Home / โรแมนติก / ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน / Chapter 7. นางคิดว่าตัวเองอายุเท่าไหร่กัน

Share

Chapter 7. นางคิดว่าตัวเองอายุเท่าไหร่กัน

last update Last Updated: 2024-06-20 21:54:26

เพราะเดินอย่างเหม่อลอย กว่าจะรู้ตัวเขามาหยุดยืนอยู่ด้านหลังที่ลานซักล้างแล้ว ลมพัดแรง ผ้าที่ตากอยู่บนราวเชือกนั้นพลิ้วสะบัดไปมา เขามองเห็นร่างบอบบางที่กำลังตากผ้า ใบหน้าหมดจดแดงเรื่อ แขนเสื้อถูกม้วนขึ้นถึงข้อศอกทำให้เห็นท่อนแขนเรียวเล็ก ผมยาวถูกเกล้าขึ้นเป็นก้อนกลมๆ สองข้างบนศีรษะของนาง ทำให้มุมปากของเขากระตุกยิ้มออกมาไม่รู้ตัว

            นางคิดว่าตัวเองอายุเท่าไหร่กัน

            ซินหรานเขย่งปลายเท้า ตากผ้าปูที่นอนรวมทั้งเครื่องนอนจนเรียบร้อยดี ลมแรงเหลือเกิน นางระบายลมหายใจออกทางปาก ยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ซึมใบหน้าของตน นางก้มลงหมายยกตะกร้าผ้าขึ้นแล้วเดินออกมา ทว่าลมที่พัดแรงนั้นทำให้ผ้าของนางปลิวออกจากราวตากผ้า หญิงสาวอ้าปากค้าง ทิ้งตะกร้าลงพื้นแล้วกระโดดคว้าผ้าไว้

            “ผ้า! ผ้าของข้า!”

            อู่เฉียงเห็นผ้าผืนนั้นปลิวลอยในอากาศ เขากระโดดราวเหาะเหินในอากาศ คว้าผ้าผืนนั้นไว้ให้นางได้ทันก่อนปลิวไปไกล

            หญิงสาวยื่นมือไปรับผ้าผืนนั้นมาแล้วรีบเอาไปตากไว้เช่นเดิม ตรวจดูจนมั่นใจแล้วจึงหันมาทางชายหนุ่ม แต่พอเห็นสีหน้าบึ้งตึงแล้วนางรู้ได้ทันทีว่าเขาคงมีเรื่องในใจเป็นแน่

            “พี่อู่เฉียง” ซินหรานส่งยิ้มให้ “พี่จะไปทำภารกิจอีกแล้วใช่ไหม”

            “ฮืม” อู่เฉียงแค่รับคำในลำคอเบา นางเองคงเริ่มชินแล้ว หรือเพราะการมีเขาอยู่หรือไม่มีมันค่าเท่ากัน

            “ระหว่างที่พี่ไม่มีอยู่ ข้าจะค่อยๆ เย็บถุงมือให้พี่นะ พี่คงกลับมาก่อนที่ลมหนาวจะมาเยือน”

            อู่เฉียงนึกถึงวันที่นางให้เขากางมือลงบนกระดาษ เขางุนงงแต่ทำตามอย่างไม่เอ่ยถาม จนกระทั่งนางหยิบพู่กันจุ่มหมึกวาดฝ่ามือที่วางบนกระดาษ เมื่อนางบอกว่าเสร็จแล้ว เขายกฝ่ามือออกเห็นเป็นรูปฝ่ามือของตนเอง นางให้วางมืออีกข้างและทำซ้ำเช่นเดิม

            ‘ข้าจะเย็บถุงมือให้พี่อู่เฉียงนะ’

            แม้เขาไม่ขัดสนเงินทอง เงินรางวัลที่ได้รับมาล้วนเก็บไว้ให้นางทั้งสิ้น แต่ดูแล้วนางเองไม่ใคร่จะอยากได้สิ่งใดเป็นพิเศษ ความจริงแค่ซื้อถุงมือสักคู่สองคู่ไม่ได้ทำให้เดือดร้อนอะไรนัก แต่พอได้ยินว่านางจะเย็บถุงมือให้เขาเอง ความรู้สึกอุ่นวาบเกิดขึ้นในอก เขาไม่กล้าปฏิเสธนาง อาจเรียกได้ว่าเป็นความเห็นแก่ตัว เขาอยากได้ ‘ถุงมือ’ ที่นางเย็บให้เขา แม้จะเป็นเศษผ้าเหลือก็ตามที

            “เจ้าอยู่ที่นี่ดูแลตัวเองให้ดี”

            ซินหรานย่นจมูกใส่ “ข้าไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้วนะ”

            “ฮืม เจ้าไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้ว” โดยไม่รู้ตัว มือหยาบกระด้างยื่นไปแตะศีรษะของนางเบาๆ หญิงสาวยกมือขึ้นปัดมือใหญ่ออก

            “กว่าข้าจะเกล้าผมทรงนี้ได้ตั้งนาน พี่อู่เฉียงอย่ามาทำผมข้ายุ่งซิ” ซินหรานแลบลิ้นใส่ แม้เป็นเสียงบางเบา แต่นางได้ยินเสียงหัวเราะจากริมฝีปากของเขา

            “พี่อู่เฉียงดูแลตัวเองดีๆ ด้วย”

            อู่เฉียงไม่ได้เอ่ยอะไรอีก แปลกใจที่ไยเขาจึงรู้ว่านางอยู่ที่นี่ และที่แปลกใจกว่าคือการยอมรับว่าเขาคิดถึงนาง องครักษ์หนุ่มคว้าตะกร้าผ้าของนางมาถือให้ หญิงสาวจึงเดินกลับมาพร้อมกับเขา พูดคุยหยอกล้อโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดสิ่งใดอยู่ เพียงก้าวกลับเข้ามาในครัวพ่อบ้าน         จูโหย่งเจายืนโต้เถียงกับพ่อครัวเจี่ยนอยู่ก่อนแล้ว

            “ซินหรานกลับมาพอดี” พ่อครัวเจี่ยนถอนหายใจเฮือกใหญ่

            “มีอะไรหรือเจ้าคะ” นางถามด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่กล้าสบตากับพ่อบ้านจูโหย่งเจาโดยตรง นางเกรงว่าพ่อบ้านรู้เรื่องในห้องนอนของท่านจอมมาร

            “แม่นางจางเย่วถิงมาถึงแล้ว พอก้าวเท้าเข้ามาในคฤหาสน์ก็ถามหาเจ้า”

            “เจ้าเป็นพ่อบ้านประสาอะไร ประมุขพรรคกระเรียนแดงมาถามหาซินหราน ทำไมไม่บอกไปเล่าว่านางไม่อยู่!”

