เพียงแค่นั้น เขาก็เข้าใจว่าหุ่นเลโก้นั้นถูกสร้างออกมาให้เหมือนหญิงสาวที่งดงาม‘เจ้าหนูนี่คิดถึงแม่ของเขาอีกแล้วเหรอ?’ เขาคิดด้วยความโมโห“เจนสัน ลูกอย่างเจอคุณแม่จริง ๆ เหรอ—” เขาโพล่งอออกไปโดยไม่คิดเจนสันยืนอยู่ที่บันไดด้วยความบูดบึ้ง ร่างเล็กจิ๋วของเขามองดูดื้อรั้นและเปลี่ยวเหงาเป็นพิเศษ เขาหันหลังกลับมามองที่เจย์ก่อนจะพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมเจย์ถึงกับเม้มปากแน่น เขาควรจะเรียกตัวเองว่าเป็นคนโชคดีที่ยังไม่จับโรสโยนลงไปในซ่องซะก่อน ไม่งั้นล่ะก็ ด้วยความเห็นแก่ตัวโดยธรรมชาติของเจนสัน เขาจะไม่มีทางให้อภัยเจย์แน่หากเขาพบว่าพ่อของเขารังแกคุณแม่ยังไงก็ตาม—ที่เจนสันคิดถึงแม่มากขนาดนี้ก็เป็นเพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเจย์เองไม่กี่ปีก่อน เจย์ยังเข้าใจว่าโรสตายไปแล้ว และไม่ต้องการให้เจนสันใช้ชีวิตอยู่ในโลกด้วยความเคียดแค้น เขาจึงสร้างเรื่องโกหกขึ้นมาว่าคุณแม่ยังคงรักเขาในทุก ๆ วันและใช่ เจย์เพิ่งได้รู้ความจริงที่น่าตกใจมาก โรสยังมีชีวิตอยู่และแถมยังสบายดีอีกด้วยในขณะที่เจย์กำลังใคร่ครวญว่าจะพาเจนสันไปหาโรสดีหรือไม่ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นปลายสายที่โทรเข้ามาคือผู้ช่วยของเขา เก
หลังจากการอธิบายแผนการและรายละเอียดอันยืดยาว เกรย์สันมองไปที่คุณอาเรสด้วยความภาคภูมิใจและคาดหวังในขณะที่เขากำลังคิดว่าเจย์กำลังจะชมเขาในความฉลาด เจย์กลับจ้องเขาด้วยสายตาคมกริบที่ดูเหมือนมีดมากมาย“ย้ำคิดย้ำทำ? ออทิสติก?” เสียงของเจย์ฟังดูสงบแต่มันกลับมีความโกรธซ่อนอยู่ในน้ำเสียงของเขาหน้าผากของเกรย์สันเริ่มหลั่งเหงื่อออกมาเป็นหยด ๆเกรย์สันกัดลิ้นของเขาเอง แม้ว่าท่านเจนสันจะเรื่องเยอะและเป็นเด็กเจ้าปัญหา แต่เขายังคงเป็นลูกชายสุดรักของคุณอาเรสอยู่ คนเดียวที่จะสามารถวิพากษ์วิจารณ์ท่านเจนสันได้คือตัวคุณอาเรสเองเท่านั้นถ้ามีใครกล้าปากเสียใส่ท่านเจนสันล่ะก็ โดยพื้นฐานแล้ว นั่นคือการขุดหลุมฝังตัวพวกเขาเองแน่อยู่แล้ว เจย์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอันตราย “เกรย์สัน ดูเหมือนนายจะรู้จักเจนสันเป็นอย่างดี ทำไมฉันไม่มอบความรับผิดชอบในการดูแลเจนสันให้นายเลยดีล่ะ?”ทันทีที่เจย์พูดจบ เกรย์สันพลันหน้าเสียและรีบร้องขอความเมตตา“คุณอาเรส ผมมีครอบครัวต้องดูแล ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย ท่านเจนสันเพิ่งจะทำให้คนขับรถสิบเอ็ดคนลาออกไปภายในสิบเจ็ดวันที่ผ่านมา สามคนมีอาการความดันโลหิตกำเริบ สองคนในนั้นได้
