ซูเค่อที่ตัวสั่นรีบตอบ “ทูลองค์รัชทายาท จางมามาสั่งให้พวกเราออกไปซื้อของเพื่อซ่อมจวนองค์รัชทายาทเพคะ”ซ่างกวนซีขมวดคิ้วและพูดว่า “ในเมื่อพวกเจ้าสี่คนถูกสั่งให้ออกไปซื้อด้วยกัน แล้วเหตุใดของทุกอย่างถึงอยู่ในมือของนางแต่เพียงผู้เดียว?”“เอ่อ…” ซูเค่อพูดไม่ออก ไม่รู้จะตอบอย่างไรชวนหงที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวว่า “ทูลองค์รัชทายาท มันเป็นเพียงการละเล่นระหว่างบ่าวด้วยกันเท่านั้น นางแพ้เดิมพัน นางจึงต้องช่วยเหล่าพี่ ๆ น้อง ๆ ถือของเพคะ”พูดจบ ชวนหงก็มองไปยังฉิงเอ๋อร์ที่คุกเข่าอยู่แล้วถามว่า “หว่านฉิง ใช่รึเปล่า?”นางชื่อหว่านฉิงนี่เองหว่านฉิงทำตัวหดพลางพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ชะ...ใช่เพคะ ใช่ เป็นแค่การเล่นกันเท่านั้น”ซ่างกวนซีมองทั้งสี่คนและถามต่ออย่างเย็นชา “เช่นนั้นตอนนี้เล่นกันจบแล้วหรือยัง?”ซูเค่อรีบพูดว่า “จบแล้วเพคะจบแล้ว หม่อมฉันจะกลับจวนเลยเพคะ”ซูเค่อรีบก้มลงไปช่วยหว่านฉิงถือของ ส่วนชวนหงและสาวใช้อีกคนฝูฉวีก็รีบช่วยหว่านฉิงถือของด้วยเช่นกันหลังจากที่ทั้งสี่คนหยิบของมาถือแล้ว พวกนางก็ทำความเคารพซ่างกวนซีและจากไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่ทุกคนเดินจากไป อวี๋เฟยเหยียนก็ก้าวไปข้างหน้
ทันทีที่เยี่ยนเว่ยฉือไปถึงหน้าประตู นางก็ถูกองครักษ์ขวางทางไว้องครักษ์เอ่ยขึ้นว่า “กระหม่อมขอทำความเคารพพระชายา! ตอนนี้องค์รัชทายาททรงกำลังยุ่งอยู่ ขอพระชายาโปรดรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวกระหม่อมจะรีบไปรายงานให้องค์รัชทายาททราบพ่ะย่ะค่ะ”เยี่ยนเว่ยฉือมองเขาด้วยความประหลาดใจ “รายงาน? รายงานอะไรกัน? ข้าก็แค่จะเข้าเรือนของตัวเองไปหาสามีของข้า เหตุใดต้องรอให้เจ้าเข้าไปรายงานด้วย? องค์รัชทายาทสั่งให้เจ้าขวางข้าไว้รึ?”องครักษ์สะดุ้งตัวแล้วส่ายหน้าที่เขากล้าขวางนางนั้นเรียกได้ว่าเป็นเพราะหน้าที่แต่เขาไม่กล้าโกหกออกไป ไม่อย่างนั้น หากเยี่ยนเว่ยฉือไปถามซ่างกวนซีเขาก็อาจจะถูกจับได้ว่าโกหกเยี่ยนเว่ยฉือยิ้มเยาะ ไม่สนใจเขาและเดินตรงเข้าไปในเรือนซวงหานมีแสงสว่างอยู่ในห้อง อีกทั้งประตูไม่ได้ปิด เยี่ยนเว่ยฉือจึงคิดว่าทั้งสองคนที่อยู่ในห้องอาจจะไม่ได้ทำอะไรที่เหนือความคาดหมายแต่นางกลับคาดไม่ถึงว่าทันทีที่ข้ามผ่านประตูเข้าไปนางจะได้เห็นว่าหว่านฉิงกำลังแอบอิงอยู่ในอ้อมแขนของซ่างกวนซี“ว้าย องค์รัชทายาทเพคะ!”ซ่างกวนซีไม่ได้ผลักนางออกไป เพียงแต่ถามว่า “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”หว่านฉิงรีบผละออกจาก
