ทั้งสามคนพยักหน้า ชาวบ้านที่มามุงดูได้ยินว่าเมิ่งหย่งชวนเป็นถึงท่านอ๋องต่างก็ตกใจปนดีใจ ที่ดีใจคือคนสกุลเมิ่ง หมู่บ้านสี่สิบลี้มีคนต่างแซ่ไม่กี่ครอบครัวนอกนั้นก็แซ่เมิ่ง"นี่ๆ อาชวนๆเขาเป็นท่านอ๋องแล้ว""ใช่ๆๆ วาสนาตระกูลเมิ่งของพวกเราจริงๆเลย""น่านสิ นี่ท่านลุงซุนลูกหลานของท่านมีวาสนาทำสกุลเมิ่งในเมืองเถิงของพวกเราไม่น้อยหน้าคนอื่น ต้องขอบคุณท่านแล้ว ขอบคุณท่านด้วยท่าอาหย่งชุน"ทุกคนยินดีกับผู้นำหมู่บ้านและน้องชาย พวกเขาได้แต่พยักหน้าน้อมรับคำเยินยอและอวยพร เมิ่งหย่งชวนรีบมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางทันที เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาก็เห็นเมียนอนหลับอยู่กับเมิ่งหานเซียง คู่แฝดนอนในเปลอู่ เมิ่งหย่งชวนอุ้มหานเซียงมาวางอีกด้านก่อนตนเองจะเข้าไปนอนซ้อนด้านหลังแล้วกอดนางเอาไว้เสิ่นเยี่ยนฟางรู้สึกตัว กลิ่นกายนี้มีเพียงเขาเท่านั้น นางหันหน้ากลับมาซุกกับอกกว้าง แขนเรียวยกกอดเอวหนาเอาไว้ เมิ่งหย่งชวนรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่หน้าอกก็กอดนางแน่บแน่น"เด็กดี อย่าร้องพี่กลับมาแล้ว""ฮึกๆๆ ข้าคิดถึงท่าน คิดถึงทุกวันเลยฮือๆๆ""พี่กลับมาแล้ว และจะไม่ไปที่ไหนอีก เสี่ยวฟางคนดีของพี่เงียบนะ"
สองพี่น้องไปทำงานตามคำสั่งแล้ว หวังจิ่วหยิบลูกพลับที่ปอกแล้วเข้าปาก อืมหวานจริงๆหวานเหมือนหน้าคนปอกเลย นางงามนักเหลียนซิ่วซิ่ว หวังเฉิงที่เพิ่งเสร็จจากงานมาเห็นน้องชายนั่งยิ้มคนเดียวก็แปลกใจ ปกติเป็นเสือยิ้มยากวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับเจ้านี่กันนะ"อาจิ่ว...มีเรื่องดีๆอันใดหรือ""พี่ใหญ่..ข้า คือว่าข้า เอ่อ ข้า ข้าอยากมีเมียน่ะ""แค่กๆๆ.. จะ จะ เจ้าว่าอะไรนะ ไหนเมื่อก่อนเจ้าเคยพูดว่าสตรีคืองูพิษ เป็นสิ่งน่ารังเกียจที่สุด นอกจากอาเหยียนแล้วเจ้าก็ไม่เอาใครทั้งนั้น""อาเหยียนเป็นหลานสา่วพวกเรา ไม่รักนางจะไปรักใครเล่าขอรับ""ว่าแต่เจ้าไปถูกใจสตรีคนใดกัน""เอาไว้ข้าจะบอกท่านทีหลัง ตอนนี้ขอข้าทำความรู้จักกับนางมากกว่านี้ก่อน"น้องชายไปแล้ว หวังเฉิงยืนงง กระทั่งเมิ่งลู่เจินที่อ่านตำราอยู่ที่ม้านั่ง อมยิ้มก่อนจะส่ายหน้า"ท่านอาจิ่วเขาชอบพี่ซิ่วซิ่วน่ะท่านอาเฉิง""ซิ่วซิ่ว..นายน้อยหมายถึงแม่นางเหลียนซิ่วซิ่ว น้องสาวเหลียนซิ่วเอ๋อร์หรือขอรับ""อืม.." เมิ่งลู่เจินพยักหน้าก่อนก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ เดิมทีจะกลับเมืองหลวงในอีกหนึ่งเดือน ใครจะรู้ว่าคนก่อเรื่องจะอยากมาเที่ยวกัน ต
