ความรู้สึกตกตะลึงระคนวิงเวียนนั้นเหมือนกับตอนที่เขาเปิดผ้าห่มของเยี่ยนเว่ยฉือเมื่อวันนั้นไม่มีผิดอายุยังน้อย แต่กลับมีรูปร่างที่… ยอดเยี่ยมเช่นนี้“อึก...” ซ่างกวนซีได้ยินเสียงตัวเองกลืนน้ำลายเวรเอ๊ย!จิตใจของเขากระเจิดกระเจิงอีกแล้ว!ซ่างกวนซีรู้ตัวว่าเขาควรรีบออกไปจากที่นี่ แต่ร่างกายของเขากลับไม่ค่อยเชื่อฟังเท่าใดนักเหตุใดมนุษย์เราถึงได้แตกแยกเช่นนี้ สมองนั้นมีเหตุผลและสติปัญญา แต่ร่างกายกลับละโมบจนไม่อาจสั่งการควบคุมได้ลองสัมผัสดีหรือไม่?ไม่ได้ ไม่ใช่สิ่งที่สุภาพบุรุษพึงกระทำแต่พวกเขาไม่ได้เป็นสามีภรรยากันหรอกหรือ?ไม่ ไม่ได้ ยังไม่ได้ผ่านพิธีไหว้ฟ้าดินแต่พวกเขาทั้งสองต่างก็มีความจริงใจต่อกัน ตราบใดที่เขาสามารถรับผิดชอบได้ แล้วมันจะผิดอย่างไร?ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ได้สัมผัสครั้งหนึ่ง ย่อมอยากสัมผัสครั้งที่สอง สัมผัสครั้งที่สอง ก็ย่อมอยากปลดเปลื้องเสื้อผ้าของนางออก สัมผัสครั้งที่สาม คงหนีไม่พ้นอยากตระกองกอดรัดให้แน่นหนาคนเรายิ่งได้ยิ่งโลภ ไม่มีคำว่าพอ!เขาทำไม่ได้ เขาทำเช่นนั้นไม่ได้!ซ่างกวนซีรู้สึกว่าตัวเองเจียนจะคลั่งตายเพราะเยี่ยนเว่ยฉือเต็มทีเขาจึงรีบรุดออ
นางตบหน้าอกเบา ๆ รู้สึกดีใจราวกับรอดชีวิตมาจากความตายเยี่ยนเว่ยฉือสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว พลางพูดด้วยความสิ้นหวัง “เมื่อไหร่กันที่ข้าถึงจะเลิกนิสัยชอบนอนเปลือยได้ ก่อนนอนยังสวมเสื้อผ้าดี ๆ อยู่เลย แต่พอหลับไปก็ถอดออกหมดเสียแล้ว คนยุคโบราณเหล่านี้ล้วนมีวิทยายุทธ์สูงส่ง สามารถลักลอบเข้ามาในห้องของผู้อื่นได้ราวกับเดินบนพื้นราบ หากถูกผู้อื่นมองเห็นเข้า ข้าคงต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงแน่ ๆ”แต่หารู้ไม่ว่าเรือนร่างของนางนั้นได้ถูกซ่างกวนซีจ้องมองและสลักลงในใจเรียบร้อยแล้ว…… โถงหลักอวี๋เฟยเหยียนยื่นมือออกไป โบกไปมาตรงหน้าซ่างกวนซีซ่างกวนซีขมวดคิ้ว ผลักมือเขาออก “ทำอะไร?”อวี๋เฟยเหยียนมองซ่างกวนซีด้วยความสงสัย “ศิษย์พี่ใหญ่ วันนี้ท่านดูแปลกไปนะ เหม่อลอยไปถึงไหนกัน? ไม่สบายหรือ? หรือเมื่อคืนนอนหลับไม่เต็มอิ่ม”เมื่อคืน...ซ่างกวนซีเม้มริมฝีปากด้วยความประหม่า โกหกไปว่า “ไม่มีอะไร แค่เป็นกังวลเรื่องน้ำมันตุงเท่านั้น”เรื่องนี้ทำให้อวี๋เฟยเหยียนหันเหความสนใจไปได้อวี๋เฟยเหยียนกล่าว “เมื่อวานนี้ข้าไปสืบมาแล้ว ทีแรกเพลิงไหม้บนหลังคาจวนองค์ชายรองนั้นกินรัศมีไม่กว้างนัก แต่มีสะเก็ดไฟปลิวไ
