ติณณ์โน้มโค้งตัวลงไปหาเต้าอวบอูมที่เบียดดุนดันกันในยกทรงสีหวานของร้อยรักราวกับคนหิวโหย เขาดูดเม้มเนินอกอวบอูม สองมือก็บีบนวดเฟ้นทั้งสองเต้าเป็นจังหวะหนักหน่วง ไม่สนใจว่ามือเล็กจะปัดผลักดันหน้าตัวเองออกห่างจากหน้าอกของเธอยังไง ตอนนี้เขาต้องการความอวบหยุ่นของหล่อน ใช้มือแข็งแรงกระตุกดึงยกทรงจนขาดครึ่งพร้อมกับสองเต้าเปิดเด้งออกมาจากยกทรงที่ปิดบังไว้
“อ่ะ...อื้อ...คุณติณณ์ มะ...ไม่นะคะ อ่า...” หล่อนดิ้นและดันหน้าของเขาออกห่าง แล้วก็ต้องครางพร่าและรู้สึกเจ็บเมื่อปากหนาของเขากัดเม้มยอดอกของเธอ
“อ่า...ถึงเวลาที่เธอต้องตอบแทนเงินที่ฉันหามาให้เธอใช้แล้วนะยัยกาฝาก แม่ฉันใจดีกับเธอก็จริง แต่ฉันต้องการสิ่งนี้ตอบแทน อ่า...” ครางพร่าพร้อมคว้ามือเล็กทั้งสองไปตรึงไว้เหนือหัวเพียงมือเดียว แล้วอีกมือก็บีบเด้งดุนดันยอดอกของหล่อนที่ตื่นตัวชูชันสู้ปากหนาของตนเอง เขาระรัวแตะปลายลิ้นสากกับยอดอกสีหวานแล้วสลับดูดเม้มกับอีกเต้าอวบอูม
“อ่า...หนูเจ็บ อย่ากัดแบบนั้น อ่า...อื้อ...” หล่อนเจ็บเมื่อปากหนาของเขากัดหมับที่ยอดอกของเธอเต็มแรง และเขาก็ผละออกไปกัดอีกข้าง
ติณณ์ไม่ได้ยินเสียงร้องของร้อยรักแม้แต่น้อย ทุกอย่างมันเป็นเพียงอากาศพัดผ่านเท่านั้น ตอนนี้เขาสนใจแค่หน้าอกคัพดีล้นมือของเขาต่างหาก แม้ร้อยรักจะตัวเล็ก แต่สองเต้าไม่ได้เล็กตาม ปากหนาดูดเม้มตะกละตะกลามราวกับคนหิวโหย ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยขาดเรื่องแบบนี้เลย
“อ่า...ไม่ไหวแล้วยัยเด็กเฉิ่ม ฉันอยากได้เธอ อ่า...”
ติณณ์ไม่อาจหยุดความต้องการอยากได้เด็กในอุปการะของคุณแม่ตนเองได้ เพิ่งรู้ตอนนี้ว่าหล่อนมีแรงดึงดูดที่เร่าร้อนและน่าหลงใหลเหลือเกิน ปากหนาขบเม้มไล้ตวัดรัวปลายลิ้นกับยอดอกอวบอูม สองมือใหญ่ก็เคล้นคลึง จากที่มืออีกข้างนั้นรวบตรึงมือเล็กไว้เหนือหัว ตอนนี้ก็เปลี่ยนมากุมสองเต้าเคล้นหนักหน่วงเป็นจังหวะ ปากหนาก็ไล้ขบเม้มผ่านร่องอกตูมมายังหน้าท้องแบนราบของคนตัวเล็กที่บิดเร่าส่ายหนีสัมผัสตนเอง
“อ่า...ยัยกาฝาก อ่า...เธอทำให้ฉันร้อน อืม...”
“อือ...คุณติณณ์ ยะ...หยุดเถอะค่ะ อย่าทำอะไรรักเลยนะคะ อือ...อ่า...” หล่อนใช้สองมือเล็กดันที่นอนดันร่างตัวเองถีบเท้าถอยหนีจากใต้ร่างใหญ่โต แต่การเคลื่อนไหวของหล่อนมันเหมือนเป็นการกระตุ้นแอ่นยกเร่าร่างขึ้นหาคนเหนือร่างมากกว่า
“อือ...อย่าเล่นตัวหน่อยเลยน่า กาฝากอย่างเธอถึงเวลาต้องตอบแทนฉันแล้ว อ่า...หอมเหลือเกิน อืม...” ครางพร่ากับหน้าท้องแบนราบของหญิงสาวใต้ร่าง เคลื่อนไล้ถูไถเคราสากไปมากับหน้าท้องที่บิดแอ่นเร่าหนีตามเจ้าของร่าง แต่ยิ่งเธอเคลื่อนไหว เขาก็ยิ่งร้าวกลางหว่างขา
“อือ...คุณติณณ์ ยะ...อย่าทำอะไรรักเลยนะคะ อือ...”
