แชร์

Chapter 15. ลืมหน้าที่ของตนเองหรือไร

ผู้แต่ง: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56

พ่อครัวเจี่ยนหันมามองเต็มๆ ตา ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเด็กคนนี้ตื่นสายสักครา แต่เห็นนางหลบตาเขาแล้วจึงไม่ได้ซักถามอะไร เรียกนางไปช่วยงานเช่นทุกวัน

ซินหรานทำตัววุ่นพยายามไม่คิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา นางรู้สึกว่าทุกคนทำตัวปกติกับนาง คงไม่มีผู้ใดล่วงรู้เรื่องที่เกิดขึ้น นางจึงทำตัวเป็นปกติเช่นที่เคยเป็นมา ทว่าร่างกายที่บอบช้ำเคลื่อนไหวได้ไม่สะดวกนัก ทั้งที่ตั้งใจเอาขนมไปส่งให้อู่ชิงกับอู่ยิน นางกลับเดินได้ไม่ถึงที่ ไม่รู้อย่างไรอู่ยินโผล่มายืนเบื้องหน้าไร้สุ่มเสียงดุจเงาภูติผี หญิงสาวไม่ได้สะดุ้งตกใจแต่ยังฉีกยิ้มด้วยความดีใจที่เขามาปรากฏกายพอดี

“ข้าจะเอาขนมมาส่งให้เจ้าค่ะ” ซินหรานยื่นตะกร้าให้ แต่อีกฝ่ายยืนกอดอกนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เห็นแววตาใสซื่อคู่นั้นแล้วลอบถอนหายใจแล้วยื่นมือไปรับ

“ไม่สบายก็พักผ่อนเสีย”

“ข้า...ข้าสบายดี”

“สบายดี? แทบเดินไม่ไหว!”

ซินหรานพูดอะไรไม่ออก คำพูดกำกวมของอู่ยินทำให้ใบหน้าของนางไร้สีเลือด พลันร่างของอู่ชิงปรากฏขึ้นแล้วยื่นมือไปดีดหน้าผากของซินหรานอย่างหยอกเย้า

“หน้าตาซีดเซียวเช่นนี้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 16. ยั่วโทสะ

    ท่าทางใสซื่อของนางทำให้โทสะของเขาเบาบางลง ไฉนยามที่เขาให้นางเลือกเครื่องประดับส่งไปยังเรือนด้านหลัง นางเลือกได้เหมาะสมและง่ายดายจนเขาไม่ใคร่ใส่ใจว่านางส่งอะไรไปให้ใคร ทว่าเมื่อนางเอ่ยประโยคต่อมา เขาแทบจะยื่นมือไปบีบลำคอของนาง “...ปิ่นไม้นี่พี่อู่เฉียงทำให้บ่าว บ่าวทิ้งปิ่นอันนี้มิได้” ข้าควรหักคอนางหรือหักคออู่เฉียงดีนะ! ซินหรานไม่รู้ว่าเหตุใด จู่ๆ นายท่านมีโทสะขึ้นมาระลอก แต่ก่อนทำอะไรผิดอย่างมากนางถูกพ่อบ้านจูโหย่งเจ้าลงโทษ แต่ครั้งนี้นางเห็นเขาสืบเท้าเข้ามา ร่างกายถอยหนีอย่างหวาดกลัว มิน่าเล่าเหล่าหญิงบำเรอที่ถูกส่งตัวมารับใช้จึงได้มีท่าทีประหลาดนัก บางคนหวาดกลัวถึงขั้นเสียสติก็มี ยังไม่ทันคิดว่าตนเองทำอะไรผิด นางรู้สึกหน้ามืดตาลายเพราะถูกจอมมารเหิงหยางเซิงรวบร่างนางแล้วแบกไว้บนบ่า ศีรษะของหญิงสาวถูกเหวี่ยงไปด้านหลัง ด้วยความตกใจจึงเผลอทำปิ่นหยกหลุดมือ “นายท่าน!” ซินหรานดิ้นรน แต่ไม่เป็นผล ถูกแบกเดินมาไม่กี่ก้าวร่างก็ถูกเหวี่ยงลงบนตั่งนุ่มที่นายท่านให้เอนกายนอนพักผ่อนในห้องอักษร “นายท่าน! ปล่อยบ่าวเถิดเจ้าค่ะ” นางขอร้องเสี

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 17. หัวใจที่เคยเยียบเย็นพลันกลับมาอบอุ่นอีกครั้ง

