เธอเป็นเหมือนจักรพรรดินีที่ยืนอยู่บนไหล่ของยักษ์มองไปยังประชาชนของเธออย่างหยิ่งยโส“คุณได้ดื่มน้ำแห่งลีธีแล้วหรือยัง เจย์บี้? ได้ข้ามสะพานไปยมโลกหรือยัง? คุณจะยังจำฉันได้อยู่ไหม?”“ฉันขอโทษ ฉันยังไปกับคุณไม่ได้ ฉันต้องอยู่ที่นี่และทำสิ่งที่คุณได้เริ่มไว้ให้เสร็จและตามหาลูกชายของเรา ฉันยังต้องการอยู่ที่นี่และรอการกลับมาของคุณ”ลมกระโชกแรงขึ้นมาจากพื้นดิน ขจัดเสียงกรอบแกรบของฤดูใบไม้ร่วงและต้อนรับความหนาวเย็นอันโหดร้ายของฤดูหนาวเช่นเดียวกับฤดูหนาว แองเจลีนก็ยิ่งรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเธอเฝ้ารอด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมและไร้ความปรานี เธอจึงได้บังคับให้ตระกูลไททัส ตระกูลเบล ตระกูลอาเรสและตระกูลเซเวียร์ ยอมจำนนอย่างรวดเร็วไม่กี่ปีต่อมาณ หมู่บ้านชาวประมงผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเก็บหอยแมลงภู่น้ำจืดอยู่ที่ริมแม่น้ำ โดยมีเด็กวัย 4 ขวบอยู่บนหลังของเธอ ผู้หญิงหลายคนเยาะเย้ยเธอและพูดว่า “นั่นเธอหนิ ผู้หญิงที่พาผู้ชายป่าเถื่อนกลับมาด้วยเมื่อสองสามปีก่อนและแต่งงานกับเขา ฉันได้ยินมาว่าผู้ชายคนนั้นได้พาผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในสภาพผักกลับมาด้วยนะ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เธอไม่เพียงแต
ชายคนนั้นยืดหลังตรงแล้วพูดว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ฉันจะออกไปข้างนอกและมองหาเอง มันต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่ฉันทำได้แน่นอน”ขณะที่มาริลีนและผู้ชายของเธอกำลังอับจนหนทาง กลุ่มคนในหมู่บ้านกลุ่มแรกที่ออกไปหาเลี้ยงชีพนอกหมู่บ้านก็กลับมาพวกเขาสวมเสื้อผ้าดูดีและพูดได้อย่างคล่องแคล่วในขณะที่พวกเขาบอกเล่าเรื่องราวและรายละเอียดที่มีชีวิตชีวาแก่เพื่อนร่วมหมู่บ้านของพวกเขาเกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของโลกภายนอกมาริลีนได้ยินพวกผู้ชายพูดกันว่าการหาเงินจากที่นั่นทำได้ง่ายมากขนาดไหน ตราบใดที่คน ๆ หนึ่งตั้งใจทำงานหนัก คน ๆ นั้นก็จะหาเงินได้หลายพันเหรียญต่อเดือนได้อย่างง่ายดายเมื่อมาริลีนกลับมาถึงบ้าน เธอพูดกับผู้ชายของเธอว่า “ที่รัก เบรตต์จากหมู่บ้านเราไปที่เมืองอิมพีเรียลมาหนึ่งปี แล้วก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเลยนะหลังจากได้กลับมา พวกเขาบอกว่าการหาเงินจากที่นั่นนั้นง่ายมาก เราควรจะออกไปข้างนอกและลองเสี่ยงโชคกับพวกเขาดูไหม? บางทีเราอาจทำเงินได้เยอะมากและคุณก็จะได้ช่วยรักษาคนที่ช่วยชีวิตคุณไว้ แล้วก็ยังจ่ายค่าเล่าเรียนของไทเกอร์ได้ด้วยนะ คุณคิดว่ายังไง?”มีร่องรอยความสงสัยในดวง
