[2] [ตายตอนนี้ก็คงมีแค่นรกที่เปิดรับ]
โลกมันช่างโหดร้าย สาเหตุที่ทำให้โลกตกอยู่ในสภาพนี้มันเกิดมาจากอุกกาบาตปริศนามากมายที่ตกลงมาบนโลกเมื่อห้าสิบปีก่อน อุกกาบาตไม่เพียงสร้างความเสียหายให้กับพื้นโลกและสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่โดยรอบ มันยังได้พาปรสิตต่างดาวมาด้วย ปรสิตพวกนั้นจะเข้าไปควบคุมสมองของทุกสิ่งมีชีวิตและทำให้สิ่งมีชีวิตพวกนั้นกลายพันธุ์จากนั้นพวกมันก็จะฆ่าล้างทุกสิ่งมีชีวิตไม่เลือกหน้ารวมถึงทำให้สิ่งมีชีวิตพวกนั้นกลายเป็นพวกของมันด้วย
ปัญหาที่เกิดขึ้นกะทันหันทั่วโลกเกือบทำให้อารยธรรมของมนุษย์ล่มสลาย แต่มนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่จะยอมสูญพันธุ์ง่ายๆ พวกเขารวมตัวกันและต่อสู้กับผู้บุกรุกจากต่างดาว เริ่มแรกมนุษย์เสียเปรียบมากเพราะไม่ได้มีร่างกายที่แข็งแกร่งเหมือนพวกปรสิตจนกระทั่งหลายสิบปีให้หลังมนุษย์ได้ค้นพบสารพิเศษบางอย่างที่สามารถกระตุ้นร่างกายของมนุษย์ให้วิวัฒนาการจนแข็งแกร่งเทียบเท่ากับปรสิตได้
แต่มนุษย์ที่ได้รับเซรุ่มซึ่งเป็นสารกระตุ้นทำให้ร่างกายวิวัฒนาการจะไม่เพียงได้รับร่างกายที่แข็งแกร่งกว่ามนุษย์ปกติถึงห้าเท่าเท่านั้น พวกเขายังได้รับพลังพิเศษตามแต่ความพิเศษของแต่ละคนได้ด้วย อย่างเช่นพลังโล่ของวินเตอร์ พลังมิติของฟรอสต์ หรือพลังควบคุมน้ำของสโนว์
แต่ถึงแม้ว่าฝ่ายมนุษย์จะมีความแข็งแกร่งพอที่จะต่อกรกับปรสิตได้แล้วฝ่ายมนุษย์ก็ยังไม่ถือว่าได้เปรียบพวกปรสิตเพราะในช่วงเวลานั้นจำนวนของฝ่ายมนุษย์เหลือน้อยมาก อีกอย่างการกระตุ้นร่างกายให้วิวัฒนาการก็มีข้อเสียที่สามารถสร้างจุดอ่อนได้เช่นกัน ข้อเสียนั่นมันเป็นปัญหาไม่น้อยเพราะมันมักจะทำให้กำลังรบฝ่ายมนุษย์อ่อนแอจนเกือบพลาดท่าบ่อยครั้ง น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถกำจัดข้อเสียนั่นได้แม้จะผ่านมาหลายสิบปีแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตามถึงมนุษย์จะใช้สารกระตุ้นร่างกายให้วิวัฒนาการมาหลายรุ่นจนเข้าสู่ปีที่ห้าสิบแล้วนับตั้งแต่วันที่อุกกาบาตตกลงมาบนโลกสงครามระหว่างมนุษย์และปรสิตก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับชัยชนะไป จนในที่สุดฝ่ายมนุษย์ที่เริ่มเหน็ดเหนื่อยจากสงครามอันยาวนานก็ตัดสินใจใช้วิธีการบ้าระห่ำอย่างการใช้ทหารหน่วยพลีชีพบุกทะลวงเข้าไปในรังของพวกปรสิตเพื่อวางระเบิดมรณะ
เพื่อฆ่าล้างพวกปรสิตให้หมดโลกแม้จะต้องเสียสละชีวิตของทหารจำนวนมากระหว่างทำภารกิจวางระเบิดในรังปรสิตเหล่าเบื้องบนก็ไม่สนใจและมุ่งมั่นดำเนินแผนการฆ่าล้างพวกปรสิตต่อไปอย่างไร้ซึ่งความเห็นใจ พวกสโนว์จึงถือว่าเป็นทหารรุ่นที่ซวยที่สุดแล้วเพราะพวกเขาถูกฝึกฝนตั้งแต่เด็กให้กลายเป็นทหารหน่วยพลีชีพรุ่นแรกและเพราะการฝึกฝนเพื่อภารกิจนี้เป็นพิเศษพวกเขาจึงไม่กลัวความตายและกล้าบุกเข้าไปในรังของพวกปรสิตอย่างที่ไม่เคยมีมนุษย์คนไหนทำสำเร็จมาก่อน
เพราะไร้ความกลัวในความตายและมุ่งที่จะทำภารกิจให้สำเร็จเพียงอย่างเดียว ท้ายที่สุดทหารหน่วยพลีชีพรุ่นแรกก็เหลือกันแค่สามคนจากหนึ่งร้อยคน
“ดวงแข็งชะมัด” สโนว์กำลังบ่นถึงความตายยากของพวกเธอสามคน กี่ครั้งแล้วที่พวกเธอรอดตายกันมาได้แค่สามคน
“ฉันดีใจนะที่พวกนายยังมีชีวิตอยู่” วินเตอร์กล่าวด้วยความรู้สึกจากใจจริงของเขาด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ฉันไม่ตายง่ายๆ หรอก” สโนว์ทำเป็นไม่สนใจแม้ว่ามุมปากจะยกยิ้มขึ้นมาอย่างยินดี ฟรอสต์ก็ไม่ต่างกัน แม้จะทำเป็นหันหน้าไปทางอื่นอย่างไม่สนใจแต่ในใจของเขาก็ชอบใจไม่ต่างกัน
ในตอนนั้นสโนว์และฟรอสต์ก็คิดเหมือนกันว่ารอยยิ้มสดใสเหมือนลูกหมาของวินเตอร์มันช่าง ดีต่อใจจริงๆ พวกเธอหวังว่ารอยยิ้มนี้จะคงอยู่ตลอดไป
“ฉันง่วงแล้ว” สโนว์บอกและหลับตาลงเป็นการบอกว่าเธอจะนอนแล้ว
“เรามีเวลาอีกสามชั่วโมง” ฟรอสต์เอ่ยพลางเอาผ้าห่มออกมาจากกระเป๋ามิติของเขา
