ฝนข้างนอกหยุดตกและเสียงฟ้าก็เงียบไป แต่มีเสียงร้องไห้สะอื้นของร้อยรักดังขึ้นมาแทน ตอนนี้หล่อนกำลังก้มลงเก็บเสื้อผ้าของตัวเองด้วยมือที่สั่นเทา ทั้งเสียใจและเจ็บปวด หล่อนรักเขา รักผู้ชายที่ชื่อติณณ์มาตลอด แต่ทำไมเขาถึงย่ำยีทำเหมือนเธอเป็นผู้หญิงไร้ค่าแบบนี้
“อย่าสำออยได้ไหม แค่นี้เอง อีกอย่างเธออาศัยอยู่ในบ้านฉันตั้งแต่เด็กก็ควรตอบแทนลูกชายเจ้าของบ้านบ้าง และถ้าการถูกเอาแค่นี้ ทำให้เธอหมดอาลัยตายอยากในชีวิตนักก็ไปตายซะ อย่ามาร้องไห้ให้ได้ยิน น่ารำคาญ” พูดจบก็ลุกขึ้นก้าวขายาวๆ ไปยังโต๊ะทำงานมุมห้องของตัวเองเพื่อหยิบซองบุหรี่ออกมาแล้วก็ไฟแช็กที่วางใกล้กันออกมาติดบุหรี่สูบโดยไม่คิดจะสนใจคนที่ร้องไห้สะอื้นร่วมห้อง
ร้อยรักมองแผ่นหลังใหญ่ของคนตัวโตที่ยืนเปลือยเปล่าสูบบุหรี่อยู่ที่ข้างโต๊ะทำงานของเขาแล้วก็รีบแต่งของตัวเอง เขาร้ายเหลือเกิน เขาร้ายยังไงก็ร้ายแบบนั้น เขาไม่เคยใจดีหรือพูดดีกับเธอสักครั้ง ขนาดว่าตอนนี้เขาได้เธอแล้ว และเป็นผู้ชายคนแรกและอาจจะเป็นคนเดียวในชีวิตก็ได้ เธอไม่สามารถพาเนื้อตัวที่เปื้อนราคีไปให้ชายอื่นได้อีกแล้ว และหัวใจของเธอก็ไม่สามารถจะรักใครได้อีกแล้ว เพราะมันรักเขา รักผู้ชายใจร้าย แต่ตอนนี้หล่อนจะหยุดความรักนี้ไว้ ให้มันตายไปกับเรื่องราวในวันนี้
“รักไม่เคยทำอะไรให้คุณ คุณติณณ์ทำแบบนี้กับรักทำไม อึก! ฮือ...” เธอถามเขาเมื่อตอนนี้แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว
“ไม่รู้สิ บรรยากาศมันพาไปมั้ง อีกอย่างวันนี้ฝนตก ฉันหิว ฉันต้องการ และเธอเข้ามาพอดี ฉันแค่หลับหูหลับตาเอาเท่านั้นแหละ เธอมันก็งั้นๆ จืดก็จืด”
ปากบอกแบบนั้น แต่ในใจไม่ได้คิดแบบนั้นเลย มันกลับตรงกันข้าม ร้อยรักดีกว่าทุกคนที่เขาเคยได้มา และไม่มีใครเทียบได้ ภายใต้เสื้อผ้าเชยๆ นั้นมีของดีซุกซ่อนอยู่ และเขารู้เลยว่าเขาจะไม่อิ่มหล่อนแค่ครั้งนี้ เขายังต้องการคนตัวเล็กอีก แต่ก็ไม่อยากหักโหมใช้งานร่างหล่อนมากเกินไป แค่สามยกก็มากเกินพอแล้วสำหรับครั้งแรกของเธอ
“เรื่องวันนี้รักจะถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณคุณท่านที่เลี้ยงหนูมา”
“แน่อยู่แล้ว เธอต้องตอบแทนอยู่แล้ว เงินที่ใช้ทุกวันก็เงินฉันหามาทั้งนั้น” เขาเขี่ยบุหรี่กับที่เขี่ยบุหรี่ทิ้งแล้วก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินหายเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับเสียงประตูห้องน้ำปิดกระแทกดังลั่น
“คนเลว” เธอก่นด่าเขาแล้วก็เช็ดน้ำตาตัวเองออกจากสองแก้มนวล ก่อนจะเดินไม่ค่อยปกติออกไปจากห้อง หล่อนอยากเดินเหมือนไม่เป็นอะไร แต่เจ็บกลางร่างที่ถูกรุกรานจึงต้องเดินกางขาออกจากห้องไป โดยลืมไปเลยว่าตัวเองมาที่ห้องเขาเพื่ออะไร
