“พี่ชายของเธอ… ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพ่อเธอนะ แน่นอนล่ะว่า พ่อของเธอคงไม่อยากให้เขาเข้าไปควบคุมบริษัทอาเรส” แองเจลีนไม่ต้องการโกหกโจเซฟินอีกต่อไปโจเซฟินรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนในตัวเธอแองเจลีนพูดด้วยความมั่นใจ “ฉันสงสัยว่าเธอก็คงไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพ่อเธอด้วย”คำพูดของเธอชัดเจนอย่างคาดไม่ถึง“แล้วใครเป็นพ่อของพี่ชายฉัน?” โจเซฟินถามด้วยความสงสัย“ฉันก็ไม่รู้”ยังคงอธิบายไม่ได้ ภาพของชายที่ดูเหมือนเจย์บี้ได้ปรากฏขึ้นในหัวของเธอดวงตาของโจเซฟินและแองเจลีนสบเข้าหากัน ทันใดนั้น ทั้งสองรู้สึกราวกับว่าครอบครัวอาเรสกำลังเก็บความลับจากพวกเขาเองในวันต่อมาแสงยามเช้าส่องเข้ามาที่ซีคามอร์ แอนเน็กซ์ ทำให้ขับหมอกยามเช้าออกไป แม้แต่ทางเดินซึ่งมักจะมืดและสกปรกก็สว่างไสวและดูเปิดต้อนรับแองเจลีนยกกระโปรงขึ้น แล้วเธอก็เดินเขย่งเท้าเพื่อย่องเดินไปทางห้องของเจย์หวังว่า ที่รักของเธอจะยังหลับใหลอยู่ เขาคงไม่มีความสุขหากรู้ว่าเธอหายไปทั้งคืนแองเจลีนผลักประตูค่อย ๆ เปิดออกเบา ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าร่างบนเตียงจะยังไม่ขยับไปไหนก่อนเธอจะค่อย ๆ เดินเข้ามาเจย์รีบหลับตาลงทันทีผู้หญิงคนนี้ทำอะไรอยู่?เขาไ
เจย์พูดอย่างใจเย็น “มีวันไหนที่เธอจะไม่ทำตัวแปลก ๆ ไหม?”แองเจลีนถึงกับเหงื่อหยดมันเป็นความจริงที่เธอไม่ได้รุนแรงกับเขาเป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องปกติจากเดิม“ที่รัก คิดให้มากกว่านี้สิ…” แองเจลีนท้วงด้วยอารมณ์ที่ดีหัวใจของเจย์อบอุ่นในนาทีที่เธอเริ่มแสดงท่าทางน่ารัก เขาดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนและขยี้ผมของเธออย่างเสน่หา ในที่สุด เขาก็เริ่มคิดอย่างมีวิจารณญาณเมื่อนึกถึงบางสิ่ง สีหน้าของเจย์ก็มืดลงทันที “มีบางอย่างผิดปกติกับไวน์เมื่อวานงั้นเหรอ?”แองเจลีนยิ้มและพยักหน้า “นายก็เดาได้หนิ”“งั้นเธอไปที่กระท่อมโบยบินสู่จันทราเพื่อเป็นฮีโร่เหรอ?”แองเจลีนรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงที่ไม่ใช่ความไม่พอใจและไม่ใช่การประชดประชันในคำพูดของเขา เธอพยักหน้าอย่างภาคภูมิใจว่า “โชคดีที่ฉันไปทันเวลา ไม่อย่างนั้น น้องสาวนางฟ้าของนายคงถูกฮิโรชิ ไททัสทำลายไปแล้ว”การแสดงออกของเจย์เย็นชา “คราวหน้าถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น บอกฉันด้วย อย่าไปคนเดียวอีก”แองเจลีนมองดูขาของเขา...“แต่…”เจย์พูดอย่างโกรธเคือง “แต่อะไร?”เธอดูถูกความสามารถของเขาหรือเปล่า?“ก็ได้” แองเจลีนตอบเจย์ตระหนักว่าได้ว่าคำชมของแองเจลี