“อากาศค่อนข้างหนาวเรามานอนใกล้ๆ กันดีกว่า” วินเตอร์พูด จากนั้นพวกเขาทั้งสามคนก็ขยับเข้าหากันเพื่อมอบความอบอุ่นในกันและกัน เนื่องจากว่าพวกเขาอยู่ในสนามรบด้วยกันมานานการใกล้ชิดกันขนาดนี้จึงเป็นเรื่องปกติของพวกเขา
พวกเขานอนหลับสนิทอยู่ในหลุมหลบภัยชั่วคราวจนกระทั่งสามชั่วโมงให้หลังฟรอสต์ก็ตื่นขึ้นมาปลุกสโนว์และวินเตอร์เพื่อทำภารกิจต่อ แม้จะไม่เต็มใจพวกเขาก็ตื่นขึ้นมาจากฝันหวานและมาเจอฝันร้ายในโลกความเป็นจริง
“นี่เสื้อสำรองของเธอ และนี่หน้ากากกันแก๊ส” ฟรอสต์เอาเสื้อผ้ามาให้สโนว์เปลี่ยนเพราะตัวเก่ามันถูกวินเตอร์ฉีกซะกระจุยเพื่อทำแผลให้เธอ และเขาก็ไม่ลืมที่จะเอาหน้ากากกันแก๊สออกมาให้ทั้งสองคนด้วยเพราะภารกิจของพวกเขาหลังจากที่ทำภารกิจวางระเบิดสำเร็จก็คือการเข้าไปในรังของปรสิตอีกครั้งเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกปรสิตตายหมดแล้ว ซึ่งรอบบริเวณรังของพวกปรสิตน่าจะยังเหลือสารพิษอยู่ถึงแม้ว่าสารพิษที่มาพร้อมระเบิดมันจะส่งผลแค่กับพวกปรสิต แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่ควรสูดดมเข้าไปพวกเขาจึงจำเป็นต้องใส่หน้ากากแก๊ส
เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วพวกเขาทั้งสามคนก็เดินฝ่าหมอกควันจากระเบิดไปยังทิศทางที่คาดว่าจะมีรังของปรสิตอยู่ ระหว่างทางพวกเขาระวังตัวมากเพราะมันอาจจะยังมีพวกปรสิตที่เหลือรอดโผล่ออกมาโจมตีพวกเขาก็ได้ แต่ดูเหมือนจะเป็นโชคดีของพวกเขาที่ไม่มีพวกปรสิตเข้ามาโจมตีพวกเขาเลย
พวกเขาเดินทางกันอย่างปลอดภัยจนกระทั่งมาถึงจุดที่พวกเขาคาดว่าเคยเป็นรังของพวกปรสิต เนื่องจากว่ารังของพวกปรสิตมักจะเหมือนกับรังของปลวกตรงที่ว่าพวกมันจะพยายามสร้างรังให้ดูสูงใหญ่และโดดเด่น รังของพวกมันจึงง่ายต่อการสังเกตเห็น ถึงแม้ว่าจะถูกระเบิดทำลายไปแล้วมันก็จะยังเหลือซากของรังอันใหญ่โตของพวกมันอยู่บ้าง
“ฉันว่าเราก็มาถูกทางนะ แต่ทำไมฉันไม่เห็นอะไรเลย?” วินเตอร์เงยหน้าขึ้นเพื่อมองหาซากรังของพวกปรสิต
“ฉันว่านายมองผิดทาง” สโนว์กล่าว เธอมองไปข้างหน้าที่เริ่มเห็นบางอย่างเลือนราง และก็ราวกับสายลมเป็นใจเพราะเมื่อพวกเธอเดินเข้าไปใกล้มากขึ้นฝุ่นละอองก็ถูกลมห่าใหญ่พัดหายไปในทีเดียวทำให้ทุกอย่างถูกเผยออกมา
มันไม่เหลือรังที่ตั้งตระหง่านอีกต่อไปแล้ว แม้แต่ซากก็ไม่เหลือ นั่นเพราะว่าทุกอย่างมันได้ตกลงไปในหลุมยักษ์ตรงหน้าพวกเขาทั้งสามคนแล้ว
“หลุมนี่เกิดจากระเบิดที่พวกเราวางเมื่อสามชั่วโมงก่อนเหรอ?” วินเตอร์กะพริบตาปริบๆ อย่างไม่เชื่อสายตาและเอ่ยอย่างสงสัย
“ไม่ใช่” ฟรอสต์ปฏิเสธความคิดเห็นของวินเตอร์ทันที “บางทีใต้รังพวกปรสิตอาจจะมีโพรงใต้ดิน เมื่อเราหย่อนระเบิดลงไปพื้นดินก็เลยทรุดตัวลง”
“โพรงพวกนี้เกิดจากพวกปรสิตรึเปล่า?” สโนว์พูด
“มีความเป็นไปได้” ฟรอสต์พยักหน้า
หลุมยักษ์ตรงหน้าของพวกเขาใหญ่มากและลึกมาก มากขนาดที่ว่าแม้ในหลุมจะมีซากรังของพวกปรสิตตกลงไปมันก็ยังไม่อาจเติมเต็มหลุมได้ นั่นหมายความว่ารังใต้ดินของพวกปรสิตมันใหญ่โตกว่ารังที่พวกเขาเห็นอยู่บนพื้นดินเสียอีก
“ฉันว่ามันไม่น่าใช่โพรงธรรมดานะ แต่มันน่าจะเป็นอุโมงค์มากกว่า” สโนว์กล่าวเมื่อสังเกตเห็นว่าผนังหลุมมีรูมากมาย ถ้าสภาพมันยังดีอยู่พวกมันน่าจะเป็นอุโมงค์ถ้ำใต้ดินที่มีเส้นทางซับซ้อนเหมือนรังมด
พวกเขาทั้งสามคนรู้ตัวทันทีว่าได้ค้นพบสิ่งที่เป็นความลับของพวกปรสิตแล้ว พวกเขาจะต้องนำเรื่องนี้ไปรายงานกับทางกองทัพโดยด่วน หลังจากสำรวจพื้นที่เสร็จสิ้นแล้วพวกเขาก็รีบกลับฐานที่มั่นของทหารที่อยู่ในเมือง S และรายงานเรื่องทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นภารกิจจนจบภารกิจกับผู้บัญชาการของพวกเขา
หลังจากรายงานทุกอย่างทั้งหมดแล้วมันก็ถึงเวลาพักผ่อนของพวกเขา แต่…
“หลังจากนี่อีกสามวันเราจะลงไปสำรวจในอุโมงค์ใต้ดินของพวกปรสิต อย่าลืมเตรียมตัวซะล่ะ” ผู้บัญชาการของพวกเขาได้กล่าวเช่นนั้น
ไอ้เฮงซวย! สามวันแผลก็ยังไม่หายสนิทเลยด้วยซ้ำนี่ไม่คิดจะให้พักเลยรึไง!?
