หน้าหลัก / รักโบราณ / ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท / บทที่ 49 บัดนี้สติสตังข้าไม่อยู่กับร่องกับรอย!

แชร์

บทที่ 49 บัดนี้สติสตังข้าไม่อยู่กับร่องกับรอย!

ผู้เขียน: โม่เชียนซาง
ซ่างกวนหลีชักมือกลับอย่างโกรธแค้น ตำหนิว่า “เยี่ยนเว่ยฉือ เจ้าช่างไร้ยางอายเสียจริง รู้หรือไม่ว่าหากคำพูดเหล่านี้แพร่กระจายออกไป ชื่อเสียงของเจ้าก็จะมัวหมอง เจ้ากล้าล่อลวงน้องเขยของตนเอง ไม่กลัวจะถูกโยนเข้าเล้าหมูหรืออย่างไร?”

“น่าขันสิ้นดี!” เยี่ยนเว่ยฉือหัวเราะเสียงดัง “ชื่อเสียงนั้นมีทั้งดีและร้ายอดีตคืออดีต บัดนี้สติสตังข้าไม่อยู่กับร่องกับรอย! ข้าเยี่ยนเว่ยฉือ แม้แต่ความตายก็ไม่กลัว แล้วจะกลัวชื่อเสียงมัวหมองไปไย?”

“อุ๊บ...” คำพูดนี้ทำให้อวี๋เฟยเหยียนเกือบหัวเราะออกมา

แต่เยี่ยนเว่ยฉือยังพูดไม่จบ นางกล่าวต่อ “ท่านหาว่าข้าล่อลวงน้องเขยตนเองงั้นหรือ? ไม่หัดส่องกระจกดูตัวเองเสียบ้าง ท่านมีอะไรให้ข้าจะต้องเปลืองตัวล่อลวง? หน้าตาอัปลักษณ??ของท่าน หรือจิตใจอันต่ำช้าของท่านกัน?”

“บังอาจ!” ซ่างกวนหลีโกรธจนพูดไม่ออก เขาไม่เคยเห็นหญิงใดปากร้ายเช่นนี้มาก่อน

เยี่ยนเว่ยฉือกล่าวเสียงเย็นชา “ออกไป! ออกไปจากจวนรัชทายาทเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นข้าจะไปตะโกนกลางถนนว่าท่านบุกเข้ามาในจวนของข้าแล้วข่มขืนข้า! ข้าเยี่ยนเว่ยฉือแม้ตายก็ไม่กลัว ว่าแต่ท่านเถอะ ซ่างกวนหลี หน้าท่านหนาขนาดนั้นหรือไม่?”

เยี่ยนเว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 50 ฮ่องเต้ไม่รีบร้อน ขันทีจะรีบร้อนไปทำไม

    เยี่ยนเว่ยฉือพูดจบก็เดินออกไปนอกประตูอวี๋เฟยเหยียนเห็นดังนั้นก็รีบพูดว่า “เอ๋? พี่สะใภ้ เจ้าจะไปไหน อย่าได้ทำลายชื่อเสียงตัวเองบนถนนเชียวนะ”เยี่ยนเว่ยฉือไม่สนใจ เดินจากไปอย่างรวดเร็วอวี๋เฟยเหยียนหันไปมองซ่างกวนซีอย่างเป็นกังวล แล้วกล่าวว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ เราต้องออกไปดูสักหน่อยแล้ว ดูเหมือนนางจะไม่ได้พูดเล่น”ซ่างกวนซีตอบอย่างเฉยชา “มีปัญญาก่อเรื่อง ก็ต้องมีปัญญายุติเรื่อง”กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาไม่สนใจเลย!อยากรู้เช่นกันว่าเยี่ยนเว่ยฉือมีฝีมือเพียงไหน!“โอ๊ย ท่านไม่ไปก็ช่างเถอะ ข้าไปดูเองก็ได้ ประเดี๋ยวจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมาจริง ๆ” อวี๋เฟยเหยียนวิ่งตามออกไปด้วยความไม่สบายใจซ่างกวนซีหันมองตามทิศทางที่ทั้งสองคนหายลับสายตาไปพลางครุ่นคิดนึกถึงคำพูดสุดท้ายของเยี่ยนเว่ยฉือ ‘ข้าเยี่ยนเว่ยฉือ ในชีวิตนี้ ข้ากล้ำกลืนได้ทุกอย่าง แต่จะไม่ยอมเสียเปรียบเด็ดขาด! ข้าทนได้ทุกเรื่อง แต่จะไม่ทนให้ใครมาข่มเหง!’ซ่างกวนซีขมวดคิ้ว “น่าแปลก นางพูดเช่นนี้ได้อย่างไร อดีตของนางบ่งชัดว่านางกล้ำกลืนความทุกข์และความคับแค้นใจมาสิบหกปีเต็มแล้วมิใช่หรือ?”ใช่แล้ว เยี่ยนเว่ยฉือนอนอยู่ในเล้าหมูมาสิบหกปี

