Beranda / รักโบราณ / ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท / บทที่ 134 เชือดไก่ให้ลิงดู

Share

บทที่ 134 เชือดไก่ให้ลิงดู

Penulis: โม่เชียนซาง
เยี่ยนเว่ยฉือหันไปมองซ่างกวนซี “ฝ่าบาท เราไปดูกันเถิด”

ซ่างกวนซีไม่ได้ปฏิเสธ

ทั้งสองรีบรุดไปยังลานด้านหน้า พบว่ามีคนยืนมุงอยู่มากมาย

ในบรรดาคนเหล่านั้นมีนางกำนัลทั้งสามจากสี่นาง

สีหน้าของซูเค่อซีดเซียว แต่ยังคงรักษาท่าทีสงบไว้ได้

ส่วนชวนหงนั้นตกใจจนไม่กล้าสบตา ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังซูเค่อ

ฝูฉวีกล้าหาญน้อยที่สุด เอาแต่ร้องไห้ตลอดเวลา

เยี่ยนเว่ยฉือเหลือบมองพวกนาง ไม่ได้กล่าวอะไรแต่เดินไปหาร่างไร้วิญญาณของหว่านฉิง

ศีรษะของหว่านฉิงเต็มไปด้วยเลือด ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ดูเหมือนจะหัวแตกจนเสียเลือดมากเกินไปกระทั่งเสียชีวิต

แต่เยี่ยนเว่ยฉือกลับพบรอยแดงที่ลำคอของนาง

รอยช้ำแดงม่วง เป็นรอยที่เกิดขึ้นก่อนเจ้าตัวเสียชีวิต

เยี่ยนเว่ยฉือเข้าใจแล้ว นี่คือการลอบสังหาร ก่อนจะผลักนางตกลงไปในบ่อน้ำ

ตัวผู้ลงมือไม่ต้องคิดก็รู้ ต้องเป็นองค์ชายรองซ่างกวนหลีที่เสียเปรียบแน่ จึงคิดฆ่าคนเพื่อระบายความแค้น

พวกเขาเหิมเกริมอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่จะกล้าลงมือในจวนองค์รัชทายาท แม้แต่ศพก็ไม่คิดจะซ่อนเร้นอำพราง ผลักทิ้งลงบ่อน้ำโดยตรง

หากฆาตกรไม่รู้ว่าในจวนองค์รัชทายาทมีบ่อน้ำแห้ง อาจจะผลักลงบ่อน้ำที่พวกเขาใช้บริ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 135 คนเจ้าชู้

    ปลายคิ้วของอวี๋เฟยเหยียนขมวดแน่นด้วยความโกรธ รู้สึกว่าความสุขเมื่อวานนี้หายไปหมดสิ้นนี่มันเหมือนกับย่ำยีศักดิ์ศรีของจวนรัชทายาทอย่างโจ่งแจ้งความโกรธทำให้เขาอยากจะบุกไปฆ่าคนที่จวนองค์ชายรองเพื่อระบายความแค้นเสียให้รู้แล้วรู้รอดซ่างกวนซีมองออกถึงเจตนาของอวี๋เฟยเหยียน จึงกล่าวเตือนว่า “อย่าได้โกรธแค้นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และอย่าได้กระทำการโดยพลการ ต่อไปนี้เราต้องรอข่าวจากหยางอวิ๋นเฟิง บุคคลผู้นี้ซื่อสัตย์ นิสัยเคร่งครัด หากเขารู้ว่าเราฆ่าคนบริสุทธิ์ เขาก็จะไม่ยอมเข้าร่วมกับเรา ดังนั้นอย่าได้ใจร้อน”อวี๋เฟยเหยียนพยักหน้า “ข้าเข้าใจ ข้าไม่ฆ่าคนบริสุทธิ์ เพียงแค่รู้สึกอึดอัดใจเท่านั้น”“อ้อ จริงด้วย พี่สะใภ้ ครั้งก่อนท่านทำลายจวนเขาด้วยวิธีใด? ทำอีกได้หรือไม่? ข้าเห็นว่าขณะนี้จวนองค์ชายรองกำลังอยู่ในระหว่างซ่อมแซม”เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “เรื่องนั้นเป็นเพียงความบังเอิญ ข้าได้ยินชาวนาพูดตอนออกไปเดินเล่นว่าช่วงนี้มีพายุฝนฟ้าคะนอง จึงใช้ว่าวล่อสายฟ้า ทว่าทำได้ครั้งเดียวเท่านั้น แต่หากท่านอยากระบายความแค้นก็ไม่ยากนักหรอก”“เจ้ามีวิธีหรือ?” ดวงตาของอวี๋เฟยเหยียนเป็นประกาย ราวกับสุนัขเห็นกระดูก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 136 ตามแกะรอยจนเกือบจะเจอตัวแล้ว

