Share

ผัวเมียการละคร

last update Last Updated: 2024-12-09 19:03:03

เมิ่งหย่งชวนไม่ตอบโต้ คนอย่างเมิ่งอี้ก็แค่สุนัขเฝ้าบ้าน นอกจากเห่าก็ไม่กล้าทำอันใด อีกอย่างเมิ่งอี้ไม่รู้ตัวว่ากำลังจะถูกไล่ออกจากสำนักศึกษาเพราะความประพฤติของตนเอง แต่เมิ่งลู่เจินไม่ยอมให้พี่ชายถูกคนหยามเกียรติจึงกล่าวตอบโต้เมิ่งอี้กลับไป

"เหอะ พี่ใหญ่ข้าแค่ป่วยอีกสามปีก็ไปสอบได้แล้ว ไม่ใช่คนขี้แพ้สักหน่อย เมิ่งอี้เจ้าสอบซิ่วไฉให้ผ่านเสียก่อนค่อยมาคุยโวจะดีกว่า เรียนมาหกปีเพิ่งสอบถงเซิ่งได้ ลู่เจาบุตรชายแม่หม้ายลู่ทิศตะวันตกของหมู่ เพิ่งเรียนได้ไม่ถึงปีอายุเก้าขวบก็สอบผ่านถงเซิ่งแล้ว เจ้าอายุสิบแปดเพิ่งสอบผ่านช่างน่าขายหน้ายิ่งนัก"

"ไอ้สารเลวเมิ่งลู่เจิน อย่าคิดว่าเมิ่งหย่งชวนไอ้คนขี้โรคกลับมาแล้วจะปกป้องเจ้าได้นะ มานี่ข้าจะสั่งสอนเจ้าสองคนพี่น้องให้คลานกลับบ้านเลยทีเดียว"

เมิ่งอี้ย่างสามขุมมาหาสองคนพี่น้องที่เกวียน เมิ่งหย่งชวนทำว่าร้อน สบัดแขนเสื้อเบาๆ เมิ่งอี้ก็ถูกหอบลอยไปกระแทกกับต้นไม้ตกลงมาทันที

เหล่าอันธพาลในหมู่บ้านที่เห็นเช่นนั้นก็ตกใจ เมิ่งอี้ลอยไปกระแทกได้อย่างไร แต่เพื่อเงินสามร้อยอีแปะที่เมิ่งอี้จ้างวานมา

พวกอันธพาลจึงกรูเข้ามาล้อมรถม้าเพื่อจะรุมทำร้ายสองพี่น้อง แต่ยังไม่ทันลงมือ เมิ่งหลงผู้นำหมู่บ้านก็มาทันทีก็มาถึงพอดี ไม้เท้าในมือของเขากระแทกจนพื้นดินแตก

"พวกเจ้ากล้าหรือ?! หึ เมิ่งอี้อาชวนเป็นพี่ชายเจ้าอีกทั้งยังเป็นซิ่วไฉของหมู่บ้าน เจ้าไม่เพียงไม่เคารพพี่ชาย แต่เจ้ากลับเอ่ยวาจาหยาบคาย พาอันธพาลวันๆงานการไม่ทำมาก่อเรื่อง เจ้าเป็นผู้เรียนหนังสือแบบใดกัน การกระทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่คนเรียนหนังสือควรกระทำหรือ"

เมิ่งอี้ที่พยุงตนเองลุกขึ้น อยู่ๆเขาลอยมากระแทกได้อย่างไร หันเป็นทางเมิ่งหย่งชวนเห็นเขากำลังเอาผ้าเช็ดหน้าปิดปากไอหนักๆอยู่

"แค่กๆๆ ท่านปู่หลงอาอี้ยังอายุน้อย อาจเพราะคบเพื่อนไม่ดีเลยทำให้มีนิสัยก้าวร้าวไปบ้างท่านอย่าถือสาเลยขอรับ แค่กๆๆ"

เมิ่งอี้คิดว่าเขาเสแสร้งจึงตวาดเมิ่งหย่งชวนกลับไป

"หึ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดจาดี ไอ้ขี้โรคเจ้าทำร้ายข้าท่านปู่หลงท่านต้องจัดการให้ข้านะขอรับ ดูเหมือนแขนข้าจะหัก"

"เจ้านี่มัน หึเจ้ามันเกินเยียวยาแล้วเมิ่งอี้ เจ้าบอกว่าอาชวนทำร้ายเจ้าหรือ เขาไอจนแทบเอาตัวเองยังจะไม่ไหว จะเอาแรงที่ไหนมาจับเจ้าเหวี่ยงกันเล่า"

เมิ่งอี้ทำท่าจะเดินเข้าไปหา แต่อยู่ๆก็ลอยหวือไปกระแทกอีกรอบ เสียงกังวาลไพเราะดังขึ้นท่ามกลางความตะลึงของชาวบ้าน

"เจ้าคิดว่าสามีข้าเป็นอะไร อยากรังแกเขาใครให้ความกล้านั้น เมิ่งอี้กลับไปหยอดน้ำหยอดยาคนบ้านเจ้าซะ อย่าให้ข้าต้องลงมืออีกรอบ อ้อ อันธพาลอย่างพวกเจ้าใช่ไหมที่จะทำร้ายสามีข้า มาๆ เริ่มจากใครก่อนดี"

ในมือเสิ่นเยี่ยนฟางถือท่อนไม้ขนาดใหญ่เท่าแขนเด็กห้าขวบฟาดสะเปะสะปะไปมาไม่รู้ทิศทาง จนคนเหล่านั้นถอยร่นคนละทิศละทาง ท่อนไม้ใหญ่เพียงนี้หากถูกฟาดรับรองว่าต่อให้ไม่ตายก็คงมีนอนติดเตียงไปหลายเดือน

อันธพาลที่รับเงินเมิ่งอี้มาจึงถอยหลัง คนเหล่านี้เห็นนางลงมือกับบ้านใหญ่เมื่อเช้าแล้วนางน่ากล้วนัก จากนั้นก็พากันวิ่งหนีหายไปหมด เมิ่งอี้เจ็บใจแต่ทำอะไรไม่ได้ จึงค่อยๆพยุงตัวเองกลับบ้าน

เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นทุกคนไปแล้ว แต่ชาวบ้านที่เหลือมองมายังนาง เสิ่นเยี่ยนฟางจึงเดินมานั่งที่เกวียนซบไหล่เมิ่งหย่งชวน เอามือลูบหน้าอกตนเองทำท่าโล่งอก

