Home / รักโบราณ / ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท / บทที่ 53 โชคชะตาถูกกำหนดเอาไว้เช่นนี้หรือ?

Share

บทที่ 53 โชคชะตาถูกกำหนดเอาไว้เช่นนี้หรือ?

Author: โม่เชียนซาง
“อึก!” ขณะที่กำลังครุ่นคิด ซ่างกวนซีก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก

เขากุมหน้าอกโดยอัตโนมัติ แต่ก็มีชั้นน้ำแข็งปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา

พิษกู่เย็นกำเริบแล้ว!

ขณะที่ซ่างกวนซีกำลังกำหนดลมหายใจส่งพลังปราณไปที่จุดจุดเดียว เขาก็พูดกับตัวเองในใจว่า ‘อาการกำเริบเกิดขึ้นถี่มากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นจริงดังที่ท่านอาจารย์พูดเอาไว้ หากไม่มีมัจฉาทองคำจิ่วหยาง เราก็คงมีอายุไม่ถึงยี่สิบห้าปีสินะ?’

ซ่างกวนซีใช้วิชาสหัสเหมันต์ เพื่อขับไล่ไอหนาวออกจากร่างกาย

ไอหนาวนั้นค่อย ๆ ควบแน่นเป็นน้ำแข็งเกาะตัวอยู่ตามร่างกายของเขา ทำให้เขากลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่จะหมดสติ ความคิดแปลก ๆ ก็แวบขึ้นมาในหัวของซ่างกวนซี

“ดีแล้ว โชคดีแล้วที่วันนี้นางปฏิเสธเรา ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ก็ถือว่าดีไป สักวันหนึ่งหากนางได้พบกับคนที่รักก็จะได้แต่งงานออกเรือนไปอย่างมีความสุข” ซ่างกวนซีค่อย ๆ หลับตาและตกอยู่ในสภาวะไร้สติ

……

เช้าวันรุ่งขึ้น

“ศิษย์พี่ ศิษย์พี่ตื่นสิ ศิษย์พี่!”

“ศิษย์พี่ใหญ่ ตื่นเถอะ!”

เสียงเรียกของอวี๋เฟยเหยียนและเย่เทียนซูดังเข้ามาในโสตประสาท

ซ่างกวนซีค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและมองทั้งสองคนด
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 54 ยากที่จะแยกแยะระหว่างความภักดีและการทรยศ

    เย่เทียนซูขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ข้าจะกลับไปเพิ่มรางวัลตอบแทน ปล่อยข่าวไปทั้งใต้ดินบนดิน พวกเขาต้องหามัจฉาทองคำจิ่วหยางเจอภายในหนึ่งปีอย่างแน่นอน ศิษย์พี่ หากครั้งหน้าท่านอาการกำเริบอีก ท่านต้องแจ้งให้พวกเราทราบ พวกเราสองคนจะได้ทำการถ่ายพลังปราณแต่กำเนิดให้ท่าน ท่านจะได้สามารถควบคุมวิชาสหัสเหมันต์ ได้ดีขึ้น”อวี๋เฟยเหยียนก็พยักหน้าซ้ำ ๆ “ใช่แล้ว! ศิษย์พี่ ที่ท่านอาจารย์สั่งให้พวกเราลงจากเขามากับท่าน ไม่ใช่เพื่อปกป้องท่านหรอกรึ ท่านจะเกรงใจพวกเราไปทำไมเล่า?”ซ่างกวนซียิ้มและพยักหน้าเขาไม่ได้เกรงใจ แต่เขากลัวว่าจะบอกไม่ทันการกำเริบระยะต้นของพิษกู่เย็นนั้นมีลำดับขั้น แต่ในช่วงหลายปีมานี้กลับตรงกันข้ามยิ่งไปกว่านั้น ทุกครั้งที่อาการกำเริบ เขาก็ไม่สามารถบอกคนอื่นได้ทันท่วงที และรับมือไม่ทันอยู่ร่ำไปดูเหมือนว่าพิษนี้จะซึมลึกเข้าไปในอวัยวะภายในแล้วเพื่อไม่ให้ศิษย์น้องทั้งสองของเขาต้องกังวล ซ่างกวนซีจึงตอบรับ “ได้ คราวหน้าข้าเรียกพวกเจ้าแน่นอน”“ทูลองค์รัชทายาท มีคนมาที่จวนอีกแล้วเพคะ” เสียงของจางมามาดังขึ้นที่หน้าประตูซ่างกวนซีกล่าวว่า “เมื่อวานนี้ซ่างกวนหลีมาส่งคนรับใช้แต่ก็ล้มเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 55 เลียให้สะอาด

