“กัดเธอ? ฉันไม่มีทางเอาปากของฉันไปใกล้อะไรก็ตามที่โสโครกแบบเธอหรอกนะ” เจย์ยักคิ้วอย่างยียวนเขาลุกขึ้นจากเก้าอี้หมุนที่บุด้วยหนังสีดำและเดินเข้าใกล้โรสทีละก้าวๆ เขาเหยียดตามองโรสด้วยความยะโสจากความสูง185ซม.ของเขา“เอาล่ะ โรส เธอจะชดใช้สิ่งที่เธอทำกับฉันเมื่อห้าปีก่อนยังไงดีล่ะ?” เจย์กล่าวอย่างน่าขนลุกความทรงจำของคืนนั้นยังคงแจ่มชัดในหัวของโรส ห้าปีที่แล้ว ด้วยความกล้าหาญบางส่วนที่มาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให้เธอ…เธอวางยาเขา จากนั้นเธอก็…“ฉ-ฉันจ่ายค่าชดเชยให้นายไปแล้ว!” โรสพยายามแบบสุด ๆ ที่จะโน้มน้าวเศรษฐีผู้นี้กลิ่นอายของความหงุดหงิดเริ่มปรากฏขึ้นบนสีหน้าอันมืดมนของเจย์“เอาเป็นฉันจ่ายคืนให้เธอสิบเท่าเลย แต่เธอต้องไปนอนกับผู้ชายคนอื่นเป็นไง หืม?” เจย์เอื้อมมือออกไปคว้าแก้มน้อยๆของเธอ ความโกรธของเขาเป็นเหมือนราชสีห์ที่ยังไม่ถูกปลุก มันพร้อมที่จะเข้าตะครุบเหยื่อได้ตลอดเวลาโรสสังเกตเห็นประกายสีแดงฉานในตาของเขา ชายคนนี้ดูเหมือนนักล่าที่ทำให้เธอตัวแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว“นายต้องการอะไร?” มือของเจย์เลื่อลงไปที่คอเสื้อของเธอไปก่อนที่เขาจะกระชากเดรสที่ทำจากผ้าฝ้ายลินินอย่างแรง เ
เจย์ฉุดโรสให้ลุกขึ้นแล้วโยนเธอลงไปใต้โต๊ะ เขาดึงไทด์สีน้ำเงินของเขาออกแล้วใช้มันมัดแขนของเธอไว้กับขาโต๊ะจากนั้นเขาก็คว้าผ้าขี้ริ้วบนโต๊ะขึ้นมา และใช้มันอุดปากของโรสสิ่งที่โรสพอจะทำได้คือการใช้สองเท้าของเธอถีบเจย์อย่างต่อเนื่องโชคไม่ดีเท่าไหร่ การดิ้นรนของเธอไม่ค่อยมีประโยชน์นัก จากความแตกต่างด้านความแข็งแรงของทั้งสองที่มากเกินไปด้วยความที่เหยื่อของเขาถูกพันธนาการไว้แล้ว เจย์แสยะยิ้มขึ้น “โรส เธอควรจะซื่อสัตย์กับฉันนะ” เขาเตะเข้าที่ขาสั้น ๆ ที่สั่นระริกของเธออย่างป่าเถื่อนหลังจากสะใจจนพอหอมปากหอมคอแล้ว เขาจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างสบายใจแล้วโทรหาเจ้าหนุ่มน้อยของเขาโรสถูกทิ้งไว้พร้อมกับผมเผ้าที่กระเซอะกระเซิง ชุดที่ฉีกขาด และท่อนขาที่เคยขาวเนียนก็ถูกแทนที่ด้วยรอยฟกช้ำเธอจ้องมองไปที่เจย์ด้วยความไม่พอใจ และส่งเสียงครวญครางแสนอู้อี้จากปากที่ถูกอุดไว้ของเธอ ยังไงก็ตาม เธอไม่ได้ร้องไห้หรืออะไรทำนองนั้นเลยเสียงโหยหวนที่ฟังไม่รู้เรื่องของเธอ ความจริงแล้วมันคือสารพัดคำด่าที่มอบให้เจย์ อย่างการสาปแช่งให้เขาถูกรถชนตอนอยู่ที่ถนน หรือถูกคลื่นสึนามิกลืนหายไปเมื่อเขาอยู่ที่ทะเล และแม้แ