หล่อนครางพร่าสั่งห้ามเขาพร้อมกับพยายามดันหน้าของเขาออกจากหน้าท้องของตัวเอง หล่อนทั้งรู้สึกระคายแสบคันที่หน้าท้องเมื่อเขาถูไถคางไปมา และยิ่งไปกว่านั้น ร้อยรักรู้สึกร้อนรุ่ม เหงื่อไคลผุดขึ้นตามหน้าจนต้องไล้ปลายลิ้นน้อยของตนออกมาเลียริมฝีปากตัวเองด้วยความเผลอไผล
“อ่า...เธอไม่ใช่เด็กแล้วนะรัก เธอโตแล้ว หอมเหลือเกิน ฉันอยากรู้เหลือเกินว่าภายใต้กางเกงจะสวยแค่ไหน” แล้วก็ไม่รอช้าที่จะปลดกระดุมกางเกงของหล่อนและถลกดึงรั้งออกด้วยความรวดเร็วพร้อมกับกางเกงในและกางเกงซับในของหล่อนถูกโยนทิ้ง
“โอว์...สวยเหลือเกิน ยัยกาฝากสวยเหลือเกิน อืม...”
เมื่อได้เห็นกายเปลือยเปล่าของสาวที่คิดว่าเฉิ่มมาตลอด เพราะหล่อนแต่งตัวเชย เฉิ่ม ไม่ทันสมัยเลย คิดว่าภายใต้ร่างจะไม่น่ามอง แต่เขาคิดผิดมาตลอด หล่อนช่างสวยงาม สองเต้าก็เคลื่อนไหวไปตามแรงขยับของเจ้าของร่างจนทำให้เขาต้องคำรามพร่าในลำคอ แล้วเลื่อนสายตามองความโหนกนูนของกายสาวที่มีสนามหญ้าปกคลุมเล็กน้อยและความอวบอูมนั้นก็ปิดแนบสนิทแน่น
“อือ...คุณติณณ์ มะ...ไม่ควรทำแบบนี้นะคะ”
หล่อนห้ามเขาเสียงสั่น เมื่อมือหนาของเขาวางทาบทับมาตรงความเป็นสตรีของตนเอง เรียวขาทั้งสองข้างก็รีบนำเข้ามาชิดกันเพื่อปกป้องความเป็นสาวของตัวเองตามสัญชาตญาณ แต่มันกลับทำให้น่าค้นหามากขึ้นสำหรับติณณ์
“เธอควรตอบแทนบ้านของฉันได้แล้วรัก เธอไม่มีสิทธิ์มาห้ามหรือหยุดได้ ตอนนี้ฉันต้องการ...ต้องการเธอ”
ติณณ์เอ่ยเสียงพร่าพร้อมขยุ้มขยำมือหนาที่วางทาบทับอยู่ที่เนินสวาทอวบอูมของหญิงสาว ก่อนจะชักมือกลับมาปลดเปลื้องชุดของตัวเองออก เพียงเวลาไม่นานเขาก็เปลือยกายเท่าเทียมกับหญิงสาวแล้ว และตอนนี้เสียงฝนข้างนอกก็เริ่มซาลงแล้วจากที่ตกหนัก ฟ้าร้องดังก่อนหน้านี้ก็เงียบเสียงไปแล้ว
“คุณติณณ์...” หล่อนเรียกชื่อเขาเมื่อเห็นเขาเปลือยตรงหน้า เธอรวบรวมเรี่ยวแรงที่มีถีบเท้า สองมือดันตัวเองถอยหนี แต่ก็จนหนทางเมื่อไปชนกับหัวเตียงพร้อมกับคนตัวโตเคลื่อนตัวรวดเร็วมาคร่อมทับเธอ
“อย่าคิดจะขัดขืนฉัน ฉันไม่อยากใช้ความรุนแรง สมยอมฉันซะรัก อย่าทำให้ฉันหงุดหงิด” เขาโน้มหน้าไปกระซิบข่มขู่เธอแล้วก็กัดเม้มติ่งหูเล็ก จากนั้นก็จูบไซ้ซอกคอระหงมายังปากอวบอิ่มที่กำลังเผยอจะพูด
“อ่ะ...อื้อ...”
เสียงครางอู้อี้ดังลอดออกมาจากริมฝีปากที่บดเบียดประกบกันของทั้งสอง เรียวลิ้นสากก็ชอนไชเข้าไปในโพรงปากเล็กเพื่อลิ้มรสความหวานที่เคยได้ชิมมาแล้วก่อนหน้า สองมือใหญ่ก็เคลื่อนลูบไล้สีข้างเปลือยเปล่านวลเนียนขึ้นมากอบกุมสองเต้าที่ดุนดันเบียดหน้าอกของตนเป็นจังหวะหนักหน่วง
“อ่า...ไม่ไหวแล้ว ฉันอยากเข้าไปในตัวเธอรัก อือ...” ผละออกมาขบเม้มริมฝีปากล่างของหญิงสาวแล้วเคลื่อนหน้ามาซุกซบสองเต้าอวบอูมพร้อมกับสองมือใหญ่บีบสองเต้า ดันหน้าตัวเองที่ซุกซบกลางหว่างอก
“อื้อ...คุณติณณ์ อ่า...รัก รักร้อน อือ...”
