ด้วยที่ไม่มีรถเป็นของตัวเอง โจเซฟินจึงทำได้แค่เรียกรถไปยังอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนเธอยืนอยู่ที่สี่แยกเพื่อเรียกแท็กซี่หลังจากที่ขึ้นรถ จู่ ๆ ใครบางคนก็เข้าหาเธอจากด้านหลังรถและดึงประตูเปิดออก พวกเขาเข้ามานั่งข้าง ๆ โจเซฟินโจเซฟินจ้องเซนด้วยสายตาที่งุนงง “นายกำลังสะกดรอยตามฉันใช่ไหม เซย์น เซเวียร์?”เซย์นปากแข็ง “ใคร ใคร ใครกำลังตามเธองั้นเหรอ?”เขาจ้องเรือนร่างที่โค้งเว้าและสายตาที่ดูถูกของโจเซฟินก่อนที่จะกลืนน้ำลาย คำพูดที่เขาพูดตรงข้ามกับความคิดในหัวของเขาอย่างสิ้นเชิง “ใครอยากที่สะกดรอยตามผู้หญิงหน้าอกแบนแบบเธอกันล่ะ?”โจเซฟีนเงื้อหมัดและเริ่มต่อยเซย์น “ฉันคัพดีย่ะ! สายตาดูถูกที่นายมองฉันนี่มันอะไรกัน?”“คัพดีงั้นเหรอ?” เซย์นถามอย่างสงสัย “ฉันว่ามากสุดก็คัพซีนะ”คนขับแท็กซี่เริ่มไม่สบายใจ “อะแฮ่ม อะแฮ่ม พวกคุณสองคนจะไปที่ไหนครับ?”“อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนค่ะ”“เอมิเนนต์ ลิมิตเต็ดครับ”โจเซฟินจ้องเซย์น “เป็นสุภาพบุรุษหน่อย สุภาพสตรีมาก่อน”เซย์นชักสีหน้าและอ้อนวอน “แต่ฉันรีบ เราไปที่เอมิเนนต์ก่อนไม่ได้เหรอ?”โจเซฟินยอม “ก็ได้”รถคันนั้นเลี้ยวกลับไปทางเอมิเนนต์ ลิม
เซย์นยังคงเดินต่อโดยไม่พูดอะไรจากนั้นโจเซฟินก็หนีเซย์นเร่งฝีเท้าในตอนที่เธอวิ่งออกไปโจเซฟินเริ่มน้ำตาคลอเบ้า “นายพยายามจะทำอะไรน่ะ เซย์น? หยุดนะ นายกำลังทำให้ฉันกลัวนะ”บางทีอาจจะเป็นเพราะความใจร้อนที่ทำให้โจเซฟินบังเอิญเตะเข้าที่ขอบเตียงในขณะที่เธอกำลังหนี ทำให้เธอล้มลงบนเตียงเซย์นกระโจนเข้าหาเธอ มือที่กำลังมาจากด้านหลังกำลังตัดสายรัดบนผ้าปูที่นอน“นายกำลังจะทำอะไร? นายบ้าไปแล้วรึไง เซย์น?” โจเซฟินถีบและสู้กลับน้ำตาที่ไม่เคยไหลก็เริ่มไหลออกจากดวงตาที่แดงก่ำของเซย์นหลังจากที่มัดมือทั้งสองของโจเซฟีน ในที่สุดเข้าก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเซย์นจุดบุหรี่และสูดฟืดใหญ่ พ่นควันออกมาจนมันเต้นรำอยู่ในอากาศ น้ำเสียงของเขากำลังอ้อนวอนในตอนที่เขาหันไปมองโจเซฟินที่ยังคงถีบต่อ“ใจเย็นหน่อยสิ โจเซฟิน ฉันมีบางอย่างที่จำเป็นต้องบอกเธอ”โจเซฟินใจเย็นไม่ได้ ความกลัวกำลังทำให้เธอเสียสติ“แก้มัดฉัน ไม่งั้นนายก็ลืมเรื่องคุยกันไปได้เลย”“ถ้าเธอไม่ฟังฉันนะ โจเซฟิน ฉันคงจะไม่มีทางเลือกนอกจากมัดขาของเธอและใช้เทปปิดปากเธอไว้”ความหวาดกลัวที่เธอรู้สึกทำให้โจเซฟีนพูดไม่ออกแม้สายตาที่เย้ายวนค
