เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยฮ่องเต้ก็สั่งเลิกประชุม ขุนนางที่มีความดีความชอบต่างแสดงความยินดีลดหลั่นกันไป พวกเขาจะมีขันทีไปประกาศราชโองการที่บ้านส่วนรายละเอียดของกำนัลต่างๆที่ได้รับจะมีขันทีมารายงานแก่พวกเขาอีกที เลิกประชุมแล้วจึงตรงกลับจวน หวงหย่งเหนียนคิดถึงลุกเมีย พรุ่งนี้พวกเขาจะคุมนักโทษไปด้วยกัน จนกระทั่งไปแยกกันที่เมืองซีอาน เพื่อที่หวงหย่งเหนียนเมิ่งลู่เจินและพี่น้องสกุลโจวกับจางเหมิ่นต้องกลับหมู่บ้านสี่สิบลี้แต่เมิ่งหย่งชวนต้องคุมนักโทษเดินทางไปยังดินแดนท้ายด่าน บนรถม้าต่างไม่มีผู้ใดเอ่ยอันใดออกมา กระทั่งหวงหย่งเหนียนเป็นฝ่ายเริ่ม"จวิ้นอ๋อง...จะว่าไปเรื่องครั้งนี้มารดาของพระองค์คือตัวแปรสำคัญจริงๆ หากมิได้นางนำรายชื่อและวันที่พวกเขาจะลงมือมาให้ก่อน ปราบกบฏครั้งนี้อาจไม่ง่ายถึงเพียงนั้น" "อืม....ตอนนี้บุตรชายบุตรสาวของท่านได้หกเดือนแล้วเกือบเจ็ดเดือนแล้ว เดินทางไปรับครั้งนี้ได้ยินว่าเว่ยอ๋องจะไปด้วยกระนั้นหรือ""พ่ะย่ะค่ะ....ท่านอ๋องบางทีหากเด็กๆโต กระหม่อมอาจมาลงหลักปักฐานที่หมู่บ้านสี่สิบลี้ก็ได้ อยู่มานานหลายเดือนรู้สึกชอบที่นั่นไม่น้อย""หลังจากไปส่งนักโทษ
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปยังห้องพักของตน ฝ่าบาทพระราชทานที่ดินศักดินาให้อีกทั้งพระราชทานจวนอ๋องในเมืองหลวงให้เขาด้วย เมิ่งหย่งชวนรู้ว่าน้องชายต้องใช้ชีวิตที่นี่ในฐานะราชครูคนต่อไปของแคว้น เมิ่งหย่งชวนจึงรับพระมหากรุณาธิคุณเอาไว้ ในภายภาคหน้าเขาอาจจะพาเมียกับลูกมาอยู่ที่เมืองหลวง เพราะบิดามั่นคงแล้วเมิ่งหย่งชวนหลับไปแล้ว หน้าต่างเปิดเอาไว้ลมพัดเบาๆเจ้าตัวดีหนีมารดามานอนกับท่านพ่อจนได้ เมิ่งหย่งชวนขยับตัวเล็กน้อย เขากำลังจะไปสุขาเพื่อปลดทุกข์ แต่กลับเห็นบุตรชายนอนอยู่เคียงข้าง เขาคิดถึงเด็กๆจนเก็บมาฝันหรือ เสี่ยวอิงเพิ่งจะสามขวบที่สำคัญที่นี่กับหมู่บ้านสี่สิบลี้ไกลไม่น้อย เมิ่งหย่งชวนขยี้ตาอีกที แต่เทพวิหคตื่นแล้วเขาจึงแวบหายไป เมิ่งหย่งชวนสะบัดศีรษะไปมา ทันทีที่ลืมตาก็ไม่เห็นบุตรชายเสียแล้ว"ฝันก็ไม่ใช่ ละเมอก็ไม่น่าใช้แต่ทำไมเหมือนความจริงนัก เหมือนเสี่ยวอิงมานอนข้างๆจริงๆ"เมิ่งหย่งชวนไปสุขาเพราะเขาปวดเบา ก็เจอกับเมิ่งลู่เจินที่ยังไม่นอน เขายืนมองท้องฟ้าหลับตาอยู่อย่างนั้น เมิ่งหย่งชวนเดินไปหาน้องชายก่อนจะเอ่ยเรียก"อาเจิน....ช่วงนี้เจ้า