ซ่างกวนซีหันไปมองเยี่ยนเว่ยฉือ พบว่าใบหน้าของนางแดงก่ำราวกับจะหยดเป็นเลือดลงมาได้สองมือเล็ก ๆ กำเข้าหากันจนข้อนิ้วซีดขาวซ่างกวนซีรู้สึกสับสนในใจ รีบคว้าข้อมือของอวี๋เฟยเหยียนขึ้นมาจับไว้ “ในเมื่อกินอิ่มแล้วก็ออกไปกับข้า!”“เดี๋ยวสิ ๆ ๆ! ศิษย์พี่ใหญ่ อาหารยังไม่มาเลย กินอิ่มอะไรกัน!” ซ่างกวนซีไม่สนใจเสียงบ่นของอวี๋เฟยเหยียน ลากตัวเขาออกไปจากโถงหลักส่วนเยี่ยนเว่ยฉือนั้นนั่งตัวแข็งทื่อ ปิดหน้าตัวเองด้วยความอับอายอย่างที่สุดโอ้สวรรค์ นางทำอะไรลงไปกันนี่!ซ่างกวนซีลากอวี๋เฟยเหยียนออกไปจากจวนรัชทายาทเขาไม่ได้มีจุดหมายปลายทางที่ชัดเจน เพียงแค่รู้สึกว่าหากยังอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นต่อไป เยี่ยนเว่ยฉือคงจะยิ่งอับอายเข้าไปใหญ่อวี๋เฟยเหยียนลอบสังเกตซ่างกวนซีอยู่ตลอดเวลา อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อ “ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านเองก็อายุยี่สิบกว่าแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือก็เป็นว่าที่พระชายาที่ฝ่าบาททรงประกาศให้เหล่าขุนนางทราบโดยทั่วกัน แม้จะทำอะไรเกินเลยลงไปก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่เห็นต้องทำท่าทางรู้สึกผิดเช่นนี้เลย!”ซ่างกวนซีขมวดคิ้วมองเขา “ยังจะพูดอีกหรือ?”อวี๋เฟยเหยียนหัวเราะ “ก็ได้ ๆ ๆ ข้าไม่พูดแล้วก
การสนทนาของทั้งสามคนนั้น ซ่างกวนซีและอวี๋เฟยเหยียนได้ยินทุกคำสีหน้าของซ่างกวนซีเคร่งขรึม ส่วนอวี๋เฟยเหยียนก็กลั้นหัวเราะเสียปวดกรามซ่างกวนซีผุดลุกขึ้นจากที่นั่ง อวี๋เฟยเหยียนรีบวางเงินลงกับโต๊ะแล้วตามออกไป“ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่ใหญ่ อย่าโกรธเคืองไปเลย ในสถานการณ์เช่นนั้น เยี่ยนเว่ยฉือไม่มีทางเลือกอื่นจึงจำเป็นต้องทำ”“ข้าไม่ได้โกรธ เพียงแค่รู้สึกว่าสตรีนางนี้ประหลาดเกินไป คำกล่าวที่ว่า ‘ทำได้ทุกสิ่ง ยกเว้นเรื่องทางกามารมณ์’ นางสามารถพูดออกมาโดยไม่กระดากปากได้อย่างไรกัน? ไร้กฎเกณฑ์! ไร้ยางอายสิ้นดี!” ซ่างกวนซีสะบัดแขนเสื้อ ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกหมดคำจะกล่าวอวี๋เฟยเหยียนหัวเราะ “ใช่แล้ว ๆ เยี่ยนเว่ยฉืออาจแตกต่างจากคนอื่นอยู่บ้าง แต่จุดประสงค์ของนางก็ยังดีอยู่ ศิษย์พี่ใหญ่ คำกล่าวของเยี่ยนเว่ยฉือนี้ นางพูดเฉพาะเมื่ออยู่ในวังเท่านั้น โดยปกติแล้วไม่น่าจะแพร่กระจายออกไปสู่ภายนอกได้เร็วเพียงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอาการป่วยขององค์ชายรัชทายาทแห่งแคว้นด้วย ตอนนี้ข่าวแพร่กระจายออกไป เห็นทีเรื่องนี้น่าจะมีผู้อยู่เบื้องหลัง”เมื่อได้ยินคำกล่าวของอวี๋เฟยเหยียน ซ
