หลังจากที่เจย์รู้ว่าโจเซฟินล้มเหลวในการติดตามเจนสัน เขาก็ต้องโทรไปหาโรส ลอยล์ อย่างไม่เต็มใจ ด้วยความกังวลต่อความปลอดภัยของเด็กชายโรสตกใจเมื่อเห็นชื่อที่โทรเข้ามา เธอเผลอทำมือถือหลุดมือจนมันตกลงไปที่พื้นมือถือตกลงที่พื้นเสียงดัง ด้านหลังของมือถือหลุดออกจากตัวเครื่องจนมันดับลง เสียงเรียกเข้าเงียบไปทันทีเจย์ อาเรส ที่รอฝั่งตรงข้ามรับสาย จนกระทั่งเสียงเหมือนหุ่นยนต์รายงานว่ามือถือปลายสายปิดเครื่อง ใบหน้าหล่อเหลาของเขามืดลงทันที'กล้าดียังไงปิดเครื่องใส่ฉัน?'เจย์ตัดสินใจที่จะไปยังชุมชนเจิดจรัสด้วยตัวเอง ในขณะที่เขาขับ Rolls Royce ออกจากโรงจอดรถ เขาก็ได้รับสายจากโรสเจย์แปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นสายโทรเข้า จากนั้นเขาก็จำได้ว่าเธอต้องยอมเขาเพราะชีวิตแม่ของเธออยู่ในมือเขา ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ใจดีโทรกลับมาแน่"ท่านอาเรส เมื่อครู่มีอุบัติเหตุนิดหน่อย ฉันไม่ได้ตั้งใจจะวางสายคุณนะคะ" โรส ลอยล์อธิบายอย่างระมัดระวังว่าทำไมมือถือถึงดับไปรอยยิ้มแสยะบนใบหน้าของเจย์ เขากล่าวอย่างเย็นชา "ฉันคิดว่าเธอสำนึกผิดเพราะทำอะไรผิดไปมากกว่า!"โรสเหงื่อแตก 'เป็นการเดาที่แม่นชะมัด!'"เจนสันอยู่กับเธอรึเ
"ไม่ยอมพูดอย่างนั้นเหรอ? หมดข้อแก้ตัวอย่างนั้นสิ?" เจย์ อาเรส กล่าวเย็นชาน้ำเสียงต่อต้านของโรส ลอยล์ นั้นบางลงมาก "ฉันว่าฉันมีสิ่งที่ต้องคิดว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้"เจย์โดนวางสายกะทันหันโรส ลอยล์ คำรามใส่ร็อบบี้น้อยในที่เล่น "มาหาแม่เดี๋ยวนี้ โรเบิร์ต ลอยล์"ร็อบบี้น้อยพุ่งเข้ามาหาแม่ของเขาอย่างเร็วที่สถุดและยืนเหมือนทหารตรงหน้าโรส "โรเบิร์ต ลอยล์ รายงาน มีคำสั่งอะไรเหรอครับผู้บัญชาการ?"โรส ลอยล์ถามพร้อมใช้มือเท้าสะเอว "บอกแม่มาตามตรงเลยนะ ลูกไปทำอะไรกับเจนสัน อาเรส มา?""ผมผิดไปแล้วครับคุณแม่" ร็อบบี้น้อยก้มหัวของเขาอย่างขอโทษเมื่อเห็นว่าแม่ของเขากำลังโกรธ"หยุดนอกเรื่อง แม่จริงจังนะ บอกแม่มาให้หมด"ร็อบบี้น้อยไม่กล้าซ่อนความจริงจากแม่ของเขาเมื่อเธอบอกว่าเป็นเรื่องจริงจัง "อย่าโกรธผมเลยครับคุณแม่ ผมจะบอกทุกอย่าง ไม่กี่วันก่อน ผมสลับตัวตนกับเจนสัน ผมไปที่โรงเรียนเขาแล้วสอนบทเรียนให้พวกเด็กเกเร ผมไปที่บ้านเขา เจอพ่อของเขา และใช้ชีวิตอยู่กับเขาสองวัน พ่อของเขาเป็นคนดี เขาทำอาหารเป็นและมีเงินมาก และเขายังหล่อมากด้วย..."ร็อบบี้น้อยสังเกตเห็นความมืดดำในดวงตาของแม่เขา เขารีบเ