จู่ ๆ มื้อเช้าที่อิ่มเอิบก็มีรสชาติเหมือนแสงเทียนหยดในตัวเจย์ เขาคายขนมปิ้งลงในถังขยะที่ใกล้ ๆ เขานั่งด้วยสีหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวเด็ก ๆ พยายามขัดขวางเส้นทางสู่ความสุขของเขาหรือเปล่า?เด็กสามคนมองพ่อของพวกเขา ...ร็อบบี้น้อยแกล้งทำเป็นถอนหายใจเหมือนผู้ใหญ่ “อ่า แม้แต่ฮีโร่ก็ยังมีความอ่อนแอในเสน่ห์ของหญิงสาวสวย”เจย์ตอบว่า “ความงามที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่ที่ได้เจอ แต่ต้องหาให้เจอ ถ้าเจอแล้ว บอกพ่อนะ พ่อสามารถช่วยลูกจองภรรยาตัวน้อยของลูกได้”เจนสันตำหนิพ่อของเขาอย่างรุนแรงโดยไม่ลังเลและพูดว่า “ไม่ใช่ทุกคนที่มีสายตาแห่งความเชื่อเหมือนคุณพ่อนะ นอกจากนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นเฒ่าหัวงูเหมือนคุณพ่อด้วย”เจย์ “...”“ใครสอนให้ลูกพูดแบบนี้?” เจย์ตะคอกใส่อย่างโกรธจัดแองเจลีนฝังใบหน้าของเธอต่ำลงไปในจานของเธอเจนสันเหลือบมองแองเจลีน มองด้วยแววตาที่อ่านไม่ออกของเขาเจย์ชี้ไปที่แองเจลีนและได้พบว่าแองเจลีนที่ก้มใบหน้าของเธอมุดลงไปในจานเจย์ไม่รู้ว่าเขาควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี“แองเจลีน?”แองเจลีนเงยหน้าขึ้นอย่างประหม่า ปลายจมูกของเธอถูกแต้มด้วยครีมชีส เธอดูตลก“กินให้อร่อยนะ” เจย์พูด“ตกล
แจ็คจ้องไปที่โจเซฟิน “โจซี่ เกิดอะไรขึ้น?”โจเซฟินร้องอย่างบ้าคลั่ง “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง? อุบัติเหตุนี้เพิ่งเกิดขึ้นตอนที่ฉันอยู่ที่บ้านก็จริง แต่มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย”เมื่อ เจย์ อาเรสและแองเจลีน มาถึงกระท่อมโบยบินสู่จันทรา โจเซฟินก็ปล่อยตัวเองวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของแองเจลีน“พี่แองเจลีน พวกเขาคิดว่าฉันคือคนที่พยายามจะฆ่า ฮิโรชิ ไททัส”แองเจลีนกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “มันโอเคที่จะกินมูมมามได้ แต่อย่าพูดอะไรที่รีบร้อน เพราะเธอต้องรับผิดชอบต่อคำที่เธอพูดออกมาทันที”สายตาของเจย์แข็งกร้าว “มีหลักฐานไหม?”ยูมิกล่าวว่า “ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่าน้องชายของฉันเข้ามาในกระท่อมโบยบินสู่จันทรา เมื่อเวลา 18:50 น. เมื่อคืน ก่อนคุณเซเวียร์ก็ได้มาถึงไม่นานหลังจากนั้น แล้วในเช้านี้เรากลับพบว่าน้องชายได้รับบาดเจ็บที่กระท่อมโบยบินสู่จันทรา หลังจากที่คุณเซเวียร์ออกไป มีเพียงนายหญิงอาเรสและคุณโจเซฟินที่อยู่ร่วมกันเมื่อคืนนี้ ถ้าไม่ใช่พวกเธอที่เป็นคนทำร้ายน้องชายของฉัน แล้วจะเป็นใครกัน?”จู่ ๆ แจ็คก็พูดอย่างครุ่นคิด “โจซี่แม้แต่แรงจับไก่ยังจับไม่ได้เลย แล้วเธอจะทำร้ายฮิโรชิที่แข็งแรงและมีค