ยามซื่อจางลี่ก็มาหาอาจารย์หญิงของตนเพื่อพูดคุยเรื่องการค้า แต่เดิมห้องอยู่เดือนมิให้บุรุษเข้ามา ที่สำคัญตอนนี้นางเป็นภรรยาท่านแม่ทัพยิ่งต้องระวังตัว มิอาจทำอันใดให้สามีเสียหายได้ จางลี่จึงนั่งอยู่ที่หน้าประตูรายงานเรื่องต่างๆ"อาจารย์หญิงขอรับ กิจการเดือนนี้ได้กำไรหกหมื่นตำลึงขอรับ นี่เป็นกำไรจากที่แบ่งสันปันส่วนให้แก่กลุ่มก้อนต่างๆ และหักต้นทุนแล้วขอรับ เขาเรียกว่า เอ่อ""เขาเรียกว่ากำไรสุทธิ..อาลี่ลองเอาหกหมื่นตำลึงไปทำให้เติบโตงแกเงยสิ อาจารย์หญิงเชื่อว่าเจ้าทำได้""อ้อ...ขอรับหากอาจารย์หญิงไว้ใจ อาลี่จะทำเต็มที่ขอรับ เอ่อ งานแต่งของศิษย์กับเสี่ยวหว่านเดิมทีจะจัดเดือนหน้า แต่ว่าศิษย์อยากรอให้ท่านออกเดือน และท่านแม่ทัพกลับมาก่อนน่ะขอรับ""เจ้านี่นะอาลี่ เอาล่ะๆขอบใจที่ให้ความสำคัญแก่อาจารย์กับท่านแม่ทัพ แต่หากเสี่ยวหว่านรอเจ้าไม่ไหว อย่ามาโทษข้าสองผัวเมียเล่า ไปเถอะไปทำงานได้แล้ว"จางลี่เก็บสมุดบัญชีก่อนจะไปหาคนของใจที่บ้านท่านปู่ของนาง คนงานเริ่มทำงานจวนแม่ทัพไม่อนุญาตให้คนนอกมาวุ่นวาย ตอนนี้เมิ่งหย่งชุนกำลังฝึกคนขึ้นมาใหม่ มีเด็กมาเรียนวรยุทธกับเขามากมาย
ทั้งสามคนพยักหน้า ชาวบ้านที่มามุงดูได้ยินว่าเมิ่งหย่งชวนเป็นถึงท่านอ๋องต่างก็ตกใจปนดีใจ ที่ดีใจคือคนสกุลเมิ่ง หมู่บ้านสี่สิบลี้มีคนต่างแซ่ไม่กี่ครอบครัวนอกนั้นก็แซ่เมิ่ง"นี่ๆ อาชวนๆเขาเป็นท่านอ๋องแล้ว""ใช่ๆๆ วาสนาตระกูลเมิ่งของพวกเราจริงๆเลย""น่านสิ นี่ท่านลุงซุนลูกหลานของท่านมีวาสนาทำสกุลเมิ่งในเมืองเถิงของพวกเราไม่น้อยหน้าคนอื่น ต้องขอบคุณท่านแล้ว ขอบคุณท่านด้วยท่าอาหย่งชุน"ทุกคนยินดีกับผู้นำหมู่บ้านและน้องชาย พวกเขาได้แต่พยักหน้าน้อมรับคำเยินยอและอวยพร เมิ่งหย่งชวนรีบมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางทันที เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาก็เห็นเมียนอนหลับอยู่กับเมิ่งหานเซียง คู่แฝดนอนในเปลอู่ เมิ่งหย่งชวนอุ้มหานเซียงมาวางอีกด้านก่อนตนเองจะเข้าไปนอนซ้อนด้านหลังแล้วกอดนางเอาไว้เสิ่นเยี่ยนฟางรู้สึกตัว กลิ่นกายนี้มีเพียงเขาเท่านั้น นางหันหน้ากลับมาซุกกับอกกว้าง แขนเรียวยกกอดเอวหนาเอาไว้ เมิ่งหย่งชวนรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่หน้าอกก็กอดนางแน่บแน่น"เด็กดี อย่าร้องพี่กลับมาแล้ว""ฮึกๆๆ ข้าคิดถึงท่าน คิดถึงทุกวันเลยฮือๆๆ""พี่กลับมาแล้ว และจะไม่ไปที่ไหนอีก เสี่ยวฟางคนดีของพี่เงียบนะ"
สองพี่น้องไปทำงานตามคำสั่งแล้ว หวังจิ่วหยิบลูกพลับที่ปอกแล้วเข้าปาก อืมหวานจริงๆหวานเหมือนหน้าคนปอกเลย นางงามนักเหลียนซิ่วซิ่ว หวังเฉิงที่เพิ่งเสร็จจากงานมาเห็นน้องชายนั่งยิ้มคนเดียวก็แปลกใจ ปกติเป็นเสือยิ้มยากวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับเจ้านี่กันนะ"อาจิ่ว...มีเรื่องดีๆอันใดหรือ""พี่ใหญ่..