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 51 ถ้ำมองกลางดึก

    ซ่างกวนซีนั่งตัวตรงอยู่ข้างหน้า มองดูอวี๋เฟยเหยียนที่เริ่มทานอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่รออาหารมาวางให้ครบก่อน เขาจึงอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า “พวกเจ้าออกไปข้างนอกกันมาทั้งวัน ไม่ได้กินอะไรเลยหรือ?”อวี๋เฟยเหยียนพูดออกมาทั้งที่ยังมีอาหารอยู่ในปาก “ไม่! พวกเราไปข้างนอกกันมาทั้งวันก็จริง แต่มีแค่ข้าคนเดียวที่ยังไม่ได้กินอะไร ส่วนนางน่ะกินนั่นกินนี่ไม่หยุดเลย!”อวี๋เฟยเหยียนกลืนอาหารพลางพูดต่อ “เกาลัดคั่วน้ำตาล ขนมแปดขุมทรัพย์ พุทรายัดไส้แป้งข้าวเหนียว มันฮ่อเคลือบอำพัน...ปากเคี้ยวนั่นนี่ตลอดทาง ท่านก็ดูสิ นางกลับมาถึงก็ตรงดิ่งไปที่เรือนไม่กินข้าวเลยด้วยซ้ำ”ซ่างกวนซีขมวดคิ้วเล็กน้อย​ “มีแต่ของหวานทั้งนั้นนี่”อวี๋เฟยเหยียนสะดุ้งโหยง จากนั้นก็พยักหน้า “ใช่ พวกสาว ๆ ก็ชอบกินของว่างกันแบบนี้ทั้งนั้น”“แต่จะไม่กินข้าวไม่ได้!” ซ่างกวนซีขมวดคิ้วและพูดทันที “จางมามา เจ้า…”ยังไม่ทันที่จะได้พูดจบประโยค ซ่างกวนซีก็หยุดชะงักเขาพบว่าตนเริ่มเป็นห่วงสุขภาพของเยี่ยนเว่ยฉือเข้าแล้วนี่มันไม่ใช่ตัวเขาเลยซ่างกวนซีขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางพูดเปลี่ยนเรื่อง “ตักน้ำแกงมาให้เฟยเหยียนสักชามเถิด”อวี๋เฟยเหยียนรีบ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 52 สนใจบุรุษที่เคลื่อนไหวไม่ได้เป็นพิเศษ

    ซ่างกวนซีทำอะไรไม่ถูก เพราะสาเหตุหลักมาจากท่าทางของเยี่ยนเว่ยฉือที่ทำราวกับเห็นโจรโรคจิตซ่างกวนซีขมวดคิ้ว ไม่อาจอธิบายได้ว่าเหตุใดเขาถึงมาอยู่ตรงนี้ เขาจึงทำเป็นใจสู้พูดตอบอย่างเย็นชา “ข้าไม่ควรอยู่ตรงนี้รึ?”เยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้างและพูดด้วยความประหลาดใจ “ท่านคิดว่าอย่างไรเล่า? ก็นี่มันห้องของข้านี่!”ซ่างกวนซีตอบอย่างไม่แยแส “ที่นี่คือจวนองค์รัชทายาท ข้าเป็นองค์รัชทายาท และเจ้าก็เป็นชายาองค์รัชทายาท การที่สามีภรรยาอยู่ห้องเดียวกันมันผิดตรงไหนหรือ?”“หา? เอ่อ…” เยี่ยนเว่ยฉือได้ยินสิ่งที่ทำให้พูดไม่ออกแต่...แต่หมอนี่ไม่ใช่ว่ากำลังหลบหน้านางหรอกหรือ?เยี่ยนเว่ยฉือมีท่าทีอึดอัด คิดอยากเอ่ยปากไล่อีกฝ่าย แต่กลับไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรซ่างกวนซีสังเกตอีกฝ่ายด้วยความสนใจใคร่รู้ จนเขาได้ค้นพบว่าเยี่ยนเว่ยฉือคนนี้…ดูเหมือนจะเป็นเพียงเสือกระดาษดูเหมือนนางจะสนใจบุรุษที่แข็งทื่อราวกับท่อนไม้ได้เป็นพิเศษเมื่อคิดได้ดังนั้น ซ่างกวนซีก็เลิกคิ้วแล้วเดินตรงไปที่เตียงเขากางแขนออกแล้วพูดว่า “ถอดเสื้อให้ข้า!”ถอดเสื้อ?!เยี่ยนเว่ยฉือมองเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง พลางคิดว่าตนได้ยินผิดไปหมอนี

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 53 โชคชะตาถูกกำหนดเอาไว้เช่นนี้หรือ?