เซย์นพูดไม่ออก “ฉันสบายดี”โจเซฟินพูดต่อ “ผู้ป่วยทางจิตส่วนใหญ่ก็จะพูดว่าพวกเขาสบายดีเหมือนกัน นายมาถึงจุดที่ประสาทหลอนทางหูแล้ว มากกว่านี้นายคงจะฆ่าตัวตาย”เซย์น “...”เพื่อที่จะหยุดโจเซฟินจากการเห็นเขาเป็นผู้ป่วยทางจิต เซย์นจำเป็นต้องเล่นไม้แข็งกับเธอ“โจเซฟิน เธอเคยได้ยินเรื่องโศกนาฏกรรมของหมู่บ้านจันทร์สว่างไหม?”โจเซฟินส่ายหน้าใบหน้าที่งดงามของเธอมีท่าทีที่ตกใจ “นายเจอเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจอะไรมารึเปล่าเนี่ย? นายป่วยเกินจุดของการรักษาแล้วนะ”โจเซฟินเกือบจะร้องไห้เซย์นเริ่มพึมพำกับตัวเองอย่างหมดความอดทน “อ่า ใช่สิ ฉันลืมไปว่าเธอยุ่งอยู่กับการแสดงเป็นตัวประกอบพักหลังมานี้ เธออาจจะยุ่งเกินไปที่จะสนใจเรื่องของโลกภายนอก”โจเซฟินตกตะลึงและสวนกลับด้วยความขุ่นเคืองในทันที “ฉันเป็นตัวละครประกอบก็แล้วไงล่ะ? ฉันภูมิใจในงานของฉัน”โจเซฟินเคยชินกับการดูถูกของคนอื่นและการที่พวกเขากลอกตาใส่เธอ เพราะเธอถูกหลายคนดูถูกนับตั้งแต่ที่เธอเริ่มการแสดงอย่างไรก็ตามมันเจ็บปวดเมื่อเซย์นคือคนที่กำลังทำมันอยู่เซย์นขอโทษ “ฉันควรจะเรียบเรียงมันให้ดีกว่านี้ ฉันไม่ได้ดูถูกเธอนะ”ท่าทีของโจเซฟิน
โจเซฟินงุนงงเธอตกตะลึงในขณะที่สมองของเธอว่างเปล่า เธอตกใจมากเกินกว่าจะตอบสนองอยู่พักใหญ่เซย์นโบกมือต่อหน้าเธอ แต่โจเซฟินดูไม่ตอบสนองด้วยเช่นกันเซย์เอื้อมมือเพื่อที่จะหยิกติ่งหูของเธออย่างแรง ความเจ็บปวดนี้ทำให้สติของโจเซฟินกลับมาสู่ปัจจุบันเธอจ้องเซย์นอย่างเหม่อลอย “แล้วพี่ชายของฉันล่ะ?”เจย์ อาเรสมักจะเป็นเสาหลักแห่งความหวังสำหรับตระกูลอาเรส ในการเผชิญหน้ากับเคราะห์ร้ายเช่นนี้ มันคงจะสมเหตุสมผลที่เขาเป็นคนแรกที่โจเซฟีนคิดถึงเซย์นตอบกลับว่า “เขากลับไปที่อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนในตอนนี้เพื่อเขาจะได้มั่นใจว่าแองเจลีนและลูก ๆ ทั้งสามของเขาจะได้รับการดูแล เขาลาออกเพื่อร่วมชะตากรรมของตระกูลอาเรสพร้อมกับท่านอาวุโสและคนอื่น ๆ”โจเซฟินหน้าซีด เจย์ต้องหมดทางเลือกจริง ๆ ที่จะสร้างหนทางให้พี่แองเจลีนและลูก ๆ ทั้งสามหนีไป“งั้น… มหันภัยนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่?” โจเซฟินภาวนาและหวังว่าวันนั้นจะมาในภายหลังเซย์นหัวเสีย “สัญลักษณ์แห่งความตาย D13 ปรากฏขึ้นบนหอคอยหนึ่งของสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนแล้ว 13 หมายถึงเส้นตาย และมันคือ 4 วันจากตอนนี้”โจเซฟินตาค้าง…เสียงกรีดร้องของหัวใจที่บีบคั้