มื้อเย็นปรางทิพย์มาทานข้าวและมีลูกชายนั่งรอท่าที่โต๊ะทานข้าว นางมองลูกชายพร้อมกับเบะปากใส่เล็กน้อยด้วยความหมั่นไส้ลูกชายในไส้ตัวเอง แต่พอนั่งลงมองหาคนที่ช่วยเด็กรับใช้จัดโต๊ะอาหารไม่อยู่จึงถามหา แต่ทุกคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าร้อยรักยังไม่ลงมาเลยตั้งแต่ขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าที่ห้องของลูกชายนาง
“ตาติณณ์ไม่ได้ทำอะไรน้องนะ”
“คุณแม่ครับ ผมไม่แตะต้องเด็กของคุณแม่หรอก ผมเกลียดยัยกาฝาก” เขาตอบกลับทันควัน
“ให้มันเกลียดจริงเถอะ แล้วเนี่ยไปตามหนูรักหน่อยสิ ได้เวลามื้อเย็นแล้วทำไมยังไม่ลงมาอีก มื้อเที่ยงก็ไม่ลงมาทานแล้วทีนึง” นางพูด เพราะเมื่อตอนเที่ยงนางนั่งทานข้าวคนเดียว ส่วนลูกชายนางไม่อยากไปตาม สำหรับร้อยรักเธอรู้เวลาทานอาหารดีจะไม่เคยปล่อยให้ใครรอ มีแต่จะมารอก่อน แต่วันนี้แปลก
“แน่นอน ผมเกลียดตั้งแต่วันแรกที่ผมเจอหน้าแล้ว แม่ปรางก็รู้” เขาตอบแล้วก็เริ่มลงมือทานมื้อเย็นตรงหน้า โดยไม่คิดจะรอใคร ปรางทิพย์เองก็ลงมือทานเช่นกัน ไม่นานเด็กรับใช้คนที่ไปตามร้อยรักก็กลับลงมาพร้อมกับบอกว่าเธอไม่หิว และนั่นยิ่งแปลก ร้อยรักไม่เคยอดหรือไม่ทานมื้อเย็นแบบนี้ มื้อเที่ยงยังพอเข้าใจ แต่มื้อเย็นยังไม่หิวอีก...แปลก
“แน่ใจนะตาติณณ์ว่าลูกไม่ได้ทำอะไรน้อง”
“ไปดูเลยไหมครับแม่ปราง ไปดูเลยครับว่าผมทำอะไรเด็กของแม่ปรางรึเปล่า” เขาวางช้อนและส้อมในมือลงทันทีพร้อมกับคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมด
“แม่ก็แค่ถาม ไม่เห็นต้องเสียงดัง ชักนิสัยเสียเข้าไปทุกวันแล้วนะตาติณณ์” นางเอ็ดลูกชายและเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างเมื่อลูกชายเสียมารยาทใส่ตนเองและยังขึ้นเสียงใส่อีก
“ลูกขอโทษครับแม่ปราง” น้ำเสียงแข็งก่อนหน้าอ่อนลงเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองเผลอทำนิสัยไม่ดี ไม่น่ารักใส่ผู้เป็นแม่
“รู้ตัวก็ดีแล้ว แล้วนี่อิ่มแล้วเหรอตาติณณ์”
“ครับ”
“เพิ่งกินไปไม่กี่คำเนี่ยนะ”
“ครับ”
“ครับ มีอะไรถ่วงปากไว้ถึงพูดได้แค่คำนี้ล่ะฮึ แล้วนี่ไม่ออกไปหายัยจูลี่อะไรเหรอ ตอนกลางวันก็อยู่บ้านด้วย”
“ฝนตกเลยไม่อยากไปไหนครับ อีกอย่างวันหยุดทั้งที ผมก็อยากนอนพักผ่อนอ่านหนังสือที่บ้านเหมือนคนอื่นเขาบ้าง” เขาตอบแม่
“ให้มันจริงเถอะ แล้วนี่อิ่มแล้วจะไปไหนก็ไป เห็นหน้าลูกแล้วแม่ยิ่งหงุดหงิด และอย่าให้รู้นะว่าแกล้งอะไรน้องจนน้องไม่ลงมากินข้าวเที่ยงกับข้าวเย็น”
“ห่วงแต่ยัยกาฝาก ผมเป็นลูกแม่ปรางแท้ๆ แม่ปรางกลับมองผมเป็นผู้ร้าย” พูดอย่างงอนๆ คนเป็นแม่
“ก็เราน่ะมันร้าย ร้ายตัวพ่อเลยแหละ”