หล่อนบอกเขา เมื่อตอนนี้ความร้อนที่คิดว่าทนได้มันเริ่มลุกโชนรุนแรงกว่าเดิม เหงื่อก็ผุดพรายขึ้นเต็มหน้าจนชื้น ผมยาวสลวยก็แผ่สยายไปกับหมอนหนุนใบใหญ่ของเจ้าของห้อง เอวเล็กเคลื่อนไหวบิดเร่าไปมาพร้อมกับขาทั้งสองข้างของหล่อนถีบจิกผ้าปูเตียงไปมาด้วยความร้อนรุ่มทรมานกลางร่างสาวของตนเอง
“อ่า...เธอต้องการฉันรัก ฉันรู้ว่าเธอร้อนแค่ไหน เพราะฉันก็ร้อน อ่า...”
ลากปลายลิ้นมาแตะยอดอกอวบอูมแล้วก็ลากมาแตะยอดอกอีกข้างพร้อมดูดเม้ม แล้วเคลื่อนไล้จูบหน้าท้องแบนราบมายังความเป็นสาวของหญิงสาวที่แอ่นเร่าบิดเสียวร้อนไปมา เขาบดจูบหนักๆ กลางหว่างขาเรียวแล้วก็เคลื่อนมาจูบโคนขาเล็กทั้งสองข้างของร้อยรักสลับกันพร้อมกับบังคับต้นขาทั้งสองข้างของหล่อนแยกกว้างเปิดทางรักออกให้ตนเอง
“อ่ะ...คุณติณณ์ ยะ...อย่าทำอะไรรักเลยนะคะ อือ...อ่า ร้อน...” แม้ปากจะบอกห้ามเขา แต่ก็ครางพร่าไปกับสัมผัสของบุรุษแข็งแรง หล่อนกำมือแน่นข้างลำตัวเมื่อความร้อนรุ่มทรมานกลางร่างกำลังเร่งเร้า “อ่า...ฉ่ำเหลือเกินรัก เธอฉ่ำให้ฉัน อ่า...”เขาคลี่มือกับกลีบสวาทที่ปิดแนบสนิทของหล่อนแล้วก็เห็นเม็ดเกสรกลางกายสาวสีชมพูระเรื่อที่อาบคลอไปด้วยน้ำสวาทขุ่นข้นของหล่อน เรียวลิ้นสากไม่ปล่อยโอกาสที่จะได้รับรสของสาวน้อย ติณณ์ตวัดปลายลิ้นลากไล้ดูดกลืนความเป็นสาวของร้อยรัก “อ่า...คุณติณณ์ ชะ...ช่วยรักด้วย รักร้อน อ่า...ร้อนเหลือเกินค่า อือ...” หล่อนครางเร่าร้อนเสียวทรมานปวดเร่าในช่องท้องราวกับมีคลื่นลมแรงพัดอยู่ข้างใน และยิ่งไปกว่านั้น เหงื่อของเธอก็ซึมผุดเต็มหน้าและเนื้อตัวก็ชื้นเหงื่อเช่นกันในตอนนี้ “อ่า...แน่นอน ฉันจะช่วยเธอยัยเด็กกาฝาก อือ...หวานเหลือเกิน รู้ไหม...ฉันไม่เคยทำแบบนี้ให้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเล
ฝนข้างนอกหยุดตกและเสียงฟ้าก็เงียบไป แต่มีเสียงร้องไห้สะอื้นของร้อยรักดังขึ้นมาแทน ตอนนี้หล่อนกำลังก้มลงเก็บเสื้อผ้าของตัวเองด้วยมือที่สั่นเทา ทั้งเสียใจและเจ็บปวด หล่อนรักเขา รักผู้ชายที่ชื่อติณณ์มาตลอด แต่ทำไมเขาถึงย่ำยีทำเหมือนเธอเป็นผู้หญิงไร้ค่าแบบนี้ “อย่าสำออยได้ไหม แค่นี้เอง อีกอย่างเธออาศัยอยู่ในบ้านฉันตั้งแต่เด็กก็ควรตอบแทนลูกชายเจ้าของบ้านบ้าง และถ้าการถูกเอาแค่นี้ ทำให้เธอหมดอาลัยตายอยากในชีวิตนักก็ไปตายซะ อย่ามาร้องไห้ให้ได้ยิน น่ารำคาญ” พูดจบก็ลุกขึ้นก้าวขายาวๆ ไปยังโต๊ะทำงานมุมห้องของตัวเองเพื่อหยิบซองบุหรี่ออกมาแล้วก็ไฟแช็กที่วางใกล้กันออกมาติดบุหรี่สูบโดยไม่คิดจะสนใจคนที่ร้องไห้สะอื้นร่วมห้อง ร้อยรักมองแผ่นหลังใหญ่ของคนตัวโตที่ยืนเปลือยเปล่าสูบบุหรี่อยู่ที่ข้างโต๊ะทำงานของเขาแล้วก็รีบแต่งของตัวเอง เขาร้ายเหลือเกิน เขาร้ายยังไงก็ร้ายแบบนั้น เขาไม่เคยใจดีหรือพูดดีกับเธอสักครั้ง ขนาดว่าตอนนี้เขาได้เธอแล้ว และเป็น
