แชร์

 [3] [พักผ่อนก่อนออกสำรวจ] 

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-10 07:03:01

 [3] [พักผ่อนก่อนออกสำรวจ] 

“ไอ้แก่นั่นสักวันฉันจะเตะหน้ามันให้ได้” สโนว์สาปแช่งด้วยความแค้นขณะเดียวกันก็ยัดอาหารเข้าปากไม่หยุดราวกับคนอดอยากมานาน “อาหารของโรงอาหารก็ยังห่วยแตกไม่เปลี่ยน!” แม้จะบ่นอย่างนั้นสโนว์ก็ยังกินมันเข้าไปอยู่ดีเพราะไม่มีทางเลือก หลายปีแล้วที่มนุษย์เริ่มขาดแคลนอาหารจนแทบไม่มีอะไรจะกิน ถึงจะไม่อร่อยแต่ถ้ากินได้เธอก็ต้องกินเพื่อความอยู่รอด อันที่จริงทหารอย่างเธอได้กินอาหารอย่างนี้มาตั้งแต่เกิดจึงน่าจะควรชินได้แล้ว แต่เธอดันเป็นมนุษย์วิวัฒนาการที่ประสาทสัมผัสที่ดีมาก การกินอาหารที่ไม่สะอาดจึงยากที่จะทำให้รู้สึกคุ้นชินหรืออร่อยได้

“อย่าอารมณ์เสียไปเลยน่า” วินเตอร์ตบหลังปลอบใจเพื่อนสาว

“หึ!” สโนว์พ้นหายใจแรง อารมณ์ไม่ได้ดีขึ้นมาเลย วินเตอร์ก็ได้แต่เกาหัวอย่างจนปัญญาปลอบใจ

ฟรอสต์มองทั้งสองคนสลับกันก่อนจะถอนหายใจ เขาตัดสินใจหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ามิติของตัวเอง “ฉันเก็บลูกอมเม็ดสุดท้ายไว้” 

“ลูกอม!?” อารมณ์ขุ่นมัวเหมือนถูกเป่าทิ้งทันทีที่ได้ยินคำว่าลูกอม สโนว์หันขวับไปมองฟรอสต์ตาวาว

“ลูกอมเหรอ!?” วินเตอร์ก็มีปฏิกิริยาไม่ต่างกันนัก เนื่องจากว่าในสนามรบอาหารจำพวกขนมหวานมันแทบจะไม่มีให้กินแล้ว ทหารที่ส่วนมากอยู่แต่ในสนามรบอย่างพวกเขาก็เลยแทบไม่มีโอกาสได้กินเลย นานทีปีหนถึงจะได้ลิ้มรสสักครั้ง ลูกอมจึงถือว่าเป็นของหายากมาก

“ฟรอสต์ให้ฉัน” สโนว์ถลึงตาดุวินเตอร์และรีบคว้าลูกอมจากมือของฟรอสต์ความเร็วแสง เธอรีบยัดมันเข้าปากทันทีและทันทีที่ได้รอบความหวานสโนว์ก็เหมือนจะอารมณ์สดใสขึ้นมาทันใด 

ขณะที่สโนว์เพลิดเพลินกับความหวานในปากวินเตอร์ก็มองตามลูกอมที่อยู่ปากของสโนว์ตาละห้อย ดวงตาสีเหลืองอำพันของวินเตอร์คล้ายจะมีน้ำตาคลอ ความรู้สึกผิดพุ่งเข้ามาในใจของสโนว์ สโนว์เหงื่อตกอย่างตัดสินใจไม่ได้ว่าระหว่างหน้าตาหมาหงอยของวินเตอร์และความหวานในปาก เธอควรเลือกอันไหนดี

“สโนว์…” เจ้าลูกหมาร้องหงิง

สโนว์ยอมแพ้ เธอคว้าท้ายทอยของวินเตอร์และดึงหน้าเขาเข้ามาใกล้ “ฉันแค่จะแบ่งให้ชิม อย่ากินหมดเชียวล่ะ!” 

แม้จะถูกขู่เสียงเหี้ยมวินเตอร์ก็พยักหน้ารั่วๆ ด้วยหน้าตาดีใจมากและรีบอ้าปากรอ สโนว์จึงประกอบปากกับวินเตอร์และใช้ลิ้นดันลูกอมเข้าไปในปากของวินเตอร์

“รู้สึกอยากร้องไห้เลย” พอได้ลิ้มรสความหวานที่นานครั้งได้ลิ้มรสวินเตอร์ก็ปลื้มใจมากจนแทบร้องไห้

“อย่าเคี้ยวล่ะ” เธอก็ดีใจที่เพื่อนมีความสุขอยู่หรอก แต่เธอหวงลูกอมที่เธอเพิ่งลิ้มรสได้แค่ครู่เดียวมากกว่า

“ว่าแต่ฟรอสต์ได้ลูกอมมาจากไหน? เราก็อยู่ในสนามรบด้วยกันมาตลอด” วินเตอร์ถามขึ้นมา 

“…” ฟรอสต์ไม่ได้ตอบคำถาม 

สโนว์และวินเตอร์มองหน้าฟรอสต์ทันใดนั้นพวกเขาก็จำขึ้นมาได้ว่าเมื่อเดือนก่อนพวกเขาเจอถุงลูกอมในสนามรบ ของทหารที่ตายนั่นล่ะ พวกเขาก็เลยเก็บมาและแบ่งให้กันคนละเท่าๆ กัน ซึ่งลูกอมพวกนั้นสโนว์และวินเตอรก็กินหมดภายในสองวันแรกแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าฟรอสต์จะเก็บเม็ดสุดท้ายไว้จนกระทั่งถึงตอนนี้

ทันใดนั้นสโนว์และวินเตอร์ก็มีภาพมโนเกี่ยวกับลูกอมเม็ดสุดท้ายขึ้นมา… เด็กหนุ่มผู้กลัวที่จะกินลูกอมเม็ดสุดท้ายเพราะเกรงว่าจะไม่ได้มีโอกาสได้ลิ้มรสลูกอมอีกครั้งจึงเก็บมันไว้อย่างดี แต่สุดท้ายก็ไม่อาจได้มีโอกาสลิ้มรสลูกอมเม็ดสุดท้ายนั่น…

เป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าเกินไปแล้ว!

สโนว์สะกิดวินเตอร์ด้วยศอก วินเตอร์พยักหน้าหงึกหงักอย่างรับรู้

“ลูกอมมันเป็นของนาย นายก็ต้องได้ชิมด้วยสิ” วินเตอร์เอ่ยหน้าจริงจัง

“ไม่ต้องก็ได้” ฟรอสต์ปฏิเสธหน้านิ่ง แต่วินเตอร์ก็จับฟรอสต์ประกบปากและดันลูกอมเข้าไปในปากฟรอสต์ “นี่!” ฟรอสต์ทำเสียงดุและทำเหมือนจะโวยวายแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาอมลูกอมที่ถูกยัดเข้ามาในปากเงียบๆ ด้วยหน้าตาบึ้งตึง แต่เขาก็ไม่สามารถซ้อนสีหน้าดีใจของตัวเองจากสายตาของสโนว์และวินเตอร์ได้อยู่ดี

สโนว์และวินเตอร์แอบหัวเราะเบาๆ ฟรอสต์ถลึงตาดุเพื่อกลบเกลื่อนความอายและหลังจากลิ้มรสชาติของลูกอมได้สักพักฟรอสต์ก็ส่งลูกอมปากต่อปากไปให้สโนว์ต่อ วนเวียนอยู่อย่างนั้นสองรอบจนมันหมด

“รสชาติลูกอมยังติดลิ้นอยู่เลย” ก่อนที่รสชาติจะหายไปสโนว์ก็พยายามลิ้มรสของพวกมันให้มากที่สุด