ซ่างกวนซีแค่นเสียงเย้ยหยันเบา ๆ “ในเมื่อเจ้าดูออกว่านางมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ แล้วเจ้าจะมาโกรธข้าทำไม!”เยี่ยนเว่ยฉือลุกขึ้นยืนเท้าเอวแล้วพูดว่า “องค์รัชทายาท แม้ข้าจะไม่รู้ว่าเหตุใดท่านถึงยอมให้นางเข้าใกล้ท่านง่ายดายเพียงนี้ แต่ข้าขอบอกท่านตรงนี้เลยนะว่าข้าเยี่ยนเว่ยฉือไม่ได้โกรธเพราะเรื่องนี้ ท่านจะรังแกข้าก็ได้ แต่ท่านห้ามนอกใจข้า ที่จวนแห่งนี้ ทุกสิ่งจะเป็นไปอย่างไรก็ล้วนขึ้นอยู่กับท่าน หากท่านไม่ให้เกียรติข้า พวกเขาก็จะเรียนรู้จากท่านพากันไม่ไว้หน้าข้าเช่นกัน แล้วข้าจะอยู่ดีมีสุขได้อย่างไร? นอกจากนั้น หากข่าวนี้แพร่ออกไป ข้าเยี่ยนเว่ยฉือก็จะถูกตราหน้าว่าเทียบเคียงแม้แต่เด็กรับใช้ของฮองเฮาไม่ได้ แล้วข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?!”“รังแกเจ้า? รังแก...อย่างไรล่ะ?” ซ่างกวนซีก้าวไปข้างหน้าการเข้าใกล้อย่างกะทันหันทำให้เยี่ยนเว่ยฉือหลบเลี่ยงโดยไม่รู้ตัวแต่ด้านหลังนางคือโต๊ะแปดเซียน นางถอยมาแล้วครึ่งก้าว แต่ก็ถอยไปอีกไม่ได้เยี่ยนเว่ยฉือเอนตัวไปด้านหลังเพื่อเพิ่มระยะห่างพลางพูดต่อ “ขะ...ข้าหมายถึงจะมีปัญหากับข้าหรือทะเลาะกับข้าก็ได้ แต่ท่านห้ามนอกใจข้า!” เกิดอะไรขึ้นกับบุรุษผู้นี้ เหตุใดเ
ที่นางทำกับซ่างกวนซีก็เป็นแค่การล้อเล่น แต่ดูเหมือนซ่างกวนซีจะไม่ได้ล้อเล่นเมื่อคิดได้เช่นนั้น เยี่ยนเว่ยฉือจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงซ่างกวนซีไม่ได้ขวางนาง เพียงแต่พูดเสียงเรียบ “เจ้าสามารถเดินออกไปได้ ตำแหน่งรัชทายาทนี้ก็ยกให้เจ้าเลย!”เยี่ยนเว่ยฉือหายใจแรงพลางมองซ่างกวนซีด้วยความประหม่า “องค์รัชทายาท ท่านจะทำอะไร? ท่านโกรธข้าหรือ?”ซ่างกวนซียังคงเปลื้องผ้าต่อไปจนกระทั่งเหลือเพียงชุดด้านใน จากนั้นเขาก็นั่งบนเตียงแล้วพูดว่า “ว่าง่ายหน่อยเถอะ พวกเราแค่นอนคุยกันเท่านั้นเอง”กล่าวอีกนัยหนึ่งคือหากเจ้ากวนใจข้า ข้าก็จะกวนใจเจ้าเช่นกันเยี่ยนเว่ยฉือกะพริบตา “แค่นอนห่มผ้า...คุยกันจริง ๆ ใช่ไหม?”“เจ้าคาดหวังอย่างอื่นด้วยรึ?” ซ่างกวนซีถามเยี่ยนเว่ยฉือรีบก้มหน้าส่ายหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วพูดว่า “ปะ...เปล่า”ซ่างกวนซียื่นมือไปผลักนางลงบนเตียงโดยไม่สนใจว่านางจะอึดอัดเพียงใดพลางนอนลงข้าง ๆ เยี่ยนเว่ยฉือไม่รู้จริง ๆ ว่าซ่างกวนซีกำลังคิดอะไรอยู่แต่นางรู้ดีว่าเวลาเล่นกับไฟต้องควบคุมปริมาณอย่างระมัดระวัง หากเล่นสนุกมากเกินไปก็อาจจะถูกไฟคลอกได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีที่อยู่กับบุรุษเพียงสองต่อ