    พ่อบ้านจูโหย่งเจาถอนหายใจอีกครา “เป็นเช่นนั้นก็ดี” “แต่เรื่องที่จะให้ข้าปรนนิบัตินายท่านในห้องหอนั้น...” “ได้เป็นสตรีของท่านจอมมารย่อมมีฐานะความเป็นอยู่ดีกว่าเป็นสาวใช้” “แต่ข้าไม่อยากเป็นเหมือนหญิงเหล่านั้น” นางยืนกราน “ให้ข้าทำงานเป็นบ่าวเช่นนี้เถิด” “ซินหราน” พ่อบ้านจูโหย่งเจาเอ่ยเสียงเย็น “หากเจ้ายังดื้อดึงเช่นนี้ คนที่ลำบากที่สุดก็คืออู่เฉียง” ซินหรานเผยอริมฝีปากขึ้น อ้าปากแต่กลับพูดไม่ออก แล้วนางก็กัดริมฝีปากตนเองอย่างยอมรับชะตากรรม หากนางไม่ยินยอมปรนนิบัติ พี่อู่เฉียงของนางจะถูกลงโทษเช่นนั้นหรือ? ทุกคนที่อยู่ที่นี่ ทำตามคำสั่งของท่านจอมมารทั้งสิ้น “เอาล่ะ ข้าจะส่งคนมาดูแลเจ้าให้เตรียมตัวสำหรับคืนนี้ ตอนนี้เจ้าพักผ่อนเสียก่อน” “เจ้าค่ะ” ซินหรานมองร่างของพ่อบ้านจูโหย่งเจาหมุนตัวออกจากห้องของนาง หญิงสาวค่อยๆ ลุกขึ้นกลับมานั่งบนเตียงเช่นเดิม หัวใจเหมือนถูกมือที่มองไม่เห็นบีบรัดเจ็บปวดเกินจะบรรยาย ร่างบางเอนตัวลงนอน รู้สึกชื้นที่ขอบตา นางหลีกหนีเรื่องนี้มิได้จริงๆ แล้วใช่ไหม?

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 18.รอยยิ้มที่มุมปากที่ไม่มีใครได้เห็น

    ห้ามมิให้นางกลัวคงยาก แต่ห้ามมิให้เขาแตะต้องนางนั้นยากกว่า ปิดตานางไว้เช่นนี้ถือว่าปรานีนางมากแล้ว แม้เขาชอบดวงตากระจ่างใสของนางมากเพียงใด แต่มิอาจทนเห็นแววตาคู่นี้แสดงความรังเกียจหรือหวาดกลัวเขาได้ เพียงเหนี่ยวรั้งความรู้สึกของมนุษย์ที่มีอยู่น้อยนิดไว้นั้น เขามิอาจทำร้ายนางได้ เหิงหยางเซิงประคองร่างบางลงนอนแล้ว เขาลุกขึ้นปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนออกจนหมด เขาผู้ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นจอมมารแม้ไม่มีกฏว่าทายาทเท่านั้นที่เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประมุขพรรคเพลิงอัคนี แต่เขาเป็นลูกชายคนเดียวที่เหลือรอดจากการฝึกฝน ทั้งดื่มยาพิษ ฝึกยุทธ์ และเพราะการดื่มยาพิษทำให้ร่างกายของเขาบางส่วนมีรอยไหม้คล้ายถูกเหล็กเผาไฟมานาบผิวกาย ในบางคราวเขากลายเป็นกึ่งมนุษย์กึ่งมารปีศาจ หิวกระหายโลหิตโดยเฉพาะโลหิตของมนุษย์ แต่ทุกคราวที่ดื่มเลือดมนุษย์นั้น ความรู้สึก ความทรงจำของมนุษย์ผู้นั้นจะถูกถ่ายทอดมาสู่ตัวเขาด้วย ‘บิดา ข้ารังเกียจโลหิตมนุษย์’ แม้เขาจะอยู่ในวัยสิบขวบแต่ได้กลืนกินเลือดมนุษย์เป็นครั้งแรก รับรู้ถึงความโสมมในจิตใจของมนุษย์ซึ่งไม่ต่างจากน้ำโคลนสกปรก ยิ่งเมื่อเติ

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 19. น้ำตา

    “ซินหราน! เจ้าลืมหน้าที่ตัวเองหรือไร น้ำชาของท่านจอมมารล่ะ” “เจ้าค่ะ” บรรยกาศทุกอย่างเป็นไปอย่างที่เคยเป็นมา พ่อครัวเจี่ยนสบตากับพ่อบ้านจูโหย่งเจา แม้ไม่เอ่ยปากพูดอะไรแต่ก็เข้าใจได้ จะว่าไปแล้ว สำหรับซินหราน....ปล่อยให้นางเคยใช้ชีวิตอย่างไรก็ทำเช่นนั้นน่าจะดีที่สุด ทุกอย่างดำเนินไปเช่นที่เคยเป็นมา ราวกับว่าซินหรานไม่เคยถูกส่งตัวเข้าห้องของท่านจอมมาร กลางวันของซินหรานใช้ชีวิตปกติ คอยรับใช้ท่านจอมมาร ทำตามที่พ่อบ้านจูโหย่งเจาสั่ง และเข้าครัวช่วยงานพ่อครัวเจี่ยน ทว่ายามค่ำคืน ห้องนอนของนางมักถูกบุกรุกด้วยบุรุษเจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่ แม้เตียงของงนางทั้งเล็กและแคบแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอุปสรรคในการรังแกนางเลยสักนิด ทุกครั้งที่นายท่านของซินหรานเข้ามาคือเวลาที่นางทิ้งตัวลงนอนและหลับใหลไปแล้ว หญิงสาวแทบไม่รู้สึกตัวจนกระทั้งผิวกายกระทบไอร้อนจากเรือนกายใหญ่โตและ...เขามักปิดตานางเสมอ “นายท่าน...” “ชู่ว” แรกๆ นางตื่นตระหนก แต่ผ่านไปหลายค่ำคืน นางเองก็...พอใจอยู่ลึกๆ กับการไม่ต้องมองเห็นการกระทำอันน่า