โชคดีที่วินเตอร์ล็อกตัวสโนว์ไว้ทันเธอก็เลยไม่ถูกลงโทษโทษฐานกระโดดถีบหน้าผู้บัญชาการ
[3] [พักผ่อนก่อนออกสำรวจ] “ไอ้แก่นั่นสักวันฉันจะเตะหน้ามันให้ได้” สโนว์สาปแช่งด้วยความแค้นขณะเดียวกันก็ยัดอาหารเข้าปากไม่หยุดราวกับคนอดอยากมานาน “อาหารของโรงอาหารก็ยังห่วยแตกไม่เปลี่ยน!” แม้จะบ่นอย่างนั้นสโนว์ก็ยังกินมันเข้าไปอยู่ดีเพราะไม่มีทางเลือก หลายปีแล้วที่มนุษย์เริ่มขาดแคลนอาหารจนแทบไม่มีอะไรจะกิน ถึงจะไม่อร่อยแต่ถ้ากินได้เธอก็ต้องกินเพื่อความอยู่รอด อันที่จริงทหารอย่างเธอได้กินอาหารอย่างนี้มาตั้งแต่เกิดจึงน่าจะควรชินได้แล้ว แต่เธอดันเป็นมนุษย์วิวัฒนาการที่ประสาทสัมผัสที่ดีมาก การกินอาหารที่ไม่สะอาดจึงยากที่จะทำให้รู้สึกคุ้นชินหรืออร่อยได้“อย่าอารมณ์เสียไปเลยน่า” วินเตอร์ตบหลังปลอบใจเพื่อนสาว“หึ!” สโนว์พ้นหายใจแรง อารมณ์ไม่ได้ดีขึ้นมาเลย วินเตอร์ก็ได้แต่เกาหัวอย่างจนปัญญาปลอบใจฟรอสต์มองทั้งสองคนสลับกันก่อนจะถอนหายใจ เขาตัดสินใจหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ามิติของตัวเอง “ฉันเก็บลูกอมเม็ดสุดท้ายไว้” “ลูกอม!?” อารมณ์ขุ่นมัวเหมือนถูกเป่าทิ้งทันทีที่ได้ยินคำว่าลูกอม สโนว์หันขวับไปมองฟรอสต์ตาวาว“ลูกอมเหรอ!?” วินเตอร์ก็มีปฏิกิริยาไม่ต่างกันนัก เนื่องจากว่าในสนามรบอาหารจำพวกขนมหว
[4] [สิ่งที่ไม่คาดฝัน]ในวันที่สองของการสำรวจอุโมงค์พวกเขาตัดสินใจที่จะเร่งฝีเท้าเพื่อเข้าไปให้ถึงปลายทางให้เร็วที่สุด แม้มันจะเสี่ยงที่พวกเขาจะขาดการตรวจสอบที่ละเอียดจนพลาดที่จะสังเกตเห็นพวกปรสิตจนทำให้พวกปรสิตรับรู้ถึงตัวตนของพวกเขาก่อนและเข้ามาฆ่าพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะได้ตั้งตัว แต่จะเป็นการดีกว่าที่ภารกิจนี้จะจบลงโดยเร็วที่สุดแทนที่จะปล่อยให้มันยืดยาวเป็นเดือนซึ่งก็ไม่มีใครปฏิเสธแผนการใหม่นี้หลังจากตัดสินใจจะเร่งเดินทางให้เร็วขึ้นเป็นสองเท่าของเมื่อวาน พวกเขาจึงใช้เวลาเดินทางเพียงครึ่งหนึ่งของเมื่อวานเพื่อให้เท่ากับระยะทางของเมื่อวาน และในการเดินทางเข้ามาสำรวจอุโมงค์ของปรสิตในวันที่สาม ในที่สุดพวกเขาก็เจออย่างอื่นนอกจากอุโมงค์อันยาวเหยียดแล้วพวกเขาเจอโพรงขนาดใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังไม่พบศัตรู พวกเขาพบเพียงทางแยกมากมาย…“เราไปจะทางไหนดี” นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาคิดหนักแบบสุดๆ อุตส่าห์มาถึงตรงนี้ได้แล้ว ถ้าไปผิดทางมันก็เท่ากับว่าการเดินท
[5] [สิ่งที่ไม่คาดฝัน]สถานการณ์น่าลุ้นระทึกผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ให้ความรู้สึกยาวนาน กว่าวินเตอร์จะเอาตัวอย่างอุกกาบาตมาได้สโนว์ที่รอลุ้นอยู่บนเพดานก็เผลอกลั้นหายใจไปนานหลายนาทีด้วยความโชคดีและความสามารถของวินเตอร์ ในที่สุดเขาก็สามารถเอาตัวอย่างอุกกาบาตมาได้และสามารถแอบหลบกลับมาได้โดยไม่ถูกจับได้เสียก่อน อันที่จริงครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาต้องแอบลอบเข้าไปในใจกลางฝูงปรสิตเพราะภารกิจหลักของพวกเขาก็คือลอบเข้าไปวางระเบิดในรังของพวกปรสิต เพราะงั้นภารกิจพลีชีพแบบนี้พวกเขาทำมาหลายรอบจนชำนาญแล้วล่ะ แต่การเอาระเบิดไปวางกับการเข้าไปเก็บตัวอย่างสำคัญมันไม่เหมือนกัน ภารกิจอันแรกจะตายก็ช่างขอแค่วางระเบิดสำเร็จภารกิจก็สำเร็จ แต่อันที่สองถ้าหากกลับมาไม่ได้ตัวอย่างสำคัญที่แอบเก็บมาก็จะสูญเปล่าภารกิจก็จะไม่สำเร็จ ระดับความเครียดจึงต่างกันเล็กน้อย ซึ่งพอได้รับข้อมูลที่ต้องการมาทั้งหมดแล้วสโนว์และวินเตอร์ก็รีบวิ่งกลับมาหาฟรอสต์และคนอื่น ๆ ทันทีราวกับกลัวว่าพวกปรสิตจะวิ่งตามหลังมา และเมื่อกลับไปถึงที่ซ่อนตัวสโนว์และวินเตอร์ก็รู้สึกราวกับว่าได้อากาศหายกลับมาเลยทีเดียว“ในนั้นแออัดชะมัด แทบไม่มีอ
