แชร์

[4] [สิ่งที่ไม่คาดฝัน] 

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-15 07:10:08

[4] [สิ่งที่ไม่คาดฝัน] 

ในวันที่สองของการสำรวจอุโมงค์พวกเขาตัดสินใจที่จะเร่งฝีเท้าเพื่อเข้าไปให้ถึงปลายทางให้เร็วที่สุด แม้มันจะเสี่ยงที่พวกเขาจะขาดการตรวจสอบที่ละเอียดจนพลาดที่จะสังเกตเห็นพวกปรสิตจนทำให้พวกปรสิตรับรู้ถึงตัวตนของพวกเขาก่อนและเข้ามาฆ่าพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะได้ตั้งตัว แต่จะเป็นการดีกว่าที่ภารกิจนี้จะจบลงโดยเร็วที่สุดแทนที่จะปล่อยให้มันยืดยาวเป็นเดือน ซึ่งก็ไม่มีใครปฏิเสธแผนการใหม่นี้

หลังจากตัดสินใจจะเร่งเดินทางให้เร็วขึ้นเป็นสองเท่าของเมื่อวาน พวกเขาจึงใช้เวลาเดินทางเพียงครึ่งหนึ่งของเมื่อวานเพื่อให้เท่ากับระยะทางของเมื่อวาน และในการเดินทางเข้ามาสำรวจอุโมงค์ของปรสิตในวันที่สาม ในที่สุดพวกเขาก็เจออย่างอื่นนอกจากอุโมงค์อันยาวเหยียดแล้ว

พวกเขาเจอโพรงขนาดใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังไม่พบศัตรู พวกเขาพบเพียงทางแยกมากมาย…

“เราไปจะทางไหนดี” นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาคิดหนักแบบสุดๆ อุตส่าห์มาถึงตรงนี้ได้แล้ว ถ้าไปผิดทางมันก็เท่ากับว่าการเดินทางทั้งสามวันก่อนหน้านี้มันสูญเปล่าทั้งหมด

“สำรวจหาร่องรอยกันก่อน อย่างน้อยเราอาจจะเจออะไรบางอย่างที่น่าจะช่วยบอกเราว่าควรไปทางไหนดี” พวกเขาตกลงกันแบบนั้นและแยกย้ายกันสำรวจโพรงถ้ำขนาดใหญ่ที่มีอุโมงค์แยกออกเป็นหลายทาง แม้แต่เพดานโพรงถ้ำก็ยังมีทางแยกด้วยซ้ำ พวกเขาคงต้องเสียเวลาสำรวจกันสักพัก

สโนว์เคยคิดว่าพวกปรสิตเหมือนปลวกเพราะพวกมันสร้างรังได้สูงใหญ่และอลังการงานสร้างมาก แต่ตอนนี้เธอคิดว่ามันเหมือนมดมากกว่า พวกมันจะสร้างเส้นทางมากมายไว้ใต้ดินลึกขนาดนี้ทำเพื่ออะไรกัน!

เธอเริ่มบ่นในใจอย่างหัวเสียขณะที่ส่องไฟฉายไปทั่วเพื่อตามหาร่องรอยของพวกปรสิต แต่สิ่งที่เธอพบไม่ใช่แค่ร่องรอย มันคือ….สิ่งมีชีวิต?

สโนว์กะพริบตาสองครั้งจากนั้นก็พยายามเพ่งมองสิ่งที่เธอบังเอิญส่องไฟฉายไปเจอ มันน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตเพราะเธอเห็นมันกะพริบตาได้ แวบแรกที่เจอมันเธอคิดว่ามันคือปรสิต แต่รูปร่างของมันไม่เหมือนพวกปรสิตที่เธอเคยเจอเลยเพราะมันมีขนาดเล็กเท่าลูกเทนนิส มีขนปุยสีขาวและเขาม้วนเหมือนแกะและมีปีกด้วย

มัน…น่ารักเกินกว่าจะเป็นพวกเดียวกับปรสิตพวกนั้น

“ทุกคน ฉันเจอบางอย่าง” สโนว์ส่งเสียงเรียกคนอื่นๆ และทันใดนั้นสิ่งมีชีวิตประหลาดนั่นก็กระพือปีกบินเข้าไปอุโมงค์ สโนว์รีบวิ่งตามไปโดยไม่คิดไตร่ตรอง เธอคิดว่าแค่ต้องวิ่งตามไป 

“เดี๋ยวสโนว์!” พวกวินเตอร์ต้องวิ่งตามอย่างช่วยไม่ได้เพราะสโนว์วิ่งตามสิ่งมีชีวิตปริศนาอย่างไม่ลดล่ะ

เพื่อตามเจ้าตัวนุ่มนิ่มนั่นให้ทันสโนว์วิ่งเต็มฝีเท้าของเธอ แต่น่าแปลกที่เธอตามมันไม่ทัน มันบินเร็วขนาดไหนกัน? แต่สโนว์ก็ไม่ยอมแพ้และวิ่งตามมันต่อไปอีกหลายกิโลจนกระทั่งเธอเห็นทางแยกอื่นและมันไม่ใช่แค่ทางแยกร้างเหมือนก่อนนี้ มันมีร่องรอยสดใหม่ของพวกปรสิตด้วย

สโนว์และคนอื่นๆ หยุดวิ่งทันทีที่เห็นร่องรอยพวกนั้น ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาถูกทางเพราะข้างหน้านี้ต้องมีพวกปรสิตอาศัยอยู่แน่นอน!

“ถอยไปตั้งหลักก่อนหรือจะเข้าสำรวจก่อน” วินเตอร์ถามความเห็นทุกคน

“ถอยไปเตรียมตัว” ฟรอสต์เอ่ย ทุกคนในทีมก็เห็นด้วยเพราะเมื่อครู่พวกเขาเพิ่งวิ่งกันมาอย่างต่อเนื่องเพื่อความไม่ประหม่าพวกเขาควรไปพักเอาแรงก่อนและต้องไปเตรียมอาวุธให้พร้อมสำหรับออกรบเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเข้าไปสำรวจได้โดยไม่เกิดการปะทะ

แต่ทางที่ดีพวกเขาควรสำรวจให้เงียบที่สุดเพราะพวกเขามีอยู่กันแค่เจ็ดคน จำนวนแค่นี้ไม่มีทางเอาชนะพวกปรสิตที่มาเป็นฝูงได้ พวกเขาจึงต้องพยายามซ่อนตัวตนของตัวเองจากพวกปรสิตให้ได้มากที่สุด ไม่เพียงต้องเคลื่อนไหวให้เงียบเชียบ พวกเขาจะต้องฉีดสเปรย์พิเศษด้วย มันเป็นสเปรย์ที่สามารถกลบกลิ่นอายของมนุษย์ไม่ให้พวกปรสิตได้กลิ่นได้

