โจเซฟินห่วงแองเจลีนมากกว่า เพราะเธอคงจะอยู่ด้วยความโศกเศร้าที่เธอควรจะรู้ความจริงเบื้องหลังความโหดเหี้ยมของเจย์กับเธอ แองเจลีนมักจะเป็นคนที่ดื้อรั้นที่จะมอบให้ใจในนามของความรักในท้ายที่สุด“นายต้องบอกพี่แองเจลีนนะ เซย์น” น้ำตาของความโกรธเป็นประกายในสายตาที่ว่างเปล่าของโจเซฟินเซย์นตอบกลับว่า “ด้วยความอัจริยะที่เขาเป็น พี่ชายของเธอได้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อบังคับให้แองเจลีนทิ้งเขาไป เธอรู้ไหมว่ามันทำให้เขาเจ็บปวดข้างในมากแค่ไหนในตอนที่แองเจลีนเข้าใจเขาผิด? เราเรียกเขาว่าเลือดเย็น แต่ฉันมองดูเขาร้องไห้เหมือนกับว่ามันคือทุกอย่างที่เขาได้รู้ ฉันมองสายตาที่เย็นชาเปลี่ยนเป็นสีเลือดพร้อมกับเส้นเลือดที่เหมือนกับดอกลิลลี่แมงมุมที่บานสะพรั่งในดวงตาขาวของเขา แม้แต่ผู้ชายอย่างฉันก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เขาต้องเจอ เธอกล้าที่จะโยนงานหนักทั้งหมดนั่นให้สูญเปล่างั้นเหรอ? เพราะว่าฉันทำไม่ได้”โจเซฟินรู้สึกว่าคำพูดเหล่านั้นติดอยู่ที่ลำคอของเธอ “ฉันจะไม่รู้ได้ยังไงว่าพี่ชายของฉันรักพี่แองเจลีนมากแค่ไหน? พี่แองเจลีนคือสิ่งเดียวที่เขาประคับประคองอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาอายุ 18 เขามีประวัติที่ยอดเย
เซย์นตัวสั่น บางทีเขาอาจจะพูดเกินไป“มันเป็นการท้องนอกมดลูก” เจย์บอกเขาเซย์นพูดไม่ออก“โอ้”เจย์ไม่เคยโหดเหี้ยม ไม่ใช่ในตอนที่ชายคนนั้นเลือกที่จะปิดบังความจริงเบื้องหลังการปกป้องแองเจลีนเซย์นรู้สึกบีบค้นหัวใจ “โง่เอ๊ย”เจย์ดูเหมือนจะปกป้องแองเจลีนมากเกินไป แม้ว่าการที่เธอเป็นแม่ของลูก ๆ สามคน เขายังคงเห็นเธอเป็นสาวน้อยที่ต้องการเขาอยู่เสมอเซย์นเดินเข้าไปหาแองเจลีนและโคล บังคับตัวเองระหว่างทั้งคู่“เฮ้ แองเจลีน ทำไมเธอถึงไม่เลือกที่ที่ดีกว่านี้ในการออกเดทล่ะ? ดูสิว่ามีคนอยู่ที่นี่มากแค่ไหน เธอไม่อายรึไง?”โคลยิ้มอย่างเฉิดฉาย “แน่นอนครับ ผมจะทำให้มั่นใจว่าเลือกที่ที่ดีกว่านี้ในคราวหน้า อาจจะใต้ดวงจันทร์และดวงดาวดีไหมครับ?”เซย์น “...”เซย์นรู้สึกเหมือนกับท่าดีทีเหลว“นายช่วยเลิกใช้เวลาอยู่กับน้องสาวของฉันสักสองสามวันได้ไหม โคล? เธอค่อนข้างจะยุ่งเล็กน้อย...”เซย์นเพียงหวังว่าเจย์จะจากโลกนี้ไปอย่างมีความสุข“ฉันไม่ได้ยุ่ง” แองเจลีนแทรกการโกหกของเขาเซย์นตาค้าง“อย่าลืมสิ แองเจลีน เธอคือผู้หญิงที่หย่าแล้วพร้อมกับลูก ๆ สามคน การมองหาผู้ชายไม่ใช่ปัญหาเธอคนเดียวอีกต่อไปแล้ว