    “อึก!” ขณะที่กำลังครุ่นคิด ซ่างกวนซีก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกเขากุมหน้าอกโดยอัตโนมัติ แต่ก็มีชั้นน้ำแข็งปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขาพิษกู่เย็นกำเริบแล้ว!ขณะที่ซ่างกวนซีกำลังกำหนดลมหายใจส่งพลังปราณไปที่จุดจุดเดียว เขาก็พูดกับตัวเองในใจว่า ‘อาการกำเริบเกิดขึ้นถี่มากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นจริงดังที่ท่านอาจารย์พูดเอาไว้ หากไม่มีมัจฉาทองคำจิ่วหยาง เราก็คงมีอายุไม่ถึงยี่สิบห้าปีสินะ?’ซ่างกวนซีใช้วิชาสหัสเหมันต์ เพื่อขับไล่ไอหนาวออกจากร่างกายไอหนาวนั้นค่อย ๆ ควบแน่นเป็นน้ำแข็งเกาะตัวอยู่ตามร่างกายของเขา ทำให้เขากลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็งอย่างรวดเร็วก่อนที่จะหมดสติ ความคิดแปลก ๆ ก็แวบขึ้นมาในหัวของซ่างกวนซี“ดีแล้ว โชคดีแล้วที่วันนี้นางปฏิเสธเรา ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ก็ถือว่าดีไป สักวันหนึ่งหากนางได้พบกับคนที่รักก็จะได้แต่งงานออกเรือนไปอย่างมีความสุข” ซ่างกวนซีค่อย ๆ หลับตาและตกอยู่ในสภาวะไร้สติ……เช้าวันรุ่งขึ้น“ศิษย์พี่ ศิษย์พี่ตื่นสิ ศิษย์พี่!”“ศิษย์พี่ใหญ่ ตื่นเถอะ!”เสียงเรียกของอวี๋เฟยเหยียนและเย่เทียนซูดังเข้ามาในโสตประสาทซ่างกวนซีค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและมองทั้งสองคนด

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 54 ยากที่จะแยกแยะระหว่างความภักดีและการทรยศ

    เย่เทียนซูขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ข้าจะกลับไปเพิ่มรางวัลตอบแทน ปล่อยข่าวไปทั้งใต้ดินบนดิน พวกเขาต้องหามัจฉาทองคำจิ่วหยางเจอภายในหนึ่งปีอย่างแน่นอน ศิษย์พี่ หากครั้งหน้าท่านอาการกำเริบอีก ท่านต้องแจ้งให้พวกเราทราบ พวกเราสองคนจะได้ทำการถ่ายพลังปราณแต่กำเนิดให้ท่าน ท่านจะได้สามารถควบคุมวิชาสหัสเหมันต์ ได้ดีขึ้น”อวี๋เฟยเหยียนก็พยักหน้าซ้ำ ๆ “ใช่แล้ว! ศิษย์พี่ ที่ท่านอาจารย์สั่งให้พวกเราลงจากเขามากับท่าน ไม่ใช่เพื่อปกป้องท่านหรอกรึ ท่านจะเกรงใจพวกเราไปทำไมเล่า?”ซ่างกวนซียิ้มและพยักหน้าเขาไม่ได้เกรงใจ แต่เขากลัวว่าจะบอกไม่ทันการกำเริบระยะต้นของพิษกู่เย็นนั้นมีลำดับขั้น แต่ในช่วงหลายปีมานี้กลับตรงกันข้ามยิ่งไปกว่านั้น ทุกครั้งที่อาการกำเริบ เขาก็ไม่สามารถบอกคนอื่นได้ทันท่วงที และรับมือไม่ทันอยู่ร่ำไปดูเหมือนว่าพิษนี้จะซึมลึกเข้าไปในอวัยวะภายในแล้วเพื่อไม่ให้ศิษย์น้องทั้งสองของเขาต้องกังวล ซ่างกวนซีจึงตอบรับ “ได้ คราวหน้าข้าเรียกพวกเจ้าแน่นอน”“ทูลองค์รัชทายาท มีคนมาที่จวนอีกแล้วเพคะ” เสียงของจางมามาดังขึ้นที่หน้าประตูซ่างกวนซีกล่าวว่า “เมื่อวานนี้ซ่างกวนหลีมาส่งคนรับใช้แต่ก็ล้มเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 55 เลียให้สะอาด

    สาวใช้วัยละอ่อนหน้าตาสะสวยทั้งสี่มองหน้ากัน จากนั้นหนึ่งในนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าและทำความเคารพอย่างเชื่องช้า “หม่อมฉันชื่อซูเค่อ ขอถวายความเคารพชายารัชทายาทเพคะ”เยี่ยนเว่ยฉือมองนางพร้อมกับเลิกคิ้วแล้วถามว่า “เจ้ามีอะไรจะพูดรึ?”ซูเค่อพยักหน้า “เพคะ ขอเรียนพระชายา หม่อมฉันทั้งสี่คนได้รับการคัดเลือกจากฮองเฮาด้วยตัวพระนางเอง ให้มารับใช้องค์รัชทายาทที่เรือนด้านใน พวกหม่อมฉันทำงานเหล่านั้นไม่เป็นจริง ๆ เพคะ”“หากทำไม่เป็นก็เรียนรู้เอาสิ! ใช่ว่าเจ้าเกิดมาแล้วจะพูดได้เลยนี่ ตอนนี้เจ้าเจื้อยแจ้วขนาดนี้ พูดคล่องเชียว?” เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มเยาะใส่อีกฝ่ายซูเค่อสะดุ้งตกใจ นางขมวดคิ้วและแสดงความไม่พอใจผ่านสีหน้าสตรีอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังก็เดินออกมาและพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างไม่สบอารมณ์ “พระชายาหมายความว่าอย่างไรเพคะ? พวกเราได้รับเลือกจากฮองเฮาให้มารับใช้องค์รัชทายาท แต่พระชายากลับให้พวกเราไปใช้แรงงานเช่นนี้ ท่านคิดจะไม่ไว้หน้าฮองเฮาหรือเพคะ?”ซูเค่อที่เห็นเช่นนั้นก็รีบคว้าตัวนางไว้ “ชวนหง เงียบเดี๋ยวนี้!”สาวใช้ผู้นี้ชื่อชวนหงสินะเยี่ยนเว่ยฉือแค่นเสียงเย็นชา “โอ้ ฟังจากคำพูดของเจ้าแล้ว

