Share

บทที่ 8

Author: หยาน อัน
last update Huling Na-update: 2024-10-29 19:42:56
พยาบาลฝ่ายต้อนรับที่โต๊ะสังเกตเห็นเด็กน้อยเข้า เขามีศรีษะที่ปกคลุมด้วยผมสีดำทรงเสน่ห์ และใส่เสื้อยืดสีขาวที่มีรูปชุดเกราะถูกสกรีนอยู่บนอก พร้อมด้วยกางเกงวอร์มสีดำและหน้ากากอนามัยสีดำเช่นกัน

ด้วยลุคสีขาวดำจากเสื้อผ้าหน้าผม ทำให้เขาดูมีสไตล์อย่างมาก ราวกับว่าเขาเป็นผลงานศิลปะจากศิลปินเอก ในจินตนาการของพยาบาลสาว เขาดูเหมือนเจ้าชายที่หลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูนเลยทีเดียว

‘เด็กคนนี้น่ารักสุดๆเลย!’

“หนูกำลังตามหาใครอยู่จ้ะ หนุ่มน้อย?” คุณพยาบาลได้เข้ามาหาเขาและกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มอบอุ่น เสียงของเธอฟังดูอ่อนโยน

“ผมกำลังตามหาคุณ—คุณพ่อของผมอยู่ครับ!” เด็กชายกล่าวโดยสัญชาตญาณ

‘คุณแม่บอกว่าเราควรระวังเวลาที่อยู่ข้างนอก’

‘ห้ามบอกความจริงกับใคร ยกเว้นกับคุณตำรวจ แน่นอนอยู่แล้ว’

หนุ่มน้อยเงยหน้ามองพยาบาลด้วยใบหน้าใสซื่อ “คุณผู้หญิง คุณพอจะรู้ไหมครับว่าคุณพ่อผมอยู่ไหน?”

เมื่อพยาบาลร่างเล็กพิจารณาใบหน้าของเด็กชาย ด้วยดวงตากลมโตที่ถูกบดบังอยู่ใต้หน้ากากอนามัย เธอตกใจพร้อมกับรู้ได้ทันที ‘ตาพวกนั้นเหมือนกับตาของคุณอาเรสผู้เย็นชาเลย!’

ยังไงก็ตามแต่ คุณอาเรสนั้นมีใบหน้าจริงจังเป็นเครื่องหมายการค้าตลอดเวลา แม้จะมีรูปร่างหน้าตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์มาตั้งแต่เกิดก็ตาม แต่ก็แทบไม่มีใครหน้าไหนกล้าที่จะเข้าใกล้เข้านัก

แต่หนุ่มน้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้นั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง เขาดูนุ่มนิ่มน่ากอด รอยยิ้มของเขาอบอุ่นพอที่จะละลายหิมะได้เลย พูดตามตรง ความน่ารักของเขามันเกินต้านจริง ๆ

“โอ้ แน่นอนจ้ะ ห้องทำงานของคุณอาเรสอยู่ที่ชั้นเก้าน่ะ!” นางพยาบาลรีบตอบโดยไม่ลังเล

หนุ่มน้อยรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย นี่เขาดูเหมือนลูกชายของคุณอาเรสอะไรนั่นขนาดนั้นเลยเหรอ? หรือว่าเขาหน้าโหล?

ท่าทางของพยาบาลดูเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เธอโน้มตัวเข้ามาแล้วถามอย่างสุภาพ “ให้ฉันพาเธอไปที่ห้องทำงานเขาไหม?”

เด็กชายรีบสายหัว “ไม่ครับ”

‘พยาบาลคนนี้หน้าตาค่อนข้างดี แต่เธอไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ ถ้าเธอตามเราไปล่ะก็ แผนเราพังไม่เป็นท่าแน่’ เขาคิด

ในตอนนั้นเองที่ประตูลิฟต์พลันเปิดออก แล้วเด็กชายจึงโผเข้าไปในลิฟต์

เมื่อลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นไป ตัวติดตามในสมาร์ทวอทช์ของเขาก็บอกว่าเขากำลังเข้าใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อเขาขึ้นมาถึงชั้นที่เก้า ตำแหน่งที่เขาอยู่และตำแหน่งปลายทางที่ระบุไว้ก็ซ้อนทับกัน

