ฮิโรชิถามด้วยความสงสัย “พี่ครับ พี่รู้ได้ยังไงว่า แจ็ค อาเรสกับเจย์ อาเรสแตกคอกัน?”ยูมิยิ้มอย่างลึกลับ “มันไม่ใช่เรื่องของนายหรอกนะ สิ่งที่นายต้องทำต่อไปนี้คือการทุ่มเทความพยายามทั้งหมดของนายเพื่อให้ โจเซฟิน อาเรส ตกหลุมรักนายให้ได้ แล้วพี่สาวของนายคนนี้จะตอบแทนนายด้วยผลประโยชน์มากมาย”ฮิโรชิลูบคางด้วยการใช้ความคิด แล้วรอยยิ้มชั่วร้ายก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของเขา “ความเจ้าชู้เหรอ? นั่นคือสิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุดเลยล่ะ”ในตอนเย็น โจเซฟินใช้เวลาอยู่ที่กระท่อมโบยบินสู่จันทราในขณะเดียวกันที่คนรับใช้กำลังเตรียมอาหารเย็นให้เธอ อาหารเย็นวันนี้แตกต่างจากเดิมเล็กน้อยเพราะไม่มีซุป ทว่า มีขวดไวน์ ชาโต ลาฟิต ร๊อธชิลด์โจเซฟินหยิบขวดไวน์ขึ้นมาดู มันคือขวดไวน์ ชาโต ลาฟิต ร๊อธชิลด์จากปี 1887 เธอยิ้มขณะที่พูดว่า “ขวดไวน์แดงราคาแพงแบบนี้ควรส่งไปที่ซีคามอร์ แอนเน็กซ์ ในการกลับมาพบกันอีกครั้งระหว่างพี่ชายและพี่สาวเป็นการเฉลิมฉลองความยินดีในการแต่งงานของพวกเขา พวกเขาสามารถดื่มไวน์เพื่อสร้างอารมณ์ได้”จากนั้น เธอก็ยัดขวดไวน์แดงเข้าไปในอ้อมแขนของคนรับใช้ซอนเดอร์ “เอาไวน์นี้ไปส่ง”ในซีคามอร์ แอนเน็กซ์เจย์
“แองเจลีนของฉันคู่ควรกับงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เธอไม่ควรต้องแต่งงานกับฉันในสภาพที่น่าสมเพชนี้” เจย์พูดอย่างเคร่งขรึมแองเจลีนพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองน่าสมเพชเลย มีเงินมากมายในบัตรธนาคารที่นายให้ฉันไว้ มันมากจนฉันไม่สามารถใช้จ่ายได้ตลอดชีวิต”สีหน้าของเจย์มืดลงอย่างผิดปกติเมื่อกล่าวถึงเงิน...“เธอต้องการอะไร?”“เจย์บี้ บัตรธนาคารสามารถใช้เป็นสินสอดทองหมั้นกับฉันได้” แองเจลีนตอบยิ้ม ๆเจย์มองดูเธออย่างเงียบ ๆ ก่อนที่เขาจะดึงคางของเธอเข้าหาเขาและจูบเธอเบา ๆ ที่ริมฝีปาก“แล้วสรุปว่า นายจะให้อะไรฉันล่ะ?” ดวงตาของแองเจลีนเป็นประกายเมื่อเธอคาดหวังของขวัญจากความรักของเธอ“ตัวฉันเอง!” เจย์พูดพลางชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแองเจลีนเกือบสำลักน้ำลาย ขณะที่ไอออกมาอย่างรุนแรง เธอพึมพำ “นั่นไม่ดีเท่าเงินนะ”เจย์ผลักเธอออกไปและจ้องไปที่เธอด้วยความโกรธ “เธอไม่ชอบฉันเหรอ?”แองเจลีนหัวเราะแห้ง ๆ “ที่รัก ฉันต้องการเงิน”“แล้วฉันไม่สำคัญเหรอ?” เจย์ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีสักวันหนึ่งที่เขาจะต้องมาอิจฉาเงินแองเจลีนส่ายหัว “แน่นอน ความรักของฉันสำคัญกว่าเงิน แต่…”ดวงตาของเธอเป็นประก