"โอยท่านพี่ ดีที่พวกมันวิ่งหนีไป ข้าหัวใจจะวาย หากพวกมันอยากทำร้านพวกเราจะทำเช่นไรกัน ช่างน่ากลัวจริงๆเลย แล้วท่านกับอาเจินพวกท่านบาดเจ็บหรือไม่ ไม่ได้ถูกพวกเขาทำอะไรนะเจ้าคะ"

เมิ่งหย่งชวนรู้ดีว่าภรรยากำลังเล่นละครนางไม่ได้กลัวคนเหล่านั้นจริงๆ เรื่องที่นางทุบตีคนบ้านใหญ่เขารู้แล้ว สตรีคนนี้น่าค้นหายิ่งนัก ภายนอกนางดูอ่อนหวานแต่ก็เวลาดื้อคงปราบไม่ง่ายเท่าไหร่ ก่อนจะเอ่ยปากถามว่านางมาทำอะไรที่นี่

" ภรรยา เจ้ามาทำอะไรหรือ ไหนบอกว่าให้ข้ากับอาเจินมาซื้อโม่หินไง แล้วเหตุใดต้องมาถูกลมเจ้าไม่สบายมีไข้อยู่นะ"

"ท่านหมอจ้าวบอกว่าต่อให้ยาดีเพียงใดแต่หากไม่มีอาหารดีๆบำรุงก็ไร้ผล ที่ผ่านมาข้าวสารเอย เงินที่ทางการจ่ายให้ท่านในตำแหน่งซิ่วไฉก็ถูกบ้านใหญ่ยึดไปหมด"

"ตั้งแต่กลับมาจากเมืองหลวงก็ถูกพวกเขากลั่นแกล้งไม่เคยได้กินอิ่มสักมื้อ ร่างกายขาดสารอาหารยาที่กินเข้าไปจะดูดซึมอย่างไรเจ้าคะ ข้าก็เลยจะไปซื้อไข่ไก่มาบำรุงท่านสักหน่อย"

เสิ่นเยี่ยนฟางจงใจเอ่ยกับเมิ่งหย่งชวนเท่านั้น แต่ว่าวาจานางแต่ละคำทำให้เห็นว่าที่เมิ่งหย่งชวนป่วยเรื้อรังเช่นนี้เป็นเพราะพ่อเฒ่าเมิ่งกับแม่เฒ่าไม่ดูแลเขา แต่กับยึดเอาเงินที่ได้รับจากทางการองเขามาใช้สอย ข้าวสารที่ได้จากทางการเดือนละสิบชั่งไม่เคยได้กินสักเม็ด นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว เด็กสองคนนี่มิใช่ลูกหลานหรอกหรือ ชาวบ้านต่างเห็นใจผัวเมียคู่นี้จริงๆ

"เมิ่งซิ่วไฉ ที่บ้านข้ามีไข่ไก่เดี๋ยวจะให้บุตรชายเอาไปให้นะ"

"ที่บ้านข้าก็มีผักกาดอยู่ แม้จะไม่สวยเท่าไหร่แต่ก็ยังมีผักให้กินเดี๋ยวจะฝากบุตรชายป้าสี่เอาไปให้เจ้าเช่นกัน"

ชาวบ้านต่างเอ่ยปากให้เสบียงพวกเขา เมิ่วหย่งขวนกล่าวขอบคุณ วันนี้เสิ่นเยี่ยนฟางซื้อของมามากมายแล้วจึงไม่อยากให้ชาวบ้านที่ลำบากอยู่แล้วต้องมาลำบากเพิ่มอีก

"ขอบพระคุณขอรับ แต่ว่าอย่าเลยพวกท่านก็ต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเช่นกัน"

" แล้วนี่พวกเจ้าสองพี่น้องจะไปที่ใดกันหรือ"

เมิ่งหลงเอ่ยถามเมื่อหย่งชวน ที่กำลังไปทิศใต้ของหมู่บ้าน

"เอ่อ คือว่าข้าจะไปซื้อโม่หินขอรับ ภรรยาของข้านางอยากได้โม่หินน่ะขอรับ"

"หืม เจ้าจะซื้อโม่หินหรือ ราคาแพงอยู่มากนักเห็นว่าอันนึงก็สิบสองตำลึงแล้ว จะเอาไปทำอะไรหรือภรรยาอาชวน เหตุใดไม่ยืมที่ลานหมู่บ้านไปใช้ก่อนเล่า"

"พอดีมีเรื่องต้องใช้บ่อยๆเจ้าค่ะ ไม่อาจแย่งชาวบ้านได้ ว่าแต่ท่านปู่รู้จักถั่วงอกกับเต้าหู้หรือไม่เจ้าคะ"

"อืม ถั่วงอกกับเต้าหู้หรือ ไม่รู้จักหรอกว่าแต่มันคือสิ่งใด เอาไว้ทำอันใดหรือ"

เสิ่นยี่ยนฟางยิ้มหวานเลยเชียว แม้เต้าหู้กับถั่วงอกวิธีทำจะไม่ได้ยุ่งยาก แต่ตราบใดที่ไม่มีคนรู้จักก็ขอใช้พวกมันหาเงินก่อนแล้วกัน

"เอ่อเป็นอาหารอย่างหนึ่งเจ้าค่ะ แค่กๆๆ อืมดูเหมือนข้าจะมีไข้จริงๆ ขอตัวไปซื้อไข่ให้ท่านพี่บำรุงก่อนนะเจ้าคะแค่ก"

เสิ่นเยี่ยนฟางกำลังจะไป เมิ่งหย่งชวนก็รั้งเอวนางไว้ มือเรียวสวยราวกับสตรีแตะที่หน้าผากของนาง ตัวร้อนจริงๆแล้วยังออกมาถูกลมอีก เด็กดื้อ ก่อนจะพูดอ่อนหวานจนชาวบานที่เป็นสตรียังมิออกเรือนถึงกับเขินอายหน้าแดง

"เมียจ๋าเจ้าตัวร้อนแล้ว กลับบ้านก่อนเถอะ โม่หินเดี๋ยวข้าให้ท่านลุงหกมาส่งที่บ้านก็ได้ ไข่ไก่ก็ไม่ต้องแล้ว เจ้าหายก่อนค่อยว่ากันกลับกันเถอะลมแรงแล้ว"

"เอาเข่นนี้ถอะ นี่อาชวนเดี๋ยวตามปูไปที่บ้านเอาข้าวสารกับไข่ไก่ไปกินเถอะ รีบกลับบ้านไปก่อน นางดูเหมือนว่าจะเป็นไข้ อย่าให้ถูกลมแรงๆ"