หลังจากเตรียมตัวเสร็จแล้วพวกเขาก็เริ่มออกสำรวจ พวกเขาเดินไปตามเส้นทางที่มีร่องรอยของปรสิตมากที่สุดเพราะเชื่อว่าเป็นทางที่จะพาพวกเขาไปพบกับพวกปรสิตแต่ระหว่างทางพวกเขาไม่พบศัตรูเลย พวกเขาพบเพียงว่ายิ่งเดินลึกเข้าไปในอุโมงค์อันมืดมิดแห่งนี้อุโมงค์ก็ยิ่งสว่างขึ้นเพราะแสงบางอย่างที่ส่องสว่างมาจากปลายทางของอุโมงค์ แน่นอนว่ามันไม่ใช่แสงจากดวงอาทิตย์เพราะมันเป็นแสงสีม่วงสลัวๆ

แสงสีม่วงสว่างมากขึ้นเมื่อพวกเขาเห็นปลายทางข้างหน้า ฟรอสต์ส่งสัญญาณมือให้ทุกคนหยุดและเขาก็เดินเข้าไปสำรวจก่อน ที่ปลายอุโมงค์ฟรอสต์พบว่าทางข้างหน้ามันเป็นหลุมขนาดใหญ่และลึกมาก ข้างบนเองก็เหมือนกัน แต่ต้นกำเนิดแสงสีม่วงมาจากหลุมด้านล่าง ฟรอสต์จึงพยายามเพ่งตามองลงไปในหลุมเพื่อดูว่าข้างล่างนั่นมีอะไร แต่เขาเห็นแค่การเคลื่อนไหวที่เลือนรางของพวกปรสิตเพราะแสงสีม่วงที่ส่องมาจากด้านล่างมันสว่างมาก เขาส่งสัญญาณมือเรียกทุกคน

“เราต้องลงไปสำรวจด้านล่าง” ฟรอสต์พูด

พวกเขารู้ว่าการลงไปสำรวจข้างล่างอันตรายมากเพราะพวกเขาสามารถเห็นการเคลื่อนไหวที่เลือนรางของพวกปรสิตข้างล่างนั้นได้ พวกเขาตัดสินใจแบ่งกลุ่มกันเพราะถ้าลงไปหมดทุกคนและเกิดสิ่งผิดพลาดขึ้นพวกเขาอาจจะไม่รอดกันหมดทุกคนก็ได้ สโนว์และวินเตอร์จึงลงไปสำรวจกันแค่สองคนเพราะยิ่งคนน้อยก็ยิ่งง่ายแก่การซ่อนตัวหรือหลบหนี

เมื่อวางแผนและตกลงกันได้เรียบร้อยแล้ว สโนว์และวินเตอร์ก็ใช้อุปกรณ์ปีนผาของทหารปีนลงไปด้านล่างทันที ทุกอย่างเป็นไปอย่างเงียบเชียวแต่คล่องแคล่วว่องไว เมื่อพวกเธอลงมาจนมองเห็นพวกปรสิตที่เดินกันยั่วเยี้ยเต็มพื้นแล้วพวกเธอก็ลดความเร็วลงและเงียบเชียบกว่าเดิม ขณะเดียวกันก็มองหาร่องบนผนังที่พวกปรสิตสร้างไม่ดีเป็นที่หลบซ่อนสายตาของพวกปรสิตด้วย

ทั้งสองทำเช่นนี้เพื่อหลบซ่อนตัวตนจากพวกปรสิตมาตลอดจนกระทั่งทั้งสองคนก็สามารถลงมาถึงปลายทางของอุโมงค์ยักษ์ได้สำเร็จ แต่พอมองลงไปพวกสโนว์ก็เห็นแค่ฝูงปรสิตเดินกันยั้วเยี้ย ไม่เห็นอย่างอื่นที่น่าจะเป็นประโยชน์ แต่เห็นเพียงแค่นี้ทั้งสองก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าที่นี่มีปรสิตมากแค่ไหน 

สโนว์และวินเตอร์จึงตัดสินใจเสี่ยงโหนตัวออกไปจากอุโมงค์เพื่อดูว่ามันมีอะไรข้างล่าง และเมื่อพวกเขาได้โหนตัวลงไปได้เล็กน้อยพอได้เห็นสิ่งรอบข้าง วินเตอร์และสโนว์ก็ได้เห็นสิ่งที่ทำให้พวกเธอตกตะลึงอย่างมาก

มันคือโพรง…ไม่สิ มันใหญ่กว่านั้น มันกว้างใหญ่มากกว่าหลุมซึ่งเป็นทางที่พวกเขาใช้เข้ามาเสียอีก!

มันคือถ้ำขนาดใหญ่ยักษ์นี้เต็มไปด้วยพวกปรสิตหลายหมื่นแสนหรืออาจจะล้านตัวและพวกสโนว์ก็ได้พบด้วยว่าอุโมงค์ที่พวกเธอใช่ไต่ลงมาไม่ได้มีแค่อันเดียว นั่นหมายความว่ามันมีช่องทางอื่นที่จะลงมาที่นี่อีกมาก

“นั่น” สโนว์เหลือบไปเห็นบางอย่าง เธออ้าปากกระซิบไร้เสียงเรียกวินเตอร์และชี้ให้เขาหันไปมอง

พวกเขาได้พบกับต้นกำเนิดแสงสีม่วงมันเหมือนก้อนหินขนาดใหญ่ที่สามารถเรืองแสงได้แต่พวกสโนว์ที่ศึกษาประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติมาตั้งแต่จำความได้รู้ดีว่ามันไม่ใช่ก้อนหินธรรมดา มันเป็นอุกกาบาตที่ตกลงมาบนโลกและได้สร้างหายนะให้กับสิ่งมีชีวิตบนโลกเมื่อห้าสิบปีก่อน!