ซอนเดอร์ หนึ่งในแม่บ้านของกระท่อมโบยบินสู่จันทราเป็นคนส่งไวน์ไปให้ ดังนั้น จึงเห็นได้ชัดว่าเธอได้รับคำสั่งจากโจเซฟินให้ทำเช่นนั้นแองเจลีนเป็นคนฉลาด เธอรู้ว่าโจเซฟินจะไม่ทำร้ายเธอ แต่ใครก็ตามที่มอบไวน์ให้โจเซฟิน ผู้นั้นกระทำด้วยเจตนาร้ายแองเจลีนกังวลเรื่องความปลอดภัยของโจเซฟินที่กระท่อมโบยบินสู่จันทรา โจเซฟินเพิ่งทานอาหารเย็นเสร็จ เมื่อเธอรู้สึกว่าร่างกายของเธอร้อนขึ้นและเดินโซเซไปมาโจเซฟินทิ้งตัวนอนแผ่วลงบนโซฟาขณะที่เธอพูดว่า “บ้าชะมัด ฉันต้องการมีอะไรกับเขาขึ้นมาทันที หลังจากที่ฉันกินเข้าไปงั้นเหรอ?”ประตูร้องลั่นดังเอี๊ยดเมื่อมีชายคนหนึ่งเข้ามาสีหน้าของโจเซฟินซีดเมื่อรู้ว่าเป็นใคร“ฮิโรชิ ไททัส นายมาทำอะไรที่นี่?”ฮิโรชิยืนอยู่ข้างหน้าโจเซฟินและใช้มือยกคางของเธอเบา ๆ ขณะที่เขาพูดด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยวบนใบหน้าของเขา “นายหญิงรอง ฉันมาอยู่กับเธอแล้ว”โจเซฟินตระหนักได้ว่ามีการใส่ยาที่จะทำให้เธอหมดสติในมื้ออาหารของเธออย่างแน่นอน เธอยังเข้าใจด้วยว่าทำไมฮิโรชิถึงมาที่นี่ ความโกรธเร่าร้อนในตัวเธอ “ฮิโรชิ ไททัส นายกล้าดียังไงมาวางยาฉัน?”ฮิโรชิดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนของเขาและกอดเธอ
ไร้คำพูด จากนั้นโจเซฟินพูดอย่างหมดแรงว่า “เธอนี่มันโรคจิตยิ่งกว่าไอ้เศษสวะนั่นเสียอีก”“หน้าอกมันใหญ่มาก ถึงแม้ว่าฉันจะอิจฉาก็ตาม” แองเจลีนล้อเล่นขณะช่วยโจเซฟินแต่งตัว“กล้าโชว์ของเธอให้ฉันดูไหมล่ะ?” โจเซฟินถามแองเจลีนหัวเราะขณะที่เธอพูดว่า “ของฉันไม่ใหญ่เท่ากับของเธอหรอกนะ”“งั้นเธอก็ต้องทำให้พี่ชายของฉันใช้งานมันหนักขึ้นนะ” โจเซฟินแซวแองเจลีนกล่าวว่า “เขาใช้งานมันหนักมากอยู่แล้ว”โจเซฟินขมวดคิ้ว “ว้าว เธอเพิ่งกลับมาพบกันกับพี่ชายของฉันและเธอมอบตัวเองให้กับเขาแล้วเหรอ?”แองเจลีนพูดอย่างฉุนเฉียวว่า “เธอกล้าดียังไง! ถ้าไม่ใช่เพราะไวน์ที่เธอส่งมาให้ คืนนี้ฉันคงไม่ต้องดูน่าอายขนาดนี้ เมื่อคืนฉันระรานพี่ชายเธอมาก ฉันไม่รู้ว่าฉันจะชดใช้ให้เขาในวันพรุ่งนี้ได้ยังไงเลยเนี่ย”โจเซฟินถามว่า “เธอจะชดเชยไปเพื่ออะไร? เขาพยายามทำตัวน่าสมเพชทั้ง ๆ ที่เขาได้ต่อรองแล้วหรือเปล่า?”แองเจลีนช่วยโจเซฟินลุกขึ้นยืน จากนั้น โจเซฟินก็ใช้สายตาแหลมคมและจ้องไปที่ฮิโรชิ “ฮิโรชิ ไททัส ฉันมีรูปร่างที่ดี ใช่ไหม?”ฮิโรชิร่างกายเกือบเปียกไปทั่วตัวด้วยความกลัว “นายหญิงอาเรส ฉันขอโทษ ได้โปรดเถอะ ได้โปรดยกโทษใ
“พี่ชายของเธอ… ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพ่อเธอนะ แน่นอนล่ะว่า พ่อของเธอคงไม่อยากให้เขาเข้าไปควบคุมบริษัทอาเรส” แองเจลีนไม่ต้องการโกหกโจเซฟินอีกต่อไปโจเซฟินรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนในตัวเธอแองเจลีนพูดด้วยความมั่นใจ “ฉันสงสัยว่าเธอก็คงไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพ่อเธอด้วย”คำพูดของเธอชัดเจนอย่างคาดไม่ถึง“แล้วใครเป็นพ่อของพี่ชายฉัน?” โจเซฟินถามด้วยความสงสัย“ฉันก็ไม่รู้”ยังคงอธิบายไม่ได้ ภาพของชายที่ดูเหมือนเจย์บี้ได้ปรากฏขึ้นในหัวของเธอดวงตาของโจเซฟินและแองเจลีนสบเข้าหากัน ทันใดนั้น ทั้งสองรู้สึกราวกับว่าครอบครัวอาเรสกำลังเก็บความลับจากพวกเขาเองในวันต่อมาแสงยามเช้าส่องเข้ามาที่ซีคามอร์ แอนเน็กซ์ ทำให้ขับหมอกยามเช้าออกไป แม้แต่ทางเดินซึ่งมักจะมืดและสกปรกก็สว่างไสวและดูเปิดต้อนรับแองเจลีนยกกระโปรงขึ้น แล้วเธอก็เดินเขย่งเท้าเพื่อย่องเดินไปทางห้องของเจย์หวังว่า ที่รักของเธอจะยังหลับใหลอยู่ เขาคงไม่มีความสุขหากรู้ว่าเธอหายไปทั้งคืนแองเจลีนผลักประตูค่อย ๆ เปิดออกเบา ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าร่างบนเตียงจะยังไม่ขยับไปไหนก่อนเธอจะค่อย ๆ เดินเข้ามาเจย์รีบหลับตาลงทันทีผู้หญิงคนนี้ทำอะไรอยู่?เขาไ
เจย์พูดอย่างใจเย็น “มีวันไหนที่เธอจะไม่ทำตัวแปลก ๆ ไหม?”แองเจลีนถึงกับเหงื่อหยดมันเป็นความจริงที่เธอไม่ได้รุนแรงกับเขาเป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องปกติจากเดิม“ที่รัก คิดให้มากกว่านี้สิ…” แองเจลีนท้วงด้วยอารมณ์ที่ดีหัวใจของเจย์อบอุ่นในนาทีที่เธอเริ่มแสดงท่าทางน่ารัก เขาดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนและขยี้ผมของเธออย่างเสน่หา ในที่สุด เขาก็เริ่มคิดอย่างมีวิจารณญาณเมื่อนึกถึงบางสิ่ง สีหน้าของเจย์ก็มืดลงทันที “มีบางอย่างผิดปกติกับไวน์เมื่อวานงั้นเหรอ?”แองเจลีนยิ้มและพยักหน้า “นายก็เดาได้หนิ”“งั้นเธอไปที่กระท่อมโบยบินสู่จันทราเพื่อเป็นฮีโร่เหรอ?”แองเจลีนรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงที่ไม่ใช่ความไม่พอใจและไม่ใช่การประชดประชันในคำพูดของเขา เธอพยักหน้าอย่างภาคภูมิใจว่า “โชคดีที่ฉันไปทันเวลา ไม่อย่างนั้น น้องสาวนางฟ้าของนายคงถูกฮิโรชิ ไททัสทำลายไปแล้ว”การแสดงออกของเจย์เย็นชา “คราวหน้าถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น บอกฉันด้วย อย่าไปคนเดียวอีก”แองเจลีนมองดูขาของเขา...“แต่…”เจย์พูดอย่างโกรธเคือง “แต่อะไร?”เธอดูถูกความสามารถของเขาหรือเปล่า?“ก็ได้” แองเจลีนตอบเจย์ตระหนักว่าได้ว่าคำชมของแองเจลี
จู่ ๆ มื้อเช้าที่อิ่มเอิบก็มีรสชาติเหมือนแสงเทียนหยดในตัวเจย์ เขาคายขนมปิ้งลงในถังขยะที่ใกล้ ๆ เขานั่งด้วยสีหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวเด็ก ๆ พยายามขัดขวางเส้นทางสู่ความสุขของเขาหรือเปล่า?เด็กสามคนมองพ่อของพวกเขา ...ร็อบบี้น้อยแกล้งทำเป็นถอนหายใจเหมือนผู้ใหญ่ “อ่า แม้แต่ฮีโร่ก็ยังมีความอ่อนแอในเสน่ห์ของหญิงสาวสวย”เจย์ตอบว่า “ความงามที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่ที่ได้เจอ แต่ต้องหาให้เจอ ถ้าเจอแล้ว บอกพ่อนะ พ่อสามารถช่วยลูกจองภรรยาตัวน้อยของลูกได้”เจนสันตำหนิพ่อของเขาอย่างรุนแรงโดยไม่ลังเลและพูดว่า “ไม่ใช่ทุกคนที่มีสายตาแห่งความเชื่อเหมือนคุณพ่อนะ นอกจากนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นเฒ่าหัวงูเหมือนคุณพ่อด้วย”เจย์ “...”