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 20. ไม่อาจคาดเดา

    “ฮืม” ชายชราผงกศีรษะรับ “ไปเปลี่ยนน้ำชาให้ข้าหน่อย เสร็จแล้วมีอะไรจะทำก็ไปทำเสีย” “เจ้าค่ะ” หญิงสาวรับคำสั่งอย่างว่าง่าย เดินไปที่มุมห้องยกกาน้ำชาใส่ถาดแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ กลับไปที่ห้องครัว นอกจากจะเปลี่ยนน้ำชาแล้ว นางตั้งใจหาขนมของว่างจัดให้พ่อบ้านชราสักจาน ระหว่างเดินกลับมาอีกครั้ง นางพบกับหญิงสาวในชุดสีแดงเลือดนกที่นำของมามอบให้นาง “เอ่อ...แม่นาง” ซินหรานเรียกเสียงเบา คล้ายกลัวคนอื่นได้ยิน และเพราะตนเองไม่รู้ชื่ออีกฝ่าย แต่กระนั้นคนถูกเรียกชะงักเท้าพอเห็นว่าเป็นนางจึงส่งยิ้มให้ “แม่นางซินหราน” “คือ...” ซินหรานมองซ้ายมองขวา เห็นโต๊ะกลมสำหรับนั่งพักผ่อนริมสวนย่อม จึงเดินไปวางถาดขนมและกาน้ำ นางสูดลมหายใจลึก ล้วงมือไปหยิบถุงหอมใบน้อยออกมาแล้วยื่นให้หญิงสาวผู้นั้น “ข้าเป็นเพียงบ่าวรับใช้ ไม่มีของมีค่าใด แต่ถุงหอมนี้ข้าทำเองฝากท่านมอบให้แม่นางจางเย่วถิงด้วยเจ้าค่ะ” “ขอเป็นเพียงสิ่งที่มาจากความตั้งใจของแม่นางซินหราน ประมุขของข้าย่อมปลื้มปิติยิ่งนัก” หญิงสาวยิ้มแล้วยื่นมือไปรอรับ

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 21. ขัดขืน

    “ซินหราน”หญิงสาวสะดุ้งเฮือก นางเพิ่งได้สติและเหลียวมองรอบกายจึงรู้ว่าถูกท่านจอมมารพากลับมาที่ห้องของตนเองไม่รู้ตัว ดวงตาของนางยังมีความหวาดกลัวฉายฉาบอยู่ชัดเจน เหิงหยางเซิงใช้ปลายนิ้วกร้านเชยคางมนขึ้น โน้นหน้าลงกัดริมฝีปากล่างของนางเบาๆ แต่เรียกสติของหญิงสาวได้ นางกะพริบตาแล้วยกมือขึ้นดันอีกฝ่ายออก แม้ร่วมรักหลับนอนกับเขาหลายครั้งแล้วแต่ท่าทีขัดขืนนี้เป็นปฏิกิริยาตอบโต้ทุกครั้งก่อนจะผ่อนลงด้วยแรงขับเคลื่อนของบุรุษร่างสูงใหญ่“ไยต้องตื่นตระหนกตกใจเช่นนี้ เจ้ามิใช่เคยเห็นครั้งแรกเสียเมื่อไหร่กัน” เสียงกระซิบยั่วเย้าชิดริมฝีปากของหญิงสาว ซินหรานตัวสั่นระริกขึ้นมาทันทีและก้าวถอยหลังอย่างหลบหลีกสัมผัสที่ได้รับ ปลายนิ้วของชายหนุ่มเกี่ยวพันเส้นผมของหญิงสาวไว้แม้ร่างเล็กถอยไปจนแผ่นหลังของนางชิดผนังห้องแล้ว เขาจึงตวัดปลายนิ้วพันเกี่ยวเส้นผมของนางเล่นแล้วกระตุกเบาๆ“สถานที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุดของเจ้า” เหิงหยางเซิงก้าวเข้าไปประชิดร่างบอบบาง แผ่นอกแกร่งเบียดชิดร่างหญิงสาวที่ไม่อาจขยับตัวถอยหนีได้อีกแล้ว“ข้าคือคนที่ปกป้องเจ้า มิใช่...”ซินหรานไม่ได้ยินคำพูดสุดท้ายของท่านจ