เมิ่งหย่งชวนกล่าวขอบคุณ จากนั้นก็เอ่ยลาชาวบ้านกับท่านปู่หลง เสิ่นเยี่ยนฟางเริ่มมึนหัวเหมือนจะมีไข้จริงๆ ขอบตาร้อนๆน้ำตาคลอตลอดเวลาอาการเดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อนเสียแล้ว

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   หวานเพียงนี้เอาอันใดมาขมกัน

    อาหารเย็นนางซื้อมาแล้วจึงไม่จำเป็นต้องทำ แต่นางอยากได้ไข่ไก่มานวดกับแป้งเพื่อทำบะหมี่ไข่พรุ่งนี้ แต่ตอนนี้เสิ่นเยี่ยนฟางนางรู้ตัวว่าฝืนไม่ไหวแล้ว เมื่อเมิ่งหย่งชวนเอ่ยลาทุกคน ก็พานางกลับบ้านทันทีที่ถึงบ้านเสิ่นเยี่ยนฟางก็เดินโซซัดโซเซไปหาที่นอนทันทีปวดหัวแทบจะระเบิดอยู่แล้ว แผลที่ถูกแทงคงอักเสบแน่ๆไข้จึงขึ้น"เจ้าไหวไหม ตัวร้อนขนาดนี้ป่วยหนักกว่าข้าเสียอีกนะ""อืม ไหวๆอาเจินเอาเกวียนไปคืนท่านปู่หลงแล้วอุ่นอาหารเองนะ พี่สะใภ้ซื้อมาแล้วไม่ต้องทำ ท่านชาวยหาสุรามาให้หน่อยข้าจะล้างแผล คงอักเสบน่ะข้าถึงมีไข้""ได้ เดี๋ยวข้าจัดการให้เจ้าพักผ่อนเถอะ"เมิ่งหย่งชวนเห็นสภาพนางก็สงสารจึงอุ้มนางไปนอนในห้อง เสิ่นเยี่ยนฟางปูที่นอนไว้เรียบร้อยแล้ว เขาวางนางเอาไว้ก่อนจะให้นางนอนพักแล้วตนเองก็ไปต้มยาเมิ่งลู่เจินที่เพิ่งมาถึงจากเอาเกวียนไปคืนก็รับอาสาเฝ้าเตาไฟ เมิ่งหย่งชวนเข้าไปดูคนตัวเล็กเห็นนางนอนสั่นจึงห่มผ้าให้ เสิ่นเยี่ยนฟางหนาวสั่นจนเขาต้องทอดกายลงข้างๆแล้วกอดนางเอาไว้ ไม่นานน้องชายก็เดินมาหาพร้อมชามยาในมือ"พี่ใหญ่ขอรับ ยาของพี่สะใภ้ได้แล้วขอรับ""ขอบใจมากอาเจิน เจ้าอุ่นอาหารแล้วกินก่อนได้เลยนะ

    Last Updated : 2024-12-09
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ท่องเอาไว้เมียป่วยอยู่

    จากนั้นเมิ่งหย่งชวนสวมเสื้อนวมที่นางซื้อให้ ในใจรู้สึกอบอุ่นไม่น้อยแม้ภายนอกนางจะดูก้าวร้าวไปสักนิด แต่รู้จักใส่ใจคนอื่น เมิ่งหย่งชวนเดินออกมาจากรั้วบ้านท้องฟ้ามืดครึ้มมาจริงๆ เขาจะทำเช่นไรหากเดินไปกลับไม่ทันแน่น จึงจำเป็นต้องใช้วิชาตัวเบาที่ไม่อยากจะใช้เท่าไหร่นัก เมิ่งหย่งชวนดีดตัวเองไม่นานก็มาถึงบ้านของเมิ่งหลง ประตูบ้านปิดแล้วเนื่องจากลมแรงเพราะพายุกำลังมา เมิ่งหย่งชวนร้องเรียกคนด้านใน"ท่านปู่หลงท่านอยู่หรือไม่ขอรับ ข้าน้อยเองอาชวนขอรับ""ใครน่ะ อ้าวๆอาชวนหรือฝนจะตกแล้วมีเรื่องอะไรหรือ เจ้าป่วยอยู่มาถูกลมเช่นนี้ไม่ดีเท่าไหร่""ท่านปู่ ข้าขอซื้อสุราสักหน่อยขอรับ สักสามไห""เจ้าป่วยอยู่จะดื่มได้อย่างไรกันอาชวน""ข้ามิได้ดื่มขอรับ แต่จะเอาไปล้างแผลให้เสี่ยวฟาง แผลนางอักเสบขอรับ อีกอย่างนางตัวร้อนนักเห็นท่านหมอบอกว่าสุราสามารเช็ดตัวช่วยให้ไข้ลดลงได้ขอรับ""ถ้าเป็นเช่นนั้นเจ้ารอข้าสักครู่เอาสามไหใช่หรือไม่"เมิ่งหลงเดินเข้าไปในบ้านหยิบสุรามาสามไหจากนั้นก็ส่งให้เมิ่งหย่งชวน"ได้แล้ว ไหละแปดสิบอีแปะ สามไหเป็นเงินสองร้อยสี่สิบอีแปะข้าคิดเจ้าแค่สองร้อยอีแปะเท่านั้นรีบกลับเถอะฝนจะลงเม็ดแล

    Last Updated : 2024-12-09
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   เมิ่งหย่งชวนผู้อบอุ่น1

    เมิ่งหย่งชวนใส่เสื้อผ้าให้นางกลับตามเดิมก่อนจะไปอุ่นยาให้นางอีกครั้ง จากนั้นเขาก็มาปลุกคนตัวเล็กลุกขึ้นมากินยาอีกครั้ง"เสี่ยวฟาง ลุกเถอะมากินยาได้แล้ว เด็กดื้อหรือว่าเจ้าอยากให้ข้าป้อนอีกหื้ม""อืม ปวดหัวไม่กินได้ไหมขอนอนก่อนนะ อื้อ อึกๆๆ"เมิ่งหย่งชวนรู้ว่านางไม่ยอมกินแน่ๆจึงป้อนยาให้นางด้วยปากเขาอีกตามเคย กระทั่งยาหมดชาม เสิ่นเยี่ยนฟางงึมงำต่อว่าเขา"ฮือๆๆ คนใจร้ายข้าไม่อยากกินมันขมนี่ ฮือๆๆ เมิ่งหย่งชวนคนนิสัยไม่ดี""อย่างอแง เดี๋ยวก็หายขมแล้วนะข้ามีน้ำผึ้งให้ด้วย"เขาลังเลที่จะให้นางกินเองหรือว่าจะป้อนแบบเมื่อกี้ดี ในที่สุดเขาก็เลือกป้อนนางจากปากตัวเอง ครั้งนี้เขาจูบนางเนิ่นนานจนคนตัวเล็กประท้วงเพราะหายใจไม่ทันเมิ่งหย่งชวนทอดกายลงนอนเคียงข้างกอดนางเอาไว้กระซิบข้างหู"อากาศหนาวข้ากอดเจ้านะคนดี เจ้าเป็นไข้ต้องอบอุ่นไว้ อย่าดื้อนะเสี่ยวฟาง"เสิ่นเยี่ยนฟางหลับไปแล้วเพราะฤทธิ์ยา บวกกับพิษไข้ แต่คนตัวโตกับนอนไม่หลับ ร่างนุ่มนิ่มทำเขาไม่สามารถข่มตาได้"เด็กดื้อ อย่าโทษข้านะเจ้าเย้ายวนน่ารักเกินไป ข้าไม่ล่วงเกินหรอกขอแค่ชื่นใจเองนิดหน่อยนะ"เมิ่งหย่งชวนจี้จุดหลับให้นาง ก่อนจะจุมพิตเบาๆ