ข้า คือว่าข้า เอ่อ ข้า ข้าอยากมีเมียน่ะ""แค่กๆๆ.. จะ จะ เจ้าว่าอะไรนะ ไหนเมื่อก่อนเจ้าเคยพูดว่าสตรีคืองูพิษ เป็นสิ่งน่ารังเกียจที่สุด นอกจากอาเหยียนแล้วเจ้าก็ไม่เอาใครทั้งนั้น""อาเหยียนเป็นหลานสา่วพวกเรา ไม่รักนางจะไปรักใครเล่าขอรับ""ว่าแต่เจ้าไปถูกใจสตรีคนใดกัน""เอาไว้ข้าจะบอกท่านทีหลัง ตอนนี้ขอข้าทำความรู้จักกับนางมากกว่านี้ก่อน"น้องชายไปแล้ว หวังเฉิงยืนงง กระทั่งเมิ่งลู่เจินที่อ่านตำราอยู่ที่ม้านั่ง อมยิ้มก่อนจะส่ายหน้า"ท่านอาจิ่วเขาชอบพี่ซิ่วซิ่วน่ะท่านอาเฉิง""ซิ่วซิ่ว..นายน้อยหมายถึงแม่นางเหลียนซิ่วซิ่ว น้องสาวเหลียนซิ่วเอ๋อร์หรือขอรับ""อืม.." เมิ่งลู่เจินพยักหน้าก่อนก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ เดิมทีจะกลับเมืองหลวงในอีกหนึ่งเดือน ใครจะรู้ว่าคนก่อเรื่องจะอยากมาเที่ยวกัน ต
ใกล้วันงานแต่งงานของจางลี่กับเมิ่งเสี่ยวหว่านแล้ว ทางด้านตำหนักอ๋องจัดห้องหับสำหรับเจ้าสาว เพราะว่าบ้านท่านปู่ใหญ่กำลังสร้างใหม่จึงไม่สะดวก เหลียนซิ่วเอ๋อร์อายุสิบเก้าส่วนซิ่วซิ่วอายุสิบเจ็ดเท่ากับเสี่ยวหว่าน จางลี่แกกว่านางหนึ่งปี ทั้งคู่อยู่ในวัยเยาว์ จางหมิ่นเฝ้าฝันเมื่อไหร่จะได้มีหลานกับเขา แม้ว่าคนที่แต่งจะเป็นคนน้องแต่ก็ยังดี ไม่รู้บุตรชายคนโตจะมีภรรยาเมื่อไหร่ ด้านหน้าตำหนักอ๋องสตรีวัยยี่สิบกว่า โพกผ้าลายดอกบนศีรษะ เสื้อผ้าที่สวมใส่ไม่ใหม่ไม่เก่า ในมือของนางถือห่อผ้าเอาไว้ สอดส่ายสายตาไปมา กระทั่งเมิ่งลู่เจินที่กำลังเดินมากับหวังจิ่วเห็นเข้าจึงเดินมาถาม"แม่นางท่านนี้..ท่านเป็นใครมาที่นี่ต้องการพบผู้ใดหรือ""เอ่อ...คุณชายข้ามาหาเหลียนซิ่วเอ๋อ์กับเหลียนซิ่วซิ่วเจ้าค่ะ""อ้อ..เช่นนั้นท่านอาจิ่วพาไปนางไปพบสักหน่อยเถอะ ท่านเองก็อยากไปหาพี่ซิ่วซิ่วมิใช่หรือ"หวังจิ่วเกาท้ายทอยตนเองก่อนจะยิ้มๆแล้วพยักหน้า"ขอรับนายน้อย เอ่อ แม่นางท่านนี้เชิญทางนี้ขอรับ มิทราบว่าท่านคือ...""ข้าน้อยชื่อเหลียนฝางเจ้าค่ะใต้เท้า เป็นอาหญิงของพวกนาง"หวังจิ่วพยักหน้า เหลียน
ทั้งคู่มองหน้ากัน เมิ่งลู่เจินที่ได้ยินก็เรียกคนของตนมากระซิบเบาๆ ไม่นานคนของเขาก็ไปส่งข่าวที่จวนเจ้าเมือง ซิ่วซิ่วมองหน้าพี่สาวสลับกับอาหญิงของนาง น้ำตาเริ่มคลอหน่วยเอ่ยถามพี่สาวปากสั่น"อะไรนะ...พวกเราแยกบ้านมาแล้ว เขาไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนี้ พะ พะ พี่ใหญ่ทำอย่างไรดี ฮือๆๆ ข้ากลัว"ซิ่วซิ่วร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย ท่านปู่ท่านย่าร้ายกาจเพียงใดนางรู้ดี กระทั่งมีเสียงดังมาซิ่วซิ่วจึงหยุดร้อง"ซิ่วเอ๋อร์ ไปพาพ่อกับแม่เจ้าไปพักที่เรือนคนงานที่เพิ่งสร้างเสร็จก่อน ส่วนอาหญิงของเจ้ามีห้องว่างที่เรือนหลังเก่าอยู่หนึ่งห้องให้นางไปพักที่นั่นชั่วคราว