“ร้ายยังไงผมก็เป็นลูกที่ดีของแม่ปรางนะครับ ผมขอตัวนะครับ”
“อือ...ไปเถอะถ้าอิ่มแล้ว แม่ก็จะกินให้อิ่มแล้วขึ้นไปดูหนูรักสักหน่อย ไม่รู้ว่าเป็นอะไรรึเปล่า”
“ห่วงกันจริงๆ ขอให้ไม่สบายหนักๆ” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นเดินจากไปโดยเร็ว ถ้าขืนช้า แม่เขาได้ด่าว่าเขาแน่
“ตาติณณ์นะตาติณณ์ ปากก็เสีย นิสัยก็ไม่ดี แต่ทำไม๊...ทำไมผู้หญิงถึงแย่งกันนัก” นางล่ะเหนื่อยกับลูกชาย นิสัยและปากของลูกชายคงแก้ไม่ได้แล้ว โตขนาดนี้แล้ว จะว่าไปแก่แล้วด้วย แต่ยังไม่คิดจะแต่งงานมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “หนูรักให้ฉันเข้าไปได้ไหมจ๊ะ” ปรางทิพย์เคาะประตูพร้อมบอกเจ้าของห้อง เงียบ... “ไม่มีเสียงตอบโต้ตะโกนออกมานางจึงรัวมือเคาะประตูห้องอีกครั้งและดังกว่าเดิม ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “หนูรักไม่สบายรึเปล่าลูก”นางร้องถามเจ้าของห้องดังกว่าเดิม และด้านในเจ้าของห้องเมื่อได้ยินเสียงก็ขยับตัวไล่ความปวดเมื่อยของตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง หล่อนปวดหัวและกินยาไปเมื่อตอนที่พี่ส้มขึ้นมาตามไปทานข้าวจึงทำให้เพลียและง่วงมากตอนนี้ “หนูรักลูก” “คะคุณท่าน” เธอตะโกนตอบกลับเมื่อได้ยินเสียงเรียกอีกครั้ง&nb
กว่าจะเช็ดตัวให้ร้อยรักเสร็จก็เล่นเอาเขาเหนื่อย พอเช็ดตัวเสร็จก็มาถึงกินยา แล้วเขาจะทำยังไงดี ร้อยรักไม่ยอมตื่นมากินยาเลย ปลุกเท่าไหร่หล่อนก็มีแต่ครางพึมพำ เขาจึงต้องป้อนเธอด้วยปากของเขา เขาเอาเม็ดยาเข้ามาไว้ในปากแล้วก็บดจูบปากน้อยพร้อมกับมือบีบคางของเธอให้อ้าปาก พอปากน้อยเปิดติณณ์ก็ใช้ลิ้นของตัวเองดุนดันยาเข้าไปในปากของเธอและผละออกมายกแก้วน้ำดื่มมาดื่มแต่ไม่กลืน แล้วก็กลับไปจูบปากซีดของสาวน้อยอีกครั้ง ร้อยรักสำลักน้ำออกมาพร้อมกับยาไหลลงคอไป “อ่า...ยัยกาฝาก ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลยนะ แต่ที่ทำเพราะฉันสมเพช” ผละร่างเล็กที่ตระกองกอดขึ้นมาจูบป้อนยาก่อนหน้าลงไปนอนบนเตียงราวกับรังเกียจ “ฉันต้องได้ค่าตอบแทนกับสิ่งที่ทำไปวันนี้” ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้ร้อยรักป่วยแท้ๆ ยังจะหวังค่าตอบแทนจากหญิงสาวอีก ติณณ์ลุกขึ้นแล้วห่มผ้าให้ร้อยรัก แต่เธอก็ยังหนาวสั่นปากสั่นอยู่ดี เขาไม่รู้จะทำ