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 22.  รู้ดีว่า

    ซินหรานรู้ดีว่าการเอาของมีค่าติดตัวมากเกินไปย่อมไม่ปลอดภัย แม้นางจะมีคนของพรรคกระเรียนแดงคอยช่วยเหลือ ไม่แน่ว่าสตรีอย่างจางเย่วถิงจะเล่นตลกอะไรกับนางหรือไม่ ทางที่ดี นางแค่หาทางออกไปจากที่นี่ แล้วค่อยหาหนทางให้ตัวเองได้ อย่าลังเลอีกเลย ซินหราน รีบก้าวออกไปจากที่นี่เถิด ป่านนี้ท่านจอมมารไปที่หุบเขาเพื่อหลอมกระบี่แล้ว อีกสี่ปีจะมีการประลองยุทธ์อะไรสักอย่าง นางได้ยินพ่อบ้านจูโหย่งเจาเปรยให้ฟังบ้าง แต่นางไม่ได้ใส่ใจนัก รู้เพียงแค่ว่านี้เป็นโอกาสเดียวที่นางจะไปจากที่นี่ หวังว่านางจะมีเวลามากพอ เพราะทุกคนเข้าใจว่าซินหรานยังอ่อนเพลียอยู่ เมื่อคืนท่านจอมมารอยู่กับนางทั้งคืนจนรุ่งสาง ท่านจอมมารเพิ่งก้าวออกมาจากห้องเล็กของนาง ทั้งที่ห้องของท่านจอมมารอยู่ติดกัน แต่เขากลับยอมอยู่ในห้องเล็กๆ นั้นร่วมกันนาง เรื่องเหล่านี้องครักษ์ลับทั้งหลายต่างพากันมองหน้างุนงง แต่ไม่มีใครปริปากเอ่ยเรื่องนี้ออกมา หญิงสาวหน้าตาซีดเซียวจนไม่มีใครกล้าเอ่ยถาม หลังจากกินอาหารเช้าที่ค่อนไปทางสายแล้ว พ่อครัวเจี่ยนไม่รั้งให้นางช่วยงานในครัวเช่นทุกวัน นอกจากขับไล่ใ

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 23. ไร้สาระ

    ‘ไม่เป็นไร ข้าเองก็ไม่รู้วันเกิดของตัวเองเช่นกัน’ เขาเป็นเด็กกำพร้าจะรู้ได้อย่างไรว่าตนเองเกิดวันเดินปีไหน พ่อบ้านจูโหย่งเจาลงทะเบียนไว้อย่างไรก็ว่าตามนั้น เขาจำชีวิตก่อนที่จะมาอยู่เกาะเพลิงอัคนีไม่ได้แล้ว ท่าเรือมีผู้คนมากมาย เขาเคยพาซินหรานออกมาเดินเที่ยวตลาดเล่นอยู่ไม่กี่ครั้ง นางไม่ชอบสถานที่ที่มีคนเยอะแยะ แต่อย่างไรนางซึ่งเป็นสตรีย่อมชื่นชอบดูข้าวของต่างๆ ขณะที่เขาตั้งใจจะเดินทางกลับเข้าคฤหาสน์พรรคเพลิงอัคนี สายตาเขามองเลยไปยังแผงขายหวีแบบต่างๆ หวีไม้หอมลายดอกไม้เหมยนั้นดูเข้ากับจี้หยกที่เขาเตรียมให้นางอยู่พอดี “อ้อ! ท่านอู่เฉียง!” พ่อค้าทักทายจำบุรุษผู้นี้ได้เพราะอู่เฉียงติดตามจอมมารเหิงหยางเซิงอยู่เสมอ อู่เฉียงเพียงส่งเสียงในลำคอเป็นเชิงรับรู้ ก้มหน้าก้มตาเลือกดูหวีไม้หอมให้ซินหราน “ช่างเป็นหญิงสาวที่โชคดียิ่งนัก” คราวนี้อู่เฉียงเลิกคิ้วแล้วเงยหน้าขึ้นมองพ่อค้า “หมายความเช่นไร?” “ท่านเลือกหวีให้สตรีมิใช่รึ” พ่อค้าเกาศีรษะแกรกๆ “ข้าจึงเอ่ยว่าหญิงสาวผู้นั้นโชคดียิ่งนัก” “