    สาวใช้วัยละอ่อนหน้าตาสะสวยทั้งสี่มองหน้ากัน จากนั้นหนึ่งในนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าและทำความเคารพอย่างเชื่องช้า “หม่อมฉันชื่อซูเค่อ ขอถวายความเคารพชายารัชทายาทเพคะ”เยี่ยนเว่ยฉือมองนางพร้อมกับเลิกคิ้วแล้วถามว่า “เจ้ามีอะไรจะพูดรึ?”ซูเค่อพยักหน้า “เพคะ ขอเรียนพระชายา หม่อมฉันทั้งสี่คนได้รับการคัดเลือกจากฮองเฮาด้วยตัวพระนางเอง ให้มารับใช้องค์รัชทายาทที่เรือนด้านใน พวกหม่อมฉันทำงานเหล่านั้นไม่เป็นจริง ๆ เพคะ”“หากทำไม่เป็นก็เรียนรู้เอาสิ! ใช่ว่าเจ้าเกิดมาแล้วจะพูดได้เลยนี่ ตอนนี้เจ้าเจื้อยแจ้วขนาดนี้ พูดคล่องเชียว?” เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มเยาะใส่อีกฝ่ายซูเค่อสะดุ้งตกใจ นางขมวดคิ้วและแสดงความไม่พอใจผ่านสีหน้าสตรีอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังก็เดินออกมาและพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างไม่สบอารมณ์ “พระชายาหมายความว่าอย่างไรเพคะ? พวกเราได้รับเลือกจากฮองเฮาให้มารับใช้องค์รัชทายาท แต่พระชายากลับให้พวกเราไปใช้แรงงานเช่นนี้ ท่านคิดจะไม่ไว้หน้าฮองเฮาหรือเพคะ?”ซูเค่อที่เห็นเช่นนั้นก็รีบคว้าตัวนางไว้ “ชวนหง เงียบเดี๋ยวนี้!”สาวใช้ผู้นี้ชื่อชวนหงสินะเยี่ยนเว่ยฉือแค่นเสียงเย็นชา “โอ้ ฟังจากคำพูดของเจ้าแล้ว

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 56 สิ่งต่าง ๆ กำลังจะเปลี่ยนไป

    พูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็มองไปยังคนรับใช้คนอื่น ๆ และพูดต่อ “พวกเจ้าก็เช่นกัน หากไม่เชื่อฟังคำสั่ง ก็รีบไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนมองไปที่เฉียวกงกง แต่เฉียวกงกงทำเพียงแค่ขมวดคิ้วและเม้มริมฝีปากภารกิจของเขาคือส่งคนเข้าไปแฝงตัวในจวนองค์รัชทายาทส่วนที่เหลือเขาไม่สามารถควบคุมได้หลังจากที่เฉียวกงกงทำความเคารพซ่างกวนซีและเยี่ยนเว่ยฉือแล้ว เขาก็จากไปพร้อมกับคนของตัวเองคนที่เหลือก็ทำได้แค่อยู่ต่อไปด้วยการแสดงอำนาจของเยี่ยนเว่ยฉือ ทุกคนก็เริ่มเชื่อฟังมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทั้งหมดตามแม่บ้านจางไป เพื่อช่วยเหล่าช่างฝีมือซ่อมบำรุงจวนองค์รัชทายาทอย่างเงียบ ๆเยี่ยนเว่ยฉือมองทุกคนที่เดินจากไป พลางเท้าเอวถอนหายใจ “เยี่ยมมาก มีคนมาช่วยเยอะขนาดนี้ อีกไม่นานจวนองค์รัชทายาทก็จะเหมือนใหม่แล้ว อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าจ้างได้มากอีกด้วย!”อวี๋เฟยเหยียนก้าวไปข้างหน้าและพูดด้วยขมขื่น “พี่สะใภ้ เจ้ามองโลกในแง่ดีเกินไปแล้ว เก้าในสิบของคนเหล่านี้เป็นคนของฮองเฮาและอันกั๋วกง ส่วนที่เหลือก็เป็นสายจากตำหนักต่าง ๆ นับจากนี้ไปจวนองค์รัชทายาทคงจะไม่สงบสุขอีกแล้ว”เยี่ยนเว่ยฉือโบกมือแล้วพูดอย่างแยแส “แต่หากไม่ใ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 57 นางคงจะเป็นคนโง่