ทันทีที่เจย์ได้รับแจ้ง เขาก็เปิดหน้าหลักของโรงพยาบาลแกรนด์เอเชียเมื่อเขาเห็นความท้าทายอันน่าเร้าใจ ใบหน้าของเขาดูเหมือนจะฆ่าคนได้เลย“มาสเตอร์ร็อบบี้?” เจย์หรี่ตาและเม้มริมฝีปากของเขาให้บางลงอย่างอันตราย "ฮิฮิ ฉันใจดีเกินไปหรือเปล่า? จึงทำให้คนบางคนไม่กลัวที่จะขุดหลุมฝังศพตัวเองใช่ไหม?"อุณหภูมิในห้องดูเหมือนจะต่ำลงกว่าศูนย์องศาและทุกคนต่างก็กลั้นหายใจ ทุกคนกลัวว่าพวกเขาจะตกเป็นเหยื่อคนต่อไปของความโกรธแค้นของประธาน‘ใจดีเกินไปใช่ไหม? ใคร คุณอาเรสน่ะเหรอ?’ เกรย์สันคิดอยู่ในหัวของเขาคนเดียว ‘ทุกคนยอมรับว่าเขาคือราชาแห่งนรกที่กลับชาติมาเกิด คงไม่มีใครกล้าแตะเส้นผมของเขาแม้แต่เส้นเดียว!’แน่นอนว่ายกเว้นโรสที่อยากรู้อยากเห็นพลังของเจย์ การจ้องมองอันเยือกเย็นที่รู้สึกได้ระหว่างเกรย์สันและจอภาพ "นายหาหรือยังว่ามาสเตอร์ร็อบบี้คนนี้คือใคร?"เกรย์สันก้มศีรษะลง เขากล่าวอย่างขายหน้าว่า "แผนกเครือข่ายของเราได้ส่งแฮกเกอร์ที่ดีที่สุดของเราไป แต่เราไม่สามารถผ่านไฟร์วอลล์ของแฮ็กเกอร์ได้ ขณะนี้เรายังไม่พบข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับมาสเตอร์ร็อบบี้คนนี้ครับ"ใบหน้าหล่อเหลาของเจย์มืดลง เขาพูดอย่างเย็นชา
ชุมชนเจิดจรัสเมื่อโรสได้รับสายโทรศัพท์จากโรงพยาบาลแกรนด์เอเชียอย่างกะทันหัน เธอหวาดกลัวทันทีว่าโรงพยาบาลจะปฏิเสธที่จะรักษาแม่ที่ป่วยหนักของเธอ"คุณโรส เรามียินดีที่จะแจ้งให้คุณทราบว่าใบสมัครที่คุณได้ส่งไปยังโรงพยาบาลของเราเมื่อวานนี้ได้รับการยอมรับแล้ว เนื่องจากกรณีของแม่ของคุณมีลักษณะพิเศษทางโรงพยาบาลจึงได้ยกเว้นให้เธอได้รับรักษาตัวในโรงพยาบาลแกรนด์เอเชีย เราได้ย้ายผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลไว้ล่วงหน้าแล้ว กรุณาจ่ายค่ารักษาในโรงพยาบาลสามแสนหยวนภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนี้ค่ะ"โรสนิ่งอึ้งไปเมื่อเธอไปที่แกรนด์เอเชียเพื่อยื่นใบสมัครให้แม่ของเธอเข้ารับการรักษามื่อวานนี้ เธอถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ไม่เข้าใจหลายประการ อย่างไรก็ตามจากนั้นแกรนด์เอเชียได้ย้ายแม่ของเธอไปโรงพยาบาลอย่างน่าอัศจรรย์ในวันนั้นเองโดยไม่ได้แจ้งให้เธอทราบมีเพียงคำอธิบายเดียวเท่านั้น—เจย์มีส่วนร่วม โรสต่อว่าไปที่ปลายสายทันทีด้วยความโกรธ "ใครให้คุณอนุญาตให้ย้ายแม่ของฉันไปโรงพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณควรพาแม่ของฉันกลับไปยังที่ที่เธอย้ายมาดีกว่าไม่อย่างนั้นฉันจะฟ้องร้อง"ทันใดนั้นเสียงเย็นชาก็ดังมาจากปลายสายของอี