บทล่าสุด

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 56.  จบ

    ดวงตาร้อนแรงที่จ้องมองเหมือนจะกลืนกินทำให้ซินหรานต้องหลับตารับรู้สัมผัสร้อนผ่าวจากเรียวลิ้นของเขาที่แทรกเข้ามาในโพรงปาก มือใหญ่ปล่อยฝ่ามือนางที่อาจไม่ขยับไปจากแผ่นอกของเขาได้เปลี่ยนมัดร่างนางให้แนบชิดกับร่างของเขาแน่นขึ้นราวกับจะผสานเป็นเนื้อเดียว ลิ้นร้อนไล่ลุกเร้ากับลิ้นน้อยๆ จนยอมจำนนให้เกี่ยวกระหวัด เสียงครางครือในลำคอของหญิงสาวทำให้บุรุษหนุ่มฮึกเฮิมดันร่างบางไปชิดก้อนหินกลมเกลี้ยงก้อนใหญ่ให้แผ่นหลังของนางแนบชิด ดอกบัวคู่งามจึงเชิดชันท้าท้ายให้บุรุษหนุ่มอ้าปากครอบครอง เม้มริมฝีปากดูดดึงจนหญิงสาวไม่อาจกลั้นเสียงครวญครางของตนเองได้ “ประเดี๋ยวมีใครมาเห็น” นางใช้สองมือที่อ่อนแรกผลักเขาออก “ไม่มีหรอก” เขาหัวเราะชั่วร้ายในลำคอ “หากมีก็แค่ควักตาออกเสีย” ซินหรานไม่รู้จะโต้เถียงอย่างไร เขาดึงดันจะกลืนกินนางและเขาก็ทำให้นางไม่เหลือสติสัมปชัญญะใดๆ อีก ราวกับร่างกายของนางก็โหยหิวสัมผัสของเขาเช่นกัน นางถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเขายอมเลิกทรมานทรวงอกของนาง ทว่าริมฝีปากร้ายพรมจูบหน้าท้องของนาง เพราะรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร นางรีบร้องห้ามทั้งที่ตัวเองอ่

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 55.  คำสั่งแรก

    ใครเลยจะรู้ว่าคำสั่งแรกในฐานะฮูหยินของประมุขพรรคเพลิงอัคนีคือการสั่งให้ทุกคนเดินทางพร้อมกันไม่มีแยกเป็นสองขบวนตามที่เหิงหยางเซิงตกลงกับเฉินเอ๋อร์ “ตั้งแต่คลอดเฉินเอ๋อร์ออกมา เขาไม่เคยห่างจากข้าเลยสักครั้ง ท่านจะผลักไสให้ข้ากับลูกแยกกันได้อย่างไร” เหิงหยางเซิงได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรม แม้หญิงสาวผู้นี้จะยังคงเป็นซินหรานที่แลดูอ่อนแอบอบบางไร้ปากเสียง แต่ยามที่นางต้องการสิ่งใดก็ไม่นิ่งเงียบอีกต่อไป แต่อย่างน้อยเขาก็ผลักไสให้อู่เฉียงไปไกลหูไกลตา และจางเย่วถิงที่แสร้งทำเป็นอยากเดินทางด้วย แต่เพราะนางยังต้องการยาอายุวัฒนะนั้นอยู่จึงออกไล่ล่าช่วงชิงยาวิเศษที่ถูกเปลี่ยนมือไปแล้ว ก่อนเอ่ยคำลา ซินหรานคืนหยกประจำกายของจางเย่วถิง ที่ผ่านมานางไม่เคยคิดว่าหยกชิ้นนี้มีความหมายมากขนาดนี้ แม้สิ่งนี้จะทำให้นางออกคำสั่งคนของพรรคกระเรียนแดงได้ก็ตาม แต่จางเย่วถิงกลับยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมาแล้วเอ่ยปาก “สิ่งใดที่ข้าให้แล้วย่อมไม่เอาคืน ถือเสียว่าข้าให้เป็นของขวัญเจ้าก็แล้วกัน” ด้วยเหตุนี้ซินหรานจึงไม่อาจปฏิเสธได้อีก นางเก็บหยกชิ้นนั้นไว้แล้ว

