ร็อบบี้น้อยนั้นพูดไม่ออก เขาแกล้งโจเซฟิน "น้าโจเซฟิน น้ามีจินตนาการล้ำเลิศมากเลยนะ มันน่าเสียดายที่น้าไม่ได้เขียนหนังสือ"โจเซฟินอยากจะหยิกหูร็อบบี้น้อยขึ้นมาทีเดียว แต่ละครั้งที่เธอทะเลาะกับเจนสัน เธอจะดึงหูเขาเป็นนิสัย เจนสันจะลบมือของเธอแล้วใช้สายตาพิฆาตจ้องเธออย่างต่อต้าน อย่างไรก็ตาม คนที่นั่งอยู่นั่นคือร็อบบี้น้อยผู้ซึ่งเรียนเทควันโด การตอบสนองต่อความรุนแรงของเขาไม่ใช่การหลีกเลี่ยง แต่เป็นการตอบโต้ด้วยสิ่งที่เขาเรียนรู้มาเขาป้องกันการจับจากแจนของโจเซฟินโดยการหวดมือกลับไปแล้วจับแขนเธอไว้ เขาบิดข้อต่อของเธอ จนโจเซฟินต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด"อ้า… นี่มันเจ็บมากเลยนะ! เจนสัน ปล่อยเดี๋ยวนี้!"ร็อบบี้น้อยปล่อยโจเซฟิน เธอสะบัดแขนด้วยความเจ็บปวดแล้วจ้องเจนสันอย่างเอาเรื่อง "พี่ นายเห็นแล้วกับตานี่ ใช่ไหม? นายไม่เชื่อตอนที่ฉันบอกว่าเจ้าบรรพบุรุษน้อยนี่ใช้เทควันโด้ได้ ตอนนี้เชื่อฉันรึยัง?"เจย์มองร็อบบี้น้อยด้วยความไม่เชื่อสายตา ความเร็วของ 'เจนสัน' นั้นไม่เหมือนกับตัวเขาคนเดิม การเคลื่อนไหวของเขาฉับไวและแม่นยำ แม้แต่บอดี้การ์ดของพวกเขาก็อาจจะยากที่จะต่อกรกับร็อบบี้น้อยในเรื่องขอ
ร็อบบี้น้อยกล่าว "ผมพูดผิดเหรอครับ? น้าชอบซุบซิบแล้วน้าก็ชอบขุดคุ้ยความลับคนอื่นมากจนน้ายอมขุดดินลึกสามฟุตเพื่อให้ได้ความลับของเขามา ผมไม่รู้จะเรียกน้าว่าอะไรแล้วถ้าไม่ใช่เครื่องขุดดิน?"โจเซฟินโกรธมากจนเธอเหวี่ยงหมัด ต้องการที่จะชกร็อบบี้น้อยสักหมัด ร็อบบี้น้อยวิ่งไปรอบบ้าน กระโดดไปมา โจเซฟินวิ่งตามเขานานมากจนเธอกระหืดกระหอบและพองตัวขึ้นจากการพยายามหายใจเข้า ไม่ว่าเธอจะวิ่งยังไง เธอก็ไม่สามารถแตะต้องเสื้อผ้าของร็อบบี้น้อยแม้แต่ปลายก้อยเจย์มองดูการวิวาทอันมีวคามสุขระหว่างหลานและน้าอยู่ข้าง ๆ แม้ว่าเขาจะประหลาดใจที่ 'เจนสัน' จู่ ๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นเด็กร่าเริงสดใส แต่มันก็ไม่เลวเลยหากนี่จะกลายมาเป็นนิสัยถาวรของเขาเพราะว่าคนขับรถไม่อยู่ โจเซฟินจึงได้รับหน้าที่ให้ขับรถพาพวกเขาไปที่เคเอฟซี ในขณะที่เจย์และร็อบบี้น้อยนั่งหลัง โจเซฟินจงใจปรับกระจกมองหลังให้ตรงกับสายตาของ 'เจนสัน'ร็อบบี้น้อยนั่งบนตักของเจย์ มือนุ่มนิ่มของเขาจับจมูกของพ่อเขาเล็กน้อย จากนั้น เขาก็จับผมของพ่อ ในชั่วครู่ เขาก็ไม่หยุดจับตัวพ่อเขาเลย"เด็กนี่เป็นโรคไฮเปอร์รึไงนั่น?" โจเซฟินช่วยไม่ได้ที่จะต้องถามออกมาสายตาของเ