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 56 สิ่งต่าง ๆ กำลังจะเปลี่ยนไป

    พูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็มองไปยังคนรับใช้คนอื่น ๆ และพูดต่อ “พวกเจ้าก็เช่นกัน หากไม่เชื่อฟังคำสั่ง ก็รีบไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนมองไปที่เฉียวกงกง แต่เฉียวกงกงทำเพียงแค่ขมวดคิ้วและเม้มริมฝีปากภารกิจของเขาคือส่งคนเข้าไปแฝงตัวในจวนองค์รัชทายาทส่วนที่เหลือเขาไม่สามารถควบคุมได้หลังจากที่เฉียวกงกงทำความเคารพซ่างกวนซีและเยี่ยนเว่ยฉือแล้ว เขาก็จากไปพร้อมกับคนของตัวเองคนที่เหลือก็ทำได้แค่อยู่ต่อไปด้วยการแสดงอำนาจของเยี่ยนเว่ยฉือ ทุกคนก็เริ่มเชื่อฟังมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทั้งหมดตามแม่บ้านจางไป เพื่อช่วยเหล่าช่างฝีมือซ่อมบำรุงจวนองค์รัชทายาทอย่างเงียบ ๆเยี่ยนเว่ยฉือมองทุกคนที่เดินจากไป พลางเท้าเอวถอนหายใจ “เยี่ยมมาก มีคนมาช่วยเยอะขนาดนี้ อีกไม่นานจวนองค์รัชทายาทก็จะเหมือนใหม่แล้ว อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าจ้างได้มากอีกด้วย!”อวี๋เฟยเหยียนก้าวไปข้างหน้าและพูดด้วยขมขื่น “พี่สะใภ้ เจ้ามองโลกในแง่ดีเกินไปแล้ว เก้าในสิบของคนเหล่านี้เป็นคนของฮองเฮาและอันกั๋วกง ส่วนที่เหลือก็เป็นสายจากตำหนักต่าง ๆ นับจากนี้ไปจวนองค์รัชทายาทคงจะไม่สงบสุขอีกแล้ว”เยี่ยนเว่ยฉือโบกมือแล้วพูดอย่างแยแส “แต่หากไม่ใ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 57 นางคงจะเป็นคนโง่

    ซ่างกวนซีลุกเดินไปที่หน้าต่าง มองท้องฟ้าที่ยังไม่มีฝนตกแต่ก็มีเสียงฟ้าแลบฟ้าร้องดังมาแล้ว พลางกระซิบเบา ๆ ว่า “ท้องฟ้าในเมืองหลวง ก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงบ้างแล้ว”อวี๋เฟยเหยียนมองไปที่ซ่างกวนซีและถามอย่างกระตือรือร้น “ศิษย์พี่เลือกเป้าหมายได้แล้วหรือ?”ซ่างกวนซีกล่าวว่า “หยางอวิ๋นเฟิง รองเจ้ากรมขุนนาง”อวี๋เฟยเหยียนคิดว่าซ่างกวนซีวางแผนที่จะค่อย ๆ รวบรวมอำนาจของหกกรมโดยเริ่มทำการแทรกซึมจากกรมขุนนางแต่ในทางปฏิบัติจะทำอย่างไรล่ะ?หยางอวิ๋นเฟิงผู้นี้ มีอะไรที่พิเศษ?อวี๋เฟยเหยียนกำลังจะถามต่อ แต่จู่ ๆ พ่อบ้านจางก็เดินเข้ามาจากด้านนอก“ทูลองค์รัชทายาท พระชายาออกไปข้างนอกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” สีหน้าของพ่อบ้านจางมีความกังวล เห็นได้ชัดว่ากำลังวิตกกับบางสิ่งซ่างกวนซีขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าแม้เป็นช่วงเย็น แต่ดูเหมือนจะมีฝนตกหนักไม่เพียงแค่ท้องฟ้ามืดสนิท แต่ยังมีฟ้าแลบและฟ้าร้องจากที่ไกล ๆ ด้วย นางออกไปทำอะไรตอนนี้?ซ่างกวนซีถามว่า “นางบอกหรือไม่ว่าจะไปที่ใด?”พ่อบ้านจางส่ายหัวเบา ๆครืน! เปรี้ยง!ฟ้าแลบและฟ้าร้องทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นอวี๋เฟยเหยียนเห็นเช่นนั้นจึงพูดว่