    ซ่างกวนซีลุกเดินไปที่หน้าต่าง มองท้องฟ้าที่ยังไม่มีฝนตกแต่ก็มีเสียงฟ้าแลบฟ้าร้องดังมาแล้ว พลางกระซิบเบา ๆ ว่า “ท้องฟ้าในเมืองหลวง ก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงบ้างแล้ว”อวี๋เฟยเหยียนมองไปที่ซ่างกวนซีและถามอย่างกระตือรือร้น “ศิษย์พี่เลือกเป้าหมายได้แล้วหรือ?”ซ่างกวนซีกล่าวว่า “หยางอวิ๋นเฟิง รองเจ้ากรมขุนนาง”อวี๋เฟยเหยียนคิดว่าซ่างกวนซีวางแผนที่จะค่อย ๆ รวบรวมอำนาจของหกกรมโดยเริ่มทำการแทรกซึมจากกรมขุนนางแต่ในทางปฏิบัติจะทำอย่างไรล่ะ?หยางอวิ๋นเฟิงผู้นี้ มีอะไรที่พิเศษ?อวี๋เฟยเหยียนกำลังจะถามต่อ แต่จู่ ๆ พ่อบ้านจางก็เดินเข้ามาจากด้านนอก“ทูลองค์รัชทายาท พระชายาออกไปข้างนอกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” สีหน้าของพ่อบ้านจางมีความกังวล เห็นได้ชัดว่ากำลังวิตกกับบางสิ่งซ่างกวนซีขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าแม้เป็นช่วงเย็น แต่ดูเหมือนจะมีฝนตกหนักไม่เพียงแค่ท้องฟ้ามืดสนิท แต่ยังมีฟ้าแลบและฟ้าร้องจากที่ไกล ๆ ด้วย นางออกไปทำอะไรตอนนี้?ซ่างกวนซีถามว่า “นางบอกหรือไม่ว่าจะไปที่ใด?”พ่อบ้านจางส่ายหัวเบา ๆครืน! เปรี้ยง!ฟ้าแลบและฟ้าร้องทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นอวี๋เฟยเหยียนเห็นเช่นนั้นจึงพูดว่

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 58 นางกำลังทำอะไรกันแน่?

    ใบหน้าของซ่างกวนซีเคร่งขรึม แม้เขาจะยังไม่สามารถเดาได้ว่าเยี่ยนเว่ยฉือกำลังคิดอะไรอยู่แต่เขาคิดว่าเยี่ยนเว่ยฉือไม่น่าจะกำลังทำเรื่องดีแน่นอนซ่างกวนซีตามนางต่อไปอย่างอดทน เห็นว่านางเดินอ้อมมาตรงตรอกหลังจวนที่พำนักขององค์ชายรอง และมาหยุดอยู่ข้างต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งจากนั้นนางก็เหน็บแกนสายว่าวกระดาษไว้ที่เอวแล้วเริ่มปีนต้นไม้แม้การเคลื่อนไหวของนางจะไม่ปราดเปรียวมากนัก แต่ก็ไม่ยากที่จะเห็นว่านางคุ้นเคยกับต้นไม้ต้นนี้เป็นอย่างดีนางปีนขึ้นไปถึงกลางลำต้นภายในเวลาอันรวดเร็วสาวน้อยผู้นี้จะทำอะไรกันแน่?ขณะนี้ ไม่ได้มีเพียงซ่างกวนซีที่สับสนยังมีบุรุษลึกลับในชุดสีม่วงที่สับสนด้วยเช่นกันบุรุษผู้นั้นกำลังนอนหลับอยู่บนต้นไม้ต้นเดียวกับที่เยี่ยนเว่ยฉือปีนขึ้นไปแต่ยอดไม้นั้นมีขนาดใหญ่มากจนบดบังร่างของเขา ดังนั้นทั้งเยี่ยนเว่ยฉือที่อยู่ใกล้ ๆ หรือซ่างกวนซี ที่อยู่ในระยะไกลจึงไม่สามารถมองเห็นเขาได้เขาหลุบตามองเยี่ยนเว่ยฉือที่อยู่ด้านล่าง พลางเลิกคิ้วด้วยความสงสัยและพูดกับตัวเองในใจว่า “ช่างเป็นเด็กสาวที่แปลกจริง ๆ จะมาเล่นว่าวกระดาษบนต้นไม้อย่างนี้ทำไม?”ถึงกระนั้นก็ยังมีเรื่องน่าประห

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 59 ความยุติธรรมที่สวรรค์บัญชา

    ไม่นานหลังจากนั้น ท้องฟ้าก็ถูกแบ่งครึ่งด้วยสายฟ้าสีม่วงขาวทันใดนั้น แสงสว่างเจิดจ้าส่องสว่างทั่วเมืองหลวงจนค่ำคืนกลายเป็นกลางวันในความมืด เยี่ยนเว่ยฉือกุมมืออย่างตื่นเต้นและชะเง้อคอดูว่าวกระดาษของตัวเองครืน! เปรี้ยง!ฟิ้ว!สายฟ้าฟาดใส่ตรงกลางว่าวพอดิบพอดีแสงสว่างที่เต็มไปด้วยประกายไฟและสายฟ้าไหลมาตามสายว่าวกระดาษแล่นลงตรงหลังคาจวนของซ่างกวนหลีเกิดเสียงดังเปรี้ยงจนหลังคาหลุดกระเด็นออก!ทว่านี่ไม่ใช่ผลลัพธ์สุดท้ายเมื่อหลังคาระเบิด เปลวไฟที่โหมกระหน่ำก็ลุกท่วมเป็นไฟกองใหญ่ในทันที!กลายเป็นฉากอันน่าสยอง!“พระเจ้าช่วย ใครก็ได้ช่วยด้วย จวนถูกฟ้าผ่า!”“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย ไฟไหม้ ไฟไหม้แล้ว!”“รีบไปแจ้งองค์ชายเร็ว! รีบมาช่วยกันดับไฟ!”……จวนที่พำนักขององค์ชายรองตกอยู่ในความสับสนอลหม่านทันทีเยี่ยนเว่ยฉือที่อยู่อีกฝั่งดีดนิ้วและพูดด้วยรอยยิ้ม “สำเร็จแล้ว! ความยุติธรรมที่สวรรค์บัญชา! เท่านี้ซ่างกวนซีก็ไม่ต้องกลัวว่าฮ่องเต้เฒ่าจะทำให้ลำบากใจแล้ว!”เมื่อซ่างกวนซีที่อยู่ในความมืดได้ยินคำพูดนั้น ไม่รู้เหตุใดหัวใจของเขาถึงสั่นไหวที่แท้… ที่แท้นางทุ่มเทแรงกายก็เพื่อระบา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 60 ต้องส่งนางไป