เธอเอาริมฝีปากไปแนบข้าง ๆ หูของเจย์และพูดเบา ๆ ว่า “ที่รัก ฉันจะช่วยนายปกป้องคนที่นายต้องการปกป้อง คิดเสียว่าฉันรักคนที่เชื่อมต่อเกี่ยวข้องกับนายด้วยก็แล้วกัน”เจย์ “...”คำพูดของแองเจลีนแสดงให้เห็นว่าเธอรักเจย์อย่างไม่มีที่สิ้นสุดถึงอย่างนั้น เธอไม่รู้เลยว่าเธอเป็นแหล่งพลังงานชีวิตและความสุขของเขาเจย์จับมือแองเจลีนไว้แน่นขณะที่เขาพูดอย่างฉุนเฉียวว่า “อย่าปล่อยให้ตัวเองถูกรังแกเมื่อเธอไปถึงที่นั่น ต่อให้เธอถูกแยกออกจากกันเป็นส่วน ๆ ฉันก็จะซ่อมมันคืนให้เธอเอง”แองเจลีนยิ้มหวาน “ไม่เป็นอะไรหรอกนะ”เขากังวลว่าเธอจะเบื่อและเหงา เจย์จึงมอบหมายให้เธอใช้สมองคิด “ใช้ความคิดที่สดใสของเธอคิดเรื่องนี้เมื่อเธอว่าง เธอเคยทำให้ใครขุ่นเคืองบางหรือเปล่า? เห็นได้ชัดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้ต้องการใส่ร้ายเธออย่างแน่นอน”แองเจลีนพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ฉันสวยและรักนายไง หลายคนอิจฉาฉันแน่นอน”เจย์ “...”เขาแทบจะสำลักน้ำลายด้วยความโกรธ“เธอคิดอะไรอยู่?” เจย์ถามอย่างโกรธจัด มันเป็นเรื่องของชีวิตและความตาย แต่เธอไม่ได้จริงจังกับมันด้วยซ้ำ“ทุกอย่างเพื่อนายเท่านั้น” แองเจลีนพูดพลางทำหน้าบึ้งเ
เกรย์สันพูดอย่างลังเลว่า “แจ็คได้ร่วมมือกับบริษัท เบล และบริษัท ไททัส เพื่อที่จะรวมหัวต่อต้านแกรนด์ เอเซีย ผมเกรงว่าคราวนี้เราจะมีปัญหาแล้วล่ะ”เจย์เตือนเขาไปว่า “เรายังมีคนวงในอยู่ที่บริษัท เบล”เกรย์สันรู้ชัดยิ่งขึ้น “ฌอน เบล”นับตั้งแต่ที่เจย์ได้ช่วยฌอนตัดสินใจเรื่องยุ่งยากต่อ สแตนลีย์ เบล ผลงานของบริษัท เบล ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ตำแหน่งของสแตนลีย์เองในบริษัท เบล ก็แย่ลงด้วย จากนั้นฌอนก็กลายเป็นสมาชิกใหม่ของบริษัท เบล ในทันทีเจย์พูดอย่างค่อย ๆ “ในที่สุด บริษัท เบล ยังคงเป็นของคนอื่น”เกรย์สันกล่าวว่า “เหตุผลที่เราให้บริษัท อาเรส ผลิตชิ้นส่วนที่สำคัญเหล่านั้น ในตอนนั้นก็เป็นเพราะท่านอาเรสคิดว่าบริษัท อาเรส และแกรนด์ เอเซีย เป็นครอบครัวเดียวกัน อย่างไรก็ตาม บริษัท อาเรส กำลังแก้แค้นแกรนด์ เอเซียอยู่ เป็นภาพที่น่าจับตามองอย่างแท้จริง ดูเหมือนว่า แกรนด์ เอเซียจะต้องสร้างเส้นทางสำหรับตัวเองในการผลิตชิ้นส่วนขึ้นมาเองแล้วล่ะครับ”เจย์ที่กำลังมีความคิดอื่น “ให้บริษัทเซเวียร์เป็นฝ่ายรับผิดชอบเรื่องนี้ได้ แกรนด์ เอเซียจะดูแลกระบวนการนี้เอง”“แต่บริษัท เซเวียร์ ไม่ใช่…”เจย์ร
สแตนลีย์ เบล หยุดเดินทันทีเมื่อเห็นแจ็คอยู่หน้าประตูของบริษัทเขา“สแตนลีย์”สแตนลีย์ยิ้ม “ฮะ นั่นแจ็คหนิ ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้จิตวิญญาณของนายไม่ยอมพ่ายแพ้ใครเสียด้วย”แจ็คยิ้มและพูดว่า “และฉันก็ได้ยินมาว่าตำแหน่งของนายในบริษัท เบล กำลังตกอยู่ในอันตรายเหมือนกันหนิ”สแตนลีย์ขมวดคิ้ว “อืมมม และนั่นคือทั้งหมดที่ต้องขอบคุณลูกชายของนายเลยล่ะ ตำแหน่งประธานของฉันตอนนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าชื่อตำแหน่ง”แจ็คเอนตัวเข้าใกล้สแตนลีย์ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “สแตนลีย์ นายอยากจะแก้แค้นไหม?”