เมื่อเจย์ อาเรส มาถึงบล็อกที่ 9 ของชุมชนเจิดจรัส โจเซฟิน อาเรส ก็ปรากฏตัวออกมาจากหลังหินประดับ "ฉันรอนานมากแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นเจนสันออกมาเลย" เธอกล่าวอย่างหดหู่เจย์มองไปที่ประตูที่ปิดสนิทของอพาร์ทเมนท์อย่างบึ้งตึง เขาหันหลังไปพูดกับเกรย์สันที่มากับเขา "ไปที่ห้องการจัดการ แล้วหามาว่าห้องของโรส ลอยล์ หมายเลขอะไร"ในตอนที่เกรย์สันกำลังจะไป ประตูของอพาร์ทเมนท์ก็เปิดออกพอดี โรส ลอยล์ปรากฏตัวพร้อมกับ "เจนสัน อาเรส" ในอ้อมแขน ดวงตาเธอแดง เป็นหลักฐานของการร้องไห้"พี่สะใภ้?" โจเซฟินยิ้มเมื่อเห็นโรสเธอได้รับสายตาพิฆาตจากเจย์ "หยุดเห่าเลย เธอไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับตระกูลอาเรส"โจเซฟินเกรงสายตาข่มขู่ของพี่ชายเธอ "นายหมายความว่าไง? เธอเป็นแม่ของเจนสันนะ" เธอเถียงเจย์มองโจเซฟินเหมือนจะกินเธอเข้าไปได้ โจเซฟินจึงตีแก้มของตัวเองเบา ๆ แล้วยอมรับความพ่ายแพ้ "ก็ได้ ก็ได้ ฉันจะหุบปากไว้ พอใจรึยัง?"โรส ลอยล์ อุ้ม 'เจนสัน อาเรส' ไว้และมองเขาอยู่นาน เจย์ อาเรส ไม่ได้พูดอะไร เขาแย่งเด็กน้อยมาไว้ในอ้อมแขน"ไปกันเถอะ เจนสัน"เขาไม่ได้พูดอะไรสักคำแล้วเดินออกไปเลยโรสยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น จ้องมองร
โจเซฟินห้ามยิ้มไม่ได้อีก เธอเข้าใจว่าโรคจิตเภชของเจนสันนั้นน่าจะแย่ลง"โอ้ ไม่นะ พี่ชาย เด็กน้อยล้ำค่าของครอบครัวเราเป็นจิตเภชขั้นรุนแรงไปแล้ว"เจย์มองร็อบบี้น้อยที่กำลังยิ้มอย่างสดใส อารมณ์ของเขามืดมนลงสื่งแรกที่เขาทำหลังจากที่พาร็อบบี้น้อยกลับมาคือเปิดกระเป๋าออกมาและพยายามหลอกล่อให้ร็อบบี้น้อยกินยา "เป็นเด็กดีแล้วกินมัน"ร็อบบี้น้อยถอนหายใจเหมือนชายแก่ "เฮ้อ เมื่อสวรรค์ได้มอบหมายหน้าที่อันสำคัญให้ เขาคนนั้นจึงต้องผ่านความยากลำบาก, ความเจ็บปวด, และความอดอยาก เพื่อบรรลุไปถึงจุดว่างเปล่า..."หัวใจของเจย์แทบเลือดไหลเมื่อเห็นความฉลาดและน่ารักของลูกชายร็อบบี้น้อยเอื้อมมือไปหยิบยาและมองอย่าน่าสงสารไปที่คุณพ่อ "คุณพ่อครับ ผมไม่กินมันไม่ได้เหรอ?"โจเซฟินเติมเชื้อไฟทันที เธอกล่าว "เจนสัน ไม่ได้นะ อาการป่วยของเธอไปถึงระดับอันตรายแล้ว เธอจะต้องแย่แน่ถ้าเธอไม่รับยา"ร็อบบี้น้อยนำยาใส่ปากแล้วซ่อนไว้ใต้ลิ้นของเขา "ผมต้องการน้ำ"เจย์รีบยืนขึ้นเพื่อนำแก้วน้ำให้เขาร็อบบี้น้อยขอร้องโจเซฟิน "น้าโจเซฟิน ยานี่ขมมากเลย น้าช่วยเอาช็อกโกแลตมาให้ผมได้ไหม?"โจเซฟินยิ่งดีใจเมื่อได้ช่วยเหลือ "ตราบใ