“ไหนๆ” วินเตอร์เลียปากสโนว์ราวกับจะลิ้มรส

“นายคิดจะแย่งรสชาติลูกอมไปจากฉันเรอะ!?” สโนว์รู้สึกเหมือนถูกยั่วยุ เธอสอดลิ้นเข้าไปในปากของเขาเพื่อลิ้มรสชาติลูกอมจากลิ้นของเขา วินเตอร์ก็ไม่คิดจะยอมแพ้ มันจึงกลายเป็นว่าทั้งสองคนต่อสู้กันด้วยลิ้น

ฟรอสต์ที่นั่งมองอยู่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนกับเหตุทะเลาะอันไร้สาระของทั้งสองคน แต่ในขณะที่เขาคิดว่าจะไม่ยุ่งสโนว์และวินเตอร์ก็ร่วมมือกันช่วงชิงรสชาติลูกอมจากปากเขาไปด้วย

ในขณะนั้นเองการกระทำอย่างเป็นธรรมชาติราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติของพวกเขาทั้งสามคนก็ตกอยู่ในสายตาของเหล่าทหารทั้งหมดในโรงอาหารแล้ว

เจ้าพวกนี้มันสนิทกันเกินไปแล้ว!

หลังอาหารก็ต้องนอนพัก สโนว์ วินเตอร์ และฟรอสต์กลับห้องพักทหารของพวกเขา แน่นอนว่าพวกเขานอนห้องเดียวกันเนื่องจากว่าพื้นที่มันมีจำกัดทหารแถวล่างก็เลยต้องนอนเบียดกัน แต่ถึงจะมีห้องว่างเพราะทหารคนอื่นตายไปหมดแล้วในสนามรบ พวกเขาทั้งสามคนก็ไม่เต็มใจที่จะแยกกันอยู่ดี

พวกเขาคุ้นเคยกับการนอนด้วยกันเพราะมันให้ความรู้สึกปลอดภัยมากกว่า

“แผลดีขึ้นรึยัง?” ฟรอสต์ถามขึ้นมาขณะที่สโนว์นั่งเล่นอยู่บนเตียงในชุดนอนที่มีเพียงเสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้น ข้างๆ ก็มีวินเตอร์ที่มีแค่กางในเพียงตัวเดียวนอนกลิ้งอยู่

ไม่มีความอายระหว่างพวกเขาหรอก ก็อยู่ในสนามรบด้วยกันมานานแล้วนี่นา

“ดีขึ้นแต่ก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่” สโนว์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ

“ทำแผลอีกรอบรึยัง?” 

“ทำแล้ว” 

“ฟรอสต์! ฟรอสต์! มานอนตรงนี้เร็ว” วินเตอร์เอ่ยเรียกขณะที่มือตบลงบนเตียงที่พวกเขาเอามาต่อกันเพื่อให้ได้เตียงที่ใหญ่พอสำหรับนอนสามคน ฟรอสต์เห็นดังนั้นจึงเปลี่ยนเสื้อและขึ้นไปนั่งข้างๆ สโนว์

พวกเขาเงียบกันสักพักก่อนที่สโนว์จะเป็นคนพูดขึ้นมา “ถ้าฉันนับเลขถูกต้อง เดือนหน้าจะครบห้าปีที่เราได้รับการวิวัฒนาการร่างกายและอายุของเราน่าจะถึงสิบแปดปีแล้วด้วย” 

ฟรอสต์และวินเตอร์อดไม่ได้ที่จะทำหน้าเคร่งเครียดนั่นเพราะว่าห้าปีหลังจากที่ได้รับยาวิวัฒนาการร่างกาย ข้อเสียของการรับยาวิวัฒนาการก็จะแสดงผลออกมา ถึงข้อเสียของมันจะไม่ได้เลวร้ายนักแต่ก็ไม่เป็นประโยชน์เลย ถ้าโชคร้ายมันอาจจะมีผลต่อการสู้รบของพวกเขาในสนามรบและอาจมีสิทธิ์เอาชีวิตไม่รอด นั่นทำให้พวกเขาหวาดหวั่นใจ

“ฉันหวังว่าเพศรองฉันจะเป็นเบต้า” วินเตอร์พึมพำ

ข้อเสียหลังจากที่ร่างกายได้รับยาวิวัฒนาการครบห้าปีมันก็คือการได้รับเพศรองมานั่นเอง

โอเมก้า อัลฟ่า เบต้า คือชื่อเรียกของเพศรอง ไม่ว่าชายหรือหญิงที่ได้รับเพศรองเป็นโอเมก้าพวกเขาจะมีอาการหนึ่งที่เรียกว่า ฮีท ในทุกๆ เดือน อาการฮีทมันจะทำให้ร่างกายของพวกเขารู้สึกร้อนและอ่อนแรงและมีความต้องการทางเพศสูง ขณะเดียวกันร่างกายก็ปล่อยฟีโรโมนหอมหวานเพื่อดึงดูดอัลฟ่า หากมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าชายหรือหญิงก็อาจตั้งท้องได้ 

ส่วนเพศรองอัลฟ่าปัญหาน้อยกว่าโอเมก้าเพราะพวกเขาไม่มีอาการฮีททุกเดือน แต่เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาได้กลิ่นฟีโรโมนของโอเมก้าพวกเขาก็จะคลั่งและสูญเสียสติไปชั่วคราว ซึ่งเรียกว่าอาการ รัท และในช่วงเวลาธรรมดาพวกเขาอาจจะปล่อยกลิ่นฟีโรโมนอัลฟ่าออกมาโดยไม่รู้ตัวจนทำให้เพศรองอย่างโอเมก้าเกิดอาการฮีทได้ เพศรองทั้งสองนี้จึงต้องอยู่ห่างกันสักหน่อยและต้องหมั่นตรวจร่างกายตัวเองเพื่อไม่ให้ฟีโรโมนไปสร้างปัญหาให้คนอื่น 

เนื่องจากว่าทหารมีจำนวนน้อย ไม่ว่าจะได้เพศรองที่เป็นปัญหาแบบไหนพวกเขาก็ไม่มีทางถูกปลดจากการเป็นทหาร พวกเขาก็เลยต้องทนกับปัญหาเพศรองพวกนี้ต่อไป

ส่วนเพศรองเบต้านั้นถือว่าดีที่สุดแล้วเพราะไม่มีอาการฮีท ไม่มีการปล่อยฟีโรโมน ไม่สามารถรัทได้ ไม่คลุ้มคลั่งเมื่อได้กลิ่นฟีโรโมน สรุปแล้วก็คือมันไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเพศดั้งเดิมของมนุษย์ที่มีแค่เพศหญิงและชาย ทุกคนจึงอยากได้เพศรองเป็นเบต้ามากกว่า ทว่าน่าเสียดายที่พวกเขาเลือกเพศรองเองไม่ได้ คงต้องหวังพึ่งดวงเอาเท่านั้น

“ถ้าโชคร้ายได้เป็นโอเมก้าฉันจะขอให้อัลฟ่าสักคนบอนด์” สโนว์

บอนด์ ก็คือการจับคู่กันระหว่างอัลฟ่าและโอเมก้า หากโอเมก้าถูกบอนด์แล้วอาการฮีทก็จะอ่อนลงและฟีโรโมนของโอเมก้าก็จะไม่มีผลกับอัลฟ่าคนอื่นอีกออกต่อไปนอกจากอัลฟ่าที่เป็นคู่ ในขณะเดียวกันฟีโรโมนของโอเมก้าคนอื่นก็จะไม่ค่อยมีผลกับอัลฟ่ามากนักเช่นกัน เพราะงั้นการบอนด์จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อจบปัญหาของคนที่โชคร้ายได้เพศรองเป็นอัลฟ่าและโอเมก้า ตราบใดที่โอเมก้าและอัลฟ่าที่เป็นคู่กันไม่ปล่อยฟีโรโมนใส่กันพวกเขาก็จะไม่เกิดอาการหน้ามืดตามัวอยากผสมพันธุ์กันกลางสนามรบจนจบลงด้วยการโดนปรสิตกะซวกไส้แน่นอน

