแส้อัสนีกาลของมังกรทมิฬจนขาดกระจายอั่ก!เมื่อเอ็นมังกรถูกทำลาย มังกรทมิฬจึงบาดเจ็บล้มฟุบลงกับพื้นพร้อมกระอักเลือดออกมาก่อนจะหมดสติ ดวงวิญญาณแตกกระจายหายไปกับอากาศ"หลงเซ่อ!"เสียงสัตว์เทพทั้งสี่ประสานกันด้วยความตกใจมังกรฟ้าเทียนหั่วหลงเคียดแค้นยิ่งนักที่ดวงจิตอีกดวงถูกทำลายไปต่อหน้าต่อตาตน"ข้าจะไม่ยอมให้การเสียสละของมังกรทมิฬสูญเปล่า"มังกรฟ้าได้พลังวิญญาณและอัคคีมรกตกลับมาทั้งหมดแล้ว ตอนนี้มันมีพลังเหนือปีศาจทั้งปวงเฉกเช่นแต่ก่อนเสียงดังเปรี้ยงปร้างพร้อมแสงวาบสว่างไสวปรากฎขึ้นเหนือท้องนภาที่ย้อมไปด้วยสีราวเปลวเพลิงที่กำลังแผดเผา ไม่นานแส้พิฆาตของอัคคีมรกตก็ฟาดเข้ากั
ภายในห้วงจิตของหลี่ชิงชิงในเวลานี้แตกต่างจากครั้งแรกที่เทียนหั่วหลงเคยเข้ามาพื้นที่เวิ้งว้างแห่งนี้ถูกโอบล้อมไปด้วยทะเลหมอกสีดำทมึน กลิ่นไอความชั่วร้ายของจอมมารบรรพกาลกำลังกลืนกินทุกอย่างที่เป็นตัวตนของนางจากในห้วงจิตนี้มังกรฟ้าครุ่นคิดครู่หนึ่ง หากเขามัวแต่เดินสุ่มทิศทางอยู่แบบนี้คงหาเจ้าของห้วงจิตไม่เจอ เวลายิ่งมีจำกัดเขาจึงเปลี่ยนแผนการใหม่"กระดิ่งมังกรสำแดงฤทธิ์!"มังกรฟ้าใช้อาคมเรียกกระดิ่งมังกรที่อยู่บนตัวหลี่ชิงชิง เสียงกระดิ่งดังก้องกังวาลรอบกายยากแก่การเดาทิศทางที่มาของเสียงเทียนหั่วหลงรีบตั้งค่ายกลขจัดไอมารออกไปเพื่อเพิ่มการรับรู้ทิศทางของกระดิ่งมังกรให้ชัดเจนอั่ก!เขาสูญเสียพลังวิญญาณไปมาก การใช้อาคมเวทย์ยิ่งขั้นสูงและฝืนใช้มากเท่าไรยิ่งสะท้อนกลับตัวมังกรฟ้าเองมากเท่านั้นเทียนหั่วหลงกลับมาตั้งสมาธิอีกครั้ง เขาหลับตาลงพร้อมกับกำหนดจิตให้แน่วแน่ นึกถึงเพียงหลี่ชิงชิงจากก้นบึ้งของหัวใจ ไม่นานปรากฎแสงสว่างรำไรส่องอยู่ไม่ไกลจากจุดที่มังกรฟ้ายืนอยู่เทียนหั่วหลงมองเห็นคนที่ตามหากำลังนอนขดตัวอยู่บนพื้นโดยมีแสงสีขาวนั้นคอยปกป้องร่างหลี่ชิงชิงเอาไว้ทำให้จอมมารบรรพการไม่สามารถค
ตู้ม!จอมมารหงุดหงิดใจที่เหล่าเทพชั้นต่ำเอาแต่พร่ำบ่นให้เขารำคาญหูจึงซัดพลังโจมตีเทพที่มาใหม่จนได้รับบาดเจ็บเจียนตาย"เสวียนอวี่ ข้าฝากท่านส่งท่านเทพเหล่านั้นกลับสวรรค์ด้วย"มังกรฟ้าเคลื่อนสายตากลับมาสบมองจอมมารในร่างหลี่ชิงชิงต่อภายในอุ้งมือมังกรฟ้าเกิดเป็นกลุ่มพลังสายหนึ่งขึ้นมา"อัคคีมรกตพิฆาต!"การโจมตีที่หนักหน่วงและแข็งแกร่งของมังกรฟ้าสั่นสะเทือนไปทั้งสามภพ จอมมารปัดป้องได้ทว่าก็ถูกพลังโจมตีนั้นทำให้ได้รับบาดเจ็บประมาณหนึ่งเทียนหั่วหลงเห็นสีหน้าหลี่ชิงชิงเจ็บปวดใจเขาก็ปวดตาม'อดทนอีกนิด ข้าต้องช่วยเจ้าให้ได้'เทียนหั่วหลงกลับมารวบรวมพลังอีกครั้งเพื่อโจมตีจอมมารบรรพกาลการต่อสู้ของมังกรฟ้ากับจอมมารดำเนินไปหลายชั่วยาม ทั้งคู่ผลัดกันจู่โจมผลัดกันปัดป้อง พลังวิญญาณของมังกรฟ้าที่ได้จากหลี่ชิงชิงคืนมาจากครานั้นฟื้นคืนแปดส่วน หากแต่ตอนนี้เขาใช้จัดการจอมมารจนแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรงสู้ต่ออั่ก!