ร็อบบี้น้อยนั้นพูดไม่ออก เขาแกล้งโจเซฟิน "น้าโจเซฟิน น้ามีจินตนาการล้ำเลิศมากเลยนะ มันน่าเสียดายที่น้าไม่ได้เขียนหนังสือ"โจเซฟินอยากจะหยิกหูร็อบบี้น้อยขึ้นมาทีเดียว แต่ละครั้งที่เธอทะเลาะกับเจนสัน เธอจะดึงหูเขาเป็นนิสัย เจนสันจะลบมือของเธอแล้วใช้สายตาพิฆาตจ้องเธออย่างต่อต้าน อย่างไรก็ตาม คนที่นั่งอยู่นั่นคือร็อบบี้น้อยผู้ซึ่งเรียนเทควันโด การตอบสนองต่อความรุนแรงของเขาไม่ใช่การหลีกเลี่ยง แต่เป็นการตอบโต้ด้วยสิ่งที่เขาเรียนรู้มาเขาป้องกันการจับจากแจนของโจเซฟินโดยการหวดมือกลับไปแล้วจับแขนเธอไว้ เขาบิดข้อต่อของเธอ จนโจเซฟินต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด"อ้า… นี่มันเจ็บมากเลยนะ! เจนสัน ปล่อยเดี๋ยวนี้!"ร็อบบี้น้อยปล่อยโจเซฟิน เธอสะบัดแขนด้วยความเจ็บปวดแล้วจ้องเจนสันอย่างเอาเรื่อง "พี่ นายเห็นแล้วกับตานี่ ใช่ไหม? นายไม่เชื่อตอนที่ฉันบอกว่าเจ้าบรรพบุรุษน้อยนี่ใช้เทควันโด้ได้ ตอนนี้เชื่อฉันรึยัง?"เจย์มองร็อบบี้น้อยด้วยความไม่เชื่อสายตา ความเร็วของ 'เจนสัน' นั้นไม่เหมือนกับตัวเขาคนเดิม การเคลื่อนไหวของเขาฉับไวและแม่นยำ แม้แต่บอดี้การ์ดของพวกเขาก็อาจจะยากที่จะต่อกรกับร็อบบี้น้อยในเรื่องขอ
ร็อบบี้น้อยกล่าว "ผมพูดผิดเหรอครับ? น้าชอบซุบซิบแล้วน้าก็ชอบขุดคุ้ยความลับคนอื่นมากจนน้ายอมขุดดินลึกสามฟุตเพื่อให้ได้ความลับของเขามา ผมไม่รู้จะเรียกน้าว่าอะไรแล้วถ้าไม่ใช่เครื่องขุดดิน?"โจเซฟินโกรธมากจนเธอเหวี่ยงหมัด ต้องการที่จะชกร็อบบี้น้อยสักหมัด ร็อบบี้น้อยวิ่งไปรอบบ้าน กระโดดไปมา โจเซฟินวิ่งตามเขานานมากจนเธอกระหืดกระหอบและพองตัวขึ้นจากการพยายามหายใจเข้า ไม่ว่าเธอจะวิ่งยังไง เธอก็ไม่สามารถแตะต้องเสื้อผ้าของร็อบบี้น้อยแม้แต่ปลายก้อยเจย์มองดูการวิวาทอันมีวคามสุขระหว่างหลานและน้าอยู่ข้าง ๆ แม้ว่าเขาจะประหลาดใจที่ 'เจนสัน' จู่ ๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นเด็กร่าเริงสดใส แต่มันก็ไม่เลวเลยหากนี่จะกลายมาเป็นนิสัยถาวรของเขาเพราะว่าคนขับรถไม่อยู่ โจเซฟินจึงได้รับหน้าที่ให้ขับรถพาพวกเขาไปที่เคเอฟซี ในขณะที่เจย์และร็อบบี้น้อยนั่งหลัง โจเซฟินจงใจปรับกระจกมองหลังให้ตรงกับสายตาของ 'เจนสัน'ร็อบบี้น้อยนั่งบนตักของเจย์ มือนุ่มนิ่มของเขาจับจมูกของพ่อเขาเล็กน้อย จากนั้น เขาก็จับผมของพ่อ ในชั่วครู่ เขาก็ไม่หยุดจับตัวพ่อเขาเลย"เด็กนี่เป็นโรคไฮเปอร์รึไงนั่น?" โจเซฟินช่วยไม่ได้ที่จะต้องถามออกมาสายตาของเ