“ฉันไม่เห็นด้วยที่เธอจะไปบอนด์กับคนอื่นมัวซัว” ฟรอสต์เอ่ยห้ามปรามไว้ก่อน

“ไม่รู้สิ นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคตว่าฉันจะได้เพศรองเป็นอะไร” สโนว์ไหวไหล่อย่างปลงชีวิตและล้มตัวนอน

“ช่างเรื่องอนาคตมันเถอะ เรานอนกันดีกว่า” วินเตอร์โยนเรื่องปวดหัวทิ้งอย่างไม่สนใจไยดีแล้วล้มตัวลงนอนเหมือนกับสโนว์ 

ฟรอสต์ถอนหายใจปลงกับความไร้กังวลและการปล่อยวางเรื่องปวดหัวได้อย่างง่ายดายของสโนว์และวินเตอร์ แต่เอาเถอะ นอกสนามรบก็ควรปล่อยวางเรื่องปวดหัวบ้าง ไม่อย่างนั้นคงได้กลายเป็นบ้าตายแทนที่จะถูกพวกปรสิตฆ่า พอถอนหายใจปลงได้สามวินาทีฟรอสต์ก็พบว่าเพื่อนทั้งสองคนของเขาได้นอนหลับไปแล้ว

เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสถานะที่พร้อมที่สุดการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อการสู้รบ ทหารจึงมีเทคนิคที่จะทำให้นอนหลับเร็ว แต่หลับภายในสามวินาทีนี่มันก็เร็วไปหน่อยนะ

คงเหนื่อยกันมากสินะ…

ฟรอสต์ห่มผ้าให้สโนว์และวินเตอร์ก่อนที่เขาจะล้มตัวลงนอนตามไป

.

.

สามวันแห่งการพักผ่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว รู้ตัวอีกทีก็ต้องเตรียมตัวเข้าสู่สนามรบอีกครั้ง ถึงเป้าหมายของภารกิจในครั้งนี้จะบอกว่าแค่เข้าไปสำรวจถ้ำใต้ดินก็เถอะ แต่สถานที่ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของพวกปรสิตมันไม่มีทางที่จะเป็นสถานที่ปลอดภัยแน่นอน พวกเขาจึงต้องเตรียมตัวกันให้ดี ชุดป้องกันต้องพร้อม อาวุธต้องพร้อม เสบียงต้องพร้อมเพราะไม่รู้ว่าจะต้องติดอยู่ในนั้นอีกนานแค่ไหน

“พร้อมนะ” ขณะที่ยืนอยู่หน้าปากหลุมระเบิดขนาดใหญ่สโนว์ก็ถามความพร้อมของสมาชิกทีมทุกคน

“พร้อมอยู่แล้ว” วินเตอร์เป็นคนเดียวที่ตอบ 

แต่ไม่ว่าคนอื่นจะตอบหรือไม่อย่างไรทันทีที่ได้รับสัญญาณพวกเขาก็ต้องโรยตัวลงไปในหลุมระเบิดและเข้าไปในรูอุโมงค์ที่ปรากฏอยู่ตามผนังหลุม ทีมสำรวจแต่ละทีมแบ่งหน้าที่กันไปสำรวจคนละอุโมงค์และหวังว่าตัวเองจะไม่ใช่ทีมที่โชคร้ายไปเจอพวกปรสิตที่อาจยังหลงเหลืออยู่

สโนว์ วินเตอร์ และฟรอสต์ที่ยังเป็นสมาชิกทีมเดียวกันเหมือนเดิมพร้อมกับสมาชิกทีมชั่วคราวอีกสี่คนเข้ามาในอุโมงค์แล้ว หน้าทางเข้าพวกเขาไม่พบอะไรผิดปกติจึงมุ่งหน้าเดินเข้าไปต่อทันที เส้นทางในอุโมงค์นั้นลากยาวลงไปข้างล่างทีละนิด พวกเขาไม่พบทางแยกในอุโมงค์เลย

“ดูเหมือนมันจะยาวมาก” วินเตอร์ส่องไฟฉายไปยังเส้นทางข้างหน้า ในอุโมงค์นั้นยาวและมืดมาก ไฟฉายที่พวกเขาคิดว่าดีที่สุดก็ยังส่องไปไม่ถึงปลายอุโมงค์เลยด้วยซ้ำ

“จนกว่าจะพบอะไรสักอย่างเราก็จะต้องไปต่อ…สงสัยฉันคิดถูกที่เอาเสบียงมาเยอะ” สโนว์คาดไว้ว่าพวกเธอคงต้องอยู่ในนี้อีกนานจนกว่าจะเสร็จภารกิจที่ไม่มีแม้แต่จะกำหนดเวลามาให้

พวกเขาเดินสำรวจลึกลงโดยไม่คิดจะหยุดพักจนลืมเวลา การที่ต้องอยู่ในอุโมงค์ที่มืดและแคบสร้างความสับสนทางด้านเวลาให้สมองไม่น้อย รู้สึกตัวอีกทีพวกเขาก็เดินกันมาทั้งวันแล้วและที่น่าเศร้าก็คือพวกเขาก็ยังไปไม่ถึงปลายทางของอุโมงค์และยังไม่เจออะไรเลย พวกเขาเจอทางแยกระหว่างทางบ้างแต่ทางแยกพวกนั้นก็เหมือนจะมุ่งลงข้างล่างเหมือนกัน พวกเขาจึงเลือกเดินลงเส้นทางตรงเหมือนเดิม ซึ่งเป็นทางตรงที่ยาวไกลช่วยให้รู้สึกย่อท้อมาก

ทุกคนจึงเริ่มเหนื่อยล้าและหมดกำลังใจหลังจากเดินมาทั้งวันก็ยังไม่ถึงปลายทาง พวกเขาตัดสินใจหยุดพักเอาแรงก่อน

“เราต้องเข้าไปอีกไกลแค่ไหน?” ทหารร่วมทีมคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมา ความรู้สึกหมดกำลังใจปรากฏขึ้นมาในใจเล็กน้อยเพราะต้องมาอยู่ในที่มืดมิดและแคบเป็นเวลานาน และต้องมาคอยหวาดระแวงว่าจะมีศัตรูโผล่ออกมาโจมตีตลอดเวลา มันสร้างความกดดันและความเหน็ดเหนื่อยในใจมากไม่น้อย

“ฉันขอแนะนำว่านายไม่ควรถามหรือคิดเกี่ยวกับมันนะ” สโนว์เอ่ย “ถ้าคิดเกี่ยวกับพวกมันมากเกินไปมันจะไปบั่นทอนจิตใจของนายซะเปล่า อีกอย่างมันคือภารกิจ” 

จากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก ต่างคนต่างก็พักผ่อนแต่ก็ไม่มีใครลดความระมัดระวังตัวของตัวเองลงเพราะพวกเขารู้ตัวดีว่าถ้าลดกำแพงลงแค่นิดเดียวมันอาจจะหมายถึงการสูญเสียชีวิตของตัวเองไป แต่ถ้าจะให้มีสติเต็มร้อยตลอดเวลาเพื่อระวังอันตรายพวกเขาก็คงไม่ได้พักผ่อนกันพอดี พวกเขาจึงสลับกันเฝ้ายามทุกชั่วโมงเพื่อเฝ้าระวังอันตรายและเพื่อให้ทุกคนได้พักผ่อนกันอย่างเพียงพอ

สโนว์ใช้ไหล่ของฟรอสต์เป็นหมอนและหลับฝันไป แต่พอตื่นขึ้นมาสโนว์ก็ลืมไปแล้วว่าเธอฝันถึงอะไร