จัดการปัญหาเสร็จค่อยว่ากัน รองานแต่งอาลี่ผ่านไปก่อน"เสิ่นเยี่ยนฟางที่เพิ่งเดินมาได้ยินเรื่องราวก็รับเหลียนฝางเอาไว้ก่อน มีอย่างที่ไหนขายบุตรสาวเพื่อเอาเงินไปเป็นสินสอดให้หลานชาย ช่างสารเลวจริงๆ ทั้งสามคุกเขาให้นางเพื่อขอบคุณ"ขอบพระทัยพระชายาเพคะ พวกหม่อมฉันมิรู้จะตอบแทนอย่างไรได้หมด""ลุกขึ้นเถอะ ต่อไปตั้งใจทำงานก็พอ ว่าแต่ท่านอาหวังเฉิงใบหน้าท่านไปโดนอันใดมาเล่านั่น" เสิ่นเยี่ยนฟางเอ่ยกับสามสาวจบก็หันไปหาองครักษ์ของอาเจินทัน
เหลียนซิ่วเอ๋อร์กลับเหลียนซิ่วซิ่วกำลังประคองอาหญิงเพื่อกลับบ้าน พวกนางเองก็ดื่มไปเล็กน้อย เหลียนซิ่วเอ๋อร์เดินเซไปชนบางคนเข้า นางไม่ล้มลงไปเพราะมีวงแขนแข็งแรงมารับตัวนางไว้"แม่นางเหลียน เจ้าไหวหรือไม่""ทะ ท่านเจ้าเมือง ขะ ขอบคุณเจ้าค่ะ""อืม เดี๋ยวให้คนของข้าไปส่ง หรือว่าเจ้าค้างที่จวนดี จะได้ไม่ต้องเดินทาง นี่ก็ดึกมากแล้ว"เหลียนซิ่วเอ๋อร์ พยายามยืนให้มั่นก่อนจะเอ่ยอ้อแอ้กับร่างสูง"ท่านอ๋องกับพระชายากลับไปแล้ว ข้าน้อยไม่กลับได้อย่างไร ท่านพ่อท่านแม่จะเป็นห่วง อีกอย่างอาหญิงของข้าน้อย นางไม่เคยดื่มสุรามาก่อน นางดื่มเสียเป็นน้ำหวานเลยเจ้าค่ะ"จ้าวเหมิ่นมองคนตัวเล็กที่กำลังต่อปากต่อคำกับเขาอยู่อย่างเอ็นดู ใบหน้างามแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์สุรา ส่วนเหลียนซิ่วซิ่วนั้นปีนขึ้นรถม้าเรียบร้อยแล้ว จางเหมิ่อนเอ่ยขอบคุณนางอีกครั้ง"ขอบคุณเจ้ามากแม่นางเหลียน งานเรียบร้อยดีเพราะเจ้าเลยเชียว เห็นพระชายาบอกว่าเจ้าเป็นคนดูแลจัดหาคนงานและแม่ครัว""ท่านเจ้าเมือง ท่านชมข้าน้อยเกินไปแล้วเจ้าค่ะ เอ่อ...ข้าน้อยขอตัวก่อนนะเจ้าคะ ดึกแล้ว"เหลียนซิ่วเอ๋อร์เซนิดๆจางเหมิ่นจึงประคองนางให้ขึ้นรถม
ห้าวันต่อมาจ้าวเหลียนซินเดินเล่นหมู่บ้านนั้นเข้าออกหมู่บ้านนี้จนกระทั่งวันนี้นางเห็นทหารเริ่มจัดตกแต่งจวนด้วยผ้าแพรสีแดง โคมไปถูกประดับสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ดรุณีน้อยวิ่งมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งอยู่ นางมาถึงก็นั่งลงข้างๆ"พระชายาข้าอยากกินหม้อไฟอีก ท่านทำอร่อยที่สุดเลย""ได้เพคะ เอาไว้หม่อมฉันจะทำถวายเย็นนี้ดีหรือไม่เพคะ""อืม..ได้ว่าแต่งานแต่งของท่านกับจวิ้นอ๋องอีกห้าวันใช่หรือไม่""เพคะ..