ซูเค่อที่ตัวสั่นรีบตอบ “ทูลองค์รัชทายาท จางมามาสั่งให้พวกเราออกไปซื้อของเพื่อซ่อมจวนองค์รัชทายาทเพคะ”ซ่างกวนซีขมวดคิ้วและพูดว่า “ในเมื่อพวกเจ้าสี่คนถูกสั่งให้ออกไปซื้อด้วยกัน แล้วเหตุใดของทุกอย่างถึงอยู่ในมือของนางแต่เพียงผู้เดียว?”“เอ่อ…” ซูเค่อพูดไม่ออก ไม่รู้จะตอบอย่างไรชวนหงที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวว่า “ทูลองค์รัชทายาท มันเป็นเพียงการละเล่นระหว่างบ่าวด้วยกันเท่านั้น นางแพ้เดิมพัน นางจึงต้องช่วยเหล่าพี่ ๆ น้อง ๆ ถือของเพคะ”พูดจบ ชวนหงก็มองไปยังฉิงเอ๋อร์ที่คุกเข่าอยู่แล้วถามว่า “หว่านฉิง ใช่รึเปล่า?”นางชื่อหว่านฉิงนี่เองหว่านฉิงทำตัวหดพลางพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ชะ...ใช่เพคะ ใช่ เป็นแค่การเล่นกันเท่านั้น”ซ่างกวนซีมองทั้งสี่คนและถามต่ออย่างเย็นชา “เช่นนั้นตอนนี้เล่นกันจบแล้วหรือยัง?”ซูเค่อรีบพูดว่า “จบแล้วเพคะจบแล้ว หม่อมฉันจะกลับจวนเลยเพคะ”ซูเค่อรีบก้มลงไปช่วยหว่านฉิงถือของ ส่วนชวนหงและสาวใช้อีกคนฝูฉวีก็รีบช่วยหว่านฉิงถือของด้วยเช่นกันหลังจากที่ทั้งสี่คนหยิบของมาถือแล้ว พวกนางก็ทำความเคารพซ่างกวนซีและจากไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่ทุกคนเดินจากไป อวี๋เฟยเหยียนก็ก้าวไปข้างหน้
ทันทีที่เยี่ยนเว่ยฉือไปถึงหน้าประตู นางก็ถูกองครักษ์ขวางทางไว้องครักษ์เอ่ยขึ้นว่า “กระหม่อมขอทำความเคารพพระชายา! ตอนนี้องค์รัชทายาททรงกำลังยุ่งอยู่ ขอพระชายาโปรดรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวกระหม่อมจะรีบไปรายงานให้องค์รัชทายาททราบพ่ะย่ะค่ะ”เยี่ยนเว่ยฉือมองเขาด้วยความประหลาดใจ “รายงาน? รายงานอะไรกัน? ข้าก็แค่จะเข้าเรือนของตัวเองไปหาสามีของข้า เหตุใดต้องรอให้เจ้าเข้าไปรายงานด้วย? องค์รัชทายาทสั่งให้เจ้าขวางข้าไว้รึ?”องครักษ์สะดุ้งตัวแล้วส่ายหน้าที่เขากล้าขวางนางนั้นเรียกได้ว่าเป็นเพราะหน้าที่แต่เขาไม่กล้าโกหกออกไป ไม่อย่างนั้น หากเยี่ยนเว่ยฉือไปถามซ่างกวนซีเขาก็อาจจะถูกจับได้ว่าโกหกเยี่ยนเว่ยฉือยิ้มเยาะ ไม่สนใจเขาและเดินตรงเข้าไปในเรือนซวงหานมีแสงสว่างอยู่ในห้อง อีกทั้งประตูไม่ได้ปิด เยี่ยนเว่ยฉือจึงคิดว่าทั้งสองคนที่อยู่ในห้องอาจจะไม่ได้ทำอะไรที่เหนือความคาดหมายแต่นางกลับคาดไม่ถึงว่าทันทีที่ข้ามผ่านประตูเข้าไปนางจะได้เห็นว่าหว่านฉิงกำลังแอบอิงอยู่ในอ้อมแขนของซ่างกวนซี“ว้าย องค์รัชทายาทเพคะ!”ซ่างกวนซีไม่ได้ผลักนางออกไป เพียงแต่ถามว่า “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”หว่านฉิงรีบผละออกจาก
ซ่างกวนซีแค่นเสียงเย้ยหยันเบา ๆ “ในเมื่อเจ้าดูออกว่านางมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ แล้วเจ้าจะมาโกรธข้าทำไม!”