สแตนลีย์เคยได้ยินข่าวลือว่าแจ็คและเจย์ได้ตัดขาดความสัมพันธ์จากกัน ตอนนี้เขาเดาได้ว่ามันเป็นความจริง“แจ็ค นายอยากจะช่วยฉันเหรอ?”แจ็คตอบว่า “ทำไมเราไม่ไปคุยกันที่อื่นล่ะ?”ชายทั้งสองคนได้เดินเข้ามาในห้องทำงานของสแตนลีย์ และแจ็คกล่าวว่า “สแตนลีย์ ตราบใดที่นายเต็มใจสนับสนุนฉันเรื่องหนึ่ง ฉันสาบานได้เลยว่าฉันสามารถช่วยให้นายกลับมาควบคุมบริษัท เบล ทั้งหมดได้อีกครั้ง”“นายต้องการอะไร?”“เพื่อให้บริษัท อาเรส และแกรนด์ เอเซียแตกแยกกัน บริษัท อาเรส ได้หยุดผลิตชิ้นส่วนที่แกรนด์ เอเซียใช้ในการทำชิปของตน พวกเขา
ในคราวนี้ดูเหมือนว่าแจ็คถูกบังคับให้ยอมรับความพ่ายแพ้เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมการมองการณ์ไกลและความละเอียดรอบคอบของเจย์เมื่อต้องรับมือกับปัญหาเหล่านี้เกรย์สันยิ้มให้เมื่อเขาเดินจากไปในขณะที่ เขามองดูร่างผอมบางของเกรย์สันเดินจากพวกเขาไป แจ็คก็พุ่งออกไปและตามเขาไปติด ๆ ในทันที เกรย์สันเพิ่งเดินเข้าไปในลิฟต์ในเวลาเดียวกันกับที่แจ็ครีบวิ่งเข้าไปข้างในกับเขาด้วย“คุณท่านมีอะไรจะพูดกับผมหรือเปล่าครับ?”แจ็คลังเลก่อนจะพูดว่า “เกรย์สัน ฉันรับรู้ได้ถึงความสามารถของนาย นายควรไหลไปตามสถาณการณ์ก็พอนะ แกรนด์ เอเซียไม่ยิ่งใหญ่อย่างที่เคยเป็นแล้ว ตอนนี้ เจย์เป็นอัมพาตที่ขาทั้งสองข้างไปแล้วด้วย และนายก็ได้สูญเสียการสนับสนุนจากบริษัท อาเรส อีก แกรนด์ เอเซียไม่สามารถอยู่ทนไปได้นานหรอกนะ อย่างไรก็ตาม หากนายยินดีที่จะเข้าร่วมกับเราที่บริษัท อาเรส ฉันสัญญาเลยว่าฉันจะปฏิบัติต่อนายเป็นอย่างดี”เกรย์สันยิ้มเจื่อน ๆ “คุณท่านครับ เมื่อเห็นว่าคุณปฏิบัติต่อผมดีเพียงใด โปรดพิจารณาว่ามันเป็นความกรุณาที่ผมกำลังเตือนคุณถึงสำนวนที่ว่า ‘ให้เพื่อนของคุณอยู่ใกล้ แต่ให้ศัตรูของคุณอยู่ใกล้ตัวยิ่งกว่า’ ถ้าคุณต้องการ
คุณท่านยอร์กหัวเราะดังลั่น “เจ้าหนูอย่าได้เอาเรื่องวันนี้ไปพูดกับใครเชียวล่ะ”“ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ คุณท่านยอร์ก…”คุณท่านยอร์กเอามือไขว้หลังและเดินอย่างสบาย ๆ ไปยังห้องสมุดในห้องสมุดตรงส่วน 48 นั้นดูเละเทะมาก บรรณารักษ์พยายามเก็บกวาดมานานมากและตอนนี้ก็กำลังหอบเพราะความเหนื่อยคุณท่านยอร์กพูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “แค่มาขโมยหนังสือต้องทำให้ที่นี่เละเทะขนาดนี้เลยเหรอ? ดูสิว่าหมอนั่นทำให้ลูกศิษย์ของฉันต้องเหนื่อยแค่ไหน…”หลังจากแสร้งทำท่าเป็นห่วงเป็นใยเสร็จแล้ว คุณท่านยอร์กก็ถาม “มีอะไรหายไปบ้าง?”