    อย่างไรก็ตาม เยี่ยนเว่ยฉือไม่รู้เลยว่าขณะที่นางกำลังวางแผนกับซ่างกวนหลีอยู่นั้นพวกของซ่างกวนหลีก็กำลังตามแกะรอย จนเกือบจะเจอตัวปีศาจน้อยจอมหลอกโกงเงินผู้นี้แล้วองครักษ์คนสนิทจี้อู๋ถือปิ่นปักผมและภาพร่างเดินเข้ามาจากด้านนอกภาพร่างนี้เป็นภาพร่างที่เจ้ามือของบ่อนพนันบีบบังคับให้เถ้าแก่โรงรับจำนำวาดขึ้นส่วนปิ่นปักผม ก็เป็นอันเดียวกับที่เยี่ยนเว่ยฉือทำตกไว้ส่วนจี้อู๋หามาได้อย่างไร นั่นเป็นเรื่องที่น่าสนใจ“ทูลองค์ชายรอง พบเบาะแสแล้วพ่ะย่ะค่ะ” จี้อู๋เดินไปหาซ่างกวนหลีจากนั้นก็มอบสิ่งของให้ซ่างกวนหลีดูซ่างกวนหลีถาม “เจ้าจะบอกว่าคนชั่วที่หลอกโกงเงินในบ่อนพนัน ซื้อปิ่นมาจากโรงจำนำงั้นหรือ?”จี้อู๋พยักหน้า “ใช่พ่ะย่ะค่ะ สิ่งนี้กระหม่อมได้ให้เถ้าแก่โรงจำนำตรวจสอบแล้ว ปิ่นนี้เป็นปิ่นคู่ที่มีลักษณะสมมาตรกันทั้งซ้ายและขวา”ซ่างกวนหลีถามด้วยความตื่นเต้น “หาเจอจากที่ใด จับตัวคนผู้นั้นได้หรือไม่?”หากจับตัวได้ เขาก็จะได้เงินคืนกว่าหมื่นตำลึงจี้อู๋ขมวดคิ้ว “องค์ชายรอง ยังจับตัวไม่ได้ กระนั้นสถานที่ที่พบปิ่นก็ค่อนข้างพิเศษพ่ะย่ะค่ะ”“พิเศษหรือ? ที่ใดกัน?”จี้อู๋กล่าวต่อ “บนภูเขารกร้

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 137 ผู้ใดจะสืบสวนคดีมือสังหารจากเป่ยอิน

    ข่าวการพบศพของชาวเป่ยอินที่ชานเมืองได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว ประชาชนต่างหวาดกลัว ระแวงซึ่งกันและกัน เกรงว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นชาวเป่ยอินที่แฝงตัวอยู่ในเมืองหลวงมานานในราชสำนักยิ่งตึงเครียดหนักกว่าเก่า ชาวเป่ยอินสามารถหลบเลี่ยงด่านตรวจต่าง ๆ ได้อย่างไร? พวกเขาเข้ามาที่เมืองหลวงเพื่ออะไร? พวกเขาร่วมมือกับขุนนางในเมืองหลวงหรือไม่? หรือพวกเขาวางแผนลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้ เหล่าขุนนางต่างก็ไม่รู้คำตอบในเช้าวันนั้น อ๋องจ่างซิ่นเสนอตัวขึ้นทูลว่า “ฝ่าบาท ขอโปรดพระราชทานมอบหมายให้กระหม่อมเป็นผู้สืบสวนเรื่องนี้ กระหม่อมจะเร่งสืบสวนจนรู้ความจริงให้ได้พ่ะย่ะค่ะ”อันกั๋วกงส่งสายตาไปยังเหล่าขุนนาง ทันใดนั้น ขุนนางคนหนึ่งก็ทูลว่า “กราบบังคมทูลฝ่าบาท เรื่องนี้ควรให้สำนักตรวจสอบสืบสวน อ๋องจ่างซิ่นในเวลานี้ทรงควบคุมกรมพระคลังซึ่งสำคัญมากเกินไปอยู่ นี่อาจดูไม่เหมาะสมกระมังพ่ะย่ะค่ะ?”“ไม่เหมาะสมอย่างไร เจ้าจะพูดอะไรกันแน่?” อ๋องจ่างซิ่นถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นขุนนางผู้นั้นตัวสั่น ดูเหมือนหวาดกลัวแต่ก็ยังคงพูดต่อ “ชาวเป่ยอินเดินทางมาถึงเมืองหลวง หากไม่ใช่เพราะมีเจตนาร้าย

