ไอรดาและแมทธิวตื่นแต่เช้า ทั้งคู่โทรหาวีวี่เพื่อบอกให้รู้ว่าแด๊ดดี๊ของเธอจะต้องกลับแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะต้องไปสนามบิน “คุณไม่ไปส่งนั่นล่ะดีแล้ว ไม่งั้นผมคงตกเครื่องเพราะก้าวขาไม่ออก ถ้าเห็นคุณร้องไห้”เธอยิ้มแล้วส่ายหัวแบบที่ชอบทำ เขาดึงเธอมานั่งตักแล้วซบกอดกันเงียบๆอยู่พักหนึ่ง เขาชอบที่ได้ฟังเสียงหัวใจเต้นของเธอ พลางจับมือขึ้นมาจูบเบาๆ“ถ้าผมต้องไปไต้หวันจะแวะมาหาคุณด้วยนะ ดูแลตัวเองดีๆเวลาที่ผมไม่อยู่ จำไว้ว่า..ถึงเราจะอยู่ห่างกัน ไม่ได้อยู่ใกล้กันเหมือนคนอื่น แต่เรายังรักกันขนาดนี้ ผมเคลียร์อะไรเสร็จแล้วกลับมา..เราแต่งงานกันนะ”“ไหนล่ะแหวน?”“แสดงว่าคุณตกลงแล้วนะ”แมทธิวขยับตัวให้เธอลุก เพราะได้เวลาที่เขาต้องลงไปรอ Taxi เพื่อไปสนามบินแล้ว ไอรดาสีหน้าออกทันที เธอกอดแขนเขาแน่น “ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหวให้บอกผม จะซื้อตั๋วให้คุณบินไปอเมริกาทันที”“ฉันจะเข้มแข็ง รอการกลับมาของคุณ”เขาประคองหน้าเธอเงยขึ้นแล้วจูบอย่างอ้อยอิ่ง น้ำตาเธอเริ่มไหลออกมา มันทำให้เขาใจสลายที่ต้องไปจากคนที่รักสุดหัวใจ“ไปได้แล้ว…” เธอบอกเขาด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย เขากอดเธอแน่น บอกรักด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า แล้วหัน
จูนโทรถามไอรดาว่าจะมาที่บาร์ของพี่ชายเธอหรือไม่ เพราะเพื่อนทุกคนจะมาเนื่องจากไม่ได้เจอกันนานแล้ว“ไปสักแป็บก็ได้ ยังไงพรุ่งนี้ก็วันเสาร์ ไม่ได้ทำงานอยู่แล้ว”พอถึงคอนโด ก็โทรหาแมทธิวเพื่อขอไปเที่ยวกับจูน ซึ่งแน่นอนเขาไม่อยากให้ไป“ฉันเอารถไปเอง และจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์แน่นอน สัญญา”“ที่นั่นมีทั้ง..กานต์วิภาและผู้ชายคนนั้น ผมไม่ไว้ใจเลย”“เอ่อ…จริงสิ แล้ววันนี้คุณมีแพลนทำอะไร? ย้ายของไปถึงไหนแล้ว?”ไอรดารีบถามเปลี่ยนเรื่องทันที“ของส่วนใหญ่ส่งไปที่ LA แล้ว รถผมก็ประกาศขายไม่แพงมาก มีเพื่อนบ้านสนใจอยู่ คงจะขายได้ไม่ยาก วันนี้คงเข้าออฟฟิศไปเคลียร์งานนิดหน่อย กลับมาก็ทำความสะอาดห้อง อีกวันสองวันผมจะไปอยู่บ้านพ่อแม่แล้ว น่าจะอยู่สักสามสี่วัน จากนั้นต้องจองตั๋วเพื่อบินไปไต้หวัน”“วันนี้ฉันไปทานข้าวเย็นที่บ้านจูน แล้วพ่อแม่เขาคุยเรื่องขอให้ฉันแต่งงานกับพี่โจ”แมทธิวที่เอนหลังอยู่บนเตียง ถึงกับลุกนั่งกะทันหัน “นี่ใช่มั้ยคือบุญคุณต้องตอบแทนที่คุณพูดถึง? เพราะพวกเขาช่วยเหลือกิจการให้คุณมีเงินมากมาย เขาถึงกล้าส่งข้อความบอกคุณว่าหมดเวลาของผม”“ฉันบอกพวกเขาว่ามีคนรักแล้ว ไม่ได้ปิดบังอะไร ไม่รู้ว่าคุ