เขาเป็นคนที่เงียบมาก เป็นชายที่มีคำพูดอันแสนน้อยนิดคนในหมู่บ้านเอยถามเขา “นายชื่ออะไร?”เขาตอบอย่างแผ่วเบา “ฉันจำไม่ได้น่ะ เรียกฉันว่า เบ็น ก็แล้วกัน!”ชายในหมู่บ้านต่างก็มีชื่อว่า ร็อบ บ็อบ และอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนเป็นชื่อเล่นที่ง่ายต่อการจดจำ“นายทำอะไรได้บ้าง?”ชายคนนั้นส่ายหน้า “ฉันไม่รู้”คนในหมู่บ้านเผยสีหน้าที่ดูกถูกดูแคลน“นายมันก็แค่ไอ้รูปหล่อ” มีใครบางคนพ่นคำพวกนี้ใส่เขาเขาจ้องไปที่ชายคนนั้นอย่างดุดัน จนทำให้เขาตกใจกลัวหลังจากสองวันหนึ่งคืนบนรถไฟ พวกเขาก็เดินทางมาถึงเมืองอิมพีเรียลในที่สุดคนในหมู่บ้านต่างก็ไม่สนใจเขาและทิ้งเขาไว้ให้หาทางด้วยตัวเองที่สถานีหลังจากลงมาจากรถไฟแล้วเขามองไปยังเมืองที่เจริญรุ่งเรือง ผู้คนเบียดเสียดและการจราจรที่ติดขัด ภาพเหล่านี้เหมือนจะทำให้เขาเกิดภาพเดจาวูขึ้นมาในตอนนั้นเอง คนในหมู่บ้านคนหนึ่งหันหลังกลับมาและคว้ามือของเขาไว้ พร้อมกับพูดว่า “เร็วเข้าเบ็น อย่าให้สแตน ฮิทเชนส์และคนอื่น ๆ ทิ้งนายไว้ข้างหลังเชียว นายจะกลายเป็นขอทานถ้านายหางานไม่ได้นะ”เขาเดินตามคนในหมู่บ้านไปและตามอยู่นานพอสมควรก่อนจะไปถึงเพิงก่อสร้างที่แสนสกปรกเมื
ทอมมี่ยังคงโน้มน้าวเขาด้วยความสุข “จากที่ฉันได้ยินมา โครงการนี้เป็นโครงการฟื้นฟูของท่านประธานแกรนด์เอเซียเพื่อที่จะฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนน่ะ เธอมีเงินเยอะมาก แล้วก็จ่ายเงินพวกเราตรงเวลาตลอดเลยนะ กลับไปกับฉันเถอะ”เบ็นคิดทบทวนอีกรอบ เขาไม่มีเงินสักเพนนีเดียว รวมทั้งไม่มีความเชี่ยวชาญในสายงานใดแบบเฉพาะเจาะจงเลย ดังนั้นเขาจึงกลับไปที่สถานที่ก่อสร้างพร้อมกับทอมมี่เมื่อสแตนและคนอื่น ๆ เห็นว่าเขากลับมา พวกเขาต่างก็เยาะเย้ยอย่างเป็นกันเอง “ทำไมถึงกลับมาล่ะ? ฉันนึกว่านายออกไปหาเงินได้ก้อนโตแล้วเสียอีก”เบ็นมองไปที่สถานที่ก่อสร้างที่แสนสกปรกแล้วถามสแตนว่า “หัวหน้าโครงการนี้อยู่ที่ไหนเหรอ?”บางทีเขาอาจจะไม่เหมาะกับงานที่สกปรกโสโครกแบบนี้ แต่เขาอาจจะลองทำงานอื่น ๆ ได้สแตนมองเขาอย่างสงสัย แล้วก็จ้องไปที่ใบหน้าของเบ็นที่ช่างแตกต่างกับของพวกเขาอย่างมาก ชาวประมงอย่างพวกเขาล้วนมีผิวสีแทนตั้งแต่เด็ก แต่ใบหน้าของเบ็นดูงามและไร้ที่ติ เขาดูดีกว่านายน้อยในเมืองใหญ่ ๆ เสียอีกสแตนครุ่นคิดและคิดได้ว่าเบ็นอาจจะมีความสามารถในด้านอื่น ดังนั้นเขาจึงชี้ไปทางห้องทำงานของหัวหน้าโครงการที่เป็นตึกคอน