บทล่าสุด

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 371 ไม่ถูกเปิดโปงหรอกหรือ

    “จะลองอะไรกัน? ถึงจะลอง พวกเราเป็นคนของจวนรัชทายาท ก็ต้องให้พระชายาองค์รัชทายาทบันทึกด้วยตนเอง ไม่ใช่บันทึกในชื่อของเจ้า!” เสียงของอวี๋เฟยเหยียนดังมาจากข้างหลังของเยี่ยนเว่ยฉือทุกคนหันไปตามเสียง ก็เห็นเขาพาฉินเซียงหรูเดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผยหานอวี่เฟยขมวดคิ้วมองเขา พูดอย่างไม่พอใจว่า “รัฐทายาทอวี๋ ท่านนี่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านจริง ๆ!”อวี๋เฟยเหยียนเท้าสะเอวมองหานอวี่เฟย กล่าวอย่างไม่พอใจว่า “ใช่ แล้วอย่างไร? ไม่ได้หรือ? เก่งจริงก็กัดข้าสิ!”“ท่าน! ท่านมันรนหาที่ตาย!” หานอวี่เฟยโกรธจนกัดฟัน แต่ก็รู้ว่าไม่อาจลงมือกับอวี๋เฟยเหยียนได้ถึงแม้พ่อของทั้งสองจะเป็นอ๋องที่มีบรรดาศักดิ์สองอักษร ซึ่งมีศักดิ์ฐานะเท่าเทียมกันแต่อวี๋เฟยเหยียนเป็นถึงรัฐทายาท ในขณะที่นางเป็นเพียงแค่ท่านหญิงหากลงมือกับอวี๋เฟยเหยียนจริง ๆ ข้อหาล่วงเกินผู้สูงศักดิ์ก็คงหนีไม่พ้นหานอวี่เฟยแค่นเสียงเย็นชา กล่าวว่า “ดี ในเมื่อพวกเจ้าอยากลองเอง ก็ลองดูสิ ข้าจะคอยดูอยู่ตรงนี้ ดูซิว่าพวกเจ้าจะเอาอะไรมาลอง”ฉินเซียงหรูที่อยู่ข้าง ๆ ยิ้มเล็กน้อย ยื่นมือไปหยิบเถาเหลยกงที่ตากแห้งออกมาต้นหนึ่ง กล่าวว่า “พระชายารัชทายาทได้ส

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 370 แขกไม่ได้รับเชิญ

    “อ่า ไม่! ไม่ ๆ ๆ คำถามนี้ดี คำถามนี้ดีมาก!” อวี๋เฟยเหยียนถอนหายใจโล่งอก จากนั้นก็รีบยกย่องซ่างกวนซีทันที“แน่นอนว่าศิษย์พี่ใหญ่ต้องเป็นคนทำอยู่แล้ว ข้าและท่านหมอฉินจะมีความสามารถในการจดจำได้แม่นยำเช่นนั้นได้อย่างไร จำไม่ได้แล้วว่าเมื่อวานเจ้าทำอาหารอะไรบ้าง เฮ้อ ศิษย์พี่คนนี้ปากแข็งแต่ใจอ่อน หลังจากทำลายข้าวของเมื่อวาน ตอนกลางคืนกลับไปคงจะโทษตัวเองน่าดู วันนี้ถึงได้ทำเช่นนี้!”เยี่ยนเว่ยฉือเม้มปาก พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “อ้อ เช่นนั้นเมื่อวานเขา… ทำผิดจริง ๆ น่ะสิ! ฮึ่ม!”อวี๋เฟยเหยียนยิ้มตาหยี “เช่นนั้นวันนี้เขาก็ชดเชยแล้ว พี่สะใภ้ก็ยกโทษให้เขาเถอะ!”เยี่ยนเว่ยฉือทำปากยื่น “ข้าไม่ใช่คนใจแคบเช่นนั้นหรอก ข้าขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์มั่นคง ใครกันจะเหมือนเขา เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่เห็นแก่ที่ต้นตอของเรื่องมีเหตุผล ผู้ใหญ่อย่างข้าก็จะไม่ถือสาคนใจแคบแล้วกัน!”อวี๋เฟยเหยียนถอนหายใจโล่งอก “ดีแล้ว ดีแล้ว ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี!”“ไม่ง่ายดายเช่นนั้น อย่างน้อยพวกท่านก็ต้องบอกข้าว่าอดีตฮองเฮาทรงสิ้นพระชนม์อย่างไร วันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”เยี่ยนเว่ยฉืออยากจะทำความเข้าใจซ่างกวนซีให้มากขึ้น เพื่อที่ตั

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 369 ไอหยา ใครทำอาหาร?