เยี่ยนเว่ยฉือลุกขึ้นยืนเท้าเอวแล้วพูดว่า “องค์รัชทายาท แม้ข้าจะไม่รู้ว่าเหตุใดท่านถึงยอมให้นางเข้าใกล้ท่านง่ายดายเพียงนี้ แต่ข้าขอบอกท่านตรงนี้เลยนะว่าข้าเยี่ยนเว่ยฉือไม่ได้โกรธเพราะเรื่องนี้ ท่านจะรังแกข้าก็ได้ แต่ท่านห้ามนอกใจข้า ที่จวนแห่งนี้ ทุกสิ่งจะเป็นไปอย่างไรก็ล้วนขึ้นอยู่กับท่าน หากท่านไม่ให้เกียรติข้า พวกเขาก็จะเรียนรู้จากท่านพากันไม่ไว้หน้าข้าเช่นกัน แล้วข้าจะอยู่ดีมีสุขได้อย่างไร? นอกจากนั้น หากข่าวนี้แพร่ออกไป ข้าเยี่ยนเว่ยฉือก็จะถูกตราหน้าว่าเทียบเคียงแม้แต่เด็กรับใช้ของฮองเฮาไม่ได้ แล้วข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?!”“รังแกเจ้า? รังแก...อย่างไรล่ะ?” ซ่างกวนซีก้าวไปข้างหน้าการเข้าใกล้อย่างกะทันหันทำให้เยี่ยนเว่ยฉือหลบเลี่ยงโดยไม่รู้ตัวแต่ด้านหลังนางคือโต๊ะแปดเซียน นางถอยมาแล้วครึ่งก้าว แต่ก็ถอยไปอีกไม่ได้เยี่ยนเว่ยฉือเอนตัวไปด้านหลังเพื่อเพิ่มระยะห่างพลางพูดต่อ “ขะ...ข้าหมายถึงจะมีปัญหากับข้าหรือทะเลาะกับข้าก็ได้ แต่ท่านห้ามนอกใจข้า!” เกิดอะไรขึ้นกับบุรุษผู้นี้ เหตุใดเ
ที่นางทำกับซ่างกวนซีก็เป็นแค่การล้อเล่น แต่ดูเหมือนซ่างกวนซีจะไม่ได้ล้อเล่นเมื่อคิดได้เช่นนั้น เยี่ยนเว่ยฉือจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงซ่างกวนซีไม่ได้ขวางนาง เพียงแต่พูดเสียงเรียบ “เจ้าสามารถเดินออกไปได้ ตำแหน่งรัชทายาทนี้ก็ยกให้เจ้าเลย!”เยี่ยนเว่ยฉือหายใจแรงพลางมองซ่างกวนซีด้วยความประหม่า “องค์รัชทายาท ท่านจะทำอะไร? ท่านโกรธข้าหรือ?”ซ่างกวนซียังคงเปลื้องผ้าต่อไปจนกระทั่งเหลือเพียงชุดด้านใน จากนั้นเขาก็นั่งบนเตียงแล้วพูดว่า “ว่าง่ายหน่อยเถอะ พวกเราแค่นอนคุยกันเท่านั้นเอง”กล่าวอีกนัยหนึ่งคือหากเจ้ากวนใจข้า ข้าก็จะกวนใจเจ้าเช่นกันเยี่ยนเว่ยฉือกะพริบตา “แค่นอนห่มผ้า...คุยกันจริง ๆ ใช่ไหม?”“เจ้าคาดหวังอย่างอื่นด้วยรึ?” ซ่างกวนซีถามเยี่ยนเว่ยฉือรีบก้มหน้าส่ายหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วพูดว่า “ปะ...เปล่า”ซ่างกวนซียื่นมือไปผลักนางลงบนเตียงโดยไม่สนใจว่านางจะอึดอัดเพียงใดพลางนอนลงข้าง ๆ เยี่ยนเว่ยฉือไม่รู้จริง ๆ ว่าซ่างกวนซีกำลังคิดอะไรอยู่แต่นางรู้ดีว่าเวลาเล่นกับไฟต้องควบคุมปริมาณอย่างระมัดระวัง หากเล่นสนุกมากเกินไปก็อาจจะถูกไฟคลอกได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีที่อยู่กับบุรุษเพียงสองต่อ
เยี่ยนเว่ยฉือล่วงรู้แต่แรกแล้วว่าเรื่องราวคงไม่ยุ่งยากทว่านางไม่คาดคิดว่าทุกสิ่งจะราบรื่นถึงเพียงนี้ครั้นเห็นท่านหญิงหมิงหยางหยิบเงินหมื่นตำลึงออกจากห้องบัญชีได้อย่างง่ายดายเยี่ยนเว่ยฉือก็ล่วงรู้ว่าบิดาจอมปลอมของนางคงไม่ได้ละเว้นการยักยอกสินบนท่านหญิงหมิงหยางยื่นเงินให้แก่ฝูกวง น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยว่า “ท่าน...ท่านจอมยุทธ์ เรื่องราวค่ำคืนนี้...ล้วน ไม่ใช่...ไม่ใช่ความต้องการของข้า มันล้วน...ล้วน...”