ในขณะที่เขาพูดประตูก็ถูกผลักเปิดออกและเลขาสาวสวยผู้น่าดึงดูดก็โผล่หน้าเข้ามาเลขากล่าวด้วยความเคารพว่า "ท่านอาเรส มีผู้หญิงหน้าตาสวยมาหาคุณที่นี่ค่ะ" เธอดูเหมือนตื่นเต้นและซุบซิบเกรย์สันบอกเธอว่า "คุณไม่รู้หรือไงว่าที่ทำงานของทานอาเรสห้ามผู้หญิงเข้าโดยพลการ ส่งเธอออกไป"เจย์สงสัยอยู่ชั่วขณะว่านั่นเป็นผู้หญิงที่ถูกสาป โรส หรือเปล่า อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้ยินเลขาอธิบายว่าผู้หญิงคนนี้สวยเขาก็เลิกคิดธรรมดาไร้รูปร่าง โรสกับสไตล์อันล้าสมัยของเธอไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคำนั้นเลขาปิดประตูและกลับไปที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ เธอพูดอย่างเคร่งขรึม "ต้องขอโทษด้วยค่ะ ท่านอาเรสไม่รับแขกตอนนี้"โรสม้วนผมหยิกสีน้ำตาลของเธอและหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับความโกรธ จากนั้นเธอก็พูดแบบขำ ๆ ว่า "ท่านประธานของคุณเชิญฉันมาเอง หมายความว่ายังไงจะให้ฉันกลับไป? ฉันได้ทำหน้าที่ของฉันไปแล้วและยอมจำนนทำไมเขาถึงปฏิบัติกับฉันเหมือนฉันไม่ใช่มนุษย์?"เลขาตกตะลึง ตลอดหลายปีที่ทำงานในแกรนด์เอเชียมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินคนดูถูกท่านอาเรสอย่างกล้าหาญเจย์และเกรย์สันเดินออกจากห้องทำงานและมุ่งหน้าไปที่ลิฟต์ ระหว่างทางพวกเข
ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม โรสคงไม่กล้าระบุตัวตนกับเจนสัน การได้เห็นเขานั้นเป็นพรที่เธอรู้สึกขอบคุณ"ฉันยอมรับ!" โรสกล่าวอย่างแน่วแน่เสียงดังและชัดเจนขณะที่เธอจ้องเข้าไปในดวงตาที่เป็นปฏิปักษ์ของเจย์สายตาของเธอจ้องมองไปที่ปากกาในมือของเจย์ แต่เจย์ก็จับมันแน่นราวกับว่าเขาไม่อยากจะให้เธอยืมมันเลยโรสเปิดกระเป๋าถือหนังที่ละเอียดละออของเธอเพื่อหาปากกาเซ็นสัญญาเจย์เฝ้าดูอย่างใกล้ชิดขณะที่โรสหยิบของในกระเป๋าออกมาทีละชิ้นแล้ววางไว้บนโต๊ะทำงาน ทันใดนั้นสายตาของเขาก็ตกลงไปที่ขวดเครื่องสำอางใสและเขาก็ขมวดคิ้วมองของเหลวที่มีฟองผิดปกติอยู่ข้างในนั้น‘สเปรย์พริกไทย?'ในที่สุดโรสก็รู้สึกได้ถึงปากกาที่ก้นกระเป๋าและใส่ของทั้งหมดกลับเข้าไปทีละชิ้น เมื่อเธอหยิบสเปรย์พริกไทยขึ้นมาเธอก็เห็นเจย์เย้ยหยัน“ฉันคิดว่ามีแต่ผู้หญิงที่สวยไร้สมองที่บอบบางเท่านั้นแหล่ะที่พกของแบบนั้น ฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงทุกคนเป็นเจ้าของมัน!” เจย์หัวเราะเยาะโรสไม่โกรธ แต่ยิ้มแทน "ฉันไม่ค่อยได้เอามันออกไป มันขึ้นอยู่กับว่าฉันไปที่ไหนและเจอใคร"รอยแตกปรากฏบนใบหน้าเย็นชาของเจย์ ‘เธอกล้าปากดีกับฉันเหรอ?’"เซ็นสัญญาซะ แล้วออกไปจากที่