โจเซฟินเป็นปาปารัสซียอดฝีมือ เธออาจจะเป็นหญิงสาวที่มีเบื้องหลังเป็นชนชั้นสูง แต่เพราะคำขอของพี่ชายเธอ เธอจึงเฝ้าอยู่ด้านนอกชุมชนเจิดจรัศในเวลากลางคืนในคืนเดียวกัน โรสนอนไม่หลับเจย์กำหนดเวลาจากไปของเธอแล้ว แต่เธอไม่สามารถทำใจยอมจากลูกของเธอไปได้อีกเป็นครั้งที่สองในครั่งนี้ เธอจะกล้าหาญและอยู่ต่ออย่างไรก็ตาม เธอตัดสินใจจะย้ายออกเพื่อหลบหลีกปัญหาจากเจย์เมื่อวันใหม่มาถึง โรสลากกระเป๋าใบใหญ่สองใบลงมาข้างล่างพร้อมเจนสันและเซ็ตตี้ที่นั่งอยู่บนกระเป๋าเดินทาง ดูท่าทางงัวเงียโรสมาถึงประตูตอนที่โจเซฟินออกมาจากรถ "พี่สะใภ้"แต่ฟ้าตอนนี้จะยังมืด โจเซฟินจึงคิดว่าเด็กขี้เซาสองคนบนกระเป๋าเดินทางเป็นตุ๊กตา สายตาของเธอจดจ้องไปที่โรสคนเดียวโรสตกใจมากที่เห็นโจเซฟินเช่นกัน เธอจำหญิงสาวคนนี้ได้ โรสเข้าใจว่าหญิงสาวที่น่าดุงดูดคนนี้เป็นแฟนสาวของเจย์ เธอเพิ่งรู้เมื่อวานเองว่าเธอคือน้องสาวของเจย์พวกเธอเคยพบกันแล้วในวันแต่งงานเมื่อห้าปีก่อน แต่โรสนั้นมีความจำที่สั้น เธอลืมไปเลยว่าผู้หญิงที่ชื่อโจเซฟินนั้นเคยมีตัวตน"ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่?" โรสมองอุปกรณ์ของปาปารัสซีรอบคอของเธออย่างสงสัย—มันเป็นกล้
โจเซฟินกรีดร้องอย่างตกใจ "นี่คนจริงเหรอเนี่ย?"เมื่อเธอมองดี ๆ 'นี่มันจะเป็นใครไปได้อีกนอกจากเจนสัน?'โจเซฟินนึกว่าเธอกำลังพบเจอเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ เธอจำได้ว่า 'เจนสัน' นั้นยังอยู่ที่เซาท์ซิตี้ในโฮไรซอน คอลเลอร์ เมื่อคืนนี่ ไม่ใช่เหรอ?"เจนสัน ทำไมนายมาอยู่ที่นี่?" โจเซฟินผวามากตอนที่เธอถามเขาเจนสันกล่าวอย่างไร้ชีวิตชีวา "เรื่องมันยาวน่ะ" เขาตอบแค่สี่คำเจ้าเด็กยะโสที่หวังจะให้ตัวเองพูดน้อยที่สุดนี่ทำให้โจเซฟินทรุดลงอีกครั้ง "เป็นไปไม่ได้ ทำไมนายกลับไปเป็นเด็กโอหังน่ารำคาญอีกแล้ว?"เจนสันไม่อยากสนใจเธอโรสกล่าว "คุณอาเรส ถ้าคุณมีคำถามอะไร เก็บมันไว้ถามตอนที่ถึงบ้านฉันก่อนดีกว่านะคะ"โจเซฟินพยักหน้าอย่างบูดบึ้งโรสย้ายไปบ้านใหม่ในอพาร์ทเมนท์ที่ชื่อ เมืองงอกงาม ในเซาท์ซิตี้ ที่อยู่ห่างจากแกรนด์เอเซียไปไม่กี่ถนนอพาร์ทเมนท์สองห้องนอนเล็ก ๆ ดูไม่กว้างขวางนัก แต่มันก็ยังสะอาดและสว่าง ที่สำคัญที่สุด หน้าต่างของมันเผยภาพอันงดงามของโฮไรซอน คอลเลอร์โจเซฟินยืนอยู่ที่หน้าต่าง มองไปที่โฮไรซอน คอลลเลอร์ แล้วถอนหายใจ "ที่ที่ปลอดภัยที่สุดคือที่ที่อันตรายที่สุดสินะ พี่สะใภ้ คุณเดินหมาก