บรรณารักษ์ตอบอย่างสงบเสงี่ยม “สมุดบันทึกรายชื่อผู้อาศัยหายไปครับคุณท่าน”สีหน้าคุณท่านยอร์กเคร่งเครียดทันที “ดูเหมือนว่าเขาจะมาที่นี่เพราะองค์กรโลกาวินาศ”จากนั้นเขาก็เดินจากไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดขณะเดียวกันเจย์ก็ตามมาอยู่กับเซย์นขณะที่เขากำลังขุดเม็ดต้นชุมเห็ดและรวบรวมดอกสายน้ำผึ้งก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับทันทีที่พวกเขามาถึงสวนสายลมสดชื่น เจย์กับเซย์นก็โดนพวกคอร์เวตต์ของป้อม 48 ล้อมไว้“โคลเป็นคนสั่งเหรอ?” เจย์ถามนิ่ง ๆคาร์สันเดินออกมาจากกลุ่มคอร์เวตต์โดยที่มีมือหนึ่งกุมท้องไว้
คาร์สันกลืนน้ำลาย เขารู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในถ้ำสิงโต เขาตอบไปด้วยเสียงสั่นเทา “พูดตามตรงนะครับคุณเซเวียร์ เรื่องโชคร้ายและการล่มสลายของตระกูลอาเรสเมื่อสามปีก่อน คุณเองก็อยู่ในรายชื่อที่ต้องโดนจัดการด้วยเพราะว่าคุณเป็นลูกสะใภ้ของพวกเขา แต่ว่านายน้อยนั้นหลงรักคุณหัวปักหัวปำจนเขายอมสละนิ้วก้อยของตัวเองเพื่อช่วยคุณไว้”“ส่วนลูก ๆ ของคุณนั้น นายน้อยก็ตั้งใจว่าจะหักนิ้วตัวเองสามนิ้วเพื่อช่วยพวกเขาไว้ แต่ต้องขอบคุณที่คุณบอกความจริงมาในตอนท้าย เพราะว่าในตัวของนายน้อยและคุณหนูพวกนั้นมีสายเลือดของยอร์กไหลเวียนอยู่ ทำให้พวกเขาได้รับการถอดชื่อออกจากรายการสังหาร”“ตอนที่นายน้อยจากมา เขาไม่ได้พาใครกลับมากับเขาด้วย”แองเจลีนสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเรื่องที่เขาบอก“ถ้าเป็นแบบนั้น มีคนชื่อปีศาจอยู่ในป้อมตระกูลยอร์กไหม?” แองเจลีนถามอีกครั้งคาร์สันพึมพำ “ปีศาจ” เขาส่ายหน้าอย่างแรง “ไม่มีคนแบบนั้นในป้อมตระกูลยอร์กนะครับ คุณเซเวียร์”มือแองเจลีนที่ซุกอยู่ใต้แขนเสื้อสั่นเทา “ฉันเชื่อนายได้ใช่ไหมคาร์สัน?”คาร์สันสาบาน “ผมไม่มีความกล้าพอที่จะโกหกคุณหรอกครับคุณเซเวียร์ ใครจะรู้ว่าสักวันคุณอาจจะกลายเป็นนาย
หากมีใครต้องการหาหนังสือสักเล่มแบบเฉพาะเจาะจงในนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร โชคดีที่เจย์มีแผนที่ในหัวคอยนำทาง เขารู้ว่าสมุดบันทึกรายชื่อประชากรอยู่ในชั้นหนังสือส่วนของป้อม 48ตอนนั้นมีคนเหมือนตุ๊กแกตัวใหญ่เกาะอยู่ที่ชั้นหนังสือตู้ที่ 48 ขาของเขาเลือดไหลไม่หยุด เขาหยิบชุดปฐมพยาบาลที่พกติดตัวออกมาจากนั้นก็ทายาและพันผ้าพันแผลเพื่อหยุดเลือดเจย์เดินผ่านยามห้องสมุดและแอบเข้ามาด้านในเมื่อเข้ามาถึงตู้หนังสือส่วนของป้อม 48 เจย์ก็เริ่มมองหาสมุดบันทึกรายชื่อประชากรบนชั้นหนังสือ ทันใดนั้นก็มีร่องรอยสีแดงเลือดบนหน้าหนังสือที่สะดุดตาเจย์ เขาแตะรอยสีแดงบนหน้าหนังสือนั้นด้วยนิ้วมือและรู้สึกได้ถึงความชื้น เจย์ตื่นตัวระวังภัยทันใดนักฆ่าที่บาดเจ็บต้องซ่อนอยู่ข้างบนแน่เขาคาดเดาเช่นนั้นทันใดนั้นเจย์ก็มีความคิดดี ๆ แวบเข้ามาในหัว เขารวบรวมกำลังและฟาดมือใส่ชั้นหนังสือทันทีทันใด รังสีสังหารอย่างรุนแรงก็พุ่งตรงเข้ามาใส่เขาเจย์หมุนตัวด้วยความเร็วแสงและหลบพ้นคมมีดของนักฆ่าไปได้เจย์มองนักฆ่าที่ใส่ชุดพรางตัวสีดำพร้อมดึงหมวดฮู้ดขึ้นคลุมศีรษะ ทั้งปาก จมูก และตาต่างก็ปกปิดไว้มิดชิด ความคิดที่ว