พวกเขาประหลาดใจมากเมื่อเห็นว่ามันอยู่ที่นี่ แต่พวกเขาประหลาดใจกับพฤติกรรมของพวกปรสิตมากกว่า พวกมันยืนนิ่งล้อมอุกกาบาตอย่างเป็นระเบียบและมีท่าทางราวกับว่ากำลังอาบแสงสีม่วงจากอุกกาบาต พฤติกรรมของพวกมันดูน่าสงสัยมาก

สโนว์ยกกล้องออกมาถ่ายภาพและวิดีโออย่างเงียบเชียบเพื่อเก็บข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้เห็น โดยเฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นรอบอุกกาบาตสีม่วงนั้น

เพื่อสังเกตดูพฤติกรรมของพวกมัน วินเตอร์และสโนว์จึงโหนตัวอยู่เหนือหัวของพวกปรสิตสักพักใหญ่จนกระทั่งพวกเขาสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจจากพวกปรสิตที่กำลังยืนรายล้อมอุกกาบาตอยู่ พวกปรสิตที่แขนขาไม่สมประกอบงอกแขนขาใหม่และดูแข็งแกร่งมากขึ้น พวกมันพัฒนาอย่างก้าวกระโดดต่อหน้าต่อตาพวกเขา

สโนว์และวินเตอร์ปะทะกับพวกปรสิตในสนามรบมาหลายสิบปีแต่พวกเขาไม่เคยรู้เลยว่าพวกปรสิตสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ขนาดที่สามารถงอกร่างกายส่วนที่เสียหายได้

แสงสีม่วงจากอุกกาบาตนั่นพิเศษกว่าที่พวกเขาคาดไว้มาก

“วินเตอร์ เราต้องเก็บตัวอย่าง” พวกเขาจะไม่เข้ามาเสียเที่ยวเด็ดขาด พวกเขาจะต้องเก็บหลักฐานกลับไปตรวจสอบด้วยเพราะนั่นอาจจะเป็นกุญแจไขความลับของพวกปรสิตและทำให้มนุษยชาติได้รับชัยชนะในที่สุด

แต่การที่พวกเขาจะเข้าไปใกล้อุกกาบาตโดยที่ไม่ให้พวกปรสิตที่ยืนล้อมอุกกาบาตอยู่ไม่รู้ตัวเสียก่อนมันเป็นเรื่องที่ยากมาก มีความเป็นไปได้สูงมากที่พวกเขาจะถูกค้นพบและถูกกำจัดโดยฝูงปรสิตก่อนที่จะได้เข้าใกล้อุกกาบาตด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่มีทางเลย

พลังพิเศษของวินเตอร์คือโล่สีใส แต่ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือโล่มันมีความสามารถล่องหนได้ มันไม่เพียงปกป้องผู้ที่อยู่เบื้องหลังโล่จากการโจมตี มันยังสามารถพรางตาผู้ที่อยู่เบื้องหลังโล่จากศัตรูได้ด้วย หากว่าวินเตอร์ใช้โล่ห่อหุ้มตัวเองไว้เขาก็จะสามารถล่องหนได้และสามารถเข้าไปใกล้อุกกาบาตได้โดยไม่ต้องปะทะกับฝูงปรสิต 

ด้วยเหตุนี้หน้าที่ลงไปเก็บตัวอย่างอุกกาบาตจะต้องเป็นหน้าที่ของวินเตอร์อย่างแน่นอน ซึ่งในขณะที่วินเตอร์ต้องโหนตัวลงไปอยู่กลางฝูงปรสิตเพื่อเข้าไปเอาตัวอย่างอุกกาบาต สโนว์ก็คอยสนับสนุนอยู่ข้างบน สโนว์จะคอยสังเกตการณ์จากด้านบนและบอกเส้นทางเข้าใกล้อุกกาบาตกับวินเตอร์ แต่ถ้ามีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นสโนว์ก็พร้อมจะใช้พลังพิเศษของตัวเองช่วยเหลือวินเตอร์ เนื่องจากว่าพลังควบคุมน้ำของเธอสามารถโจมตีระยะไกลได้ พลังของเธอจึงเหมาะที่จะสนับสนุนจากข้างบนมากที่สุด แต่สโนว์หวังว่ามันจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่ควบคุมไม่ได้อย่างนั้นขึ้นมา

 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [5] [สิ่งที่ไม่คาดฝัน]

    [5] [สิ่งที่ไม่คาดฝัน]สถานการณ์น่าลุ้นระทึกผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ให้ความรู้สึกยาวนาน กว่าวินเตอร์จะเอาตัวอย่างอุกกาบาตมาได้สโนว์ที่รอลุ้นอยู่บนเพดานก็เผลอกลั้นหายใจไปนานหลายนาทีด้วยความโชคดีและความสามารถของวินเตอร์ ในที่สุดเขาก็สามารถเอาตัวอย่างอุกกาบาตมาได้และสามารถแอบหลบกลับมาได้โดยไม่ถูกจับได้เสียก่อน อันที่จริงครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาต้องแอบลอบเข้าไปในใจกลางฝูงปรสิตเพราะภารกิจหลักของพวกเขาก็คือลอบเข้าไปวางระเบิดในรังของพวกปรสิต เพราะงั้นภารกิจพลีชีพแบบนี้พวกเขาทำมาหลายรอบจนชำนาญแล้วล่ะ แต่การเอาระเบิดไปวางกับการเข้าไปเก็บตัวอย่างสำคัญมันไม่เหมือนกัน ภารกิจอันแรกจะตายก็ช่างขอแค่วางระเบิดสำเร็จภารกิจก็สำเร็จ แต่อันที่สองถ้าหากกลับมาไม่ได้ตัวอย่างสำคัญที่แอบเก็บมาก็จะสูญเปล่าภารกิจก็จะไม่สำเร็จ ระดับความเครียดจึงต่างกันเล็กน้อย ซึ่งพอได้รับข้อมูลที่ต้องการมาทั้งหมดแล้วสโนว์และวินเตอร์ก็รีบวิ่งกลับมาหาฟรอสต์และคนอื่น ๆ ทันทีราวกับกลัวว่าพวกปรสิตจะวิ่งตามหลังมา และเมื่อกลับไปถึงที่ซ่อนตัวสโนว์และวินเตอร์ก็รู้สึกราวกับว่าได้อากาศหายกลับมาเลยทีเดียว“ในนั้นแออัดชะมัด แทบไม่มีอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [6] [เพศรอง] 

    [6] [เพศรอง]“อย่าโง่น่าฟรอสต์” สโนว์บ่นเมื่อเห็นเขามาปรากฏตัวข้างกายพวกเธอทั้งที่เขาควรจะวิ่งหนีไปไกลแล้ว“พวกนายมันงี่เง่า” ฟรอสต์กล่าวขณะหยิบปืนขึ้นมายิงสกัดปรสิตที่พยายามตามเข้ามาโจมตีพวกเขา เนื่องจากว่าอุโมงค์มันไม่ใหญ่มากนักและพวกปรสิตส่วนมากก็ตัวใหญ่ มันจึงง่ายต่อการยิงสกัดไม่ให้พวกปรสิตเข้ามาใกล้และง่ายต่อการกำจัดพวกมันด้วยแต่ถึงจะทำอย่างนี้ต่อไปพวกปรสิตก็ไม่มีวันหมดอยู่ดีเพราะพวกมันมีจำนวนมากกว่าล้านและพวกเขาก็มีอาวุธและพลังจำกัดด้วย อีกอย่างในตอนนี้สโนว์และวินเตอร์เหมือนจะมีอาการฮีทเพราะเพศรองปรากฏเร็วกว่าที่คาดการไว้ อีกไม่นานพวกเขาทั้งสองอาจเสียสติเพราะถูกสัญชาตญาณของเพศรองกลืนกิน“ตอนนี้ล่ะ!” วินเตอร์ตะโกนให้สัญญาณจากนั้นพวกเขาก็วิ่งหนีไปยังอีกเส้นทางที่ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ มันอาจจะเป็นทางออกหรือไม่ก็อาจจะทางตันหรือที่เลวร้ายกว่านั้นมันอาจเป็นทางกลับไปที่รังของพวกปรสิต แต่ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอะไรพวกเขาก็ต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก    [7] [ทางออก]