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “หนูรักให้ฉันเข้าไปได้ไหมจ๊ะ” ปรางทิพย์เคาะประตูพร้อมบอกเจ้าของห้อง เงียบ... “ไม่มีเสียงตอบโต้ตะโกนออกมานางจึงรัวมือเคาะประตูห้องอีกครั้งและดังกว่าเดิม ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “หนูรักไม่สบายรึเปล่าลูก”นางร้องถามเจ้าของห้องดังกว่าเดิม และด้านในเจ้าของห้องเมื่อได้ยินเสียงก็ขยับตัวไล่ความปวดเมื่อยของตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง หล่อนปวดหัวและกินยาไปเมื่อตอนที่พี่ส้มขึ้นมาตามไปทานข้าวจึงทำให้เพลียและง่วงมากตอนนี้ “หนูรักลูก” “คะคุณท่าน” เธอตะโกนตอบกลับเมื่อได้ยินเสียงเรียกอีกครั้ง&nb
กว่าจะเช็ดตัวให้ร้อยรักเสร็จก็เล่นเอาเขาเหนื่อย พอเช็ดตัวเสร็จก็มาถึงกินยา แล้วเขาจะทำยังไงดี ร้อยรักไม่ยอมตื่นมากินยาเลย ปลุกเท่าไหร่หล่อนก็มีแต่ครางพึมพำ เขาจึงต้องป้อนเธอด้วยปากของเขา เขาเอาเม็ดยาเข้ามาไว้ในปากแล้วก็บดจูบปากน้อยพร้อมกับมือบีบคางของเธอให้อ้าปาก พอปากน้อยเปิดติณณ์ก็ใช้ลิ้นของตัวเองดุนดันยาเข้าไปในปากของเธอและผละออกมายกแก้วน้ำดื่มมาดื่มแต่ไม่กลืน แล้วก็กลับไปจูบปากซีดของสาวน้อยอีกครั้ง ร้อยรักสำลักน้ำออกมาพร้อมกับยาไหลลงคอไป “อ่า...ยัยกาฝาก ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลยนะ แต่ที่ทำเพราะฉันสมเพช” ผละร่างเล็กที่ตระกองกอดขึ้นมาจูบป้อนยาก่อนหน้าลงไปนอนบนเตียงราวกับรังเกียจ “ฉันต้องได้ค่าตอบแทนกับสิ่งที่ทำไปวันนี้” ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้ร้อยรักป่วยแท้ๆ ยังจะหวังค่าตอบแทนจากหญิงสาวอีก ติณณ์ลุกขึ้นแล้วห่มผ้าให้ร้อยรัก แต่เธอก็ยังหนาวสั่นปากสั่นอยู่ดี เขาไม่รู้จะทำ
เขาเอ่ยเสียงพร่าเคลื่อนตัวขยับไปใกล้แนบชิดเบียดร่างเล็กของสาวน้อยตรงหน้า สองมือใหญ่บีบเคล้นขยำความอวบหยุ่นทั้งสองเข้าพร้อมกับโน้มหน้าก้มลงไปซุกซบและดูดเม้มยอดอกสีหวานและตวัดระรัวปลายลิ้นหยอกเอินไปมาพร้อมกับลากลิ้นสากขึ้นมายังแอ่งชีพจรที่เคลื่อนไหวตามแรงหอบหายใจของเจ้าของร่างเล็ก“อือ...คะ...คุณติณณ์ อ่า...” หล่อนไม่อาจห้ามเขาได้เมื่อเขาดุนดันให้เธอนอนราบไปกับเตียง ร้อยรักพ่ายแพ้ยอมอ่อนโยนไปกับเขา เพียงแค่มือหยาบกร้านสัมผัสและปากหนาอุ่นร้อนของเขาแตะละเลงลงมายังยอดอกเธอก็ร้อนเสียวในท้องน้อยขึ้นมา“อ่า...เห็นไหม เธอเองก็ต้องการฉัน ยัยกาฝาก แค่ฉันจับเลีย ดูดนิดเดียว เธอก็ร้อนสู้มือและครางให้ฉัน”ร่างใหญ่เปลือยเปล่าขึ้นคร่อมทับเจ้าหล่อนพร้อมกับสองมือยังคงบีบเคล้นขยำสองเต้า มันนุ่มหยุ่นไปกับมือไม่เหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คนที่เขาผ่านมา หล่อนพวกนั้นล้วนแต่เป็นบล็อกทั้งนั้น แต่กับร้อยรักไม่ใช่ เธอแน่นอวบอูมนุ่มมือเป็นธรรมชาติ“อ่า...ฉันอยากเข้าไปในตัวเธอรัก อ่า...ฉันอยากได้ตอนนี้”“อือ...คุณติณณ์...” เสียงหวานครางเรียกชื่อชายเหนือร่างพร้อมกับตวัดเรียวแขนเล็กโ
มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สองและครั้งต่อๆ มาตามมาเรื่อยๆ จนตอนนี้เป็นเวลาสามเดือนกว่าแล้วที่ตกเป็นนางบำเรอกลางดึกให้กับติณณ์ เขามักมาหาเธอบ่อยๆ แทบจะทุกวันเลยก็ว่าได้ และกลางดึกคืนนี้ก็เช่นกัน เขาเพิ่งเสร็จสมความสุขแล้วกลับไปยังห้องนอนของเขา โดยทิ้งให้เธอนอนกอดตัวเองในความมืดและนอกบ้านฝนก็ตกหนัก ช่วงนี้พายุเข้ามาทีละหลายๆ วันเลยทำให้ช่วงนี้หนาวเย็นในกลางดึก ฮือๆๆๆ “อึก! คุณทำไมถึงใจร้ายกับหนูแบบนี้ แม้แต่คำพูดดีๆ ปลอบโยนสักครั้ง คุณก็ยังไม่เคยพูดกับหนู แถมยังเย็นชาทำเหมือนกับหนูเป็นเพียงแค่ที่ระบายความใคร่ อึก! ฮือๆๆ”กอดตัวเองร้องไห้ในความมืดพึมพำตัดพ้อคนที่จากไปจนหลับไป เป็นแบบนี้ทุกคืน และเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องยอมเขาและเฝ้ารอเขามาหาทุกคืนด้วย หากวันไหนเขาหายไป เธอก็จะเฝ้ารอจนนอนไม่หลับ และก็ยิ่งเจ็บปวดเมื่อชายที่รอพาผู้หญิงกลับมาค้างที่บ้านด้วย “
โอ้ก! อ้าก! โอ้ก! ร้อยรักโก่งคออาเจียนกับชักโครกของห้องน้ำชั้นล่างจนตอนนี้ไม่มีอะไรจะอาเจียนออกมาแล้ว มดที่ตามมาก็เข้ามาลูบหลังเล็กให้เธอพร้อมกับส่งกระดาษทิชชูให้หญิงสาวซับปาก “เป็นยังไงมั่งคะคุณรัก” “ดีขึ้นแล้วค่ะพี่มด สงสัยจะโรคกระเพาะค่ะ ช่วงนี้รักอ้วกบ่อยมากเลย แถมกินข้าวไม่ตรงเวลา” “เหมือนอาการคนท้องเลยนะคะ พี่มดดูในละครเวลานางเอกท้องจะแบบนี้เลย แต่คุณรักไม่มีแฟนคงเป็นโรคกระเพาะแหละเนอะ” นางพูดยิ้มๆ พร้อมประคองร่างเล็กลุกยืนขึ้น “ค่ะ โรคกระเพาะ” แล้วก็ต้องเครียดเมื่อนึกถึงคำพูดของอีกฝ่าย ใช่...เธอลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลย เธอไม่ได้กินยาคุมกำเนิดและเขาก็ไม่ได้ป้องกันสักครั้งเวลาที่มาหา ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อนับวันเวลาประจำเดือนแล้วจนวันนี้ ใช่..
ตั้งแต่มื้อเย็นเธอก็ขึ้นมาเก็บตัวบนห้องไม่ได้นั่งเล่นหรือพูดคุยหลังทานข้าวกับคุณท่านเหมือนเคย และเธอก็ทานได้เพียงคำสองคำ เพราะอาหารที่ทานวันนี้กลิ่นเหม็นทุกอย่าง แต่ก็อดทนกลืนอาหารที่ขย้อนขึ้นมาลงท้องลงไปเพื่อไม่ให้ท่านสงสัยและจับผิดได้ “จะทำยังไงดีรัก...จะทำยังไงดีรัก” หล่อนถามตัวเองแบบนี้เป็นร้อยครั้งแล้วตั้งแต่ขึ้นมาเก็บตัวบนห้อง ไม่ได้อ่านหนังสือแบบที่อ้างคุณท่าน “เธอท้อง เธอยังเรียนไม่จบ และคุณท่านต้องผิดหวังแน่ถ้ารู้เรื่องนี้ จะทำยังไงดี”พยายามถามตัวเองและคิดหาทางออก และก็ต้องลุกขึ้นเดินจากเตียงเมื่อได้ยินเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจอดในบ้าน และเสียงนั้นเป็นเสียงรถของคนที่เป็นพ่อของลูกเธอ เธอเดินไปส่องหน้าต่างดูเขาที่โรงจอดรถ ห้องนอนของเธออยู่ติดกับทางโรงรถจึงทำให้มองเห็นเขาได้ถนัดตา ด้วยความมืดที่แสงไฟส่องไม่เพียงพอเลยทำให้ไม่เห็นสีหน้าของเขา แต่ก็ได้ยินเสียงเขาฮัมเพลงเข้ามาในบ้าน ดูก็รู้ว่าเขาอารมณ์ดีแค่ไหน และคงเพิ