จู่ ๆ เซย์นก็ยกมือกุมหน้าผากและบอกว่า “ผมมึนหัว”จากนั้นเขาก็ทรุดลงตรงหน้าเจย์ดังตึงเจย์แหย่ว่า “ชาดีจริง ๆ ตาเฒ่า มันทำคนสลบได้เร็วมากจนผมแปลกใจเลย”ชายชรามองเจย์อย่างพิจารณา ชายหนุ่มคนนี้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับน้ำชาแต่ว่ายังคงคุยกับตาเฒ่าต่อเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอที่คนกล้าเยาะเย้ยเขาอย่างไม่ร้อนรนในอาณาเขตของตระกูลยอร์กเช่นนี้ชายชราชื่นชมความใจเด็ดและกล้าหาญของเจย์“บุคลิกท่าทางของแกถูกใจฉันมากเจ้าหนุ่ม ฉันชื่นชม แกชื่ออะไร?”เจย์ยิ้มออกมาเล็กน้อย “เบ็น”ชายชราถามอย่างงงงวย “ไม่มีนามสกุลเหรอ?”เจย์พยักหน้าและตอบอย่างไม่แยแส “มี”เขาพูดต่อ “ผมนามสกุลยอร์ก”ชายชรามองเจย์อย่างไม่พอใจ “หากว่าแกอยากจะหลอกฉัน อย่างน้อยก็ต้องทำให้มันถูกหน่อย”เจย์เทน้ำชาเย็นชืดทั้งหมดในกาออก จากนั้นก็เติมเองจากนั้นเขาก็ทำท่าเอาอกเอาใจชายชรา “ชาที่ผมชงนี้สดชื่นกว่าของคุณ อยากจะลองชิมสักถ้วยไหม?”ชายชราคว้าใบชามาเต็มกำ ก่อนหยิบส่วนหนึ่งใส่ในกาน้ำชาและบอกว่า “นี่ไง สมบูรณ์แบบแล้ว”เจย์ยกถ้วยชาขึ้นมา “โชคชะตานำพาเรามาพบกันตาเฒ่า ขอชนแก้วให้กับโชคชะตาอันน่าทึ่ง
เพื่อให้แน่ใจว่าโคลจะไม่เข้ามาขวางทาง แองเจลีนก็บอกกับคาร์สันอีกครั้ง “เข้ามาสิคาร์สัน เข้ามาคุยกันหน่อย”คาร์สันมองเจย์และเซย์นที่ตอนนี้เดินจากไปไกล หลังจากใจลอยไปชั่วครู่ เขาก็เดินตามแองเจลีนเข้าไปในบ้าน“โจเซฟิน ช่วยเอาชามาให้คาร์สันหน่อย”โจเซฟินใช้เวลาพักหนึ่งในการรินชาและส่งถ้วยให้คาร์สัน คาร์สันวางถ้วยชาลงบนโต๊ะและบอกว่า “คุณเก่งเรื่องหันเหความสนใจใช่ไหมครับ คุณเซเวียร์?”แองเจลีนไม่ได้รู้สึกร้อนรนอะไรแม้ว่าคาร์สันจะมองแผนเธอออก เธอบอกว่า “ฉันก็แค่อยากจะคุยกับเพื่อนเก่าเท่านั้นคาร์สัน นายวัดหัวใจของคนที่ยอดเยี่ยมด้วยหัวใจแสนทรามได้ยังไงกัน? ฉันเองก็คงไม่ได้คาดหวังกับคนกระจอกอย่างนายไว้สูงหรอก”คาร์สันทำปากง้ำ เขาคงลืมไหว้ขอความโชคดีก่อนออกจากบ้านมาเมื่อเช้าแน่ เพราะพอตื่นขึ้นมา เขาก็เจอแต่เรื่องแย่ ๆ และคำพูดทิ่มแทงของทั้งเบ็นและแองเจลีน“คุณเซเวียร์ ให้ผมบอกความจริงก็คือว่าในป่านั้นมีสัตว์ป่ามากมาย หากว่าไม่มีคนของผมนำทางไป บอดี้การ์ดของคุณก็อาจจะหาทางออกจากป่าไม่ได้เมื่อเข้าไปแล้ว”ในใจของแองเจลีนนั้นตื่นตระหนกไปวูบหนึ่ง แต่เมื่อเธอจำได้ว่าเจย์บี้มีแผนที่ของโคลอี้เป็นตั
