Share

Chapter 8. ตื่นตกใจ

 ซินหรานเก็บอาการตื่นตกใจซ่อนไว้ด้วยท่าทีนิ่งเฉย บรรดาคนสนิทที่มาพร้อมกับ  จางเย่วผิงค้อมตัวแล้วถอยออกไปอย่างเงียบเฉียบ บ่าวรับใช้ผู้อื่นนำสุราอาหารมาวางไว้แล้วถอยออกไป ในห้องจึงเหลือเพียงแค่เหิงหยางเซิง จางเย่วถิงและซินหราน

            นางกลอกตามองไปยังเหิงหยางเซิง เมื่อไม่เห็นท่านจอมมารมีปฏิกิริยาใด นางจึงได้แต่ก้มหน้ายกกาสุรารินใส่จอก แต่จอกสุราหยกยังไม่ทันถูกยื่นไปใส่มือของจางเย่วถิง ซินหรานก็รู้สึกถึงแรงกระแทกจนทำให้จอกสุราตกลงพื้น นางได้แต่กระพริบตาปริบๆ กว่ารู้สึกตัวข้อมือของนางก็ถูกคว้าไว้กระชากอย่างแรงจนนางลุกขึ้นจากเก้าอี้ข้างจางเย่วถิง

            “นายท่าน” ซินหรานเอ่ยเสียงเบา รู้สึกเจ็บข้อมือแต่ไม่กล้าร้องโอดครวญออกไป

            “ระวังหน่อยท่านจอมมาร กระดูกนางเปราะบางนัก ประเดี๋ยวแตกหักขึ้นมาจะลำบากรักษา” จางเย่วถิงยกกาสุราขึ้นแหงนหน้าแล้วกรอกสุราลงคอตนเอง

            “เจ้าอยากเห็นหน้านาง เจ้าก็ได้เห็นแล้วนี่”

            จางเย่วถิงทำเสียงจิ๊กจั๊กในลำคอ แลบลิ้นเลียริมฝีปากที่เปรอะสุรา ดวงตาเป็นประกายยั่วล้อแล้วยื่นหน้าไปทางเหิงหยางเซิง

            “ข้าไม่ได้อยากเห็นหน้านาง ข้าอยากได้กลิ่นนางต่างหาก”

            ‘กลิ่น’

            ซินหรานตัวเกร็งขึ้นมาทันที นางหันไปมองเจ้าของมือที่บีบข้อมือของนางอยู่ นางเห็นแววตาของเขามีกรุ่นไอโทสะแผ่กระจายออกมาทำให้นางรีบก้มหน้าลง

            นางตัวเหม็นรึ?

            “จางเย่วถิง” เซิงหรานเซิงเอ่ยเสียงเย็น ทั้งที่รอบกายแผ่ไอร้อนออกมาจนคนไร้วรยุทธ์อย่างซินหรานเหงื่อซึมออกมา

            “หือ?” นางส่งยิ้มยียวนไม่เกรงไอโทสะผสานปราณสังหารที่แผ่นกระจายอยู่ในห้องนี้

            “ที่บ้านเจ้าไม่มีบุรุษถอนพิษให้หรือไร”

            “บุรุษน่ะมี” จางเย่วถิงหัวเราะร่า “แต่บุรุษที่มีลมปราณสูงส่งเช่นเจ้าหาได้ยากยิ่ง”

            เหิงหยางเซิงเสียงเสียงรำคาญในลำคอ สะบัดข้อมือที่จับมือเล็กทำให้ร่างเล็กๆ ของซินหรานกระเด็นออกห่างไปหลายก้าว แต่ยังดีที่นางทรงตัวได้ไม่ล้มลงให้ดูน่าอับอาย

            “ออกไป!”

            “เจ้าค่ะ” ซินหรานเก็บอาการหวาดกลัวของตนได้มิดชิด รีบก้าวออกไปทันที ทว่ายังไม่ทันถึงประตูก็ได้ยินเสียงจางเยว่ถิงร้องเรียกขึ้นก่อน นางจึนหันกลับมาอีกครั้ง

            “ซินหราน ปีนี้เจ้าอายุสิบหกแล้ว มิสู้ให้ข้าสอนเรื่องที่สตรีควรรู้ดีหรือไม่”

            “เรื่อง... เรื่อง...ที่สตรี...ควรรู้?” 

            “จางเย่วถิง!”