“ฉันทำเธอตื่นรึเปล่า?” วินเตอร์ก้มหน้าลงมาถามเมื่อเห็นคนที่ใช้ตักของเขาเป็นหมอนตื่นนอนแล้ว 

สโนว์ไม่ได้แปลกใจนักว่าทำไมตัวเองไม่รู้สึกตัวเลยว่าหมอนจำเป็นของเธอเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่

“ไม่หรอก” เป็นเรื่องปกติที่ทหารในสนามรบจะตื่นตัวตลอดเวลาจนมักจะตื่นอย่างง่ายดายเมื่อมีบางสิ่งมารบกวนตอนนอน แต่ด้วยความคุ้นเคยและไว้ใจสโนว์ก็เลยไม่รู้สึกตัวเลยว่าฟรอสต์และวินเตอร์เปลี่ยนท่านอนให้เธอตอนไหน “กี่โมงแล้ว” 

“อีกสามสิบนาทีก็หมดเวลาพัก” วินเตอร์ตอบคำถามของสโนว์ที่เหมือนจะยังไม่อยากตื่นก็เลยนอนซุกตักเขาต่อ 

“ฉันฝากปลุกด้วย” พอรู้ว่ายังเหลือเวลาพักสโนว์ก็เลยนอนหลับต่อภายในสิบวินาทีต่อมาโดยมีวินเตอร์ช่วยลูบหัวกล่อมให้หลับสนิท แต่พอโดนลูบหัวไปได้สักพักสโนว์ก็เหมือนจะรำคาญ เธอละเมอคว้ามือของวินเตอร์ไปและกำไว้แน่นเพื่อไม่ให้เขามาก่อกวนอีก

วินเตอร์ที่ถูกยึดมือไปข้างหนึ่งยิ้มชอบใจและใช้มือข้างที่ว่างจิ้มแก้มของสโนว์และลูบวนไปจนสโนว์ละเมอจับมือเขาไว้อีกข้าง แต่ครั้งนี้เขาชักมือกลับได้ทันก็เลยไม่โดนยึดมือไปอีกข้าง วินเตอร์ยิ้มกว้างและเลิกแกล้งเพราะถ้าแกล้งมากกว่านี้สโนว์อาจจะตื่นขึ้นมาข่วนหน้าเขาแน่ ไม่สิ ชกหน้าต่างหากล่ะ

แย่ล่ะสิ เขาเผลอมองสโนว์เป็นแมวไปอีกแล้ว วินเตอร์คิดพลางหัวเราะแห้งในใจ ถ้าเกิดสโนว์รู้ว่าเขาคิดว่าเธอน่ารักเหมือนแมวเธอจะต้องโกรธแน่เลย ทั้งที่แมวออกจะน่ารัก วินเตอร์ไม่เข้าใจเลย

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [4] [สิ่งที่ไม่คาดฝัน] 

    [4] [สิ่งที่ไม่คาดฝัน]ในวันที่สองของการสำรวจอุโมงค์พวกเขาตัดสินใจที่จะเร่งฝีเท้าเพื่อเข้าไปให้ถึงปลายทางให้เร็วที่สุด แม้มันจะเสี่ยงที่พวกเขาจะขาดการตรวจสอบที่ละเอียดจนพลาดที่จะสังเกตเห็นพวกปรสิตจนทำให้พวกปรสิตรับรู้ถึงตัวตนของพวกเขาก่อนและเข้ามาฆ่าพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะได้ตั้งตัว แต่จะเป็นการดีกว่าที่ภารกิจนี้จะจบลงโดยเร็วที่สุดแทนที่จะปล่อยให้มันยืดยาวเป็นเดือนซึ่งก็ไม่มีใครปฏิเสธแผนการใหม่นี้หลังจากตัดสินใจจะเร่งเดินทางให้เร็วขึ้นเป็นสองเท่าของเมื่อวาน พวกเขาจึงใช้เวลาเดินทางเพียงครึ่งหนึ่งของเมื่อวานเพื่อให้เท่ากับระยะทางของเมื่อวาน และในการเดินทางเข้ามาสำรวจอุโมงค์ของปรสิตในวันที่สาม ในที่สุดพวกเขาก็เจออย่างอื่นนอกจากอุโมงค์อันยาวเหยียดแล้วพวกเขาเจอโพรงขนาดใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังไม่พบศัตรู พวกเขาพบเพียงทางแยกมากมาย…“เราไปจะทางไหนดี” นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาคิดหนักแบบสุดๆ อุตส่าห์มาถึงตรงนี้ได้แล้ว ถ้าไปผิดทางมันก็เท่ากับว่าการเดินท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15
  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [5] [สิ่งที่ไม่คาดฝัน]

    [5] [สิ่งที่ไม่คาดฝัน]สถานการณ์น่าลุ้นระทึกผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ให้ความรู้สึกยาวนาน กว่าวินเตอร์จะเอาตัวอย่างอุกกาบาตมาได้สโนว์ที่รอลุ้นอยู่บนเพดานก็เผลอกลั้นหายใจไปนานหลายนาทีด้วยความโชคดีและความสามารถของวินเตอร์ ในที่สุดเขาก็สามารถเอาตัวอย่างอุกกาบาตมาได้และสามารถแอบหลบกลับมาได้โดยไม่ถูกจับได้เสียก่อน อันที่จริงครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาต้องแอบลอบเข้าไปในใจกลางฝูงปรสิตเพราะภารกิจหลักของพวกเขาก็คือลอบเข้าไปวางระเบิดในรังของพวกปรสิต เพราะงั้นภารกิจพลีชีพแบบนี้พวกเขาทำมาหลายรอบจนชำนาญแล้วล่ะ แต่การเอาระเบิดไปวางกับการเข้าไปเก็บตัวอย่างสำคัญมันไม่เหมือนกัน ภารกิจอันแรกจะตายก็ช่างขอแค่วางระเบิดสำเร็จภารกิจก็สำเร็จ แต่อันที่สองถ้าหากกลับมาไม่ได้ตัวอย่างสำคัญที่แอบเก็บมาก็จะสูญเปล่าภารกิจก็จะไม่สำเร็จ ระดับความเครียดจึงต่างกันเล็กน้อย ซึ่งพอได้รับข้อมูลที่ต้องการมาทั้งหมดแล้วสโนว์และวินเตอร์ก็รีบวิ่งกลับมาหาฟรอสต์และคนอื่น ๆ ทันทีราวกับกลัวว่าพวกปรสิตจะวิ่งตามหลังมา และเมื่อกลับไปถึงที่ซ่อนตัวสโนว์และวินเตอร์ก็รู้สึกราวกับว่าได้อากาศหายกลับมาเลยทีเดียว“ในนั้นแออัดชะมัด แทบไม่มีอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [6] [เพศรอง] 

    [6] [เพศรอง]“อย่าโง่น่าฟรอสต์” สโนว์บ่นเมื่อเห็นเขามาปรากฏตัวข้างกายพวกเธอทั้งที่เขาควรจะวิ่งหนีไปไกลแล้ว“พวกนายมันงี่เง่า” ฟรอสต์กล่าวขณะหยิบปืนขึ้นมายิงสกัดปรสิตที่พยายามตามเข้ามาโจมตีพวกเขา เนื่องจากว่าอุโมงค์มันไม่ใหญ่มากนักและพวกปรสิตส่วนมากก็ตัวใหญ่ มันจึงง่ายต่อการยิงสกัดไม่ให้พวกปรสิตเข้ามาใกล้และง่ายต่อการกำจัดพวกมันด้วยแต่ถึงจะทำอย่างนี้ต่อไปพวกปรสิตก็ไม่มีวันหมดอยู่ดีเพราะพวกมันมีจำนวนมากกว่าล้านและพวกเขาก็มีอาวุธและพลังจำกัดด้วย อีกอย่างในตอนนี้สโนว์และวินเตอร์เหมือนจะมีอาการฮีทเพราะเพศรองปรากฏเร็วกว่าที่คาดการไว้ อีกไม่นานพวกเขาทั้งสองอาจเสียสติเพราะถูกสัญชาตญาณของเพศรองกลืนกิน“ตอนนี้ล่ะ!” วินเตอร์ตะโกนให้สัญญาณจากนั้นพวกเขาก็วิ่งหนีไปยังอีกเส้นทางที่ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ มันอาจจะเป็นทางออกหรือไม่ก็อาจจะทางตันหรือที่เลวร้ายกว่านั้นมันอาจเป็นทางกลับไปที่รังของพวกปรสิต แต่ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอะไรพวกเขาก็ต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก    [7] [ทางออก]