    Last Updated : 2024-12-09
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   เมิ่งหย่งชวนผู้อบอุ่น2

    ด้านนอกเมิ่งลู่เจินต้มน้ำตาลทรายแดงเสร็จแล้ว กำลังจะยกมาให้พี่สะใภ้ แต่เมิ่งหย่งชวนบอกว่าเขาจะจัดการเอง ให้น้องชายต้มข้าวต้มเดี๋ยวเขาออกมาช่วย เมื่อวานเสิ่นเยี่ยนฟางซื้อเนื้อหมูมาอีกทั้งปู่ใหญ่ให้ไข่ไก่มาจึงต้มข้าวต้มหมูกับไข่ต้มคนละฟองเสิ่นเยี่ยนฟางเปลี่ยนผ้าเรียบร้อยแล้วก็คลานขึ้นเตียงนอนต่อ ยุคโบราณไม่มีอะไรบรรเทาได้เลย มิน่าที่เขาว่าสตรียุคโบราณหากมีระดูจะไม่ออกจากบ้านกัน ปวดท้องจะตายอยู่แล้ว เมิ่งหย่งชวนเข้ามาหาพร้อมถ้วยน้ำตาลรายแดงต้ม ก่อนจะเรียกนางให้ลุกขึ้นมาดื่ม"เสี่ยวฟางลุกมาดื่มน้ำตาลทรายแดงต้มสักหน่อยเถอะจะได้ดีขึ้น มาข้าจะช่วยให้เจ้าอุ่นท้อง"เสิ่นเยี่ยนฟางค่อยๆลุกแล้วรับชามมาดื่ม เมิ่งลู่เจินเข้ามาถามว่าจะให้ยกข้าวมาข้าในหรือไม่"พี่สะใภ้ท่านให้ข้ายกข้าวต้มมาให้ท่านข้างในดีหรือไม่ขอรับ""เดี๋ยวข้าออกไปกินเองก็ได้อย่าลำบากเลย""อาเจินหากทำเสร็จแล้วกินก่อนเถอะ เดี๋ยวของพี่สะใภ้เจ้าพี่จะจัดการเอง""อ้อขอรับ เอ่อ ว่าแต่พี่สะใภ้ขอรับ คอท่านไปโดนอะไรกัดมาหรือขอรับ ทำไมแดงเป็นจุดๆเช่นนั้นเล่าขอรับ"เสิ่นเยี่ยนฟางทำสีหน้างงๆ ก่อนจะหันไปคว้ากระจกทองเหลืองมาส่องดูก็เห็นที่คอกับเ

    Last Updated : 2024-12-09
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ข้าอยากทำการค้า

    เสิ่นเยี่ยนฟางกอดเด็กน้อยเอาไว้ปลอบใจพักใหญ่ ก่อนจะดันบ่าเล็กออกแล้วมองหน้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น"นี่เด็กดี เขาบอกว่าพี่ชายคนโตก็เปรียบเหมือนบิดา พี่สะใภ้ก็เปรียบเหมือนมารดางั้นจากนี้ไปให้พี่สะใภ้เป็นท่านแม่ให้เจ้าดีหรือไม่ อีกหน่อยพอพี่สะใภ้กับพี่ชายเจ้ามีเจ้าตัวน้อยเจ้าก็ได้เป็นท่านอา แต่ตอนนี้ต้องเข้มแข็งห้ามทำตัวอ่อนแอ พี่ใหญ่เจ้าป่วยอยู่อย่าทำให้เขาเป็นห่วง เขารักเจ้ามากนะ""ข้ารู้ข้าเข้าใจขอรับ ว่าแต่ท่านแม่เหตุใดต้องทิ้งข้ากับท่านพ่อไป ข้าไม่เข้าใจ""อาเจิน ผู้ใหญ่อาจมีเหตุผลที่ไม่สามารถพูดหรือบอกออกมาได้ เจ้าโตขึ้นพยายามทำทุกอย่างให้รอบคอบ เวลาทำสิ่งใดใช้สติให้มากๆ เรื่องของผุ้ใหญ่อย่าไปคิดแทนพวกเขาเลย มานี่พี่จะสอนสานลายแปลกๆ พี่สานได้นะแต่อาจช้าสักหน่อย เดี๋ยวพี่จะค่อยๆบอกเจ้านะ"ทั้งสองคนช่วยกันสานตะกร้า เมิ่งหย่งชวนมานานแล้ว เขาได้ยินทุกคำพุดของนาง นางอ่อนโยนกับน้องชายเขายิ่งนัก ช่างเป็นสตรีอบอุ่นเหลือเกิน แต่กับเขาแทบจะฆ่าให้ตายแต่เมื่อกี้นางบอกว่าจะมีเจ้าตัวเล็กกับเขาให้อาเจินเลี้ยง ถึงเขาจะรู้ว่าเป็นคำพูดปลอบใจน้องชายเขาแแล้วอย่างไร เขาถือว่านั่นเป็นคำสัญญาแล้วกัน ต้อ

    Last Updated : 2024-12-09
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   เรื่องในอดีตของสองพี่น้อง