เขาเอ่ยเสียงพร่าเคลื่อนตัวขยับไปใกล้แนบชิดเบียดร่างเล็กของสาวน้อยตรงหน้า สองมือใหญ่บีบเคล้นขยำความอวบหยุ่นทั้งสองเข้าพร้อมกับโน้มหน้าก้มลงไปซุกซบและดูดเม้มยอดอกสีหวานและตวัดระรัวปลายลิ้นหยอกเอินไปมาพร้อมกับลากลิ้นสากขึ้นมายังแอ่งชีพจรที่เคลื่อนไหวตามแรงหอบหายใจของเจ้าของร่างเล็ก“อือ...คะ...คุณติณณ์ อ่า...” หล่อนไม่อาจห้ามเขาได้เมื่อเขาดุนดันให้เธอนอนราบไปกับเตียง ร้อยรักพ่ายแพ้ยอมอ่อนโยนไปกับเขา เพียงแค่มือหยาบกร้านสัมผัสและปากหนาอุ่นร้อนของเขาแตะละเลงลงมายังยอดอกเธอก็ร้อนเสียวในท้องน้อยขึ้นมา“อ่า...เห็นไหม เธอเองก็ต้องการฉัน ยัยกาฝาก แค่ฉันจับเลีย ดูดนิดเดียว เธอก็ร้อนสู้มือและครางให้ฉัน”ร่างใหญ่เปลือยเปล่าขึ้นคร่อมทับเจ้าหล่อนพร้อมกับสองมือยังคงบีบเคล้นขยำสองเต้า มันนุ่มหยุ่นไปกับมือไม่เหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คนที่เขาผ่านมา หล่อนพวกนั้นล้วนแต่เป็นบล็อกทั้งนั้น แต่กับร้อยรักไม่ใช่ เธอแน่นอวบอูมนุ่มมือเป็นธรรมชาติ“อ่า...ฉันอยากเข้าไปในตัวเธอรัก อ่า...ฉันอยากได้ตอนนี้”“อือ...คุณติณณ์...” เสียงหวานครางเรียกชื่อชายเหนือร่างพร้อมกับตวัดเรียวแขนเล็กโ
มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สองและครั้งต่อๆ มาตามมาเรื่อยๆ จนตอนนี้เป็นเวลาสามเดือนกว่าแล้วที่ตกเป็นนางบำเรอกลางดึกให้กับติณณ์ เขามักมาหาเธอบ่อยๆ แทบจะทุกวันเลยก็ว่าได้ และกลางดึกคืนนี้ก็เช่นกัน เขาเพิ่งเสร็จสมความสุขแล้วกลับไปยังห้องนอนของเขา โดยทิ้งให้เธอนอนกอดตัวเองในความมืดและนอกบ้านฝนก็ตกหนัก ช่วงนี้พายุเข้ามาทีละหลายๆ วันเลยทำให้ช่วงนี้หนาวเย็นในกลางดึก ฮือๆๆๆ “อึก! คุณทำไมถึงใจร้ายกับหนูแบบนี้ แม้แต่คำพูดดีๆ ปลอบโยนสักครั้ง คุณก็ยังไม่เคยพูดกับหนู แถมยังเย็นชาทำเหมือนกับหนูเป็นเพียงแค่ที่ระบายความใคร่ อึก! ฮือๆๆ”กอดตัวเองร้องไห้ในความมืดพึมพำตัดพ้อคนที่จากไปจนหลับไป เป็นแบบนี้ทุกคืน และเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องยอมเขาและเฝ้ารอเขามาหาทุกคืนด้วย หากวันไหนเขาหายไป เธอก็จะเฝ้ารอจนนอนไม่หลับ และก็ยิ่งเจ็บปวดเมื่อชายที่รอพาผู้หญิงกลับมาค้างที่บ้านด้วย “
โอ้ก! อ้าก! โอ้ก! ร้อยรักโก่งคออาเจียนกับชักโครกของห้องน้ำชั้นล่างจนตอนนี้ไม่มีอะไรจะอาเจียนออกมาแล้ว มดที่ตามมาก็เข้ามาลูบหลังเล็กให้เธอพร้อมกับส่งกระดาษทิชชูให้หญิงสาวซับปาก “เป็นยังไงมั่งคะคุณรัก” “ดีขึ้นแล้วค่ะพี่มด สงสัยจะโรคกระเพาะค่ะ ช่วงนี้รักอ้วกบ่อยมากเลย แถมกินข้าวไม่ตรงเวลา” “เหมือนอาการคนท้องเลยนะคะ พี่มดดูในละครเวลานางเอกท้องจะแบบนี้เลย แต่คุณรักไม่มีแฟนคงเป็นโรคกระเพาะแหละเนอะ” นางพูดยิ้มๆ พร้อมประคองร่างเล็กลุกยืนขึ้น “ค่ะ โรคกระเพาะ” แล้วก็ต้องเครียดเมื่อนึกถึงคำพูดของอีกฝ่าย ใช่...เธอลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลย เธอไม่ได้กินยาคุมกำเนิดและเขาก็ไม่ได้ป้องกันสักครั้งเวลาที่มาหา ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อนับวันเวลาประจำเดือนแล้วจนวันนี้ ใช่..