“ใครสอนให้ลูกพูดแบบนี้?” เจย์ตะคอกใส่อย่างโกรธจัดแองเจลีนฝังใบหน้าของเธอต่ำลงไปในจานของเธอเจนสันเหลือบมองแองเจลีน มองด้วยแววตาที่อ่านไม่ออกของเขาเจย์ชี้ไปที่แองเจลีนและได้พบว่าแองเจลีนที่ก้มใบหน้าของเธอมุดลงไปในจานเจย์ไม่รู้ว่าเขาควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี“แองเจลีน?”แองเจลีนเงยหน้าขึ้นอย่างประหม่า ปลายจมูกของเธอถูกแต้มด้วยครีมชีส เธอดูตลก“กินให้อร่อยนะ” เจย์พูด“ตกล
แจ็คจ้องไปที่โจเซฟิน “โจซี่ เกิดอะไรขึ้น?”โจเซฟินร้องอย่างบ้าคลั่ง “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง? อุบัติเหตุนี้เพิ่งเกิดขึ้นตอนที่ฉันอยู่ที่บ้านก็จริง แต่มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย”เมื่อ เจย์ อาเรสและแองเจลีน มาถึงกระท่อมโบยบินสู่จันทรา โจเซฟินก็ปล่อยตัวเองวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของแองเจลีน“พี่แองเจลีน พวกเขาคิดว่าฉันคือคนที่พยายามจะฆ่า ฮิโรชิ ไททัส”แองเจลีนกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “มันโอเคที่จะกินมูมมามได้ แต่อย่าพูดอะไรที่รีบร้อน เพราะเธอต้องรับผิดชอบต่อคำที่เธอพูดออกมาทันที”สายตาของเจย์แข็งกร้าว “มีหลักฐานไหม?”ยูมิกล่าวว่า “ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่าน้องชายของฉันเข้ามาในกระท่อมโบยบินสู่จันทรา เมื่อเวลา 18:50 น. เมื่อคืน ก่อนคุณเซเวียร์ก็ได้มาถึงไม่นานหลังจากนั้น แล้วในเช้านี้เรากลับพบว่าน้องชายได้รับบาดเจ็บที่กระท่อมโบยบินสู่จันทรา หลังจากที่คุณเซเวียร์ออกไป มีเพียงนายหญิงอาเรสและคุณโจเซฟินที่อยู่ร่วมกันเมื่อคืนนี้ ถ้าไม่ใช่พวกเธอที่เป็นคนทำร้ายน้องชายของฉัน แล้วจะเป็นใครกัน?”จู่ ๆ แจ็คก็พูดอย่างครุ่นคิด “โจซี่แม้แต่แรงจับไก่ยังจับไม่ได้เลย แล้วเธอจะทำร้ายฮิโรชิที่แข็งแรงและมีค
คุณท่านยอร์กหัวเราะดังลั่น “เจ้าหนูอย่าได้เอาเรื่องวันนี้ไปพูดกับใครเชียวล่ะ”“ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ คุณท่านยอร์ก…”คุณท่านยอร์กเอามือไขว้หลังและเดินอย่างสบาย ๆ ไปยังห้องสมุดในห้องสมุดตรงส่วน 48 นั้นดูเละเทะมาก บรรณารักษ์พยายามเก็บกวาดมานานมากและตอนนี้ก็กำลังหอบเพราะความเหนื่อยคุณท่านยอร์กพูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “แค่มาขโมยหนังสือต้องทำให้ที่นี่เละเทะขนาดนี้เลยเหรอ? ดูสิว่าหมอนั่นทำให้ลูกศิษย์ของฉันต้องเหนื่อยแค่ไหน…”หลังจากแสร้งทำท่าเป็นห่วงเป็นใยเสร็จแล้ว คุณท่านยอร์กก็ถาม “มีอะไรหายไปบ้าง?”