    เดิมทีซ่างกวนซีต้องการบังคับให้นางบอกความจริง แต่เมื่อเขาหรี่ตาลงและเห็นรอยขีดข่วนเล็ก ๆ บนมือของเยี่ยนเว่ยฉือ เขาก็พูดไม่ออกขึ้นมาฉับพลันรอยแผลเหล่านี้คงจะเกิดจากการปีนต้นไม้มือของซ่างกวนซีที่ไพล่หลังอยู่กำหมัดแน่น อารมณ์ของเขาซับซ้อนอย่างยิ่งทั้งสองมองหน้ากันอยู่นาน และไม่มีใครเดาได้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรขณะที่เยี่ยนเว่ยฉือทนไม่ไหวกับบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้ ซ่างกวนซีก็พูดว่า “เยี่ยนเว่ยฉือ ข้าส่งเจ้าจากไปดีไหม?”“หา? จากไป?” เยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีอย่างสงสัยซ่างกวนซีพยักหน้าอย่างจริงจังรอบตัวเขามีแต่อันตราย ทั้งฮองเฮา อันกั๋วกง อ๋องจ่างซิ่นและยังมีบรรดาพี่น้องทุกคนที่ต่างมองเขาเป็นเสี้ยนหนามตอนที่เขาอยู่ในค่ายทหาร เขาต้องเผชิญกับการถูกลอบสังหารนับครั้งไม่ถ้วนตอนนี้ที่กลับมายังเมืองหลวงแล้ว ก็ยังต้องดิ้นรนเดินบนแผ่นน้ำแข็งบาง ๆ โดยเฉพาะพิษกู่เย็นที่อาการเริ่มกำเริบอย่างไม่อยู่กับร่องกับรอยมากขึ้นเรื่อย ๆเขารู้ว่าเวลาของตัวเองเหลือน้อย และเขาแค่อยากทำภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้นให้สำเร็จโดยเร็วที่สุดและในบรรดาภารกิจทั้งหมดเหล่านี้ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าเยี่ยนเว่ยฉือ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 61 ถูกลักพาตัว

    บุรุษในชุดสีม่วงโบกมือให้เยี่ยนเว่ยฉือมองมาที่รูตรงชายเสื้อคลุมของเขามันดูเหมือนถูกเผาไม่มีผิดเขาเป็นคนของซ่างกวนหลีหรือ?สีหน้าของนางเริ่มมีความกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ตอนนี้นางไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือพูดได้ นางได้แต่หวังว่าซ่างกวนซีจะพบสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับนางโดยเร็วชายชุดม่วงมองไปทางประตูที่อยู่ด้านหลังนางแล้วพูดต่อ “ข้าว่าสามีของเจ้าดูไม่ค่อยพึงใจในตัวเจ้านะ มากับข้าไหมล่ะ ขอแค่เจ้ามอบร่างกายชดใช้ให้ข้า ก็ถือว่าเจ้าได้ชดใช้ที่ทำให้เสื้อผ้าข้าเสียหาย!”ทันทีที่บุรุษชุดม่วงพูดจบ เขาก็ก้าวไปอุ้มนางขึ้นมาพาดไหล่จากนั้นในขณะที่นางกำลังตกตะลึง เขาก็เดินออกทางประตูแล้วทะยานหนีไป!……หลังจากที่ซ่างกวนซีสั่งให้เตรียมรถเรียบร้อย เขาก็กลับไปที่ห้องหนังสือเพื่อเขียนจดหมายเขาไม่รู้ว่าจะจัดให้เยี่ยนเว่ยฉือไปอยู่ที่ไหนอย่างไรดี แต่เขาต้องส่งนางออกไปให้ได้เยี่ยนเว่ยฉือคิดว่าวิธีการของตนนั้นชาญฉลาด แต่กลับไม่รู้ว่ามันเต็มไปด้วยช่องโหว่แม้แต่คู่แม่ลูกที่อยู่ตรงถนนก็ยังเห็นนางเล่นว่าวกระดาษ หากซ่างกวนหลีตั้งใจจะสืบสวนขึ้นมาจริง ๆ นางจะหนีไปได้อย่างไร?คงไม่พ้นถูกตั้งข้อหาลอบปลงพระชน