[6] [เพศรอง]“อย่าโง่น่าฟรอสต์” สโนว์บ่นเมื่อเห็นเขามาปรากฏตัวข้างกายพวกเธอทั้งที่เขาควรจะวิ่งหนีไปไกลแล้ว“พวกนายมันงี่เง่า” ฟรอสต์กล่าวขณะหยิบปืนขึ้นมายิงสกัดปรสิตที่พยายามตามเข้ามาโจมตีพวกเขา เนื่องจากว่าอุโมงค์มันไม่ใหญ่มากนักและพวกปรสิตส่วนมากก็ตัวใหญ่ มันจึงง่ายต่อการยิงสกัดไม่ให้พวกปรสิตเข้ามาใกล้และง่ายต่อการกำจัดพวกมันด้วยแต่ถึงจะทำอย่างนี้ต่อไปพวกปรสิตก็ไม่มีวันหมดอยู่ดีเพราะพวกมันมีจำนวนมากกว่าล้านและพวกเขาก็มีอาวุธและพลังจำกัดด้วย อีกอย่างในตอนนี้สโนว์และวินเตอร์เหมือนจะมีอาการฮีทเพราะเพศรองปรากฏเร็วกว่าที่คาดการไว้ อีกไม่นานพวกเขาทั้งสองอาจเสียสติเพราะถูกสัญชาตญาณของเพศรองกลืนกิน“ตอนนี้ล่ะ!” วินเตอร์ตะโกนให้สัญญาณจากนั้นพวกเขาก็วิ่งหนีไปยังอีกเส้นทางที่ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ มันอาจจะเป็นทางออกหรือไม่ก็อาจจะทางตันหรือที่เลวร้ายกว่านั้นมันอาจเป็นทางกลับไปที่รังของพวกปรสิต แต่ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอะไรพวกเขาก็ต
[7] [ทางออก]ขณะที่ปล่อยให้วินเตอร์คลอเคลียและใช้กลิ่นอัลฟ่าของเธอในการช่วยตัวเอง สโนว์ก็พยายามทำใจให้สงบเพื่อไม่ให้กลิ่นโอเมก้าของวินเตอร์มาควบคุม ส่วนฟรอสต์นั้นก็ไม่ได้ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเสียเปล่า เขาพยายามขุดเจาะกำแพงดินที่ถล่มลงเพื่อหาเส้นทางไปต่อผ่านไปครึ่งชั่วโมงในที่สุดสโนว์ก็หลุดพ้นจากสถานการณ์น่าอึดอัดใจและร่างกาย ส่วนวินเตอร์ก็ดูหน้าตาแจ่มใสขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากที่ได้ปลดปล่อยไปครั้งหนึ่ง ตอนนี้อาการฮีทของวินเตอร์น่าจะอยู่ในการควบคุมอย่างสงบไปได้อีกสักพักและก่อนอาการฮีทจะพลุ่งพล่านขึ้นมาอยู่เหนือการควบคุมอีกพวกเขาควรเร่งรีบออกจากที่นี่ สโนว์และวินเตอร์จึงไปช่วยฟรอสต์ขุดดินที่ได้ถล่มลงมากลบฝังทางหนีของพวกเขาไว้ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็ขุดทะลุผนังดินจนทะลุไปถึงเส้นทางอุโมงค์อีกด้านที่ไม่ได้รับผลกระทบกับระเบิดทางจึงปิดโล่งและไม่มีปรสิตสักตัวเพราะพวกมันทั้งหมดถูกดินถล่มลงมาทับตายที่อุโมงค์อีกด้านแล้ว“มีแค่ทางเดียวแล้วที่เราไปได้…แถมยังเป็นทางที่ไม่รู้จุดหมายอีก” สโนว์หันไปมองทางตันข้างหลังที่มีเส้นทางที่สามารถพาพวกเขาออกไปข้างนอกได้ก่อนจะหันกลับมามองทางข้างหน้าที่ไม่รู้ว่าจะมีท
[8] [สิ่งมีชีวิตประหลาด]พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ารังของพวกปรสิตมันมีทางเชื่อมต่อกัน!“วิ่งเร็วกว่านี้ไม่ได้รึไง! พวกข้างหลังจะตามมาทันแล้ว!” สโนว์ตะโกนขณะเดียวกันก็ยิงกระสุนน้ำใส่ฝูงปรสิตที่วิ่งตามมาจากข้างหลัง“ข้างหน้ามีพวกมันเต็มเลยนะ!” วินเตอร์ตะโกนประท้วง “อีกอย่างฉันแบกพวกเธอทั้งสองคนอยู่นะ!” เขาตะโกนประท้วงอีกประโยคเนื่องจากว่าวินเตอร์วิ่งเร็วและแข็งแรงมาก เมื่อถึงยามหนีเขาสามารถวิ่งทิ้งห่างสโนว์และฟรอสต์ได้เป็นกิโลเมตร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์วิ่งหนีทิ้งเพื่อนไว้ข้างหลังวินเตอร์ก็เลยต้องแบกเพื่อนทั้งสองคนขึ้นบ่าและวิ่งหนี สโนว์และฟรอสต์จึงรับหน้าที่กำจัดฝูงปรสิตที่เข้ามาขวางทางแต่พวกเขาคงทำแบบนี้ไปได้อีกไม่นานมากนักเพราะตราบใดที่ยังไม่เจอทางออกพวกเขาก็จะถูกฝูงปรสิตรุมล้อมจนไร้ทางหนีและถูกรุมทึ้งจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกให้ใครมาเก็บ“ไปทางไหนดี!” วินเตอร์ตะโกนถามความเห็น“เลือกสักทางสิ!” ฟรอสต์ตอบขณะนำปืนกระบอกใหม่ที่มีกระสุนเต็มกระบอกออกมาและโยนปืนที่หมดกระสุนแล้วกลับเข้าไปในมิติ ทุกขั้นตอนนั้นไม่มีการขาดช่วงแม้แต่น้อย“งั้นทางนั้น!” วินเตอร์วิ่งไปยังทางที่ตัวเองเลือกทันทีแม