    [7] [ทางออก]ขณะที่ปล่อยให้วินเตอร์คลอเคลียและใช้กลิ่นอัลฟ่าของเธอในการช่วยตัวเอง สโนว์ก็พยายามทำใจให้สงบเพื่อไม่ให้กลิ่นโอเมก้าของวินเตอร์มาควบคุม ส่วนฟรอสต์นั้นก็ไม่ได้ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเสียเปล่า เขาพยายามขุดเจาะกำแพงดินที่ถล่มลงเพื่อหาเส้นทางไปต่อผ่านไปครึ่งชั่วโมงในที่สุดสโนว์ก็หลุดพ้นจากสถานการณ์น่าอึดอัดใจและร่างกาย ส่วนวินเตอร์ก็ดูหน้าตาแจ่มใสขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากที่ได้ปลดปล่อยไปครั้งหนึ่ง ตอนนี้อาการฮีทของวินเตอร์น่าจะอยู่ในการควบคุมอย่างสงบไปได้อีกสักพักและก่อนอาการฮีทจะพลุ่งพล่านขึ้นมาอยู่เหนือการควบคุมอีกพวกเขาควรเร่งรีบออกจากที่นี่ สโนว์และวินเตอร์จึงไปช่วยฟรอสต์ขุดดินที่ได้ถล่มลงมากลบฝังทางหนีของพวกเขาไว้ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็ขุดทะลุผนังดินจนทะลุไปถึงเส้นทางอุโมงค์อีกด้านที่ไม่ได้รับผลกระทบกับระเบิดทางจึงปิดโล่งและไม่มีปรสิตสักตัวเพราะพวกมันทั้งหมดถูกดินถล่มลงมาทับตายที่อุโมงค์อีกด้านแล้ว“มีแค่ทางเดียวแล้วที่เราไปได้…แถมยังเป็นทางที่ไม่รู้จุดหมายอีก” สโนว์หันไปมองทางตันข้างหลังที่มีเส้นทางที่สามารถพาพวกเขาออกไปข้างนอกได้ก่อนจะหันกลับมามองทางข้างหน้าที่ไม่รู้ว่าจะมีท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [8] [สิ่งมีชีวิตประหลาด]

    [8] [สิ่งมีชีวิตประหลาด]พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ารังของพวกปรสิตมันมีทางเชื่อมต่อกัน!“วิ่งเร็วกว่านี้ไม่ได้รึไง! พวกข้างหลังจะตามมาทันแล้ว!” สโนว์ตะโกนขณะเดียวกันก็ยิงกระสุนน้ำใส่ฝูงปรสิตที่วิ่งตามมาจากข้างหลัง“ข้างหน้ามีพวกมันเต็มเลยนะ!” วินเตอร์ตะโกนประท้วง “อีกอย่างฉันแบกพวกเธอทั้งสองคนอยู่นะ!” เขาตะโกนประท้วงอีกประโยคเนื่องจากว่าวินเตอร์วิ่งเร็วและแข็งแรงมาก เมื่อถึงยามหนีเขาสามารถวิ่งทิ้งห่างสโนว์และฟรอสต์ได้เป็นกิโลเมตร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์วิ่งหนีทิ้งเพื่อนไว้ข้างหลังวินเตอร์ก็เลยต้องแบกเพื่อนทั้งสองคนขึ้นบ่าและวิ่งหนี สโนว์และฟรอสต์จึงรับหน้าที่กำจัดฝูงปรสิตที่เข้ามาขวางทางแต่พวกเขาคงทำแบบนี้ไปได้อีกไม่นานมากนักเพราะตราบใดที่ยังไม่เจอทางออกพวกเขาก็จะถูกฝูงปรสิตรุมล้อมจนไร้ทางหนีและถูกรุมทึ้งจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกให้ใครมาเก็บ“ไปทางไหนดี!” วินเตอร์ตะโกนถามความเห็น“เลือกสักทางสิ!” ฟรอสต์ตอบขณะนำปืนกระบอกใหม่ที่มีกระสุนเต็มกระบอกออกมาและโยนปืนที่หมดกระสุนแล้วกลับเข้าไปในมิติ ทุกขั้นตอนนั้นไม่มีการขาดช่วงแม้แต่น้อย“งั้นทางนั้น!” วินเตอร์วิ่งไปยังทางที่ตัวเองเลือกทันทีแม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-21
  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [9] [ต้นกำเนิดของปรสิต]

    [9] [ต้นกำเนิดของปรสิต]บ้านของเคนเหนือความคาดหมายของทหารหน่วยพลีชีพทั้งสามคนมาก ไม่ใช่เพราะมันเป็นถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ที่มีพืชมากมายเติบโตจนเขียวชอุ่มเนื่องจากได้รับแสงอย่างเพียงพอจากรูโหว่บนเพดานและได้รับน้ำอย่างต่อเนื่องจากน้ำตกใต้ดิน ทั้งหมดนั้นดูเหนือความคาดหมายก็จริง แต่สิ่งที่เหนือความหมายกว่านั้นเป็นสิ่งมีชีวิตจำนวนมากที่อาศัยอยู่ที่นั่น“นี่มันรังแกะรึไงกัน”ในโลกที่มีปรสิตครองร่างของสิ่งมีชีวิตทุกประเภทบนโลก การที่จะได้เห็นสัตว์ธรรมดาตามธรรมชาตินอกเหนือจากสัตว์ที่มนุษย์เลี้ยงไว้กินมันหาได้ยากมากเพราะส่วนมากสัตว์พวกนั้นจะถูกปรสิตยึดครองร่างจนหมดเสียก่อนด้วยเหตุนั้นพวกเขาทั้งสามคนจึงตกใจและแปลกใจมากเมื่อเห็นฝูงแกะสีขาวธรรมดาเต็มถ้ำไปหมด“พวกนี้คือเพื่อนของนายเหรอ?” วินเตอร์ถามหน้าซื่อ“หา? ฉันเนี่ยนะจะเป็นเพื่อนกับพวกสิ่งมีชีวิตไร้สมองพวกนี้น่ะ? นายโง่รึไงถึงได้เอาฉันไปเทียบกับสัตว์พวกนั้นน่ะ!” ใบหน้าน่ารักราวกับแกะน่ารักของเคนเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวทันทีวินเตอร์กะพริบตาปริบๆ หน้าตาซื่อบื้อของเขาแสดงความสับสน เขาพูดอะไรผิดทำไมถึงโกรธขนาดนั้น? เคนก็เป็นแกะเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? วิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-21
  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [10] [บ่อน้ำพุร้อน]