ทันใดนั้นเอง โคลก็เอื้อมมือไปจับมือที่เย็นเฉียบและเล็กของแองเจลีน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเธอ “อย่ากังวลไปเลยแองเจลีน ผมสัญญาว่า ผมจะคอยดูแลลูก ๆ ของคูณ เหมือนกับว่าพวกเขาเป็นลูกของผมเอง”เซย์นหยิบช้อนมาและเคาะที่หลังมือของโคล “ปล่อยน้องสาวฉันเลย นายคิดว่านายกำลังทำอะไร กำลังแสดงความรักในที่สาธารณะตอนกลางวันแสก ๆ แบบนี้งั้นเหรอ?”โคลดึงมือของเขากลับมาและยิ้มอย่างสง่างามราวกับสุภาพบุรุษ “ครอบครัวของคุณหัวโบราณขนาดไหนเหรอครับ?”เซย์นตอบ “นายลองบอกฉันมาสิ นามสกุลของพวกเราคือ เซเวียร์ เพราะฉะนั้นฉันมั่นใจว่านายจะสามารถนึกได้ว่าครอบครัวพวกเรามีคุณค่าอยู่ในระดับไหน นายจะต้องผ่านการทดสอบหลายด่านก่อนที่จะได้แต่งงาน ถ้านายต้องการไล่ตามน้องสาวของฉัน ความบริสุทธิ์ก็หนึ่งอย่างแล้ว แล้วก็อีกอย่างหนึ่งคือการห้ามไม่ให้จับมือหรือจูบ แต่ฉันคิดว่านายสามารถส่งจูบให้กันได้ถ้านายต้องการนะ”โคลตั้งใจฟังและบันทึกไว้อย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ลืมแองเจลีนชื่นชมท่าทีของเซย์นอย่างเงียบ ๆเธอประหลาดใจมากว่า เซย์นผู้ที่ชอบทำความผิดและแหกกฎอย่างไร้ยางอาย สามารถคิดเรื่องเช่นความบริสุทธิ์ก่อนแต่งงานขึ้นมาได้อ
ไม่สามารถที่จะโทษใครได้เลย นอกจากโชคชะตา“เฮ้อ ช่างมันเถอะ เราจะคุยกันวันหลัง”เซย์นรีบไปที่โต๊ะของพนักงานเสิร์ฟอาหาร แล้วสั่งอาหารแบบห่อกลับบ้าน เมื่อได้อาหารห่อกลับแล้ว เขาก็รีบตรงออกไปข้างนอกทันทีหลังจากออกมาจากร้านอาหารแล้ว เขาเดินมาที่ทางแยกที่พลุกพล่าน เขาไม่พบเจย์ อาเรสที่ไหนเลยแท้ที่จริงแล้ว ชายผู้นั้นนั่งอยู่บนรถหรูนอกร้านอาหาร เมื่อถอดแว่นกันแดดออก เจย์ก็จ้องมองไปที่ประตูร้านอาหารโคลและแองเจลีนได้เดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของทั้งคู่“ให้ผมไปส่งคุณกลับนะ แองเจลีน” โคลพูดอย่างสุภาพแต่กระนั้น เขาก็โดนแองเจลีนปฏิเสธ “ไม่เป็นไร ขอบคุณนะ แต่ฉันอยากใช้เวลาอยู่คนเดียวสักพัก”แล้วแองเจลีนก็หันหลังเดินจากไป ความร่าเริงในดวงตาของเธอถูกชะล้างไปด้วยความเหงาในทันทีโคลสาวเท้าก้าวไปข้างหน้าแล้วกอดเธอจากข้างหลัง“ผมอยากแต่งงานกับคุณ แองเจลีน อยู่กับผมนะ ทิ้งอดีตไปซะ แล้วเริ่มต้นใหม่กับผม ขอร้องล่ะได้ไหม?ม่านตาของเจย์หรี่ลง พร้อมกำปั้นของเขาที่กำแน่นขึ้นอย่างไรก็ตาม ความร้อนรนของเขาก็สงบลงอย่างรวดเร็วและหมัดของเขาก็คลายออกเขาเป็นคนเลือกที่จะปล่อยเธอไปเอง ไม่ใช่เหรอ?