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 138 หยางอวิ๋นเฟิงมาเสียที

    “ฝ่าบาท เขาทำให้ข้าสลบไป ตื่นขึ้นมาก็เจอพวกมือสังหารแล้ว ไม่มีเวลาพูดคุยอะไรหรอก ข้าเพียงรู้สึกว่าเขาแปลก ไม่มีกงการใดแล้วไปขุดสุสานของคนอื่นทำไม? นี่ไม่ใช่การขุดหลุมศพบรรพบุรุษของคนอื่นหรือ?”ซ่างกวนซีขมวดคิ้ว “เจ้าบอกว่า… เขาไปขุดสุสานหลวงของเป่ยอิน?”เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้า “พวกมือสังหารกล่าวเช่นนั้น”อวี๋เฟยเหยียนถามแทรก “พวกเขาบอกหรือไม่ว่าขโมยอะไรไปบ้าง?”เยี่ยนเว่ยฉือส่ายหน้า “ไม่เลย พวกเขาเพียงบอกให้เขาส่งของคืน”ซ่างกวนซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ดูเหมือนว่าชาวเป่ยอินไม่ได้มาเพราะมุ่งร้ายต่อต้าหลี่ แต่มาตามหาชายแปลกหน้าคนนั้น เช่นนั้นก็ดีแล้ว”กล่าวจบซ่างกวนซีก็มองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยสายตาราวกับจะตรวจสอบ “เจ้า… ปิดบังอะไรไว้หรือไม่?”“ไม่มี ไม่มีแน่นอน คำพูดของข้าจริงใจยิ่งกว่าทองคำ” เยี่ยนเว่ยฉือตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นซ่างกวนซีเองก็ดูไม่ออกว่าจริงหรือเท็จ แต่รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะง่ายดายอย่างที่เห็นฮวาอวี๋มาเจอเยี่ยนเว่ยฉือได้อย่างไร?เรื่องนี้ต้องสืบสวนอย่างละเอียดขณะที่ทั้งสามกำลังสนทนากัน พ่อบ้านจางก็เดินเข้ามา“ทูลองค์รัชทายาท เจ้ากรมขุนนาง หยางอวิ๋นเฟิง มาขอเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 139 ร้อนหรือไม่

    เห็นได้ชัดว่าหยางอวิ๋นเฟิงรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างแท้จริงแต่เขากล่าวขอบคุณเพียงเท่านั้น มิได้เอ่ยถึงการตอบแทน แสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีความคิดที่จะสวามิภักดิ์เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาต่อจวนองค์รัชทายาทซ่างกวนซีก็ไม่รีบร้อน กล่าวอย่างเรียบเฉยเช่นกัน “ที่จริงเจ้าไม่จำเป็นต้องมาขอบคุณข้า ข้าทำเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อเจ้า แต่เพื่อมิให้ผู้บริสุทธิ์ต้องเดือดร้อน”หยางอวิ๋นเฟิงประหลาดใจเล็กน้อย มองซ่างกวนซีด้วยความสงสัยซ่างกวนซีหัวเราะเบา ๆ “ใต้เท้าหยางคิดว่า เหตุใดจู่ ๆ ข้าจึงไปที่ร้านแลกเงิน เพราะเกิดนึกสนุกขึ้นมาเฉย ๆ หรือ?”หยางอวิ๋นเฟิงได้ทราบเรื่องราวมาบ้างแล้ว จึงรู้ว่าตั๋วเงินที่ได้จากร้านแลกเงินถือเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยชีวิตเขาบัดนี้เมื่อซ่างกวนซีกล่าวเช่นนี้ เขาจึงคิดทบทวนอีกครั้ง แล้วก็เบิกตากว้างเอ่ย “หรือว่า...”หรือว่าองค์รัชทายาทจะวางแผนจัดการกับเจ้ากรมขุนนางตู้เต๋อชาง?หยางอวิ๋นเฟิงไม่กล้าพูดต่อแต่ซ่างกวนซีกลับตอบอย่างตรงไปตรงมา “ถูกต้อง เป็นแผนการของข้าเอง แต่ข้าไม่ได้วางแผนจะจัดการกับตู้เต๋อชาง แต่เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างหาก ข้าตั้งใจจะทำให้เรื่องนี้บานปลาย ทว่าคาดไม่ถึ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 140 เกือบจะหมอบกราบอยู่แล้ว