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 54.  ส่งท้าย

    “อู่ชิงอู่ยินเอาม้าของข้าให้อู่เฉียงไป”“ขอรับ” คนที่อยู่ด้านนอกรีบตอบรับ หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายผ่านไป เดิมทีจอมมารเหิงหยางเซิงต้องการเดินทางกลับเกาะเพลิงอัคนีทันทีและแน่นอนว่ากลับไปครั้งนี้มีฮูหยินติดตามกลับไปด้วย ทว่าเมื่อเร่งรีบออกจากหมู่บ้านมาเพื่อไม่ต้องการพบกับคนของทางการ ทั้งหมดจึงได้ไปอาศัยหลบอยู่อีกหมู่บ้านไม่ไกลมากนักเพื่อให้อู่เฉียงได้รักษาตัว แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือพระสนมหลิวเสียนเฟยผู้นี้ไม่ยอมเดินทางกลับเมืองหลวง“ข้าจะอยู่ดูแลผู้มีพระคุณสักสามสี่วันจะเป็นไรไป” แม้นางจะไม่ให้ใครเอ่ยถึงนางในฐานะพระสนมคนโปรดขององค์ฮ่องเต้ แต่ลักษณะท่าทางสูงส่งแม้กระทั้งน้ำเสียงเย่อหยิ่งถือดีนั้นก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ เหิงหยางเซิงผู้เป็นประมุขพรรคมารมิชอบใจท่าทีเช่นนี้ เขาต้องการเดินทางกลับอยู่ทุกวันคืนไม่ใช่เพียงไม่ชอบท่าทีของสตรีผู้นี้แต่เพราะไม่ต้องการให้ซินหรานอยู่ใกล้อู่เฉียงแม้บาดแผลจะทำให้เสียเลือดมากแต่เพราะมีพ่อบ้านจูโหย่งเจาอยู่จึงดูแลรักษาอู่เฉียงให้ฟื้นกำลังได้อย่างรวดเร็ว ในวันที่สามก็สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ปกติ และถูกจอมมารเหิงหยางเซิงขึงตาขับไล่อย่างไม่ไว้หน้า เ

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 53. ข้าคือจอมมาร

    สุดท้ายก็ไม่ต่างจากสุนัขขี้เรื้อนไม่เหลือหน้าตาให้หยัดยืนใน ยุทธภพ เปลี่ยนแปลงตนเอง เข้าไปในวังวนของวังหลวง หวังให้ตำแหน่งของตนสูงสุด แต่สุดท้ายกลับถูกเจ้าเด็กเมื่อวานซืนทำลายป่นปี้ ด้วยความแค้นทำให้กั๋วกงกงลืมกลยุทธไปหมดสิ้นต่อสู้เหมือนคนตาบอดสะเปะสะปะไปมา ยิ่งสู้ยิ่งไม่อาจยอมรับความแพ้พ่าย หางตาเห็นสตรีสวมหน้ากากผู้นั้นยืนอยู่คนเดียว จึงเปลี่ยนเป็นพุ่งเป้าไปที่หญิงสาวบอบบาง ซินหรานเบิกตากว้างที่จู่ๆ กั๋วกงกงเปลี่ยนเป้าหมายพุ่งมาที่นาง ทว่าเมื่อประสายสายตากันกลับเป็นกั๋วกงกงที่ชะงักงันแล้วกรีดร้องคลุ้งคลั่ง “ไม่จริง! ข้าจะไม่ตายเช่นนั้น! ข้าไม่มีวัน...!” ยังไม่ทันจบประโยคดี แสงสีเพลิงจากกระบี่อัคนีพิฆาตก็แทงทะลุร่างของกั๋วกงกง ดวงตาคู่นั้นก้มมองปลายกระบี่ที่ทะลุหน้าอกตนเอง ใบหน้าบิดเบี้ยวเอี้ยวมองไปด้านหลัง เห็นเพียงรอยยิ้มโหดเหี้ยมของเหิงหยางเซิง เขาบิดข้อมือทำให้กระบี่ควานเนื้อเรียกโลหิตให้หลั่งออกมาจนนองพื้น “เจ้า...เจ้ามัน...มาร...ปีศาจ...ร้าย” “ถูกต้อง ข้าคือจอมมารเหิงหยางเซิงแห่งพรรคเพลิงอัคนี” เพียงชั

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 52. อย่าสบตา

    ไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่นางเป็นเด็กแปดขวบ หญิงสาวเบิกตาโต ความทรงจำที่เลือนลางไปเต็มทีแล้วกลับเด่นชัดขึ้นมาอีกครั้ง บ้านของนางไฟไหม้ บิดามารดาฉุดแขนให้นางวิ่งออกมา ทว่าบิดาถูกคนร้ายใช้ดาบฟันกลางหลัง แต่กระนั้นก็ยังกอดนางกับมารดาไว้ คนร้ายหัวเราะทั้งที่มารดาหวีดร้องเหมือนคนเสียสติ พุ่งเข้าไปใช้เพียงมือเปล่าทุบตีคนเหล่านั้น หนึ่งนั้นใช้ฝ่ามือฟาดใส่หน้ามารดาถึงกับเซถลาล้มลง พวกมันหัวเราะร่ากระตุกเท้ามารดาไว้แล้วฉีกทึ้งเสื้อผ้าของมารดา‘หนีไป! หนีไป!’เด็กน้อยตัวแข็งทื่อก้าวเท้าไม่ออก ร่างเล็กของเด็กหญิงวัยแปดขวบถูกฉุดกระชากอย่างแรงจนแขนเสื้อของเด็กหญิงขาด เด็กหญิงตัวน้อยหวีดร้องสุดเสียง พยายามสะบัดแขนขาที่ถูกเกาะกุมด้วยชายร่างใหญ่หลายคนที่ล้อมตัวนางอยู่ เด็กหญิงสู้แรงชายเหล่านั้นไม่ได้ ร่างของนางถูกยกขึ้นเหนือพื้นแขนสองข้าง ขาสองข้างถูกมือสกปรกจับยกขึ้น แม้น้ำตาไหลอาบแก้มแต่นางยังมองเห็นเปลวเพลิง ผู้คนที่ถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด บนพื้นนองไปด้วยเลือดสีแดงสด ท้องฟ้าถูกย้อมด้วยสีแดงของเปลวเพลิง เด็กหญิงหวีดร้องจนเจ็บคอไปหมด ราวกับมีเลือดผสมน้ำลาย เสียงหัวเราะราวกับคนเสียสติดังขึ้น