แมทธิวกับไอรดาที่มีความสุขกันผ่านวีดีโอคอลไปแล้วนั้น ยิ่งทำให้ทั้งคู่กระชับความสัมพันธ์กันได้ดีแม้จะอยู่ห่างไกลกันมากแค่ไหนก็ตาม “คุณจะมาหาฉันก่อนไปไต้หวันใช่มั้ย? ฉันอยากไปไต้หวันด้วย คิดถึงอากงอาม่าของคุณ อยากไปเยี่ยมพวกท่านอีก”“ดีใจที่ได้ยินแบบนี้ ผมทนรอไม่ไหวที่จะได้อยู่กับคุณ งั้นถ้าผมไปหา เราไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่าของคุณด้วยดีมั้ย?”“อืม..ลองดูก็ได้ ไม่ได้ไปนานแล้ว ไม่รู้จะเห็นฉันเป็นหลานอยู่หรือเปล่า”“ไม่เป็นไรนะ คุณยังมีผม ทุกคนชอบคุณกันทั้งนั้นเลย ทุกคนถามว่าคุณเป็นยังไงบ้าง ทั้งพ่อแม่ อากงอาม่า”“ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตของฉัน..พี่แมท”“ยินดีเสมอ ที่รัก”เธอเริ่มง่วงและค่อยๆหลับตาลง ส่วนแมทธิวก็เก็บของและเปิดโน้ตบุ๊คเพื่อทำงานบ้าง โดยเฝ้าเธอผ่านวีดีโอคอลตลอดคืนเจตสุวีย์กลับถึงบ้านด้วยความว้าวุ่นใจ เขาเห็นรถของจูนกลับมาแล้ว จึงไปเคาะที่ห้องนอนของน้องสาว“เอ้า พี่โจ เห็นออกไปจากบาร์ ทำไมพึ่งมา? อย่าบอกว่าไปหาอายมานะ”“ใช่ แต่ไม่เจอ น้องอายไม่กลับคอนโด พี่เป็นห่วง จูนโทรถามให้หน่อยสิ”“ตายจริง..แป็บนะพี่โจ โทรก่อน”จูนที่พยายามโทรหลายครั้งซึ่งติดแต่ไม่รับสาย พลอยทำเธอกังวลเพราะห
รปภ โทรรายงานเจตสุวีย์ว่ารถของไอรดาเข้ามาแค่ช่วงสั้นๆสองครั้งแล้วออกไปไม่กลับมาอีก หมายถึงเธอคงกลัวว่าเขาจะไปหาที่คอนโด ลองโทรหาเธอก็ไม่รับสายพอจะให้จูนติดต่อให้ น้องสาวเขาก็ไม่อยู่บ้าน จึงต้องทนหงุดหงิดคนเดียวอยู่แบบนั้นไอรดาเห็นเจตสุวีย์พยายามโทรหาแต่เธอไม่รับสาย และเลือกโทรหาแมทธิวแทน โดยไม่บอกเรื่องราวอะไรที่เจอมา พอสายๆวันอาทิตย์ไอรดาก็เช็คเอ้าท์จากโรงแรมแล้วกลับไปที่คอนโด ซึ่งแน่นอนว่า รปภ ได้โทรรายงานไปที่เจตสุวีย์ เขาติดต่อให้คนสนิทเอาจีพีเอสไปติดไว้ที่รถของเธอให้เรียบร้อย ไอรดาไม่ออกไปไหน แต่เธอเกิดอยากรู้ว่าหลังจากที่กานต์วิภาออกจากร้านอาหารไปแล้วเป็นยังไงบ้าง“โทรมาทำไม?”“ฉันไม่ได้อยากจะแกล้งอะไรเธอหรอก แค่อยากให้พี่โจยอมรับเรื่องเธอ แต่ไม่คิดว่าจะนิ่งได้ขนาดนั้น ฉันเองก็ไม่คาดคิดนะ”“สะใจแล้วดิ ทั้งพี่แมททั้งพี่โจ เธอก็เอาไปหมดแล้วจะมาอะไรอีก ปากหวานก้นเปรี้ยวกันทั้งนั้นแหละ ไอ้พวกคนรวยน่ะ”“เธอกับพี่โจทะเลาะกันเหรอ?”“เขาฟาดหัวฉันมาล้านนึง จบ…จะว่าเลิกก็ไม่ได้เพราะเขาไม่เคยขอคบ ไม่เคยจูบด้วยซ้ำ มาถึงเอาแล้วก็ไป โยนเงินให้เหมือนฉันเป็นอีตัว…รู้ป่ะ เขาพูดว่าไง? เขานอนก