Pinakabagong kabanata

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 430 รินชาขอขมา

    ซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็ยื่นมือไปหานาง "เต๋อซ่วนกงกงอุตส่าห์มาทั้ง ๆ ที่ฝนตก มิเช่นนั้นข้าคงมิให้เจ้าต้องลำบากมาด้วยตนเอง"พูดอีกอย่างก็คือ วันนี้ที่ให้เกียรติก็เพราะเห็นแก่ฝ่าบาท ไม่ใช่ฮองเฮา และยิ่งไม่ใช่เพื่อองค์หญิงเหวินหลิงเยี่ยนเว่ยฉือยิ้มให้องค์หญิงเหวินหลิง จากนั้นก็เดินไปข้างหน้า วางมือของตนเองบนมือของซ่างกวนซี แล้วนั่งลงด้วยกันจากนั้นเยี่ยนเว่ยฉือก็เอ่ยว่า "เอาล่ะ ข้ามาแล้ว องค์หญิงมีอะไรอยากทำอยากพูดก็รีบทำรีบพูดเถิด ตอนนี้ข้ายังอารมณ์ดีอยู่!"องค์หญิงเหวินหลิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธนางเป็นแก้วตาดวงใจของฝ่าบาทและฮองเฮา เสด็จพี่ทุกคนต่างก็รักใคร่เอ็นดูนาง ไม่เคยต้องลำบากเช่นนี้มาก่อนแต่ใครจะรู้ว่าเยี่ยนเว่ยฉือทำอะไรกับนาง สำนักหมอหลวงทั้งสำนักก็ยังจนปัญญานางคันคะเยอจนแทบจะทนไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน แทบจะข่มตานอนไม่หลับสตรีให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตามากที่สุด นางไม่กล้าเกาแรง ๆ กลัวผิวหนังจะถลอก ได้แต่อดทนไว้ช่วงหลายวันที่ผ่านมา นอกจากกินยานอนหลับแล้วก็แทบจะไม่ได้นอนเลยเมื่อนึกถึงความทุกข์ทรมานที่ตนเองได้รับ องค์หญิงเหวินหลิงก็ข่มความไม่พอใจ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 429 ขอโทษถึงที่

    ความจริงแล้วซ่างกวนซีไม่ได้พูดโกหก เมื่อคืนหลังจากทั้งสองคนนอนหลับไปแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกไม่สบายตัวเพราะสวมเสื้อตัวนอก จึงดึงทึ้งเสื้อผ้าของตัวเองตลอดเวลาท่านอนของนางก็ไม่ดี พลิกตัวไปมาในขณะที่ซ่างกวนซีใช้ชีวิตอยู่ในสนามรบมานาน ทำให้เขาเป็นคนนอนไวดังนั้นเยี่ยนเว่ยฉือจึงทำให้เขาไม่ได้นอนหลับตลอดทั้งคืนด้วยความจนใจ ซ่างกวนซีจึงลุกขึ้นมาช่วยเยี่ยนเว่ยฉือถอดเสื้อตัวนอกออก แล้วรอจนกระทั่งนางหลับสนิท จึงได้นอนพักไปครู่หนึ่งเขาไม่ได้นอนหลับสบาย คิดว่าเยี่ยนเว่ยฉือก็คงจะนอนไม่หลับเช่นกันดังนั้นก่อนจะไปประชุมราชสำนักในวันนี้ ซ่างกวนซีจึงสั่งบ่าวรับใช้ไม่ให้ไปรบกวนการพักผ่อนเยี่ยนเว่ยฉือจากนั้นเขาก็บ่นออกมาลอย ๆ ว่า "ถูกเด็กคนนั้นทำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืน" บ่าวรับใช้ได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจผิดไปคิดว่าพระชายาของพวกเขา ถูกองค์รัชทายาททำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืนจึงเป็นที่มาของบทสนทนาเมื่อครู่นี้เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่าซ่างกวนซีพูดจาไม่ระวังปาก ช่างเหลวไหลสิ้นดี!เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้ทำอะไรเลย พูดราวกับว่านางเคยชินเสียแล้ว น่ารังเกียจ!ดังนั้นเมื่อเยี่ยนเว่ยฉือลุกขึ้นออกจากห้อง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 428 ช่างหวานล้ำ! ใช้ชีวิตร่วมกัน