“ค่ำคืนนี้มีสิ่งใดเกิดขึ้นหรือ? ข้าไม่เห็นสิ่งใดเลย!” ฝูกวงเอ่ยรับอย่างรู้ใจท่านหญิงหมิงหยางได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจยาว รีบหันไปมองเยี่ยนเว่ยฉือที่ปิดบังใบหน้าเยี่ยนเว่ยฉือกอดอก เลิกคิ้วกล่าว “เขาถูกเงินปิดตา ย่อมไม่เห็นสิ่งใด ดวงตาข้านี่ต่างหากที่สว่างไสว”ท่านหญิงหมิงหยางขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าน้ำเสียงและคำพูดของคนตรงหน้าคุ้นหูอยู่บ้าง แต่ชั่วขณะนั้นกลับนึกไม่ออกนางปิดบังใบหน้า ท่านหญิงหมิงหยางจึงไม่อาจเห็นโฉมหน้าของนางเยี่ยนเว่ยฉือเห็นท่านหญิงหมิงหยางจ้องมองนาง รีบชี้ไปยังกล่องใบเล็กที่วางอยู่บนหิ้งสูง “ท่านสามารถใช้สิ่งนั้นมาปิดตาข้าได้”ท่านหญิงหมิงหยางเงยหน้ามอง เ
พูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือเงี่ยหูฟัง ยืนยันว่าด้านล่างไม่มีเสียงอะไรแล้ว จึงกล่าวต่อ “เอาล่ะ ตอนนี้ไปเอาเงินได้แล้ว!”ฝูกวงเข้าใจแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือจะใช้เรื่อง ‘จับได้คาหนังคาเขา’ บีบบังคับท่านหญิงหมิงหยางให้ยอมจ่ายเงินนี่เองปัง!ห้องมืดมิดถูกจุดเทียนขึ้นมาทันทีชายหญิงบนเตียงที่ยังคงมีความสุขอยู่ต่างก็ตกใจ“นั่นใคร?!” ท่านหญิงหมิงหยางร้องออกมาด้วยความตกใจ มองไปรอบ ๆ ห้องขณะนั้นลู่อู๋ไม่สนใจใครแล้ว รีบใส่กางเกงเยี่ยนเว่ยฉือเบี่ยงหน้าเล็กน้อย นางไม่อยากเห็นภาพอุจาดตานั้นท่านหญิงหมิงหยางเห็นชายหญิงสองคนสวมหน้ากากยืนอยู่ในห้องก็ตั้งท่าจะตะโกนแต่ฝูกวงพูดก่อน “ตะโกนสิ ตะโกนเรียกสามีเจ้าเข้ามา ให้เห็นกับตาว่าเจ้ามีความสัมพันธ์กับชายอื่น ทำให้เขาขายหน้าอย่างไร”“ชายอื่น?” ท่านหญิงหมิงหยางหันไปมองชายที่กำลังใส่กางเกงอยู่ที่ปลายเตียงเมื่อนางเห็นใบหน้าของคนผู้นั้น ก็ร้องออกมาทันที “กรี๊ดดด!!!”ปัง!ลู่อู๋รีบใช้มือสกัดจุดท่านหญิงหมิงหยาง ขัดจังหวะเสียงกรีดร้องของนางเขากล่าวด้วยความโกรธ “ฝูกวง เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”ฝูกวงหัวเราะเยาะ “เปล่านี่ ข้าไม่ได้มาหาเจ้า แต่มาหานางต่างหาก”ฝ
“จะให้ไปที่ห้องบัญชีโดยตรงหรือ?” ฝูกวงถามซ้ำเยี่ยนเว่ยฉือยังคงส่ายหัว “ข้าไม่ได้กลับจวนผิงอี้โหวมานานแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าข้าไม่รู้ว่าห้องบัญชีอยู่ห้องไหน ถึงแม้ข้าจะรู้ ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาเก็บตั๋วเงินไว้ที่ไหนอีก”“พูดมาก เจ้าอยากตายหรือไร?” ฝูกวงขู่เยี่ยนเว่ยฉือถอนหายใจอย่างหมดหนทาง “โอ๊ย อย่าใจร้อนสิ นี่ เราไปที่เรือนหลังนั้นกัน!”เยี่ยนเว่ยฉือชี้ไปที่เรือนหลังหนึ่งฝูกวงจับเอวของเยี่ยนเว่ยฉือ พานางกระโดดไปที่เรือนหลังนั้นทั้งสองซ่อนตัวอยู่บนหลังคา ฝูกวงกำลังจะถามว่านี่เป็นเรือนพักของใคร แต่ก็รู้สึกว่ามีคนเข้ามาใกล้เขาจับหัวเยี่ยนเว่ยฉือกดลง ทั้งสองนอนราบไปกับร่มเงาของหลังคา“อย่าขยับ มีคนมา!”