    ซ่างกวนซีไม่ได้กล่าวอะไรมาก แต่เห็นได้ชัดว่าหยางอวิ๋นเฟิงเข้าใจแล้ว เป็นคนที่มีไหวพริบในการตระหนักรู้ดีจริง ๆ การพูดคุยกับคนฉลาดย่อมง่ายดายเช่นนี้ดังนั้นซ่างกวนซีจึงรินน้ำชาอีกถ้วยหนึ่ง คราวนี้เป็นน้ำอุ่น แล้วส่งถ้วยชาไปยังหยางอวิ๋นเฟิง แล้วเอ่ยต่อ “คราวนี้เปลี่ยนเป็นชาถ้วยใหม่แล้ว ใต้เท้าหยางยินดีดื่มหรือไม่?”การดื่มชาถ้วยนี้หมายความว่าเขาจะไม่ต้องไปพึ่งพาผู้อื่น และไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจของอันกั๋วกงอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาขององค์รัชทายาท เข้าร่วมกับองค์รัชทายาท กวาดล้างราชสำนักให้กลับมาสะอาดหยางอวิ๋นเฟิงดูตื่นเต้น รีบใช้มือทั้งสองข้างรับถ้วยชา แล้วยกดื่มรวดเดียว ใบชายังติดอยู่ที่ริมฝีปาก กระนั้นเขาก็เคี้ยวกินเข้าไปด้วยซ่างกวนซียิ้มด้วยความพอใจ…… หลังจากหยางอวิ๋นเฟิงจากไป เยี่ยนเว่ยฉือและอวี๋เฟยเหยียนจึงออกมาจากหลังฉากกั้นอวี๋เฟยเหยียนเกาศีรษะ “ศิษย์พี่ใหญ่ พวกท่านพูดอะไรกัน ข้าไม่เข้าใจเลย เขายอมสวามิภักดิ์แล้วหรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ใต้เท้าหยางเกือบจะหมอบกราบอยู่แล้ว จะไม่ยอมได้อย่างไร?”“อะไรกัน ข้าไม่เห็นได้ยินเลย” อวี๋เฟยเหยียนไม่เข้าใจซ่างกวนซีส่าย

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 141 สารภาพผิด

    ซ่างกวนซีเฝ้ามองสีหน้าของเยี่ยนเว่ยฉือ เอ่ยพึมพำเบา ๆ ว่า “นางเพิ่งพูดอะไรออกมา?”อวี๋เฟยเหยียนที่อยู่ข้าง ๆ กะพริบตาปริบ “อ้อ นางบอกว่านางเป็นหมอ”ซ่างกวนซีแย้ง “ไม่ใช่ประโยคนั้น”อวี๋เฟยเหยียนเกาหัว “ที่นางบอกว่าศิษย์พี่ใหญ่ร่างกายอ่อนแอ?”ซ่างกวนซียังคงส่ายหน้า “ไม่ใช่ประโยคนั้นเช่นกัน”“อ้าว แล้วประะโยคไหนกัน?” อวี๋เฟยเหยียนงุนงงซ่างกวนซียิ้มน้อย ๆ “นางบอกว่าแม้ไม่ห่วงตัวเอง ก็ต้องห่วงสุขภาพพลานามัยของข้า”นี่เป็นการแสดงความรักของเยี่ยนเว่ยฉือหรือ? ซ่างกวนซีคิดเช่นนั้นอวี๋เฟยเหยียนกระตุกมุมปาก เมื่อเห็นใบหน้าพริ้มเพราของซ่างกวนซี ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ศิษย์พี่ใหญ่… จับประเด็นได้ยอดเยี่ยมนัก”ซ่างกวนซีเหลือบตามอง เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เจ้าจับประเด็นไม่ถูกเองต่างหาก”…… เรือนบ่าวรับใช้เยี่ยนเว่ยฉือมาถึงห้องคนรับใช้ ได้พบกับซูเค่อที่กำลังล้มป่วย ที่นี่เป็นห้องส่วนตัวของนางกำนัลชั้นสูง จึงมีเพียงสองคนต่อห้อง ขณะนี้ชวนหงที่พักร่วมห้องเดียวกันกับซูเค่อกำลังทำงาน จึงมีเพียงซูเค่อที่อยู่ในห้องเมื่อเห็นเยี่ยนเว่ยฉือ ซูเค่อที่สภาพอ่อนเปลี้ยจึงรีบลุกขึ้นจากเตียง คุกเข่าล

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 142 ข้าจะให้โอกาสเจ้า

    เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม มองซูเค่อ แต่ไม่ได้ตอบรับทันที เอ่ยถามว่า “นกเลือกต้นไม้อาศัย เจ้าเลือกที่จะสารภาพผิด ข้าเข้าใจได้ แต่… เหตุใดข้าจึงต้องเชื่อเจ้าด้วยเล่า? ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าการแปรพักตร์ของเจ้าในครั้งนี้ มิใช่เพราะมีจุดประสงค์เช่นเดียวกับหว่านชิง?”ซูเค่อหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากอก คุกเข่าลงข้างเยี่ยนเว่ยฉือพร้อมกับส่งให้เยี่ยนเว่ยฉือรับมาดู พบว่าเป็นรายชื่อ ดูเหมือนจะเป็นรายชื่อบ่าวรับใช้ในจวนเกือบร้อยคนซูเค่ออธิบาย “นี่คือรายชื่อที่หม่อมฉันเป็นผู้จดไว้ คนที่วงกลมสีแดง เป็นคนของฮองเฮาและองค์ชายรอง คนที่วงกลมสีดำ เป็นคนของพระสนมจากตำหนักต่าง ๆ ส่วนคนที่ไม่มีวงกลม เป็นคนของสำนักพระราชวังเพคะ”เยี่ยนเว่ยฉือพิจารณาคร่าว ๆ โอ้ คนที่ไม่ถูกทำเครื่องหมายวงกลมน้อยกว่าสองในสิบส่วนเสียอีก นางและซ่างกวนซีเหมือนแมวสองตัวที่เข้าไปอยู่ในรังหนูซูเค่อกล่าวต่อ “พระชายาสามารถกำจัดคนในจวนตามรายชื่อนี้ได้ การกระทำขององค์รัชทายาทจะไม่ถูกเปิดเผยต่อฮองเฮา ส่วนหม่อมฉันจะสวามิภักดิ์อย่างจริงใจ ต่อไปนี้หากพระชายาต้องการให้หม่อมฉันส่งข่าว หม่อมฉันจะส่งข่าวอย่างสุดความสามารถ ขอเพียงแต่หลังจากนี้องค์