เช่นเดียวกันแม่ของเขา ม่านตาของโคลเป็นสีนิลและลึกล้ำ ลูกตาของเขายังส่องประกายราวกับดวงดาวที่เจิดจ้าที่สุดในท้องฟ้าที่ไร้จุดสิ้นสุดและว่างเปล่าทั้งคู่มีผิวที่เนียนเรียบและไร้ที่ติ ราวกับว่าพวกเขาได้โผล่ออกมาจากอ่างน้ำนมแม่ของเขาเคยเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างแท้จริงรูปลักษณ์ของโคลก็ดูเหมือนจะมีความรู้สึกถึงความงามของผู้หญิงด้วยไม่ต้องพูดถึงความคล้ายคลึงกันอีกประการหนึ่งที่ทั้งสองล้วนมีเหมือนกัน พวกเขาทั้งคู่เป็นพวกยอร์ก!“กลับกันเถอะ ฟินน์” เจย์ระงับอารมณ์ที่พุ่งพล่านในอกของเขาเมื่อกลับมาถึงอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน เจย์ขังตัวเองไว้ในห้องเขียนหนังสืออีกครั้งและเริ่มร่างพิมพ์เขียวของแหวนทั้งสองวงจากนั้นเขาก็ส่งพวกนี้ให้ฟินน์พร้อมกับคำสั่ง “ถ้าฉันจำไม่ผิด นี่ควรเป็นเครื่องหมายตราประจำขององค์กรโลกาวินาศ ให้ใครสักคนทำงานข้ามคืนทำมันขึ้นมา ให้ภูตผีที่เหลือใส่คนละหนึ่งวงและพวกนายก็น่าจะปลอดภัย”ฟินน์อ้าปากค้าง “แล้วคุณล่ะครับท่านประธาน?”เงาดำได้ปกคลุมท่าทีที่คมเข้มของเจย์ “จากสิ่งที่ฉันได้อ่านเกี่ยวกับองค์กรโลกาวินาศนี้มาสองสามวันนี้ ฉันสามารถสรุปได้ว่าการแก้แค้นครั้งนี้จะไม่มี
คุณท่านปู่พยักหน้าและยิ้ม “ได้สิ”ในขณะที่ทั้งสองต่างมั่นใจว่าแผนของแต่ละคนนั้นดีเยี่ยมที่สุด ทั้งสองต่างเองก็เชื่อมากขึ้นไปอีกว่าตนเองมีความสามารถที่จะมองหาช่องโหว่ในแผนของอีกฝ่าย“แกกลับคำพูดไม่ได้นะ เจย์ ฉันจะไม่ซ่อนตัวที่วังใต้ดิน ถ้าหากแกไม่เป็นคนขับรถถัง”เจย์นั้นเป็นนักโน้มน้าวที่ยอดเยี่ยม “11.59 น. เราต่างจะทำตามแผนของอีกฝ่ายครับ”คุณท่านปู่รู้สึกไม่พอใจที่เขาไม่มีข้อได้เปรียบจากสถานการณ์ครั้งนี้เลย “แกไม่เคยยอมให้ปู่ของแกชนะสักครั้งเลยนะ แกไม่เคยได้ยินเรื่องการเคารพผู้ที่อาวุโสกว่าหรอกเหรอ?”เจย์ อาเรส ยังคงยืนกราน “คุณปู่ก็ไม่เคยยอมให้ผมชนะเหมือนกันนะครับ แม้แต่ตอนที่ผมยังเป็นเด็ก คุณปู่ไม่เคยได้ยินเรื่องปล่อยให้เด็ก ๆ ได้ชนะบ้างเหรอครับ? ผมจะเคารพผู้อาวุโสของผมได้ยังไง ถ้าคุณปู่ไม่เคยสอนผมว่าการให้เด็ก ๆ ชนะหมายความว่าอะไร ใช่ไหมครับคุณปู่?”คุณท่านปู่โบกมือให้เขา “ไปให้พ้นเลย การที่แกรู้ทุกอย่างว่าจะต้องทำยังไง มันทำให้ฉันหงุดหงิด”เจย์ก็หันหลังและเดินจากไปคุณท่านปู่เคาะโต๊ะกาแฟตรงหน้าเขาอย่างไร้จังหวะ สีหน้าของเขาดูสับสน “ฉันอยากรู้นักว่าแกจะซ่อนพวกเราทุกคนไว้ในวั