    [10] [บ่อน้ำพุร้อน]ฟรอสต์ได้ติดต่อกลับไปยังกองทัพทหารที่สังกัดอยู่เพื่อรายงานตัวแล้วและหลังจากนั้นเขาก็ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการให้รอรับภารกิจต่อไปอยู่ที่ฐานทัพที่ใกล้ที่สุด พวกเขาจึงเดินทางไปยังฐานทัพทหารรหัส 056 ซึ่งเป็นฐานทัพที่ใกล้ที่สุดในตอนนี้เมื่อทหารหน่วยพลีชีพทั้งสามคนเดินทางไปถึงฐานทัพทหารรหัส 056 สิ่งแรกที่พวกเขาต้องทำก็คือการตรวจร่างกาย ทั้งตรวจเพื่อยืนยันว่าร่างกายไม่มีปรสิตแฝงตัวอยู่ ตรวจเพื่อดูแลสุขภาพร่างกายให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด และตรวจเพื่อยืนยันเพศรองด้วยแน่นอนว่าผลการตรวจเพศรองของวินเตอร์และของสโนว์ปรากฏออกมาอย่างที่คาดไว้“โอเมก้า มีกำกับไว้ด้วยนะว่าพัฒนาสมบูรณ์มาก” วินเตอร์อ่านผลการตรวจในแท็บเล็ต“อัลฟ่า” ผลการตรวจไม่ต่างจากที่คาดไว้ สโนว์จึงไม่ได้สนใจและหันไปสนใจผลการตรวจของฟรอสต์ที่เธอยังไม่รู้ “ผลออกมาเป็นไง”ฟรอสต์อ่านผลการตรวจของตัวเอง ท่าทางนิ่งเงียบคาดเดาอารมณ์ได้ยาก สโนว์และวินเตอร์จึงยื่นคอไปแอบอ่าน ซึ่งผลก็ปรากฏออกมาเหมือนกับของวินเตอร์“โอเมก้า พัฒนาสมบูรณ์…เรามันโชคร้ายจริงๆ” วินเตอร์ตบบ่าฟรอสต์พลางถอนหายใจยอมรับผลตรวจที่ไม่เป็นอย่างที่หวัง“เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-23
  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [11] [วันพักผ่อน]

    [11] [วันพักผ่อน]ทหารหน่วยพลีชีพทั้งสามมาถึงใจกลางเมืองแล้ว พวกเขาเลือกที่จะมาเปิดหูเปิดตาที่นี่ก็เพราะมันเป็นย่านท่องเที่ยวของโดมแห่งนี้ แต่เมื่อมาถึงใจกลางเมืองพวกเขาก็เริ่มรู้สึกว่าพวกเขาได้ตัดสินใจผิดไป“ที่นี่มันอะไรกัน มนุษย์เดินยั้วเยี้ยไปมาอย่างกับปรสิต”ความสงบสุขในโดมทำให้มนุษย์ข้างในลดการป้องกันตัวลงและกล้าที่จะออกมาเดินเล่นโดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยเลยแม้แต่น้อย ในเมืองจึงเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินขวักไขว่กันไปมาด้วยท่าทางสบายใจและมีความสุขทหารหน่วยพลีชีพทั้งสามนึกภาพสถานการณ์ในใจกลางเมืองที่มนุษย์อาศัยอยู่ไม่ออกอยู่แล้ว พวกเขาจึงไม่ได้คาดการไว้ว่าจะเจอกับสถานการณ์เช่นนี้“ทำไมเอาไปเปรียบเทียบกับพวกปรสิตล่ะ” วินเตอร์ถามสโนว์ที่เพิ่งกล่าวประโยคเมื่อกี้ออกมา“เดินอย่างไร้ระเบียบ ชนกันจนสับสนวุ่นวายไปหมด ถ้าเกิดถึงเวลาต่อสู้หรือหนีขึ้นมาคงเหยียบกันตายก่อนที่จะถูกปรสิตฆ่า” สโนว์วิจารณ์“จะว่าไปก็ใช่” วินเตอร์พยักหน้าเห็นด้วย “แต่วันนี้เรามาเที่ยวเล่นที่นี่เพื่อเปิดหูเปิดตากันนะ เพราะงั้นช่างเรื่องนั้นไปเถอะน่า” กล่าวจบวินเตอร์ก็พาสโนว์และฟรอสต์เดินเข้าไปในฝูงชน“แล้วจะไปไหน” ฟ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26

บทล่าสุด

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [42] [สามวันสองคืนที่ร้อนแรง]

    [42] [สามวันสองคืนที่ร้อนแรง]กลิ่นฟีโรโมนอันรุนแรงของคนสองคนที่ผสมผสานกันในห้องนอนแคบทำให้คนสองคนข้างในห้องมึนเมาด้วยอารมณ์ทางเพศมากยิ่งขึ้น พวกเขาจึงไม่สนใจที่จะคิดคำนวณสิ่งที่ต้องทำ แค่ปล่อยให้มันเป็นไปตามสัญชาตญาณเท่านั้นนั่นทำให้ขณะที่สโนว์และวินเตอร์กอดรัดกันและกันอย่างไร้สติสิ่งของรอบตัวของพวกเขาก็ได้รับความเสียหาย หมอนและผ้าห่มกระจัดกระจายอยู่บนพื้นตั้งแต่เริ่มต้น ฟูกที่นอนที่อ่อนนุ่มมากที่สุดในห้องมีร่องรอยการฉีกขาดมากมายจนไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำอีกหลังจากนี้ โครงเตียงที่ทำมาจากเหล็กก็โค้งงอและมีร่องรอยเหมือนถูกนิ้วมือมนุษย์กำแน่นจนบิดเบี้ยว ตู้เล็กๆ ข้างเตียงถูกชนตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่ทราบและไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเดิมของมัน ผนังห้องที่ถูกสร้างขึ้นมาให้หนาเป็นพิเศษเพื่อปิดกั้นกลิ่นและเสียงก็มีร่องรอยความเสียหายหลายแห่ง บางรอยเหมือนรอยข่วนยาวของกรงเล็บสัตว์ป่า บางรอยเป็นหลุมเหมือนถูกชกอย่างแรงสิ่งของในห้องเสียหายเกือบทั้งหมด อย่างไรก็ตามราวกับว่าคนที่จัดเตรียมห้องจะรู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นสิ่งของในห้องจึงไม่ได้มีอะไรมากนัก หากพวกมันเสียหายมันก็ไม่เป็นปัญหามากนัก ซึ่งมันช่วยลดความเสียหา

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [41] [มาใช้เวลารอบฮีทด้วยกันเถอะ!]

    [41] [มาใช้เวลารอบฮีทด้วยกันเถอะ!]สัญญาณเตือนรอบฮีทของวินเตอร์ปรากฏขึ้นในวันต่อมา สิ่งที่เขาได้รับก็คือห้องส่วนตัวหนึ่งห้องพร้อมกับยาระงับฮีทชนิดรุนแรงหนึ่งแผง หากวินเตอร์พักผ่อนและกินยาอย่างถูกต้องกลิ่นฟีโรโมนของเขาก็จะถูกระงับไว้และรอบฮีทของเขาก็จะสามารถสงบลงได้ภายในสองถึงสามวันซึ่งจะแตกต่างจากรอบฮีทครั้งก่อนที่เขาไม่ได้พักผ่อนหลังจากกินยาระงับ ฤทธิ์ยาจึงหมดอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ชั่วโมง และด้วยความกลัวว่าฟีโรโมนของตนจะไปดึงดูดปรสิตให้รู้ตัวก่อนที่แผนการช่วยเหลือสโนว์จะสำเร็จเขาจึงกินยาระงับฮีทเกินขนาดจนรอบฮีทถูกดึงให้ยาวนานขึ้นเป็นสัปดาห์นั่นเองแต่เพื่อช่วยสโนว์เขาจึงยังกินยาระงับอย่างต่อเนื่องจนกว่าอาการฮีทจะหายไป ซึ่งนั่นจึงทำให้ยาระงับที่เป็นส่วนของฟรอสต์หมดลงไปด้วยและกลายเป็นว่าฟรอสต์ต้องระงับอาการฮีทด้วยการระบายออกมาทางร่างกายแทนเรื่องนั้นได้ทำให้วินเตอร์อิจฉามากมันเป็นอารมณ์ที่วินเตอร์ไม่เคยสัมผัสมาก่อนแต่หลังจากนั้นมันทำให้เขารู้สึกชัดเจนกับสิ่งที่เขาต้องการจะทำวินเตอร์จึงนำแผงยาระงับฮีทที่เขาไม่ต้องการยัดเข้าไปใต้ฟูกที่นอนและทำเป็นลืมมันไป ยาแผงนี้น่าจะไม่ถูกนำออกมาอี