ใกล้วันงานแต่งงานของจางลี่กับเมิ่งเสี่ยวหว่านแล้ว ทางด้านตำหนักอ๋องจัดห้องหับสำหรับเจ้าสาว เพราะว่าบ้านท่านปู่ใหญ่กำลังสร้างใหม่จึงไม่สะดวก เหลียนซิ่วเอ๋อร์อายุสิบเก้าส่วนซิ่วซิ่วอายุสิบเจ็ดเท่ากับเสี่ยวหว่าน จางลี่แกกว่านางหนึ่งปี ทั้งคู่อยู่ในวัยเยาว์ จางหมิ่นเฝ้าฝันเมื่อไหร่จะได้มีหลานกับเขา แม้ว่าคนที่แต่งจะเป็นคนน้องแต่ก็ยังดี ไม่รู้บุตรชายคนโตจะมีภรรยาเมื่อไหร่ ด้านหน้าตำหนักอ๋องสตรีวัยยี่สิบกว่า โพกผ้าลายดอกบนศีรษะ เสื้อผ้าที่สวมใส่ไม่ใหม่ไม่เก่า ในมือของนางถือห่อผ้าเอาไว้ สอดส่ายสายตาไปมา กระทั่งเมิ่งลู่เจินที่กำลังเดินมากับหวังจิ่วเห็นเข้าจึงเดินมาถาม"แม่นางท่านนี้..ท่านเป็นใครมาที่นี่ต้องการพบผู้ใดหรือ""เอ่อ...คุณชายข้ามาหาเหลียนซิ่วเอ๋อ์กับเหลียนซิ่วซิ่วเจ้าค่ะ""อ้อ..เช่นนั้นท่านอาจิ่วพาไปนางไปพบสักหน่อยเถอะ ท่านเองก็อยากไปหาพี่ซิ่วซิ่วมิใช่หรือ"หวังจิ่วเกาท้ายทอยตนเองก่อนจะยิ้มๆแล้วพยักหน้า"ขอรับนายน้อย เอ่อ แม่นางท่านนี้เชิญทางนี้ขอรับ มิทราบว่าท่านคือ...""ข้าน้อยชื่อเหลียนฝางเจ้าค่ะใต้เท้า เป็นอาหญิงของพวกนาง"หวังจิ่วพยักหน้า เหลียน
ทั้งคู่มองหน้ากัน เมิ่งลู่เจินที่ได้ยินก็เรียกคนของตนมากระซิบเบาๆ ไม่นานคนของเขาก็ไปส่งข่าวที่จวนเจ้าเมือง ซิ่วซิ่วมองหน้าพี่สาวสลับกับอาหญิงของนาง น้ำตาเริ่มคลอหน่วยเอ่ยถามพี่สาวปากสั่น"อะไรนะ...พวกเราแยกบ้านมาแล้ว เขาไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนี้ พะ พะ พี่ใหญ่ทำอย่างไรดี ฮือๆๆ ข้ากลัว"ซิ่วซิ่วร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย ท่านปู่ท่านย่าร้ายกาจเพียงใดนางรู้ดี กระทั่งมีเสียงดังมาซิ่วซิ่วจึงหยุดร้อง"ซิ่วเอ๋อร์ ไปพาพ่อกับแม่เจ้าไปพักที่เรือนคนงานที่เพิ่งสร้างเสร็จก่อน ส่วนอาหญิงของเจ้ามีห้องว่างที่เรือนหลังเก่าอยู่หนึ่งห้องให้นางไปพักที่นั่นชั่วคราว จัดการปัญหาเสร็จค่อยว่ากัน รองานแต่งอาลี่ผ่านไปก่อน"เสิ่นเยี่ยนฟางที่เพิ่งเดินมาได้ยินเรื่องราวก็รับเหลียนฝางเอาไว้ก่อน มีอย่างที่ไหนขายบุตรสาวเพื่อเอาเงินไปเป็นสินสอดให้หลานชาย ช่างสารเลวจริงๆ ทั้งสามคุกเขาให้นางเพื่อขอบคุณ"ขอบพระทัยพระชายาเพคะ พวกหม่อมฉันมิรู้จะตอบแทนอย่างไรได้หมด""ลุกขึ้นเถอะ ต่อไปตั้งใจทำงานก็พอ ว่าแต่ท่านอาหวังเฉิงใบหน้าท่านไปโดนอันใดมาเล่านั่น" เสิ่นเยี่ยนฟางเอ่ยกับสามสาวจบก็หันไปหาองครักษ์ของอาเจินทัน