เจ้าชั่วโคลนั่นส่งคนมาคอยเฝ้าที่นี่ไว้โดยทำทีว่ามาคอยเฝ้ายามที่สวนสายลมสดชื่นเจย์เริ่มคิดหาหนทางจะหนีออกไปจากสวนสายลมสดชื่นเพื่อที่ว่าเขาจะได้ไปหาทะเบียนรายชื่อของผู้อาศัยในป้อมยอร์กแองเจลีนเรียกเขาเบา ๆ “เบ็น” เสียงเธอนั้นอ่อนโยนและแฝงความรักใคร่เจย์หันหลังมาและเดินเข้าไปหา“แองเจลีน”แองเจลีนจับสังเกตทิศทางจากเสียงและเดินเข้าไปหาเขาเจย์รีบเร่งฝีเท้าและคว้ามือเธอไว้พร้อมกระซิบว่า “จากที่ฉันเห็นตอนนี้ นายท่านยอร์กคงสงสัยว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับนักฆ่าเมื่อคืนนี้ เขาส่งคนมาคอยเฝ้าล้อมสวนสายลมสดชื่นไว้แล้วเช้านี้”แองเจลีนวิเคราะห์สถานการณ์และบอกว่า “นายท่านยอร์กนั้นรับผิดชอบส่วนหน้าของป้อมตระกูลยอร์กแล้วเขาก็ไม่มีเวลามาเฝ้าป้อม 48 หรอก ดังนั้นโคลยังเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ ทำไมเราไม่ล่อเขาไปที่อื่นล่ะ? ฉันจะหาวิธีดึงไว้ให้โคลไม่ว่างมาสนใจตอนที่คุณออกไปทำทีเป็นว่าหาสมุนไพรมาให้ฉัน…”เจย์บีบแก้มแดงปลั่งของแองเจลีนเบา ๆ “เธอนี่มันฉลาดขึ้นทุกวันเลยใช่ไหมเนี่ย?”แม้ในใจเขาจะเห็นว่าเธอเป็นเพียงแกะน้อยไม่รู้เรื่องราวใด ๆ ในโลกนี้แองเจลีนยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณสอนฉันมาดีนี่คะ”
โคลรู้สึกใจคอปั่นป่วนขึ้นมาเมื่อเห็นแววตากระหายเลือดของสเปนเซอร์ “พ่อ แองเจลีนเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ พ่อก็เห็นว่าตอนนี้สายตาเธอมองไม่เห็นด้วยซ้ำ”ตอนที่เขาพูดเรื่อง ‘สายตามองไม่เห็น’ โคลก็อารมณ์ท่วมท้นจนสะอึก “มันเป็นความผิดของผมเอง ผมฆ่าสามีของเธอ แล้วเธอก็ร้องไห้จนตาบอด ผมติดค้างเธอมากเหลือเกิน”สเปนเซอร์พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “แกมันใจอ่อนไป แกเองก็เห็นว่าบอดี้การ์ดของเธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ดูจากทักษะของผู้ชายที่ชื่อเบ็นนั่น เขาสามารถก่อยิ่งกว่าหายนะให้กับป้อมตระกูลยอร์กแน่”โคลอธิบาย “เธอตาบอด เธอก็ต้องมีคนแบบนั้นไว้คอยปกป้องสิ”สเปนเซอร์บอกว่า “ฉันคิดว่าความรักทำให้แกตาบอดแล้ว ลองคิดดูสิ ผู้ชายชื่อเบ็นนั่นด้วยความสามารถของเขาสามารถไปได้ไกลมากแน่ แต่ทำไมเขาถึงเลือกที่จะอยู่ข้างกายผู้หญิงเหมือนพวกขี้ขลาดไร้ประโยชน์ด้วย?”โคลบอกว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด เบ็นอาจจะเป็นบอดี้การ์ดที่หลานชายคนโตของตระกูลอาเรส เจย์ อาเรส มอบไว้ให้แองเจลีน เจย์นั้นเป็นคนก่อตั้งหน่วยภูติผี หลังจากที่เขาตายพวกสมาชิกหน่วยภูตผีก็สาบานว่าจะภักดีและทุ่มเทให้แองเจลีน”สเปนเซอร์นั้นโมโหมากจนเขาคว้ากาน้ำชาปาใส่โคล “แก ไอ