เสียงแป้นพิมพ์รัวๆช่วงสายของวันเสาร์ ในห้องของคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านเอกมัย“อาย คืนนี้ว่างป่ะ? ไปแฮงค์เอ้าท์กัน Sirocco สีลมนะ”เสียงใสๆของจูน เพื่อนของเธอ สาวที่รักการปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจได้โทรมาชวน“เอ่อ…ก็ได้” ปากที่ตอบไป แต่ตาก็จ้องคอมพิวเตอร์อยู่“ขอธีมเซ็กซี่นะ วันนี้ทุกคนลงความเห็นว่าไป rooftop bar ที่เดิม คนต่างชาติเยอะด้วย”“อ่าหะ โอเค”อายหรือไอรดา สาววัย 25 เรียนจบมาสองปีแล้วและไม่มีงานประจำ เธออาศัยการทำงานถ่ายแบบอิสระเล็กๆน้อยๆ เวลาว่างก็ไปเข้าคอร์สเรียนเต้นเพื่อให้ตัวเองได้ไปเจอสังคมบ้างสงสัยใช่มั้ย? ว่าทำไมมีคอนโดหรูราคา 7 ล้าน? ก็เพราะมรดกยังไงล่ะ แต่ก็นั่นแหละ…มันแลกมาด้วยการสูญเสียพ่อแม่ไป เธอเป็นลูกคนเดียวถึงได้ทุกอย่างมา จึงเรียกได้ว่า ทุกขลาภ แล้วเรื่องเงินเรื่องทอง เมื่อไม่เข้าใครออกใคร ทำให้ต้องทะเลาะและผิดใจกับญาติพี่น้อง ทุกคนล้วนอยากมารุมทึ้งทรัพย์สมบัติของพ่อแม่เธอกันทั้งนั้น หลังจากพวกท่านเสียไปไอรดาเลือกที่จะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง เริ่มต้นเส้นทางชีวิตด้วยตัวคนเดียวโดยไร้ญาติขาดมิตรตั้งแต่นั้น….พอตะวันตกดิน ไอรดาเริ่มแต่งตัวแต่งหน้าทำผม และกินอะไรรอง
แสงแดดลอดผ้าม่านเข้ามาเล็กน้อย ไอรดางัวเงียควานหาโทรศัพท์มาดู..เกือบสิบโมงแล้ว เธอกดรีโมทให้ผ้าม่านเปิดออก เห็นวิวกรุงเทพสวยๆจากชั้นที่ 27 แมทธิว DM มาหาเธอ ว่าเขาสามารถมารับเธอได้ ไอรดาเห็นแบบนั้น..ก็ยิ้มขำ“ท่าทางดูหิว ฉันไม่ใช่ของกินเล่นร้านสะดวกซื้อหรอกนะ”ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไปว่า เธอจะไปหาเองตามเวลา เพราะร้านที่นัดกันอยู่ใกล้คอนโดแค่ 800 เมตร 11.57 แมทธิวนั่งรอพร้อมดอกกุหลาบช่อใหญ่ จนกระทั่งมีผู้หญิงบุคลิกมั่นใจ ใส่แว่นตาดำ มวยผมแสกกลางหลวมๆ เสื้อเชิ้ตขาวตัวใหญ่เปิดไหล่โชว์ผิวเนียนสวย กางเกงยีนส์ขาสั้น สะพาย neverfull MM เดินเข้ามาในร้าน เธอถอดแว่นตามองหา ก็เจอเขานั่งโต๊ะริมหน้าต่าง พอเดินไปใกล้ เขายิ้มให้จนตาหยี และลุกขึ้นเอาดอกไม้ให้“สวัสดี ผมดีใจและขอบคุณที่ยอมมาพบ” ไอรดายิ้มให้แบบไม่เห็นฟันพร้อมกับกล่าวขอบคุณ ก่อนจะนั่งดูเมนูเพื่อเริ่มสั่งอาหารแมทธิวคิดว่าเธอคงไม่ค่อยไว้ใจเขา แต่ก็ยังยอมมากินมื้อเที่ยงด้วย “เมื่อคืน ผมคิดว่าคุณจะปฏิเสธแล้ว”เธอละสายตาจากเมนู เหลือบตามองเขา สั่งอาหารแล้วเริ่มต้นพูดคุย“จริงๆอยากปฏิเสธนะ แต่เห็นว่ากล้าพูดชวนตรงๆ อีกอย่างใกล้ที่พักด้วย”ไ
ไอรดาหันไปมองที่ภูเขาในยามโพล้เพล้ แสงสีส้มแดงดูแล้วสวยอย่างประหลาด“คุณสูญเสียคนรัก แต่ยังโชคดีที่มีครอบครัวต่างกับฉัน..ถ้าให้แลกทุกสิ่งที่ฉันมีตอนนี้แล้วทำให้พวกท่านกลับมาได้ ฉันยอม”“น้องอายไม่ลองเปิดใจให้ใครที่รักจริงสักคนล่ะ จะได้มีคนช่วยคิด คอยดูแลอยู่เคียงข้างกัน” เธอทำเสียงขำขัน เหมือนว่ามันไร้สาระ“ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ดีเท่าพ่อของฉัน จะมีไปทำไม ความรักน่ะ..