            “ก็ข้าจะพูดปดได้อย่างไร ท่านจอมมารสั่งข้าให้มาเชิญซินหรานไปพบแม่นางจางด้วยนี่”

            ซินหรานเหลือบตามองไปยังอู่เฉียง แม้เขาไม่พูดอะไรแต่ขบฟันจนแทบเป็นสันนูน นางจึงยื่นมือไปแตะท่อนแขนของเขาแล้วแสร้งทำเป็นหัวเราะเสียงใส

            “แม่นางจางมาที่นี่ทุกปีอยู่แล้ว นางเห็นข้าเป็นของเล่นไว้หยอกล้อ ไม่มีอะไรหรอกเจ้าค่ะ”

            ทุกคนในพรรคเพลิงอัคนีล้วนปกป้องนาง เว้นบรรดาหญิงบำเรอของท่านจอมมาร ซินหรานจับแขนเสื้อของตัวเองให้เรียบร้อย เห็นท่าทีฮึดฮัดไม่พอใจของพ่อครัวเจี่ยนแล้วนางจึงได้แต่ส่งยิ้มให้และเดินตามหลังพ่อบ้านจูโหย่งเจาไปทันที

            ซินหรานเดินตามไปอย่างเงียบๆ และสำรวมเช่นทุกครั้ง        จางเย่วถิงเป็นประมุขพรรคกระเรียนแดง สามปีก่อนนางเดินทางมาที่นี่เพื่อให้ท่านจอมมารถอนพิษให้ แต่พิษนั้นไม่สามารถถอนได้หมดสิ้น ทุกปีในช่วงเวลานี้จางเย่วถิงจะเดินทางมาที่นี่ 

            ตั้งแต่ครั้งแรกที่จางเย่วถิงเห็นซินหราน ดวงตาของนางก็เป็นประกายขึ้นมาทันทีราวกับเห็นอาหารอันโอชะ ท่าทางเหมือนจะปอกเปลือกนางออกแล้วกัดกินนั้นทำให้นางหวาดกลัวมาก มากเสียจนได้แต่ยืนนิ่งงันเหมือนเท้าถูกตะปูตอกตรึงไว้ แต่ผู้อื่นกลับเข้าใจว่านางไร้ความหวาดกลัวกล้ายืนเผชิญหน้ากับประมุขพรรคกระเรียนแดง

            ‘ข้าชอบนาง ยกนางให้ข้าเถอะ!’

            ซินหรานตะลึงงันอย่างทำสิ่งใดไม่ถูก แน่นอนว่านางเคยเห็นท่านจอมมารให้หญิงบำเรอของตนมาดูแล ‘แขก’ ของท่าน แต่นางเป็นหญิงรับใช้และเวลานั้นนางอายุแค่สิบสาม ร่างกายนางมิได้มีสิ่งใดดูเย้ายวนใจผู้ใดได้เลยสักนิด นักฆ่าของพรรคเพลิงอัคนีที่เป็นสตรีและใช้มารยาหญิงให้การสังหารชายมีหลายคนนั้น แต่ละนางล้วนงามพิลาศ  เพียงชายตาก็ทำให้บุรุษคลุ้มคลั่งได้แล้ว

            ‘ถ้าเจ้ายังต้องการให้ข้าถอนพิษให้ ก็เลิกความคิดนั้นเสีย’

            จางเย่วถิงเพียงแค่ยักไหล่ ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ระหว่างที่ประมุขพรรคกระเรียนแดงพำนักพักที่นี่ก็มักเรียกนางใช้รับใช้ ทั้งที่ตนเองก็นำคนสนิทมาปรนนิบัติอยู่แล้ว นางวิ่งวุ่นหัวหมุนจนอยากหลั่งน้ำตา แต่สุดท้ายนางก็รอดพ้นมือจางเย่วถิงอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน ทุกปีที่จางเย่วถิงมาถอนพิษ จะเรียกหานางทุกครั้ง ถึงจางเย่วถิงจะสรรหาเรื่องมาใช้งานนางสารพัดจนคนในพรรคเพลิงอัคนีหมั่นไส้และพาลไม่ชอบหน้านาง แต่จางเย่วถิงก็มักมีของมาฝากนางเสมอ นางจึงรู้ว่าจางเย่วถิงนิสัยเหมือนเด็กมากกว่าคนเป็นประมุขพรรคกระเรียนแดงเสียอีก หรือเพราะนางเคยพบประมุขพรรคมารแค่ท่านจอมมารเหิงหยางเซิงเท่านั้น

            พ่อบ้านจูโหย่งเจาพาซินหรานเข้าไปในห้องรับรองแขก ที่ตำแหน่งประมุขนั้นมีเหิงหยางเซิงนั่งดื่มสุรารออยู่ก่อนแล้ว ส่วนด้านข้างคือคือหญิงสาวผู้สวมอาภรณ์สีแดงเลือดนก เครื่องประดับของนางเป็นทองคำจึงดูโดดเด่นสะดุดตา โดยเฉพาะสิ่งที่รัดรวบเอวกิ่วนั่นคือแส้กระดูกงูสีทองอร่าม

            “น้องซินหราน” 

จางเย่วถิงไม่ปกปิดความดีใจที่ได้เห็นหน้าหญิงสาว นางรีบลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมาจับมือเรียวเล็กของซินหรานด้วยท่าทีสนิทสนม บรรดาคนสนิทที่ติดตามมาด้วยนั้นเปิดเผยรอยยิ้มขบขัน แต่ซินหรานยิ้มไม่ออกเมื่อปลายจมูกของจางเย่วถิงยื่นมาสูดดมใกล้ใบหูของนาง

            “ซินหราน” จางเย่วผิงขมวดคิ้ว “ปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่?”

            เหตุใดมีแต่คนถามนางด้วยประโยคนี้นะ!