5 ปีต่อมา ตนุภัทรกับรติมาวิ่งเล่นที่สนามเด็กเล่นหน้าบ้าน ตอนนี้หนูน้อยฝาแฝดทั้งสองอายุได้ 5 ขวบแล้ว ติณณ์กับร้อยรักนั่งที่เสื่อมองดูลูกๆ วิ่งเล่นกัน สนามเด็กเล่นหน้าบ้านติณณ์เพิ่งสร้างเมื่อต้นปีที่แล้วเพื่อให้ลูกๆ วิ่งเล่น และวันนี้เป็นวันหยุดจึงชวนร้อยรักมาปูเสื่อนอนเล่นที่สนามเด็กเล่นกัน ชายหนุ่มล้มตัวลงนอนหนุนตักภรรยาคนสวย ใครจะเชื่อว่าคนอย่างเขาจะกลับตัวกลับใจเป็นคุณพ่อและสามีที่ดีของร้อยรักได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว ตลอดระยะเวลาที่อยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะทำให้ร้อยรักร้องไห้ วันนี้ที่บ้านหลังนี้ก็มีแค่เขากับร้อยรักอยู่ เพราะแม่ของเขาไปปฏิบัติธรรมที่วัดตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน “รักจ๋า...” “คะพี่ติณณ์” “พี่รักรักนะครับ” 
ปัง! “อ่า...รักไม่ไหวแล้ว ฉันไม่ไหวแล้ว” ทันทีที่ปิดประตู ติณณ์ก็เดินก้าวยาวๆ ไปยังเตียงที่เต็มไปด้วยของเล่นของลูกๆ เขาไม่สนใจว่าจะทับหักหรือทำหัก ตอนนี้เขาร้อนรุ่มเหลือเกิน ต้องการแนบชิดบดเบียดในกายคับแน่นของร้อยรัก ต้องการให้หล่อนตอดรัดหนักหน่วง “อือ...ใจเย็นๆ ค่ะพี่ติณณ์ อ่า...” หล่อนบอกห้ามเขาและช่วยเขาถอดเสื้อผ้าของตัวเอง ตอนนี้เธอเองก็ใจร้อนไม่ต่างจากเขา “อือ...ไม่ไหวแล้วที่รัก ให้พี่เถอะนะ” ติณณ์โน้มหน้าไปบดจูบปากน้อย ส่วนมือก็ปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกด้วยความรีบร้อน และไม่นานติณณ์ก็ปลดเปลื้องชุดของตัวเองออกให้พ้นทางได้ ส่วนของร้อยรักเธอเองก็ถอดออกแล้วเช่นกัน “อ่า...สวยเหลือเกินรัก” มือหนาลูบไล้ผิวกายนวลเนียนของร้อยรักพร้อมกับเคลื่อนจูบไล้สัมผัสตามร่างเปลือยที่บิดเร่าร้อนไปมาอยู่ใต้ร่าง
“ทิ้งความเจ็บปวด ทิ้งสิ่งเลวๆ ที่ฉันทำกับเธอ ทิ้งและลืมคำพูดถากถาง ทิ้งคำพูดที่บั่นทอนจิตใจเธอ ทิ้งทุกอย่างที่ฉันทำไม่ดีกับเธอได้ไหม ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอนะรัก ฉันรักเธอ มันคือสิ่งเดียวที่ฉันอยากปฏิเสธ แต่ฉันปฏิเสธมันไม่ได้ เพราะฉันรักเธอ” เขาเคลื่อนมือมากุมมือเล็กที่ทาบทับหน้าอกของตนเองแล้วก็โน้มลงไปจูบแผ่วเบาที่หน้าผากมนของคนที่แหงนเงยขึ้นมองหน้าตนเองร้อยรักยืนนิ่งพูดไม่ออกและไม่ได้ปัดสัมผัสของเขา เพียงแค่สัมผัสแผ่วเบาที่ประทับจูบลงมาที่หน้าผากของเธอ เธอก็ใจสั่นระรัวเต้นแรงและรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นและอ่อนโยนจากสัมผัสแผ่วเบาของชายหนุ่ม“ถ้า...ถ้าไม่ได้เกลียดแล้วทำไมตอนเด็กๆ วันแรกที่หนูย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน คุณถึงวิ่งเข้ามาผลักหนูพร้อมกับกระชากกระเป๋าไปโยนทิ้ง” เรื่องนี้ในวัยเด็กมันคาใจเธอมาตลอด เพราะอะไรวันแรกที่เดินเข้ามา เขาถึงต้อนรับเธอแบบนั้น แสดงความไม่ชอบและเกลียดเธอชัดเจน“ฉัน...ฉันจะพูดยังไงดี ฉันเป็นผู้ชายตัวโต แต่ใจฉันแคบและเล็กมาก ฉันกลัว...กลัวว่าพ่อกับแม่จะไม่รักฉันถ้ามีเธอเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย และพ่อกับแม่ก็ใส่ใจเธอ อะไรก็เธอ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าเ