เหลียนซิ่วเอ๋อร์กลับเหลียนซิ่วซิ่วกำลังประคองอาหญิงเพื่อกลับบ้าน พวกนางเองก็ดื่มไปเล็กน้อย เหลียนซิ่วเอ๋อร์เดินเซไปชนบางคนเข้า นางไม่ล้มลงไปเพราะมีวงแขนแข็งแรงมารับตัวนางไว้"แม่นางเหลียน เจ้าไหวหรือไม่""ทะ ท่านเจ้าเมือง ขะ ขอบคุณเจ้าค่ะ""อืม เดี๋ยวให้คนของข้าไปส่ง หรือว่าเจ้าค้างที่จวนดี จะได้ไม่ต้องเดินทาง นี่ก็ดึกมากแล้ว"เหลียนซิ่วเอ๋อร์ พยายามยืนให้มั่นก่อนจะเอ่ยอ้อแอ้กับร่างสูง"ท่านอ๋องกับพระชายากลับไปแล้ว ข้าน้อยไม่กลับได้อย่างไร ท่านพ่อท่านแม่จะเป็นห่วง อีกอย่างอาหญิงของข้าน้อย นางไม่เคยดื่มสุรามาก่อน นางดื่มเสียเป็นน้ำหวานเลยเจ้าค่ะ"จ้าวเหมิ่นมองคนตัวเล็กที่กำลังต่อปากต่อคำกับเขาอยู่อย่างเอ็นดู ใบหน้างามแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์สุรา ส่วนเหลียนซิ่วซิ่วนั้นปีนขึ้นรถม้าเรียบร้อยแล้ว จางเหมิ่อนเอ่ยขอบคุณนางอีกครั้ง"ขอบคุณเจ้ามากแม่นางเหลียน งานเรียบร้อยดีเพราะเจ้าเลยเชียว เห็นพระชายาบอกว่าเจ้าเป็นคนดูแลจัดหาคนงานและแม่ครัว""ท่านเจ้าเมือง ท่านชมข้าน้อยเกินไปแล้วเจ้าค่ะ เอ่อ...ข้าน้อยขอตัวก่อนนะเจ้าคะ ดึกแล้ว"เหลียนซิ่วเอ๋อร์เซนิดๆจางเหมิ่นจึงประคองนางให้ขึ้นรถม
คนเมาทั้งสองจ้องหน้าและสบตากัน คนตัวเล็กอึดอัดจึงร้องขอเขาให้ช่วยปลดปล่อยนาง"อ๊า..ท่านช่วยข้าที อึดอัดเหลือเกิน""อ๊า เจ้าแน่นมาก มาเถอะคนงาม ข้าจะช่วยเจ้าปลดปล่อย"หวังเฉิงขยับเอวหนาใส่คนใต้ร่างไม่หยุด เหลียนฝางหวีดร้องครั้งแล้วครั้งเล่า นางใช้แขนเรียวโอบท้ายทอยหนาของเขาเอาไว้ หวังเฉิงยิ่งหนักหน่วงเมื่อคนใต้ร่างครางชื่อออกมา"อ๊า คะ ใต้เท้าหวัง ไม่ไหวแล้ว ข้าจะเสร็จ อ๊ายยยย"ร่างงามกระตุกสุขสม แขนเรียวกอดแผ่นหลังหนาเอาไอ้แน่น หวังเฉิงคำรมออกมาเพราะความนั่มแน่นที่โอบแก่นกายของเขากำลังตอดรัดจนเขาต้องกัดฟัน เอ่ยเสียงกระเส่า"เจ้าช่างนุ่ม ข้าก็จะเสร็จ อ่าห์ เสี่ยวฝาง เด็กดี อ่าห์"หวังเฉิงขยับเอวรัวๆ เหลียนฝางรู้สึกถึงตัวตนของเขาที่กำลังขยายในตัวนางหวังเฉิงคำรามออกมาก่อนจะเงยหน้าแล้วสาวเอวยาวๆเร่งจังหวะรักลงไปสามสี่ที กระทั่งสายธารรักของเขาถูกปลดปล่อยหลั่งไหลเข้าไปยังความอ่อนนุ่มของเหลียนฝางทุกหยาดหยด คนตัวเล็กนอนหมดแรง กระทั่งร่างหนายังไม่อิ่มเอม เขาจับนางนอนหันหลังให้แล้วเข้าไปทักทายนางอีกครั้ง เหลียนฝางครางออกมาเรียกร้องหาแต่เขา"อื้อ ใต้เท้าหวังได้โปร
หลังจากเสิ่นเยี่ยนฟางกลับมาจากงานเลี้ยงก็จัดการเอาบุตรชายทั้งสองนอนเรียบร้อย ส่วนเจ้าตัวน้อยเมิ่งหานเซียงที่งอแงไม่ยอมไปนอนกับพี่ๆแต่แรก กระทั่งเมิ่งเสี่ยวฮวากับเมิ่งเสี่ยวเฟิงเสกของเล่นให้นางจึงตื่นตาตื่นใจยอมนอนด้วยท่านแม่บอกว่าให้ช่วยเลี้ยงน้องสักสามสี่คืน หากลูกๆอยากเกิดไวๆต้องช่วยแม่ เด็กทุกคนจึงช่วยกันเลี้ยงเมิ่งหานเซียงอย่างเต็มใจเสิ่นเยี่ยนฟางจัดการบุตรชายแล้วก็มาจัดการตัวเอง วันนี้นางจะปฏิบัติการพิเศษปั๊มลูกครั้งที่สอง ตั้งแต่สามีกลับมาจากเมืองหลวงได้เกือบเดือน พวกนางยังไม่ได้ปั่มปั๊มกันเลยนางรอเมิ่งหย่งชวนที่กลับจากงานเลี้ยงทีหลัง เสียงประตูห้องเปิดเข้ามาแล้ว