    เสิ่นเยี่ยนฟางเอ่ยเสียงอุบอิบก่อนจะนอนหันหลังให้เขา หน้าแดงไปหมดตาบ้านี่ลามก หื่นกามน่าดูระวังให้ดีข้าจะควักลูกตาให้ เมิ่งหย่งชวนหัวเราะคนตัวเล็กที่อาศัยความเงียบต่อต้านเขา แต่ก็ยังไม่วายห่วงใยอาการป่วยของเขา ก่อนจะห่มผ้าให้นางอย่าเบามือ ก้มลงหอมแก้มจึงออกจากห้องเมิ่งหย่งชวนเดินไปคว้าตะกร้าเพื่อจะไปจับปลา เมิ่งลู่เจินมองหน้าเขา เมิ่งหย่งชวนจำเป็นต้องอธิบาย"พี่ไม่ได้ทะเลาะกับนางแค่ดุนางนิดหน่อย หากถูกน้ำเย็นนางจะป่วยอีก""แต่พี่ใหญ่ท่านเองก็ป่วยอยู่นะขอรับ""ไม่เป็นไร พี่จับได้โดยที่ไม่ต้องลงน้ำ อาเจินไม่ต้องสานแล้วพอเถอะมือแตกแล้ว""พี่สะใภ้สอนลายใหม่ให้ มันสวยดีข้าว่าต้องขายดีแน่ๆ พี่ใหญ่ข้าจะหาเงินให้ท่านกลับไปเรียน ท่านรอสักนิดนะขอรับ"เมิ่งหย่งชวนลูบศีรษะน้องชาย เขาไม่ต้องการเป็นขุนนางจอมปลอมเหมือนคนพวกนั่น และที่สำคัญเขาก็ไม่ไร้หนทางเสียทีเดียว อีกสามเดือนต้องเดินทาง มีเสิ่นเยียนฟางมาอยู่เป็นเพื่อนน้องชายเขาก็สบายใจหน่อยดูแล้วนางเป็นสตรีที่ดีพอควร แม้จะอยู่ด้วยกันเป็นวันที่สี่แต่เขาดูออก นางไม่ใช่คนเหลวไหล ติดแค่เถียงคำไม่ตกฟากเท่านั้นละเมิ่งหย่งชวนใช้ตะกร้าชอนปลาแต่พวกมันว่

    Last Updated : 2024-12-09
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ใครเขาละเมอแบบท่านกัน

    เมิ่งหย่งชวนถือถ้วยยาเข้าไปในห้องให้เสิ่นเยี่ยนฟางสองถ้วยๆนึงเป็นยาแก้ไข้หวัด ส่วนอีกถ้วยเป็นยาสำหรับสตรีมีประจำเดือนที่เขาไปหาท่านหมอจ้าวมาเมื่อตอนสายๆที่นางหลับเพื่อไปซื้อยาเสิ่นเยี่ยนฟางมองถ้วยยาก็เอามือปิดปากแน่นหันหน้าหนีทันที นางไม่กินไม่มีทางกินมันอีกแน่ๆ มิหนำซ้ำยังมีเพิ่มมาอีกถ้วยด้วยจึงส่งเสียงออดอ้อนแสนหวานให้คนตัวสูงใจอ่อน"ท่านพี่ ข้าไม่กินได้ไหมแล้วเหตุใดมีมาเพิ่มอีกถ้วยเล่าเจ้าคะ"เมิ่งหย่งชวนอมยิ้ม พูดจาอ่อนหวานน่ารักเสียด้วย เวลาอยากเอาตัวรอดนี่ช่างน่ารักเสียจริงๆแม่ลูกกวางน้อย เสิ่นเยี่ยนฟางที่แท้เจ้ากลัวการกินยานี่เอง"ยาถ้วยนี้เป็นยาแก้ไข้หวัด ท่านหมอจ้าวบอกว่าต้องกินให้หมดห้าเทียบ ส่วนอีกถ้วยเป็นยาสตรี ข้าไปหาท่านหมอมาบอกเขาว่าเจ้าปวดท้องเขาจึงจัดมาให้อีกห้าเทียบ กินดีๆอย่าดื้อ""เมิ่งหย่งชวนตาบ้านี่ แค่ยาแก้หวัดก็ขมจะตายแล้วใครให้เจ้าไปเพิ่มยาให้ข้า ออกไปเลยนะไม่กินแล้ว""เจ้าก็รู้ว่าข้ามีวิธีให้เจ้ากินยา เสิ่นเยี่ยนฟางเจ้าถ้าชอบให้ข้าจูบเจ้าก็ไม่บอกดีๆ เหตุใดสร้างปัญหามากมายนัก มาข้าป้อนก็ได้""อย่ามาโรคจิตนะ อื้ม"เมิ่งหย่งชวนรั้งนางเอาไว้กรอกยาลงไปแต่นางไม่ยอ

    Last Updated : 2024-12-12
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   บัณฑิตที่ยอมขายศักดิ์ศรีจะเรียกบัณฑิตได้เช่นไร

    ท่านไม่คู่ควรเอ่ยถึงบิดาข้าสิบเดือนก่อนหน้าเมิ่งหย่งชวนกำลังอ่านตำราในที่พักของบัณฑิตเนื่องจากอีกสามวันจะเป็นวันเข้าสอบจริง สองวันก่อนหน้าเขาได้ทำการสอนให้เหล่าบัณฑิตด้วยกันจนหนึ่งในคนที่ร่วมสอบปีนี้เกิดริษยา ตกดึกก็มีคนมาเคาะประตูห้องพอเขาเปิดออกมาก็พบกับชายชราที่เขาไม่มีวันลืมใบหน้านั้นได้เลยก๊อกๆๆๆเมิ่งหย่งชวนเปิดประตูก็เห็นคนสองคนยืนอยู่ คนหนึ่งเป็นชายวัยกลางคนส่วนอีกคนเป็นชายชรา เมิ่งหย่งชวนถอนหายใจก่อนจะเอ่ยปาก"พวกท่านมีอะไรหรือไม่ขอรับ ข้าน้อยเป็นเพียงบัณฑิตเท่านั้น มิทราบว่าจะให้ช่วยเหลือสิ่งใด""บัณฑิตเมิ่งข้าคือจางฮั่นรองใต้เท้ากรมอาญา และนี่คือใต้เท้าลู่หานอำมาตย์ซ้ายวันนี้มีเรื่องอยากคุยกับเจ้า จะเชิญข้าเข้าไปได้หรือไม่""อ้อใต้เท้าทั้งสองเชิญขอรับ"สามคนเข้ามาในห้อง ลู่หานใช้สีหน้าดูถูกเขา แม้แต่เก้าอี้ยังเขาไม่อยากนั่ง ช่างต่ำต้อยเสียจริงๆ"บัณฑิตเมิ่ง ข้ามีน้องชายคนนึงแม้ว่าเรื่องนี้ไม่ควรเอ่ยปาก แต่ข้าอยากให้เจ้าไม่ลงสอบในอีกสามวันข้างหน้าได้หรือไม่""ใต้เท้าจางเอ่ยสิ่งใดกันข้าน้อยไม่เข้าใจขอรับ ข้าเดินทางมาไกลหวังการสอบครั้งนี้มากนักก็เพื่อครอบครัวของข้า หากไม่สอบ