    เมื่อเยี่ยนเว่ยฉือมาถึงลานหน้า ก็พบว่าชายฉกรรจ์สามคนของจวนรัชทายาทกำลังล้อมวงอยู่หน้าโต๊ะซ่างกวนซีนั่งตัวตรง มองนางอย่างใจเย็นอวี๋เฟยเหยียนยิ้มแหย อย่างกระอักกระอ่วนฉินเซียงหรูลูบจมูก ยิ้มอย่างมีความหมาย‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น?’เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกงงงวย“พระชายาที่ไหนตื่นสายป่านนี้ เจ้าไม่หิวหรือ?” คำพูดของซ่างกวนซีไม่ค่อยดีนัก แต่โทนเสียงกลับอ่อนโยนเขายื่นมือไปหาเยี่ยนเว่ยฉือ “มาทานอาหารเร็ว!”“โอ้!” เยี่ยนเว่ยฉือเดินไปนั่งข้าง ๆ ซ่างกวนซีภายใต้สายตาของคนทั้งสามทันทีที่นั่งลง นางก็พบว่าอาหารวันนี้ไม่ธรรมดานี่… อาหารหกอย่างกับน้ำแกงหนึ่งอย่าง ไม่ใช่อาหารเดียวกันกับที่นางทำเมื่อวานนี้หรอกหรือ?ยังมีขนมผิงวันเกิดรูปร่างแปลกประหลาด ที่ถูกทำขึ้นมาใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกหรือ?“นี่… นี่คือ?” เยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีอย่างสงสัยซ่างกวนซีขมวดคิ้ว “พวกเขาสองคนทำ บอกว่าเมื่อวานไม่ได้ทานอาหารเหล่านั้น รู้สึกเสียดาย วันนี้ก็เลยรบเร้าไคจือและซ่านเย่ทำขึ้นมาใหม่ เจ้าลองชิมดู หมูสามชั้นอบบ๊วย รสชาติถูกต้องหรือไม่?”เยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนถามอย่างไม่เชื่อว่า “รัฐท

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 368 แน่ใจในความรู้สึก

    จนกระทั่งลมหายใจของเด็กสาวในอ้อมแขนสม่ำเสมอ นอนหลับสนิท ซ่างกวนซีถึงได้สติกลับคืนมาจากอาการประหม่าเมื่อครู่เขาอุ้มเยี่ยนเว่ยฉือในท่าเจ้าหญิง เดินตรงไปที่เตียงจากนั้นก็วางนางลงบนเตียงอย่างเบามือมองดูใบหน้าแดงปลั่งของนาง ซ่างกวนซีอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลง อยากจะลิ้มลองจูบเมื่อครู่ที่หยุดอยู่แค่ริมฝีปากอีกครั้งทว่าตอนที่ปลายจมูกของคนทั้งสองสัมผัสกัน ความขัดแย้งในใจของซ่างกวนซีก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเขาไม่สามารถใกล้ชิดกับเยี่ยนเว่ยฉือมากเกินไปได้ เพราะไม่สามารถให้คำมั่นสัญญาตลอดชีวิตกับนางได้เขาไม่กล้าที่จะร่วมเรียงเคียงหมอนกับเยี่ยนเว่ยฉือ ด้วยกลัวว่าพิษกู่เย็นบ้านี่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเยี่ยนเว่ยฉือชีวิตของเขาเต็มไปด้วยโศกนาฏกรรม โซ่ตรวน ภาระ และความไม่แน่นอนเขาจะทนดึงหญิงสาวที่เขาชอบใจเข้าสู่วังวนเช่นนี้ได้อย่างไร?เขามั่นใจในความรักของตนเอง เพียงแต่ไม่มั่นใจในโชคชะตาของตนเองก็เท่านั้นซ่างกวนซีถอนหายใจ จุมพิตที่เต็มไปด้วยความรักประทับลงกลางหน้าผากของเยี่ยนเว่ยฉือใช่ บางทีอาจจะเป็นตอนที่นางจูบเขาเมื่อครู่ ทำให้เขายืนยันความรู้สึกของตนเองได้แล้วเขาชอบนางมาก แม้ว่านาง…

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 367 สามสิ่งที่บุรุษไม่พึงกระทำ

    เมื่อเห็นว่าเยี่ยนเว่ยฉือกำลังจะหงายหลัง ซ่างกวนซีก็คว้าเอวของนางไว้โดยสัญชาตญาณ โอบนางไว้แน่นเยี่ยนเว่ยฉือนั่งลงได้มั่นคงอีกครั้ง จู่ ๆ ก็ยกยิ้ม “เป็นอย่างไร เอวข้าคอดดีใช่หรือไม่?”นี่… นี่มันคำถามอะไรกัน?ซ่างกวนซีรู้สึกว่าหายใจติดขัดเล็กน้อย เหตุใดหลังจากเมานางถึงเป็นเช่นนี้?เยี่ยนเว่ยฉือฮึดฮัดในลำคอ ทำปากยื่น บ่นต่อ “มีภรรยาเอวคอด ขาเรียว ผิวขาวสวยเช่นนี้ ท่านไม่ทะนุถนอมไม่พอ ยังดุข้าอีก ทำตัวเช่นนี้สมควรเป็นลูกผู้ชายหรือ? ช่าง…ช่าง…”ซ่างกวนซีพูดต่อโดยไม่รู้ตัว “ทำลายของดี!”“ใช่! คำนี้แหละ! ซ่างกวนซี ข้าจะบอกท่านไว้ สุภาพบุรุษไม่ควรทำตัวเช่นท่าน ลูกผู้ชายอกสามศอก สิ่งแรกคือ ไม่ควรโกรธง่าย นี่แสดงว่าท่านใจแคบ สอง ไม่ควรพูดพล่อย นี่แสดงว่าท่านไม่รู้จักคิด สาม ข้อสามสำคัญที่สุด…”ยังไม่ทันที่เยี่ยนเว่ยฉือจะพูดจบ ซ่างกวนซีก็ถามด้วยความอยากรู้ “สามคืออะไร?”เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มตาหยี “สาม คือไม่ควรแสดงความกำหนัดโดยไม่เลือกที่เลือกทาง นี่แสดงว่าท่านไม่มี… ทักษะชีวิตคู่”พรวด!หากตอนนี้ซ่างกวนซีมีน้ำอยู่ในปาก คงจะพ่นใส่หน้าเยี่ยนเว่ยฉือไปแล้วยายเด็กแก่แดด กล้าพูดอะไรเช่นนี้ออ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 366 โถมตัวเข้าใส่เขาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง!