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [40] [อาการก่อนฮีท]

    [40] [อาการก่อนฮีท]เดิมทีการที่มนุษย์ได้รับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของราชาปรสิตมันเป็นความหวังที่จะทำให้พวกเขาเอาชนะเหล่าปรสิตได้ แต่เมื่อราชาปรสิตเรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีของมนุษย์เพื่อประกาศอำนาจของตัวเอง จากความหวังมันก็กลายเป็นความสิ้นหวังเผ่าพันธุ์มนุษย์ตกอยู่ในความวุ่นวายครั้งใหญ่อีกครั้ง ตอนนี้เผ่าพันธุ์มนุษย์จะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อโต้กลับและสร้างความหวังให้กับมนุษย์อีกครั้ง ด้วยเหตุนี้มนุษยชาติที่หลงเหลืออยู่ทั่วโลกจึงมีแผนการที่จะร่วมมือกันเพื่อต่อกรกับศัตรูของโลกรวบรวมผู้นำผู้รอดชีวิตทั่วโลก ผนวกกองกำลังเข้าด้วยกัน ส่งกองกำลังรบแนวหน้าออกไปรับมือกับเหล่าปรสิตที่บ้าคลั่ง ต่อต้านไม่ให้พวกมันกลืนกินพื้นที่ที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดของมนุษย์ไปมากกว่านี้ แน่นอนว่าในขณะเดียวกันกองกำลังลับก็ถูกส่งออกไปเพื่อตามหาอุกกาบาตต้นกำเนิดของพวกปรสิตเพื่อที่เหล่ามนุษย์จะได้เปิดสงครามสุดท้ายกับราชาปรสิตอย่างเต็มตัวอย่างไรก็ตามปฏิบัติการทั้งหมดนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับทหารหน่วยพลีชีพเลย พวกเขามีภารกิจสำคัญอย่างอื่นในอนาคตข้างหน้า คำสั่งที่ทหารหน่วยพลีชีพได้รับในตอนนี้ก็คือคำสั่งรวมหน่วยและรอรับคำ

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [39] [ประกาศตัวตนของราชา]

    [39] ประกาศตัวตนของราชาเหล่ามนุษยชาติผู้รอดชีวิตทั่วโลกได้รับข่าวใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี นั่นคือข่าวการปรากฏตัวของราชาปรสิตที่พวกเขาไม่รู้ว่ามีตัวตนอยู่มาก่อน นั่นอาจจะเป็นข่าวดีก็ได้และเป็นข่าวร้ายในเวลาเดียวกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายการปรากฏตัวของราชาปรสิตก็ได้ทำให้เหล่ามนุษยชาติที่อยู่แยกและตัดขาดออกจากกันเพราะสถานที่หลบภัยอย่างโดมเริ่มกลับมาเชื่อมต่อกันอีกครั้งเพื่อต่อสู้กับราชาปรสิต พวกเขาจึงได้คาดการกันว่าสงครามครั้งสุดท้ายระหว่างมนุษยชาติและปรสิตต่างดาวอาจจะใกล้สิ้นสุดลงแล้วก็ได้จะชนะหรือแพ้ก็ต้องรอตัดสินในสงครามครั้งสุดท้ายนี้แล้วอย่างไรก็ตามก่อนสงครามครั้งสุดท้ายจะเริ่มต้นขึ้นมนุษยชาติก็ต้องเตรียมตัวอีกมากเพราะหลังการล่มสลายของหลายประเทศและผู้คนต่างก็อาศัยอยู่ในโดมแบบกระจัดกระจายการที่จะร่วมมือกันในการต่อสู้ครั้งใหญ่จำเป็นจะต้องเตรียมตัวหลายขั้นตอนอย่างไรก็ตามการเตรียมการเหล่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับพลทหารหน่วยพลีชีพ สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือรอรับภารกิจที่แสนสำคัญและยิ่งใหญ่เท่านั้น ระหว่างนั้นก็ทำได้แต่พักผ่อนและฝึกฝนร่างกายให้พร้อมรบ“สโนว์! สโนว์! ชื่อเ

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [38] [จ้องรอจังหวะ]

    [38] [จ้องรอจังหวะ]เคียร่าเคยได้ยินคนโบราณกล่าวไว้ว่าแมวคิดจะยึดครองโลกและมันอาจจะเป็นความจริงก็ได้เพราะเขาถูกแมวที่ตัวเองเลี้ยงแย่งทุกอย่างไป!เซบาสเตียนที่เขาเชื่อว่าเป็นพ่อบ้านที่ภักดีต่อเขามากที่สุดตอนนี้กลับก้มหัวรับใช้แมวขาวตัวนั้นที่เปิดเผยตัวออกมาว่าคือราชาปรสิต จากที่รู้สึกว่ามันน่ารักจนรับมาเลี้ยงดูอย่างดี ตอนนี้แค่นึกถึงหน้ามันก็รู้สึกหมั่นไส้แล้วและยิ่งได้ยินเรื่องเกี่ยวกับมันก็นึกเกลียดชังมาก เคียร่ามานึกเสียใจทีหลังเสียแล้วที่รับมันมาเลี้ยง แต่ไม่รู้ว่าเพราะเขามีบุญคุณที่รับมันมาเลี้ยงรึเปล่ามันถึงยังไว้ชีวิตของเขาอยู่ใช่แล้ว หลังจากที่วินเตอร์และฟรอสต์หนีไปโดยไม่ได้พาเคียร่าไปด้วย เคียร่าก็ไม่ได้ถูกฆ่าแต่อย่างใด เขายังมีชีวิตอยู่ในฐานทัพขององค์กรไกด์ ซึ่งเป็นองค์กรที่ทรยศมนุษยชาติและร่วมมือกับปรสิต แต่ถึงจะมีชีวิตอยู่การใช้ชีวิตของเขาก็ได้เปลี่ยนไปทั้งหมด จากเจ้าชายที่ใช้ชีวิตอย่างหรูหราตามใจ เขาถูกยึดทุกอย่างไปและต้องอาศัยอยู่ในห้องเล็กๆ และสกปรกและมีอาหารเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและไม่อร่อยเลยสักนิด อย่างไรก็ตามพวกนั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะขังเคียร่าไว้ในห้อง เคียร่าสามารถออ

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [37] [โอเมก้าน่ะ XXX จัดนะ]