พวกคอร์เวตต์หากันทั้งคืนแต่ว่าก็หานักฆ่าไม่เจอ ราวกับว่าเขาระเหยหายตัวไปในอากาศวันต่อมาสเปนเซอร์ก็มาที่ป้อม 48เขาเรียกโคลไปที่ห้องลับและถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “โคล นักฆ่าเมื่อคืนมันผ่านกับดักหลายชั้นที่เราติดตั้งไว้ในเขามุกเข้ามาได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นนักสู้ที่ฝึกมาเป็นอย่างดี พอมาคิดเรื่องนี้แล้ว นักฆ่าโผล่มาทันทีหลังจากที่แองเจลีนมา เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาร่วมมือกันประสานจากด้านใน?”โคลยังคงนิ่งเงียบ…สเปนเซอร์ดูงงงวย “แองเจลีนก็เป็นแค่นักธุรกิจหญิงเก่งฉกาจจากเมืองอิมพีเรียล แต่ว่าบอดี้การ์ดของเธอก็เก่งพอที่จะคว้ามีดสั้นของฉันได้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงต้องมีคนเก่งกาจขนาดนั้นอยู่ข้างกายด้วย?”โคลก็ยังคงนิ่งเงียบ…เมื่อสเปนเซอร์เห็นว่าโคลไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ดวงตาเขาก็ยิ่งฉายแววสงสัย “นี่แกกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่าโคล?”มีแววอ่อนล้าในน้ำเสียงของโคล “ผมบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว”สเปนเซอร์มองโคลอย่างไม่พอใจ “หมายความว่ายังไงที่ว่าบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว? แกอยู่ที่เมืองอิมพีเรียลตั้งครึ่งปี แล้วพอแกกลับมาบ้านแกก็พูดแค่สามเรื่อง แกบอกว่าทำลายตระกูลอาเรสกับอสังหาริมทร
เด็กหนุ่มซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอร็อบบี้น้อยก็ทำแบบเดียวกันเวลาที่เขาทำอะไรผิดมา เขามักจะกอดเอวเธอแน่นที่สุดเท่าที่ทำได้และทำท่าเป็นเด็กขี้อ้อนเอาแต่ใจ ‘ผมผิดไปแล้วแม่จ๋า อย่าโกรธผมเลยนะ’ เขาจะพูดแบบนี้จากนั้นเธอก็ตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามโดยการฉีกเสื้อเธอออกเผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่า เธอยื่นแขนออกมานอกผ้าห่มแล้วเธอก็แสร้งทำเป็นร้องถามเสียงงัวเงีย “เกิดอะไรขึ้นเหรอเบ็น?”พอเจย์ได้ยินเสียงแองเจลีน เขาก็เปิดประตูเข้ามาเมื่อได้เห็นหน้าอกและแขนของเธอยื่นออกมานอกผ้าห่อม เจย์ก็ปิดประตูอย่างรวดเร็วแต่ถึงอย่างนั้นโคลก็ยังแอบเห็นภาพน่าตื่นตาภายในห้องอยู่ดีเจย์จ้องโคลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อโคลครุ่นคิดว่าหากแองเจลีนไม่ได้ตาบอด เมื่อกี้เธอจะต้องกรีดร้องออกมาเพราะความอับอายเป็นแน่โคลถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาเธอกันแน่?”“เธอร้องไห้มากจนตาบอด” เจย์ตอบห้วน ๆน้ำเสียงเขาแฝงโทสะและความรู้สึกโทษตัวเองโคลอี้งไปเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าเขาก็ฉายความรู้สึกผิดจังหวะนั้นพวกคอร์เวตต์ที่ค้นหาบริเวณบ้านก็เดินส่ายหน้าออกมา “เราไม่เจออะไรผิดปกติ”โคลสั่ง “ไปหาที่อื่นต่อ”เมื่อพวกคอร์เ