ตั้งแต่มื้อเย็นเธอก็ขึ้นมาเก็บตัวบนห้องไม่ได้นั่งเล่นหรือพูดคุยหลังทานข้าวกับคุณท่านเหมือนเคย และเธอก็ทานได้เพียงคำสองคำ เพราะอาหารที่ทานวันนี้กลิ่นเหม็นทุกอย่าง แต่ก็อดทนกลืนอาหารที่ขย้อนขึ้นมาลงท้องลงไปเพื่อไม่ให้ท่านสงสัยและจับผิดได้ “จะทำยังไงดีรัก...จะทำยังไงดีรัก” หล่อนถามตัวเองแบบนี้เป็นร้อยครั้งแล้วตั้งแต่ขึ้นมาเก็บตัวบนห้อง ไม่ได้อ่านหนังสือแบบที่อ้างคุณท่าน “เธอท้อง เธอยังเรียนไม่จบ และคุณท่านต้องผิดหวังแน่ถ้ารู้เรื่องนี้ จะทำยังไงดี”พยายามถามตัวเองและคิดหาทางออก และก็ต้องลุกขึ้นเดินจากเตียงเมื่อได้ยินเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจอดในบ้าน และเสียงนั้นเป็นเสียงรถของคนที่เป็นพ่อของลูกเธอ เธอเดินไปส่องหน้าต่างดูเขาที่โรงจอดรถ ห้องนอนของเธออยู่ติดกับทางโรงรถจึงทำให้มองเห็นเขาได้ถนัดตา ด้วยความมืดที่แสงไฟส่องไม่เพียงพอเลยทำให้ไม่เห็นสีหน้าของเขา แต่ก็ได้ยินเสียงเขาฮัมเพลงเข้ามาในบ้าน ดูก็รู้ว่าเขาอารมณ์ดีแค่ไหน และคงเพิ
“โอว์...เสียว อ่า...” ทันทีที่แตกพร่า เขาก็คำรามก้องด้วยความสุข แต่ไม่ใช่แค่นี้ เขาต้องการความคับแน่นของสาวน้อยตอดรัดด้วย “อ่า...กินฉันสิรัก กินให้หมดแล้วขย่มฉันเด็กน้อย อ่า...” สั่งให้ร้อยรักไล้ปลายลิ้นดูดกลืนน้ำเสียวของตนเอง “อื้อ...อ่า...” ลิ้นน้อยปาดไล้เลียความเป็นบุรุษแข็งแรงอวบหยุ่นของคนตัวโต จนตอนนี้คราบเหนียวข้นที่เปรอะเปื้อนก่อนหน้านั้นหมดไปแล้ว และตามโคนต้นขาอ่อนที่เต็มไปด้วยไรขนอ่อนของติณณ์ก็ไม่มีติดเปื้อนอยู่ “อื้อ...ต่อกันเถอะ ขย่มฉันนะรัก อ่า...ฉันอยากให้เธอขึ้นคร่อมแรงๆ อื้อ...” มือใหญ่ลูบแก้มนวลชื้นเหงื่อให้แหงนเงยขึ้นสบตาดุดันของตนเอง ก่อนที่จะโน้มโก้งโค้งตัวลงมาบดจูบปากน้อยที่อ้อยอิ่งอยู่ตรงหน้า “อ่ะ...อื้อ...” เสียงครางดังลอดออกมาจากปากที่บดจูบกัน มือใหญ่บีบคางมนเล็กของร้อยรัก
ตอนเช้ามืดก่อนที่ทุกคนจะตื่น ติณณ์ก็รีบแต่งตัวให้เรียบร้อย ตอนนี้ตีสี่กว่าแล้ว เขาต้องรีบกลับห้องตัวเองก่อนที่ทุกคนในบ้านจะตื่นมาเห็น แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาเดินออกจากห้องก็ต้องหยุดเท้าชะงักเมื่อคนที่คิดว่าหลับไปแล้วร้องเรียกรั้งไว้ “มีอะไร” ถามเสียงห้วน “รักมีเรื่องจะคุยกับคุณติณณ์ค่ะ” เธอตัดสินใจแล้วว่าจะบอกเขาและเขาต้องรู้ เพราะเขาคือพ่อ ถึงแม้จะบอกตัวเองไม่ได้คาดหวังความยินดี แต่ก็ยังคาดหวังว่าเขาจะดีใจกับอีกหนึ่งชีวิต “สำคัญไหม ถ้าสำคัญก็รีบพูดมา เสียเวลา ชักช้า” เขาเอ่ยอย่างหงุดหงิด “รักท้องค่ะ หนูท้อง” เธอบอกเขาชัดถ้อยชัดคำ บัดซบ! มือใหญ่ปัดอากาศด้วยความหงุดหงิดขึ้นมาทันที ริ้วรอยบนหน้าย่นขึ้นพร้อมกัดสันกรา