โจเซฟินห่วงแองเจลีนมากกว่า เพราะเธอคงจะอยู่ด้วยความโศกเศร้าที่เธอควรจะรู้ความจริงเบื้องหลังความโหดเหี้ยมของเจย์กับเธอ แองเจลีนมักจะเป็นคนที่ดื้อรั้นที่จะมอบให้ใจในนามของความรักในท้ายที่สุด“นายต้องบอกพี่แองเจลีนนะ เซย์น” น้ำตาของความโกรธเป็นประกายในสายตาที่ว่างเปล่าของโจเซฟินเซย์นตอบกลับว่า “ด้วยความอัจริยะที่เขาเป็น พี่ชายของเธอได้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อบังคับให้แองเจลีนทิ้งเขาไป เธอรู้ไหมว่ามันทำให้เขาเจ็บปวดข้างในมากแค่ไหนในตอนที่แองเจลีนเข้าใจเขาผิด? เราเรียกเขาว่าเลือดเย็น แต่ฉันมองดูเขาร้องไห้เหมือนกับว่ามันคือทุกอย่างที่เขาได้รู้ ฉันมองสายตาที่เย็นชาเปลี่ยนเป็นสีเลือดพร้อมกับเส้นเลือดที่เหมือนกับดอกลิลลี่แมงมุมที่บานสะพรั่งในดวงตาขาวของเขา แม้แต่ผู้ชายอย่างฉันก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เขาต้องเจอ เธอกล้าที่จะโยนงานหนักทั้งหมดนั่นให้สูญเปล่างั้นเหรอ? เพราะว่าฉันทำไม่ได้”โจเซฟินรู้สึกว่าคำพูดเหล่านั้นติดอยู่ที่ลำคอของเธอ “ฉันจะไม่รู้ได้ยังไงว่าพี่ชายของฉันรักพี่แองเจลีนมากแค่ไหน? พี่แองเจลีนคือสิ่งเดียวที่เขาประคับประคองอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาอายุ 18 เขามีประวัติที่ยอดเย
เซย์นตัวสั่น บางทีเขาอาจจะพูดเกินไป“มันเป็นการท้องนอกมดลูก” เจย์บอกเขาเซย์นพูดไม่ออก“โอ้”เจย์ไม่เคยโหดเหี้ยม ไม่ใช่ในตอนที่ชายคนนั้นเลือกที่จะปิดบังความจริงเบื้องหลังการปกป้องแองเจลีนเซย์นรู้สึกบีบค้นหัวใจ “โง่เอ๊ย”เจย์ดูเหมือนจะปกป้องแองเจลีนมากเกินไป แม้ว่าการที่เธอเป็นแม่ของลูก ๆ สามคน เขายังคงเห็นเธอเป็นสาวน้อยที่ต้องการเขาอยู่เสมอเซย์นเดินเข้าไปหาแองเจลีนและโคล บังคับตัวเองระหว่างทั้งคู่“เฮ้ แองเจลีน ทำไมเธอถึงไม่เลือกที่ที่ดีกว่านี้ในการออกเดทล่ะ? ดูสิว่ามีคนอยู่ที่นี่มากแค่ไหน เธอไม่อายรึไง?”โคลยิ้มอย่างเฉิดฉาย “แน่นอนครับ ผมจะทำให้มั่นใจว่าเลือกที่ที่ดีกว่านี้ในคราวหน้า อาจจะใต้ดวงจันทร์และดวงดาวดีไหมครับ?”เซย์น “...”เซย์นรู้สึกเหมือนกับท่าดีทีเหลว“นายช่วยเลิกใช้เวลาอยู่กับน้องสาวของฉันสักสองสามวันได้ไหม โคล? เธอค่อนข้างจะยุ่งเล็กน้อย...”เซย์นเพียงหวังว่าเจย์จะจากโลกนี้ไปอย่างมีความสุข“ฉันไม่ได้ยุ่ง” แองเจลีนแทรกการโกหกของเขาเซย์นตาค้าง“อย่าลืมสิ แองเจลีน เธอคือผู้หญิงที่หย่าแล้วพร้อมกับลูก ๆ สามคน การมองหาผู้ชายไม่ใช่ปัญหาเธอคนเดียวอีกต่อไปแล้ว