    “ใครกันทำตัวเหลวไหลเช่นนี้?!” ซ่างกวนซีมองไปที่ประตูอย่างประหลาดใจผลปรากฏว่าเห็นเยี่ยนเว่ยฉือหน้าแดงก่ำ เดินเข้ามาด้วยฝีเท้ามั่นคงซ่างกวนซีลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปหานางด้วยความสงสัย “เยี่ยนเว่ยฉือ เจ้ากล้ามาก! ถึงกับกล้า…”“ใช่! ข้ากล้ามาก แล้วทำไม?” เยี่ยนเว่ยฉือตาปรือ แต่คำพูดกลับแข็งกร้าวสิ่งนี้ทำให้ซ่างกวนซีประหลาดใจเล็กน้อยเห็นเพียงเยี่ยนเว่ยฉือเดินโซเซมาหาเขา พูดเสียงดังว่า “มีคำกล่าวว่าสอนลูกต่อหน้าคนอื่น ตักเตือนภรรยาลับหลัง… อ่า ไม่ใช่ ตักเตือนสามีลับหลัง วันนี้ข้าจะสอนท่านถึงหลักการใช้ชีวิตเอง”เยี่ยนเว่ยฉือเดินเข้าไปหาซ่างกวนซีอย่างฮึกเหิม แต่ก้าวพลาด เท้าซ้ายสะดุดเท้าขวา ทำให้ทั้งร่างโถมเข้าไปหาซ่างกวนซีเมื่อเห็นดังนั้น ซ่างกวนซีก็เบิกตากว้าง สัญชาตญาณทำให้เขายื่นมือออกไปรับแต่เนื่องจากแรงเฉื่อยของเยี่ยนเว่ยฉือมากเกินไป ทำให้เขาก็ถอยหลังไปหลายก้าวโชคดีที่ข้างหลังเป็นเก้าอี้ ซ่างกวนซีนั่งลงไปอย่างแรง ใช้มือยันโต๊ะไว้ได้ ทำให้ไม่ล้มลงไปในขณะเดียวกัน เยี่ยนเว่ยฉือก็นั่งคร่อมอยู่บนตักของเขาซ่างกวนซีขมวดคิ้วมองนาง ถามว่า “เจ้าดื่มสุรามารึ?”บนร่างกายของนางเจือก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 365 บุกเข้ามาตอนกลางดึก?

    “เฮ้อ ก็ได้ ๆ คราวนี้ข้าใจกว้าง จะไม่ถือสา! ไม่ต้องขอโทษข้าแล้ว! ฮึ่ม!” เยี่ยนเว่ยฉือพูดปลอบใจตัวเอง หยิบกาน้ำชาบนโต๊ะ เตรียมจะดื่มน้ำดับกระหายแต่พอหยิบขึ้นมาก็พบว่ากาน้ำชาว่างเปล่า ทำให้หงุดหงิดมากขึ้นทันที“ไคจือ ซ่านเย่!” เยี่ยนเว่ยฉือตะโกนพอดีกับที่ไคจือถือกาน้ำชาเข้ามา ยิ้มตอบว่า “พระชายากระหายน้ำหรือเพคะ? มีชาดอกสายน้ำผึ้งที่ต้มใหม่ ๆ ช่วยดับกระหายได้ พระชายาจะลองชิมดูหรือไม่เพคะ?”ไคจือรีบรินชาให้เยี่ยนเว่ยฉือหนึ่งแก้วกลิ่นชาหอมอบอวล ทำให้เยี่ยนเว่ยฉืออดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว“เอ๊ะ หอมจัง ในนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ดอกสายน้ำผึ้งนะ?”ไคจือตอบว่า “ได้ยินจากจางมามาว่าเป็นชาดอกไม้ที่ท่านหมอฉินต้ม อาจจะใส่สมุนไพรอื่นด้วยกระมังเพคะ?”เยี่ยนเว่ยฉือยกขึ้นมาดมที่จมูก รู้สึกเพียงแต่กลิ่นหอมอบอวล ชวนให้หลงใหลเล็กน้อยนางยิ้ม “ของของฉินเซียงหรูต้องเป็นของดีแน่ ๆ”พูดจบ นางก็ดื่มชาจนหมดจอกตอนแรกที่ดื่มเข้าไปจะขมปร่า ตอนที่กลืนลงคอจะหวาน หลังจากขมแล้วรสหวานจะตีตื้นขึ้น หอมละมุนติดปาก“เป็นชาที่ดีจริง ๆ!” เยี่ยนเว่ยฉือพอใจกับรสชาตินี้มากที่สำคัญคือไม่รู้ด้วยเหตุใด หลังจากดื่มชาแก้ว