แสงตะเกียงหรี่ไม่มากนักทำให้ร่างสูงเห็นเมียตนเองนอนตะแคงอยู่นบเตียง เสิ่นเยี่ยนฟางนอนตะแคงขวา ใช้ข้อศอกเท้าเตียงศีรษะเล็กวางอยู่บนฝ่ามือเอาไว้ นางสวมเพียงตู้โตวสีแดงสดที่ตัดกับผิวที่ขาวราวน้ำนมของนาง ซึ่งเป็นสีที่เมิ่งหย่งชวนโปรดปราณเป็นพิเศษยามเมื่อนางสวมใส่มันมีผ้าห่มแพรสีชมพูหวานคลุมสะโพกงามเอาไว้ สองเต้าอวบอัดดันเบียดจนล้นออกมาข้างๆ ตู้โตวผืนน้อยมิอาจปิดบังได้หมด เนื่องจากนางคลอดบุตรแล้วเรือนร่างงามจึงอวบอัดเย้า
เสิ่นเยี่ยนฟางจัดการสุราทิพย์ที่นางบรรจงกลั่นเองเรียบร้อยก็เลื่อนตัวขึ้นมาหาเขา นิ้วชี้เช็ดมุมมปากที่มีคราบสีขาวติดอยู่ เมิ่งหย่งชวนจับมือนางมาก่อนจะไล้เลียปลายนิ้วจนคนตัวเล็กเสียวซ่าน เพียงแค่เขาอมนิ้วเรียวของนางมาดูดเลียก็ทำเอานางสะท้านได้ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงรัญจวนกลับไป"อ๊า..ท่านอ๋อง สุรากลั่นรสดียิ่งนักเพคะ ถึงจะขมไปหน่อยก็เถอะ"หึๆ เมิ่งหย่งชวนหัวเราะในลำคอ จากนั้นก็พลิงนางไว้ใต้ร่าง จูบนางจนพอใจ เขาเลื่อนมาคลุกเคล้าเต้างามดูดดื่มขบเม้มอย่างหมันเขี้ยว เสิ่นเยี่ยนฟางเริ่มประท้วง"ทรงดื่มหนักเพียงนี้หากลูกตื่นมาจะกินอะไรเล่าเพคะ""พี่กระหายคอแห้งนะคนงาม""ยังมีที่อื่นให้ดื่มแก้กระหายมิใช่หรือเพคะ"เมิ่งหย่งชวนเลื่อนตัวมาหาขบเม้มติ่งหูนางเบาๆกระซิบข้างหูดุนางไม่จริงจังนัก"เสี่ยวฟาง....แม่ตัวแสบของพี่ ยั่วยวนขนาดนี้เตรียมใจหรือยัง""ทรงไปรบตั้งนาน อีกทั้งวันนี้ดื่มหนักมีแรงหรือเพคะ""อ่าห์...แม่ทูนหัว...ดูถูกผัวมิใช่วิสัยเมียที่ดีนะ มาเถอะดูกันว่าใครจะหมดแรงก่อนใคร"คนตัวโตจูบริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มริมฝีปากล่างของนางอย่างเอาคืน จากนั้นก็เริ่มประทับตราความเป็นเจ้าของตั้งแต่ลำคอระหง
เมื่อถึงมื้อค่ำผู้ใหญ่ก็มีเรื่องคุยกัน หวงหย่งเหนียนเจรจาสู่ขอจางจื่อเหยียนกับจางลี่ให้หวงมู่เหวิน กลับเมืองหลวงแต่งงานทันทีเพราะเด็กทั้งสองนั้นไปไกลแล้ว หากเกิดจางจื่อเหยียนตั้งครรภ์ขึ้นมาก่อนจะไม่ดีจากนั้นซูหยางก็สู่ขอเมิ่งหานเซียงกับเมิ่งหย่วงชวน ส่วนเมิ่งหย่งชวนก็เจรจาสู่ขอหวงเฟยเซียนให้บุตรชายคนโตเช่นกัน ตวนอ๋องเอ่ยกับเมิ่งหย่งชวนว่าเขาจะแต่งงานกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงทำเอาทุกคนอ้าปากค้าง แต่เสิ่นเยี่ยนฟางและเมิ่งหย่งชวนรู้ดีว่าบุตรสาวมีใจให้เสด็จอาสิบสองมานานแล้ว ในเมื่อเป็นความสุขของบุตรสาวทั้งคู่จึงส่งเสริม สรุปทุกคู่หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้วจะแต่งงานกันในอีกครึ่งเดือนเจ็ดเดือนต่อมาเสิ่นเยี่ยนฟางก็คลอดฝาแฝดชายหญิงให้เมิ่งหย่งชวนอีกหนึ่งคู่ ตอนนี้นางกำลังอยู่เดือน บุตรชายและบุตรสาวแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เมิ่งเสี่ยวเถาที่ตอนนี้กลายเป็นพระชายารัชทายาท คนอื่นๆ ก็เป็นฮูหยินน้อยของจวนต่างๆเมิ่งหานเซียงตั้งครรภ์คนแรก หากไม่นับจางจื่อเหยียนที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานไปแล้ว จากนั้นก็ตามด้วยโจวจื่อหราน ส่วนที่เหลือสามียังคงตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติภารกิจปั๊มบุตรอย่างไม่ย่อท้อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในที่
เมิ่งเสี่ยวเถาลืมตาขึ้นมา นางฝันอะไรเนี่ยถึงนางจะชอบจ้าวตงหยางแต่ไม่ควรเก็บเขามาฝันลามกเช่นนี้ได้นะ เขาเรียกนางมหาเทวี ส่วนนางก็เรียกเขาว่าท่านตาเจ้าที่ นี่มันเรื่องอะไรกัน อีกทั้งเขากับนางยังเข้าหอกันในศาลเจ้า นี่มันบ้าไปแล้วหรือนอกจากเมิ่งเสี่ยวเถาจะฝันประหลาดจ้าวตงหยางก็ไม่ต่างกัน เขาฝันเช่นเดียวกับนาง ในความฝันนางช่างหอมหวานยิ่งนัก นึกถึงวันที่ได้ชิมความหวานจากนางเมืองหลายวันก่อนยังตราตรึง อีกทั้งในฝันเสมือนจริงเหลือเกิน หากเขาแหวกม่านประเพณีเข้าหอกับนางก่อนได้ก็คงดีนางจะเป็นพระชายาและจะเป็นแม่ของแผ่นดินคนต่อไป คืนวันแต่งงานหากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่ได้นางจะใช้ชีวิตที่เหลือลำบาก เขาจึงจำต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แต่ในความฝันนางช่างน่าทะนุถนอมเหลือเกิน เขาไม่เข้าใจเหตุใดฝันเช่นนั้นได้แต่ละเมอออกมาไม่รู้ตัว"เทวีของข้า เสี่ยวเถาเด็กดีข้าคิดถึงเจ้าคนงาม"หลังจากมาถึงฮวาป๋ายทุกคนก็พักผ่อนกันเต็มที่ กระทั่งยามซื่อทุกคนก็มารวมตัวกันไปบ้านท่านปู่ทวด เด็กๆให้สาวใช้และบ่าวในจวนขนของขวัญมากมายไปที่บ้านท่านอาหญิง จางจื่อเหยียนจูงมือเหลนเขยไปเยี่ยมท่านตาทวดของนางอย่างอารมณ์ดีเมิ่งซุนที่กำ
หลายเหตุการณ์ผ่านไปถึงเวลาที่ทั้งหมดต้องเดินทางกลับฮวาป๋าย รุ่งสางทุกคนก็เตรียมตัวที่จะออกเดินทาง จ้าวตงหยางพาเมิ่งเสี่ยวเถาขี่ม้าไปด้วยกัน จ้าวไห่เฉิงกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงก็ขี่ม้าไปล่วงหน้าแล้ว นางชอบขี่ม้าที่สุด เสด็จอาสิบสองจึงตามใจนางบรรดาสตรีที่เหลือนั่งรถม้าสามคัน จากเมืองลั่วเหอไปฮวาป๋ายใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้น แต่เด็กๆจะแวะไปเมืองเหลยเพื่อเยี่ยมท่านย่าลู่ซินก่อน เดินทางมาได้หนึ่งวันก็ถึงเมืองเหลย ทั้งหมดเข้าที่พักที่ท่านอาเขยเตรียมไว้ให้ หวังจิ่วมารับเด็กๆและอารักขาด้วยตนเอง หวังซูหรานก็ตามบิดามาด้วย นางคิดถึงพี่ๆมากนัก หวังซูหนีว์เห็นหน้าน้องสาวก็รีบทักทาย"ซูหราน เจ้ามาแล้ว""พี่หญิง ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย"คนที่เหลือเปิดม่านออกมาก่อนจะส่งเสียงทักทาย หวังซูหรานควบม้ามาใกล้ๆก่อนจะขี่ม้าขนาบข้างแล้วคุยไปด้วย หวังจิ่วต้องรีบกลับเพราะตอนมานั้นเขามาคนเดียว ใครจะรู้เจ้าตัวดีแอบตามมาด้วย หากกลับไปเมียจัดการเขาแน่นอนกระทั่งถึงที่พักเรียบร้อยก็เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว จากนั้นทั้งหมดก็เข้าที่พัก เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยก็พากันมากินมื้อเย็น ต่า
จางจื่อเหยียนยอมรับสัมผัสจากหวงมู่เหวิน นางลืมไปแล้วว่านางกำลังโกรธเขา ลืมไปแล้วว่าเขามาเพื่อให้นางยกโทษให้ กระทั่งผิวกายต้องอากาศเย็นนางจึงรับรู้ว่าอาภรณ์ถูกเขาปลดออกแล้ว แผ่นหลังแตะที่นอนโดยมีร่างไร้อาภรณ์ของคนตัวโตทาบทับเกยนางเอาไว้ ดอกบัวตูมเบ่งบานชูช่อ ปลายถันแข็งชันล่อลวงให้คนด้านบนตกอยู่ในมนต์เสน่หา หวงมู่เหวินสบตากับนางจางจื่อเหยียนไม่กล้าสบตาเขาเอ่ยตะกุกตะกัก"คุณชายรอง""เรียกพี่มู่เหวินเหมือนเดิมได้หรือไม่ จื่อเหยียนของพี่ เจ้างามนัก"จางจื่อเหยียนผวา ร่างงามถูกเขานวดเฟ้น ปากหยักครอบครองความหวานตรงหน้า ดรุณีน้อยยกแขนคู่เรียวโอบรั้งท้ายทอยหนาแอ่นอกงามให้เขาเชยชม ใจนางมีเขาอยู่จึงไม่ไตร่ตรองในสิ่งที่กำลังทำ แค่คืนนี้เท่านั้น แค่ครั้งนี้ขอให้นางได้เป็นผู้หญิงของเขา หลังจากคืนนี้ไปนางจะออกจากหนานเป่ยไปใช้ชีวิตที่อื่น"อื้อ พี่มู่เหวิน อาเหยียน สะเสียว""อืม หวานเจ้าหวานมากอาเหยียน"ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนต่ำลงไปหาดอกไม้บอบบางก่อนเริ่มสำรวจน้ำหวาน ไม่นานคนใต้ร่างก็กระตุกเกร็ง นางแตะสวรรค์จนต้องกลั้นเสียงครางเอาไว้ เกรงว่าจะเล็ดลอดออกไป หวงมู่เหว
จางจื่อเหยียนนอนละเมอทั้งคืน หวงมู่เหวินนั่งเฝ้าอยู่ด้านนอก เขารู้สึกผิดเขาเพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเขารักนาง หากว่าวันนี้ไม่เกือบเสียนางไปเขาก็คงไม่รู้หัวใจตัวเองและเป็นเขาเองที่เกือบทำนางหายไป เมิ่งเสี่ยวหว่านออกมาจากห้องเห็นบุตรชายคนรองของมหาราชครูก็ถอนหายใจคนหนึ่งก็พยายามหนีหัวใจตัวเอง อีกคนก็ปากแข็งจนก่อเรื่องร้ายแรง จางลี่ออกมาจากห้องบุตรสาวเห็นคนก่อเรื่องนั่งคุกเข่าอยู่หน้าห้องก็ประคองฮูหยินของตนเดินมาหา "คุณชายรอง....ท่านไปพักก่อนเถอะอาเหยียนนางยังมีไข้และเพ้อเป็นบางครั้ง รอนางดีขึ้นท่านค่อยมาดีกว่า""ท่านอาจาง..ข้าสำนึกผิดแล้วข้าอยากเข้าไปหานาง ท่านอาท่านอนุญาตเถอะขอรับ""คุณชายรอง..มีใช่ว่าพวกเรากีดกันท่าน แต่ให้เวลานางสักหน่อย บุตรสาวข้านางเพิ่งเสียขวัญ อีกทั้งเกือบจมน้ำตาย ตอนนี้หากเห็นหน้าท่านนางอาจทรุดหนักกว่าเดิม"จางลี่โกรธมากเรื่องนี้เมิงเสี่ยวหว่านรู้ดี เขารักบุตรสาวคนนี้ที่สุด จางเหิงบุตรชายคนโตที่เป็นผู้สืบสกุล สามีนางยังมิเอ็นดูเท่ากับบุตรสาวเลย แต่อย่างไรเล่า คนที่คุกเขาอยู่ตรงหน้าคือบุตรชายมหาราชครูเชียวนะ เมิ่งเสี่ยวหว่านถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสามีของนาง
ทุกคนปรับความเข้าใจกันหมดแล้ว เหลือเพียงเมิ่งลู่เหลียนกับหานมู่เฉินเท่านั้น ตอนนี้ดรุณีน้อยกำลังโมโหเขาอยู่ หานมู่เฉินที่เดิมทีเคยถูกนางทุบตีประจำมาวันนี้เขากลับตรึงนางเสียอยู่หมัด ยามนี้รน่างงามอยู่ใต้ร่างแกร่งเขากดข้อมือนางเอาไว้ ปล้ำจูบนางอย่าเอาแต่ใจ เมิ่งลู่เหลียนที่ถูกเขาหลอกมาตลอดว่าเขาไร้วรยุทธ ยามนี้นางต่างหากที่ห่างไกลคำว่ายอดฝีมือ"ปล่อยข้านะเจ้าบ้าหานมู่เฉิน ไอ้คนโกหกหลอกลวง เจ้าหลอกข้าหรือ อย่าให้ข้ารอดไปได้นะ บอกให้ปล่อยไง""ปล่อยหรือ นี่เมิ่งลู่เหลียนข้าจะบอกให้นะ ทั้งชีวิตข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่นอน""เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาควบคุมข้า หานมู่เฉินไอ้คนเลว อื้ออออ"เด็กคนนี้ต้องสั่งสอน เขาต้องปราบนางให้ได้ ดื้อด้านนักทุบตีเขาอยู่เรื่อย ถ้าไม่ใช่ว่าเขารักนางคงจับนางฟาดเสียหลายทีแล้ว ทำตัวเกเรยิ่งนัก เมิ่งลู่เหลียนที่กำลังเสียเปรียบเขาอยู่ ก็หาทางออกให้ตัวเอง ทันทีที่เขาถอนจุมพิตออกนางก็เปลี่ยนเป็นไม้อ่อนทันที"พะ พี่มู่เฉิน เหลียนเอ๋อร์เจ็บมือเจ้าค่ะ ปล่อยเหลียนเอ๋อร์ได้ไหมเจ้าคะ""หืม..อ่อนหวานก็เป็น เอาตัวรอดสิท่าแม่ตัวดี""เปล่านะเจ้าคะ เหลียนเอ๋อร
หนุ่มสาวออกเดินทางไปหลังเขา ซึ่งไม่ได้ไกลจากจวนมากนัก เดินเท้าไปใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามเท่านั้น ไม่นานทั้งหมดก็มาถึง จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถาไปด้านหนึ่ง จ้าวไห่เฉิงก็จูงมือเมิ่งเสี่ยวเฟิงไปอีกด้าน ส่วนซูหยางรวบเอวบางของเมิ่งหานเซียงไปนั่งเล่นบนโขดหินริมลำธาร องครักษ์ที่ตามมามีมากกว่าสิบคนต่างก็ดูแลรอบนอกเผื่อมีคนนอกหลงเข้ามาเมิ่งเสี่ยวเย่ากับเมิ่งซีฮวนไปหาไก่ป่า ส่วนหวงมู่เหวินไปเก็บฟืนกับหานมู่เฉิน ทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกัน มารดาเป็นเชื้อพระวงศ์ทั้งคู่ สาวๆที่เหลือต่างก็กวดจับกระต่ายป่า โจวจื่อหรานไม่อยากทำร้ายมันจึงปล่อยไป บรรดาบิดามารดาของเด็กๆเหล่านี้ปวดหัวมากนัก เมื่ออยู่กันครบทีไรสร้างเรื่องใหญ่โตทุกที โจวหยวนปวดหัวแต่ต้องยอมตามใจ เจียงเสี่ยวฮวาเองก็ไม่อยากดุแต่จำต้องเข้มงวดเมื่อได้ไก่ป่ามาแล้วบุรุษก็จัดการ ให้บรรดาสตรีนั่งรอ จางจื่อเหยียนสายตาซุกซนนางมองเห็นดอกไม้สีแดงอยู่ลิบๆ แน่นอนว่าใช่ดอกโสมนางต้องไปเอามันกลับให้ได้ เอาไปขายให้ท่านพ่อคงได้หลายร้อยตำลึง ดรุณีน้อยมีหัวการค้ายิ่งนัก แต่ลูกค้าของนางกลับเป็นบิดาอย่างจางลี่ แล