มันน่ากลัวนะ ทำคนพังทลายมาเยอะ ฉันพึ่งพาตัวเองได้ ร้องไห้ก็กอดตัวเองได้ ฉันอยากทำสวยก็เพราะพอใจที่เห็นตัวเองในกระจกทุกบานที่เดินผ่าน ไม่ได้ทำสวยเพื่อใคร”แมทธิวกลับเอ็นดูเธอ ถึงแม้ว่าไอรดาจะพยายามทำท่าทางหรือคำพูดที่เย่อหยิ่งบวกกับอีโก้ที่สูงเทียมฟ้าใส่เขาก็ตาม “ผมเข้าใจที่น้องอายพยายามตั้งการ์ดอยู่ตลอดเวลา เหมือนนักมวยที่พร้อมจะต่อยใครก็ตามเมื่อรู้สึกถูกคุกคาม บางครั้งเราไม่ต้องพยายามทำเหมือนเข้มแข็งตลอดเวลาก็ได้”เธอทำหน้าไม่พอใจทันทีที่เขาพูดแบบนั้น แต่ไม่หันมามอง “บางครั้งประสบการณ์ชีวิตก็ไม่จำเป็นต้องมาจากคนที่เกิดก่อนหรือแก่กว่าหรอก ฉันเรียนรู้จากการมองประสบการณ์ของคนอื่นเอาก็ได้ อย่างที่คุณพยายามแนะนำฉัน ทั้ง
แมทธิวและไอรดา สบตากันอยู่แบบนั้น จนเธอเริ่มอึดอัด“คุณต้องการอะไร? เอางี้ดีกว่า พูดมาตรงๆเลย”ไอรดาอยากจบการสนทนาที่เธอรู้สึกว่ามันยืดเยื้อ“ผมอยากพิสูจน์ว่าไม่ได้เข้ามาเพื่อหวังเงิน ผมมีเวลาที่ไทยไม่มากเพราะต้องกลับไปทำงาน จะขออยู่จนถึงวันจันทร์ คุณก็ไม่ให้อยู่ ผมไม่อยากยอมแพ้ ไม่งั้นคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว”“ทำไมคิดว่าจะไม่มีโอกาส?”“คุณคงมีคนเข้าหาเยอะ ถ้าผมกลับไปกว่าจะกลับมา คุณอาจไม่โสดอีกแล้ว”“กะจะไม่ให้โอกาสฉันได้เจอคนอื่นบ้างล่ะ คิดกลับกันบ้างสิ”“ผมรู้สึกได้ ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไปว่าคุณก็มีความรู้สึกให้อยู่เหมือนกันแต่ไม่ยอมรับ”บ้าจริง….ไอรดาที่หน้าตารวบตึงแต่ข้างในนั้นไขว้เขว“ผู้หญิงที่รักตัวเองมากพอ จะไม่ไล่ล่าแต่จะดึงดูดสิ่งที่มีความหมายให้มาพบเจอเธอเอง ผมรู้ว่าเป็นสิ่งนั้นให้คุณได้ ถ้าคุณให้โอกาส”ตื้อมากใช่มั้ย? ได้สิ….“ปกติฉันไม่เคยคิดอยากคบกับคนอายุมากกว่าเป็นสิบปี เพราะความคิดอาจจะไม่บาลานซ์กัน คุณเคยหย่าร้างแถมมีเรื่องเด็กด้วย ถึงไม่ใช่ลูกคุณจริงๆ แต่ในเมื่อคุณรับเป็นลูกก็เท่ากับมีภาระติดตัวมา ขอโทษที่พูดตรงๆ ถ้าเราคุยกันไปนานวันเข้าไม่นานก็คงมีปัญหาแล้วก็
รปภ โทรรายงานเจตสุวีย์ว่ารถของไอรดาเข้ามาแค่ช่วงสั้นๆสองครั้งแล้วออกไปไม่กลับมาอีก หมายถึงเธอคงกลัวว่าเขาจะไปหาที่คอนโด ลองโทรหาเธอก็ไม่รับสายพอจะให้จูนติดต่อให้ น้องสาวเขาก็ไม่อยู่บ้าน จึงต้องทนหงุดหงิดคนเดียวอยู่แบบนั้นไอรดาเห็นเจตสุวีย์พยายามโทรหาแต่เธอไม่รับสาย และเลือกโทรหาแมทธิวแทน โดยไม่บอกเรื่องราวอะไรที่เจอมา พอสายๆวันอาทิตย์ไอรดาก็เช็คเอ้าท์จากโรงแรมแล้วกลับไปที่คอนโด ซึ่งแน่นอนว่า รปภ ได้โทรรายงานไปที่เจตสุวีย์ เขาติดต่อให้คนสนิทเอาจีพีเอสไปติดไว้ที่รถของเธอให้เรียบร้อย ไอรดาไม่ออกไปไหน แต่เธอเกิดอยากรู้ว่าหลังจากที่กานต์วิภาออกจากร้านอาหารไปแล้วเป็นยังไงบ้าง“โทรมาทำไม?”