เมื่อกลับมาอยู่บ้าน ร้อยรักไม่ยอมไปอยู่ห้องกับติณณ์และลูก และขออนุญาตคุณท่านขนข้าวของของลูกน้อยย้ายมาไว้ที่ห้องตนเอง ส่วนติณณ์เธอก็ไม่ยอมให้เขาเข้ามาในห้อง เข้าใกล้ลูกๆ ได้ แต่อย่าเข้ามาใกล้เธอ ถ้าเธออยู่กับลูก เขาต้องไปอยู่ที่อื่น เพราะเธอไม่อยากเจอหน้าของเขา “เป็นอย่างไรบ้างลูก” ปรางทิพย์ถามร้อยรักที่กำลังนั่งให้นมลูกอยู่ในห้องนอนส่วนตัวของเธอ ส่วนติณณ์อยากเข้ามาด้วย แต่ถูกเจ้าของห้องมองตาขวาง เขาจึงได้แต่ยืนอยู่ที่หน้าประตูดูลูกน้อยดูดนมจากเต้าของหญิงสาว เขาอยากเข้าไปหา ไปโอบกอด ไปหอมแก้มนวลนั้นให้ชื่นใจ “รู้สึกแปลกนิดหน่อยค่ะ น้องตองว่าง่าย แต่น้องต้นดื้อนิดหน่อยค่ะ” หล่อนยิ้มให้กับตนุภัทรที่กำลังดูดนมของตนเองอยู่ ส่วนรติมานั้นอิ่มแล้วนอนกอดตุ๊กตาอยู่ข้างๆ เธอ “แล้วน้ำนมออกดีไหมลูก” นางถามเพราะร้อยรักนอนนานตั้งสองเดือนกว่า
ณ ยุโรป กรุงโรมด้านปรางทิพย์ทันทีที่ได้รู้เรื่องจากลูกชาย นางก็นั่งไม่ติดรีบจัดการเก็บข้าวของกลับมาเมืองไทยทันที แม้จะโกรธและไม่อยากเชื่อสิ่งที่ติณณ์บอกเล่า แต่มันก็คือความจริง นางจึงต้องเดินทางกลับมาก่อนกำหนดที่ตั้งใจไว้“พี่ปรางเดินทางปลอดภัยนะคะ ถ้าป้อมไม่ติดต้องดูแลโทนี่ ป้อมก็จะไปด้วย” ตอนนี้สามีของป้อมใจป่วย นางจึงไม่สามารถเดินทางได้ในช่วงนี้“ไม่เป็นไรหรอกป้อม พี่ต้องกลับไปจัดการกับหลานตัวดีของป้อม และตอนนี้หนูรักก็ยังไม่ได้สติด้วย พี่ล่ะเหนื่อยใจจริงๆ กับลูกคนนี้ ไม่รู้จะเลวไปถึงไหน” นางพูดพร้อมกับยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่รินไหลออกมา“พี่ปรางไม่คิดบ้างเหรอคะว่าตาติณณ์รักหนูรัก”“ก็เคยคิด แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยนะป้อม ถึงแม้ว่าหนูรักจะแอบรักตาติณณ์ก็เหอะ พี่ล่ะอุตส่าห์ดีใจที่หนูรักย้ายออกไปอยู่หอตอนพี่มาที่นี่ แต่ก็ยังไม่พ้นมือของเจ้าลูกเลว” พูดแล้วก็เจ็บใจและโกรธลูกชายตัวดีนัก ไม่รู้ทำกับร้อยรักแบบนั้นได้ยังไง เกลียดยังไงก็ไม่น่าย่ำยีเธอแบบนั้น“เอาน่าพี่ ไหนๆ เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว เดินทางปลอดภัยนะคะ ถ้าโทนี่หายแล้วป้อ
นานห้าชั่วโมงที่ร้อยรักอยู่ในห้องผ่าตัด ติณณ์นั่งไม่ติดเดินวนเวียนไปมาหน้าห้องผ่าตัด เพราะมาถึงหมอก็ตรวจและบอกเขาว่าต้องรีบผ่าตัดด่วน ไม่งั้นจะไม่รอดทั้งแม่และลูก เนื่องจากร้อยรักเสียเลือดมาก และก็ไม่มั่นใจว่าลูกของเขาจะรอดปลอดภัย เพราะชีพจรเต้นอ่อนเหลือเกินตอนนี้ “ขอร้อง...อย่าทิ้งฉันไปนะรัก ขอร้อง...อยู่กับฉันก่อน อยู่ให้ฉันได้ชดใช้ความเลวของฉันก่อน อึก! ฮือๆๆ” ติณณ์นั่งคุกเข่าที่หน้าห้องผ่าตัดยกมือทาบอกตัวเองร้องไห้ เพราะนานเหลือเกินที่รอคอยประตูห้องผ่าตัดเปิดออก แต่รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเปิดออก “ติณณ์ น้องรักเป็นยังไงบ้าง” ทันทีที่ได้รับสายจากติณณ์ เรียมก็รีบมาหาเพื่อนทันทีด้วยความเป็นห่วง อึก! “เรียม...ลูกกับเมียฉันอยู่ข้างใน จนตอนนี้ยังไม่ออกมาเลย หมอยังไม่ออกมาสักคนเลย พยาบาลก็ไม่เห็นออกมา อึ