ฝูกวงบอกอย่าขยับ เยี่ยนเว่ยฉือยิ่งอยากขยับเข้าไปใหญ่เพราะนางรู้ว่าคืนนี้ต้องมีคนมาที่นี่แน่เยี่ยนเว่ยฉือพยายามเงยหน้า ฝูกวงก็กดหัวนางลงอย่างแรงเยี่ยนเว่ยฉือพูดอย่างหมดหนทาง “เป็นลู่อู๋!”“ลู่อู๋?” ฝูกวงปล่อยมือ มองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างสงสัยเยี่ยนเว่ยฉือทำท่าบอกให้เงียบครู่ต่อมาทั้งสองเห็นลู่อู๋ลงมาที่หลังคาฝั่งตรงข้ามเขาดูระมัดระวัง ค่อย ๆ เปิดกระเบื้องออก มองลอดเ
ฝูกวงไม่เชื่อนาง พูดเสียงเย็นชา “เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ? ไม่ต้องพูดถึงว่าซ่างกวนซีจะยอมจ่ายเงินให้เจ้าหรือไม่ แค่ปล่อยเจ้ากลับไป จะจับเจ้าอีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว!”“เช่นนั้นเจ้าจะเอาอย่างไร? ข้าบอกแล้วว่าไม่มีเงินจริง ๆ!” เยี่ยนเว่ยฉือเอ่ยอย่างหมดหนทางฝูกวงฮึดฮัด “ง่ายมาก ขายเจ้าไปที่หอลมวสันต์ห่างไปสิบหลี่บนถนนหยางโจว ด้วยรูปร่างหน้าตาของเจ้า หาเงินหนึ่งหมื่นตำลึงก็ไม่ใช่เรื่องยาก”เยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้าง กล่าวอย่างไม่เชื่อ “เจ้าก็เป็นมือสังหาร เหตุใดมาทำธุรกิจค้าประเวณีได้!”“บังอาจ!” ฝูกวงดุเสียงเย็นชาเยี่ยนเว่ยฉือเบ้ปาก “งั้น...ข้าเขียนจดหมายถึงองค์รัชทายาทได้หรือไม่?”“ไม่ได้! ซ่างกวนซีฉลาดออกปานนั้น ข้าไม่อยากมีเรื่อง!”เยี่ยนเว่ยฉือถึงกับพูดไม่ออก‘ไอ้บ้านี่ ต้องให้นางควักเงินหมื่นตำลึงออกมาเองสินะ?’นั่นจะเป็นไปได้เช่นไร ต่อให้มีข้าก็ต้องกลับไปหาวิธี ไม่ใช่อยู่ดี ๆ เอาออกมาได้เลยทันทีนางไม่ได้มีพลังวิเศษเสียหน่อยขณะที่เยี่ยนเว่ยฉือกำลังกังวลใจฝูกวงพูดเสียงเย็นชา “ดูเหมือนเจ้าจะคิดหาวิธีที่ดีไม่ได้แล้ว เช่นนั้นก็ไปกับข้าเถอะ ขายเจ้าไป ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น
ซ่างกวนซีพยักหน้า บอกให้ฉินเซียงหรูไปพักผ่อนได้แล้วหลังจากฉินเซียงหรูจากไป ซ่างกวนซีเงยหน้ามองแสงจันทร์ แต่ในใจอดคิดถึงลู่อู๋ไม่ได้ว่าเขาจะไปหาท่านหญิงหมิงหยางจริงหรือไม่?แท้จริงแล้ว ตอนนี้มีคนอีกคนที่สงสัยมากกว่าซ่างกวนซีนั่นก็คือเยี่ยนเว่ยฉือ ผู้วางแผนการนี้นั่นเองนางอยากเห็นผลลัพธ์ของแผนการตนเองมากกว่าใคร ๆเยี่ยนเว่ยฉือถอนหายใจ มองดวงจันทร์ “เสียดายจริง โลกนี้ไม่มีกล้องถ่ายรูป ไม่เช่นนั้นจะได้ถ่ายภาพท่านหญิงหมิงหยางกับลู่อู๋ต่อสู้กันแปดร้อยยก แล้วพิมพ์ออกมาหนึ่งหมื่นชุดแจกจ่ายออกไป จะสาแก่ใจแค่ไหนนะ! จุ๊ ๆ!”“กล้องถ่ายรูป คืออะไรกัน?” เสียงใสไพเราะดังขึ้นจากด้านหลังอย่างกะทันหันเสียงนี้เหมือนเสียงสะท้อนในภูเขา ทำให้แยกไม่ออกว่ามาจากทิศทางไหนเยี่ยนเว่ยฉือตัวแข็งทื่อ รีบหันไปมองด้านหลัง แต่ก็เห็นเพียงเงาสีขาวที่พุ่งเข้ามาหาปัง!นางถูกสกัดจุดอีกแล้วครั้งนี้ไม่เพียงแต่ขยับไม่ได้ ยังพูดไม่ได้อีกด้วยเยี่ยนเว่ยฉือมองคนที่บุกเข้ามาอย่างตื่นตระหนก พบว่าเป็นฝูกวง มือสังหารชุดขาวทองคำเวรกรรมแท้ ๆ!นางดวงซวยอะไรขนาดนี้ เพิ่งจัดการลู่อู๋ให้พ้นตัวไปหมาด ๆ ก็มาเจอฝูกวงอีกแ