“ฉันไม่ได้อยากจะแกล้งอะไรเธอหรอก แค่อยากให้พี่โจยอมรับเรื่องเธอ แต่ไม่คิดว่าจะนิ่งได้ขนาดนั้น ฉันเองก็ไม่คาดคิดนะ”“สะใจแล้วดิ ทั้งพี่แมททั้งพี่โจ เธอก็เอาไปหมดแล้วจะมาอะไรอีก ปากหวานก้นเปรี้ยวกันทั้งนั้นแหละ ไอ้พวกคนรวยน่ะ”“เธอกับพี่โจทะเลาะกันเหรอ?”“เขาฟาดหัวฉันมาล้านนึง จบ…จะว่าเลิกก็ไม่ได้เพราะเขาไม่เคยขอคบ ไม่เคยจูบด้วยซ้ำ มาถึงเอาแล้วก็ไป โยนเงินให้เหมือนฉันเป็นอีตัว…รู้ป่ะ เขาพูดว่าไง? เขานอนก
แมทธิวกับไอรดาที่มีความสุขกันผ่านวีดีโอคอลไปแล้วนั้น ยิ่งทำให้ทั้งคู่กระชับความสัมพันธ์กันได้ดีแม้จะอยู่ห่างไกลกันมากแค่ไหนก็ตาม “คุณจะมาหาฉันก่อนไปไต้หวันใช่มั้ย? ฉันอยากไปไต้หวันด้วย คิดถึงอากงอาม่าของคุณ อยากไปเยี่ยมพวกท่านอีก”“ดีใจที่ได้ยินแบบนี้ ผมทนรอไม่ไหวที่จะได้อยู่กับคุณ งั้นถ้าผมไปหา เราไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่าของคุณด้วยดีมั้ย?”“อืม..ลองดูก็ได้ ไม่ได้ไปนานแล้ว ไม่รู้จะเห็นฉันเป็นหลานอยู่หรือเปล่า”“ไม่เป็นไรนะ คุณยังมีผม ทุกคนชอบคุณกันทั้งนั้นเลย ทุกคนถามว่าคุณเป็นยังไงบ้าง ทั้งพ่อแม่ อากงอาม่า”“ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตของฉัน..พี่แมท”“ยินดีเสมอ ที่รัก”เธอเริ่มง่วงและค่อยๆหลับตาลง ส่วนแมทธิวก็เก็บของและเปิดโน้ตบุ๊คเพื่อทำงานบ้าง โดยเฝ้าเธอผ่านวีดีโอคอลตลอดคืนเจตสุวีย์กลับถึงบ้านด้วยความว้าวุ่นใจ เขาเห็นรถของจูนกลับมาแล้ว จึงไปเคาะที่ห้องนอนของน้องสาว“เอ้า พี่โจ เห็นออกไปจากบาร์ ทำไมพึ่งมา? อย่าบอกว่าไปหาอายมานะ”“ใช่ แต่ไม่เจอ น้องอายไม่กลับคอนโด พี่เป็นห่วง จูนโทรถามให้หน่อยสิ”“ตายจริง..แป็บนะพี่โจ โทรก่อน”จูนที่พยายามโทรหลายครั้งซึ่งติดแต่ไม่รับสาย พลอยทำเธอกังวลเพราะห
จูนโทรถามไอรดาว่าจะมาที่บาร์ของพี่ชายเธอหรือไม่ เพราะเพื่อนทุกคนจะมาเนื่องจากไม่ได้เจอกันนานแล้ว“ไปสักแป็บก็ได้ ยังไงพรุ่งนี้ก็วันเสาร์ ไม่ได้ทำงานอยู่แล้ว”พอถึงคอนโด ก็โทรหาแมทธิวเพื่อขอไปเที่ยวกับจูน ซึ่งแน่นอนเขาไม่อยากให้ไป“ฉันเอารถไปเอง และจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์แน่นอน สัญญา”“ที่นั่นมีทั้ง..กานต์วิภาและผู้ชายคนนั้น ผมไม่ไว้ใจเลย”“เอ่อ…จริงสิ แล้ววันนี้คุณมีแพลนทำอะไร? ย้ายของไปถึงไหนแล้ว?”