บรรณารักษ์ตอบอย่างสงบเสงี่ยม “สมุดบันทึกรายชื่อผู้อาศัยหายไปครับคุณท่าน”สีหน้าคุณท่านยอร์กเคร่งเครียดทันที “ดูเหมือนว่าเขาจะมาที่นี่เพราะองค์กรโลกาวินาศ”จากนั้นเขาก็เดินจากไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดขณะเดียวกันเจย์ก็ตามมาอยู่กับเซย์นขณะที่เขากำลังขุดเม็ดต้นชุมเห็ดและรวบรวมดอกสายน้ำผึ้งก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับทันทีที่พวกเขามาถึงสวนสายลมสดชื่น เจย์กับเซย์นก็โดนพวกคอร์เวตต์ของป้อม 48 ล้อมไว้“โคลเป็นคนสั่งเหรอ?” เจย์ถามนิ่ง ๆคาร์สันเดินออกมาจากกลุ่มคอร์เวตต์โดยที่มีมือหนึ่งกุมท้องไว้
คาร์สันกลืนน้ำลาย เขารู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในถ้ำสิงโต เขาตอบไปด้วยเสียงสั่นเทา “พูดตามตรงนะครับคุณเซเวียร์ เรื่องโชคร้ายและการล่มสลายของตระกูลอาเรสเมื่อสามปีก่อน คุณเองก็อยู่ในรายชื่อที่ต้องโดนจัดการด้วยเพราะว่าคุณเป็นลูกสะใภ้ของพวกเขา แต่ว่านายน้อยนั้นหลงรักคุณหัวปักหัวปำจนเขายอมสละนิ้วก้อยของตัวเองเพื่อช่วยคุณไว้”“ส่วนลูก ๆ ของคุณนั้น นายน้อยก็ตั้งใจว่าจะหักนิ้วตัวเองสามนิ้วเพื่อช่วยพวกเขาไว้ แต่ต้องขอบคุณที่คุณบอกความจริงมาในตอนท้าย เพราะว่าในตัวของนายน้อยและคุณหนูพวกนั้นมีสายเลือดของยอร์กไหลเวียนอยู่ ทำให้พวกเขาได้รับการถอดชื่อออกจากรายการสังหาร”“ตอนที่นายน้อยจากมา เขาไม่ได้พาใครกลับมากับเขาด้วย”แองเจลีนสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเรื่องที่เขาบอก“ถ้าเป็นแบบนั้น มีคนชื่อปีศาจอยู่ในป้อมตระกูลยอร์กไหม?” แองเจลีนถามอีกครั้งคาร์สันพึมพำ “ปีศาจ” เขาส่ายหน้าอย่างแรง “ไม่มีคนแบบนั้นในป้อมตระกูลยอร์กนะครับ คุณเซเวียร์”มือแองเจลีนที่ซุกอยู่ใต้แขนเสื้อสั่นเทา “ฉันเชื่อนายได้ใช่ไหมคาร์สัน?”คาร์สันสาบาน “ผมไม่มีความกล้าพอที่จะโกหกคุณหรอกครับคุณเซเวียร์ ใครจะรู้ว่าสักวันคุณอาจจะกลายเป็นนาย
หากมีใครต้องการหาหนังสือสักเล่มแบบเฉพาะเจาะจงในนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร โชคดีที่เจย์มีแผนที่ในหัวคอยนำทาง เขารู้ว่าสมุดบันทึกรายชื่อประชากรอยู่ในชั้นหนังสือส่วนของป้อม 48ตอนนั้นมีคนเหมือนตุ๊กแกตัวใหญ่เกาะอยู่ที่ชั้นหนังสือตู้ที่ 48 ขาของเขาเลือดไหลไม่หยุด เขาหยิบชุดปฐมพยาบาลที่พกติดตัวออกมาจากนั้นก็ทายาและพันผ้าพันแผลเพื่อหยุดเลือดเจย์เดินผ่านยามห้องสมุดและแอบเข้ามาด้านในเมื่อเข้ามาถึงตู้หนังสือส่วนของป้อม 48 เจย์ก็เริ่มมองหาสมุดบันทึกรายชื่อประชากรบนชั้นหนังสือ ทันใดนั้นก็มีร่องรอยสีแดงเลือดบนหน้าหนังสือที่สะดุดตาเจย์ เขาแตะรอยสีแดงบนหน้าหนังสือนั้นด้วยนิ้วมือและรู้สึกได้ถึงความชื้น เจย์ตื่นตัวระวังภัยทันใดนักฆ่าที่บาดเจ็บต้องซ่อนอยู่ข้างบนแน่เขาคาดเดาเช่นนั้นทันใดนั้นเจย์ก็มีความคิดดี ๆ แวบเข้ามาในหัว เขารวบรวมกำลังและฟาดมือใส่ชั้นหนังสือทันทีทันใด รังสีสังหารอย่างรุนแรงก็พุ่งตรงเข้ามาใส่เขาเจย์หมุนตัวด้วยความเร็วแสงและหลบพ้นคมมีดของนักฆ่าไปได้เจย์มองนักฆ่าที่ใส่ชุดพรางตัวสีดำพร้อมดึงหมวดฮู้ดขึ้นคลุมศีรษะ ทั้งปาก จมูก และตาต่างก็ปกปิดไว้มิดชิด ความคิดที่ว