    [7] [ทางออก]ขณะที่ปล่อยให้วินเตอร์คลอเคลียและใช้กลิ่นอัลฟ่าของเธอในการช่วยตัวเอง สโนว์ก็พยายามทำใจให้สงบเพื่อไม่ให้กลิ่นโอเมก้าของวินเตอร์มาควบคุม ส่วนฟรอสต์นั้นก็ไม่ได้ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเสียเปล่า เขาพยายามขุดเจาะกำแพงดินที่ถล่มลงเพื่อหาเส้นทางไปต่อผ่านไปครึ่งชั่วโมงในที่สุดสโนว์ก็หลุดพ้นจากสถานการณ์น่าอึดอัดใจและร่างกาย ส่วนวินเตอร์ก็ดูหน้าตาแจ่มใสขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากที่ได้ปลดปล่อยไปครั้งหนึ่ง ตอนนี้อาการฮีทของวินเตอร์น่าจะอยู่ในการควบคุมอย่างสงบไปได้อีกสักพักและก่อนอาการฮีทจะพลุ่งพล่านขึ้นมาอยู่เหนือการควบคุมอีกพวกเขาควรเร่งรีบออกจากที่นี่ สโนว์และวินเตอร์จึงไปช่วยฟรอสต์ขุดดินที่ได้ถล่มลงมากลบฝังทางหนีของพวกเขาไว้ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็ขุดทะลุผนังดินจนทะลุไปถึงเส้นทางอุโมงค์อีกด้านที่ไม่ได้รับผลกระทบกับระเบิดทางจึงปิดโล่งและไม่มีปรสิตสักตัวเพราะพวกมันทั้งหมดถูกดินถล่มลงมาทับตายที่อุโมงค์อีกด้านแล้ว“มีแค่ทางเดียวแล้วที่เราไปได้…แถมยังเป็นทางที่ไม่รู้จุดหมายอีก” สโนว์หันไปมองทางตันข้างหลังที่มีเส้นทางที่สามารถพาพวกเขาออกไปข้างนอกได้ก่อนจะหันกลับมามองทางข้างหน้าที่ไม่รู้ว่าจะมีท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [8] [สิ่งมีชีวิตประหลาด]

    [8] [สิ่งมีชีวิตประหลาด]พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ารังของพวกปรสิตมันมีทางเชื่อมต่อกัน!“วิ่งเร็วกว่านี้ไม่ได้รึไง! พวกข้างหลังจะตามมาทันแล้ว!” สโนว์ตะโกนขณะเดียวกันก็ยิงกระสุนน้ำใส่ฝูงปรสิตที่วิ่งตามมาจากข้างหลัง“ข้างหน้ามีพวกมันเต็มเลยนะ!” วินเตอร์ตะโกนประท้วง “อีกอย่างฉันแบกพวกเธอทั้งสองคนอยู่นะ!” เขาตะโกนประท้วงอีกประโยคเนื่องจากว่าวินเตอร์วิ่งเร็วและแข็งแรงมาก เมื่อถึงยามหนีเขาสามารถวิ่งทิ้งห่างสโนว์และฟรอสต์ได้เป็นกิโลเมตร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์วิ่งหนีทิ้งเพื่อนไว้ข้างหลังวินเตอร์ก็เลยต้องแบกเพื่อนทั้งสองคนขึ้นบ่าและวิ่งหนี สโนว์และฟรอสต์จึงรับหน้าที่กำจัดฝูงปรสิตที่เข้ามาขวางทางแต่พวกเขาคงทำแบบนี้ไปได้อีกไม่นานมากนักเพราะตราบใดที่ยังไม่เจอทางออกพวกเขาก็จะถูกฝูงปรสิตรุมล้อมจนไร้ทางหนีและถูกรุมทึ้งจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกให้ใครมาเก็บ“ไปทางไหนดี!” วินเตอร์ตะโกนถามความเห็น“เลือกสักทางสิ!” ฟรอสต์ตอบขณะนำปืนกระบอกใหม่ที่มีกระสุนเต็มกระบอกออกมาและโยนปืนที่หมดกระสุนแล้วกลับเข้าไปในมิติ ทุกขั้นตอนนั้นไม่มีการขาดช่วงแม้แต่น้อย“งั้นทางนั้น!” วินเตอร์วิ่งไปยังทางที่ตัวเองเลือกทันทีแม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-21
  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [9] [ต้นกำเนิดของปรสิต]

    [9] [ต้นกำเนิดของปรสิต]บ้านของเคนเหนือความคาดหมายของทหารหน่วยพลีชีพทั้งสามคนมาก ไม่ใช่เพราะมันเป็นถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ที่มีพืชมากมายเติบโตจนเขียวชอุ่มเนื่องจากได้รับแสงอย่างเพียงพอจากรูโหว่บนเพดานและได้รับน้ำอย่างต่อเนื่องจากน้ำตกใต้ดิน ทั้งหมดนั้นดูเหนือความคาดหมายก็จริง แต่สิ่งที่เหนือความหมายกว่านั้นเป็นสิ่งมีชีวิตจำนวนมากที่อาศัยอยู่ที่นั่น“นี่มันรังแกะรึไงกัน”ในโลกที่มีปรสิตครองร่างของสิ่งมีชีวิตทุกประเภทบนโลก การที่จะได้เห็นสัตว์ธรรมดาตามธรรมชาตินอกเหนือจากสัตว์ที่มนุษย์เลี้ยงไว้กินมันหาได้ยากมากเพราะส่วนมากสัตว์พวกนั้นจะถูกปรสิตยึดครองร่างจนหมดเสียก่อนด้วยเหตุนั้นพวกเขาทั้งสามคนจึงตกใจและแปลกใจมากเมื่อเห็นฝูงแกะสีขาวธรรมดาเต็มถ้ำไปหมด“พวกนี้คือเพื่อนของนายเหรอ?” วินเตอร์ถามหน้าซื่อ“หา? ฉันเนี่ยนะจะเป็นเพื่อนกับพวกสิ่งมีชีวิตไร้สมองพวกนี้น่ะ? นายโง่รึไงถึงได้เอาฉันไปเทียบกับสัตว์พวกนั้นน่ะ!” ใบหน้าน่ารักราวกับแกะน่ารักของเคนเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวทันทีวินเตอร์กะพริบตาปริบๆ หน้าตาซื่อบื้อของเขาแสดงความสับสน เขาพูดอะไรผิดทำไมถึงโกรธขนาดนั้น? เคนก็เป็นแกะเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? วิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-21
  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [10] [บ่อน้ำพุร้อน]