5 ปีต่อมา ตนุภัทรกับรติมาวิ่งเล่นที่สนามเด็กเล่นหน้าบ้าน ตอนนี้หนูน้อยฝาแฝดทั้งสองอายุได้ 5 ขวบแล้ว ติณณ์กับร้อยรักนั่งที่เสื่อมองดูลูกๆ วิ่งเล่นกัน สนามเด็กเล่นหน้าบ้านติณณ์เพิ่งสร้างเมื่อต้นปีที่แล้วเพื่อให้ลูกๆ วิ่งเล่น และวันนี้เป็นวันหยุดจึงชวนร้อยรักมาปูเสื่อนอนเล่นที่สนามเด็กเล่นกัน ชายหนุ่มล้มตัวลงนอนหนุนตักภรรยาคนสวย ใครจะเชื่อว่าคนอย่างเขาจะกลับตัวกลับใจเป็นคุณพ่อและสามีที่ดีของร้อยรักได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว ตลอดระยะเวลาที่อยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะทำให้ร้อยรักร้องไห้ วันนี้ที่บ้านหลังนี้ก็มีแค่เขากับร้อยรักอยู่ เพราะแม่ของเขาไปปฏิบัติธรรมที่วัดตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน “รักจ๋า...” “คะพี่ติณณ์” “พี่รักรักนะครับ” 
ปัง! “อ่า...รักไม่ไหวแล้ว ฉันไม่ไหวแล้ว” ทันทีที่ปิดประตู ติณณ์ก็เดินก้าวยาวๆ ไปยังเตียงที่เต็มไปด้วยของเล่นของลูกๆ เขาไม่สนใจว่าจะทับหักหรือทำหัก ตอนนี้เขาร้อนรุ่มเหลือเกิน ต้องการแนบชิดบดเบียดในกายคับแน่นของร้อยรัก ต้องการให้หล่อนตอดรัดหนักหน่วง “อือ...ใจเย็นๆ ค่ะพี่ติณณ์ อ่า...” หล่อนบอกห้ามเขาและช่วยเขาถอดเสื้อผ้าของตัวเอง ตอนนี้เธอเองก็ใจร้อนไม่ต่างจากเขา “อือ...ไม่ไหวแล้วที่รัก ให้พี่เถอะนะ” ติณณ์โน้มหน้าไปบดจูบปากน้อย ส่วนมือก็ปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกด้วยความรีบร้อน และไม่นานติณณ์ก็ปลดเปลื้องชุดของตัวเองออกให้พ้นทางได้ ส่วนของร้อยรักเธอเองก็ถอดออกแล้วเช่นกัน “อ่า...สวยเหลือเกินรัก” มือหนาลูบไล้ผิวกายนวลเนียนของร้อยรักพร้อมกับเคลื่อนจูบไล้สัมผัสตามร่างเปลือยที่บิดเร่าร้อนไปมาอยู่ใต้ร่าง
“ทิ้งความเจ็บปวด ทิ้งสิ่งเลวๆ ที่ฉันทำกับเธอ ทิ้งและลืมคำพูดถากถาง ทิ้งคำพูดที่บั่นทอนจิตใจเธอ ทิ้งทุกอย่างที่ฉันทำไม่ดีกับเธอได้ไหม ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอนะรัก ฉันรักเธอ มันคือสิ่งเดียวที่ฉันอยากปฏิเสธ แต่ฉันปฏิเสธมันไม่ได้ เพราะฉันรักเธอ” เขาเคลื่อนมือมากุมมือเล็กที่ทาบทับหน้าอกของตนเองแล้วก็โน้มลงไปจูบแผ่วเบาที่หน้าผากมนของคนที่แหงนเงยขึ้นมองหน้าตนเองร้อยรักยืนนิ่งพูดไม่ออกและไม่ได้ปัดสัมผัสของเขา เพียงแค่สัมผัสแผ่วเบาที่ประทับจูบลงมาที่หน้าผากของเธอ เธอก็ใจสั่นระรัวเต้นแรงและรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นและอ่อนโยนจากสัมผัสแผ่วเบาของชายหนุ่ม“ถ้า...ถ้าไม่ได้เกลียดแล้วทำไมตอนเด็กๆ วันแรกที่หนูย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน คุณถึงวิ่งเข้ามาผลักหนูพร้อมกับกระชากกระเป๋าไปโยนทิ้ง” เรื่องนี้ในวัยเด็กมันคาใจเธอมาตลอด เพราะอะไรวันแรกที่เดินเข้ามา เขาถึงต้อนรับเธอแบบนั้น แสดงความไม่ชอบและเกลียดเธอชัดเจน“ฉัน...ฉันจะพูดยังไงดี ฉันเป็นผู้ชายตัวโต แต่ใจฉันแคบและเล็กมาก ฉันกลัว...กลัวว่าพ่อกับแม่จะไม่รักฉันถ้ามีเธอเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย และพ่อกับแม่ก็ใส่ใจเธอ อะไรก็เธอ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าเ