            ซินหรานอ้าปากกว้าง มือใหญ่กวาดสุราอาหารบนโต๊ะลงพื้น และเพียงพริบตาร่างของจางเย่วถิงก็ถูกเหวี่ยงขึ้นมานอนหงายบนโต๊ะนั้นแทน มือใหญ่กระชากเสื้อผ้าของนางออกอย่างรวดเร็วและไม่ไยดีว่าอาภรณ์สีแดงเลือดนกจะกลายเศษผ้าปลิวในห้อง ราวกับกลีบดอกไม้สีแดงที่ปลิดปลิว

            หญิงสาวรู้ในทันทีว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น นางรีบหมุนตัวเดินออกไปอย่างรวดเร็วจนแทบสะดุ้งเท้าตัวเองหกล้ม นางเดินออกไปพ้นประตูได้ มือเล็กปิดบานประตูลงแล้วแต่ยังสั่นอยู่ เสียงครางกระเส่าจากในห้องดังออกมาด้านนอกทำให้นางรีบยกมือออกจากบานประตู ราวกับสัมผัสของร้อน ใบหน้าที่หมดจดแดงจัดและหวาดกลัวผสมปนเปกัน ทว่านางรีบหมุนตัวเดินออกมาไม่หันหลังกลับไปมอง

            มือกร้านจากการจับกระบี่จับเรียวขาที่ไร้สิ่งใดปกปิดให้อ้าออกกว้างแล้วจับแก่นกายแข็งแกร่งของตนแทรกลงไปอย่างรวดเร็ว รุนแรงและดุดัน

            “อ๊า เจ้า!” จางเย่วถิงได้แต่ครางเสียงหลงเมื่อถูกกระแทกเข้ามาอย่างแรงจนจุก

            “อย่ารบกวนสมาธิ ข้ากำลังถอนพิษร้อยชายให้อยู่” จอมมารประมุขพรรคเพลิงอัคนีแสยะยิ้มที่มุมปาก แก่นกายแห่งความเป็นบุรุษถูกโอบรัดแน่นเขาขยับสะโพกถอนตัวเองออกมาจนเกือบสุดแล้วกระแทกลงไปอีกครั้งจนร่างเปลือยเปล่านั้นโยกไปด้านหน้า

            มือเรียวเกาะลำแขนที่จับเอวของนางไว้มั่นเพื่อรองรับการกระแทกกระทั้นอย่างไม่ปรานี ทว่าในความร้อนรุ่มและเหงื่อกาฬที่ไหลออกจากทุกอณูขุมขนทำให้นางทั้งรู้สึกสบายตัวและเสียวซ่านไปพร้อมกัน สะโพกสอบขยับเคลื่อนไหวลึกล้ำ รุนแรงและถี่กระชั้นแต่กระนั้นบุรุษผู้นั้นยังไม่มีอาการเหนื่อยหอบ ลมหายใจยังคงปกติ มีเพียงแววตาที่เปล่งประกายดุจย้อมด้วยโลหิต

            สามปีก่อนจางเย่วถิงพลาดท่าต้องพิษร้อยชาย นางต้องเสพสังวาสกับบุรุษเพื่อบรรเทาความทุรนทุราย แต่ในรอบปีจะมีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งที่ร่างกายมีความต้องการมากล้น บุรุษมากมายเพียงใดก็ไม่อาจทำให้นางอิ่มเอม หิวโหยและคลุ้มคลั่ง นางจำเป็นต้องเสพสังวาสกับบุรุษที่มีลมปราณแข็งแกร่งจึงจะบรรเทาความเจ็บปวดทุกข์ทรมานนี้ได้

            ร่างเปลือยเปล่าเกร็งกระตุกไปแล้ว แต่บุรุษผู้นั้นพลิกร่างเปลือยให้นอนคว่ำไปกับโต๊ะแล้วเริ่มกระแทกแก่นกายแข็งแกร่งลงไปอีกครั้ง

            ดวงตาดุจย้อมโลหิตจองมองแผ่นหลังเปลือยเปล่านั่น พลันเขาคิดถึงร่างเล็กที่อยู่ใต้ร่างของเขาเมื่อคืน แม้เพียงเมื่อครู่ที่เขาใช้พลังเล็กน้อยทำจอกเหล้าในมือนางหลุดมือ หากเขาออกแรงมากกว่านั้นนิดเดียว กระดูกข้อมือของนางคงแตกไปแล้ว

            นางคงไม่รู้ตัวเลยสักนิด ซินหรานมีกลิ่นกายหอมจาง นางมีกลิ่นบริสุทธิ์ดุจดอกไม้ป่าและยามนี้นางยังมีกลิ่นสาวพรหมจรรย์แจ่มชัด กลิ่นนางรบกวนสมาธิของเขามากนัก ไม่ว่าจะเสพสังวาสกับหญิงงามนางใด ไม่อาจสลัดกลิ่นกายของนางออกไปจากปอดของเขาได้เลย!