            “สิบหกเจ้าค่ะ”

ซินหรานตอบไปตามตรง ถึงนางจะไม่อยากพูดถึงเรื่องราวในอดีตของตนเอง แม้กระทั้งชื่อเดิมของนาง นางจงใจลืมไปหมดสิ้น แต่เรื่องวันเกิดและอายุที่แท้จริงนั้น นางจำได้ดี อย่างน้อยก็เป็นวันที่มารดาเจ็บปวดเพื่อให้นางได้เกิดมา

            จางเย่วถิงหันกลับไปมองเหิงหยางเซิงที่นั่งดื่มสุราหน้าตาเรียบเฉย แล้วก็หันกลับมามองใบหน้าที่ไร้การแต้มแต่งใดๆ ก่อนถอนหายใจเบาๆ คว้ามือเล็กของซินหรานกึ่งลากกึ่งจูงมานั่งข้างกัน

Related chapters

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 8. ตื่นตกใจ

    ซินหรานเก็บอาการตื่นตกใจซ่อนไว้ด้วยท่าทีนิ่งเฉย บรรดาคนสนิทที่มาพร้อมกับ จางเย่วผิงค้อมตัวแล้วถอยออกไปอย่างเงียบเฉียบ บ่าวรับใช้ผู้อื่นนำสุราอาหารมาวางไว้แล้วถอยออกไป ในห้องจึงเหลือเพียงแค่เหิงหยางเซิง จางเย่วถิงและซินหราน นางกลอกตามองไปยังเหิงหยางเซิง เมื่อไม่เห็นท่านจอมมารมีปฏิกิริยาใด นางจึงได้แต่ก้มหน้ายกกาสุรารินใส่จอก แต่จอกสุราหยกยังไม่ทันถูกยื่นไปใส่มือของจางเย่วถิง ซินหรานก็รู้สึกถึงแรงกระแทกจนทำให้จอกสุราตกลงพื้น นางได้แต่กระพริบตาปริบๆ กว่ารู้สึกตัวข้อมือของนางก็ถูกคว้าไว้กระชากอย่างแรงจนนางลุกขึ้นจากเก้าอี้ข้างจางเย่วถิง “นายท่าน” ซินหรานเอ่ยเสียงเบา รู้สึกเจ็บข้อมือแต่ไม่กล้าร้องโอดครวญออกไป “ระวังหน่อยท่านจอมมาร กระดูกนางเปราะบางนัก ประเดี๋ยวแตกหักขึ้นมาจะลำบากรักษา” จางเย่วถิงยกกาสุราขึ้นแหงนหน้าแล้วกรอกสุราลงคอตนเอง “เจ้าอยากเห็นหน้านาง เจ้าก็ได้เห็นแล้วนี่” จางเย่วถิงทำเสียงจิ๊กจั๊กในลำคอ แลบลิ้นเลียริมฝีปากที่เปรอะสุรา ดวงตาเป็นประกายยั่วล้อแล้วยื่นหน้าไปทางเหิงหยางเซิง “ข้าไม่ได้อยากเห็นหน้านา

    Last Updated : 2024-06-20
  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 9. ที่แท้นางเป็นคนโปรดของท่านจอมาร

    “เอาปลาแห้งไปด้วย” พ่อครัวเจี่ยนหน้าบึ้งตึงแต่จิตใจดี ไม่ต่างจากพ่อบ้านจูงโหย่งเจานัก แม้ไม่ใช่หน้าที่ของเขาแต่เห็นนางใส่ใจเรื่องเล่านี้ก็รู้สึกดี ไม่เพียงแค่ อู่เฉียง หากคนอื่นที่ออกไปปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งของท่านจอมมาร นางย่อมช่วยจัดเตรียมเสบียงเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ให้เสมอ “เจ้าค่ะ” นางยิ้มกว้างแล้วเดินไปหยิบปลาแห้งมาเพิ่มให้อู่เฉียง ปกตินักฆ่าไปมาไร้ร่องรอย ทว่าสำหรับอู่เฉียง ก่อนเดินทางเขาต้องมาบอกนางก่อนเสมอ เช่นครั้งนี้ด้วย เขาหยุดยืนมองร่างบอบบางในชุดหญิงรับใช้ นึกถึงถ้อยคำที่ฝากฝั่งให้อู่ชิงและอู่ยินช่วยดูแลซินหราน ‘อยู่ที่นี่คนที่จะทำอันตรายซินหรานก็มีแค่ท่านจอมมารเพียงผู้เดียว’ อู่ชิงเอ่ยพร้อมถอนหายใจเบาๆ ‘เจ้าก็รู้ ไม่วันนี้หรือวันหน้า อย่างไรซินหรานก็ไม่ใช่สตรีที่เจ้าจะครอบครองได้’ อู่ยินได้แต่ปลอบใจ อู่เฉียงได้แต่เก็บงำถ้อยคำของตนเองไว้หมดสิ้น เขารู้ แม้ท่านจอมมารไม่เคยเอ่ยอะไรออกมาอย่างชัดเจน แต่สายตาและการแสดงออกนั้น ซินหรานไม่ได้เป็นเพียงแค่สาวใช้ข้างกายเท่านั้น มีบางอย่างที่ลึกซึ้งมากนัก เป็นสิ่งที่บุรุษผู้นั้นอาจยังไ

    Last Updated : 2024-06-20
  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 10. อย่าหาว่าข้าไม่เตือน