พยาบาลฝ่ายต้อนรับที่โต๊ะสังเกตเห็นเด็กน้อยเข้า เขามีศรีษะที่ปกคลุมด้วยผมสีดำทรงเสน่ห์ และใส่เสื้อยืดสีขาวที่มีรูปชุดเกราะถูกสกรีนอยู่บนอก พร้อมด้วยกางเกงวอร์มสีดำและหน้ากากอนามัยสีดำเช่นกันด้วยลุคสีขาวดำจากเสื้อผ้าหน้าผม ทำให้เขาดูมีสไตล์อย่างมาก ราวกับว่าเขาเป็นผลงานศิลปะจากศิลปินเอก ในจินตนาการของพยาบาลสาว เขาดูเหมือนเจ้าชายที่หลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูนเลยทีเดียว‘เด็กคนนี้น่ารักสุดๆเลย!’ “หนูกำลังตามหาใครอยู่จ้ะ หนุ่มน้อย?” คุณพยาบาลได้เข้ามาหาเขาและกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มอบอุ่น เสียงของเธอฟังดูอ่อนโยน“ผมกำลังตามหาคุณ—คุณพ่อของผมอยู่ครับ!” เด็กชายกล่าวโดยสัญชาตญาณ‘คุณแม่บอกว่าเราควรระวังเวลาที่อยู่ข้างนอก’‘ห้ามบอกความจริงกับใคร ยกเว้นกับคุณตำรวจ แน่นอนอยู่แล้ว’หนุ่มน้อยเงยหน้ามองพยาบาลด้วยใบหน้าใสซื่อ “คุณผู้หญิง คุณพอจะรู้ไหมครับว่าคุณพ่อผมอยู่ไหน?”เมื่อพยาบาลร่างเล็กพิจารณาใบหน้าของเด็กชาย ด้วยดวงตากลมโตที่ถูกบดบังอยู่ใต้หน้ากากอนามัย เธอตกใจพร้อมกับรู้ได้ทันที ‘ตาพวกนั้นเหมือนกับตาของคุณอาเรสผู้เย็นชาเลย!’ยังไงก็ตามแต่ คุณอาเรสนั้นมีใบหน้าจริงจังเป็นเครื่องหมายการ
เพียงแค่นั้น เขาก็เข้าใจว่าหุ่นเลโก้นั้นถูกสร้างออกมาให้เหมือนหญิงสาวที่งดงาม‘เจ้าหนูนี่คิดถึงแม่ของเขาอีกแล้วเหรอ?’ เขาคิดด้วยความโมโห“เจนสัน ลูกอย่างเจอคุณแม่จริง ๆ เหรอ—” เขาโพล่งอออกไปโดยไม่คิดเจนสันยืนอยู่ที่บันไดด้วยความบูดบึ้ง ร่างเล็กจิ๋วของเขามองดูดื้อรั้นและเปลี่ยวเหงาเป็นพิเศษ เขาหันหลังกลับมามองที่เจย์ก่อนจะพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมเจย์ถึงกับเม้มปากแน่น เขาควรจะเรียกตัวเองว่าเป็นคนโชคดีที่ยังไม่จับโรสโยนลงไปในซ่องซะก่อน ไม่งั้นล่ะก็ ด้วยความเห็นแก่ตัวโดยธรรมชาติของเจนสัน เขาจะไม่มีทางให้อภัยเจย์แน่หากเขาพบว่าพ่อของเขารังแกคุณแม่ยังไงก็ตาม—ที่เจนสันคิดถึงแม่มากขนาดนี้ก็เป็นเพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเจย์เองไม่กี่ปีก่อน เจย์ยังเข้าใจว่าโรสตายไปแล้ว และไม่ต้องการให้เจนสันใช้ชีวิตอยู่ในโลกด้วยความเคียดแค้น เขาจึงสร้างเรื่องโกหกขึ้นมาว่าคุณแม่ยังคงรักเขาในทุก ๆ วันและใช่ เจย์เพิ่งได้รู้ความจริงที่น่าตกใจมาก โรสยังมีชีวิตอยู่และแถมยังสบายดีอีกด้วยในขณะที่เจย์กำลังใคร่ครวญว่าจะพาเจนสันไปหาโรสดีหรือไม่ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นปลายสายที่โทรเข้ามาคือผู้ช่วยของเขา เก