    [10] [บ่อน้ำพุร้อน]ฟรอสต์ได้ติดต่อกลับไปยังกองทัพทหารที่สังกัดอยู่เพื่อรายงานตัวแล้วและหลังจากนั้นเขาก็ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการให้รอรับภารกิจต่อไปอยู่ที่ฐานทัพที่ใกล้ที่สุด พวกเขาจึงเดินทางไปยังฐานทัพทหารรหัส 056 ซึ่งเป็นฐานทัพที่ใกล้ที่สุดในตอนนี้เมื่อทหารหน่วยพลีชีพทั้งสามคนเดินทางไปถึงฐานทัพทหารรหัส 056 สิ่งแรกที่พวกเขาต้องทำก็คือการตรวจร่างกาย ทั้งตรวจเพื่อยืนยันว่าร่างกายไม่มีปรสิตแฝงตัวอยู่ ตรวจเพื่อดูแลสุขภาพร่างกายให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด และตรวจเพื่อยืนยันเพศรองด้วยแน่นอนว่าผลการตรวจเพศรองของวินเตอร์และของสโนว์ปรากฏออกมาอย่างที่คาดไว้“โอเมก้า มีกำกับไว้ด้วยนะว่าพัฒนาสมบูรณ์มาก” วินเตอร์อ่านผลการตรวจในแท็บเล็ต“อัลฟ่า” ผลการตรวจไม่ต่างจากที่คาดไว้ สโนว์จึงไม่ได้สนใจและหันไปสนใจผลการตรวจของฟรอสต์ที่เธอยังไม่รู้ “ผลออกมาเป็นไง”ฟรอสต์อ่านผลการตรวจของตัวเอง ท่าทางนิ่งเงียบคาดเดาอารมณ์ได้ยาก สโนว์และวินเตอร์จึงยื่นคอไปแอบอ่าน ซึ่งผลก็ปรากฏออกมาเหมือนกับของวินเตอร์“โอเมก้า พัฒนาสมบูรณ์…เรามันโชคร้ายจริงๆ” วินเตอร์ตบบ่าฟรอสต์พลางถอนหายใจยอมรับผลตรวจที่ไม่เป็นอย่างที่หวัง“เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-23
  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [11] [วันพักผ่อน]

    [11] [วันพักผ่อน]ทหารหน่วยพลีชีพทั้งสามมาถึงใจกลางเมืองแล้ว พวกเขาเลือกที่จะมาเปิดหูเปิดตาที่นี่ก็เพราะมันเป็นย่านท่องเที่ยวของโดมแห่งนี้ แต่เมื่อมาถึงใจกลางเมืองพวกเขาก็เริ่มรู้สึกว่าพวกเขาได้ตัดสินใจผิดไป“ที่นี่มันอะไรกัน มนุษย์เดินยั้วเยี้ยไปมาอย่างกับปรสิต”ความสงบสุขในโดมทำให้มนุษย์ข้างในลดการป้องกันตัวลงและกล้าที่จะออกมาเดินเล่นโดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยเลยแม้แต่น้อย ในเมืองจึงเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินขวักไขว่กันไปมาด้วยท่าทางสบายใจและมีความสุขทหารหน่วยพลีชีพทั้งสามนึกภาพสถานการณ์ในใจกลางเมืองที่มนุษย์อาศัยอยู่ไม่ออกอยู่แล้ว พวกเขาจึงไม่ได้คาดการไว้ว่าจะเจอกับสถานการณ์เช่นนี้“ทำไมเอาไปเปรียบเทียบกับพวกปรสิตล่ะ” วินเตอร์ถามสโนว์ที่เพิ่งกล่าวประโยคเมื่อกี้ออกมา“เดินอย่างไร้ระเบียบ ชนกันจนสับสนวุ่นวายไปหมด ถ้าเกิดถึงเวลาต่อสู้หรือหนีขึ้นมาคงเหยียบกันตายก่อนที่จะถูกปรสิตฆ่า” สโนว์วิจารณ์“จะว่าไปก็ใช่” วินเตอร์พยักหน้าเห็นด้วย “แต่วันนี้เรามาเที่ยวเล่นที่นี่เพื่อเปิดหูเปิดตากันนะ เพราะงั้นช่างเรื่องนั้นไปเถอะน่า” กล่าวจบวินเตอร์ก็พาสโนว์และฟรอสต์เดินเข้าไปในฝูงชน“แล้วจะไปไหน” ฟ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [12] [วันพักผ่อน]

    [12] [วันพักผ่อน]หลังจากได้เสื้อผ้าคนละสามตัวแล้วพวกเขาก็ยังเดินสำรวจเมืองต่อจนกระทั่งสโนว์ไปเจอร้านหนึ่งที่สะดุดตาของเธอไม่น้อย“อะไรกันเนี่ย เสื้อผ้าที่ปิดเฉพาะส่วนล่างและส่วนหน้าอกแบบนี้มันจะป้องกันอะไรได้กัน มันเป็นเสื้อผ้าที่คนที่นี่นิยมใส่กันเหรอ?” วินเตอร์วิจารณ์เสื้อผ้าที่อยู่บนหุ่นลองเสื้ออย่างตกใจ“เจ้าโง่ นั่นมันชุดชั้นในต่างหากล่ะ” สโนว์พูด ใช่แล้วร้านที่เธอสนใจมันก็คือร้านชุดชั้นในยังไงล่ะ! สโนว์ไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปในร้าน“เธอจะซื้อเหรอ” วินเตอร์ถาม“แน่นอน ชุดชั้นในมันใส่ไว้ข้างในเพราะงั้นมันไม่มีทางส่งผลต่อความล่าช้าตอนที่ฉันจะเปลี่ยนไปสวมเครื่องแบบทหารหรอก” เธอหันไปพูดกับฟรอสต์เพื่อบอกเป็นนัยว่าเธออยากจะซื้อมันมากกว่าหนึ่งตัว!เมื่อได้เข้าไปข้างในร้านชุดชั้นในหญิง มันก็ได้เปิดหูเปิดตาพวกเขาในเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อนอีกครั้ง“ปกติชุดชั้นในมันเล็กอย่างนี้เหรอ? แล้วนี่คือเส้นอะไร” วินเตอร์สับสนอย่างมากกับกางเกงในขนาดที่เล็กกว่ามือและเส้นระโยงระยางที่น่าจะเป็นกางเกงในด้วยเหมือนกัน ดูขาดแคลนผ้ามาก ชั้นในของทหารยังมีผ้ามากกว่าเลย อย่างน้อยชุดชั้นในของสโนว์มันก็เป็นกางเกง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27