    พ่อครัวเจี่ยนมองไปรอบๆ ยังดีที่ที่นี่เป็นห้องเก็บฟืน ต่อให้ฝนตกก็ยังไม่เปียกปอน อาจจะหนาวสักหน่อยแต่เห็นนางเอาผ้าห่มมาเพิ่มก็วางใจ อย่างไรเขาก็รู้สึกห่วงใยเจ้าเด็กซุกซนคนนี้เหมือนเป็นลูกเป็นหลาน เห็นนางมาตั้งแต่แปดขวบ ตอนนี้เป็นหญิงสาววัยสิบหกแล้ว “รีบนอนเสีย ยังมีงานให้ทำแต่เช้า” “ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ” นางยังแย้มยิ้มราวกับโทษที่ได้รับครั้งนี้เป็นของขวัญมากกว่าโทษ เมื่อพ่อครัวใหญ่ออกไปแล้ว นางจึงปิดประตูแล้วจัดที่หลับที่นอนให้เรียบร้อยก่อนจะนั่งบนเสื่อ หยิบเอาผ้าออกมาตัดเป็นรูปฝ่ามือของ อู่เฉียง มือของเขาทั้งหยาบกระด้างและมีรอยแผลเป็น ยามหิมะโปรยปรายเขาต้องเจ็บปวดจนเข้ากระดูกเป็นแน่ นางตัดผ้าเสร็จแล้วกำลังจะร้อยด้ายกับเข็มเพื่อเนาผ้าสองชิ้นนี้เสียก่อน แต่เปลวเทียนในห้องวูบไหว มือเล็กจึงชะงักไปและเพียงครู่หนึ่ง ฝนก็เทลงมานางนั่งบนเสื่อ กระเถิบตัวเองไปชิดผนังด้านหนึ่ง อีกด้านคือท่อนไม้ขนาดต่างๆ ที่เรียงอย่างเป็นระเบียบเพื่อสะดวกในการนำมาใช้งาน แน่นอนว่าเป็นคำสั่งของพ่อครัวเจี่ยน นางไม่ใช่คนกลัวเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า อยู่ในพรรคเพลิงอัคนีมาแปดปี ได้ยินเสียงก้อ

    Last Updated : 2024-06-20
  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 11. เหตุใดมีบาดแผล

    “ซินหราน เสร็จธุระของเจ้าหรือยัง รีบมาจัดห้องนอนให้ท่านจอมมารประเดี๋ยวนี้!” “เจ้าค่ะ ” หญิงสาวรีบขานรับ มือเล็กผลักหีบใบนั้นเข้าไปในชั้นแล้วรีบหมุนตัวเดินออกมาอย่างรวดเร็ว อากาศชื้นฝนเช่นนี้ ท่านจอมมารไม่ค่อยชอบนัก นางเห็นแค่เจ้าของร่างสูงในอาภรณ์สีดำสะบัดแขนเสื้อเดินหายไปทางหอฝึกยุทธ์แล้ว นางก็รีบเข้าไปในห้องนอนของท่านจอมมารจัดการเก็บกวาดทำความสะอาดเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและจุดกำยานกลบกลิ่นชื้นฝนในห้อง ครบสามวันแล้ว นางคงไม่ต้องไปนอนที่ห้องเก็บฟืนแล้วซินะ หญิงสาวระบายลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ยกหลังมือขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้า นางหอบผ้าปูที่นอนผืนเก่าแล้วเดินออกมาเพื่อนำไปซักทำความสะอาด เครื่องนอนและเสื้อผ้าของท่านจอมมารมีแต่นางเท่านั้นที่ทำความสะอาด แบบนี้จะเรียกว่านางเป็นคนโปรดได้อย่างไร บ่าวรับใช้มีตั้งมากมายแต่นางเป็นคนเดียวที่ต้องทำหน้าที่เหล่านี้ ฝนจางจากท้องฟ้าไปมากแล้ว เหลือเพียงละอองโปรยปรายแตะเส้นผม นางสูดกลิ่นฝนเข้าเต็มปอด แน่นอนว่านางชอบกลิ่นฝนอาจเพราะเป็นเติบโตมากับท้องไร่ท้องนา จึงคุ้นชินกับชีวิตที่อาศัยฟ้าฝนในการดำรงชีพแล้ว แล้วคน

    Last Updated : 2024-06-20
  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 12. นี่มันอะไรกัน

    “มาแล้วรึ” เหิงหยางเซิงเอ่ยขึ้นแล้วยื่นมือไปหยิบถ้วยใส่เลือดงูพิษขึ้นมาดื่มอย่างไม่สนใจอะไร เขายกดื่มรวดเดียวจนหมด ตวัดปลายลิ้นเลียริมฝีปากปรับลมปราณของตนให้รับพิษงูก่อนจะยื่นถ้วยส่งคืนพ่อบ้าน “ท่านจอมมาร ปีนี้นางอายุสิบหกแล้ว” แม้พ่อบ้านจูโหย่งเจาไม่เอ่ยชื่อ แต่ก็รู้กันว่าคนที่พูดถึงคือซินหราน “สุขภาพร่างกายของนางแข็งแรงดี หากท่านจอมมารจะใช้โลหิตของนาง...” “เจ้าออกไปได้” พ่อบ้านจูโหย่งเจาอ้าปากเหมือนจะส่งเสียงแต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ก้าวถอยหลังไปอย่างเงียบๆ แม้เขาจะเอ็นดูนาง แต่หากโลหิตของนางช่วยยับยั้งพิษในกายของท่านจอมมารได้ เขาก็ไม่ลังเลที่จะสังหารนาง เหิงหยางเซิงเดินลมปราณอยู่ครู่หนึ่ง เขาใช้พิษต้านพิษมาหลายปีหลังจากบาดเจ็บเพราะถูกลอบทำร้ายระหว่างการฝึกยุทธ์ พิษยังขับออกไม่หมด เมื่อถึงคราวที่ฟ้าหลั่งฝนทีไหร่ ราวกับโสตประสาททั้งหมดรับรู้สิ่งรอบข้างชัดเจน กลิ่น เสียง สิ่งที่ได้เห็น ล้วนทำให้เขาหงุดหงิดพลุ่งพล่านต้องการสังหารคนเพื่อให้จิตใจสงบทุกคราวไป แต่ยามนี้ขอมีเพียงนางอยู่ใกล้ จิตใจของเขาพลันสงบโดยมิต้องสังหารใครให้เหม็นกล

    Last Updated : 2024-06-20
  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 13. นายท่าน!