[9] [ต้นกำเนิดของปรสิต]บ้านของเคนเหนือความคาดหมายของทหารหน่วยพลีชีพทั้งสามคนมาก ไม่ใช่เพราะมันเป็นถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ที่มีพืชมากมายเติบโตจนเขียวชอุ่มเนื่องจากได้รับแสงอย่างเพียงพอจากรูโหว่บนเพดานและได้รับน้ำอย่างต่อเนื่องจากน้ำตกใต้ดิน ทั้งหมดนั้นดูเหนือความคาดหมายก็จริง แต่สิ่งที่เหนือความหมายกว่านั้นเป็นสิ่งมีชีวิตจำนวนมากที่อาศัยอยู่ที่นั่น“นี่มันรังแกะรึไงกัน”ในโลกที่มีปรสิตครองร่างของสิ่งมีชีวิตทุกประเภทบนโลก การที่จะได้เห็นสัตว์ธรรมดาตามธรรมชาตินอกเหนือจากสัตว์ที่มนุษย์เลี้ยงไว้กินมันหาได้ยากมากเพราะส่วนมากสัตว์พวกนั้นจะถูกปรสิตยึดครองร่างจนหมดเสียก่อนด้วยเหตุนั้นพวกเขาทั้งสามคนจึงตกใจและแปลกใจมากเมื่อเห็นฝูงแกะสีขาวธรรมดาเต็มถ้ำไปหมด“พวกนี้คือเพื่อนของนายเหรอ?” วินเตอร์ถามหน้าซื่อ“หา? ฉันเนี่ยนะจะเป็นเพื่อนกับพวกสิ่งมีชีวิตไร้สมองพวกนี้น่ะ? นายโง่รึไงถึงได้เอาฉันไปเทียบกับสัตว์พวกนั้นน่ะ!” ใบหน้าน่ารักราวกับแกะน่ารักของเคนเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวทันทีวินเตอร์กะพริบตาปริบๆ หน้าตาซื่อบื้อของเขาแสดงความสับสน เขาพูดอะไรผิดทำไมถึงโกรธขนาดนั้น? เคนก็เป็นแกะเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? วิน
[10] [บ่อน้ำพุร้อน]ฟรอสต์ได้ติดต่อกลับไปยังกองทัพทหารที่สังกัดอยู่เพื่อรายงานตัวแล้วและหลังจากนั้นเขาก็ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการให้รอรับภารกิจต่อไปอยู่ที่ฐานทัพที่ใกล้ที่สุด พวกเขาจึงเดินทางไปยังฐานทัพทหารรหัส 056 ซึ่งเป็นฐานทัพที่ใกล้ที่สุดในตอนนี้เมื่อทหารหน่วยพลีชีพทั้งสามคนเดินทางไปถึงฐานทัพทหารรหัส 056 สิ่งแรกที่พวกเขาต้องทำก็คือการตรวจร่างกาย ทั้งตรวจเพื่อยืนยันว่าร่างกายไม่มีปรสิตแฝงตัวอยู่ ตรวจเพื่อดูแลสุขภาพร่างกายให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด และตรวจเพื่อยืนยันเพศรองด้วยแน่นอนว่าผลการตรวจเพศรองของวินเตอร์และของสโนว์ปรากฏออกมาอย่างที่คาดไว้“โอเมก้า มีกำกับไว้ด้วยนะว่าพัฒนาสมบูรณ์มาก” วินเตอร์อ่านผลการตรวจในแท็บเล็ต“อัลฟ่า” ผลการตรวจไม่ต่างจากที่คาดไว้ สโนว์จึงไม่ได้สนใจและหันไปสนใจผลการตรวจของฟรอสต์ที่เธอยังไม่รู้ “ผลออกมาเป็นไง”ฟรอสต์อ่านผลการตรวจของตัวเอง ท่าทางนิ่งเงียบคาดเดาอารมณ์ได้ยาก สโนว์และวินเตอร์จึงยื่นคอไปแอบอ่าน ซึ่งผลก็ปรากฏออกมาเหมือนกับของวินเตอร์“โอเมก้า พัฒนาสมบูรณ์…เรามันโชคร้ายจริงๆ” วินเตอร์ตบบ่าฟรอสต์พลางถอนหายใจยอมรับผลตรวจที่ไม่เป็นอย่างที่หวัง“เ
[20] [ผิดปกติ][ปรสิตไม่ทราบจำนวนกำลังล้อมขบวนรถ! โปรดกลับมาด่วน!]นั่นคือสัญญาณขอความช่วยเหลือแรกที่พวกสโนว์ได้รับจากกลุ่มทหารรับจ้างดราก้อนก่อนที่พวกเขาจะเงียบหายไปแต่ก็ยังส่งสัญญาณเสียงมาไม่หยุดเพื่อบอกสถานการณ์ที่เข้าขั้นวิกฤตของพวกเขาสโนว์ วินเตอร์ และฟรอสต์สามารถวิ่งกลับไปช่วยพวกเขาได้ภายในเวลาไม่ถึงสองนาทีได้ถ้าหากว่าพวกเขาไม่ได้ค้นพบสิ่งผิดปกติจากในป่าเข้าเสียก่อน“มีบางอย่างกำลังใกล้เข้ามา” ฟรอสต์มองเข้าไปในป่า เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่สับสนวุ่นวายกำลังมุ่งตรงมาทางพวกเขา“ปรสิต?” วินเตอร์ฟังเสียงอย่างไม่แน่ใจ เสียงของมันเหมือนฝีเท้าของสัตว์ป่า แต่เขาไม่ได้กลิ่นปรสิตเลย มีเพียงกลิ่นพืชในป่านี้ที่ค่อนข้างรุนแรงและติดจมูกมาก“มันเหมือนจะ…เคลื่อนไหวเร็วมาก ยังมีปรสิตเหลืออยู่” สโนว์รวบรวมหยดน้ำขึ้นมาเตรียมพร้อม“ยังมีผู้รอดชีวิตอยู่” วินเตอร์นึกขึ้นมาได้ว่ายังมีผู้รอดชีวิตจากขบวนรถเดินทางนี้อยู่เขาจึงรีบไปหาผู้รอดชีวิต“เอ๊ะ? เกิดอะไรขึ้น?” คาร่าตื่นตระหนกเมื่อวินเตอร์ปรากฏตัวข้างเธอกะทันหัน“ตอนนี้ยังไม่ปลอดภัย” วินเตอร์อุ้มคาร่าพาดบ่าโดยไม่ได้อธิบายอะไรมากและกำลังจะกลับไปรวมตัวก