บทล่าสุด

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [20] [ผิดปกติ]

    [20] [ผิดปกติ][ปรสิตไม่ทราบจำนวนกำลังล้อมขบวนรถ! โปรดกลับมาด่วน!]นั่นคือสัญญาณขอความช่วยเหลือแรกที่พวกสโนว์ได้รับจากกลุ่มทหารรับจ้างดราก้อนก่อนที่พวกเขาจะเงียบหายไปแต่ก็ยังส่งสัญญาณเสียงมาไม่หยุดเพื่อบอกสถานการณ์ที่เข้าขั้นวิกฤตของพวกเขาสโนว์ วินเตอร์ และฟรอสต์สามารถวิ่งกลับไปช่วยพวกเขาได้ภายในเวลาไม่ถึงสองนาทีได้ถ้าหากว่าพวกเขาไม่ได้ค้นพบสิ่งผิดปกติจากในป่าเข้าเสียก่อน“มีบางอย่างกำลังใกล้เข้ามา” ฟรอสต์มองเข้าไปในป่า เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่สับสนวุ่นวายกำลังมุ่งตรงมาทางพวกเขา“ปรสิต?” วินเตอร์ฟังเสียงอย่างไม่แน่ใจ เสียงของมันเหมือนฝีเท้าของสัตว์ป่า แต่เขาไม่ได้กลิ่นปรสิตเลย มีเพียงกลิ่นพืชในป่านี้ที่ค่อนข้างรุนแรงและติดจมูกมาก“มันเหมือนจะ…เคลื่อนไหวเร็วมาก ยังมีปรสิตเหลืออยู่” สโนว์รวบรวมหยดน้ำขึ้นมาเตรียมพร้อม“ยังมีผู้รอดชีวิตอยู่” วินเตอร์นึกขึ้นมาได้ว่ายังมีผู้รอดชีวิตจากขบวนรถเดินทางนี้อยู่เขาจึงรีบไปหาผู้รอดชีวิต“เอ๊ะ? เกิดอะไรขึ้น?” คาร่าตื่นตระหนกเมื่อวินเตอร์ปรากฏตัวข้างเธอกะทันหัน“ตอนนี้ยังไม่ปลอดภัย” วินเตอร์อุ้มคาร่าพาดบ่าโดยไม่ได้อธิบายอะไรมากและกำลังจะกลับไปรวมตัวก

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [19] [ถูกล้อม]

    [19] [ถูกล้อม]โดยไม่คาดคิด ปรสิตอีกฝูงได้ปรากฏตัวออกมาจากป่าและล้อมรถของพวกเขาไว้หมดทุกทาง“หัวหน้า! เราถูกล้อมแล้ว!” ดีลุคตะโกนเสียงดังลั่น“เห็นแล้ว! รีบเปิดกลไกป้องกันตัวของรถ!” ดราก้อนตอบกลับเสียงเครียดและสั่งการทันที ไม่มีเวลาให้ตกใจสงสัยว่ามีฝูงปรสิตอีกกลุ่มมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง อย่างแรกที่ต้องทำคือรักษาชีวิตเอาไว้จนกว่าทหารสามคนนั้นจะกลับมา!“ผมส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปให้สามคนนั้นแล้วครับ! อีกไม่เกินสิบนาทีคงมาถึง!” ดีลุคเอ่ยก่อนจะหันไปหยิบปืนขึ้นมากอดไว้“รู้งานดีนี่!” ดราก้อนเอ่ยชม อยากจะยกนิ้วให้แต่มือไม่ว่างเพราะตอนนี้เขากำลังวุ่นวายกับการบรรจุกระสุนใส่ปืน จากนั้นเขาก็ไม่รอช้าที่จะกระโดดออกไปจากรถและลั่นไกยิงปรสิตที่พุ่งเข้ามาโจมตีทันทีลูกทีมของดราก้อนก็ทำงานหนักเช่นกัน พวกเขาต้องประสานการโจมตีกันเป็นทีมเพื่อหยุดยั้งไม่ให้ปรสิตเข้ามาใกล้รถมากเกินไป แต่เพราะพวกมันมีเยอะเกินไปถึงจะล้มตัวหนึ่งได้มันก็จะมีตัวใหม่ปรากฏตัวออกมาอีกสองและมันยังมาทุกทิศทางจนพวกเขารับมือแทบไม่ทัน หากไม่มีกลไกป้องกันตัวของรถที่เป็นปืนอัตโนมัติช่วยยิงพวกเขาอาจจะถูกล้อมได้เร็วกว่าเดิมแต่เมื่อพวกเขาส

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [18] [ทำงานนอกเวลา]

    [18] [ทำงานนอกเวลา]ไม่ว่าใครก็ทราบกันดีว่าหนึ่งในงานที่อันตรายที่สุดก็คืองานที่ต้องออกนอกโดมปลอดภัย แต่ก็ยังมีคนมากมายยอมที่จะออกนอกโดมเพื่อทำงานเพราะนั่นเป็นทางเดียวที่พวกเขาจะได้รับเงินจำนวนมากและจะไม่อดตายอยู่ในโดมที่มีทรัพยากรจำกัดงานขนส่งสินค้าก็เป็นหนึ่งในงานที่อันตรายติดอันดับเพราะต้องขนสินค้าข้ามจากอีกโดมไปยังอีกโดม ระหว่างการขนสินค้า ไม่รู้เลยว่าจะต้องเจออะไรบ้าง คนที่เลือกทำงานนี้ต่างก็ต้องเตรียมใจมากันก่อน แต่เมื่อต้องตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของปรสิตมันก็ไม่มีใครสงบสติของตัวเองได้หรอกคาร่ารู้สึกหวาดกลัวจนแทบเสียสติ ในขณะที่ยืนมองเพื่อนที่ทำงานขนส่งเช่นเดียวกับเธอกรีดร้องด้วยความกลัวอย่างเสียสติจากนั้นเพื่อนคนนั้นก็ถูกปรสิตกัดจนตัวขาดครึ่ง“ช่วยด้วย!”“ฉันยังไม่อยากตาย!”“ไม่!”เสียงร้องโหยหวนดังระงมขณะที่พวกเขาพยายามหนีปรสิตที่ไล่ล่าพวกเขา สถานการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะพวกเขาไม่ทันสังเกตเห็นฝูงปรสิตที่แอบซ่อนตัวอยู่ในป่าหนามที่พวกเขาใช้เป็นทางผ่านไม่มีใครคิดว่าตัวเองจะโชคร้ายเจอปรสิตจำนวนมากในครั้งเดียวเช่นนี้แม้ว่าพวกเขาจะพยายามต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด แต่พวกปรสิตก็ราวกับว่ามีสม