ไอรดารีบถามเปลี่ยนเรื่องทันที“ของส่วนใหญ่ส่งไปที่ LA แล้ว รถผมก็ประกาศขายไม่แพงมาก มีเพื่อนบ้านสนใจอยู่ คงจะขายได้ไม่ยาก วันนี้คงเข้าออฟฟิศไปเคลียร์งานนิดหน่อย กลับมาก็ทำความสะอาดห้อง อีกวันสองวันผมจะไปอยู่บ้านพ่อแม่แล้ว น่าจะอยู่สักสามสี่วัน จากนั้นต้องจองตั๋วเพื่อบินไปไต้หวัน”“วันนี้ฉันไปทานข้าวเย็นที่บ้านจูน แล้วพ่อแม่เขาคุยเรื่องขอให้ฉันแต่งงานกับพี่โจ”แมทธิวที่เอนหลังอยู่บนเตียง ถึงกับลุกนั่งกะทันหัน “นี่ใช่มั้ยคือบุญคุณต้องตอบแทนที่คุณพูดถึง? เพราะพวกเขาช่วยเหลือกิจการให้คุณมีเงินมากมาย เขาถึงกล้าส่งข้อความบอกคุณว่าหมดเวลาของผม”“ฉันบอกพวกเขาว่ามีคนรักแล้ว ไม่ได้ปิดบังอะไร ไม่รู้ว่าคุ
ไอรดาและแมทธิวตื่นแต่เช้า ทั้งคู่โทรหาวีวี่เพื่อบอกให้รู้ว่าแด๊ดดี๊ของเธอจะต้องกลับแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะต้องไปสนามบิน “คุณไม่ไปส่งนั่นล่ะดีแล้ว ไม่งั้นผมคงตกเครื่องเพราะก้าวขาไม่ออก ถ้าเห็นคุณร้องไห้”เธอยิ้มแล้วส่ายหัวแบบที่ชอบทำ เขาดึงเธอมานั่งตักแล้วซบกอดกันเงียบๆอยู่พักหนึ่ง เขาชอบที่ได้ฟังเสียงหัวใจเต้นของเธอ พลางจับมือขึ้นมาจูบเบาๆ“ถ้าผมต้องไปไต้หวันจะแวะมาหาคุณด้วยนะ ดูแลตัวเองดีๆเวลาที่ผมไม่อยู่ จำไว้ว่า..ถึงเราจะอยู่ห่างกัน ไม่ได้อยู่ใกล้กันเหมือนคนอื่น แต่เรายังรักกันขนาดนี้ ผมเคลียร์อะไรเสร็จแล้วกลับมา..เราแต่งงานกันนะ”“ไหนล่ะแหวน?”“แสดงว่าคุณตกลงแล้วนะ”แมทธิวขยับตัวให้เธอลุก เพราะได้เวลาที่เขาต้องลงไปรอ Taxi เพื่อไปสนามบินแล้ว ไอรดาสีหน้าออกทันที เธอกอดแขนเขาแน่น “ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหวให้บอกผม จะซื้อตั๋วให้คุณบินไปอเมริกาทันที”“ฉันจะเข้มแข็ง รอการกลับมาของคุณ”เขาประคองหน้าเธอเงยขึ้นแล้วจูบอย่างอ้อยอิ่ง น้ำตาเธอเริ่มไหลออกมา มันทำให้เขาใจสลายที่ต้องไปจากคนที่รักสุดหัวใจ“ไปได้แล้ว…” เธอบอกเขาด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย เขากอดเธอแน่น บอกรักด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า แล้วหัน
กานต์วิภาที่ยืนส่องกระจกดูแก้มด้านซ้ายที่บวมตุ่ย รอยแดงอมม่วงเริ่มปรากฏขึ้น เธอนั่งเครื่องกลับมากรุงเทพตั้งแต่คืนวันเสาร์แล้วตามคำสั่งและการสนับสนุนเงินทองจากเจตสุวีย์ หลังจากโทรบอกเขาเรื่องที่โดนไอรดาตบหน้าเอามีสายเข้ามาจากเจตสุวีย์ กานต์วิภาแปลกใจระคนตื่นเต้น ที่เขาโทรมาหา“สวัสดีค่ะ คุณเจตสุวีย์”“ว่างมั้ยผมจะไปรับ?”ใจเธอวูบวาบขึ้นมาทันที“เอ่อ..ว่างค่ะ คุณเจตสุวีย์จะพาไปไหนคะ? พอดีหน้าหนูดูแย่..”“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเจ็บมากจะพาไปหาหมอ ส่งพิกัดที่พักคุณให้ผมจะได้ไปรับ”เธอส่งพิกัดให้เขาแล้วรีบแต่งตัวรอ จนกระทั่งเขาหาที่จอดได้“ผมมาแล้ว ที่จอดรถหายากมาก รีบลงมาหน่อยก็ดี”ลงมาถึงเห็นรถหรูของเขา ทำเอาเธอเก้อเขินพอเข้ามาก็ได้แต่นั่งตัวลีบอยู่แบบนั้น เจตสุวีย์เอื้อมไปจับหน้าเธอที่อายจนหน้าแดงให้หันมา“ผมจะพาไปหาหมอนะ แล้วจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง แต่ขออย่างหนึ่ง ไม่ให้ไปยุ่งกับไอรดา เธอเป็นหุ้นส่วนใหญ่ที่บริษัท”“ค่ะ”ตอนนี้เธอไม่อยากเอาเรื่องเอาราวอะไร แค่เห็นหน้าเขาก็ใจอ่อนปวกเปียกแล้วเจตสุวีย์พาไปโรงพยาบาลเอกชนที่ดีที่สุด จนพยาบาลหรือลูกค้าบางคนที่จำเขาได้ พากันซุบซิบที่ลูกชายไฮโซระดับป