Bab terbaru

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 430 รินชาขอขมา

    ซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็ยื่นมือไปหานาง "เต๋อซ่วนกงกงอุตส่าห์มาทั้ง ๆ ที่ฝนตก มิเช่นนั้นข้าคงมิให้เจ้าต้องลำบากมาด้วยตนเอง"พูดอีกอย่างก็คือ วันนี้ที่ให้เกียรติก็เพราะเห็นแก่ฝ่าบาท ไม่ใช่ฮองเฮา และยิ่งไม่ใช่เพื่อองค์หญิงเหวินหลิงเยี่ยนเว่ยฉือยิ้มให้องค์หญิงเหวินหลิง จากนั้นก็เดินไปข้างหน้า วางมือของตนเองบนมือของซ่างกวนซี แล้วนั่งลงด้วยกันจากนั้นเยี่ยนเว่ยฉือก็เอ่ยว่า "เอาล่ะ ข้ามาแล้ว องค์หญิงมีอะไรอยากทำอยากพูดก็รีบทำรีบพูดเถิด ตอนนี้ข้ายังอารมณ์ดีอยู่!"องค์หญิงเหวินหลิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธนางเป็นแก้วตาดวงใจของฝ่าบาทและฮองเฮา เสด็จพี่ทุกคนต่างก็รักใคร่เอ็นดูนาง ไม่เคยต้องลำบากเช่นนี้มาก่อนแต่ใครจะรู้ว่าเยี่ยนเว่ยฉือทำอะไรกับนาง สำนักหมอหลวงทั้งสำนักก็ยังจนปัญญานางคันคะเยอจนแทบจะทนไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน แทบจะข่มตานอนไม่หลับสตรีให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตามากที่สุด นางไม่กล้าเกาแรง ๆ กลัวผิวหนังจะถลอก ได้แต่อดทนไว้ช่วงหลายวันที่ผ่านมา นอกจากกินยานอนหลับแล้วก็แทบจะไม่ได้นอนเลยเมื่อนึกถึงความทุกข์ทรมานที่ตนเองได้รับ องค์หญิงเหวินหลิงก็ข่มความไม่พอใจ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 429 ขอโทษถึงที่

    ความจริงแล้วซ่างกวนซีไม่ได้พูดโกหก เมื่อคืนหลังจากทั้งสองคนนอนหลับไปแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกไม่สบายตัวเพราะสวมเสื้อตัวนอก จึงดึงทึ้งเสื้อผ้าของตัวเองตลอดเวลาท่านอนของนางก็ไม่ดี พลิกตัวไปมาในขณะที่ซ่างกวนซีใช้ชีวิตอยู่ในสนามรบมานาน ทำให้เขาเป็นคนนอนไวดังนั้นเยี่ยนเว่ยฉือจึงทำให้เขาไม่ได้นอนหลับตลอดทั้งคืนด้วยความจนใจ ซ่างกวนซีจึงลุกขึ้นมาช่วยเยี่ยนเว่ยฉือถอดเสื้อตัวนอกออก แล้วรอจนกระทั่งนางหลับสนิท จึงได้นอนพักไปครู่หนึ่งเขาไม่ได้นอนหลับสบาย คิดว่าเยี่ยนเว่ยฉือก็คงจะนอนไม่หลับเช่นกันดังนั้นก่อนจะไปประชุมราชสำนักในวันนี้ ซ่างกวนซีจึงสั่งบ่าวรับใช้ไม่ให้ไปรบกวนการพักผ่อนเยี่ยนเว่ยฉือจากนั้นเขาก็บ่นออกมาลอย ๆ ว่า "ถูกเด็กคนนั้นทำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืน" บ่าวรับใช้ได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจผิดไปคิดว่าพระชายาของพวกเขา ถูกองค์รัชทายาททำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืนจึงเป็นที่มาของบทสนทนาเมื่อครู่นี้เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่าซ่างกวนซีพูดจาไม่ระวังปาก ช่างเหลวไหลสิ้นดี!เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้ทำอะไรเลย พูดราวกับว่านางเคยชินเสียแล้ว น่ารังเกียจ!ดังนั้นเมื่อเยี่ยนเว่ยฉือลุกขึ้นออกจากห้อง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 428 ช่างหวานล้ำ! ใช้ชีวิตร่วมกัน