[19] [ถูกล้อม]โดยไม่คาดคิด ปรสิตอีกฝูงได้ปรากฏตัวออกมาจากป่าและล้อมรถของพวกเขาไว้หมดทุกทาง“หัวหน้า! เราถูกล้อมแล้ว!” ดีลุคตะโกนเสียงดังลั่น“เห็นแล้ว! รีบเปิดกลไกป้องกันตัวของรถ!” ดราก้อนตอบกลับเสียงเครียดและสั่งการทันที ไม่มีเวลาให้ตกใจสงสัยว่ามีฝูงปรสิตอีกกลุ่มมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง อย่างแรกที่ต้องทำคือรักษาชีวิตเอาไว้จนกว่าทหารสามคนนั้นจะกลับมา!“ผมส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปให้สามคนนั้นแล้วครับ! อีกไม่เกินสิบนาทีคงมาถึง!” ดีลุคเอ่ยก่อนจะหันไปหยิบปืนขึ้นมากอดไว้“รู้งานดีนี่!” ดราก้อนเอ่ยชม อยากจะยกนิ้วให้แต่มือไม่ว่างเพราะตอนนี้เขากำลังวุ่นวายกับการบรรจุกระสุนใส่ปืน จากนั้นเขาก็ไม่รอช้าที่จะกระโดดออกไปจากรถและลั่นไกยิงปรสิตที่พุ่งเข้ามาโจมตีทันทีลูกทีมของดราก้อนก็ทำงานหนักเช่นกัน พวกเขาต้องประสานการโจมตีกันเป็นทีมเพื่อหยุดยั้งไม่ให้ปรสิตเข้ามาใกล้รถมากเกินไป แต่เพราะพวกมันมีเยอะเกินไปถึงจะล้มตัวหนึ่งได้มันก็จะมีตัวใหม่ปรากฏตัวออกมาอีกสองและมันยังมาทุกทิศทางจนพวกเขารับมือแทบไม่ทัน หากไม่มีกลไกป้องกันตัวของรถที่เป็นปืนอัตโนมัติช่วยยิงพวกเขาอาจจะถูกล้อมได้เร็วกว่าเดิมแต่เมื่อพวกเขาส
[18] [ทำงานนอกเวลา]ไม่ว่าใครก็ทราบกันดีว่าหนึ่งในงานที่อันตรายที่สุดก็คืองานที่ต้องออกนอกโดมปลอดภัย แต่ก็ยังมีคนมากมายยอมที่จะออกนอกโดมเพื่อทำงานเพราะนั่นเป็นทางเดียวที่พวกเขาจะได้รับเงินจำนวนมากและจะไม่อดตายอยู่ในโดมที่มีทรัพยากรจำกัดงานขนส่งสินค้าก็เป็นหนึ่งในงานที่อันตรายติดอันดับเพราะต้องขนสินค้าข้ามจากอีกโดมไปยังอีกโดม ระหว่างการขนสินค้า ไม่รู้เลยว่าจะต้องเจออะไรบ้าง คนที่เลือกทำงานนี้ต่างก็ต้องเตรียมใจมากันก่อน แต่เมื่อต้องตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของปรสิตมันก็ไม่มีใครสงบสติของตัวเองได้หรอกคาร่ารู้สึกหวาดกลัวจนแทบเสียสติ ในขณะที่ยืนมองเพื่อนที่ทำงานขนส่งเช่นเดียวกับเธอกรีดร้องด้วยความกลัวอย่างเสียสติจากนั้นเพื่อนคนนั้นก็ถูกปรสิตกัดจนตัวขาดครึ่ง“ช่วยด้วย!”“ฉันยังไม่อยากตาย!”“ไม่!”เสียงร้องโหยหวนดังระงมขณะที่พวกเขาพยายามหนีปรสิตที่ไล่ล่าพวกเขา สถานการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะพวกเขาไม่ทันสังเกตเห็นฝูงปรสิตที่แอบซ่อนตัวอยู่ในป่าหนามที่พวกเขาใช้เป็นทางผ่านไม่มีใครคิดว่าตัวเองจะโชคร้ายเจอปรสิตจำนวนมากในครั้งเดียวเช่นนี้แม้ว่าพวกเขาจะพยายามต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด แต่พวกปรสิตก็ราวกับว่ามีสม
[17] [เส้นทางที่ต้องผ่าน]“สโนว์มานั่งนี่สิ” วินเตอร์ตบเบาะตรงกลางระหว่างขาของเขาที่เขาจงใจเว้นว่างไว้และเอ่ยปากเรียกสโนว์สโนว์เพิ่งตื่นเมื่อครู่เดินไปนั่งตรงที่วินเตอร์เว้นว่างไว้ให้โดยที่ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะรับอาหารแห้งจากฟรอสต์ มันเป็นอาหารที่แค่ฉีกซองแล้วก็กินได้เลย สโนว์เลยนั่งเอนหลังพิงวินเตอร์ที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหลังและทานอาหารเช้าไปด้วยอย่างงัวเงียวินเตอร์เห็นท่าทางขี้เกียจของสโนว์แล้วก็นึกถึงอลิซาเบธที่ปีนขึ้นมานั่งตักของเขาเมื่อวานสาเหตุที่สโนว์อารมณ์เสียเมื่อวานเป็นเพราะมีแมวตัวอื่นมาแย่งที่นั่งนี่เอง!