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 364 ใส่ยาผิดแล้วกระมัง

    อวี๋เฟยเหยียนไปที่ห้องครัว เลือกสุราดอกท้อชั้นดีมาไหหนึ่ง กำลังจะใส่เมามายลืมโลกนี้ลงไป ทว่ากลับคิดอะไรขึ้นมาได้“เอ๊ะ? ไม่ถูก วันนี้ศิษย์พี่ใหญ่ต้องงดเสวย ดื่มได้แต่น้ำชา ดื่มสุราไม่ได้!”อวี๋เฟยเหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นค้นหาของในครัว ในที่สุดก็เจอดอกสายน้ำผึ้งเขายิ้ม “นี่ดีกว่า ต้มชาดอกสายน้ำผึ้งให้ศิษย์พี่ดื่ม นอกจากจะดับร้อนได้แล้ว กลิ่นของดอกสายน้ำผึ้งยังกลบกลิ่นสุราได้ด้วย”อวี๋เฟยเหยียนเริ่มลงมือทันที หลังจากธูปหมดไปดอกหนึ่ง ชาก็ต้มเสร็จแล้วเขาเปิดขวดกระเบื้องใบเล็กที่ฉินเซียงหรูให้มา กำลังจะรินลงในกาน้ำชา แต่น้ำชากำลังเดือด เมื่อเปิดฝาออก ไอน้ำร้อนก็พุ่งขึ้นมาและไอน้ำเหล่านั้นก็พัดพาแอลกอฮอล์ความเข้มข้นสูงบนมือของอวี๋เฟยเหยียนกระจายไปในอากาศทันทีหลังจากที่อวี๋เฟยเหยียนได้กลิ่น เขาก็เริ่มเวียนหัว“นี่…นี่…ของของฉินเซียงหรู เหตุใดฤทธิ์สุราถึงแรงเช่นนี้!”อวี๋เฟยเหยียนเซไปเซมา ฝืนรินสุราลงในน้ำชาสองสามหยดตอนที่เขากังวลว่ายังไม่พอ เขาก็ถูกกลิ่นสุราทำให้มึนเมา หลังจากที่โลกหมุนอยู่ชั่วขณะ เขาก็ล้มลงกับพื้นห้องครัว สลบไปเตาบังร่างของเขาไว้ ทำให้ไคจือและซ่านเย่ที

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 363 ความคิดห่วยๆ ลองดูว่ากล้าใช้หรือไม่

    หลังจากเยี่ยนเว่ยฉือพูดจบ ก็ออกจากเรือนหน้าไปทางลานรั่วชู อวี๋เฟยเหยียนยืนอยู่ที่ทางแยก มองไปที่เรือนซวงหาน มองไปที่เรือนรั่วชู คิดไปคิดมาก็ตัดสินใจไปหาฉินเซียงหรูฉินเซียงหรูกำลังยุ่งอยู่กับสมุนไพรของเขา วันนี้มีปลาแห้งเพิ่มมาตัวหนึ่ง อวี๋เฟยเหยียนมองฉินเซียงหรูที่กำลังทาเกลือบนปลา อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เจ้ายังมีอารมณ์มาหมักปลาเค็มอีกหรือ? ข้างหน้าเขาทำลายข้าวของกันจนหมดแล้ว!”ฉินเซียงหรูยิ้ม พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ข้าได้ยินแล้ว”“ได้ยินแล้ว?” อวี๋เฟยเหยียนประหลาดใจ “ได้ยินแล้วยังใจเย็นเช่นนี้อยู่ได้?”“แล้วจะให้ทำอย่างไร?” ฉินเซียงหรูมองอวี๋เฟยเหยียนอย่างขบขัน “ไปช่วยแม่นางเยี่ยนตำหนิองค์รัชทายาทที่ไม่รู้จักบุญคุณ? หรือไปช่วยองค์รัชทายาทตำหนิแม่นางเยี่ยนว่าชอบยุ่งไม่เข้าเรื่อง?”อวี๋เฟยเหยียนอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่ง พูดอะไรไม่ออกฉินเซียงหรูยังคงทำปลาต่อไป พูดว่า “ถ้าจะให้ข้าพูด การที่แม่นางเยี่ยนก่อเรื่องเช่นนี้ก็ดีแล้ว อย่างน้อยวันนี้ของทุกปี ทุกคนก็จะได้ไม่ลำบาก แม้แต่หายใจก็ยังไม่กล้าดัง เรื่องมันผ่านมาหลายปีแล้ว ถึงจะยังปล่อยวางไม่ได้ ก็ควรจะเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ จะยึดติดอยู่กั

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status