ถ้าปู่รู้ว่าเขาได้สังหารลูกชายของป้าโคลอี้ เขาอาจจะทุกทรมาณจากความเศร้าโศกป้าโคลอี้คือลูกสาวคนโปรดของปู่ ผู้สืบตระกูลที่โดดเด่นที่สุดที่ปู่ได้เลี้ยงดูปู่มักจะพูดบ่อย ๆ ว่าถ้าป้าโคลอี้มีลูก ลูกของเธอจะเป็นทายาทโดยชอบธรรมที่สุดขององค์กรโลกาวินาศอย่างแน่นอนน่าเสียดาย เขาถูกได้ทำลายความหวังของปู่ด้วยมือเปล่าของเขา“อ๊ากกก!” โคลเงยหน้าขึ้นท้องฟ้าและตะเบ็งเสียงด้วยความรู้สึกท้อแท้และเศร้าหมอง“ทำไมนายถึงทำให้ฉันอยู่ในสถานการณ์ที่เลือดเย็นแบบนั้นด้วย เจย์ อาเรส?”แองเจลีนก้มลงเก็บมีดอันเยือกเย็นบนพื้น!โคลจ้องเธออย่างเฉยเมย ขณะที่เขาเริ่มคาดเดาเรื่องแรงจูงใจที่เธอมี เขาก็เห็นแองเจลีนเงื้อมีดที่เยือกเย็นขึ้นและแทงมันไปยังหน้าอกของเธอโดยไม่ทันรู้ตัวโคลเตะมีดอันเยือกเย็นลง แองเจลีนกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง“ปล่อยให้ฉันตายซะ"เกรย์สันและเซย์นรีบเข้ามาในตอนนี้ เซย์นกอดแองเจลีนแน่นขณะที่เธอยังคงขาดสติ “ได้โปรดเถอะ แองเจิล พี่ขอล่ะ เธอต้องอยู่ต่อไป”ท่าทีความสิ้นหวังและความท้อแท้ปรากฏขึ้นทางสีหน้าของแองเจลีนขณะที่เธออ้อนวอน “เซย์น พี่ไม่รู้หรอกว่าฉันรู้สึกใจสลายมากแค่ไหน นี่มันเจ็บปวดมากน
แองเจลีนไม่ตอบสนองโจเซฟินสะดุ้งด้วยความวิตกกังวล คลำหาสวิตช์ไฟในขณะที่สั่นสะท้านในความมืดเมื่อแสงไฟส่องมาที่เตียง โจเซฟีนก็สังเกตเห็นว่าเครื่องนอนสีขาวและผ้าปูที่นอนแดงก่ำไปด้วยเลือด ไหลเป็นดอกบัวโลหิตแบบหย่อม ๆ โจเซฟินส่งเสียงร้องด้วยความตื่นตระหนก “โอ้พระเจ้า พี่แองเจลีน”เมื่อเกรย์สันและเซย์นพุ่งเข้ามาและเห็นแองเจลีนหมดสติหลังจากที่กัดข้อมือตัวเอง ชายวัยผู้ใหญ่ทั้งสองคนก็ตกใจมากจนพวกเขายืนอยู่ด้วยความสับสนโจเซฟินตะคอกพวกเขา “ทำอะไรกันอยู่? รีบส่งแองเจลีนไปที่โรงพยาบาลสิ”เกรย์สันและเซย์นรีบส่งตัวแองเจลีนไปยังแกรนด์ เอเซียอย่างฉุกละหุก ในเวลานั้น ความคิดของเขาแทบจะว่างเปล่า พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรเลย ดังนั้น โจเซฟินจึงสั่งการพวกเขาทุก ๆ ขั้นตอนของวิธีการจนกระทั่งบรรดาแพทย์พาแองเจลีนแองเจลีนกลับมามีชีวิตได้จึงทำให้วิญญาณของเซย์นและเกรย์สันกลับคืนสู่ร่าง ทั้งสองนอนแผละอยู่บนทางเดินของโรงพยาบาลแกรนด์ เอเซียด้วยความกลัวที่อ้อยอิ่งแองเจลีนลืมตาที่งุนงงขึ้นทีละเล็กทีละน้อย โจเซฟินกำลังนั่งอยู่ต่อหน้าเธอพร้อมกับร้องไห้บ่นพึมพำว่า “พี้แองเจลีน ตอนนี้ฉันรู้ว่าเธอไม่อยากอยู่อี