วินเตอร์สรุปกับตัวเองในใจโดยไม่คิดจะเผยความคิดให้หญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักรู้ ไม่งั้นเขาคงโดนข่วนแน่“กินได้แล้ว เช้านี้เรามีเวรยาม” ฟรอสต์เห็นว่าวินเตอร์เอาแต่ยิ้มเลยใจดียื่นอาหารไปจ่อปากวินเตอร์ เขาป้อนอาหารแห้งให้วินเตอร์จนหมดอย่างรวดเร็วเพราะวินเตอร์กัดแค่สองคำอาหารก็หมดแล้วอย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อครู่อยู่ในสายตาเคียร่าที่กำลังนั่งหั่นไข่ดาวอยู่ฝั่งตรงกันข้ามของโต๊ะ“…?” นั่นอะไรน่ะ? ทำไมเขารู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่ไม่ปกติ ความใกล้ชิดนั่นเป็นเรื่องปกติ
[16] [ความคิดของผู้คน]หัวใจของเคียร่าเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น ปรสิตที่มีหน้าตาเหมือนกวางแต่มันมีหางหุ้มเกราะหนามถึงสามหางกำลังก้าวเดินเข้ามาใกล้รถเดินทางของเขามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่มีใครเคลื่อนไหวเพื่อกำจัดมัน ทหารรับจ้างและทหารหน่วยพลีชีพยังยืนนิ่งรอให้มันเข้ามาใกล้จนกระทั่งมันใช้หางหุ้มเกราะหนามโจมตี ทว่ามันก็ยังไม่มีใครเคลื่อนไหวทำอะไรเลยอยู่ดีตึง!ทหารรับจ้างทุกคนรู้สึกใจหล่นหายตอนที่มันโจมตี แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าการโจมตีของปรสิตตัวนั้นปะทะเข้ากับเกราะพลังบางอย่างที่ปรากฏขึ้นมาให้เห็นเลือนรางพวกเขาก็ถอนหายใจโล่งอกและยืนมองปรสิตสองดาวตวัดหางโจมตีไม่หยุดแต่ก็ไม่สามารถแตะต้องคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเกราะป้องกันนั้นได้นี่น่ะเหรอพลังพิเศษ?“ปรสิตสองดาวดูจัดการง่ายไปเลย” ดราก้อนพึมพำเพื่อตัดสินระดับความยากในการจัดการปรสิตพวกนั้น เหล่าทหารรับจ้างได้ให้ดาวกับพวกปรสิต ยิ่งดาวเยอะเท่าไหร่มันยิ่งจัดการยาก ระดับสองดาวแม้จะไม่มากแต่ก็ถือว่าจัดการไม่ง่ายเลย หางของมันที่เป็นอาวุธสามารถทำให้เกราะของรถยุบได้เลย แต่เกราะพลังนั่นกลับไม่แม้แต่จะสั่นสะเทือนทั้งที่โดนการโจมตีของปรสิตอย่างต่อเนื่อง“
[15] [เจ้าชายจากโดมคีรัน]เคียร่า แองเจโล่ เกิดและเติบโตขึ้นมาในโดมที่มีชื่อเรียกว่า คีรัน และด้วยความที่ว่าเขาเป็นลูกหลานของผู้ปกครองโดมเขาจึงถูกปฏิบัติอย่างดีราวกับเป็นเจ้าชาย นานวันเข้าเคียร่าจึงคิดว่าตัวเองคือเจ้าชายและโดมคีรันคืออาณาจักรของเขานานวันความฝันของเคียร่ายิ่งยิ่งใหญ่มากขึ้น เขาอยากแข็งแกร่งและกล้าหาญเหมือนเจ้าชายในนิทานที่มักจะออกเดินทางไปปราบปีศาจร้ายและกลับมาพร้อมชัยชนะและชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ เป็นฮีโร่ที่ทุกคนชื่นชมเคียร่าคิดว่าตัวเขาสามารถทำได้ทุกอย่างจึงตัดสินใจที่จะก้าวเท้าออกจากโดมที่ปลอดภัยไปยังโลกภายนอกที่ผู้คนหวาดกลัว แต่เมื่อเขาได้เห็นโลกที่กว้างใหญ่ครั้งแรกเขาพบว่ามันไม่ได้น่ากลัวเลย ความยิ่งใหญ่ของโลกมันช่างวิเศษและเขายังค้นพบอีกด้วยว่าอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของเขาแท้จริงมันก็แค่กรงขนาดเล็กเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของโลกนี้อิสระ… เคียร่าต้องการที่จะปลดปล่อยประชาชนของเขาออกจากกรงขังที่เรียกว่าโดมอันปลอดภัยของมนุษยชาติ เพื่ออิสรภาพอันแท้จริง!แต่ก่อนหน้านั้นเขาจะต้องทำให้ผู้คนในโดมรู้ถึงความสวยงามและยิ่งใหญ่ของโลกภายนอกก่อน! เคียร่าจึงตัดสินใจที่จะสร้างช่องใน