ณ บ้านวิเชียรวรกุลทั้งสามตื่นแต่เช้า เตรียมตัวเพื่อขึ้นเครื่องบินไปยังขอนแก่น “เราเอากระเป๋าไปเพิ่มดีมั้ย? แมทธิว พวกชุด รองเท้า กระเป๋าที่ซื้อให้วีวี่ คงใส่กระเป๋าเสื้อผ้าเด็กไม่พอหรอก ใบแค่นั้นน่ะ”“หนูไม่เอาไป กลัวชุดสวยกับรองเท้าพัง”ไอรดามองหน้า จนวีวี่หลบตาลง“ไม่ชอบเหรอ?”เด็กหญิงส่ายหน้าด้วยความกลัวไอรดา“แล้วทำไมไม่เอาไปด้วย?”“ถ้าหม่าม๊าเห็นจะต้องด่าหนู หนูกลัวหม่าม๊าทำพัง”คำตอบของเด็กทำเอาไอรดาสูดหายใจอย่างแรง ก่อนจะมองไปที่แมทธิว “ไม่เป็นไร ที่รัก เอาไว้ที่นี่ก็ได้ ถ้าคุณจะเมตตาเด็ก อนุญาตให้มาที่นี่อีก”เธอพยักหน้าด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะนึกอะไรได้อย่างหนึ่ง จึงไปที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วหยิบสร้อยทองเส้นเล็กที่เคยได้ตอนเด็ก เป็นสร้อยทองสองสลึง ห้อยด้วยหลวงปู่ทวดองค์เล็ก “มานี่สิ…ใส่เอาไว้นะ ห้ามถอดไม่ว่าจะยังไง”วีวี่ยกนิ้วก้อยให้เธอแทนสัญญา ทั้งสองเกี่ยวก้อยกัน ไอรดาลุกขึ้นสะบัดหน้าแล้วหันหลังให้ก่อนจะพูดขึ้น“น้ายกคุณทรัฟเฟิ้ลให้ ขี้เกียจได้ยินทีหลังว่ามีเด็กนอนฝันร้าย ร้องไห้ขี้มูกโป่งกลางดึก”เธอเดินออกจากห้องไปชั้นล่างทันที “คุณน้าโกรธที่หนูไม่เอาชุดไปด้วย”“ไม่ใช่แ
บ้านของไอรดาดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อมีคนสี่คนในบ้าน มีเสียงเด็กหัวเราะ ป้ารินที่คิดถึงหลานของตัวเอง พอมีเด็กเล็กก็หายเหงาไปได้มาก แมทธิวชอบทำอาหาร ช่วยตัดหญ้า ล้างรถ รดน้ำต้นไม้ พอช่วงบ่ายก็พากันขับรถออกไปเที่ยวนอกเมืองตามสถานที่ต่างๆทุกวัน แต่พอตกกลางคืนตั้งแต่มีเด็กหญิงมาอยู่ด้วย ไอรดาขอแมทธิวว่าจะไม่นอนห้องเดียวกับเขาและห้ามขอมีอะไรกับเธอในช่วงที่เด็กอยู่ที่นี่วีวี่อยากให้ไอรดาบินไปส่งกลับบ้านที่ขอนแก่นด้วย อีกทั้งแมทธิวก็ขอร้องจนยอมให้เขาจองตั๋วบินในวันเสาร์เพื่อไปด้วยกันสามคนจนได้ ระหว่างนั้นในเย็นวันพฤหัสบดี มีคนสองคนอุ้มเด็กเล็กเข้ามาที่บ้านของไอรดา แมทธิวที่กำลังเดินเล่นกับวีวี่ที่ปั่นจักรยาน เป็นคนที่ไปเปิดประตูให้ ป้ารินเดินออกมาหน้าบ้านถึงกับร้องไห้ เมื่อเห็นลูกชายลูกสะใภ้พาหลานมาหา พร้อมยื่นถุงพลาสติกเล็กๆใส่ส้มมาให้“แม่ สบายดีไหม? ซื้อส้มมาฝาก ว่าจะมาหาหลายทีตั้งแต่แม่บอกกลับมาที่บ้านนี้ พึ่งจะว่าง”“ไม่เป็นไรหรอก แม่เข้าใจ”ป้ารินกล่าวพร้อมกับรับหลานมาอุ้ม แมทธิวเดินกลับไปหาวีวี่ที่สนามหญ้าข้างบ้าน ปล่อยให้พวกเขาอยู่กันเป็นส่วนตัว“นั่นใครอ่ะแม่ มีเด็กด้วย”“แฟนหนู