เขารีบถอยหลัง หลบหลีกการเคาะของธนูเขาเห็นปลายธนูที่เปล่งแสงเย็นยะเยือกในมือของเยี่ยนเว่ยฉือ สุดท้ายก็ไม่มีความกล้าที่จะแทงตัวเองแม้เพียงสองรูดังนั้นจึงหันหลังแล้วรีบหนีไป!จนกระทั่งลู่อู๋จากไป อวี๋เฟยเหยียนจึงอดไม่ได้ที่จะถาม “พี่สะใภ้ เขาถูกพิษจริงหรือ? ยาแก้พิษอยู่ที่ท่านหญิงหมิงหยางจริงหรือ?”ฉินเซียงหรูที่อยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกไม่สมเหตุสมผลเช่นกันต่างคนต่างมองไปที่เยี่ยนเว่ยฉือด้วยความอยากรู้เยี่ยนเว่ยฉือหัวเราะเบา ๆ “ข้าหลอกเขาน่ะสิ ใครจะเอายาแก้พิษไปไว้ที่คนอื่นกัน แล้วข้าก็ไม่ได้ติดต่อกับท่านหญิงหมิงหยางมานานแล้ว”“อะไรกัน?” อวี๋เฟยเหยียนเบิกตากว้าง “เช่นนั้นเขาจะตายหรือไม่?”เยี่ยนเว่ยฉือส่ายหน้า “ไม่ตายหรอก ข้าแค่ให้ยาปลุกกำหนัดชนิดเรื้อรังเขาไปนิดหน่อย ของแบบนี้ถ้าโดนแล้วจะอดทนอยู่ได้เจ็ดวันกว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้ หากเขาหาคนมาร่วมรักได้ทันเวลาก็จะรู้สึกสบายตัวขึ้น!”“เรื้อ...รัง?” อวี๋เฟยเหยียนไม่เคยได้ยินมาก่อนฉินเซียงหรูที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกสนุกมาก รีบถาม “แม่นางเยี่ยนมีฝีมือ แต่เจ็ดวันแรกผ่านไป วันนี้เขาได้ระบายความใคร่แล้ว เจ็ดวันต่อไปจะทำอย่างไร?”เยี่ยนเว่ย
ซ่างกวนซีอุ้มนางไว้ พูดว่ากล่าวด้วยน้ำเสียง “ต่อไปนี้เจ้าอยากทำอะไรก็ทำได้ มีเงื่อนไขเดียวคือห้ามโกหก และห้ามกระทำการโดยพลการ”นั่นหมายความว่า ไม่ว่านางจะทำอะไร ก็ต้องรายงานเขาล่วงหน้าก่อนตอนนี้นางอยู่ในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ซ้ำยังถูกชายหนุ่มรูปงามกอดอยู่ในอ้อมแขนชายหนุ่มรูปงามผู้นั้นก็คือสามีของนางเองเยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่าหากนางปฏิเสธ ต่อไประยะห่างระหว่างกันอาจจะกลายเป็นติดลบนางไม่ต้องการแบบนั้น! นางแค่...ยังคิดไม่ตกเท่านั้นเอง!เยี่ยนเว่ยฉือพิงอยู่บนอกของซ่างกวนซี พยักหน้าเบา ๆ เหมือนแมวน้อยเชื่อง ๆ ตัวหนึ่ง “ทราบแล้วเจ้าค่ะ ต่อไปนี้ข้าจะไม่โกหกอีกแล้ว”ซ่างกวนซีหัวเราะอย่างเหนื่อยหน่าย จะให้เชื่อนางได้อย่างไรกัน!…… ห้องโถงด้านหน้าเมื่อซ่างกวนซีพาเยี่ยนเว่ยฉือกลับมาที่ห้องโถงด้านหน้าอีกครั้ง ท้องฟ้าก็มืดมนแล้วแต่บรรดาชายหนุ่มทั้งสามคนในห้องโถงหน้ายังไม่จากไปไหนอวี๋เฟยเหยียนมองไปที่ซ่างกวนซีและเยี่ยนเว่ยฉือ พบว่าทั้งสองมีสีหน้าแปลก ๆดูเหมือนว่าซ่างกวนซีจะไม่โกรธแล้ว ใบหน้าสงบเรียบเฉยแต่ทำไมใบหน้าและใบหูของเยี่ยนเว่ยฉือถึงแดงก่ำ หรือถูกซ่างกวนซีทารุณหนัก?“จุ๊