    ซ่างกวนซีไม่เคยฝากความหวังไว้กับผู้อื่นการต่อสู้เพียงลำพังมาหลายปี ทำให้เขาเคยชินกับการแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างไว้ด้วยตัวเองแต่ตอนนี้เมื่อเห็นเยี่ยนเว่ยฉือที่ทั้งโกรธแค้นและมุ่งมั่น เขาก็รู้สึกว่าบางเรื่อง ควรจะเรียนรู้ที่จะแบ่งปันเรื่องน่ายินดีเมื่อพูดออกไป สองคนร่วมยินดีปรีดาเรื่องเศร้าเมื่อพูดออกไป ทั้งสองก็สามารถร่วมแบ่งปันความทุกข์ทำให้ความหวานยิ่งหวานขึ้น ทำให้ความขมลดลงครึ่งหนึ่งซ่างกวนซีลุกขึ้นนั่ง โอบกอดเยี่ยนเว่ยฉือ เขาวางคางไว้บนหูของนาง พูดอย่างอ่อนโยน "ได้ เจ้าช่วยข้า พวกเราจะร่วมกัน ล้างมลทินให้เสด็จแม่ ร่วมกันตามหาน้องสาว"เยี่ยนเว่ยฉือโอบกอดซ่างกวนซีตอบ แล้วพูดต่อ "พวกเราจะร่วมกันถอนพิษให้ท่าน ร่วมกันฉลองวันเกิดอีกหลาย ๆ ปี ร่วมกันกินบะหมี่อายุยืนอีกหลาย ๆ ชาม ใช้ชีวิต…ร่วมกัน"ใช้ชีวิต… ร่วมกัน?ตึกตัก!ตึกตัก!ตึกตัก!ซ่างกวนซีรู้สึกเพียงว่าหัวใจของตนเต้นรัว ความรู้สึกซาบซึ้งใจที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน กำลังโอบกอดหัวใจที่เคยเย็นชาของเขาทำให้หัวใจทั้งดวงของเขาร้อนรุ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคำพูดของเยี่ยนเว่ยฉือที่แท้เมื่อใช้ชีวิตร่วมกัน... สามารถทำเรื่องต่าง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 427 นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน

    "เป็นนางที่ช่วยพวกท่านไว้หรือ?" เยี่ยนเว่ยฉือถามต่อซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "นางเป็นคนดีมาก นางมัดน้องสาวของข้าไว้แนบอก แบกลูกสาวตัวน้อยของนางไว้บนหลัง แล้วก็จูงมือข้า พยายามหลบหนี แต่นางเป็นเพียงสตรี ทั้งยังต้องดูแลเด็กถึงสามคน จะวิ่งหนีไปได้ไกลสักแค่ไหน? แม้ว่าพวกเราจะพยายามอย่างสุดกำลังแล้ว ก็ยังถูกพวกมือสังหารไล่ตามทัน มือสังหารถือหน้าไม้ ดูท่าทางจะไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิต นางส่งน้องสาวคืนให้ข้า ให้ข้าอุ้มนางแล้ววิ่งไปข้างหน้าโดยไม่ต้องหันกลับมามอง ส่วนนางก็พาลูกสาวตัวน้อยของนาง ถ่วงเวลาพวกมือสังหาร""แต่พวกมือสังหารเห็นได้ชัดว่ามุ่งเป้ามาที่ข้า พวกเขาถูกฮูหยินผู้นั้นรั้งตัวไว้ ไม่สามารถไล่ตามมาได้ จึงยิงหน้าไม้มาที่ข้า ลูกธนูดอกแรกยิงพลาด ไม่ได้คร่าชีวิตข้า เพียงแต่เฉี่ยวแขนของข้าไป เมื่อเห็นว่าลูกธนูดอกที่สองกำลังจะพุ่งเข้าใส่หน้าอก ฮูหยินผู้นั้นก็รีบวิ่งเข้ามา โอบกอดข้าแล้วกลิ้งลงไปจากเนินเขาด้วยกัน หลบการโจมตีที่ถึงชีวิตได้""แล้วอย่างไรต่อ? พวกท่านหนีรอดมาได้หรือไม่? ทุกคนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?" เยี่ยนเว่ยฉือถามด้วยความเป็นห่วงซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "หลังจากกลิ้งลงมาจา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 426 เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ศาลาไป๋หยาง

    เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่า เรื่องเลวร้ายจะต้องเกิดขึ้นระหว่างทางกลับเมืองหลวงเป็นแน่แต่มันเกี่ยวอะไรกับความตะกละ?นางรออย่างใจเย็นให้ซ่างกวนซีพูดต่อไป“เสด็จแม่ทรงทราบว่า ในวังหน้าวังหลัง มีคนมากมายที่ไม่ต้องการให้พวกเราแม่ลูกมีที่ยืน ต่างก็หาวิธีที่จะกำจัดพวกเราให้พ้นทาง เพื่อจะได้เข้ามายึดครองตำแหน่งของเรา ดังนั้นตอนที่ไป พวกเราจึงปิดบังกำหนดการเดินทางตลอดทาง เดินทางทั้งวันทั้งคืน มิได้เปิดโอกาสให้ใครลงมือได้เลย แต่ระหว่างทางกลับ ก็บังเอิญเจอกับเทศกาลตวนอู่ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของข้า”ซ่างกวนซีถอนหายใจ จับมือเยี่ยนเว่ยฉือแน่นขึ้นเขาพูดต่อ “ในวันคล้ายวันเกิดทุกปี เสด็จแม่จะผูกด้ายมงคลให้ข้าด้วยพระองค์เอง และต้มบะหมี่อายุยืนให้ข้าหนึ่งชาม แม้ว่าเสด็จพ่อจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ข้าอย่างยิ่งใหญ่ มีขุนนางมาร่วมงานกันมากมาย แต่สิ่งที่ข้าชอบที่สุด ก็คือบะหมี่อายุยืนที่เสด็จแม่ทำด้วยพระองค์เอง ก็เพราะบะหมี่อายุยืนชามนี้นี่เอง ที่ทำให้พวกเราแม่ลูกต้องแยกจากกันตลอดกาล”จากคำบรรยายของซ่างกวนซีขบวนเสด็จของฮองเฮากลับวังหลวง ใช้เวลาเดินทางสองวันหนึ่งคืนในช่วงเย็นของวันตวนอู่ พวกเขาเดินทางมา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 425 ซ่างกวนซีเผยความในใจ

    ซ่างกวนซีคาดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะถามคำถามเช่นนี้ออกมาชั่วขณะหนึ่งสมองของเขาแทบจะหยุดทำงานเด็กคนนี้...ช่างทำให้คนไปไม่เป็นเก่งเสียจริงการยั่วเย้าคนโดยไม่แสดงออก นับว่าเป็นเสน่ห์ที่สะกดหัวใจที่สุดกระมัง?ซ่างกวนซีอยากจะพูดต่อ แต่เมื่อเห็นปิ่นหางหงส์ ก็พลันตระหนักถึงภาระหน้าที่บนบ่าและวันตายที่ไม่อาจรู้ได้เขาไม่อยากดึงเยี่ยนเว่ยฉือเข้ามาในวังวนนี้แต่ก็ไม่อยากผลักไสนางออกไปโดยง่ายช่างเถอะ ทนอีกหน่อยแล้วกันบางทีพรุ่งนี้เขาอาจจะหามัจฉาทองคำจิ่วหยางเจอก็ได้?ซ่างกวนซีจับมือเยี่ยนเว่ยฉือขึ้นมา แล้วเอ่ยว่า “เว่ยฉือ ข้าติดค้างคำขอโทษเจ้า”“ขอโทษ?” เยี่ยนเว่ยฉืองุนงงซ่างกวนซีพยักหน้า “วันเทศกาลตวนอู่ ข้าไม่ควรจะทำอาหารที่เจ้าอุตส่าห์เตรียมอย่างตั้งใจพัง ข้าผิดเอง”ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ฝ่าบาทไม่ได้ชดเชยให้ข้าในวันรุ่งขึ้นแล้วหรือ ข้าไม่ได้ใส่ใจแล้ว”ซ่างกวนซีดึงนางลงไปนอนด้วยกัน โอบกอดนางเบา ๆ แล้วกล่าวต่อ “ที่ข้าไม่กินอะไรในวันตวนอู่ ก็เพราะว่าเมื่อสิบหกปีก่อน เป็นเพราะความตะกละของข้าเอง ทำให้เสด็จแม่ของข้าต้องสิ้นพระชนม์ และทำให้น้องสาวที่เพิ่งเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 424 จะทำต่อหรือไม่?

    ซ่างกวนซีจ้องมองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างแน่วแน่ เห็นหน้าอกของนางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วเพราะความตื่นเต้น และเห็นว่านางหน้าแดงจนถึงลำคอเพราะความเขินอายเขารู้สึกได้ถึงร่างกายของนางที่สั่นเล็กน้อย และดูเหมือนจะได้กลิ่นหอมที่เย้ายวนจากร่างของนางประตูแห่งร่างกาย เชิญเขาเข้าไปเป็นแขกเป็นอย่างที่เขาคิดหรือไม่?ซ่างกวนซีกำมือแน่น อดไม่ได้ที่จะถามตามความต้องการของเยี่ยนเว่ยฉือ "เช่นนั้น... ข้าต้องเคาะประตูอย่างไร?"เยี่ยนเว่ยฉือเงยหน้ามองซ่างกวนซี ดวงตาเผยความขุ่นเคืองเล็กน้อยนี่ต้องให้นางสอนด้วยหรือ?ก่อนหน้านี้... ก่อนหน้านี้ที่ใต้เตียงในหอวสันต์อนันตกาล เขา... เขาก็ทำได้ดีนี่นาเยี่ยนเว่ยฉือเบือนหน้าหนีอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นก็ถูกซ่างกวนซีจับคางไว้ซ่างกวนซีจับใบหน้าของนางให้หันกลับมาอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็โน้มตัวลง จุมพิตลงไปเยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้าง ขนตายาวสั่นระริก ราวกับหัวใจของนางที่เต้นรัวอย่างไม่เป็นส่ำหลังจากจูบอย่างแผ่วเบา ซ่างกวนซีก็เงยหน้าขึ้น มองนางอย่างอ่อนโยน "เช่นนี้หรือ?"ฟืด…เยี่ยนเว่ยฉือสูดลมหายใจเข้าลึก ร่างกายแทบจะละลายสัมผัสที่ใกล้ชิดเช่นเดี