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 51. นางเป็นฮูหยินของข้า

    อู่เฉียงได้ยินเสียงเปิดประตูจึงหันกลับมามองพร้อมกับพระสนมหลิวเสียนเฟยที่ปรายตามองเล็กน้อย ซินหรานก้าวออกมายืนแล้วกวาดตามองเหมือนค้นหาสิ่งผิดปกติ “เอ่อ...ข้าคงรู้สึกไปเอง เหมือนมีผู้อื่นอยู่ที่นี่” ซินหรานอึกอักหน้าแดง นางคงกังวลเกินเหตุไป พระสนมหลิวเสียนเฟยส่งยิ้มเอ็นดูให้ ได้ยินว่าหญิงสาวผู้นี้อายุยี่สิบแล้วและมีลูกชายน่ารัก แต่ลักษณะท่าทางยังเหมือนเด็กสาวมิได้ออกเรือน ยามเขินอายก็แก้มแดงระเรื่อ ช่างดูไร้เดียงสานัก พลันอดคิดถึงตนเองยามเป็นเด็กสาวไม่ได้ นางเหม่อลอยไปครู่หนึ่งสายตาดุจตาหงส์สังเกตสิ่งที่อยู่ในมือของซินหรานนั้นคุ้นตา จึงเอ่ยถามออกไป “นี่นะหรือ?” ซินหรานยื่นหน้ากากอันนั้นส่งให้พระสนม แต่เมื่ออีกฝ่ายย้ำให้พูดคุยกับนางเช่นเดียวกับคนธรรมดาทั่วไป ซินหรานจึงเอ่ยกับอีกฝ่ายดุจสนทนากับคนที่ฐานะเท่าเทียมกัน “เจ้าได้หน้ากากนี่มาจากที่ใด” พระสนมหลิวเสียนเฟยเอ่ยถาม ดวงตามีประกายความตื่นเต้นไม่น้อย “เรียนตามตรง ท่านจอมมารให้ข้ามา เป็นหนึ่งในเครื่องบรรณาการที่ส่งมาให้ท่านจอมมาร แต่ข้าจำไม่ได้แล้วว่ามาจากที่ใด” “เจ้าเคยใช้หรือไม่?” ซินหรานอึกอักอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยไปตรง “ครั้

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 50. ถ้าอายนักก็ออกไป 

    พระสนมหลิวเสียนเฟยมิได้ดึงดัน พยักหน้ารับอย่างเข้าใจและหมุนตัวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว อู่เฉียงจ้องมองซินหรานอีกครั้ง เขาเคยมีคำพูดมากมายอยากเอ่ยถามนาง แต่ยามนี้เขากลับรู้สึกว่าตนเองได้คำตอบนั้นจากแววตาห่วงใยที่นางมีให้จอมมารแสนร้ายกาจผู้นั้นแล้ว“ข้าจะคุ้มกันอยู่ด้านนอก” “ขอบคุณพี่อู่เฉียง” นางยิ้มบางๆ มองร่างสูงหันหลังเดินออกไปแล้ว นางยื่นมือไปปิดประตูด้วยตนเองเพื่อให้มั่นใจว่าบานประตูปิดสนิท หญิงสาวระบายลมหายใจเบาๆ เมื่อหมุนตัวกลับมาภาพที่เห็นตรงหน้าก็ทำให้ก้าวเท้าไม่ออก“ข้าต้องเดินลมปราณ” เขาเอ่ยเสียงแหบพร่า แล้วยันตัวเองลุกขึ้นยืนเพื่อถอดเสื้อเปื้อนเลือดของตนออก ใบหน้าหวานเริ่มมีสีเลือดปรากฏ ไฉนอยู่ดีๆ เปลื้องเสื้อผ้าเช่นนี้เล่า นางอยู่กับคนในพรรคมารมาแปดปี แต่ไม่เคยฝึกวรยุทธ์ใดๆ เห็นเพียงอู่เฉียง อู่ชิงและอู่ยินต่อสู้ประมือกัน แต่ไม่รู้ว่ายามต้องลมปราณนี้ต้องเปลื้องเสื้อผ้าเช่นนี้ด้วย“ถ้าอายนักก็ออกไป” เหิงหยางเซิงเห็นนางยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น ทั้งที่เอ่ยตำหนิขับไล่นาง แต่เพราะไม่ต้องการให้นางเห็นเขาในสภาพยับแย่เช่นนี้เพราะใช้เพลงกระบี่อัคนีพิฆาต เขาจึงเจ็บหนักเช่นนี้ ดาบเดีย