    ซ่างกวนซีไม่เคยฝากความหวังไว้กับผู้อื่นการต่อสู้เพียงลำพังมาหลายปี ทำให้เขาเคยชินกับการแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างไว้ด้วยตัวเองแต่ตอนนี้เมื่อเห็นเยี่ยนเว่ยฉือที่ทั้งโกรธแค้นและมุ่งมั่น เขาก็รู้สึกว่าบางเรื่อง ควรจะเรียนรู้ที่จะแบ่งปันเรื่องน่ายินดีเมื่อพูดออกไป สองคนร่วมยินดีปรีดาเรื่องเศร้าเมื่อพูดออกไป ทั้งสองก็สามารถร่วมแบ่งปันความทุกข์ทำให้ความหวานยิ่งหวานขึ้น ทำให้ความขมลดลงครึ่งหนึ่งซ่างกวนซีลุกขึ้นนั่ง โอบกอดเยี่ยนเว่ยฉือ เขาวางคางไว้บนหูของนาง พูดอย่างอ่อนโยน "ได้ เจ้าช่วยข้า พวกเราจะร่วมกัน ล้างมลทินให้เสด็จแม่ ร่วมกันตามหาน้องสาว"เยี่ยนเว่ยฉือโอบกอดซ่างกวนซีตอบ แล้วพูดต่อ "พวกเราจะร่วมกันถอนพิษให้ท่าน ร่วมกันฉลองวันเกิดอีกหลาย ๆ ปี ร่วมกันกินบะหมี่อายุยืนอีกหลาย ๆ ชาม ใช้ชีวิต…ร่วมกัน"ใช้ชีวิต… ร่วมกัน?ตึกตัก!ตึกตัก!ตึกตัก!ซ่างกวนซีรู้สึกเพียงว่าหัวใจของตนเต้นรัว ความรู้สึกซาบซึ้งใจที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน กำลังโอบกอดหัวใจที่เคยเย็นชาของเขาทำให้หัวใจทั้งดวงของเขาร้อนรุ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคำพูดของเยี่ยนเว่ยฉือที่แท้เมื่อใช้ชีวิตร่วมกัน... สามารถทำเรื่องต่าง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 427 นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน

    "เป็นนางที่ช่วยพวกท่านไว้หรือ?" เยี่ยนเว่ยฉือถามต่อซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "นางเป็นคนดีมาก นางมัดน้องสาวของข้าไว้แนบอก แบกลูกสาวตัวน้อยของนางไว้บนหลัง แล้วก็จูงมือข้า พยายามหลบหนี แต่นางเป็นเพียงสตรี ทั้งยังต้องดูแลเด็กถึงสามคน จะวิ่งหนีไปได้ไกลสักแค่ไหน? แม้ว่าพวกเราจะพยายามอย่างสุดกำลังแล้ว ก็ยังถูกพวกมือสังหารไล่ตามทัน มือสังหารถือหน้าไม้ ดูท่าทางจะไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิต นางส่งน้องสาวคืนให้ข้า ให้ข้าอุ้มนางแล้ววิ่งไปข้างหน้าโดยไม่ต้องหันกลับมามอง ส่วนนางก็พาลูกสาวตัวน้อยของนาง ถ่วงเวลาพวกมือสังหาร""แต่พวกมือสังหารเห็นได้ชัดว่ามุ่งเป้ามาที่ข้า พวกเขาถูกฮูหยินผู้นั้นรั้งตัวไว้ ไม่สามารถไล่ตามมาได้ จึงยิงหน้าไม้มาที่ข้า ลูกธนูดอกแรกยิงพลาด ไม่ได้คร่าชีวิตข้า เพียงแต่เฉี่ยวแขนของข้าไป เมื่อเห็นว่าลูกธนูดอกที่สองกำลังจะพุ่งเข้าใส่หน้าอก ฮูหยินผู้นั้นก็รีบวิ่งเข้ามา โอบกอดข้าแล้วกลิ้งลงไปจากเนินเขาด้วยกัน หลบการโจมตีที่ถึงชีวิตได้""แล้วอย่างไรต่อ? พวกท่านหนีรอดมาได้หรือไม่? ทุกคนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?" เยี่ยนเว่ยฉือถามด้วยความเป็นห่วงซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "หลังจากกลิ้งลงมาจา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 426 เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ศาลาไป๋หยาง

    เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่า เรื่องเลวร้ายจะต้องเกิดขึ้นระหว่างทางกลับเมืองหลวงเป็นแน่แต่มันเกี่ยวอะไรกับความตะกละ?นางรออย่างใจเย็นให้ซ่างกวนซีพูดต่อไป“เสด็จแม่ทรงทราบว่า ในวังหน้าวังหลัง มีคนมากมายที่ไม่ต้องการให้พวกเราแม่ลูกมีที่ยืน ต่างก็หาวิธีที่จะกำจัดพวกเราให้พ้นทาง เพื่อจะได้เข้ามายึดครองตำแหน่งของเรา ดังนั้นตอนที่ไป พวกเราจึงปิดบังกำหนดการเดินทางตลอดทาง เดินทางทั้งวันทั้งคืน มิได้เปิดโอกาสให้ใครลงมือได้เลย แต่ระหว่างทางกลับ ก็บังเอิญเจอกับเทศกาลตวนอู่ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของข้า”ซ่างกวนซีถอนหายใจ จับมือเยี่ยนเว่ยฉือแน่นขึ้นเขาพูดต่อ “ในวันคล้ายวันเกิดทุกปี เสด็จแม่จะผูกด้ายมงคลให้ข้าด้วยพระองค์เอง และต้มบะหมี่อายุยืนให้ข้าหนึ่งชาม แม้ว่าเสด็จพ่อจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ข้าอย่างยิ่งใหญ่ มีขุนนางมาร่วมงานกันมากมาย แต่สิ่งที่ข้าชอบที่สุด ก็คือบะหมี่อายุยืนที่เสด็จแม่ทำด้วยพระองค์เอง ก็เพราะบะหมี่อายุยืนชามนี้นี่เอง ที่ทำให้พวกเราแม่ลูกต้องแยกจากกันตลอดกาล”จากคำบรรยายของซ่างกวนซีขบวนเสด็จของฮองเฮากลับวังหลวง ใช้เวลาเดินทางสองวันหนึ่งคืนในช่วงเย็นของวันตวนอู่ พวกเขาเดินทางมา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 425 ซ่างกวนซีเผยความในใจ

    ซ่างกวนซีคาดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะถามคำถามเช่นนี้ออกมาชั่วขณะหนึ่งสมองของเขาแทบจะหยุดทำงานเด็กคนนี้...ช่างทำให้คนไปไม่เป็นเก่งเสียจริงการยั่วเย้าคนโดยไม่แสดงออก นับว่าเป็นเสน่ห์ที่สะกดหัวใจที่สุดกระมัง?ซ่างกวนซีอยากจะพูดต่อ แต่เมื่อเห็นปิ่นหางหงส์ ก็พลันตระหนักถึงภาระหน้าที่บนบ่าและวันตายที่ไม่อาจรู้ได้เขาไม่อยากดึงเยี่ยนเว่ยฉือเข้ามาในวังวนนี้แต่ก็ไม่อยากผลักไสนางออกไปโดยง่ายช่างเถอะ ทนอีกหน่อยแล้วกันบางทีพรุ่งนี้เขาอาจจะหามัจฉาทองคำจิ่วหยางเจอก็ได้?ซ่างกวนซีจับมือเยี่ยนเว่ยฉือขึ้นมา แล้วเอ่ยว่า “เว่ยฉือ ข้าติดค้างคำขอโทษเจ้า”“ขอโทษ?” เยี่ยนเว่ยฉืองุนงงซ่างกวนซีพยักหน้า “วันเทศกาลตวนอู่ ข้าไม่ควรจะทำอาหารที่เจ้าอุตส่าห์เตรียมอย่างตั้งใจพัง ข้าผิดเอง”ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ฝ่าบาทไม่ได้ชดเชยให้ข้าในวันรุ่งขึ้นแล้วหรือ ข้าไม่ได้ใส่ใจแล้ว”ซ่างกวนซีดึงนางลงไปนอนด้วยกัน โอบกอดนางเบา ๆ แล้วกล่าวต่อ “ที่ข้าไม่กินอะไรในวันตวนอู่ ก็เพราะว่าเมื่อสิบหกปีก่อน เป็นเพราะความตะกละของข้าเอง ทำให้เสด็จแม่ของข้าต้องสิ้นพระชนม์ และทำให้น้องสาวที่เพิ่งเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 424 จะทำต่อหรือไม่?

    ซ่างกวนซีจ้องมองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างแน่วแน่ เห็นหน้าอกของนางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วเพราะความตื่นเต้น และเห็นว่านางหน้าแดงจนถึงลำคอเพราะความเขินอายเขารู้สึกได้ถึงร่างกายของนางที่สั่นเล็กน้อย และดูเหมือนจะได้กลิ่นหอมที่เย้ายวนจากร่างของนางประตูแห่งร่างกาย เชิญเขาเข้าไปเป็นแขกเป็นอย่างที่เขาคิดหรือไม่?ซ่างกวนซีกำมือแน่น อดไม่ได้ที่จะถามตามความต้องการของเยี่ยนเว่ยฉือ "เช่นนั้น... ข้าต้องเคาะประตูอย่างไร?"เยี่ยนเว่ยฉือเงยหน้ามองซ่างกวนซี ดวงตาเผยความขุ่นเคืองเล็กน้อยนี่ต้องให้นางสอนด้วยหรือ?ก่อนหน้านี้... ก่อนหน้านี้ที่ใต้เตียงในหอวสันต์อนันตกาล เขา... เขาก็ทำได้ดีนี่นาเยี่ยนเว่ยฉือเบือนหน้าหนีอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นก็ถูกซ่างกวนซีจับคางไว้ซ่างกวนซีจับใบหน้าของนางให้หันกลับมาอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็โน้มตัวลง จุมพิตลงไปเยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้าง ขนตายาวสั่นระริก ราวกับหัวใจของนางที่เต้นรัวอย่างไม่เป็นส่ำหลังจากจูบอย่างแผ่วเบา ซ่างกวนซีก็เงยหน้าขึ้น มองนางอย่างอ่อนโยน "เช่นนี้หรือ?"ฟืด…เยี่ยนเว่ยฉือสูดลมหายใจเข้าลึก ร่างกายแทบจะละลายสัมผัสที่ใกล้ชิดเช่นเดี