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 423 ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ แล้วปากเล่า?

    แม้ว่าท่าทางของซ่างกวนซีจะดูดุร้ายแต่เยี่ยนเว่ยฉือกลับรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเพราะสิ่งที่นางกังวลก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเลยซ่างกวนซีไม่ได้ระแวงนาง ไม่ได้รู้สึกว่านางเป็นปีศาจ และไม่ได้โลภอยากได้กำไลข้อมือของนางเขาแค่กังวลว่านางจะดึงดูดความสนใจของคนอื่น เพราะของล้ำค่าอาจนำมาซึ่งภัยพิบัติถึงชีวิตเยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีนิ่งๆ แล้วก็ยิ้มออกมา “ฝ่าบาท ท่านช่างดีเหลือเกินเพคะ!”ซ่างกวนซีชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ขมวดคิ้วเบือนหน้าหนี “พูดจาดี ๆ ก็ไม่ได้ผล ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าใช้ก็คือไม่อนุญาต!”เยี่ยนเว่ยฉือปีนขึ้นไปหาซ่างกวนซีทันที เข้าไปใกล้ ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่ใช้ต่อหน้าคนอื่น ใช้เฉพาะต่อหน้าฝ่าบาทเท่านั้น”การเข้าใกล้อย่างกะทันหัน ทำให้ซ่างกวนซีเอนหลังโดยไม่รู้ตัว เกือบจะหงายตกจากเตียงเยี่ยนเว่ยฉือเห็นท่าทางลนลานของเขา อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ คิดในใจว่า ‘ข้ายังนึกว่าเขาเก่งกาจ ที่แท้ก็แค่เสือกระดาษ ฮึ รู้จักแต่ขู่ข้า!’เยี่ยนเว่ยฉือผูกเชือกที่กระโปรงไปด้วย มองเขาอย่างขี้เล่นไปด้วยซ่างกวนซีถูกสายตาที่แฝงไปด้วยความเย้าหยอกนั้นมองจนรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อยเขาจึงก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 422 เผยความในใจกันเถอะ

    ซ่างกวนซีซ่างกวนซียื่นมือออกไป ลูบคลำกำไลนั้นเบาๆ แล้วถามต่อ "เจ้าหมายความว่า เจ้าสามารถเก็บของทุกอย่างไว้ในกำไลนี้ได้?"เยี่ยนเว่ยฉือเบะปาก พูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ "ฝ่าบาท ท่านปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่ ข้าจะค่อย ๆ อธิบายให้ท่านฟัง ดีหรือไม่?"ซ่างกวนซีลังเลเล็กน้อย "ปล่อยเจ้าแล้ว เจ้าก็จะพูดจาเหลวไหลอีก!"เยี่ยนเว่ยฉือพองแก้ม "ถ้าข้าพูดโกหก ท่านก็มัดข้าอีกครั้งสิ พูดด้วยท่าทางเช่นนี้... มันน่าอายเกินไป"เยี่ยนเว่ยฉือไม่กล้าขยับตัว กลัวว่าร่างกายของนางจะหลุดออกมาจากเสื้อตัวในแม้ว่าจะเคยนอนเตียงเดียวกับซ่างกวนซีหลายครั้งแล้ว แต่ในความทรงจำของนาง นางก็สวมเสื้อผ้าครบถ้วน ไม่เคย... ไม่เคยเปิดเผยเรือนร่างต่อเขาซ่างกวนซีเห็นท่าทางน่าสงสารของนางก็อดใจอ่อนไม่ได้เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็แก้สายรัดเอวที่ข้อมือของเยี่ยนเว่ยฉือออกเยี่ยนเว่ยฉือได้รับอิสระก็รีบดึงสาบเสื้อเข้าหากัน แล้วหลบไปที่มุมเตียงซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแค่นเสียงเด็กสาวคนนี้ ตอนหลับก็ถอดเสื้อผ้าตัวเอง โผเข้าหาอ้อมกอดเขาตอนตื่นกลับระแวดระวัง ป้องกันตัวราวกับจะผลักไสคนให้ออกไปให้ไกลไม่รู้จริง ๆ ว่านางคิดอะไรอ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status