    Last Updated : 2024-12-12

Latest chapter

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตอนพิเศษ-15-ชีวิตครอบครัวมีความสุข

    เมื่อถึงมื้อค่ำผู้ใหญ่ก็มีเรื่องคุยกัน หวงหย่งเหนียนเจรจาสู่ขอจางจื่อเหยียนกับจางลี่ให้หวงมู่เหวิน กลับเมืองหลวงแต่งงานทันทีเพราะเด็กทั้งสองนั้นไปไกลแล้ว หากเกิดจางจื่อเหยียนตั้งครรภ์ขึ้นมาก่อนจะไม่ดีจากนั้นซูหยางก็สู่ขอเมิ่งหานเซียงกับเมิ่งหย่วงชวน ส่วนเมิ่งหย่งชวนก็เจรจาสู่ขอหวงเฟยเซียนให้บุตรชายคนโตเช่นกัน ตวนอ๋องเอ่ยกับเมิ่งหย่งชวนว่าเขาจะแต่งงานกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงทำเอาทุกคนอ้าปากค้าง แต่เสิ่นเยี่ยนฟางและเมิ่งหย่งชวนรู้ดีว่าบุตรสาวมีใจให้เสด็จอาสิบสองมานานแล้ว ในเมื่อเป็นความสุขของบุตรสาวทั้งคู่จึงส่งเสริม สรุปทุกคู่หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้วจะแต่งงานกันในอีกครึ่งเดือนเจ็ดเดือนต่อมาเสิ่นเยี่ยนฟางก็คลอดฝาแฝดชายหญิงให้เมิ่งหย่งชวนอีกหนึ่งคู่ ตอนนี้นางกำลังอยู่เดือน บุตรชายและบุตรสาวแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เมิ่งเสี่ยวเถาที่ตอนนี้กลายเป็นพระชายารัชทายาท คนอื่นๆ ก็เป็นฮูหยินน้อยของจวนต่างๆเมิ่งหานเซียงตั้งครรภ์คนแรก หากไม่นับจางจื่อเหยียนที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานไปแล้ว จากนั้นก็ตามด้วยโจวจื่อหราน ส่วนที่เหลือสามียังคงตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติภารกิจปั๊มบุตรอย่างไม่ย่อท้อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในที่

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตอนพิเศษ-14-มหาเทวีของข้า

    เมิ่งเสี่ยวเถาลืมตาขึ้นมา นางฝันอะไรเนี่ยถึงนางจะชอบจ้าวตงหยางแต่ไม่ควรเก็บเขามาฝันลามกเช่นนี้ได้นะ เขาเรียกนางมหาเทวี ส่วนนางก็เรียกเขาว่าท่านตาเจ้าที่ นี่มันเรื่องอะไรกัน อีกทั้งเขากับนางยังเข้าหอกันในศาลเจ้า นี่มันบ้าไปแล้วหรือนอกจากเมิ่งเสี่ยวเถาจะฝันประหลาดจ้าวตงหยางก็ไม่ต่างกัน เขาฝันเช่นเดียวกับนาง ในความฝันนางช่างหอมหวานยิ่งนัก นึกถึงวันที่ได้ชิมความหวานจากนางเมืองหลายวันก่อนยังตราตรึง อีกทั้งในฝันเสมือนจริงเหลือเกิน หากเขาแหวกม่านประเพณีเข้าหอกับนางก่อนได้ก็คงดีนางจะเป็นพระชายาและจะเป็นแม่ของแผ่นดินคนต่อไป คืนวันแต่งงานหากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่ได้นางจะใช้ชีวิตที่เหลือลำบาก เขาจึงจำต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แต่ในความฝันนางช่างน่าทะนุถนอมเหลือเกิน เขาไม่เข้าใจเหตุใดฝันเช่นนั้นได้แต่ละเมอออกมาไม่รู้ตัว"เทวีของข้า เสี่ยวเถาเด็กดีข้าคิดถึงเจ้าคนงาม"หลังจากมาถึงฮวาป๋ายทุกคนก็พักผ่อนกันเต็มที่ กระทั่งยามซื่อทุกคนก็มารวมตัวกันไปบ้านท่านปู่ทวด เด็กๆให้สาวใช้และบ่าวในจวนขนของขวัญมากมายไปที่บ้านท่านอาหญิง จางจื่อเหยียนจูงมือเหลนเขยไปเยี่ยมท่านตาทวดของนางอย่างอารมณ์ดีเมิ่งซุนที่กำ

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตอนพิเศษ-13-กลับฮวาป๋าย

    หลายเหตุการณ์ผ่านไปถึงเวลาที่ทั้งหมดต้องเดินทางกลับฮวาป๋าย รุ่งสางทุกคนก็เตรียมตัวที่จะออกเดินทาง จ้าวตงหยางพาเมิ่งเสี่ยวเถาขี่ม้าไปด้วยกัน จ้าวไห่เฉิงกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงก็ขี่ม้าไปล่วงหน้าแล้ว นางชอบขี่ม้าที่สุด เสด็จอาสิบสองจึงตามใจนางบรรดาสตรีที่เหลือนั่งรถม้าสามคัน จากเมืองลั่วเหอไปฮวาป๋ายใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้น แต่เด็กๆจะแวะไปเมืองเหลยเพื่อเยี่ยมท่านย่าลู่ซินก่อน เดินทางมาได้หนึ่งวันก็ถึงเมืองเหลย ทั้งหมดเข้าที่พักที่ท่านอาเขยเตรียมไว้ให้ หวังจิ่วมารับเด็กๆและอารักขาด้วยตนเอง หวังซูหรานก็ตามบิดามาด้วย นางคิดถึงพี่ๆมากนัก หวังซูหนีว์เห็นหน้าน้องสาวก็รีบทักทาย"ซูหราน เจ้ามาแล้ว""พี่หญิง ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย"คนที่เหลือเปิดม่านออกมาก่อนจะส่งเสียงทักทาย หวังซูหรานควบม้ามาใกล้ๆก่อนจะขี่ม้าขนาบข้างแล้วคุยไปด้วย หวังจิ่วต้องรีบกลับเพราะตอนมานั้นเขามาคนเดียว ใครจะรู้เจ้าตัวดีแอบตามมาด้วย หากกลับไปเมียจัดการเขาแน่นอนกระทั่งถึงที่พักเรียบร้อยก็เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว จากนั้นทั้งหมดก็เข้าที่พัก เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยก็พากันมากินมื้อเย็น ต่า

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตอนพิเศษ-12-ข้าต้องการแต่งงานกับนาง