จู่ ๆ เซย์นก็ยกมือกุมหน้าผากและบอกว่า “ผมมึนหัว”จากนั้นเขาก็ทรุดลงตรงหน้าเจย์ดังตึงเจย์แหย่ว่า “ชาดีจริง ๆ ตาเฒ่า มันทำคนสลบได้เร็วมากจนผมแปลกใจเลย”ชายชรามองเจย์อย่างพิจารณา ชายหนุ่มคนนี้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับน้ำชาแต่ว่ายังคงคุยกับตาเฒ่าต่อเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอที่คนกล้าเยาะเย้ยเขาอย่างไม่ร้อนรนในอาณาเขตของตระกูลยอร์กเช่นนี้ชายชราชื่นชมความใจเด็ดและกล้าหาญของเจย์“บุคลิกท่าทางของแกถูกใจฉันมากเจ้าหนุ่ม ฉันชื่นชม แกชื่ออะไร?”เจย์ยิ้มออกมาเล็กน้อย “เบ็น”ชายชราถามอย่างงงงวย “ไม่มีนามสกุลเหรอ?”เจย์พยักหน้าและตอบอย่างไม่แยแส “มี”เขาพูดต่อ “ผมนามสกุลยอร์ก”ชายชรามองเจย์อย่างไม่พอใจ “หากว่าแกอยากจะหลอกฉัน อย่างน้อยก็ต้องทำให้มันถูกหน่อย”เจย์เทน้ำชาเย็นชืดทั้งหมดในกาออก จากนั้นก็เติมเองจากนั้นเขาก็ทำท่าเอาอกเอาใจชายชรา “ชาที่ผมชงนี้สดชื่นกว่าของคุณ อยากจะลองชิมสักถ้วยไหม?”ชายชราคว้าใบชามาเต็มกำ ก่อนหยิบส่วนหนึ่งใส่ในกาน้ำชาและบอกว่า “นี่ไง สมบูรณ์แบบแล้ว”เจย์ยกถ้วยชาขึ้นมา “โชคชะตานำพาเรามาพบกันตาเฒ่า ขอชนแก้วให้กับโชคชะตาอันน่าทึ่ง
เพื่อให้แน่ใจว่าโคลจะไม่เข้ามาขวางทาง แองเจลีนก็บอกกับคาร์สันอีกครั้ง “เข้ามาสิคาร์สัน เข้ามาคุยกันหน่อย”คาร์สันมองเจย์และเซย์นที่ตอนนี้เดินจากไปไกล หลังจากใจลอยไปชั่วครู่ เขาก็เดินตามแองเจลีนเข้าไปในบ้าน“โจเซฟิน ช่วยเอาชามาให้คาร์สันหน่อย”โจเซฟินใช้เวลาพักหนึ่งในการรินชาและส่งถ้วยให้คาร์สัน คาร์สันวางถ้วยชาลงบนโต๊ะและบอกว่า “คุณเก่งเรื่องหันเหความสนใจใช่ไหมครับ คุณเซเวียร์?”แองเจลีนไม่ได้รู้สึกร้อนรนอะไรแม้ว่าคาร์สันจะมองแผนเธอออก เธอบอกว่า “ฉันก็แค่อยากจะคุยกับเพื่อนเก่าเท่านั้นคาร์สัน นายวัดหัวใจของคนที่ยอดเยี่ยมด้วยหัวใจแสนทรามได้ยังไงกัน? ฉันเองก็คงไม่ได้คาดหวังกับคนกระจอกอย่างนายไว้สูงหรอก”คาร์สันทำปากง้ำ เขาคงลืมไหว้ขอความโชคดีก่อนออกจากบ้านมาเมื่อเช้าแน่ เพราะพอตื่นขึ้นมา เขาก็เจอแต่เรื่องแย่ ๆ และคำพูดทิ่มแทงของทั้งเบ็นและแองเจลีน“คุณเซเวียร์ ให้ผมบอกความจริงก็คือว่าในป่านั้นมีสัตว์ป่ามากมาย หากว่าไม่มีคนของผมนำทางไป บอดี้การ์ดของคุณก็อาจจะหาทางออกจากป่าไม่ได้เมื่อเข้าไปแล้ว”ในใจของแองเจลีนนั้นตื่นตระหนกไปวูบหนึ่ง แต่เมื่อเธอจำได้ว่าเจย์บี้มีแผนที่ของโคลอี้เป็นตั