[14] [เดินทางท่องเที่ยว?]คำสั่งของผู้บัญชาการของหน่วยพลีชีพที่หนึ่งมาถึงแล้ว คำสั่งคือ [เดินทางไปพักผ่อนทางเหนือได้ตามใจชอบ ระยะเวลาคือสามเดือน]หากคนธรรมดาได้ยินคำสั่งนี้คงเข้าใจว่าพวกเขาได้รับวันหยุดพักผ่อนสามเดือนเต็ม แต่สำหรับทหารหน่วยพลีชีพที่คุ้นเคยกับคำสั่งเช่นนี้ของผู้บัญชาการแล้วสามารถเข้าใจได้ทันทีว่ามันคือคำสั่งให้พวกเขาเดินทางไปทางเหนือโดยทำเหมือนไปพักร้อนแต่ความจริงแล้วคำสั่งก็คือให้พวกเขาไปรอประจำการที่ทางเหนือเพื่อรอรับภารกิจที่อาจจะมาอย่างกะทันหันภายในสามเดือนนี้ไม่ต่างจากคำสั่งให้ไปทำภารกิจนัก“เดี๋ยวนะ คำสั่งคือให้เราเดินทางเองเหรอ” สโนว์ถามด้วยสีหน้าขยาดเมื่อทราบว่าทางกองทัพจะไม่ส่งยานพาหนะมาให้พวกเธอเพราะพวกเธอจะไป ‘พักผ่อน’ ไม่ได้ไปทำภารกิจ ซึ่งไม่มีสิทธิ์ใช้ยานพาหนะของทางกองทัพแต่อย่างที่ทราบกันดีว่ายานพาหนะและเชื้อเพลิงของยานพาหนะหายากแค่ไหนในยุคนี้ คนธรรมดาแทบไม่มีโอกาสได้ครอบครองเพราะส่วนมากของพวกนี้ทางกองทัพทหารจะยึดครองไว้ใช้เองทั้งหมด และยังมีอุปสรรคอย่างพวกปรสิตที่มักจะเข้ามาโจมตีทั้งทางพื้นดินและทางอากาศอีก แม้จะหายานพาหนะได้แต่ถ้าหากยานพาหนะไม่แข็งแรง
[13] [ฟรอสต์กับอาการฮีท] ก่อนวันที่คาดว่าอาการฮีทครั้งแรกของฟรอสต์จะมาถึงหนึ่งวัน ฟรอสต์ก็ได้เริ่มเก็บตัวทันที นั่นบ่งบอกถึงความกังวลของฟรอสต์เกี่ยวกับการฮีทครั้งแรกของตัวเองไม่น้อยฟรอสต์เป็นคนพูดน้อยและไม่ค่อยแบ่งปันความกังวลของตัวเองให้ใครฟังมากนัก สโนว์และวินเตอร์อดรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้ก็เลยไปยืนเฝ้าหน้าห้องที่ฟรอสต์ใช้ซ่อนตัวชั่วคราวเพื่อความสบายใจของพวกเขาและรวมถึงฟรอสต์ด้วย“ถ้านายอยากได้อะไรเรียกพวกเราได้นะ” วินเตอร์เคาะประตูและตะโกน“นายลืมไปแล้วรึไงว่าฟรอสต์มีกระเป๋ามิติของตัวเอง” สโนว์พูด“เผื่อว่าฟรอสต์ลืมเอาบางอย่างใส่กระเป๋ามิติไง” วินเตอร์เอ่ย “ว่าแต่อาการฮีทของฟรอสต์จะอยู่นานแค่ไหน?”“ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติก็น่าจะแค่สามสี่วัน คงไม่ยาวนานเป็นสัปดาห์เหมือนนายหรอก”สามวันผ่านไปแต่ปรากฏว่าสามวันผ่านไปฟรอสต์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นหรือออกจากห้องเลย เสียงหอบอย่างทรมานของฟรอสต์ดังเล็ดลอดออกมาจากข้างในห้องสร้างความกังวลให้สโนว์และวินเตอร์ไม่น้อยทั้งที่ฟรอสต์ใช้ยาระงับฮีทไปแล้วแต่มันกลับไม่ดีขึ้นเลย! ยาระงับฮีททั่วไประงับอาการฮีทของฟรอสต์ไม่ได้อย่างที่แพทย์บอกไว้ไม่มีผิด“อาการฮี
[12] [วันพักผ่อน]หลังจากได้เสื้อผ้าคนละสามตัวแล้วพวกเขาก็ยังเดินสำรวจเมืองต่อจนกระทั่งสโนว์ไปเจอร้านหนึ่งที่สะดุดตาของเธอไม่น้อย“อะไรกันเนี่ย เสื้อผ้าที่ปิดเฉพาะส่วนล่างและส่วนหน้าอกแบบนี้มันจะป้องกันอะไรได้กัน มันเป็นเสื้อผ้าที่คนที่นี่นิยมใส่กันเหรอ?” วินเตอร์วิจารณ์เสื้อผ้าที่อยู่บนหุ่นลองเสื้ออย่างตกใจ“เจ้าโง่ นั่นมันชุดชั้นในต่างหากล่ะ” สโนว์พูด ใช่แล้วร้านที่เธอสนใจมันก็คือร้านชุดชั้นในยังไงล่ะ! สโนว์ไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปในร้าน“เธอจะซื้อเหรอ” วินเตอร์ถาม“แน่นอน ชุดชั้นในมันใส่ไว้ข้างในเพราะงั้นมันไม่มีทางส่งผลต่อความล่าช้าตอนที่ฉันจะเปลี่ยนไปสวมเครื่องแบบทหารหรอก” เธอหันไปพูดกับฟรอสต์เพื่อบอกเป็นนัยว่าเธออยากจะซื้อมันมากกว่าหนึ่งตัว!เมื่อได้เข้าไปข้างในร้านชุดชั้นในหญิง มันก็ได้เปิดหูเปิดตาพวกเขาในเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อนอีกครั้ง“ปกติชุดชั้นในมันเล็กอย่างนี้เหรอ? แล้วนี่คือเส้นอะไร” วินเตอร์สับสนอย่างมากกับกางเกงในขนาดที่เล็กกว่ามือและเส้นระโยงระยางที่น่าจะเป็นกางเกงในด้วยเหมือนกัน ดูขาดแคลนผ้ามาก ชั้นในของทหารยังมีผ้ามากกว่าเลย อย่างน้อยชุดชั้นในของสโนว์มันก็เป็นกางเกง