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 423 ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ แล้วปากเล่า?

    แม้ว่าท่าทางของซ่างกวนซีจะดูดุร้ายแต่เยี่ยนเว่ยฉือกลับรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเพราะสิ่งที่นางกังวลก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเลยซ่างกวนซีไม่ได้ระแวงนาง ไม่ได้รู้สึกว่านางเป็นปีศาจ และไม่ได้โลภอยากได้กำไลข้อมือของนางเขาแค่กังวลว่านางจะดึงดูดความสนใจของคนอื่น เพราะของล้ำค่าอาจนำมาซึ่งภัยพิบัติถึงชีวิตเยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีนิ่งๆ แล้วก็ยิ้มออกมา “ฝ่าบาท ท่านช่างดีเหลือเกินเพคะ!”ซ่างกวนซีชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ขมวดคิ้วเบือนหน้าหนี “พูดจาดี ๆ ก็ไม่ได้ผล ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าใช้ก็คือไม่อนุญาต!”เยี่ยนเว่ยฉือปีนขึ้นไปหาซ่างกวนซีทันที เข้าไปใกล้ ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่ใช้ต่อหน้าคนอื่น ใช้เฉพาะต่อหน้าฝ่าบาทเท่านั้น”การเข้าใกล้อย่างกะทันหัน ทำให้ซ่างกวนซีเอนหลังโดยไม่รู้ตัว เกือบจะหงายตกจากเตียงเยี่ยนเว่ยฉือเห็นท่าทางลนลานของเขา อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ คิดในใจว่า ‘ข้ายังนึกว่าเขาเก่งกาจ ที่แท้ก็แค่เสือกระดาษ ฮึ รู้จักแต่ขู่ข้า!’เยี่ยนเว่ยฉือผูกเชือกที่กระโปรงไปด้วย มองเขาอย่างขี้เล่นไปด้วยซ่างกวนซีถูกสายตาที่แฝงไปด้วยความเย้าหยอกนั้นมองจนรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อยเขาจึงก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 422 เผยความในใจกันเถอะ

    ซ่างกวนซีซ่างกวนซียื่นมือออกไป ลูบคลำกำไลนั้นเบาๆ แล้วถามต่อ "เจ้าหมายความว่า เจ้าสามารถเก็บของทุกอย่างไว้ในกำไลนี้ได้?"เยี่ยนเว่ยฉือเบะปาก พูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ "ฝ่าบาท ท่านปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่ ข้าจะค่อย ๆ อธิบายให้ท่านฟัง ดีหรือไม่?"ซ่างกวนซีลังเลเล็กน้อย "ปล่อยเจ้าแล้ว เจ้าก็จะพูดจาเหลวไหลอีก!"เยี่ยนเว่ยฉือพองแก้ม "ถ้าข้าพูดโกหก ท่านก็มัดข้าอีกครั้งสิ พูดด้วยท่าทางเช่นนี้... มันน่าอายเกินไป"เยี่ยนเว่ยฉือไม่กล้าขยับตัว กลัวว่าร่างกายของนางจะหลุดออกมาจากเสื้อตัวในแม้ว่าจะเคยนอนเตียงเดียวกับซ่างกวนซีหลายครั้งแล้ว แต่ในความทรงจำของนาง นางก็สวมเสื้อผ้าครบถ้วน ไม่เคย... ไม่เคยเปิดเผยเรือนร่างต่อเขาซ่างกวนซีเห็นท่าทางน่าสงสารของนางก็อดใจอ่อนไม่ได้เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็แก้สายรัดเอวที่ข้อมือของเยี่ยนเว่ยฉือออกเยี่ยนเว่ยฉือได้รับอิสระก็รีบดึงสาบเสื้อเข้าหากัน แล้วหลบไปที่มุมเตียงซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแค่นเสียงเด็กสาวคนนี้ ตอนหลับก็ถอดเสื้อผ้าตัวเอง โผเข้าหาอ้อมกอดเขาตอนตื่นกลับระแวดระวัง ป้องกันตัวราวกับจะผลักไสคนให้ออกไปให้ไกลไม่รู้จริง ๆ ว่านางคิดอะไรอ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status