แองเจลีนยืนอยู่ในสถานที่ก่อสร้างในชุดสูทสีขาวพร้อมกับผมหยักโศกยาวถึงเอว เธอมองดูสถานที่ก่อสร้างด้วยมือเท้าสะโพกและเริ่มบ่นว่า “ทำไมกองขยะในสถานที่ก่อสร้างถึงยังไม่ถูกย้ายออกไปสักทีล่ะ? ทำไมโครงการถึงไม่เสร็จตามแผนงานที่กำหนดไว้? เป็นใครที่ทำให้มันล้าช้าขนาดนี้เกรย์สัน? ไปตามหามาและไล่เขาออกซะ”แองเจลีนมีสีหน้าที่เคร่งขรึม น้ำเสียงของเธอมีความเฉียบขาดและเย็นชา มันทำให้ทุกคนสั่งเทาด้วยความกลัว“แล้วก็ นี่มันผ่านมาครึ่งปีแล้วที่การก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนได้เริ่มมา แต่ฉันไม่เห็นถึงความคืบหน้าของมันเลยสักนิด ฉันจะรู้ได้ไหมว่าคนที่รับผิดชอบโครงการก่อสร้างนี้กำลังทำอะไรอยู่? ถ้าพวกเขายังทำมันช้าเหมือนหอยทากขนาดนี้ บางทีฉันอาจจะตายก่อนที่การก่อสร้างจะเสร็จก็ได้นะ!”หัวหน้านักออกแบบ ผู้จัดการโครงการและกลุ่มวิศวกรเดินตามเธอพร้อมกับท่าทีคอตก พวกเขากลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจหลัวจากที่โดนเธอต่อว่ามาเบ็นมองไปที่แองเจลีนและส่ายหัวของเขา เขานึกในใจว่า “ใครจะไปแต่งงานกับผู้หญิงร้ายแบบนี้ได้ลง?”เบ็นหันหลังกลับและเดินไปที่หอพักข่าวที่เบ็นได้ย้ายไปที่หอพักพนักงานได้สร้างความไม่พอใจให้กั
ในตอนนั้นเอง ท่านประธานแกรนด์เอเซีย แองเจลีน กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงาน เธอเดือดดาลด้วยความโมโห“ฉันจ่ายเงินไปหลายร้อยล้านเพื่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน ไม่ใช่เพื่อให้คุณมาสร้างโครงการตึกกระจอกงอกง่อยนี่ มีพายุเข้าเมื่อคืนแล้วกำแพงก็ถล่มลงมาแบบนั้น ใครก็ได้ช่วยอธิบายให้ฉันฟังทีว่านี่เกิดบ้าอะไรขึ้น?”“ใจเย็น ๆ นะครับ นายหญิงเซเวียร์ นี่เป็นความผิดของนักออกแบบเองครับ พิมพ์เขียวมีบางอย่างผิดพลาดไปน่ะครับ”“นักออกแบบอยู่ที่ไหน? ฉันต้องการเจอเขาเดี๋ยวนี้ อย่าได้ตกลงรับงานยาก ๆ สิถ้าคุณไม่มีทักษะความสามารถที่จะทำมัน” แองเจลีนโกรธจัดชาวประมงหลายคนลากเบ็นไปที่ห้องทำงานที่ซึ่งประธานกำลังกล่าวตักเตือนอยู่ ด้วยระยะที่ไกลพอสมควร เบ็นก็สามารถได้ยินเสียงตะโกนที่เกรี้ยวกราดของท่านประธานได้ “นักออกแบบกำลังทำอะไรอยู่? กินอึอยู่เหรอไง? นี่เขาทำพลาดกับโครงสร้างง่าย ๆ แบบนี้ได้ยังไง?”เมื่อผู้จัดการฮาเนสพาเบ็นเข้ามา ชาวประมงหลายคนเตะเบ็นที่หลังเข่า ทำให้เขาล้มลงกับพื้นตรงหน้าแองเจลีนแองเจลีนมักจะรู้สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวเธอเสมอ เบ็นก้มหน้าลง ใบหน้าที่ดูดีของเขาเย็นชาราวกับรูปปั้นน้ำแข็ง