เมื่อกลับมาอยู่บ้าน ร้อยรักไม่ยอมไปอยู่ห้องกับติณณ์และลูก และขออนุญาตคุณท่านขนข้าวของของลูกน้อยย้ายมาไว้ที่ห้องตนเอง ส่วนติณณ์เธอก็ไม่ยอมให้เขาเข้ามาในห้อง เข้าใกล้ลูกๆ ได้ แต่อย่าเข้ามาใกล้เธอ ถ้าเธออยู่กับลูก เขาต้องไปอยู่ที่อื่น เพราะเธอไม่อยากเจอหน้าของเขา “เป็นอย่างไรบ้างลูก” ปรางทิพย์ถามร้อยรักที่กำลังนั่งให้นมลูกอยู่ในห้องนอนส่วนตัวของเธอ ส่วนติณณ์อยากเข้ามาด้วย แต่ถูกเจ้าของห้องมองตาขวาง เขาจึงได้แต่ยืนอยู่ที่หน้าประตูดูลูกน้อยดูดนมจากเต้าของหญิงสาว เขาอยากเข้าไปหา ไปโอบกอด ไปหอมแก้มนวลนั้นให้ชื่นใจ “รู้สึกแปลกนิดหน่อยค่ะ น้องตองว่าง่าย แต่น้องต้นดื้อนิดหน่อยค่ะ” หล่อนยิ้มให้กับตนุภัทรที่กำลังดูดนมของตนเองอยู่ ส่วนรติมานั้นอิ่มแล้วนอนกอดตุ๊กตาอยู่ข้างๆ เธอ “แล้วน้ำนมออกดีไหมลูก” นางถามเพราะร้อยรักนอนนานตั้งสองเดือนกว่า
ณ ยุโรป กรุงโรมด้านปรางทิพย์ทันทีที่ได้รู้เรื่องจากลูกชาย นางก็นั่งไม่ติดรีบจัดการเก็บข้าวของกลับมาเมืองไทยทันที แม้จะโกรธและไม่อยากเชื่อสิ่งที่ติณณ์บอกเล่า แต่มันก็คือความจริง นางจึงต้องเดินทางกลับมาก่อนกำหนดที่ตั้งใจไว้“พี่ปรางเดินทางปลอดภัยนะคะ ถ้าป้อมไม่ติดต้องดูแลโทนี่ ป้อมก็จะไปด้วย” ตอนนี้สามีของป้อมใจป่วย นางจึงไม่สามารถเดินทางได้ในช่วงนี้“ไม่เป็นไรหรอกป้อม พี่ต้องกลับไปจัดการกับหลานตัวดีของป้อม และตอนนี้หนูรักก็ยังไม่ได้สติด้วย พี่ล่ะเหนื่อยใจจริงๆ กับลูกคนนี้ ไม่รู้จะเลวไปถึงไหน” นางพูดพร้อมกับยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่รินไหลออกมา“พี่ปรางไม่คิดบ้างเหรอคะว่าตาติณณ์รักหนูรัก”“ก็เคยคิด แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยนะป้อม ถึงแม้ว่าหนูรักจะแอบรักตาติณณ์ก็เหอะ พี่ล่ะอุตส่าห์ดีใจที่หนูรักย้ายออกไปอยู่หอตอนพี่มาที่นี่ แต่ก็ยังไม่พ้นมือของเจ้าลูกเลว” พูดแล้วก็เจ็บใจและโกรธลูกชายตัวดีนัก ไม่รู้ทำกับร้อยรักแบบนั้นได้ยังไง เกลียดยังไงก็ไม่น่าย่ำยีเธอแบบนั้น“เอาน่าพี่ ไหนๆ เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว เดินทางปลอดภัยนะคะ ถ้าโทนี่หายแล้วป้อ
นานห้าชั่วโมงที่ร้อยรักอยู่ในห้องผ่าตัด ติณณ์นั่งไม่ติดเดินวนเวียนไปมาหน้าห้องผ่าตัด เพราะมาถึงหมอก็ตรวจและบอกเขาว่าต้องรีบผ่าตัดด่วน ไม่งั้นจะไม่รอดทั้งแม่และลูก เนื่องจากร้อยรักเสียเลือดมาก และก็ไม่มั่นใจว่าลูกของเขาจะรอดปลอดภัย เพราะชีพจรเต้นอ่อนเหลือเกินตอนนี้ “ขอร้อง...อย่าทิ้งฉันไปนะรัก ขอร้อง...อยู่กับฉันก่อน อยู่ให้ฉันได้ชดใช้ความเลวของฉันก่อน อึก! ฮือๆๆ” ติณณ์นั่งคุกเข่าที่หน้าห้องผ่าตัดยกมือทาบอกตัวเองร้องไห้ เพราะนานเหลือเกินที่รอคอยประตูห้องผ่าตัดเปิดออก แต่รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเปิดออก “ติณณ์ น้องรักเป็นยังไงบ้าง” ทันทีที่ได้รับสายจากติณณ์ เรียมก็รีบมาหาเพื่อนทันทีด้วยความเป็นห่วง อึก! “เรียม...ลูกกับเมียฉันอยู่ข้างใน จนตอนนี้ยังไม่ออกมาเลย หมอยังไม่ออกมาสักคนเลย พยาบาลก็ไม่เห็นออกมา อึ