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 49.  จัดฉาก

    “คนอื่นๆ ล่ะ คนในหมู่บ้านจะเป็นอย่างไร!” ซินหรานตวาดอย่างลืมตัว เหิงหยางเซิงแม้จะเป็นคนใจดำ แต่ยามนี้กลับไม่กล้าพูดจาทำร้ายจิตใจซินหราน นึกถึงภาพนางที่เป็นเด็กหญิงตัวน้อยไม่พูดไม่จาอยู่นานเป็นแรมเดือน หัวใจที่เคยด้านชาพลันเจ็บแปลบขึ้นมาอีกครา แม้เขาไม่ได้พูดออกไป แต่หญิงสาวกลับเข้าใจได้ ใบหน้าที่แต่เดิมซีดเซียวเพราะตกใจอยู่แล้ว ยามนี้กลับยิ่งไร้สีเลือดเข้าไปอีก สองขาแทบทรุดลงด้วยไร้เรี่ยวแรง จนเหิงหยางเซิงต้องประคองไว้“ไม่ได้”นางพึมพำ นึกเด็กๆ ที่นางเคยดูแล ป้าหวังที่เอางานปักผ้ามาให้นาง ทุกคนในหมู่บ้านที่ที่ดีกับนาง ยามนี้พวกเขามีภัย มีภัยโดยไม่รู้ตัวและไม่อาจหลบหนีได้ทัน นางจะปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้!“เจ้าคิดว่าที่นี่เป็นเกาะเพลิงอัคนีหรืออย่างไร!” เหิงหยางเซิงโต้กลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เขาไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับคนในราชสำนักแม้แต่น้อย “เวลานี้มีคนของพรรคเพลิงอัคนีอยู่ข้างกายแค่ห้าหกคน เจ้าคิดจะใช้คนของข้าปกป้องคนนับร้อยเหล่านั้นหรือ? เจ้าคิดบ้างหรือไม่ว่าไม่ไกลจากนี้เหล่าชาวยุทธฝ่ายธรรมะนั้นรวมพิธีล้างมือในอ่างทองคำของพรรควิหคสวรรค์ คนเหล่านั้นเมื่อเข้าใจว่าข้าผู้เป็นปร

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 48.  จะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปอีก

    โดยไม่รู้ตัวว่าอีกฝ่ายคิดสิ่งใดอยู่ ซินหรานไม่ได้เสียงตอบในคำถามที่ต้องการ นางจึงเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีนิลคู่นั้นจ้องมองนางราวกลืนกินนางลงไปทั้งตัว สายตาของเขาทำให้นางรู้สึกตัว ปล่อยมือใหญ่ในอุ้งมือของตนทันที ทว่าเขากลับพลิกข้อมือเป็นฝ่ายจับมือนางไว้ก่อน ไม่ยินยอมให้ปล่อยนางไป เขาจะไม่ปล่อยนางให้หลุดมือของเขาไปอีก คนที่ถูกตราหน้าเป็นมารปีศาจร้ายเช่นเขา ไยต้องคิดหาวิธีรั้งนางด้วยเล่า? บัดนี้เขาตระหนักได้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำทุกวิธีทางให้นางหวาดกลัวจนไม่กล้าไปจากเขา แต่เมื่อนางไปขุดเอาความกล้าหาญมาจากไหน ฉวยจังหวะที่เขาอยู่ที่หุบเขาเพื่อหลอมกระบี่อัคนีพิฆาตหลบหนีออกมา แต่ ณ เวลานี้ ไม่ว่าเล่ห์กลใดที่รั้งนางไว้ได้ เขายอมหน้าหนาทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งตอนนี้ที่แสร้งทำเป็นว่า รอยแผลนี้ทำให้เขาทุกข์ทรมานเพียงใด “เจ้าเคยเจ็บปวดถึงกระดูกหรือไม่เล่า” เขาเอ่ยพลางจ้องตานาง เก็บทุกความรู้สึกที่อยู่สีหน้าของหญิงสาว “จะ...เจ็บมากเลยหรือ?” แม้เมื่อครู่นางเพิ่งเห็นคนตายมากมาย จนเลือดนองพื้นดิน แต่ยามนี้ความสนใจของนางอยู่ที่มือขวาของเขา “ปะ...เป

DMCA.com Protection Status