เทียนหั่วหลงหลบการโจมตีครั้งนี้ไม่ทัน เขาถูกพลังมืดซัดเข้าเต็ม ๆ จนกระอักเลือดเหนียวข้นออกมามังกรทมิฬเห็นท่าไม่ดีหากปล่อยให้มังกรฟ้าสู้ตัวต่อตัวอีกแก่นวิญญาณคงแตกดับเป็นแน่"ข้าฝากทางนี้ด้วย"เท
คราที่หยวนอวิ๋นกำลังจะหมดแรงปรากฎสายอัสนีทมิฬฟาดลงมายังจอมมารบรรพการที่อยู่ในร่างของหลี่ชิงชิงเข้าอย่างจัง"จอมมารน่ารังเกียจ"มังกรทมิฬเทียนหลงเซ่อปรากฎเหนือเวหาด้วยท่วงท่าสง่างาม"คุณชายเทียน"กว่างเซียงเซียงเอ่ยนามผู้ที่เคยช่วยเหลือนางจากปีศาจบุปผา"เจ้ารู้จักเทพผู้นั้น"กว่างเซียงเซียงพยักหน้า หากแต่นางไม่ตอบกลับใด ๆ ในใจรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาหลายส่วนตั้งแต่คนผู้นี้ปรากฎกายขึ้น"เจ้ามีกลิ่นไอของข้า"จอมมารบรรพกาลสูดดมกลิ่นของมังกรทมิฬ"เป็นเพียงเศษเสี้ยวที่ถูกตัดทิ้งของเทพผู้สร้างยังกล้าเอาตัวเองมาเทียบเท่ากับข้า"คำพูดเสียดแทงใจของเทียนหลงเซ่อสร้างความเคืองขุ่นให้จอมมารหลายเท่า มันไม่รอเวลารีบใช้อาคมของเหมันต์สดับสวรรค์ขั้นสามซัดไปยังเทียนหลงเซ่อ"น่าขยะแขยง ยึดร่างกายผู้อื่นไม่พอ ยังลอบใช้พลังของนางอีก เจ้าคงไร้พลังจริง ๆ"เทียนหลงเซ่อหลบการโจมตีได้ก็หาเรื่องยั่วโมโหจอมมารทันทีคนถูกดูถูกแสยะยิ้มชั่วร้ายออกมา"มังกรทมิฬหน้าโง่ คิดหรือว่าเจ้าเพียงคนเดียวจะช่วยมนุษย์นางนี้จากข้าได้""ใครว่าคนเดียวกัน!"เสียงดุดันดังขึ้นพร้อมกับเพลิงกัลป์พวยพุ่งโจมตีร่างของหลี่ชิงชิงอย่างไม่ยั้งมือ"ห
: ศึกสัตว์เทพกับจอมมาร :ถ้ำบนเขาเซียนลู่ผ่านมาแล้วสามวันที่หลี่ชิงชิงแยกทางจากมังกรฟ้ากลับเขาเมฆา ผู้เป็นใหญ่เหนือปีศาจทั้งปวงยังคงไม่มีวี่แววจะฟื้นเทียนหลงเซ่อถ่ายทอดพลังอัคคีกาลเพื่อปลุกให้มังกรฟ้าตื่นจากการจำศีลซึ่งเป็นวิธีการรักษาชีวิตของเผ่ามังกรเมื่อแก่นพลังวิญญาณบาดเจ็บสาหัสจนอาจดับสูญ เผ่ามังกรจะเข้าสู่การจำศีลเพื่อรักษาแก่นพลังวิญญาณของตนไม่ให้ดวงจิตแตกดับอั่ก!เมื่อฝืนใช้พลังเกินขีดจำกัดในสภาพที่ฝืนแยกกายหยาบออกมาหลังหมดคืนจันทร์เพ็ญทำให้มังกรทมิฬบาดเจ็บสาหัสถึงแก่นพลังวิญญาณเช่นกัน เทียนหลงเซ่อกระอักเลือดออกมาทำเอาอาเล่ยที่คอยดูแลไม่ห่างตกใจ"ท่านมังกรทมิฬ!"อาเล่ยรีบเข้ามาช่วยพยุงมังกรทมิฬที่ใบหน้าซีดเซียวร่างกายไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาพักผ่อนบนโขดหิน"ท่านไม่เป็นอะไรนะขอรับ"ภูติหิ่งห้อยเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เทียนหลงเซ่อส่ายหน้าเล็กน้อยบอกว่าตนยังไหว"ทำไมนายท่านถึงยังไม่ฟื้นขอรับ"อาเล่ยมองไปยังมังกรฟ้าที่ยังคงนอนแน่นิ่งอยู่ที่เดิมเวลาผ่านมาตั้งหลายวันแล้ว พลังของมังกรทมิฬก็สูสีกับมังกรฟ้าเหตุใดถึงยังไม่สามารถปลุกนายเขาให้ตื่นได้"แก่นวิญญาณของหั่วหลงเสียหายเป็นอย่างมาก ต