    พื้นดินที่เปียกชื้นต้นหญ้าอ่อนถูกพรมด้วยน้ำค้าง ริมฝีปากอิ่มเผยอขึ้นอย่างตกใจเมื่อรู้สึกว่าตนเองกำลังหงายหลัง นางหลับตาเตรียมรับความเจ็บปวดที่จะได้รับ ทว่าร่างของนางไม่ได้กระแทกพื้นอย่างที่คิด แต่เอนพิงแผ่นอกแกร่งที่มายืนซ้อนอยู่ด้านหลังอย่างไม่รู้ตัว ร่างอ่อนนุ่มเอนเข้าสู่แผ่นอกอย่างไม่ได้ตั้งใจ แน่นอนว่าคนไร้ วรยุทธ์อย่างนางย่อมไม่รู้ว่าเขาเดินประชิดติดอยู่ด้านหลังนานแล้ว เดิมทีเหิงหยางเซิงคิดจะเดินลมปราณเพื่อปรับสมดุลในร่างกาย ทว่าคืนนี้พระจันทร์เต็มดวง เลือดในกายเต้นระริก หงุดหงิดและร้อนรุ่มจนไม่อาจทำสมาธิได้ กระนั้นเขารับรู้ได้ว่าร่างเล็กที่อยู่ห้องนอนติดกันนั้นเปิดประตูออกอย่างเร่งรีบ เขาจึงติดตามร่าบอบบาง ใต้แสงจันทร์กระจ่างที่ไม่ต้องอาศัยแสงจากตะเกียงหรือโคมไฟ ร่างเล็กในชุดนอนเรียบง่ายยืนอยู่ในแปลงดอกไม้นานาพรรณ ผิวขาวดุจหยกขับเน้นให้นางดูงดงามราวภาพวาด เส้นผมที่มีเพียงผ้าผืนหนึ่งรวบมัดไว้ทำให้ร่างของนางดูเย้ายวนตา เหิงหยางเซิงแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตนเองราวกับคนกระหายน้ำ ก้าวเท้าติดตามร่างบอบางที่ไม่รู้เลยว่าเขาเข้ามาใกล้เพียงใ

    Last Updated : 2024-06-20
  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 14. กลัว

    เพราะความกลัวทำให้นางอาศัยช่วงจังหวะที่เขายืดตัวอยู่เหนือร่างนาง หญิงสาวพลิกตัวหนีคลานดุจสุนัขออกมาได้ไม่กี่ก้าวข้อเท้าก็ถูกกระชากไว้ก่อน “นายท่าน! พอ...พอเถอะเจ้าค่ะ” นางอ้อนวอนและรู้สึกได้ว่าเขาถอดร้องเท้าของนางออกตามด้วยถุงเท้า คลึงเท้าของนางด้วยนิ้วมือของเขา “อื้อ” นางกลั้นเสียงครางของตัวเองปล่อยให้มือใหญ่และหยาบกร้านเลื่อนมือลูบไล้เหมือนสำรวจเรือนร่างของนาง ยามนี้ร่างกายทั้งตัวเหลือเพียงกางเกงชั้นในตัวน้อย นางยกมือขึ้นปกปิดทรวงอก แต่ครั้งนี้เขาโถมเข้าใส่ รวบมือของนางไว้เหนือศีรษะ กดนางไว้ใต้ร่างแล้วใช้ริมฝีปากพรมจูบบนเรือนร่างของนางอย่างตีตราเป็นเจ้าของ นางเป็นของเขา เป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น “ยะ...อย่า” ซินหรานร้องห้ามเสียงขาดห้วง มือใหญ่ลากกางเกงชั้นในตัวน้อยออกพ้นเรียวขา นิ้วยาวที่เก็บกรงเล็บมารแล้วแทรกเข้าไปแตะกลีบดอกไม้อ่อนบางที่สั่นระริก นิ้วกร้านจากการจับกระบี่แทรกเข้าไปจนสุดโคนนิ้ว นางสะดุ้งสุดตัว จ้องมองคนที่อยู่ด้านบนแล้วส่ายหน้าไปมาจนผมยาวคลี่สยาย แม้ไม่มีเตียงอุ่นมารองรับแต่ยามนี้หญ้าอ่อนนุ่มและเสื้อผ้าที่ถูก

    Last Updated : 2024-06-20
  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 15. ลืมหน้าที่ของตนเองหรือไร

    พ่อครัวเจี่ยนหันมามองเต็มๆ ตา ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเด็กคนนี้ตื่นสายสักครา แต่เห็นนางหลบตาเขาแล้วจึงไม่ได้ซักถามอะไร เรียกนางไปช่วยงานเช่นทุกวัน ซินหรานทำตัววุ่นพยายามไม่คิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา นางรู้สึกว่าทุกคนทำตัวปกติกับนาง คงไม่มีผู้ใดล่วงรู้เรื่องที่เกิดขึ้น นางจึงทำตัวเป็นปกติเช่นที่เคยเป็นมา ทว่าร่างกายที่บอบช้ำเคลื่อนไหวได้ไม่สะดวกนัก ทั้งที่ตั้งใจเอาขนมไปส่งให้อู่ชิงกับอู่ยิน นางกลับเดินได้ไม่ถึงที่ ไม่รู้อย่างไรอู่ยินโผล่มายืนเบื้องหน้าไร้สุ่มเสียงดุจเงาภูติผี หญิงสาวไม่ได้สะดุ้งตกใจแต่ยังฉีกยิ้มด้วยความดีใจที่เขามาปรากฏกายพอดี “ข้าจะเอาขนมมาส่งให้เจ้าค่ะ” ซินหรานยื่นตะกร้าให้ แต่อีกฝ่ายยืนกอดอกนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เห็นแววตาใสซื่อคู่นั้นแล้วลอบถอนหายใจแล้วยื่นมือไปรับ “ไม่สบายก็พักผ่อนเสีย” “ข้า...ข้าสบายดี” “สบายดี? แทบเดินไม่ไหว!” ซินหรานพูดอะไรไม่ออก คำพูดกำกวมของอู่ยินทำให้ใบหน้าของนางไร้สีเลือด พลันร่างของอู่ชิงปรากฏขึ้นแล้วยื่นมือไปดีดหน้าผากของซินหรานอย่างหยอกเย้า “หน้าตาซีดเซียวเช่นนี้