เห็นเยี่ยนเว่ยฉือสายตาเป็นประกายวาววับดุจหยาดน้ำค้าง ซ่างกวนซีก็รู้ได้ทันทีว่านางกำลังโกหกอยู่ในใจเป็นแน่แท้และเช่นนั้นเอง เยี่ยนเว่ยฉือก็เอ่ยตอบออกมาว่า “ก็...ก็เก็บไว้กับตัวอย่างไรล่ะ เพียงแต่ว่าข้าชำนาญกว่าคนทั่วไป ท่านเคยได้ยินเรื่อง ‘มือวิเศษ’ หรือไม่? สมัยก่อนข้าเลี้ยงหมู ชีวิตแสนจะน่าเบื่อหน่าย จึงได้ไปเรียนวิชาลักขโมยจากนักเวทมายา รู้ไว้ใช่ว่า… อ๊ะ!”ยังไม่ทันได้พูดจบ ซ่างกวนซีก็ใช้ฝ่ามือหวดไปที่นางทันทีกระแสลมปราณอันทรงพลังพุ่งเข้าใส่ เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว และฉับพลันนั้น ผ้ายาวสีขาวที่นางสวมอยู่ก็กลายเป็นเศษผ้ากระจัดกระจายลงสู่พื้นโอ้ แม่เจ้า!นี่มันฝีมือการถอดเสื้อผ้าอันหาที่เปรียบมิได้ในแผ่นดินบัดนี้ เยี่ยนเว่ยฉือเหลือเพียงผ้าบาง ๆ ที่ปิดบังความงามไว้ได้เพียงน้อยนิดสายลมหนาวพัดโชยมา แม้ร่างกายนางไม่อาจเคลื่อนไหว แต่ก็อดที่จะตัวสั่นไม่ได้การสั่นไหวเล็กน้อยนั้น ทำให้ความงามบางส่วนปรากฏออกมาเมื่อได้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งอันงดงาม ซ่างกวนซีก็ร้อนรุ่มในดวงตา รีบเบี่ยงสายตาไปทางอื่นเขาเพียงแต่ไม่ปรารถนาจะฟังเยี่ยนเว่ยฉือพูดโกหก จึงควบคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู
การกระทำเช่นนี้ทำให้เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่าซ่างกวนซีไม่ได้ขู่เล่น ๆแต่จะลงโทษนางจริง ๆ!ซ่างกวนซีใช้นิ้วเรียวสวยเปิดปกเสื้อของเยี่ยนเว่ยฉือเบา ๆ สีหน้าเรียบเฉย ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "เหตุใดลู่อู๋จึงมาหาเจ้า?""เพ... เพราะ... เขา... เขา..." เยี่ยนเว่ยฉืออ้ำอึ้ง ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรขณะที่นางลังเลอยู่นั้น เสื้อคลุมตัวนอกก็ถูกดึงออกเยี่ยนเว่ยฉือกล่าวอย่างร้อนรน "ฝ่าบาท ข้ายังไม่ได้พูดเลย!"ซ่างกวนซีตอบอย่างใจเย็น "ตอบช้า ก็ต้องถอด"สิ้นคำ ซ่างกวนซีก็ปลดเชือกเสื้อตัวในของนางอีกไม่นานก็จะถึงฤดูร้อนแล้ว สวมเสื้อผ้าบางน้อยชิ้น หากถอดต่อไปเช่นนี้ ไม่กี่คำถาม นางก็คงจะเปลือยเปล่าเสื้อตัวในเปิดออก เผยให้เห็นเสื้อตัวในสีขาวในที่สุดเยี่ยนเว่ยฉือก็ทนไม่ไหว "เขามาหาข้าเพื่อขอยาถอนพิษ!"มือที่กำลังจะถอดเสื้อผ้าของซ่างกวนซีหยุดชะงัก มองนาง แล้วถามต่อ "เขาโดนพิษเมื่อใด? โดนพิษอะไร? เจ้าใช้พิษกับเขาอย่างไร?"เยี่ยนเว่ยฉือมีสีหน้าลำบากใจ "เรื่อง... เรื่องนี้พูดแล้วยาว..."พรึ่บ!ซ่างกวนซีดึงเสื้อตัวในของนางออกโดยไม่ลังเลตอนนี้บนร่างของเยี่ยนเว่ยฉือเหลือเพียงเสื้อตัวในสีขาว และตู้โตวสี