เจนสันและเซ็ตตี้ได้ยินการทะเลาะกันระหว่างคุณแม่ของพวกเขาและโจเซฟิน พวกเขามองดูผู้ใหญ่ทั้งสองอย่างกังวลโจเซฟินดูท่าทางเย็นชาบนใบหน้าเล็ก ๆ ของเจนสัน แล้วนึกไปถึงเด็กร่าเริงและกระตือรือร้นที่อยู่กับเจย์ เธอรู้สึกเหมือนถูกมีดแทงที่หัวใจเธอกล้ำกลืนความเจ็บปวดในหัวใจแล้วพยายามมีสติ "พี่สะใภ้ ตัวตนของคุณทำให้อารมณ์ของเจนสันไม่มั่นคง พี่ชายของฉันจ้างผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดของแกรนด์เอเซียเพื่อรักษาอาการของเจนสัน ถ้าการวินิจฉัยของเขาไม่คลาดเคลื่อน เด็กออทิสติกคนนี้มีอาการหลายบุคลิก ฉันหวังว่าคุณจะปล่อยเด็กที่ไม่รู้เรื่องไป ยอมฟังพี่ชายของฉันแล้วไปจากประเทศนี้!"ความรักของโจเซฟินต่อเจนสันนั้นแสดงออกมาอย่างชัดเจน โรสไม่ได้โกรธ ตรงกันข้าม เธอยิ้มเจนสันได้ยินที่โจเซฟินบอกว่าเขาป่วย เขาย่นจมูกจิ๋ว ๆ ของตัวเอง แล้วตวาดอย่างไม่สุภาพใส่โจเซฟิน "บ้า!"เจนสันรู้ว่าเขาไม่ได้ป่วย แต่วันหนึ่ง น้าโรคจิตของเขาต่างหากที่จะทำเขาตายโจเซฟินเครื่องติดจากการตอบสนองที่ใช้ไม่ได้ของเจนสัน เธอกำหมัดแล้วเดินไปหาเจนสัน ขู่เขา "เจนสัน นายเชื่อไหมว่าฉันจะชกนาย?"เจนสันวิ่งไปหลบหลังโรส เธอรีบอุ้มเขาทันทีโจเซฟิน
"เด็กสองคน?" โจเซฟินเข้าใจทันทีโรสพยักหน้า เธอเริ่มอธิบายโจเซฟิน "ใช่ เจนสันและร็อบบี้น้อยเป็นพี่น้องฝาแฝด คนที่มีความความดื้อรั้น, ความเย็นชา, และความหล่อเหลานั้นเป็นพี่ชายคนโต เจนสัน และคนที่พลังงานเหลือล้น, น่ารัก, สดใส, และหล่อเหลาอีกคนคือน้องชาย ร็อบบี้น้อย ไม่กี่วันก่อน เจ้าเด็กสองคนนี้สลับตัวกันลับหลังพวกเรา เจนสันผู้เย็นชาและร็อบบี้น้อยผู้ร่าเริง ปรากฏตัวต่อหน้าพวกคุณ และสร้างความทุกข์ให้พวกเราทั้งหมด"ก่อนที่โรสจะอธิบายจบ โจเซฟินก็จับใบหน้าของเจนสันด้วยความดีใจ "ถ้าอย่างนั้นเจนสันของเราก็ไม่ได้ป่วยเลยสักนิด!""ใช่สิ คุณนั่นแหละที่ป่วย" เจนสันกล่าวด้วยความไม่พอใจโจเซฟินจับใบหน้าเขาอย่างนุ่มนวลและขอโทษเจนสัน "น้าขอโทษ เจนสัน น้าโจเซฟินเข้าใจเธอผิดไป"เจนสันไม่ชอบที่น้าโจเซฟินจับใบหน้าเขามาก เขาหันหลังแล้วเอาหน้าซุกอ้อมแขนของโรส และใช้แม่เขาเป็นที่หลบภัยโจเซฟินถูกละเลยต่อหน้าต่อหน้าโดยหลานเธอ เธอตำหนิเขาอย่างขมขื่น "เจนสัน ทำไมนายยอมให้แม่กอดนาย แต่ไม่ยอมให้น้าทำเหมือนกันบ้างเล่า?"หลังจากแกล้งเจนสันอีกเล็กน้อย ความสนใจของโจเซฟินก็มาตกที่นางฟ้าตัวน้อยเซ็ตตี้ เซ็ตตี้มีผม