            หญิงสาวไม่รู้ว่าตนเองทำอะไรผิด แม้สงสัยอย่างไรก็ไม่กล้าปริปากเอ่ยถามใครทั้งสิ้น พ่อบ้านจูโหย่งเจาถ่ายทอดคำสั่งของท่านจอมมาร สั่งให้นางนอนในห้องเก็บฟืน 

            เพราะเป็นคำสั่งจากจอมมารเหิงหยางเซิงจึงไม่มีใครกล้าเอ่ยปากขอความเมตตาให้นาง แม้แต่อู่ยินและอู่ชิง ส่วนอู่เฉียงนั้นแม้ไม่พูดอะไรออกมาแต่สีหน้าของเขามีความเคร่งเครียดไม่น้อย ซินหรานยิ้มกว้างยื่นมือไปแตะไหล่ของเขาแล้วส่ายหน้าไปมา

            “มิใช่ครั้งแรกที่ข้าไปนอนห้องเก็บฟืนเสียหน่อย” นางหัวเราะร่า “มาเถิด ข้าเตรียมเสบียงอาหารแห้งไว้ให้พี่อู่เฉียง ไม่รู้ว่าเดินทางครั้งนี้พี่อู่เฉียงจะไปกี่เดือนกัน”

            เสียงถอนหายใจหนักหน่วงดังขึ้นก่อนเอ่ยตอบ “สี่เดือน”

            ซินหรานพยักหน้ารับรู้ “เช่นนั้นพี่อู่เฉียงคงกลับมาทันปีใหม่”

            “ฮืม” อู่เฉียงไม่รู้เหตุใดนางจึงยังยิ้ม ทั้งที่คืนนี้ตัวนางเองต้องไปนอนในห้องเก็บฟืนที่ทั้งอับชื้นและหนาวเย็นนั้นด้วย

            “หัวหน้าพรรคกระเรียนแดงอยู่ที่นี่แค่สามวัน แต่อย่างไรเจ้าระวังตัวด้วย”

            ซินหรานหัวเราะเสียงใส มือเรียวตบไหล่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแข็งแกร่งที่ปกป้องนางมาตั้งแต่เด็ก วงแขนนี้ที่อุ้มนางออกมาจากค่ำคืนที่แสนโหดร้าย

            “นางไม่ได้ทำอะไรข้าเสียหน่อย เป็นข้าที่ตกใจไปเอง” ใบหน้าหวานแดงระเรื่อขึ้นมา บางทีการที่ท่านจอมมารสั่งนางให้ไปอยู่ไกลๆ ไม่ต้องเข้ามารับใช้ในช่วงนี้เพราะแม่นางจางเย่วถิงอยู่กับท่านจอมมาร

            ใบหน้าอ่อนหวาน พวงแก้มแดงเรื่อ ท่าทีขัดเขินของนางทำให้   อู่เฉียงรู้สึกแน่นหน้าอก หัวใจเต้นผิดจังหวะ และเป็นฝ่ายต้องเบือนหน้าไปทางอื่น

            “ข้าจะไปเตรียมเสบียงอาหารให้ก่อน พี่อู่เฉียงอยากให้ข้าไปช่วยเก็บเสื้อผ้าหรือไม่”

            “ไม่ต้องหรอก เดินทางทีไรข้าก็เอาไปแค่ชุดสองชุดเท่านั้น”  เพราะเป็นเสื้อผ้าสำหรับปลอมกายจึงจำเป็นต้องเตรียมด้วยตนเอง มิให้นางมาแตะต้อง แม้ที่ผ่านมาเสื้อผ้าของเขาและอู่ยิน อู่ชิง นางช่วยซักตากให้อย่างดี หากขาดก็ซ่อมแซมเย็บปะให้เรียบร้อย

            ซินหรานเข้ามาในครัว เห็นสีหน้าพ่อครัวเจี่ยนแล้วนางเดาได้ว่าคงรู้กันแล้วว่าคืนนี้และอีกสองคืนข้างหน้านางต้องนอนในห้องเก็บฟืน  นางยังคงแย้มยิ้มบนใบหน้าและเดินเลี่ยงไปหยิบเนื้อแห้งที่เตรียมไว้ห่อกระดาษให้เขา แล้วยังมีข้าวแห้งอีก

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status