    Last Updated : 2024-06-20

Latest chapter

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 56.  จบ

    ดวงตาร้อนแรงที่จ้องมองเหมือนจะกลืนกินทำให้ซินหรานต้องหลับตารับรู้สัมผัสร้อนผ่าวจากเรียวลิ้นของเขาที่แทรกเข้ามาในโพรงปาก มือใหญ่ปล่อยฝ่ามือนางที่อาจไม่ขยับไปจากแผ่นอกของเขาได้เปลี่ยนมัดร่างนางให้แนบชิดกับร่างของเขาแน่นขึ้นราวกับจะผสานเป็นเนื้อเดียว ลิ้นร้อนไล่ลุกเร้ากับลิ้นน้อยๆ จนยอมจำนนให้เกี่ยวกระหวัด เสียงครางครือในลำคอของหญิงสาวทำให้บุรุษหนุ่มฮึกเฮิมดันร่างบางไปชิดก้อนหินกลมเกลี้ยงก้อนใหญ่ให้แผ่นหลังของนางแนบชิด ดอกบัวคู่งามจึงเชิดชันท้าท้ายให้บุรุษหนุ่มอ้าปากครอบครอง เม้มริมฝีปากดูดดึงจนหญิงสาวไม่อาจกลั้นเสียงครวญครางของตนเองได้ “ประเดี๋ยวมีใครมาเห็น” นางใช้สองมือที่อ่อนแรกผลักเขาออก “ไม่มีหรอก” เขาหัวเราะชั่วร้ายในลำคอ “หากมีก็แค่ควักตาออกเสีย” ซินหรานไม่รู้จะโต้เถียงอย่างไร เขาดึงดันจะกลืนกินนางและเขาก็ทำให้นางไม่เหลือสติสัมปชัญญะใดๆ อีก ราวกับร่างกายของนางก็โหยหิวสัมผัสของเขาเช่นกัน นางถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเขายอมเลิกทรมานทรวงอกของนาง ทว่าริมฝีปากร้ายพรมจูบหน้าท้องของนาง เพราะรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร นางรีบร้องห้ามทั้งที่ตัวเองอ่

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 55.  คำสั่งแรก

    ใครเลยจะรู้ว่าคำสั่งแรกในฐานะฮูหยินของประมุขพรรคเพลิงอัคนีคือการสั่งให้ทุกคนเดินทางพร้อมกันไม่มีแยกเป็นสองขบวนตามที่เหิงหยางเซิงตกลงกับเฉินเอ๋อร์ “ตั้งแต่คลอดเฉินเอ๋อร์ออกมา เขาไม่เคยห่างจากข้าเลยสักครั้ง ท่านจะผลักไสให้ข้ากับลูกแยกกันได้อย่างไร” เหิงหยางเซิงได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรม แม้หญิงสาวผู้นี้จะยังคงเป็นซินหรานที่แลดูอ่อนแอบอบบางไร้ปากเสียง แต่ยามที่นางต้องการสิ่งใดก็ไม่นิ่งเงียบอีกต่อไป แต่อย่างน้อยเขาก็ผลักไสให้อู่เฉียงไปไกลหูไกลตา และจางเย่วถิงที่แสร้งทำเป็นอยากเดินทางด้วย แต่เพราะนางยังต้องการยาอายุวัฒนะนั้นอยู่จึงออกไล่ล่าช่วงชิงยาวิเศษที่ถูกเปลี่ยนมือไปแล้ว ก่อนเอ่ยคำลา ซินหรานคืนหยกประจำกายของจางเย่วถิง ที่ผ่านมานางไม่เคยคิดว่าหยกชิ้นนี้มีความหมายมากขนาดนี้ แม้สิ่งนี้จะทำให้นางออกคำสั่งคนของพรรคกระเรียนแดงได้ก็ตาม แต่จางเย่วถิงกลับยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมาแล้วเอ่ยปาก “สิ่งใดที่ข้าให้แล้วย่อมไม่เอาคืน ถือเสียว่าข้าให้เป็นของขวัญเจ้าก็แล้วกัน” ด้วยเหตุนี้ซินหรานจึงไม่อาจปฏิเสธได้อีก นางเก็บหยกชิ้นนั้นไว้แล้ว

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 54.  ส่งท้าย

    “อู่ชิงอู่ยินเอาม้าของข้าให้อู่เฉียงไป”“ขอรับ” คนที่อยู่ด้านนอกรีบตอบรับ หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายผ่านไป เดิมทีจอมมารเหิงหยางเซิงต้องการเดินทางกลับเกาะเพลิงอัคนีทันทีและแน่นอนว่ากลับไปครั้งนี้มีฮูหยินติดตามกลับไปด้วย ทว่าเมื่อเร่งรีบออกจากหมู่บ้านมาเพื่อไม่ต้องการพบกับคนของทางการ ทั้งหมดจึงได้ไปอาศัยหลบอยู่อีกหมู่บ้านไม่ไกลมากนักเพื่อให้อู่เฉียงได้รักษาตัว แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือพระสนมหลิวเสียนเฟยผู้นี้ไม่ยอมเดินทางกลับเมืองหลวง“ข้าจะอยู่ดูแลผู้มีพระคุณสักสามสี่วันจะเป็นไรไป” แม้นางจะไม่ให้ใครเอ่ยถึงนางในฐานะพระสนมคนโปรดขององค์ฮ่องเต้ แต่ลักษณะท่าทางสูงส่งแม้กระทั้งน้ำเสียงเย่อหยิ่งถือดีนั้นก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ เหิงหยางเซิงผู้เป็นประมุขพรรคมารมิชอบใจท่าทีเช่นนี้ เขาต้องการเดินทางกลับอยู่ทุกวันคืนไม่ใช่เพียงไม่ชอบท่าทีของสตรีผู้นี้แต่เพราะไม่ต้องการให้ซินหรานอยู่ใกล้อู่เฉียงแม้บาดแผลจะทำให้เสียเลือดมากแต่เพราะมีพ่อบ้านจูโหย่งเจาอยู่จึงดูแลรักษาอู่เฉียงให้ฟื้นกำลังได้อย่างรวดเร็ว ในวันที่สามก็สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ปกติ และถูกจอมมารเหิงหยางเซิงขึงตาขับไล่อย่างไม่ไว้หน้า เ