เยี่ยนเว่ยฉือทำแก้มป่อง “ข้าไม่ได้อยากจะสอดเรื่องของท่านเสียหน่อย ข้าก็แค่ไม่ชอบที่เห็นใครกระโจนใส่ท่านเช่นนั้น”นางจะปล่อยให้คนอื่นเข้ามายุ่งกับผู้ชายของนางได้อย่างไร?เยี่ยนเว่ยฉือไม่ได้พูดประโยคหลัง แต่ซ่างกวนซีรู้สึกได้เขาแอบยิ้มบาง ๆ ไม่ให้ใครเห็น จากนั้นก็หุบยิ้มและแสร้งทำเป็นโกรธ “คำพูดที่มาจากความไม่ชอบใจของเจ้าทำให้หว่านฉิงหวาดกลัว หากครั้งหน้าจะส่งข่าวผ่านนางก็คงต้องใช้ความพยายามมากกว่าเดิม เจ้าพูดมาซิว่าข้าควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี?”“นี่ท่านกำลัง...โทษข้าหรือ?” เยี่ยนเว่ยฉือกะพริบตาพลางรู้สึกเหลือเชื่อซ่างกวนซีหันมามองนาง “อะไรเล่า? ใครพูดไว้กันนะว่าข้าผู้นี้ไร้น้ำยา?”มุมปากของเยี่ยนเว่ยฉือกระตุก เมื่อนางได้ยินประโยคดังกล่าว นางก็รู้สึกผิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวนางล้มตัวลงนอนราบบนเตียงอย่างรวดเร็วและไม่มองซ่างกวนซีอีกดวงตากลมโตกะพริบปริบ ๆ ไม่รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ซ่างกวนซีไม่ได้เร่งเร้าอีกฝ่าย พลางมองไปยังหลังคาเตียงอย่างนิ่งสงบเช่นกันหลังจากผ่านไปนาน ในที่สุดเยี่ยนเว่ยฉือก็พูดว่า “หากต้องการให้คนนอกหยุดเผยแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวขององค์รัชทายาท ท่
“เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น? ฝ่าบาทเป็นฮ่องเต้นะ ทรงยอมถูกกระทำเช่นนี้ได้อย่างไร?” เยี่ยนเว่ยฉือหันไปมองซ่างกวนซีอีกครั้งซ่างกวนซีถอนหายใจและพูดว่า “เรื่องมันยาวน่ะ”เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ไม่เป็นไร ๆ คืนนี้ยังอีกยาวไกล พวกเราค่อย ๆ คุยกันไป”ซ่างกวนซีเหลือบมองนางแล้วถามว่า “เหตุใดเจ้าถึงสนใจเรื่องในราชสำนักเพียงนี้”“เพราะข้าอยากช่วยองค์รัชทายาทคิดหาวิธี!”ซ่างกวนซีสับสน “คิดหาวิธี?”เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้า “องค์รัชทายาทตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่ที่เมืองหลวงไม่ใช่หรือ? ในเมื่อจะอยู่ในเมืองหลวง จะให้ยอมถูกกระทำไปตลอดไม่ได้หรอก! ตอนนี้เราได้ค้นพบเรื่องใหญ่ที่ว่าองค์ชายรองแอบกักตุนน้ำมันตุง แน่นอนว่าเราต้องใช้มันให้เป็นประโยชน์ ดังนั้นองค์รัชทายาทโปรดบอกข้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องในเมืองหลวงด้วยเถิด บางทีข้าอาจมีวิธีที่ดีกว่าการแพร่ข่าวลือก็ได้”จริง ๆ แล้วซ่างกวนซีไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายจากเยี่ยนเว่ยฉือเพราะเด็กน้อยอายุสิบหกสิบเจ็ดจะไปรู้อะไรมากมาย?แต่ซ่างกวนซีก็ยินดีมากที่จะพูดคุยกับเยี่ยนเว่ยฉือเสียงพูดที่ฟังคล้ายระฆังเงิน ท่าทางไร้เดียงสาและน่ารัก รวมไปถึงกลิ่นสมุนไพรจาง ๆ บนร่างกายของ
เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง!”ซ่างกวนซีที่ปกติจะเป็นคนเงียบขรึม แต่ในคืนนี้เขากลับถูกเยี่ยนเว่ยฉือชักนำและค่อย ๆ ปลดปล่อยความช่างพูดออกมาเขาเล่าต่อ “หลังจากที่เสด็จพ่อกลับเมืองหลวงพร้อมกับพี่น้องร่วมสาบานทั้งสาม ฮ่องเต้องค์ก่อนก็พระราชทานรางวัลให้พวกเขา แต่หนึ่งในรางวัลนั้นเป็นบทลงโทษไปโดยปริยาย”“ตกเป็นของใครกัน?”“อวี๋จ้านอ๋าวซึ่งคือแม่ทัพผิงหนานในยามนั้นมีชื่อเสียงในกองทัพและเป็นที่เคารพรักของผู้คนอย่างมาก ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงกลัวความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของเขา ดังนั้นจึงทรงยึดอำนาจทางทหารของเขาและมีพระราชโองการแต่งตั้งให้เขาเป็นซุ่นจิ่นโหว” พูดจบซ่างกวนซีก็มองที่เยี่ยนเว่ยฉือ “เจ้าเข้าใจความหมายของบรรดาศักดิ์นี้หรือไม่?”เยี่ยนเว่ยฉือคิดอยู่ครู่หนึ่ง พยักหน้าแล้วพูดว่า “จงเชื่อฟังและระมัดระวังคำพูดและการกระทำของตน?”ซ่างกวนซียิ้มบาง ๆ “ก็ไม่โง่นี่!”เยี่ยนเว่ยฉือแค่นเสียงเบา “ก็แน่สิ!”ซ่างกวนซีกล่าวต่อ “หลังจากที่อวี๋จ้านอ๋าวได้รับการแต่งตั้งเป็นซุ่นจิ่นโหว ฮ่องเต้องค์ก่อนก็ทรงส่งเขาไปประจำอยู่ที่เมืองกูซู มันเป็นสถานที่ที่ดีพร้อมด้วยผู้คนที่มากความส
ซ่างกวนซีที่ค่อย ๆ ดึงมือกลับก็ได้เห็นดวงตาใส ๆ ของเยี่ยนเว่ยฉือเขาถามอย่างสงสัย “ข้าไม่ได้ออกแรงเลยนะ ถึงขั้นต้องร้องไห้เลยหรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือรีบนอนลงและพลิกตัวหันหลังให้เขาพลางพูดต่อ “ข้าไม่ได้ร้องเสียหน่อย ข้าพอจะเข้าใจเรื่องที่ท่านพูดคร่าว ๆ แล้ว หากให้เวลาข้าสักหนึ่งวัน ข้าคงจะคิดแผนดี ๆ ออกอย่างแน่นอน และอันกั๋วกงก็จะยุ่งจนไม่มีเวลามาแพร่ข่าวลือของท่านอีกเลย”ซ่างกวนซีไม่ได้คาดหวังกับเยี่ยนเว่ยฉือมากนักแต่เพียงแค่พูดเรื่องบางเรื่องให้นางฟัง ก็ทำให้นางเข้าใจสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของจวนองค์รัชทายาทได้เวลาาออกไปข้างนอกจะได้ระมัดระวังการกระทำมากขึ้นหากนางไม่อยากแบกรับความกดดันนี้ แน่นอนว่า...นางก็สามารถเลือกที่จะจากไปได้เช่นกันซ่างกวนซีขยับออกไปเล็กน้อย และเทียนในห้องก็ดับลงเขาพูดเนิบ ๆ “นอนเถอะ!”ปากก็บอกให้นอน แต่ใช่ว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะนอนหลับลงแม้ซ่างกวนซีจะไม่ได้พูดถึงฮองเฮาองค์ก่อนสักคำ แต่เมื่อฟังเรื่องราวในอดีตที่เขาเล่า ก็คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเยี่ยนเว่ยฉือที่จะจินตนาการว่าอาจมีเรื่องราวภายในมากมายเกี่ยวกับการสวรรคตของฮองเฮาองค์ก่อนกระมัง?หากฮองเฮ