โรสวางของขวัญเลโก้ลงบนโต๊ะตรงหน้าเจนสันและแกะกล่องออกอย่างคล่องแคล่ว เธอพยายามที่จะทำลายภูเขาน้ำแข็งกับเจนสัน ในขณะที่เธอหยิบชิ้นส่วนข้างในออกมาและเริ่มประกอบชิ้นส่วนเลโก้“เจนสัน มาแข่งกันไหม? ว่าใครจะสร้างได้เร็วกว่ากัน”เจย์เดินขึ้นไปชั้นบนและได้ยินการท้าทายที่มากเกินไปของโรสที่มีต่อเจนสัน เสียงเยาะเย้ยปรากฏบนใบหน้าของเขาเจย์ได้สอนเจนสันถึงวิธีการเขียนโปรแกรมเป็นการส่วนตัว การประกอบโมเดลเลโก้ที่ซับซ้อนที่สุดก็เป็นเเค่เรื่องกล้วย ๆ สำหรับเขา‘ผู้หญิงที่ไร้การศึกษาอย่างโรสอาจไม่เคยได้ยินเรื่องการเขียนโปรแกรมด้วยซ้ำ เธอไร้เดียงสาจริง ๆ หรือที่คิดว่าเธอจะสามารถรวบรวมโมเดลแบทแมนได้?เจนสันไม่ได้ให้คำตอบในทันทีเขาคว้าเลโก้จากมือของโรสอย่างเงียบ ๆ มองไปที่นาฬิกาบนผนังและเริ่มประกอบเข้าด้วยกันโรสดูแปลกใจ ‘เจนสันตกลงแข่งกับฉันหรือเปล่านะ?’สิ่งที่ตามมาคือการสร้างเลโก้อันยาวนาน!เจย์เปลี่ยนชุดทำงานแล้วลงไปชั้นล่าง เขาเห็นทั้งสองคนดูสงบและสามัคคีกันมากเจนสันกำลังประกอบเลโก้ของเขาในขณะที่โรสนั่งข้าง ๆ เขาดูเขาอย่างเงียบ ๆมุมปากของเจย์โค้งลงอย่างเยาะเย้ย เขาแทบจะคาดเดาได้ว่าจะเกิ
“เด็ก ๆ ไม่ควรสบถ” โรสตำหนิเจนสันอย่างติเตือนเจนสันจ้องมองเธอและเดินขึ้นไปชั้นบนล็อคประตูห้องของเขาข้างหลังเขาโรสจ้องไปที่ประตูที่ปิดอยู่และถอนหายใจอย่างเศร้า ๆ‘ฉันจะทำอย่างไรกับเจนสันดี?’เขาเป็นลูกที่เธอเป็นติดค้างมากที่สุดเธอไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรเพื่อชดเชยความรักของมารดาที่เขาถูกปฏิเสธมาหลายปีเธอเหลือบมองนาฬิกาและตระหนักว่ามันกำลังจะสายแล้วโรสเดินไปที่ห้องครัวและตัดสินใจที่จะปรุงอาหารกลางวันแสนอร่อยให้กับเจนสันตู้เย็นเต็มไปด้วยส่วนผสมต่าง ๆ แต่โรสไม่รู้ว่าเจนสันต้องการอะไร ในขณะนั้นเธอไม่เคยรู้สึกเสียใจกับเจนสันมากขึ้น—เธอล้มเหลวในฐานะแม่ของเขาในตอนสุดท้ายเธอทำอาหารสองสามอย่างที่ร็อบบี้น้อยน่าจะชอบ ‘เนื่องจากร็อบบี้น้อยและเจนสันมียีนที่เหมือนกันพวกเขาอาจมีสัมผัสรสชขาติที่เหมือนกันก็ได้!’ เธอคิดอย่างมีความหวังโรสเตรียมอาหารคาวประกอบด้วยซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวาน เนื้อตุ๋นน้ำแดง“มดไต่ต้นไม้” บะหมี่มันเทศหมูสามชั้นและซุปไข่ใส่สาหร่ายโดยทั่วไปอาหารเหล่านี้ทำในบ้านที่ต่ำต้อยโดยปกติแล้วครัวเรือนที่มีฐานะร่ำรวยเช่นตระกูลอาเรสจะไม่ค่อยมีอาหารประเภทนี้ให้กับพวกเขา