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 53. ข้าคือจอมมาร

    สุดท้ายก็ไม่ต่างจากสุนัขขี้เรื้อนไม่เหลือหน้าตาให้หยัดยืนใน ยุทธภพ เปลี่ยนแปลงตนเอง เข้าไปในวังวนของวังหลวง หวังให้ตำแหน่งของตนสูงสุด แต่สุดท้ายกลับถูกเจ้าเด็กเมื่อวานซืนทำลายป่นปี้ ด้วยความแค้นทำให้กั๋วกงกงลืมกลยุทธไปหมดสิ้นต่อสู้เหมือนคนตาบอดสะเปะสะปะไปมา ยิ่งสู้ยิ่งไม่อาจยอมรับความแพ้พ่าย หางตาเห็นสตรีสวมหน้ากากผู้นั้นยืนอยู่คนเดียว จึงเปลี่ยนเป็นพุ่งเป้าไปที่หญิงสาวบอบบาง ซินหรานเบิกตากว้างที่จู่ๆ กั๋วกงกงเปลี่ยนเป้าหมายพุ่งมาที่นาง ทว่าเมื่อประสายสายตากันกลับเป็นกั๋วกงกงที่ชะงักงันแล้วกรีดร้องคลุ้งคลั่ง “ไม่จริง! ข้าจะไม่ตายเช่นนั้น! ข้าไม่มีวัน...!” ยังไม่ทันจบประโยคดี แสงสีเพลิงจากกระบี่อัคนีพิฆาตก็แทงทะลุร่างของกั๋วกงกง ดวงตาคู่นั้นก้มมองปลายกระบี่ที่ทะลุหน้าอกตนเอง ใบหน้าบิดเบี้ยวเอี้ยวมองไปด้านหลัง เห็นเพียงรอยยิ้มโหดเหี้ยมของเหิงหยางเซิง เขาบิดข้อมือทำให้กระบี่ควานเนื้อเรียกโลหิตให้หลั่งออกมาจนนองพื้น “เจ้า...เจ้ามัน...มาร...ปีศาจ...ร้าย” “ถูกต้อง ข้าคือจอมมารเหิงหยางเซิงแห่งพรรคเพลิงอัคนี” เพียงชั

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 52. อย่าสบตา

    ไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่นางเป็นเด็กแปดขวบ หญิงสาวเบิกตาโต ความทรงจำที่เลือนลางไปเต็มทีแล้วกลับเด่นชัดขึ้นมาอีกครั้ง บ้านของนางไฟไหม้ บิดามารดาฉุดแขนให้นางวิ่งออกมา ทว่าบิดาถูกคนร้ายใช้ดาบฟันกลางหลัง แต่กระนั้นก็ยังกอดนางกับมารดาไว้ คนร้ายหัวเราะทั้งที่มารดาหวีดร้องเหมือนคนเสียสติ พุ่งเข้าไปใช้เพียงมือเปล่าทุบตีคนเหล่านั้น หนึ่งนั้นใช้ฝ่ามือฟาดใส่หน้ามารดาถึงกับเซถลาล้มลง พวกมันหัวเราะร่ากระตุกเท้ามารดาไว้แล้วฉีกทึ้งเสื้อผ้าของมารดา‘หนีไป! หนีไป!’เด็กน้อยตัวแข็งทื่อก้าวเท้าไม่ออก ร่างเล็กของเด็กหญิงวัยแปดขวบถูกฉุดกระชากอย่างแรงจนแขนเสื้อของเด็กหญิงขาด เด็กหญิงตัวน้อยหวีดร้องสุดเสียง พยายามสะบัดแขนขาที่ถูกเกาะกุมด้วยชายร่างใหญ่หลายคนที่ล้อมตัวนางอยู่ เด็กหญิงสู้แรงชายเหล่านั้นไม่ได้ ร่างของนางถูกยกขึ้นเหนือพื้นแขนสองข้าง ขาสองข้างถูกมือสกปรกจับยกขึ้น แม้น้ำตาไหลอาบแก้มแต่นางยังมองเห็นเปลวเพลิง ผู้คนที่ถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด บนพื้นนองไปด้วยเลือดสีแดงสด ท้องฟ้าถูกย้อมด้วยสีแดงของเปลวเพลิง เด็กหญิงหวีดร้องจนเจ็บคอไปหมด ราวกับมีเลือดผสมน้ำลาย เสียงหัวเราะราวกับคนเสียสติดังขึ้น

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 51. นางเป็นฮูหยินของข้า

    อู่เฉียงได้ยินเสียงเปิดประตูจึงหันกลับมามองพร้อมกับพระสนมหลิวเสียนเฟยที่ปรายตามองเล็กน้อย ซินหรานก้าวออกมายืนแล้วกวาดตามองเหมือนค้นหาสิ่งผิดปกติ “เอ่อ...ข้าคงรู้สึกไปเอง เหมือนมีผู้อื่นอยู่ที่นี่” ซินหรานอึกอักหน้าแดง นางคงกังวลเกินเหตุไป พระสนมหลิวเสียนเฟยส่งยิ้มเอ็นดูให้ ได้ยินว่าหญิงสาวผู้นี้อายุยี่สิบแล้วและมีลูกชายน่ารัก แต่ลักษณะท่าทางยังเหมือนเด็กสาวมิได้ออกเรือน ยามเขินอายก็แก้มแดงระเรื่อ ช่างดูไร้เดียงสานัก พลันอดคิดถึงตนเองยามเป็นเด็กสาวไม่ได้ นางเหม่อลอยไปครู่หนึ่งสายตาดุจตาหงส์สังเกตสิ่งที่อยู่ในมือของซินหรานนั้นคุ้นตา จึงเอ่ยถามออกไป “นี่นะหรือ?” ซินหรานยื่นหน้ากากอันนั้นส่งให้พระสนม แต่เมื่ออีกฝ่ายย้ำให้พูดคุยกับนางเช่นเดียวกับคนธรรมดาทั่วไป ซินหรานจึงเอ่ยกับอีกฝ่ายดุจสนทนากับคนที่ฐานะเท่าเทียมกัน “เจ้าได้หน้ากากนี่มาจากที่ใด” พระสนมหลิวเสียนเฟยเอ่ยถาม ดวงตามีประกายความตื่นเต้นไม่น้อย “เรียนตามตรง ท่านจอมมารให้ข้ามา เป็นหนึ่งในเครื่องบรรณาการที่ส่งมาให้ท่านจอมมาร แต่ข้าจำไม่ได้แล้วว่ามาจากที่ใด” “เจ้าเคยใช้หรือไม่?” ซินหรานอึกอักอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยไปตรง “ครั้