จากที่จะไปห้างสรรพสินค้าซื้อข้าวของเครื่องใช้เตรียมไว้ให้ลูกก็ต้องกลับมาบ้าน เพราะร้อยรักไม่ไป เธออยากกลับบ้าน เธอเพลีย เธออยากพักผ่อน พอมาถึงบ้านมดกับส้มก็เอาน้ำอุ่นมาให้เธอแช่เท้าทันที ตอนนี้สองสาวก็รู้เห็นทุกเรื่องของเธอกับติณณ์ แต่ก็ไม่มีใครปริปากพูดหรือถามเธอและโทรเล่าให้คุณท่านฟัง เพราะเขาสั่งห้ามไว้ ตอนนี้เขาก็นั่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับชวนเธอพูดคุยถึงเรื่องชื่อลูกทั้งสอง แต่เหมือนเขาพูดคนเดียว เพราะหญิงสาวไม่โต้ตอบหรือออกความเห็นอะไรเลยสักอย่าง “เธอจะไม่พูดกับฉันแบบนี้ไม่ได้นะรัก” ติณณ์ทนความเงียบไม่ไหว “คะ” “เธอเป็นอะไร” “เป็นกาฝากของบ้านค่ะ และท้องไม่มีพ่อ เรียนก็ไม่จบค่ะ” “ใครบอกว่าไม่มีพ่อ ก็ฉันนี่ไงพ่อของลูกเธอ และเป็นผัวเธอด้วย”&nbs
จากขึ้นมาตามลงไปทานข้าวจนตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว ติณณ์เพิ่งจะถอนกายอุ่นร้อนออกจากกายฉ่ำของร้อยรัก เขามองร่างเปลือยเปล่าที่อวบอิ่มแล้วสายตาเข้มก็มาหยุดที่ท้องโตของเธอก่อนจะยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วเดินไปเก็บเสื้อผ้าของตัวเองมาสวมใส่ รวมถึงเสื้อผ้าของร้อยรักด้วย “แต่งตัวสิ ไปกินข้าว ป่านนี้กับข้าวเย็นหมดแล้วมั้ง” “พะ...เพราะคุณติณณ์นั่นแหละ แล้วพี่เรียมอีก ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง คุณติณณ์ปล่อยพี่เรียมไว้คนเดียวได้ยังไง” ทั้งอายและโกรธเขาที่เขาเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ “เรียมคงรอเราหรอก นี่สามทุ่มจะสี่ทุ่มแล้ว แต่งตัวไปกินข้าวได้แล้ว ท้องเธอร้องแล้วนะ” โครก! คราก! ทันทีที่สุดความของติณณ์ ท้องของร้อยรักก็ส่งเสียงออกมาให้อับอาย 
“ก็หนูบอกว่าไม่หิว ทำไมคุณติณณ์ต้องบังคับด้วยคะ” เธอตอบเสียงเบา“ถึงไม่หิวยังไงก็ต้องกิน เธอจะเป็นแม่คนอยู่แล้วนะรัก อีกอย่างเธอทำแบบนี้ไม่ให้ฉันคิดว่าเธอหึงฉันคงไม่ได้หรอกนะเด็กน้อย”ติณณ์มั่นใจว่าตัวเองพูดไม่ผิดแน่ ร้อยรักต้องหึงเขา ถ้างั้นแสดงว่าเจ้าหล่อนก็ต้องรักเขาน่ะสิ รักงั้นเหรอติณณ์ เขาเคยหวังอะไรแบบนี้จากเด็กของคุณแม่ได้ยังไง เขาเกลียดเธอไม่ใช่เหรอ ใช่...เขาเกลียดเธอ แต่ทำไมตอนนี้เขากลับอยากกอดเธอนานๆ ไม่อยากปล่อยร่างอวบนี้เลย“รักไม่ได้หึงคุณติณณ์ ไม่มีวันหึงด้วย เพราะรักเกลียดคุณติณณ์ ได้ยินไหมคะว่ารักเกลียดคุณติณณ์ รัก...อ่ะ...อื้อ”แล้วประโยคของร้อยรักก็พูดไม่สุดความเมื่อติณณ์ทนฟังคำว่า ‘เกลียด’ ตัวเองจากปากเล็กไม่ไหว เขาจึงประคองหน้าเล็กแล้วก็บดจูบหนักหน่วงทันที พร้อมดุนดันปลายลิ้นสากเข้าไปทำโทษเรียวลิ้นน้อยของเธอด้วยความกรุ่นโกรธและโหยหาในคราเดียวกัน“อ่า...หวานเหลือเกินรัก ฉันอยากทำแบบนี้กับเธอทุกวัน” เขาถอนจูบร้อนรุ่มที่แสนปรารถนาและรอคอยมาตลอดออกมพึมพำกับใบหน้างามแล้วก็โน้มก้มหน้าต่ำไปจูบปากน้อยที่เผยอรอท่าอยู่อีกครั้ง