องค์หญิงเก้าอยู่ที่นี่ทรงมีอันใดขัดข้องหรือไม่เพคะ สะดวกสบายดีหรือเปล่า""เหอะ ดีทุกอย่างแหละ ยกเว้นท่านอาจารย์จอมงี่เง่าขี้บ่นของข้านั่นแหละ หึ น่าเบื่อ"เสิ่นเยี่ยนฟางหัวเราะเบาๆ นางส่งเมิ่งเสี่ยวเย่าให้กับสาวใช้ก่อนจะรับเมิ่งฮ่าวเฉินมา เจ้าตัวน้อยอ้าปากกินโจ๊กที่มารดาป้อนอย่างอร่อย จ้าวหลานขออุ้มเมิ่งเสี่ยวเย่า สาวใช้มองหน้าพระชายาของตน เสิ่นเยี่ยนฟางพยักหน้าให้สาวใช้จึงส่งเสี่ยวเย่าให้กับจ้าวเหลียนซิน นางเล่นกับเมิ่งเสี่ยวเย่า หยอกล้อเขา จนเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสีหน้านางเศร้าลงเล็กน้อย อดไม่ได้จึงเอ่ยถาม"องค์หญิงเก้า ทรงเป็นอะไรไปหรือเพคะ เหตุใดทำหน้าเศร้านัก""เฮ้อ พระชายา ข้าไม่ขอปิดบังข้าเหงา ข
เมิ่งลู่เจินที่นั่งอยู่ไม่ได้ยินพี่ชายเดินมาหา เมิ่งหย่งชวนเดินจนมาถึงตัวเขาถึงรับรู้ เมิ่งลู่เจินเอ่ยปากขึ้นก่อน"พี่ใหญ่...ข้า..เอ่อ..ข้า""เจ้าไปหานางใช่หรือไม่อาเจิน ตอบพี่มาเถอะ""ขอรับ ข้าเป็นห่วงนาง อีกอย่างอยากไปส่งข่าวเรื่องซีฮวนกับหานเซียงด้วย ว่าพวกเขาสบายดี""ช่วงนี้พี่ต้องใกล้ชิดเด็กสองคนนั้นมากหน่อย มิเช่นนั้นพี่สะใภ้ของเจ้าจะเหนื่อเอาได้ ซีฮวนเองก็เอาแต่พี่สะใภ้เจ้า ดีที่ยอมนอนกับเสี่ยวอิง แต่ไม่ยอมเรียกบิดาพวกเราว่าท่านพ่อทั้งสองคนกลายมาเป็นบุตรชายบุตรสาวข้ากับพี่สะใภ้เจ้าแทน""กว่าจะกลับเมืองหลวงอีกสามเดือน ข้าจะช่วยท่านแบ่งเบาเองขอรับพี่ใหญ่""อืม อีกสิบวันข้าจะจัดงานแต่งงานของข้ากับพี่สะใภ้เจ้า"เมิ่งลู่เจินยิ้มให้พี่ชาย พี่สะใภ้ของเขาสมควรได้รับสิ่งดีๆ นางทำเพื่อเขาสองคนพี่น้องมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้ามาจนกระทั่งวันนี้ นางเป็นคนอ่อนโยนเสมอต้นเสมอปลายยิ่งนัก เว้นแต่ใครทำให้นางโกรธ เพราะว่าผลลัพภ์หากนางโกรธมักจบไม่ดีสักคน"องค์หญิงเก้าอยากไปเที่ยวเล่น ในฐานะอาจารย์เจ้าควรไปดูแลนาง อาเจินนางเพิ่งอายุสิบสี่เท่านั้น อาจซุกซนไปบ้าง เจ้าก็อย่าได้บึ้งตึงใส่นางนักเลย"
เสิ่นเยี่ยนฟางที่กำลังทำบัญชีอยู่ในห้องก็วางลูกคิดลงก่อนจะออกมา นางอุ้มเมิ่งหานเซียงออกมาด้วย คู่แฝดอยู่กับสาวใช้ เจ้าตัวน้อยเมิ่งเสียวเถาตื่นลืมตามามอง หึ ภูตินกยูงกับภูติจิ้งจอกกำลังจะมา พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิด แต่นางต้องอยู่กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นนั่นอีกเป็นปี เฮอะ รู้เช่นนี้ยังไม่กลายร่างก็ดีเห็นหน้าบุตรสาวบอกบุญไม่รับก็ได้แต่แปลกใจก่อนจะเอ่ยถาม"เป็นอะไรไปเสี่ยวเถาคนเก่งของแม่หื้ม""พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิดในครรภ์เสด็จแม่แล้ว แต่ลูกยังต้องรออีกเจ้าค่ะ"" ก็ยังมีพี่เสี่ยวเฟิงกับพี่เสี่ยวเหอและเสี่ยวอิงอยู่กับลูกไง เอาล่ะๆเด็กดีของแม่ ท่านอามาแล้วลูกจะตื่นนอนสักนิดแล้วไปหาท่านอาหรือไม่ ทำหน้าห่อเหี่ยวเช่นนี้""เฮ้อ..ท่านตาเจ้าที่ไปไหนกันแน่ ลูกไม่มีคนทะเลาะด้วยมันรู้สึกเบื่อเพคะ""เสี่ยวเถาเด็กดี เป็นเด็กต้องเคารพผู้ใหญ่ หากท่านตากลับมาลูกต้องหัดอ่อนหวานเป็นสตรีมากว่านนี้ จะเอ่ยวาจารุนแรงหรือตั้งท่ามีเรื่องตลอดเวลามิได้ รู้หรือไม่ แม่ออกไปหาท่านอาก่อน ลูกไม่อยากไปก็นอนต่อเถอะ"มารดาเดินออกจากห้องไปแล้ว สาวใช้อุ้มหานเซียงแต่นางกอดคอมารดาแน่นจนในที่สุดเสิ่นเยี่ยนฟางก็ต้องอุ้มไปด้วย เมิ่