เจ้าชั่วโคลนั่นส่งคนมาคอยเฝ้าที่นี่ไว้โดยทำทีว่ามาคอยเฝ้ายามที่สวนสายลมสดชื่นเจย์เริ่มคิดหาหนทางจะหนีออกไปจากสวนสายลมสดชื่นเพื่อที่ว่าเขาจะได้ไปหาทะเบียนรายชื่อของผู้อาศัยในป้อมยอร์กแองเจลีนเรียกเขาเบา ๆ “เบ็น” เสียงเธอนั้นอ่อนโยนและแฝงความรักใคร่เจย์หันหลังมาและเดินเข้าไปหา“แองเจลีน”แองเจลีนจับสังเกตทิศทางจากเสียงและเดินเข้าไปหาเขาเจย์รีบเร่งฝีเท้าและคว้ามือเธอไว้พร้อมกระซิบว่า “จากที่ฉันเห็นตอนนี้ นายท่านยอร์กคงสงสัยว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับนักฆ่าเมื่อคืนนี้ เขาส่งคนมาคอยเฝ้าล้อมสวนสายลมสดชื่นไว้แล้วเช้านี้”แองเจลีนวิเคราะห์สถานการณ์และบอกว่า “นายท่านยอร์กนั้นรับผิดชอบส่วนหน้าของป้อมตระกูลยอร์กแล้วเขาก็ไม่มีเวลามาเฝ้าป้อม 48 หรอก ดังนั้นโคลยังเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ ทำไมเราไม่ล่อเขาไปที่อื่นล่ะ? ฉันจะหาวิธีดึงไว้ให้โคลไม่ว่างมาสนใจตอนที่คุณออกไปทำทีเป็นว่าหาสมุนไพรมาให้ฉัน…”เจย์บีบแก้มแดงปลั่งของแองเจลีนเบา ๆ “เธอนี่มันฉลาดขึ้นทุกวันเลยใช่ไหมเนี่ย?”แม้ในใจเขาจะเห็นว่าเธอเป็นเพียงแกะน้อยไม่รู้เรื่องราวใด ๆ ในโลกนี้แองเจลีนยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณสอนฉันมาดีนี่คะ”
โคลรู้สึกใจคอปั่นป่วนขึ้นมาเมื่อเห็นแววตากระหายเลือดของสเปนเซอร์ “พ่อ แองเจลีนเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ พ่อก็เห็นว่าตอนนี้สายตาเธอมองไม่เห็นด้วยซ้ำ”ตอนที่เขาพูดเรื่อง ‘สายตามองไม่เห็น’ โคลก็อารมณ์ท่วมท้นจนสะอึก “มันเป็นความผิดของผมเอง ผมฆ่าสามีของเธอ แล้วเธอก็ร้องไห้จนตาบอด ผมติดค้างเธอมากเหลือเกิน”สเปนเซอร์พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “แกมันใจอ่อนไป แกเองก็เห็นว่าบอดี้การ์ดของเธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ดูจากทักษะของผู้ชายที่ชื่อเบ็นนั่น เขาสามารถก่อยิ่งกว่าหายนะให้กับป้อมตระกูลยอร์กแน่”โคลอธิบาย “เธอตาบอด เธอก็ต้องมีคนแบบนั้นไว้คอยปกป้องสิ”สเปนเซอร์บอกว่า “ฉันคิดว่าความรักทำให้แกตาบอดแล้ว ลองคิดดูสิ ผู้ชายชื่อเบ็นนั่นด้วยความสามารถของเขาสามารถไปได้ไกลมากแน่ แต่ทำไมเขาถึงเลือกที่จะอยู่ข้างกายผู้หญิงเหมือนพวกขี้ขลาดไร้ประโยชน์ด้วย?”โคลบอกว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด เบ็นอาจจะเป็นบอดี้การ์ดที่หลานชายคนโตของตระกูลอาเรส เจย์ อาเรส มอบไว้ให้แองเจลีน เจย์นั้นเป็นคนก่อตั้งหน่วยภูติผี หลังจากที่เขาตายพวกสมาชิกหน่วยภูตผีก็สาบานว่าจะภักดีและทุ่มเทให้แองเจลีน”สเปนเซอร์นั้นโมโหมากจนเขาคว้ากาน้ำชาปาใส่โคล “แก ไอ