ปลายยามอิ๋นเมิ่งหานเซียงขยับตัว นางนึกขึ้นได้ว่าข้างๆมีคนนอนด้วยก่อนจะขยับร่างบางเข้าหาซุกใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง กลิ่นกายซูหยางทำเอาสาวน้อยหวั่นไหว นางกับเขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดเวลา เป็นเพราะเขาไม่เคยใส่ใจนางเลย แต่กับคุณหนูคนอื่นๆเขากลับดูแลอย่างดี บางคนถึงกับยอมสอนพวกนางให้ส่วนตัว เมิ่งหานเซียงกลัวเขาจะตื่น แต่ก็รวบรวมความกล้าจุมพิตลูกกระเดือกคนตัวโตเบาๆ ไล่จุมพิตไปจนถึงปลายคาง ก่อนจะจุมพิตที่ริมฝีปากคนนอนหลับซูหยางตื่นนานแล้ว เขาไม่ขยับอยากรู้ว่านางจะทำอะไร คนตัวโตยิ้มในความมืดมือหนาลูบหลังนางเบาๆเป็นสัญญาว่าเขาตื่นแล้ว เมิ่งหานเซียงเขินอาย เขาตื่นตอนไหนนะ นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอู้อี้"ท่านอา..เช้าแล้วมิกลับห้องหรอกหรือเจ้าคะ""อยากนอนกอดเจ้าอีกหน่อยเด็กดีของอา เซียงเอ๋อร์คนงาม อารักเจ้ายิ่งนัก แล้วเจ้าล่ะรักอาบ้างไหม"ดรุณีน้อยมิตอบคำถาม แต่แขนเรียวโอบกอดเอวหนาของคนตัวโตแทนคำตอบทั้งหมด ซูหยางยิ้มในความมืดก่อนจะพลิกร่างบางลงใต้ร่างแกร่ง เขาพูดชิดริมฝีปากอวบอิ่ม"อยากเข้าหอกับเจ้าจัง ได้ไหมหื้ม""ท่านอา..อย่ารุ่มร่ามเข้าหออะไรของท่าน อยากถูกเส
จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถามาทางสวนท้อด้านหลังจวน เจ้าตัวยุ่งของเขาชอบดอกท้อที่สุด เขาแปลกใจเหมือนกันนางร่ายรำใต้ต้นท้อยามใด ดอกท้อพร้อมใจกันบานเต็มไปหมด ดูเหมือนบุตรสาวจวิ้นอ๋องแต่ละคนคงเป็นเทพธิดามากำเนิดเสียกระมัง เมิ่งเสี่ยวฮวาเดินไปทางใดก็มีแต่ดอกไม้เบ่งบาน เมิ่งเสี่ยวเฟิงเพียงแค่โบกมือเบาๆก็ราวกับควบคุมสายลมได้ ดินแดนตะวันออกไม่เคยแห้งแล้ง เมิ่งเสี่ยวเหอเด็กคนนั้นว่ายน้ำเก่งเสียยิ่งกระไร ทะเลสาบกว้างใหญ่ ราวกับนั่นคือบ้านอีกหลังของนาง ชาวประมงที่หากินกับแม่น้ำยังไม่สามารถว่ายไปกลางทะเลสาบได้เมิ่งเสี่ยวเถาที่เดินตามร่างสูงมาก็หน้างอง้ำ นางไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากเจรจากับเขา กระทั่งมาหยุดลงที่ม้านั่งหินใต้ต้นท้อที่ดอกบานสะพรั่งที่สุด จ้าวตงหยางจับให้เมิ่งเสียวเถานั่งลง ส่วนตัวเขานั้นนั่งลงเรียบร้อยก็นอนหนุนตักนางหน้าตาเฉย จนดรุณีน้อยต้องดุเขาเบาๆ"ไท่จื่อ เป็นถึงรัชทายาทเหตุใดไม่สำรวมสักนิดเพคะ อีกอย่างหม่อมฉันหนัก"มือหนาคว้ามือบางเอามากุมไว้แนบอก ก่อนจะหลับตาลงเอ่ยกับนาง"เสี่ยวเถา เหตุใดไม่เรียกพี่ตงหยางเช่นเมื่อก่อน เจ้าห่างเหินหมางเมิ