ตอนนี้เมิ่งลู่เจินเข้าเขตหมู่บ้านสี่สิบลี้เรียบร้อยแล้ว เขาตื่นก่อนคนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ข้างๆเมิ่งลู่เจินที่พยายามจะลุก แต่กลับถูกแขนและขาเพรียวเล็กกอดก่ายเขาเอาไว้ทั้งตัว เขาพยายามที่จะแกะออก แต่พอเขาแกะออกนางก็กลับมากอดเขาอีกเมิ่งลู่เจินถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจปลุกจ้าวเหลียนซิน"องค์หญิงเก้า....ทรงตื่นได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ'"อืม....รำคาญจะปลุกอะไรนักหนาคนจะนอน""องค์หญิง.....จะทรงนอนต่อกระหม่อมไม่ว่า แต่ทรงปล่อยกระหม่อมก่อน จะทรงกอดกระหม่อมอีกนานไหมพ่ะย่ะค่ะ"ได้ผลทันทีที่สิ้นคำว่านอนกอดเขา จ้าวเหลียนซินก็ลืมตาทันที นางจึงรู้ว่าแขนเรียวกอดเขาเอาไว้ ส่วนขาก็ก่ายเขาไม่อีกเช่นกัน นางหน้าแดงจนถึงใบหู น่าอายจริงๆเลย ก่อนจะทำโมโหกลบเกลื่อนคนตัวโต"หมะ มะ เมิ่งลู่เจิน...นี่มันรถม้าของข้านี้ จำได้ว่าเจ้าจับข้าโยนใส่รถม้าคันเล็กเท่ารูหนู เหตุใดข้ามาอยู่รถม้าตนเอง เจ้าๆๆ เจ้าล่วงเกินอะไรข้าบอกมานะ""องค์หญิง..กระหม่อมเห็นว่าทรงบรรทมไม่สบายพระวรกายจึงอุ้มมานอนที่นี่เพราะปลุกก็แล้วเขย่าก็แล้วมิทรงตื่น หลังจากมาถึงก็กอดก่ายกระหม่อมเอาไว้ จนไปไหนไม่ได้ พระองค์ว่าเช่นนี้ใครล่วงเกินผู้ใดกันแน่พ่ะย่ะค่ะ
ขบวนของเขาเดินทางมาเรื่อยๆในที่สุดก็มาถึงที่หมาย เขาต้องรอคนเจ้าปัญหาที่นี่ นัดกับคนของนางไว้อีกสามวัน ช่วงเวลานี้เขาเดินสำรวจหาอะไรฆ่าเวลาจนกระทั่งมาถึงที่คนกำลังเล่นพนันขันต่ออยู่ เสียวลั่นและหนึ่งในเสียงนั้นเขาจำได้ดี องค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน"เฮ้ๆๆ..ข้าบอกแล้วว่าเจ้าตัวนี้ลักษณะดีอย่างไรก็ชนะพวกเจ้าไม่เชื่อข้าเอง มาๆข้าชนะพนันครั้งนี้จ่ายมาๆ"เฮ้ย..ไอ้คนต่างถิ่นกล้ามาล้วงคอข้าถึงที่นี่เลยหรือไม่จ่ายโว้ย พวกเราจัดการให้ไอ้หน้าอ่อนนี่มันรู้สิว่ามาหาเรื่องในถิ่นข้าจะเป็นอย่างไร""เว้ๆๆ..ขี้แพ้ชวนตีนี่หว่า สุนัขของพวกเจ้าแพ้พนันไม่ยอมจ่ายเงินตำลึงยังจะมาหาเรื่องคนอีก อากวนจัดการพวกมันสิเอาให้หมอบเลย"อัธพาลคุมบ่อนสุนัขตรงรี่เข้ามาจัดการกับจ้าวเหลียนซินแต่นางไม่สนใจนางสั่งองครักษ์เงาของท่านอารองของนางให้จัดการพวกมัน กระทั่งคนคุมบ่อนนอนร้องโอดโอย จ้าวเหลียนซินก็คว้าแส้ขึ้นมาก่อนจะหวดลงไปที่ร่างของพวกมัน แต่ยังไม่ทันที่แส้จะถึงตัวก็มีคนมาจับปลายแส้เอาไว้ จ้าวเหลียนซินที่เหวี่ยงแส้ไม่ได้ก็หันกลับมาหาคนที่กล้ามากระตุกหนวดนางพอเห็นเว่าเป็นใครหน้าจึงงอง้ำกว่าเดิมก่อนจะเอ่ยออกมา"นี่เมิ่งลู