หลังจากการอธิบายแผนการและรายละเอียดอันยืดยาว เกรย์สันมองไปที่คุณอาเรสด้วยความภาคภูมิใจและคาดหวังในขณะที่เขากำลังคิดว่าเจย์กำลังจะชมเขาในความฉลาด เจย์กลับจ้องเขาด้วยสายตาคมกริบที่ดูเหมือนมีดมากมาย“ย้ำคิดย้ำทำ? ออทิสติก?” เสียงของเจย์ฟังดูสงบแต่มันกลับมีความโกรธซ่อนอยู่ในน้ำเสียงของเขาหน้าผากของเกรย์สันเริ่มหลั่งเหงื่อออกมาเป็นหยด ๆเกรย์สันกัดลิ้นของเขาเอง แม้ว่าท่านเจนสันจะเรื่องเยอะและเป็นเด็กเจ้าปัญหา แต่เขายังคงเป็นลูกชายสุดรักของคุณอาเรสอยู่ คนเดียวที่จะสามารถวิพากษ์วิจารณ์ท่านเจนสันได้คือตัวคุณอาเรสเองเท่านั้นถ้ามีใครกล้าปากเสียใส่ท่านเจนสันล่ะก็ โดยพื้นฐานแล้ว นั่นคือการขุดหลุมฝังตัวพวกเขาเองแน่อยู่แล้ว เจย์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอันตราย “เกรย์สัน ดูเหมือนนายจะรู้จักเจนสันเป็นอย่างดี ทำไมฉันไม่มอบความรับผิดชอบในการดูแลเจนสันให้นายเลยดีล่ะ?”ทันทีที่เจย์พูดจบ เกรย์สันพลันหน้าเสียและรีบร้องขอความเมตตา“คุณอาเรส ผมมีครอบครัวต้องดูแล ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย ท่านเจนสันเพิ่งจะทำให้คนขับรถสิบเอ็ดคนลาออกไปภายในสิบเจ็ดวันที่ผ่านมา สามคนมีอาการความดันโลหิตกำเริบ สองคนในนั้นได้
ทันทีที่เจย์ได้รับแจ้ง เขาก็เปิดหน้าหลักของโรงพยาบาลแกรนด์เอเชียเมื่อเขาเห็นความท้าทายอันน่าเร้าใจ ใบหน้าของเขาดูเหมือนจะฆ่าคนได้เลย“มาสเตอร์ร็อบบี้?” เจย์หรี่ตาและเม้มริมฝีปากของเขาให้บางลงอย่างอันตราย "ฮิฮิ ฉันใจดีเกินไปหรือเปล่า? จึงทำให้คนบางคนไม่กลัวที่จะขุดหลุมฝังศพตัวเองใช่ไหม?"อุณหภูมิในห้องดูเหมือนจะต่ำลงกว่าศูนย์องศาและทุกคนต่างก็กลั้นหายใจ ทุกคนกลัวว่าพวกเขาจะตกเป็นเหยื่อคนต่อไปของความโกรธแค้นของประธาน‘ใจดีเกินไปใช่ไหม? ใคร คุณอาเรสน่ะเหรอ?’ เกรย์สันคิดอยู่ในหัวของเขาคนเดียว ‘ทุกคนยอมรับว่าเขาคือราชาแห่งนรกที่กลับชาติมาเกิด คงไม่มีใครกล้าแตะเส้นผมของเขาแม้แต่เส้นเดียว!’แน่นอนว่ายกเว้นโรสที่อยากรู้อยากเห็นพลังของเจย์ การจ้องมองอันเยือกเย็นที่รู้สึกได้ระหว่างเกรย์สันและจอภาพ "นายหาหรือยังว่ามาสเตอร์ร็อบบี้คนนี้คือใคร?"เกรย์สันก้มศีรษะลง เขากล่าวอย่างขายหน้าว่า "แผนกเครือข่ายของเราได้ส่งแฮกเกอร์ที่ดีที่สุดของเราไป แต่เราไม่สามารถผ่านไฟร์วอลล์ของแฮ็กเกอร์ได้ ขณะนี้เรายังไม่พบข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับมาสเตอร์ร็อบบี้คนนี้ครับ"ใบหน้าหล่อเหลาของเจย์มืดลง เขาพูดอย่างเย็นชา