โจเซฟินเป็นปาปารัสซียอดฝีมือ เธออาจจะเป็นหญิงสาวที่มีเบื้องหลังเป็นชนชั้นสูง แต่เพราะคำขอของพี่ชายเธอ เธอจึงเฝ้าอยู่ด้านนอกชุมชนเจิดจรัศในเวลากลางคืนในคืนเดียวกัน โรสนอนไม่หลับเจย์กำหนดเวลาจากไปของเธอแล้ว แต่เธอไม่สามารถทำใจยอมจากลูกของเธอไปได้อีกเป็นครั้งที่สองในครั่งนี้ เธอจะกล้าหาญและอยู่ต่ออย่างไรก็ตาม เธอตัดสินใจจะย้ายออกเพื่อหลบหลีกปัญหาจากเจย์เมื่อวันใหม่มาถึง โรสลากกระเป๋าใบใหญ่สองใบลงมาข้างล่างพร้อมเจนสันและเซ็ตตี้ที่นั่งอยู่บนกระเป๋าเดินทาง ดูท่าทางงัวเงียโรสมาถึงประตูตอนที่โจเซฟินออกมาจากรถ "พี่สะใภ้"แต่ฟ้าตอนนี้จะยังมืด โจเซฟินจึงคิดว่าเด็กขี้เซาสองคนบนกระเป๋าเดินทางเป็นตุ๊กตา สายตาของเธอจดจ้องไปที่โรสคนเดียวโรสตกใจมากที่เห็นโจเซฟินเช่นกัน เธอจำหญิงสาวคนนี้ได้ โรสเข้าใจว่าหญิงสาวที่น่าดุงดูดคนนี้เป็นแฟนสาวของเจย์ เธอเพิ่งรู้เมื่อวานเองว่าเธอคือน้องสาวของเจย์พวกเธอเคยพบกันแล้วในวันแต่งงานเมื่อห้าปีก่อน แต่โรสนั้นมีความจำที่สั้น เธอลืมไปเลยว่าผู้หญิงที่ชื่อโจเซฟินนั้นเคยมีตัวตน"ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่?" โรสมองอุปกรณ์ของปาปารัสซีรอบคอของเธออย่างสงสัย—มันเป็นกล้
โจเซฟินกรีดร้องอย่างตกใจ "นี่คนจริงเหรอเนี่ย?"เมื่อเธอมองดี ๆ 'นี่มันจะเป็นใครไปได้อีกนอกจากเจนสัน?'โจเซฟินนึกว่าเธอกำลังพบเจอเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ เธอจำได้ว่า 'เจนสัน' นั้นยังอยู่ที่เซาท์ซิตี้ในโฮไรซอน คอลเลอร์ เมื่อคืนนี่ ไม่ใช่เหรอ?"เจนสัน ทำไมนายมาอยู่ที่นี่?" โจเซฟินผวามากตอนที่เธอถามเขาเจนสันกล่าวอย่างไร้ชีวิตชีวา "เรื่องมันยาวน่ะ" เขาตอบแค่สี่คำเจ้าเด็กยะโสที่หวังจะให้ตัวเองพูดน้อยที่สุดนี่ทำให้โจเซฟินทรุดลงอีกครั้ง "เป็นไปไม่ได้ ทำไมนายกลับไปเป็นเด็กโอหังน่ารำคาญอีกแล้ว?"เจนสันไม่อยากสนใจเธอโรสกล่าว "คุณอาเรส ถ้าคุณมีคำถามอะไร เก็บมันไว้ถามตอนที่ถึงบ้านฉันก่อนดีกว่านะคะ"โจเซฟินพยักหน้าอย่างบูดบึ้งโรสย้ายไปบ้านใหม่ในอพาร์ทเมนท์ที่ชื่อ เมืองงอกงาม ในเซาท์ซิตี้ ที่อยู่ห่างจากแกรนด์เอเซียไปไม่กี่ถนนอพาร์ทเมนท์สองห้องนอนเล็ก ๆ ดูไม่กว้างขวางนัก แต่มันก็ยังสะอาดและสว่าง ที่สำคัญที่สุด หน้าต่างของมันเผยภาพอันงดงามของโฮไรซอน คอลเลอร์โจเซฟินยืนอยู่ที่หน้าต่าง มองไปที่โฮไรซอน คอลลเลอร์ แล้วถอนหายใจ "ที่ที่ปลอดภัยที่สุดคือที่ที่อันตรายที่สุดสินะ พี่สะใภ้ คุณเดินหมาก