    จางจื่อเหยียนยอมรับสัมผัสจากหวงมู่เหวิน นางลืมไปแล้วว่านางกำลังโกรธเขา ลืมไปแล้วว่าเขามาเพื่อให้นางยกโทษให้ กระทั่งผิวกายต้องอากาศเย็นนางจึงรับรู้ว่าอาภรณ์ถูกเขาปลดออกแล้ว แผ่นหลังแตะที่นอนโดยมีร่างไร้อาภรณ์ของคนตัวโตทาบทับเกยนางเอาไว้ ดอกบัวตูมเบ่งบานชูช่อ ปลายถันแข็งชันล่อลวงให้คนด้านบนตกอยู่ในมนต์เสน่หา หวงมู่เหวินสบตากับนางจางจื่อเหยียนไม่กล้าสบตาเขาเอ่ยตะกุกตะกัก"คุณชายรอง""เรียกพี่มู่เหวินเหมือนเดิมได้หรือไม่ จื่อเหยียนของพี่ เจ้างามนัก"จางจื่อเหยียนผวา ร่างงามถูกเขานวดเฟ้น ปากหยักครอบครองความหวานตรงหน้า ดรุณีน้อยยกแขนคู่เรียวโอบรั้งท้ายทอยหนาแอ่นอกงามให้เขาเชยชม ใจนางมีเขาอยู่จึงไม่ไตร่ตรองในสิ่งที่กำลังทำ แค่คืนนี้เท่านั้น แค่ครั้งนี้ขอให้นางได้เป็นผู้หญิงของเขา หลังจากคืนนี้ไปนางจะออกจากหนานเป่ยไปใช้ชีวิตที่อื่น"อื้อ พี่มู่เหวิน อาเหยียน สะเสียว""อืม หวานเจ้าหวานมากอาเหยียน"ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนต่ำลงไปหาดอกไม้บอบบางก่อนเริ่มสำรวจน้ำหวาน ไม่นานคนใต้ร่างก็กระตุกเกร็ง นางแตะสวรรค์จนต้องกลั้นเสียงครางเอาไว้ เกรงว่าจะเล็ดลอดออกไป หวงมู่เหว

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตอนพิเศษ-11-ให้อภัยพี่เถอนะ

    จางจื่อเหยียนนอนละเมอทั้งคืน หวงมู่เหวินนั่งเฝ้าอยู่ด้านนอก เขารู้สึกผิดเขาเพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเขารักนาง หากว่าวันนี้ไม่เกือบเสียนางไปเขาก็คงไม่รู้หัวใจตัวเองและเป็นเขาเองที่เกือบทำนางหายไป เมิ่งเสี่ยวหว่านออกมาจากห้องเห็นบุตรชายคนรองของมหาราชครูก็ถอนหายใจคนหนึ่งก็พยายามหนีหัวใจตัวเอง อีกคนก็ปากแข็งจนก่อเรื่องร้ายแรง จางลี่ออกมาจากห้องบุตรสาวเห็นคนก่อเรื่องนั่งคุกเข่าอยู่หน้าห้องก็ประคองฮูหยินของตนเดินมาหา "คุณชายรอง....ท่านไปพักก่อนเถอะอาเหยียนนางยังมีไข้และเพ้อเป็นบางครั้ง รอนางดีขึ้นท่านค่อยมาดีกว่า""ท่านอาจาง..ข้าสำนึกผิดแล้วข้าอยากเข้าไปหานาง ท่านอาท่านอนุญาตเถอะขอรับ""คุณชายรอง..มีใช่ว่าพวกเรากีดกันท่าน แต่ให้เวลานางสักหน่อย บุตรสาวข้านางเพิ่งเสียขวัญ อีกทั้งเกือบจมน้ำตาย ตอนนี้หากเห็นหน้าท่านนางอาจทรุดหนักกว่าเดิม"จางลี่โกรธมากเรื่องนี้เมิงเสี่ยวหว่านรู้ดี เขารักบุตรสาวคนนี้ที่สุด จางเหิงบุตรชายคนโตที่เป็นผู้สืบสกุล สามีนางยังมิเอ็นดูเท่ากับบุตรสาวเลย แต่อย่างไรเล่า คนที่คุกเขาอยู่ตรงหน้าคือบุตรชายมหาราชครูเชียวนะ เมิ่งเสี่ยวหว่านถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสามีของนาง

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตอนพิเศษ-10-ข้าเกลียดเจ้า ไปตายซะ

    ทุกคนปรับความเข้าใจกันหมดแล้ว เหลือเพียงเมิ่งลู่เหลียนกับหานมู่เฉินเท่านั้น ตอนนี้ดรุณีน้อยกำลังโมโหเขาอยู่ หานมู่เฉินที่เดิมทีเคยถูกนางทุบตีประจำมาวันนี้เขากลับตรึงนางเสียอยู่หมัด ยามนี้รน่างงามอยู่ใต้ร่างแกร่งเขากดข้อมือนางเอาไว้ ปล้ำจูบนางอย่าเอาแต่ใจ เมิ่งลู่เหลียนที่ถูกเขาหลอกมาตลอดว่าเขาไร้วรยุทธ ยามนี้นางต่างหากที่ห่างไกลคำว่ายอดฝีมือ"ปล่อยข้านะเจ้าบ้าหานมู่เฉิน ไอ้คนโกหกหลอกลวง เจ้าหลอกข้าหรือ อย่าให้ข้ารอดไปได้นะ บอกให้ปล่อยไง""ปล่อยหรือ นี่เมิ่งลู่เหลียนข้าจะบอกให้นะ ทั้งชีวิตข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่นอน""เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาควบคุมข้า หานมู่เฉินไอ้คนเลว อื้ออออ"เด็กคนนี้ต้องสั่งสอน เขาต้องปราบนางให้ได้ ดื้อด้านนักทุบตีเขาอยู่เรื่อย ถ้าไม่ใช่ว่าเขารักนางคงจับนางฟาดเสียหลายทีแล้ว ทำตัวเกเรยิ่งนัก เมิ่งลู่เหลียนที่กำลังเสียเปรียบเขาอยู่ ก็หาทางออกให้ตัวเอง ทันทีที่เขาถอนจุมพิตออกนางก็เปลี่ยนเป็นไม้อ่อนทันที"พะ พี่มู่เฉิน เหลียนเอ๋อร์เจ็บมือเจ้าค่ะ ปล่อยเหลียนเอ๋อร์ได้ไหมเจ้าคะ""หืม..อ่อนหวานก็เป็น เอาตัวรอดสิท่าแม่ตัวดี""เปล่านะเจ้าคะ เหลียนเอ๋อร