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [17] [เส้นทางที่ต้องผ่าน]

    [17] [เส้นทางที่ต้องผ่าน]“สโนว์มานั่งนี่สิ” วินเตอร์ตบเบาะตรงกลางระหว่างขาของเขาที่เขาจงใจเว้นว่างไว้และเอ่ยปากเรียกสโนว์สโนว์เพิ่งตื่นเมื่อครู่เดินไปนั่งตรงที่วินเตอร์เว้นว่างไว้ให้โดยที่ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะรับอาหารแห้งจากฟรอสต์ มันเป็นอาหารที่แค่ฉีกซองแล้วก็กินได้เลย สโนว์เลยนั่งเอนหลังพิงวินเตอร์ที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหลังและทานอาหารเช้าไปด้วยอย่างงัวเงียวินเตอร์เห็นท่าทางขี้เกียจของสโนว์แล้วก็นึกถึงอลิซาเบธที่ปีนขึ้นมานั่งตักของเขาเมื่อวานสาเหตุที่สโนว์อารมณ์เสียเมื่อวานเป็นเพราะมีแมวตัวอื่นมาแย่งที่นั่งนี่เอง!วินเตอร์สรุปกับตัวเองในใจโดยไม่คิดจะเผยความคิดให้หญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักรู้ ไม่งั้นเขาคงโดนข่วนแน่“กินได้แล้ว เช้านี้เรามีเวรยาม” ฟรอสต์เห็นว่าวินเตอร์เอาแต่ยิ้มเลยใจดียื่นอาหารไปจ่อปากวินเตอร์ เขาป้อนอาหารแห้งให้วินเตอร์จนหมดอย่างรวดเร็วเพราะวินเตอร์กัดแค่สองคำอาหารก็หมดแล้วอย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อครู่อยู่ในสายตาเคียร่าที่กำลังนั่งหั่นไข่ดาวอยู่ฝั่งตรงกันข้ามของโต๊ะ“…?” นั่นอะไรน่ะ? ทำไมเขารู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่ไม่ปกติ ความใกล้ชิดนั่นเป็นเรื่องปกติ

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [16] [ความคิดของผู้คน]

    [16] [ความคิดของผู้คน]หัวใจของเคียร่าเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น ปรสิตที่มีหน้าตาเหมือนกวางแต่มันมีหางหุ้มเกราะหนามถึงสามหางกำลังก้าวเดินเข้ามาใกล้รถเดินทางของเขามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่มีใครเคลื่อนไหวเพื่อกำจัดมัน ทหารรับจ้างและทหารหน่วยพลีชีพยังยืนนิ่งรอให้มันเข้ามาใกล้จนกระทั่งมันใช้หางหุ้มเกราะหนามโจมตี ทว่ามันก็ยังไม่มีใครเคลื่อนไหวทำอะไรเลยอยู่ดีตึง!ทหารรับจ้างทุกคนรู้สึกใจหล่นหายตอนที่มันโจมตี แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าการโจมตีของปรสิตตัวนั้นปะทะเข้ากับเกราะพลังบางอย่างที่ปรากฏขึ้นมาให้เห็นเลือนรางพวกเขาก็ถอนหายใจโล่งอกและยืนมองปรสิตสองดาวตวัดหางโจมตีไม่หยุดแต่ก็ไม่สามารถแตะต้องคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเกราะป้องกันนั้นได้นี่น่ะเหรอพลังพิเศษ?“ปรสิตสองดาวดูจัดการง่ายไปเลย” ดราก้อนพึมพำเพื่อตัดสินระดับความยากในการจัดการปรสิตพวกนั้น เหล่าทหารรับจ้างได้ให้ดาวกับพวกปรสิต ยิ่งดาวเยอะเท่าไหร่มันยิ่งจัดการยาก ระดับสองดาวแม้จะไม่มากแต่ก็ถือว่าจัดการไม่ง่ายเลย หางของมันที่เป็นอาวุธสามารถทำให้เกราะของรถยุบได้เลย แต่เกราะพลังนั่นกลับไม่แม้แต่จะสั่นสะเทือนทั้งที่โดนการโจมตีของปรสิตอย่างต่อเนื่อง“

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [15] [เจ้าชายจากโดมคีรัน]

    [15] [เจ้าชายจากโดมคีรัน]เคียร่า แองเจโล่ เกิดและเติบโตขึ้นมาในโดมที่มีชื่อเรียกว่า คีรัน และด้วยความที่ว่าเขาเป็นลูกหลานของผู้ปกครองโดมเขาจึงถูกปฏิบัติอย่างดีราวกับเป็นเจ้าชาย นานวันเข้าเคียร่าจึงคิดว่าตัวเองคือเจ้าชายและโดมคีรันคืออาณาจักรของเขานานวันความฝันของเคียร่ายิ่งยิ่งใหญ่มากขึ้น เขาอยากแข็งแกร่งและกล้าหาญเหมือนเจ้าชายในนิทานที่มักจะออกเดินทางไปปราบปีศาจร้ายและกลับมาพร้อมชัยชนะและชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ เป็นฮีโร่ที่ทุกคนชื่นชมเคียร่าคิดว่าตัวเขาสามารถทำได้ทุกอย่างจึงตัดสินใจที่จะก้าวเท้าออกจากโดมที่ปลอดภัยไปยังโลกภายนอกที่ผู้คนหวาดกลัว แต่เมื่อเขาได้เห็นโลกที่กว้างใหญ่ครั้งแรกเขาพบว่ามันไม่ได้น่ากลัวเลย ความยิ่งใหญ่ของโลกมันช่างวิเศษและเขายังค้นพบอีกด้วยว่าอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของเขาแท้จริงมันก็แค่กรงขนาดเล็กเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของโลกนี้อิสระ… เคียร่าต้องการที่จะปลดปล่อยประชาชนของเขาออกจากกรงขังที่เรียกว่าโดมอันปลอดภัยของมนุษยชาติ เพื่ออิสรภาพอันแท้จริง!แต่ก่อนหน้านั้นเขาจะต้องทำให้ผู้คนในโดมรู้ถึงความสวยงามและยิ่งใหญ่ของโลกภายนอกก่อน! เคียร่าจึงตัดสินใจที่จะสร้างช่องใน

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [14] [เดินทางท่องเที่ยว?]