ทันใดนั้นเอง โคลก็เอื้อมมือไปจับมือที่เย็นเฉียบและเล็กของแองเจลีน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเธอ “อย่ากังวลไปเลยแองเจลีน ผมสัญญาว่า ผมจะคอยดูแลลูก ๆ ของคูณ เหมือนกับว่าพวกเขาเป็นลูกของผมเอง”เซย์นหยิบช้อนมาและเคาะที่หลังมือของโคล “ปล่อยน้องสาวฉันเลย นายคิดว่านายกำลังทำอะไร กำลังแสดงความรักในที่สาธารณะตอนกลางวันแสก ๆ แบบนี้งั้นเหรอ?”โคลดึงมือของเขากลับมาและยิ้มอย่างสง่างามราวกับสุภาพบุรุษ “ครอบครัวของคุณหัวโบราณขนาดไหนเหรอครับ?”เซย์นตอบ “นายลองบอกฉันมาสิ นามสกุลของพวกเราคือ เซเวียร์ เพราะฉะนั้นฉันมั่นใจว่านายจะสามารถนึกได้ว่าครอบครัวพวกเรามีคุณค่าอยู่ในระดับไหน นายจะต้องผ่านการทดสอบหลายด่านก่อนที่จะได้แต่งงาน ถ้านายต้องการไล่ตามน้องสาวของฉัน ความบริสุทธิ์ก็หนึ่งอย่างแล้ว แล้วก็อีกอย่างหนึ่งคือการห้ามไม่ให้จับมือหรือจูบ แต่ฉันคิดว่านายสามารถส่งจูบให้กันได้ถ้านายต้องการนะ”โคลตั้งใจฟังและบันทึกไว้อย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ลืมแองเจลีนชื่นชมท่าทีของเซย์นอย่างเงียบ ๆเธอประหลาดใจมากว่า เซย์นผู้ที่ชอบทำความผิดและแหกกฎอย่างไร้ยางอาย สามารถคิดเรื่องเช่นความบริสุทธิ์ก่อนแต่งงานขึ้นมาได้อ
ไม่สามารถที่จะโทษใครได้เลย นอกจากโชคชะตา“เฮ้อ ช่างมันเถอะ เราจะคุยกันวันหลัง”เซย์นรีบไปที่โต๊ะของพนักงานเสิร์ฟอาหาร แล้วสั่งอาหารแบบห่อกลับบ้าน เมื่อได้อาหารห่อกลับแล้ว เขาก็รีบตรงออกไปข้างนอกทันทีหลังจากออกมาจากร้านอาหารแล้ว เขาเดินมาที่ทางแยกที่พลุกพล่าน เขาไม่พบเจย์ อาเรสที่ไหนเลยแท้ที่จริงแล้ว ชายผู้นั้นนั่งอยู่บนรถหรูนอกร้านอาหาร เมื่อถอดแว่นกันแดดออก เจย์ก็จ้องมองไปที่ประตูร้านอาหารโคลและแองเจลีนได้เดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของทั้งคู่“ให้ผมไปส่งคุณกลับนะ แองเจลีน” โคลพูดอย่างสุภาพแต่กระนั้น เขาก็โดนแองเจลีนปฏิเสธ “ไม่เป็นไร ขอบคุณนะ แต่ฉันอยากใช้เวลาอยู่คนเดียวสักพัก”แล้วแองเจลีนก็หันหลังเดินจากไป ความร่าเริงในดวงตาของเธอถูกชะล้างไปด้วยความเหงาในทันทีโคลสาวเท้าก้าวไปข้างหน้าแล้วกอดเธอจากข้างหลัง“ผมอยากแต่งงานกับคุณ แองเจลีน อยู่กับผมนะ ทิ้งอดีตไปซะ แล้วเริ่มต้นใหม่กับผม ขอร้องล่ะได้ไหม?ม่านตาของเจย์หรี่ลง พร้อมกำปั้นของเขาที่กำแน่นขึ้นอย่างไรก็ตาม ความร้อนรนของเขาก็สงบลงอย่างรวดเร็วและหมัดของเขาก็คลายออกเขาเป็นคนเลือกที่จะปล่อยเธอไปเอง ไม่ใช่เหรอ?