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยเมิ่งลู่เจินพร้อมกับหวังเฉิงและหวังจิ่วรวมถึงองครักษ์อีกหกนายก็เดินทางไปเมืองเหยียนเพื่อรับองค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน นางจะมาใช้ชีวิตที่นี่สามเดือนเพื่อเรียนรู้วิถีชาวบ้าน โจวหยวนให้เหตุผลกับโจวกุ้ยเฟยว่า อนาคตจะต้องแต่งงานกับเมิ่งลู่เจิน ควรมาเรียบนรู้นิสัยกันและกัน และวิถีชีวิตหากท้ายที่สุดเด็กสองคนมิอาจคล้อยตามกันได้ก็อาจจะให้พวกเขาตัดสินใจเรื่องคู่ครองเองเมิ่งลู่เจินขึ้นบนหลังม้าเขามิได้นั่งรถม้าแต่อย่างใด ในเมื่อนางอยากมาลำบากก็ให้ลำบากเสียให้พอ เสิ่นเยี่ยนฟางมองดูน้องสามีที่ควบม้าออกจากตำหนักไปก็ถอนหายใจจนเมิ่งหย่งชวนเดินมาถึงเขาสวมกอดนางก่อนจะเอ่ยถาม"น้องหญิงเจ้าถอนหายใจเรื่องอันใด หากเป็นอาเจินอย่ากังวลเลยเขาไม่เป็นอันใดหรอก""ท่านอ๋อง..ทรงเชื่อเรื่องเกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้นหรือไม่เพคะ""หืม..หมายความว่าอย่างไรกัน""ก็น้องชายของเราเกลียดองค์หญิงเก้าหนักหนา หม่อมฉันจะรอดูว่าคนที่ปากบอกรำคาญ รังเกียจอนาคตจะเดินตามเมียต้อยๆหรือไม่ เหมือนคนแถวนี้เมื่อก่อนไงหล่ะเพคะ อื้อ"เมิ่งหย่งชวนรั้งร่างบางมาหาก่อนจะจับปลายคางมนแล้วก้มลงมาจุมพิตนาง เสิ่นเยี่ยนฟางต
เสิ่นเยี่ยนฟางหันหลับมาหาคนที่เอ่ยกับนางก่อนจะช่วยรับเสื้อคลุมที่เขาถอดออก เมิ่งหย่งชวนรั้งเอวบางมากอด ก่อนจะโน้มตัวลงมาจุมพิตแก้มชมพูระเรื่อของนาง เสิ่นเยี่ยนฟางโอบเอวหนาสามีไว้ นางซบหน้ากับแผงอกของเขาก่อนจะเอ่ย"ท่านอ๋อง...เมิ่งซีฮวนใบหน้าคล้ายอาเจินมากนักเพคะ""อาเจินเหมือนกับนาง ซีฮวนกับเซียงเอ๋อร์ก็คล้ายนาง เด็กสองคนจึงมีหน้าตาคล้ายกับอาเจิน ส่วนตัวพี่เหมือนท่านพ่อไม่เหมือนนาง""สามีของหม่อมฉัน ทรงอภัยนางได้หรือยังเพคะ ท่านอ๋องหากยังทรงคิดแค้นใจคนที่จะเจ็บปวดเป็นทุกข์ก็คือพระองค์เองนะเพคะ"เมิ่งหย่งชวนจับไหล่บางดันออกเบาๆ นิ้วยาวแตะปลายคางมนให้เงยหน้ามองสบตากับเขา ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตนางจนพอใจเมื่อถอนจุมพิตออกมาจึงเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"เสี่ยวฟางของพี่ ..เรื่องทุกอย่างพี่ล้วนฟังเจ้า ยามนี้พี่ไม่ติดใจใดๆกับนางแล้ว พี่เองไม่อยากทุกข์ใจและที่สำคัญพี่ไม่อยากให้เจ้าต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับพี่จนตัวเองทุกข์ใจไปด้วยเช่นนี้""ดีแล้วเพคะ หากยังทรงปล่อยวางไม่ได้จะทำให้พระองค์ต้องหม่นหมอง ท่านพ่อเองก็ด้วย อาเจินแม้ว่าปากจะไม่พูด แต่ก็มิใช่ว่าจะไม่รู้สึก หากพระองค์ทรงปล่อยวางได้ก็เท่ากั