พวกคอร์เวตต์หากันทั้งคืนแต่ว่าก็หานักฆ่าไม่เจอ ราวกับว่าเขาระเหยหายตัวไปในอากาศวันต่อมาสเปนเซอร์ก็มาที่ป้อม 48เขาเรียกโคลไปที่ห้องลับและถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “โคล นักฆ่าเมื่อคืนมันผ่านกับดักหลายชั้นที่เราติดตั้งไว้ในเขามุกเข้ามาได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นนักสู้ที่ฝึกมาเป็นอย่างดี พอมาคิดเรื่องนี้แล้ว นักฆ่าโผล่มาทันทีหลังจากที่แองเจลีนมา เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาร่วมมือกันประสานจากด้านใน?”โคลยังคงนิ่งเงียบ…สเปนเซอร์ดูงงงวย “แองเจลีนก็เป็นแค่นักธุรกิจหญิงเก่งฉกาจจากเมืองอิมพีเรียล แต่ว่าบอดี้การ์ดของเธอก็เก่งพอที่จะคว้ามีดสั้นของฉันได้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงต้องมีคนเก่งกาจขนาดนั้นอยู่ข้างกายด้วย?”โคลก็ยังคงนิ่งเงียบ…เมื่อสเปนเซอร์เห็นว่าโคลไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ดวงตาเขาก็ยิ่งฉายแววสงสัย “นี่แกกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่าโคล?”มีแววอ่อนล้าในน้ำเสียงของโคล “ผมบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว”สเปนเซอร์มองโคลอย่างไม่พอใจ “หมายความว่ายังไงที่ว่าบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว? แกอยู่ที่เมืองอิมพีเรียลตั้งครึ่งปี แล้วพอแกกลับมาบ้านแกก็พูดแค่สามเรื่อง แกบอกว่าทำลายตระกูลอาเรสกับอสังหาริมทร
เด็กหนุ่มซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอร็อบบี้น้อยก็ทำแบบเดียวกันเวลาที่เขาทำอะไรผิดมา เขามักจะกอดเอวเธอแน่นที่สุดเท่าที่ทำได้และทำท่าเป็นเด็กขี้อ้อนเอาแต่ใจ ‘ผมผิดไปแล้วแม่จ๋า อย่าโกรธผมเลยนะ’ เขาจะพูดแบบนี้จากนั้นเธอก็ตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามโดยการฉีกเสื้อเธอออกเผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่า เธอยื่นแขนออกมานอกผ้าห่มแล้วเธอก็แสร้งทำเป็นร้องถามเสียงงัวเงีย “เกิดอะไรขึ้นเหรอเบ็น?”พอเจย์ได้ยินเสียงแองเจลีน เขาก็เปิดประตูเข้ามาเมื่อได้เห็นหน้าอกและแขนของเธอยื่นออกมานอกผ้าห่อม เจย์ก็ปิดประตูอย่างรวดเร็วแต่ถึงอย่างนั้นโคลก็ยังแอบเห็นภาพน่าตื่นตาภายในห้องอยู่ดีเจย์จ้องโคลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อโคลครุ่นคิดว่าหากแองเจลีนไม่ได้ตาบอด เมื่อกี้เธอจะต้องกรีดร้องออกมาเพราะความอับอายเป็นแน่โคลถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาเธอกันแน่?”“เธอร้องไห้มากจนตาบอด” เจย์ตอบห้วน ๆน้ำเสียงเขาแฝงโทสะและความรู้สึกโทษตัวเองโคลอี้งไปเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าเขาก็ฉายความรู้สึกผิดจังหวะนั้นพวกคอร์เวตต์ที่ค้นหาบริเวณบ้านก็เดินส่ายหน้าออกมา “เราไม่เจออะไรผิดปกติ”โคลสั่ง “ไปหาที่อื่นต่อ”เมื่อพวกคอร์เ