    [37] [โอเมก้าน่ะ XXX จัดนะ]ยิ่งสโนว์สูดดมกลิ่นฟีโรโมนป่าสนฤดูหนาวของฟรอสต์มากเท่าไหร่ร่างกายของเธอก็ยิ่งมีปฏิกิริยาตอบสนองมากขึ้นเท่านั้น ร่างกายของเธอเริ่มรู้สึกร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่กำลังอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง ดูเหมือนว่าความหนาวเย็นภายในถ้ำน้ำแข็งจะไม่ช่วยคลายความร้อนให้เธอได้เลย ทว่าคนที่รู้สึกร้อนมากที่สุดไม่ใช่เธอ แต่เป็นฟรอสต์ที่กำลังฮีทต่างหากล่ะตอนนี้สโนว์และฟรอสต์ได้เข้ามาอยู่ในส่วนที่ลึกมากที่สุดของถ้ำเพื่อไม่ให้กลิ่นฟีโรโมนเล็ดลอดออกไปข้างนอกและที่สำคัญคือความเป็นส่วนตัวฟรอสต์ได้ถอดเสื้อผ้าทั้งหมดของเขาอย่างไม่กลัวความหนาวเพราะตอนนี้ร่างกายของเขาร้อนมากจนแทบจะสามารถละลายน้ำแข็งได้แล้ว เมื่อถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมดและเขาก็คิดจะฉีกเสื้อผ้าของสโนว์ทิ้งด้วย“เดี๋ยว ฉันจำเป็นต้องถอดด้วยเหรอ” สโนว์ที่คิดเพียงว่าจะใช้กลิ่นอัลฟ่าของเธอเพื่อบรรเทาอาการของเขาเท่านั้นได้เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ“เธอจะช่วยฉันใช่ไหม?” ฟรอสต์ถามขณะที่จังหวะลมหายใจของเขาเริ่มถี่มากขึ้น สโนว์สัมผัสได้ถึงลมหายใจอันร้อนระอุของฟรอสต์ที่พัดผ่านบนผิวของเธอได้อย่างชัดเจนและดวงตาสีน้ำเงินของเขาที่จ้องมองมายังเ

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [36] [รวมตัวกันอีกครั้ง]

    [36] [รวมตัวกันอีกครั้ง]ฟรอสต์ได้พาสโนว์ผ่านประตูมิติมายังถ้ำน้ำแข็งแห่งหนึ่ง มันน่าจะเป็นถ้ำสักแห่งที่มีอยู่ในเขตภูเขาหิมะที่กว้างใหญ่นั่นแหละเพราะระยะทางการข้ามผ่านมิติของฟรอสต์ไม่ได้กว้างใหญ่มากนักและดูเหมือนว่ามันจะกินพลังค่อนข้างมาก ฟรอสต์ที่สีหน้าเหนื่อยอ่อนอย่างชัดเจนแต่เขาก็ยังไม่ยอมคลายอ้อมแขนที่กำลังโอบอุ้มสโนว์อยู่เขาเอาเตาผิงพกพาขนาดเล็กออกมาจากมิติและจุดไฟจากนั้นก็นั่งลงข้างๆ โดยที่ให้สโนว์นั่งพิงอยู่บนตัก จากนั้นเขาก็เริ่มทำลายกำไลที่เป็นเครื่องควบคุมบนข้อมือและข้อเท้าและคอของเธอออก เขาเอามันออกด้วยการทำให้มันหายไปด้วยพลังมิติของเขา สโนว์จึงไม่ได้รับผลกระทบอะไร“เจ็บตรงไหนรึเปล่า?” ฟรอสต์ถามเพราะยังเห็นว่าเธอยังดูอ่อนแรงผิดปกติ เขาจับสำรวจไปทั่วร่างกายของเธอ“ไม่…แค่ต้องรอให้ยาหมดฤทธิ์” สโนว์นั่งหลับตาและไม่พูดอะไรอีกฟรอสต์หรี่ตามองคนบนตักอย่างเงียบเชียบ เสื้อตัวบางที่สโนว์สวมอยู่ไม่สามารถปกปิดร่องรอยเบาบางบนร่างกายของเธอได้ เพียงแค่คิดว่าไอ้นั่นสัมผัสเธออย่างไรก่อนที่เขาจะไปถึงมันก็ทำให้เขารู้สึกราวกับมีไฟสุมอยู่ในอก เขาคว้าผ้าห่มออกมาจากมิติและคลุมร่างกายของเธอก่อนจ

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [35] [ภารกิจสำเร็จ]

    [35] [ภารกิจสำเร็จ]เสียงดังรอบตัวทำให้สโนว์ต้องตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอเห็นก็คือแท็งก์น้ำมากมายแต่ในนั้นไม่มีปรสิตอยู่อีกแล้ว“ตื่นแล้วเหรอครับ?” อีธานพูดขึ้นมา นั่นทำให้เธอรู้ตัวว่าเขากำลังกอดเธอจากด้านหลังโดยที่เธอนั่งพิงอยู่บนตักของเขาเมื่อเธอรู้ตัวเธอก็พยายามลุกหนี แต่เธอก็พบว่าแขนขาของเธอถูกพันธนาการไว้อย่างแน่นหนาจนไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิดเดียว มันต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นจนอีธานเลือกที่จะล็อกแขนขาเธอไว้และพาเธอมาที่โกดังเก็บปรสิตแบบนี้ อีกอย่างแท็งก์น้ำทั้งหมดไม่ปรสิตเหลืออยู่สักตัว พวกมันถูกปลุกขึ้นมาแล้ว เธอเห็นปรสิตจำนวนไม่มากยืนประจำการอยู่โดยรอบราวกับกำลังเฝ้ายามอยู่ เธอจำได้ว่ามันมีปรสิตมากกว่านี้ นั่นหมายความว่าปรสิตที่เหลือถูกปล่อยออกมาเพื่อไปต่อสู้กับใครบางคนสโนว์คาดหวังบางสิ่งขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้“เป็นพวกเขางั้นเหรอ?” สโนว์พึมพำถาม“ไม่ว่าจะเป็นใครผมก็ไม่คิดจะปล่อยคุณไปหรอกครับ” อีธานที่กกกอดเธอไม่ยอมปล่อยเอ่ยสโนว์รับรู้ได้ถึงลมหายใจของเขาที่คลอเคลียอยู่แถวลำคอไม่ห่าง แต่ก็ทำได้แค่เอียงหัวหลบเพราะเหมือนกับว่าเขาจะทำอะไรบางอย่างกับร่างกายของเธอก่อนที่เธอจะตื่นขึ้นมา

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [34] [มาถึงแล้ว]

    [34] [มาถึงแล้ว]อีธานเคร่งครัดเรื่องเวลามาก เมื่อถึงเวลาพักผ่อนเขาก็จะไม่เข้ามารบกวนสโนว์เลยจนกว่าจะถึงกำหนดการของแผนต่อไป และนั่นทำให้สโนว์รู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติเมื่อประตูห้องขังเปิดออกในขณะที่เธอกำลังหลับ สโนว์ที่รู้ตัวตื่นตั้งแต่ที่ประตูถูกปลดล็อกอยู่ในสภาพพร้อมรบทันทีสโนว์หรี่ตามองคนที่เดินเข้ามาในห้องอย่างกะทันหัน“เตรียมการทดลองขั้นต่อไป” “นาย…ไม่ใช่อีธานที่ฉันรู้จักสินะ?” ไม่มีคำตอบของคำถาม เธอถูกพาตัวไปที่ห้องทดลองและถูกล็อกติดอยู่กับเก้าอี้ สโนว์มองแขนที่ถูกล็อกจนขยับไม่ได้และเงยหน้ามองไปรอบตัวอีธานงอกได้….รอบตัวเธอตอนนี้มีอีธานถึงห้าคนกำลังเตรียมการทดลองตามหน้าที่ที่ตัวเองได้รับมอบหมาย พวกเขาเดินสวนกันไปมาจนสโนว์ไม่สนใจที่จะแยกแยะแล้วว่าอีธานคนไหนเป็นคนไหน ตอนนี้เธอต้องสนใจแค่ว่าการทดลองนี้จะทำให้เธอรอดชีวิตไปได้หรือไม่ปรสิตเวร! เข็มยักษ์นั่นเอาไว้ใช้จิ้มแขนคนจริงเหรอ!?“นายแน่ใจเหรอว่ากะปริมาณถูกต้องแล้ว?” สโนว์ถามขณะที่อีธานร่างโคลนคนไหนก็ไม่ทราบกำลังใช้เข็มยักษ์ฉีดสารบางอย่างเข้ามาในร่างกายของเธอ“ไม่ผิดพลาด” อีธานร่างโคลนเอ่ยตอบเสียงเรียบหลังจากนั้นสโ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status