หลังจากปฏิบัติการปั๊มลูกของเสิ่นเยี่ยนฟางเรียบร้อยแล้วนางก็นอนหมดแรง กระทั่งสามวันผ่านไปจางลี่กลับมาทำงานอีกครั้งโรงงานผลไม้อบแห้งเปิดแล้ว เมิ่งวหย่งชวนสั่งให้สร้างตำหนักเพิ่ม เขาอยากมีลูกกับนางหลายๆคน ขณะที่เขากำลังยืนคุมงานน้องชายก็เดินมาหา"พี่ใหญ่ขอรับ""อืม..ว่าอย่างไรอาเจิน เหตุใดทำหน้าตาเหมือนมีเรื่องหนักใจ""องค์หญิงเก้ากำลังเดินทางมา ข้าต้องไปรับนางที่ตำบลหยาง ไม่รู้ว่านางจะมาวุ่นวายทำไม แค่นี้ยังสร้างปัญหาให้คนอื่นไม่พอหรืออย่างไร"เมิ่งหย่งชวนยกมือหนาลูบศีรษะน้องชายเบาๆ เขายังไม่รู้ตัวเองว่าถูกเลือกให้เป็นสามีองค์หญิงเก้า และเมื่อนางปักปิ่นครบหนึ่งปี ทั้งคู่ก็ถึงเวลาแต่งงานกัน ดูท่าใต้เท้าโจวคงแนะนำโจวกุ้ยเฟยให้บุตรสาวนางเดินทางมา เพื่อได้ใช้ชีวิตและศึกษานิสัยใจคอกันและกัน เมิ่งหย่งชวนเอ่ยแกน้องชาย"อาเจิน..องค์หญิงนางคงเหงา เจ้าลองดูสิฝ่าบาทมีสนมมากมายเท่าไหร่ มีโอรสธิดามากมายเพียงไร นางมีพี่น้องมากมายแต่กลับหาจริงใจได้สักกี่คน""พี่ใหญ่ขอรับคือว่าข้า...""เอาเถอะ เจ้าแก่กว่านางหนึ่งปีถือเป็นพี่ชายนางก็แล้วกัน เอ็นดูนางสักหน่อยก็ไม่เสียหาย อีกไม่นานพวกเจ้าก็..... อะแฮ่ม เอ
เมิ่งหย่งชวนจูบนางอ้อยอิ่งอีกครั้งก่อนจะจ้องตา คนตัวเล้กรู้ดีว่าเขายังไม่อิ่มจึงพยักหน้าให้ บทรักเริ่มอีกครั้ง เสียวครางแสนหวานดังทั่วห้อง จนกระทั่งสองชั่วยามผ่านไปทั้งคู่จึงได้นอนกอดกัน พอดีกับคู่แฝดได้เวลาให้นมพอดี ทางด้านอีกห้องแรงดึงดูดส่งมาถึงเสี่ยวฮวา เสี่ยวเฟิงและเสี่ยวเหอ ทั้งสามลุกขึ้นมามองหน้ากันพวกนางกำลังจะได้ไปเกิดแล้ว เสี่ยวเถาเบ้ปากก่อนจะบ่น"พวกพี่จะได้ไปเกิดพร้อมกัน หึ ทิ้งข้าไว้กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นสองคน""น้องหก..เจ้าอย่างอแงไปเลย ท่านแม่คลอดพวกพี่ได้หกเดือนก็จะตั้งครรภ์เจ้าเช่นกัน รออักนิดเถอะ"เสี่ยวเหอเอ่ยแก่น้องสาว เสี่ยวเถาล้มตัวลวงนอน เมิ่งหานเซียงที่ตอนนี้ตีกรรเชียงไปทั่วเตียงจนพี่ๆทั้งสี่อ่อนใจ นอนดิ้นอะไรขนาดนั้นกันนะเจ้าตัวน้อยเช้าแล้วเช้าแล้วเข้าปลายยามเฉินจะต้องไปจวนสกุลจางเพื่อเก็บของกลับบ้าน ยังมีของขวัญที่ต้องนำไปให้ฮูหยินน้อยอีกด้วย ตอนนี้เมิ่งเสี่ยวหว่านคือฮูหยินน้อยแล้ว เหลียนซิ่วเอ๋อร์เดินไปเรือนหลังเก่าเพื่อเรียกอาหญิงของนางให้ไปด้วยกัน แต่กลับเจอเพียงหวังเฉิงที่ยืนอยู่หน้าเรือน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะใต้เท้าหวัง""อ้อ หลานภรรยาเจ้ามีเรื่องอันใดหรือ