    [14] [เดินทางท่องเที่ยว?]คำสั่งของผู้บัญชาการของหน่วยพลีชีพที่หนึ่งมาถึงแล้ว คำสั่งคือ [เดินทางไปพักผ่อนทางเหนือได้ตามใจชอบ ระยะเวลาคือสามเดือน]หากคนธรรมดาได้ยินคำสั่งนี้คงเข้าใจว่าพวกเขาได้รับวันหยุดพักผ่อนสามเดือนเต็ม แต่สำหรับทหารหน่วยพลีชีพที่คุ้นเคยกับคำสั่งเช่นนี้ของผู้บัญชาการแล้วสามารถเข้าใจได้ทันทีว่ามันคือคำสั่งให้พวกเขาเดินทางไปทางเหนือโดยทำเหมือนไปพักร้อนแต่ความจริงแล้วคำสั่งก็คือให้พวกเขาไปรอประจำการที่ทางเหนือเพื่อรอรับภารกิจที่อาจจะมาอย่างกะทันหันภายในสามเดือนนี้ไม่ต่างจากคำสั่งให้ไปทำภารกิจนัก“เดี๋ยวนะ คำสั่งคือให้เราเดินทางเองเหรอ” สโนว์ถามด้วยสีหน้าขยาดเมื่อทราบว่าทางกองทัพจะไม่ส่งยานพาหนะมาให้พวกเธอเพราะพวกเธอจะไป ‘พักผ่อน’ ไม่ได้ไปทำภารกิจ ซึ่งไม่มีสิทธิ์ใช้ยานพาหนะของทางกองทัพแต่อย่างที่ทราบกันดีว่ายานพาหนะและเชื้อเพลิงของยานพาหนะหายากแค่ไหนในยุคนี้ คนธรรมดาแทบไม่มีโอกาสได้ครอบครองเพราะส่วนมากของพวกนี้ทางกองทัพทหารจะยึดครองไว้ใช้เองทั้งหมด และยังมีอุปสรรคอย่างพวกปรสิตที่มักจะเข้ามาโจมตีทั้งทางพื้นดินและทางอากาศอีก แม้จะหายานพาหนะได้แต่ถ้าหากยานพาหนะไม่แข็งแรง

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [13] [ฟรอสต์กับอาการฮีท] 

    [13] [ฟรอสต์กับอาการฮีท] ก่อนวันที่คาดว่าอาการฮีทครั้งแรกของฟรอสต์จะมาถึงหนึ่งวัน ฟรอสต์ก็ได้เริ่มเก็บตัวทันที นั่นบ่งบอกถึงความกังวลของฟรอสต์เกี่ยวกับการฮีทครั้งแรกของตัวเองไม่น้อยฟรอสต์เป็นคนพูดน้อยและไม่ค่อยแบ่งปันความกังวลของตัวเองให้ใครฟังมากนัก สโนว์และวินเตอร์อดรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้ก็เลยไปยืนเฝ้าหน้าห้องที่ฟรอสต์ใช้ซ่อนตัวชั่วคราวเพื่อความสบายใจของพวกเขาและรวมถึงฟรอสต์ด้วย“ถ้านายอยากได้อะไรเรียกพวกเราได้นะ” วินเตอร์เคาะประตูและตะโกน“นายลืมไปแล้วรึไงว่าฟรอสต์มีกระเป๋ามิติของตัวเอง” สโนว์พูด“เผื่อว่าฟรอสต์ลืมเอาบางอย่างใส่กระเป๋ามิติไง” วินเตอร์เอ่ย “ว่าแต่อาการฮีทของฟรอสต์จะอยู่นานแค่ไหน?”“ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติก็น่าจะแค่สามสี่วัน คงไม่ยาวนานเป็นสัปดาห์เหมือนนายหรอก”สามวันผ่านไปแต่ปรากฏว่าสามวันผ่านไปฟรอสต์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นหรือออกจากห้องเลย เสียงหอบอย่างทรมานของฟรอสต์ดังเล็ดลอดออกมาจากข้างในห้องสร้างความกังวลให้สโนว์และวินเตอร์ไม่น้อยทั้งที่ฟรอสต์ใช้ยาระงับฮีทไปแล้วแต่มันกลับไม่ดีขึ้นเลย! ยาระงับฮีททั่วไประงับอาการฮีทของฟรอสต์ไม่ได้อย่างที่แพทย์บอกไว้ไม่มีผิด“อาการฮี

  • ร้อยวิธีพลีชีพในวันสิ้นโลก   [12] [วันพักผ่อน]

    [12] [วันพักผ่อน]หลังจากได้เสื้อผ้าคนละสามตัวแล้วพวกเขาก็ยังเดินสำรวจเมืองต่อจนกระทั่งสโนว์ไปเจอร้านหนึ่งที่สะดุดตาของเธอไม่น้อย“อะไรกันเนี่ย เสื้อผ้าที่ปิดเฉพาะส่วนล่างและส่วนหน้าอกแบบนี้มันจะป้องกันอะไรได้กัน มันเป็นเสื้อผ้าที่คนที่นี่นิยมใส่กันเหรอ?” วินเตอร์วิจารณ์เสื้อผ้าที่อยู่บนหุ่นลองเสื้ออย่างตกใจ“เจ้าโง่ นั่นมันชุดชั้นในต่างหากล่ะ” สโนว์พูด ใช่แล้วร้านที่เธอสนใจมันก็คือร้านชุดชั้นในยังไงล่ะ! สโนว์ไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปในร้าน“เธอจะซื้อเหรอ” วินเตอร์ถาม“แน่นอน ชุดชั้นในมันใส่ไว้ข้างในเพราะงั้นมันไม่มีทางส่งผลต่อความล่าช้าตอนที่ฉันจะเปลี่ยนไปสวมเครื่องแบบทหารหรอก” เธอหันไปพูดกับฟรอสต์เพื่อบอกเป็นนัยว่าเธออยากจะซื้อมันมากกว่าหนึ่งตัว!เมื่อได้เข้าไปข้างในร้านชุดชั้นในหญิง มันก็ได้เปิดหูเปิดตาพวกเขาในเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อนอีกครั้ง“ปกติชุดชั้นในมันเล็กอย่างนี้เหรอ? แล้วนี่คือเส้นอะไร” วินเตอร์สับสนอย่างมากกับกางเกงในขนาดที่เล็กกว่ามือและเส้นระโยงระยางที่น่าจะเป็นกางเกงในด้วยเหมือนกัน ดูขาดแคลนผ้ามาก ชั้นในของทหารยังมีผ้ามากกว่าเลย อย่างน้อยชุดชั้นในของสโนว์มันก็เป็นกางเกง

DMCA.com Protection Status