จากนั้น แองเจลีนก็ย้อนกลับเข้าไปสู่โลกของเธอเองเป็นเวลานานมากเมื่อไหร่ก็ตามที่ใครคุยกับเธอ เธอเพียงแต่จำหน้าที่เป็นผู้ฟังโดยไม่ตอบโต้ใด ๆ เมื่อคุณท่านปู่อาเรสได้ทราบถึงอาการของแองเจลีน เขาก็มาที่ห้องผู้ป่วยด้วยตัวเองและพูดกับแองเจลีนว่า “โอ้ แองเจลีน ฉันเพิ่งจะรู้ว่าเธอชอบเจย์มากแค่ไหน ที่ฉันมาในวันนี้ก็เพื่อบอกกับเธอว่าเจย์อาจจะไม่ตาย รถถังที่ฉันส่งให้เขาในวันนั้นถูกทดสอบโดยฝนกระสุนหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน หรือการที่มันไม่สามารถถูกเจาะทะลุได้โดยอาวุธชีวภาพหรือเคมี ฉันเชื่อว่าไฟนั่นไม่สามารถทำลายรถถังได้”หลังจากที่หยุดไปครั้งหนึ่ง เขาก็แนะนำอย่างเอาจริงเอาจังและพูดว่า “เพราะฉะนั้น แองเจลีน เธอต้องรักตัวเองและบริหารแกรนด์ เอเซียให้ดี ถ้าวันหนึ่งเจย์กลับมา เธอต้องแสดงด้านที่สวยงามที่สุดของโลกใบนี้ให้กับเขา”เป็นที่น่าเสียดาย แองเจลีนไม่ตอบโต้แม้กระทั่งหลังจากที่คุณท่านปู่อาเรสพูดเป็นเวลานานหมอพูดว่า “ถ้านายหญิงเซเวียร์ไม่สามารถคลี่คลายจากความโศกเศร้าและความสิ้นหวังในเวลาอันสั้นได้ ผมเกรงว่าเธอจะเดินกลับไปสู่เส้นทางเดียวกันกับคุณท่านปู่เซเวียร์และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตใจและก
สิ่งนี้ทำให้เกิดผลกระทบที่ต่อเนื่อง!ผู้ถือหุ้นบางคนเสนอข้อสังเกตทั่วไปบางประการด้วยความหวังว่าคนอื่น ๆ จะเกิดความคิดเห็นที่มีคุณค่ามากขึ้น ในขณะที่คนอื่น ๆ กลับสร้างความลำบากให้กับเกรย์สันเกรย์สันรู้ว่าหุ้นที่กลุ่มคนเหล่านี้ถือนั้นน้อยเป็นอย่างมาก ควบคู่กับการกดขี่ของท่านประธานอาเรสมานานหลายปี การมีตัวตนในแกรนด์ เอเซียของพวกเขาใกล้จะถึงศูนย์แล้วในตอนนี้ การที่ท่านประธานอาเรสจากไปอย่างน่าเสียดายและประธานคนใหม่ก็ยังไม่แผลงฤทธิ์ พวกเขาจึงกำลังคว้าโอกาสนี้เพื่อระบายความคับข้องใจที่อัดอั้นในหัวใจของพวกเขาออกมาเกรย์สันก็เงียบไปเขาไม่อยากมีเรื่องกับผู้ถือหุ้นในตอนนี้ที่แกรนด์ เอเซียมีปัญหาเพราะสิ่งนี่จะลดอิทธิพลทางสาธารณะของแกรนด์ เอเซียลงอย่างมากอย่างไรก็ตาม ยิ่งเกรย์สันยังเงียบ ผู้ถือหุ้นก็ยิ่งเห็นว่าเขาเห็นเขาเป็นเป้าหมายที่ง่าย ในตอนนี้การที่ไม่มีใครหนุนหลังเกรย์สันอีกต่อไปแล้ว เขาก็ดูจะเสียความเย่อหยิ่งที่เคยมีครั้งหนึ่งไป“เกรย์สัน คุณต้องรีบคิดหาทางแก้ไขสำหรับทุกคนนะ”“ใช่แล้ว ถ้าทีมผู้นำแกรนด์ เอเซียในปัจจุบันไม่มีความสามารถ เราคิดจะตัดสินใจไหมว่าพวกเขาควรจะถูกแทนที่หรือ
เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าแองเจลียยังสาวมากแค่ไหน บรรดาผู้ถือหุ้นก็ตั้งสติและตัดสินใจที่จะดูว่าประธานหญิงคนนี้มีความสามารถและโดดเด่นขนาดนั้นจริง ๆ หรือไม่ถ้าไม่ พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะทำให้เธอขายหน้า“ใครที่เสนอความคิดที่ย่ำแย่ให้ขายแกรนด์ เอเซียคะ?” แองเจลีนนั่งลงบนเก้าอี้หมุนของประธานและไขว้ขา จ้องไปยังพวกเขาอย่างวางตัวด้วยสายตาที่เย็นชาทุก ๆ ถ้อยคำและท่าทางของเธอแบกรับเงาของเจย์บรรดาผู้ถือหุ้นสับสนเป็นอย่างมาก ประธานคนก่อนไปหาตัวผู้หญิงแบบนั้นมากจากที่ไหน? เธอมีแนวทางเดียวกันกับเขา ไม่มีใครจะรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของพวกเขาบรรดาผู้ถือหุ้นไม่กล้าตอบอย่างผลีผลามเกรย์สันชี้ไปยังผู้ถือหุ้นคนนั้นที่ออกเสียงมากที่สุดก่อนหน้านี้ “เขาคนนั้นครับ นายหญิงเซเวียร์”แองเจลีนเหลือบมองผ่าน ๆ ไปยังผู้หถือหุ้นคนนั้น สายตาของเธอเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและดูถูกขณะที่เธอพูดด้วยท่าทีที่วางมาดและเย่อหยิ่งว่า “ชดเชยให้เขาและไล่เขาออกไปจากแกรนด์ เอเซียซะ เกรย์สัน”ผู้ถือหุ้นที่กล่าวนั้นก็ดูเหมือนจะไม่ท้อถอยเช่นกัน “หืม ในตอนนี้การที่นายท่านอาเรสได้จากไป ใครจะรู้ล่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับแกรนด์ เอเซียใ
เมื่อเกรย์สันเดินผ่านเซย์น เขาก็เอยถามขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ “เกิดอะไรขึ้นครับ? นายหญิงเซเวียร์หายจากอาการทางจิตแล้วเหรอครับ?”เซย์นเหลือบมองแองเจลีนที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้าเขาอย่างรู้สึกผิด เขาเอามือป้องปากไว้ แล้วพูดว่า “เมื่อวานฉันอยู่ที่ตึกคนไข้ร้องไห้คร่ำครวญว่าเธอป่วยหนักมากขึ้น ฉันครุ่นคิดอยู่ว่าจะส่งเธอไปที่โรงพยาบาลจิตเวชเพื่อรับการรักษา แต่จู่ ๆ เธอก็กลับมาบ้าคลั่งตอนได้ยินที่ฉันพูด เธอกระโดดขึ้นจากเตียงมาทุบตีฉันแรงมากเลย เธอถึงกับอ้างว่าเธอไม่ได้ป่วยทางจิต แล้วเมื่อเช้านี้ เธอเพิ่งฟื้นขึ้นมาหายเป็นปกติอย่างแปลกประหลาดมาก”เกรย์สันกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “หมายความว่านายหญิงก้าวออกมาจากความหมองหม่นและยอมรับการจากไปของท่านประธานอาเรสแล้วใช่ไหมครับ?”เซย์นลูบคางของเขา ดูเหมือนกำลังมองโลกในแง่ร้ายมาก “ก็นะ เธอไม่ได้ปิดกั้นตัวเองจากโลกแล้ว แต่ฉันสงสัยว่าอาการป่วยทางจิตของเธอหายแล้วได้ยังไง แค่ดูการแต่งหน้าที่เธอแต่ง มันเหมือนกับจานสีที่เปลี่ยนใบหน้าที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาของเธอให้ดูไม่บริสุทธิ์อีกแล้วน่ะสิ ทำให้ดูดุร้ายยิ่งกว่านางพญาเสือโคร่งซะอีก แล้วก็แค่ดูท่าทางอวดดีของ