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตอนพิเศษ-9-คู่หมั้นคนนั้นของเจ้าก็คือข้าเอง

    หนุ่มสาวออกเดินทางไปหลังเขา ซึ่งไม่ได้ไกลจากจวนมากนัก เดินเท้าไปใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามเท่านั้น ไม่นานทั้งหมดก็มาถึง จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถาไปด้านหนึ่ง จ้าวไห่เฉิงก็จูงมือเมิ่งเสี่ยวเฟิงไปอีกด้าน ส่วนซูหยางรวบเอวบางของเมิ่งหานเซียงไปนั่งเล่นบนโขดหินริมลำธาร องครักษ์ที่ตามมามีมากกว่าสิบคนต่างก็ดูแลรอบนอกเผื่อมีคนนอกหลงเข้ามาเมิ่งเสี่ยวเย่ากับเมิ่งซีฮวนไปหาไก่ป่า ส่วนหวงมู่เหวินไปเก็บฟืนกับหานมู่เฉิน ทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกัน มารดาเป็นเชื้อพระวงศ์ทั้งคู่ สาวๆที่เหลือต่างก็กวดจับกระต่ายป่า โจวจื่อหรานไม่อยากทำร้ายมันจึงปล่อยไป บรรดาบิดามารดาของเด็กๆเหล่านี้ปวดหัวมากนัก เมื่ออยู่กันครบทีไรสร้างเรื่องใหญ่โตทุกที โจวหยวนปวดหัวแต่ต้องยอมตามใจ เจียงเสี่ยวฮวาเองก็ไม่อยากดุแต่จำต้องเข้มงวดเมื่อได้ไก่ป่ามาแล้วบุรุษก็จัดการ ให้บรรดาสตรีนั่งรอ จางจื่อเหยียนสายตาซุกซนนางมองเห็นดอกไม้สีแดงอยู่ลิบๆ แน่นอนว่าใช่ดอกโสมนางต้องไปเอามันกลับให้ได้ เอาไปขายให้ท่านพ่อคงได้หลายร้อยตำลึง ดรุณีน้อยมีหัวการค้ายิ่งนัก แต่ลูกค้าของนางกลับเป็นบิดาอย่างจางลี่ แล

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตอนพิเศษ-8-เสด็จแม่มีข่าวดี

    ปลายยามอิ๋นเมิ่งหานเซียงขยับตัว นางนึกขึ้นได้ว่าข้างๆมีคนนอนด้วยก่อนจะขยับร่างบางเข้าหาซุกใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง กลิ่นกายซูหยางทำเอาสาวน้อยหวั่นไหว นางกับเขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดเวลา เป็นเพราะเขาไม่เคยใส่ใจนางเลย แต่กับคุณหนูคนอื่นๆเขากลับดูแลอย่างดี บางคนถึงกับยอมสอนพวกนางให้ส่วนตัว เมิ่งหานเซียงกลัวเขาจะตื่น แต่ก็รวบรวมความกล้าจุมพิตลูกกระเดือกคนตัวโตเบาๆ ไล่จุมพิตไปจนถึงปลายคาง ก่อนจะจุมพิตที่ริมฝีปากคนนอนหลับซูหยางตื่นนานแล้ว เขาไม่ขยับอยากรู้ว่านางจะทำอะไร คนตัวโตยิ้มในความมืดมือหนาลูบหลังนางเบาๆเป็นสัญญาว่าเขาตื่นแล้ว เมิ่งหานเซียงเขินอาย เขาตื่นตอนไหนนะ นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอู้อี้"ท่านอา..เช้าแล้วมิกลับห้องหรอกหรือเจ้าคะ""อยากนอนกอดเจ้าอีกหน่อยเด็กดีของอา เซียงเอ๋อร์คนงาม อารักเจ้ายิ่งนัก แล้วเจ้าล่ะรักอาบ้างไหม"ดรุณีน้อยมิตอบคำถาม แต่แขนเรียวโอบกอดเอวหนาของคนตัวโตแทนคำตอบทั้งหมด ซูหยางยิ้มในความมืดก่อนจะพลิกร่างบางลงใต้ร่างแกร่ง เขาพูดชิดริมฝีปากอวบอิ่ม"อยากเข้าหอกับเจ้าจัง ได้ไหมหื้ม""ท่านอา..อย่ารุ่มร่ามเข้าหออะไรของท่าน อยากถูกเส

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตอนพิเศษ-7-เจ้าคือคนแรกที่ทำข้าหวั่นไหว

    จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถามาทางสวนท้อด้านหลังจวน เจ้าตัวยุ่งของเขาชอบดอกท้อที่สุด เขาแปลกใจเหมือนกันนางร่ายรำใต้ต้นท้อยามใด ดอกท้อพร้อมใจกันบานเต็มไปหมด ดูเหมือนบุตรสาวจวิ้นอ๋องแต่ละคนคงเป็นเทพธิดามากำเนิดเสียกระมัง เมิ่งเสี่ยวฮวาเดินไปทางใดก็มีแต่ดอกไม้เบ่งบาน เมิ่งเสี่ยวเฟิงเพียงแค่โบกมือเบาๆก็ราวกับควบคุมสายลมได้ ดินแดนตะวันออกไม่เคยแห้งแล้ง เมิ่งเสี่ยวเหอเด็กคนนั้นว่ายน้ำเก่งเสียยิ่งกระไร ทะเลสาบกว้างใหญ่ ราวกับนั่นคือบ้านอีกหลังของนาง ชาวประมงที่หากินกับแม่น้ำยังไม่สามารถว่ายไปกลางทะเลสาบได้เมิ่งเสี่ยวเถาที่เดินตามร่างสูงมาก็หน้างอง้ำ นางไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากเจรจากับเขา กระทั่งมาหยุดลงที่ม้านั่งหินใต้ต้นท้อที่ดอกบานสะพรั่งที่สุด จ้าวตงหยางจับให้เมิ่งเสียวเถานั่งลง ส่วนตัวเขานั้นนั่งลงเรียบร้อยก็นอนหนุนตักนางหน้าตาเฉย จนดรุณีน้อยต้องดุเขาเบาๆ"ไท่จื่อ เป็นถึงรัชทายาทเหตุใดไม่สำรวมสักนิดเพคะ อีกอย่างหม่อมฉันหนัก"มือหนาคว้ามือบางเอามากุมไว้แนบอก ก่อนจะหลับตาลงเอ่ยกับนาง"เสี่ยวเถา เหตุใดไม่เรียกพี่ตงหยางเช่นเมื่อก่อน เจ้าห่างเหินหมางเมิ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status