แองเจลีนเหยียบรองเท้าส้นเข็มของเธอลงแล้วจากไปเกรย์สันเดินไปบอกเจย์ด้วยความเคารพว่า “ประธานของผมอาจดูดุดันนะครับ แต่จริง ๆ แล้วเธอเป็นคนที่อบอุ่น เมื่อไปที่แกรนด์เอเชีย เธอจะไม่ทำเรื่องให้ยุ่งยากสำหรับคุณหรอกครับ”เจย์พยักหน้าเกรย์สันส่งเจย์ลงไปข้างล่างและเปิดประตูรถเฟอร์รารี่ให้เขาด้วยความเคารพ เจย์รู้ตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นแองเจลีนนั่งอยู่ข้างใน“ผมควรไปรถคันข้างหลังใช่ไหม?” เจย์รู้สึกไม่สบายใจด้วยเหตุผลบางอย่างเกรย์สันแสดงสีหน้าเคร่งขรึมและพูดว่า “ท่านประธานของผมต้องจัดการกับคนก่อปัญหามากมายทุกวัน นั่งไปกับเธอในรถคันนี้นี่แหละครับ เพราะมันจะง่ายกว่าสำหรับเธอที่จะถามบางอย่างเกี่ยวกับพิมพ์เขียว”เจย์เหลือบมองแองเจลีนอย่างรู้สึกผิด ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกอึดอัดเมื่อเห็นเธอในมาดนางมารเช่นนี้มันเหมือนราวกับว่าเขาติดค้างเธอจากชาติที่แล้วอย่างไรอย่างนั้นเลยแองเจลีนมองไปที่เขาด้วยท่าทางเย็นชา แล้วพูดอย่างดุดันว่า “เป็นอะไรไป? คุณคิดว่าฉันจะกินคุณเข้าไปเหรอ? ฉันไม่สนใจหรอกนะต่อให้คุณจะเป็นเจ้าชายแฮร์รี่ก็เถอะ ไม่ต้องห่วง ฉันไม่กินคุณหรอก”เจย์เดินขึ้นรถไปอย่างประหม่า เขายังคง
แองเจลีน “...”ให้ตายเถอะ เขาผลักไสเธอในขณะที่เขาดึงดูดเธอแบบนี้ได้อย่างไรกัน?ทำไมตอนนี้เขาถึงได้รังเกียจเธอในเมื่อเธอก็ทำตัวเหมือนเดิม?คนขับรถอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเมื่อคิดได้ว่ามันน่าอับอายขนาดไหน แองเจลีนก็ขู่คนขับรถอย่างชั่วร้ายว่า “หัวเราะอีกสิ แล้วฉันจะขอให้หมอฉีดเชื้อคลอสทริเดียม โบทูลินัมให้นายสักสองเข็ม”คนขับรถต้องกลั้นหัวเราะอย่างไม่มีทางเลือกเมื่อรถเฟอร์รารี่แล่นมาถึงสวนบันทึกรัก แองเจลีนดึงเจย์ออกมาจากรถด้วยการดึงที่ปลายของผ้าฝ้ายที่มัดข้อมือของเจย์ไว้ แล้วเขาก็เดินมุ่งไปยังตัวบ้านใบหน้าที่ดูดีของเจย์ดูมืดมนกว่าเถ้าถ่าน เขารู้สึกอับอายอย่างมากที่ถูกนางมารร้ายปฏิบัติเหมือนกับเป็นสัตว์เลี้ยงแองเจลีนดึงเขาเข้าไปในห้องนอน เธอหยิบกุญแจมือคู่หนึ่งออกมาจากลิ้นชักแล้วใส่กุญแจมือไว้ที่มือซ้ายของเขาเข้ากับเสาเตียง จากนั้นก็แก้ผ้าฝ้ายที่ผูกไว้รอบข้อมือของเขาออกเจย์พยายามปลดกุญแจมือออก แต่ก็ไม่ได้ผลเขาจ้องเขม็งไปที่แองเจลีนและตะคอกว่า “คุณมันวิปริต!”แองเจลีนเยาะเย้ยและถามว่า “นี่คุณเองก็คิดว่ามันวิปริตสำหรับคุณจริง ๆ เหรอ?”ให้ตายสิ คำว่า ‘วิปริต’ ไม่ได้เข้าไปอ