เธอเป็นเหมือนจักรพรรดินีที่ยืนอยู่บนไหล่ของยักษ์มองไปยังประชาชนของเธออย่างหยิ่งยโส“คุณได้ดื่มน้ำแห่งลีธีแล้วหรือยัง เจย์บี้? ได้ข้ามสะพานไปยมโลกหรือยัง? คุณจะยังจำฉันได้อยู่ไหม?”“ฉันขอโทษ ฉันยังไปกับคุณไม่ได้ ฉันต้องอยู่ที่นี่และทำสิ่งที่คุณได้เริ่มไว้ให้เสร็จและตามหาลูกชายของเรา ฉันยังต้องการอยู่ที่นี่และรอการกลับมาของคุณ”ลมกระโชกแรงขึ้นมาจากพื้นดิน ขจัดเสียงกรอบแกรบของฤดูใบไม้ร่วงและต้อนรับความหนาวเย็นอันโหดร้ายของฤดูหนาวเช่นเดียวกับฤดูหนาว แองเจลีนก็ยิ่งรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเธอเฝ้ารอด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมและไร้ความปรานี เธอจึงได้บังคับให้ตระกูลไททัส ตระกูลเบล ตระกูลอาเรสและตระกูลเซเวียร์ ยอมจำนนอย่างรวดเร็วไม่กี่ปีต่อมาณ หมู่บ้านชาวประมงผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเก็บหอยแมลงภู่น้ำจืดอยู่ที่ริมแม่น้ำ โดยมีเด็กวัย 4 ขวบอยู่บนหลังของเธอ ผู้หญิงหลายคนเยาะเย้ยเธอและพูดว่า “นั่นเธอหนิ ผู้หญิงที่พาผู้ชายป่าเถื่อนกลับมาด้วยเมื่อสองสามปีก่อนและแต่งงานกับเขา ฉันได้ยินมาว่าผู้ชายคนนั้นได้พาผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในสภาพผักกลับมาด้วยนะ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เธอไม่เพียงแต
ชายคนนั้นยืดหลังตรงแล้วพูดว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ฉันจะออกไปข้างนอกและมองหาเอง มันต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่ฉันทำได้แน่นอน”ขณะที่มาริลีนและผู้ชายของเธอกำลังอับจนหนทาง กลุ่มคนในหมู่บ้านกลุ่มแรกที่ออกไปหาเลี้ยงชีพนอกหมู่บ้านก็กลับมาพวกเขาสวมเสื้อผ้าดูดีและพูดได้อย่างคล่องแคล่วในขณะที่พวกเขาบอกเล่าเรื่องราวและรายละเอียดที่มีชีวิตชีวาแก่เพื่อนร่วมหมู่บ้านของพวกเขาเกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของโลกภายนอกมาริลีนได้ยินพวกผู้ชายพูดกันว่าการหาเงินจากที่นั่นทำได้ง่ายมากขนาดไหน ตราบใดที่คน ๆ หนึ่งตั้งใจทำงานหนัก คน ๆ นั้นก็จะหาเงินได้หลายพันเหรียญต่อเดือนได้อย่างง่ายดายเมื่อมาริลีนกลับมาถึงบ้าน เธอพูดกับผู้ชายของเธอว่า “ที่รัก เบรตต์จากหมู่บ้านเราไปที่เมืองอิมพีเรียลมาหนึ่งปี แล้วก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเลยนะหลังจากได้กลับมา พวกเขาบอกว่าการหาเงินจากที่นั่นนั้นง่ายมาก เราควรจะออกไปข้างนอกและลองเสี่ยงโชคกับพวกเขาดูไหม? บางทีเราอาจทำเงินได้เยอะมากและคุณก็จะได้ช่วยรักษาคนที่ช่วยชีวิตคุณไว้ แล้วก็ยังจ่ายค่าเล่าเรียนของไทเกอร์ได้ด้วยนะ คุณคิดว่ายังไง?”มีร่องรอยความสงสัยในดวง