แมทธิวขึ้นเครื่องเวลา 8.30 มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง มีเวลาสี่ชั่วโมงครึ่งจะบินกลับเชียงใหม่ในตอน 13.05 เขาโทรหาไอรดาแล้วก็เรียก Taxi ตรงไปบ้านแม่ของกานต์วิภา ก็เจอลูกสาวตัวน้อยเตรียมกระเป๋าไว้เรียบร้อย เธอวิ่งเข้ามากอดและเขาอุ้มเธอเอาไว้ “คิดถึงแด๊ดดี๊มากเลย เราจะไปเชียงใหม่ใช่มั้ย?”“ใช่ แต่สัญญาแล้วนะว่าจะเป็นเด็กดี” เธอยื่นนิ้วก้อยให้แทนว่าสัญญา ทั้งคู่เกี่ยวก้อยกันตามนั้น “บอกคุณยายว่าจะมาส่งเช้าวันเสาร์นะ”เมื่อจัดการคุยผ่านล่ามตัวน้อยเรียบร้อย เขาก็ยกมือไหว้ร่ำลา แล้วพาไปทานมื้อเช้าในตัวเมืองขอนแก่น รอห้างสรรพสินค้าเปิด จึงพาเธอไปทานไอศครีมและเล่นบ้านบอลเพื่อฆ่าเวลา เขาส่งข้อความบอกกานต์วิภาว่ามารับลูกสาวแล้ว แต่อีกฝ่ายโทรกลับมาทันที“พี่แมทมาคนเดียวใช่มั้ย?”“ใช่ ทำไม? เดี๋ยวจะไปสนามบินแล้ว”“หวังว่าคงไม่มีใครต้องงอแงก่อน ระหว่างวีวี่กับผู้หญิงคนนั้น จะรอดมั้ยเนี่ย..หึ”กานต์วิภาหัวเราะเยาะ ก่อนจะพูดต่อไป“จะมาส่งกลับวันเสาร์ใช่มั้ย? จะรอดูว่าได้สักกี่วัน”“แค่นี้นะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว”แมทธิวตัดบทและวางสายแบบไร้เยื่อใยใดๆ ทำให้เธอถึงกับลืมตัวก
หลังจากไอรดาออกไปทำธุระข้างนอก แมทธิวก็โทรหากานต์วิภาให้บอกแม่ของเธอให้ไปทำเรื่องลาหยุดที่โรงเรียนสี่วัน เพราะเขาจะไปรับมาใช้เวลาเพื่ออยู่ด้วยกัน แล้วจะไปส่งกลับขอนแก่นเช้าวันเสาร์“แล้วจะรับไปอยู่เที่ยวที่ไหน? ผู้หญิงคนนั้นจะยอมเหรอ..หึ” น้ำเสียงที่แสดงว่ากานต์วิภารู้สึกชอบใจ“ผมพูดเรื่องลูก ไม่ต้องพยายามไปพูดถึงเธอ ไอรดาเห็นใจเด็กมากพอ จนยอมจ่ายให้สามีเก่าคุณเพื่อให้เขาเซ็นง่ายๆ ถือว่าใจดีพอมั้ย? ขนาดคุณยังจัดการไม่ได้ถ้าผมไม่ขู่จะจ้างทนาย”ทำเอากานต์วิภาไม่พอใจที่เขาชื่นชมไอรดาแล้วตำหนิเธอแทน“ดูแลวีวี่ด้วยแล้วกัน อย่าให้มารังแกลูกหนู ไม่งั้นเจอดีแน่”“ปกติคุณเคยสนใจลูกด้วยเหรอ? กานต์”เขาวางสายใส่ เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบอะไร เพราะรู้กันอยู่แล้วแมทธิวสั่งอาหารเที่ยงมากิน หลังจากนั้นก็ไปนั่งเงียบๆในห้องพระ นั่งดูอัลบั้มรูปพ่อแม่ของไอรดา จนเจออัลบั้มหนึ่งเป็นรูปสมัยที่ไอรดายังเป็นเด็กหญิงเรื่อยไปจนถึงไฮสคูล กระทั่งตอนเริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เธอมีแววตาที่สดใสและเติบโตมาเป็นอย่างดี ท่ามกลางรูปที่ถ่ายร่วมกับพ่อแม่ของเธออยู่มากมาย มีลายมือเขียนภาษาไทยเอาไว้ในหน้าสุดท้ายของอัลบั้