หยวนอวิ๋นเห็นถึงความผิดปกติจึงเอื้อมมือไปเขย่าแม่บุญธรรมตนเบา ๆ หากแต่เพียงแค่ปลายนิ้วเขาแตะโดนอาภรณ์สีขาวสะอาดนั้นก็ถูกพลังบางอย่างสะท้อนทำร้าย"ไอมาร!"หยวนอวิ๋นรีบถอยห่างออกมาจากร่างของเจ้าสำนักหยวนจี ไม่นานไอสีดำก็พวยพุ่งเป็นกลุ่มควันลอยออกมาจากร่างของหยวนจีสร้างความแตกตื่นหวาดกลัวให้กับเหล่าศิษย์ทั้งหลาย"ไม่จริง! เป็นแบบนี้ได้เช่นไร"หลี่ชิงชิงมีพลังปราณแท้ตื่นรู้ที่บริสุทธิ์ ไอมารแค่นี้ทำอะไรนางไม่ได้ ร่างงามจึงเดินผ่ากลุ่มไอชั่วร้ายนั้นไปยังร่างของหยวนจีที่นอนสงบนิ่งนางสะบัดมือเพียงครั้งกลุ่มไอชั่วร้ายก็สลายหายไปจากพลังของเหมันต์สดับสวรรค์ขั้นชำระล้าง"อาจารย์ป้า"หลี่ชิงชิงเอื้อมมือไปประคองหยวนจีขึ้นมาพิงไว้ที่ตัวนางเองร่างกายของหยวนจียังอุ่นอยู่ นางเพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน เมื่อคำนวณดูเวลาแล้วน่าจะเป็นช่วงที่มีปีศาจกลุ่มนั้นปรากฎที่หน้าถ้ำ"ฝีมือใคร!"เสียงเย็นยะเยือกของหลี่ชิงชิงดังขึ้นบัดนี้ดาวของเจ้าสำนักหยวนจีดับมืดล่วงหล่นไปแล้ว"ศ...ศิษย์พี่...สาม"เสียงสั่นกลัวของศิษย์น้องเสี่ยวโยวดังขึ้นตอนที่เยว่ฟางปลิดชีพเจ้าสำนักหยวนจีนางไม่ได้สังเกตเห็นเสี่ยวโยวน้อยที่นอนอยู่ใต
: ตกสู่วิถีมาร :ครึ่งชั่วยามต่อมา...หลี่ชิงชิงนั่งเฝ้าเจ้าสำนักหยวนจีอย่างไม่หลับไม่นอน เมื่อเห็นว่าอาจารย์ป้าของนางชีพจรคงที ลมปราณกลับมาเดินปกติจึงผละออกมานั่งคิดถึงเทียนหั่วหลง นางไม่รู้ว่าป่านนี้มังกรฟ้าผู้นั้นจะฟื้นแล้วหรือยัง"กินอะไรก่อนเถิด"หยวนอวิ๋นที่เดินตรวจตราเขตอาคมปากถ้ำเสร็จจึงเดินกลับมาดูแลศิษย์น้องห้า เขาหยิบแผ่นแป้งทอดติดมือมายื่นให้หลี่ชิงชิง"ข้ายังไม่หิว"แม้หลี่ชิงชิงจะปฏิเสธแต่หยวนอวิ๋นก็มองออกว่าศิษย์น้องผู้นี้คงมีเรื่องในใจให้คิดจนกินอะไรไม่ลงมากกว่าเขาจึงเปลี่ยนวิธีแบฝ่ามือออกเพื่อขออะไรบางอย่าง"ถุงเฉียนคุน""อ้อ นี่เจ้าค่ะ"หลี่ชิงชิงรีบปลดถุงเฉียนคุนส่งคืนให้เจ้าของหยวนอวิ๋นรับมาก่อนจะเทเอาของบางอย่างออกมา"ลูกกวาด"หลี่ชิงชิงเห็นลูกกวาดหลากสีถึงกับดีใจ"อ้าปาก"หยวนอวิ๋นแกะลูกกวาดออกมาหนึ่งเม็ดพร้อมสั่งให้คนตาลุกวาวเมื่อเห็นของชอบอ้าปาก"หวานไหม""อื้อ"หลี่ชิงชิงเคี้ยวลูกกวาดที่ศิษย์พี่ใหญ่ป้อนให้ตุ้ย ๆ ด้วยความอารมณ์ดีหยวนอวิ๋นเห็นศิษย์น้องที่เอาแต่หน้านิ่วคิ้วขมวดมาหลายชั่วยามยิ้มออกเขาก็โล่งใจ เผลอเอื้อมมือไปลูบผมหลี่ชิงชิงด้วยความเอ็นดู"ก่อนหน