ชุมชนเจิดจรัสเมื่อโรสได้รับสายโทรศัพท์จากโรงพยาบาลแกรนด์เอเชียอย่างกะทันหัน เธอหวาดกลัวทันทีว่าโรงพยาบาลจะปฏิเสธที่จะรักษาแม่ที่ป่วยหนักของเธอ"คุณโรส เรามียินดีที่จะแจ้งให้คุณทราบว่าใบสมัครที่คุณได้ส่งไปยังโรงพยาบาลของเราเมื่อวานนี้ได้รับการยอมรับแล้ว เนื่องจากกรณีของแม่ของคุณมีลักษณะพิเศษทางโรงพยาบาลจึงได้ยกเว้นให้เธอได้รับรักษาตัวในโรงพยาบาลแกรนด์เอเชีย เราได้ย้ายผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลไว้ล่วงหน้าแล้ว กรุณาจ่ายค่ารักษาในโรงพยาบาลสามแสนหยวนภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนี้ค่ะ"โรสนิ่งอึ้งไปเมื่อเธอไปที่แกรนด์เอเชียเพื่อยื่นใบสมัครให้แม่ของเธอเข้ารับการรักษามื่อวานนี้ เธอถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ไม่เข้าใจหลายประการ อย่างไรก็ตามจากนั้นแกรนด์เอเชียได้ย้ายแม่ของเธอไปโรงพยาบาลอย่างน่าอัศจรรย์ในวันนั้นเองโดยไม่ได้แจ้งให้เธอทราบมีเพียงคำอธิบายเดียวเท่านั้น—เจย์มีส่วนร่วม โรสต่อว่าไปที่ปลายสายทันทีด้วยความโกรธ "ใครให้คุณอนุญาตให้ย้ายแม่ของฉันไปโรงพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณควรพาแม่ของฉันกลับไปยังที่ที่เธอย้ายมาดีกว่าไม่อย่างนั้นฉันจะฟ้องร้อง"ทันใดนั้นเสียงเย็นชาก็ดังมาจากปลายสายของอี
ในขณะที่เขาพูดประตูก็ถูกผลักเปิดออกและเลขาสาวสวยผู้น่าดึงดูดก็โผล่หน้าเข้ามาเลขากล่าวด้วยความเคารพว่า "ท่านอาเรส มีผู้หญิงหน้าตาสวยมาหาคุณที่นี่ค่ะ" เธอดูเหมือนตื่นเต้นและซุบซิบเกรย์สันบอกเธอว่า "คุณไม่รู้หรือไงว่าที่ทำงานของทานอาเรสห้ามผู้หญิงเข้าโดยพลการ ส่งเธอออกไป"เจย์สงสัยอยู่ชั่วขณะว่านั่นเป็นผู้หญิงที่ถูกสาป โรส หรือเปล่า อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้ยินเลขาอธิบายว่าผู้หญิงคนนี้สวยเขาก็เลิกคิดธรรมดาไร้รูปร่าง โรสกับสไตล์อันล้าสมัยของเธอไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคำนั้นเลขาปิดประตูและกลับไปที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ เธอพูดอย่างเคร่งขรึม "ต้องขอโทษด้วยค่ะ ท่านอาเรสไม่รับแขกตอนนี้"โรสม้วนผมหยิกสีน้ำตาลของเธอและหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับความโกรธ จากนั้นเธอก็พูดแบบขำ ๆ ว่า "ท่านประธานของคุณเชิญฉันมาเอง หมายความว่ายังไงจะให้ฉันกลับไป? ฉันได้ทำหน้าที่ของฉันไปแล้วและยอมจำนนทำไมเขาถึงปฏิบัติกับฉันเหมือนฉันไม่ใช่มนุษย์?"เลขาตกตะลึง ตลอดหลายปีที่ทำงานในแกรนด์เอเชียมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินคนดูถูกท่านอาเรสอย่างกล้าหาญเจย์และเกรย์สันเดินออกจากห้องทำงานและมุ่งหน้าไปที่ลิฟต์ ระหว่างทางพวกเข