โรสและโจเซฟินกำลังพูดคุยกันหลังจากได้รับรู้ข่าวอันน่าตกใจ สำหรับโรส การพูดคุยครั้งนี้จะทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล แม้ว่าเธอจะดูเหมือนพูดคุยอย่างผ่อนคลายและเป็นมิตร แต่ลึก ๆ แล้วเธอกำลังระมัดระวังกับคำตอบของเธอ"คุณอาเรส..."โจเซฟินพลันดึงมือของโรสอย่างน่ารักเพื่อแก้ไขคำพูดของเธอ "พี่สะใภ้ เรียกฉันด้วยชื่อเถอะค่ะ ในเมื่อคุณคือแม่ของเจนส์และเด็ก ๆ คุณก็จะเป็นพี่สะใภ้ของฉันตลอดไป อย่าทำตัวห่างเหินเลย"โรสจึงแก้ไขคำพูดตัวเองอย่างจริงใจ "โจเซฟิน...ตอนนี้คุณรู้แล้วถึงการมีตัวตนของร็อบบี้น้อยและเซ็ตตี้ ฉันไม่รู้ว่าคุณมีแผนจะทำอย่างไรต่อ? คุณจะบอกทุกอย่างกับเจย์ หรือว่าคุณจะช่วยฉันปกปิดความจริงต่อไป?"โจเซฟินไม่เข้าใจ "ทำไมฉันถึงบอกพี่ฉันไม่ได้ล่ะ? ในฐานะพ่อของเด็ก เขามีสิทธิ์ที่จะรู้การมีตัวตนของพวกเขาสิ? พี่สะใภ้ พี่ชายของฉันจะต้องอิ่มเอมใจแน่ถ้ารู้ว่าร็อบบี้น้อยกับเซ็ตตี้มีตัวตน"เซ็ตตี้เงยหน้าขึ้นแล้วกล่าวกับโจเซฟิน "คุณพ่อไม่ได้ชอบหนู เขาบอกว่าหนูเป็นเด็กไร้มารยาทและป่าเถื่อน หนูก็ไม่ชอบเขาเหมือนกัน ฮึ่ม"โจเซฟินพูดไม่ออก พ่อลูกคู่นี้ยังไม่ได้พบกันอย่างเป็นทางการ แต่พวกเขากลับมีค
โรสยิ้มอย่างสบายใจอย่างไรก็ตาม รอยยิ้มของเธอดูขมขื่นเล็กน้อยเมื่อพูดถึงเจย์ เธอรักเขามาตลอดทั้งสองชีวิต การพูดว่าลืมเขานั้นง่ายกว่าทำจริงมากนัก"ด้วยความสัตย์จริง ฉันก็ยังรอเขาอยู่ในจุดเดิมมาตลอด" โรสกล่าวเสียงเบาโจเซฟินยอมในความเข้มแข็งของโรส และปณิธานที่แน่วแน่ของเธอ เธอชื่นชมโรสจริง ๆ "พี่สะใภ้ จากที่ฉันได้พูดไป ฉันจะปกป้องพี่ไว้ภายใต้ปีกของฉันด้วยชีวิต ใช้ชีวิตที่นี่ให้สงบสุข ฉันจะบอกพี่ชายเองว่าพี่สะใภ้ออกจากประเทศไปแล้ว"โรสกล่าวขอบคุณ "โจเซฟิน ขอบคุณนะ"โจเซฟินตอบ "พี่มอบหลานชายและหลานสาวสุดน่ารักให้ฉันตั้งสามคน ฉันต่างหากล่ะที่ต้องขอบคุณพี่สะใภ้"เซ็ตตี้ชะเง้ออยู่ที่ลูกบิดประตูแล้วกล่าวอย่างน่าสงสาร "คุณแม่ขา เมื่อไหร่พวกคุณแม่จะคุยกันจบคะ? เจนสันกับหนูหิวแล้วนะ"โรสนึกได้ทันทีว่าตอนนี้สายมากแล้ว เธอรีบใส่ผ้ากันเปื้อนแล้วมุ่งหน้าเข้าครัว "แม่จะทำของอร่อยให้กินเดี๋ยวนี้เลย""พี่สะใภ้ ฉันก็อยากกินที่นี่ด้วย""ได้เลย!"ชามของบะหมี่ไข่และมะเขือเทศถูกเสิร์ฟเป็นมื้อเช้า ทั้งเจนสันและเซ็ตตี้ต่างได้รับอาหารเต็มชามทั้งคู่ นี่เป็นครั้งแรกของโจเซฟินที่ได้ทานอาหารเช้าที่ธรรมดาแ