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 50. ถ้าอายนักก็ออกไป 

    พระสนมหลิวเสียนเฟยมิได้ดึงดัน พยักหน้ารับอย่างเข้าใจและหมุนตัวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว อู่เฉียงจ้องมองซินหรานอีกครั้ง เขาเคยมีคำพูดมากมายอยากเอ่ยถามนาง แต่ยามนี้เขากลับรู้สึกว่าตนเองได้คำตอบนั้นจากแววตาห่วงใยที่นางมีให้จอมมารแสนร้ายกาจผู้นั้นแล้ว“ข้าจะคุ้มกันอยู่ด้านนอก” “ขอบคุณพี่อู่เฉียง” นางยิ้มบางๆ มองร่างสูงหันหลังเดินออกไปแล้ว นางยื่นมือไปปิดประตูด้วยตนเองเพื่อให้มั่นใจว่าบานประตูปิดสนิท หญิงสาวระบายลมหายใจเบาๆ เมื่อหมุนตัวกลับมาภาพที่เห็นตรงหน้าก็ทำให้ก้าวเท้าไม่ออก“ข้าต้องเดินลมปราณ” เขาเอ่ยเสียงแหบพร่า แล้วยันตัวเองลุกขึ้นยืนเพื่อถอดเสื้อเปื้อนเลือดของตนออก ใบหน้าหวานเริ่มมีสีเลือดปรากฏ ไฉนอยู่ดีๆ เปลื้องเสื้อผ้าเช่นนี้เล่า นางอยู่กับคนในพรรคมารมาแปดปี แต่ไม่เคยฝึกวรยุทธ์ใดๆ เห็นเพียงอู่เฉียง อู่ชิงและอู่ยินต่อสู้ประมือกัน แต่ไม่รู้ว่ายามต้องลมปราณนี้ต้องเปลื้องเสื้อผ้าเช่นนี้ด้วย“ถ้าอายนักก็ออกไป” เหิงหยางเซิงเห็นนางยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น ทั้งที่เอ่ยตำหนิขับไล่นาง แต่เพราะไม่ต้องการให้นางเห็นเขาในสภาพยับแย่เช่นนี้เพราะใช้เพลงกระบี่อัคนีพิฆาต เขาจึงเจ็บหนักเช่นนี้ ดาบเดีย

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 49.  จัดฉาก

    “คนอื่นๆ ล่ะ คนในหมู่บ้านจะเป็นอย่างไร!” ซินหรานตวาดอย่างลืมตัว เหิงหยางเซิงแม้จะเป็นคนใจดำ แต่ยามนี้กลับไม่กล้าพูดจาทำร้ายจิตใจซินหราน นึกถึงภาพนางที่เป็นเด็กหญิงตัวน้อยไม่พูดไม่จาอยู่นานเป็นแรมเดือน หัวใจที่เคยด้านชาพลันเจ็บแปลบขึ้นมาอีกครา แม้เขาไม่ได้พูดออกไป แต่หญิงสาวกลับเข้าใจได้ ใบหน้าที่แต่เดิมซีดเซียวเพราะตกใจอยู่แล้ว ยามนี้กลับยิ่งไร้สีเลือดเข้าไปอีก สองขาแทบทรุดลงด้วยไร้เรี่ยวแรง จนเหิงหยางเซิงต้องประคองไว้“ไม่ได้”นางพึมพำ นึกเด็กๆ ที่นางเคยดูแล ป้าหวังที่เอางานปักผ้ามาให้นาง ทุกคนในหมู่บ้านที่ที่ดีกับนาง ยามนี้พวกเขามีภัย มีภัยโดยไม่รู้ตัวและไม่อาจหลบหนีได้ทัน นางจะปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้!“เจ้าคิดว่าที่นี่เป็นเกาะเพลิงอัคนีหรืออย่างไร!” เหิงหยางเซิงโต้กลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เขาไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับคนในราชสำนักแม้แต่น้อย “เวลานี้มีคนของพรรคเพลิงอัคนีอยู่ข้างกายแค่ห้าหกคน เจ้าคิดจะใช้คนของข้าปกป้องคนนับร้อยเหล่านั้นหรือ? เจ้าคิดบ้างหรือไม่ว่าไม่ไกลจากนี้เหล่าชาวยุทธฝ่ายธรรมะนั้นรวมพิธีล้างมือในอ่างทองคำของพรรควิหคสวรรค์ คนเหล่านั้นเมื่อเข้าใจว่าข้าผู้เป็นปร

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 48.  จะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปอีก

    โดยไม่รู้ตัวว่าอีกฝ่ายคิดสิ่งใดอยู่ ซินหรานไม่ได้เสียงตอบในคำถามที่ต้องการ นางจึงเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีนิลคู่นั้นจ้องมองนางราวกลืนกินนางลงไปทั้งตัว สายตาของเขาทำให้นางรู้สึกตัว ปล่อยมือใหญ่ในอุ้งมือของตนทันที ทว่าเขากลับพลิกข้อมือเป็นฝ่ายจับมือนางไว้ก่อน ไม่ยินยอมให้ปล่อยนางไป เขาจะไม่ปล่อยนางให้หลุดมือของเขาไปอีก คนที่ถูกตราหน้าเป็นมารปีศาจร้ายเช่นเขา ไยต้องคิดหาวิธีรั้งนางด้วยเล่า? บัดนี้เขาตระหนักได้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำทุกวิธีทางให้นางหวาดกลัวจนไม่กล้าไปจากเขา แต่เมื่อนางไปขุดเอาความกล้าหาญมาจากไหน ฉวยจังหวะที่เขาอยู่ที่หุบเขาเพื่อหลอมกระบี่อัคนีพิฆาตหลบหนีออกมา แต่ ณ เวลานี้ ไม่ว่าเล่ห์กลใดที่รั้งนางไว้ได้ เขายอมหน้าหนาทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งตอนนี้ที่แสร้งทำเป็นว่า รอยแผลนี้ทำให้เขาทุกข์ทรมานเพียงใด “เจ้าเคยเจ็บปวดถึงกระดูกหรือไม่เล่า” เขาเอ่ยพลางจ้องตานาง เก็บทุกความรู้สึกที่อยู่สีหน้าของหญิงสาว “จะ...เจ็บมากเลยหรือ?” แม้เมื่อครู่นางเพิ่งเห็นคนตายมากมาย จนเลือดนองพื้นดิน แต่ยามนี้ความสนใจของนางอยู่ที่มือขวาของเขา “ปะ...เป

DMCA.com Protection Status