จากที่จะไปห้างสรรพสินค้าซื้อข้าวของเครื่องใช้เตรียมไว้ให้ลูกก็ต้องกลับมาบ้าน เพราะร้อยรักไม่ไป เธออยากกลับบ้าน เธอเพลีย เธออยากพักผ่อน พอมาถึงบ้านมดกับส้มก็เอาน้ำอุ่นมาให้เธอแช่เท้าทันที ตอนนี้สองสาวก็รู้เห็นทุกเรื่องของเธอกับติณณ์ แต่ก็ไม่มีใครปริปากพูดหรือถามเธอและโทรเล่าให้คุณท่านฟัง เพราะเขาสั่งห้ามไว้ ตอนนี้เขาก็นั่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับชวนเธอพูดคุยถึงเรื่องชื่อลูกทั้งสอง แต่เหมือนเขาพูดคนเดียว เพราะหญิงสาวไม่โต้ตอบหรือออกความเห็นอะไรเลยสักอย่าง “เธอจะไม่พูดกับฉันแบบนี้ไม่ได้นะรัก” ติณณ์ทนความเงียบไม่ไหว “คะ” “เธอเป็นอะไร” “เป็นกาฝากของบ้านค่ะ และท้องไม่มีพ่อ เรียนก็ไม่จบค่ะ” “ใครบอกว่าไม่มีพ่อ ก็ฉันนี่ไงพ่อของลูกเธอ และเป็นผัวเธอด้วย”&nbs
จากขึ้นมาตามลงไปทานข้าวจนตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว ติณณ์เพิ่งจะถอนกายอุ่นร้อนออกจากกายฉ่ำของร้อยรัก เขามองร่างเปลือยเปล่าที่อวบอิ่มแล้วสายตาเข้มก็มาหยุดที่ท้องโตของเธอก่อนจะยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วเดินไปเก็บเสื้อผ้าของตัวเองมาสวมใส่ รวมถึงเสื้อผ้าของร้อยรักด้วย “แต่งตัวสิ ไปกินข้าว ป่านนี้กับข้าวเย็นหมดแล้วมั้ง” “พะ...เพราะคุณติณณ์นั่นแหละ แล้วพี่เรียมอีก ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง คุณติณณ์ปล่อยพี่เรียมไว้คนเดียวได้ยังไง” ทั้งอายและโกรธเขาที่เขาเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ “เรียมคงรอเราหรอก นี่สามทุ่มจะสี่ทุ่มแล้ว แต่งตัวไปกินข้าวได้แล้ว ท้องเธอร้องแล้วนะ” โครก! คราก! ทันทีที่สุดความของติณณ์ ท้องของร้อยรักก็ส่งเสียงออกมาให้อับอาย 
“ก็หนูบอกว่าไม่หิว ทำไมคุณติณณ์ต้องบังคับด้วยคะ” เธอตอบเสียงเบา“ถึงไม่หิวยังไงก็ต้องกิน เธอจะเป็นแม่คนอยู่แล้วนะรัก อีกอย่างเธอทำแบบนี้ไม่ให้ฉันคิดว่าเธอหึงฉันคงไม่ได้หรอกนะเด็กน้อย”ติณณ์มั่นใจว่าตัวเองพูดไม่ผิดแน่ ร้อยรักต้องหึงเขา ถ้างั้นแสดงว่าเจ้าหล่อนก็ต้องรักเขาน่ะสิ รักงั้นเหรอติณณ์ เขาเคยหวังอะไรแบบนี้จากเด็กของคุณแม่ได้ยังไง เขาเกลียดเธอไม่ใช่เหรอ ใช่...เขาเกลียดเธอ แต่ทำไมตอนนี้เขากลับอยากกอดเธอนานๆ ไม่อยากปล่อยร่างอวบนี้เลย“รักไม่ได้หึงคุณติณณ์ ไม่มีวันหึงด้วย เพราะรักเกลียดคุณติณณ์ ได้ยินไหมคะว่ารักเกลียดคุณติณณ์ รัก...อ่ะ...อื้อ”แล้วประโยคของร้อยรักก็พูดไม่สุดความเมื่อติณณ์ทนฟังคำว่า ‘เกลียด’ ตัวเองจากปากเล็กไม่ไหว เขาจึงประคองหน้าเล็กแล้วก็บดจูบหนักหน่วงทันที พร้อมดุนดันปลายลิ้นสากเข้าไปทำโทษเรียวลิ้นน้อยของเธอด้วยความกรุ่นโกรธและโหยหาในคราเดียวกัน“อ่า...หวานเหลือเกินรัก ฉันอยากทำแบบนี้กับเธอทุกวัน” เขาถอนจูบร้อนรุ่มที่แสนปรารถนาและรอคอยมาตลอดออกมพึมพำกับใบหน้างามแล้วก็โน้มก้มหน้าต่ำไปจูบปากน้อยที่เผยอรอท่าอยู่อีกครั้ง