แองเจลีนถามอย่างนุ่มนวล “อีกนานแค่ไหนกว่าร็อบบี้น้อยจะกลับมาเหรอคะ?”เจย์กล้ำกลืน ใช้เวลาสักพักก่อนจะตอบ “นั่นก็ขึ้นอยู่กับเขา เขาจะกลับมาเร็ว ๆ นี้ ถ้าเขาตั้งใจเรียนและฝึกฝนศิลปะการต่อสู้”แองเจลีนไม่สามารถอดทนให้ตัวเองยอมรับการพลัดพรากที่โหดร้ายเช่นนี้ได้ ไม่ว่าเจย์จะพยายามทำให้มันฟังดูสบาย ๆ แค่ไหนก็ตามเธอเริ่มโวยวาย “เขาเป็นแค่เด็ก เจย์ อาเรส นายส่งเขาไปในสถานที่ที่แสนไกลแบบนี้ได้ยังไง? ฉันต้องการให้เขากลับมา”เธอร้องไห้ “นายมันสารเลว”หางตาของเจย์ร้อนผ่าว เขาเองก็ต้องการตามหาและนำตัวร็อบบี้น้อยมากลับมาเช่นกัน แต่มันได้อยู่เหนือความสามารถของเขาแล้วการระเบิดอารมณ์อย่างกะทันหันทำให้เส้นประสาทตาของแองเจลีนทำงานผิดปกติและเธอก็สูญเสียการมองเห็นในดวงตาของเธอทันทีมันได้เกิดขึ้นในขณะที่แองเจลีนกำลังเดินอยู่บนทางเท้าที่พลุกพล่าน การสูญเสียการมองเห็นอย่างกะทันหันทำให้เธอเดินโซเซมาบนพื้นยางมะตอยก่อนที่เธอจะรู้ตัวเสียงหวีดแหลมของเครื่องยนต์ดังก้องไปในสาย ตามด้วยเสียงห้าวที่ตะโกนว่า “เฮ้ นี่เธอกำลังพยายามจะฆ่าตัวตายเหรอ?”“ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษค่ะ...”แองเจลีนมองไม่เห็นอะไรนอกจากความด
แผ่นหลังอันอบอุ่นและกว้างนี้จะเป็นของเจย์ได้อย่างไร?เขาอุ้มเธอไปที่อพาร์ตเมนต์เช่าของโจเซฟีน เขาส่งข้อความสั้น ๆ ให้คนที่จะมาภายหลังว่า ‘ตาของพี่แอนเจลีนบอดไปแล้ว รีบกลับมาดูแลเธอโดยด่วน’โจเซฟินไม่ตอบแม้หลังจากเวลาผ่านไปสักพักหนึ่งแล้วเมื่อไม่สามารถทิ้งแองเจลีนที่ตาบอดไว้ตามลำพังในอพาร์ตเมนต์ เจย์จึงตัดสินใจอยู่และดูแลเธอเขาเทชาให้แองเจลีนและทำอาหารให้เธอเมื่อกลั่นกรองผ่านกลิ่นน้ำหอมลาเวนเดอร์ที่เขาพ่นลงบนตัวเขา แองเจลีนก็พบว่ามีกลิ่นของเขาหลงเหลืออยู่ในห้อง มันทำให้เกิดความคิดที่แน่ชัดได้ว่าเจย์อยู่ตรงนั้นจริง ๆขณะที่พวกเขากำลังกิน แองเจลีนพูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกซึ้ง “ฉันขอจับหน้าคุณได้ไหมคะ? คุณใช้เวลาครึ่งวันเต็ม ๆ ในการดูแลฉัน และฉันอยากรู้ว่าผู้มีพระคุณที่ช่วยให้ฉันรอดหน้าตาเป็นยังไงค่ะ”ช้อนส้อมในมือของเจย์ตกลงบนโต๊ะในขณะที่เขากำลังคิดคำตอบให้กับคำขอเล็ก ๆ น้อย ๆ ของแองเจลีนอย่างอ้ำอึ้งเขาลุกขึ้นยืน เดินไปที่โต๊ะกาแฟอย่างเงียบ ๆ แล้วหยิบกรรไกรที่วางอยู่บนนั้น เขาตัดผมสั้นจนยุ่งเหยิงอย่างรวดเร็วจากนั้นเขาก็กลับไปที่โต๊ะอาหารและจับมือของแองเจลีนอย่างระมัดระวัง ก่อนที