หนุ่มน้อยออกมาจากลิฟต์และเดินตามที่ระบบนำทางบอกไว้ ในที่สุดตำแหน่งของห้องที่โรสอยู่ก็ถูกระบุอย่างชัดเจน

ที่หน้าประตูไม้บานใหญ่ซึ่งมีป้ายไม้ที่สลักไว้ว่า “ห้องรับรองท่านประธาน” ติดเอาไว้

เด็กชายตัวน้อยผลักประตู ทว่ามันไม่ขยับเลย

เขาสังเกตเห็นล็อคทองแดงแบบสแกนลายนิ้วมือบนประตู ด้วยความที่เขาไม่มีแผนที่ดีไปกว่านี้แล้ว เขาจึงลองแปะนิ้วลงที่แป้นสแกน และนั่นก็ทำให้เขาต้องประหลาดใจ เขาได้ยินเสียงล็อคที่ถูกปลดออกพร้อมกับบานประตูที่ถูกเลื่อนออกมา

เจ้าหนุ่มน้อยงงเป็นไก่ตาแตก ‘นี่ล็อคสแกนลายนิ้วมืออันนี้มันถูกออกแบบมาเพื่อเรารึเปล่า?’ เขานึกฉงน

เด็กชายดันประตูให้เปิดออกและเห็นเข้ากับร่างที่ถูกรังแกของแม่เขาซึ่งถูกผูกติดไว้กับขาโต๊ะ เส้นผมของเธอยุ่งเหยิง และใบหน้าของเธอก็ก้มติดกับเข่า ไหล่ของเธอสั่นไหว

“นั่นคุณแม่ร้องไห้อยู่เหรอ?” เขาคิดและเริ่มตื่นตระหนก

เขาไม่เคยเห็นคุณแม่ร้องไห้มาก่อน

‘ต้องมีใครทำเรื่องไม่ดีกับคุณแม่แน่ เธอถึงได้ร้องไห้แบบนี้’

“คุณแม่!” เด็กน้อยตะโกน ก่อนจะปล่อยสกู๊ตเตอร์ลงกับพื้นแล้วพุ่งเข้าไปแก้มัดให้โรส

เมื่อโรสได้ยินเสียงอันน่ารักของลูกชายที่แสนคุ้นเคย เธอเงยหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาขึ้น มันเป็นเขา ร็อบบี้น้อยของเธอ ยืนอยู่เบื้องหน้าเธอ โรสในตอนนี้เรียกได้ว่าตะลึงจนแทบเป็นใบ้ไปแล้ว

เธอมองไปที่เครื่องแสกนลายนิ้วมือ แล้วเธอก็รู้ได้ว่าลางสังหรณ์ของเธอมันถูกต้อง

ร็อบบี้น้อยของเธอมีลายนิ้วมือแบบเดียวกับของเจนสันจริง ๆ!

ร็อบบี้น้อยดึงหน้ากากของเขาออกและใบหน้าเล็ก ๆ อันหล่อเหลาของเขาก็ลุกโชนไปด้วยโทสะ

“คุณแม่ นักเลงคนไหนมันรังแกคุณแม่? ผมจะฆ่ามัน” ทันทีที่สิ้นเสียงของเขา เขาก็แสดงลูกเตะที่ปราดเปรียวและงดงามไปบนอากาศ

ร็อบบี้น้อยมีพรสวรรค์ด้านเทควันโดที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

ตั้งแต่เริ่มแรก โรสสมัครคลาสเรียนเทควันโดเพื่อเสริมสร้างร่างกายที่ปวกเปียกและอ่อนแอให้เขา

และนั่นทำให้เธอต้องประหลาดใจ เมื่อโค้ชได้บอกถึงพรสวรรค์โดยกำเนิดของเด็กชายอย่างตื่นเต้น สองปีหลังจากนั้น ชั้นหนังสือของร็อบบี้น้อยก็เต็มไปด้วยถ้วยรางวัลเทควันโด

หกเดือนที่ผ่านมา เขาแม้แต่เริ่มท้าทายกลุ่มที่โตกว่าและทำมันได้อย่างดีเยี่ยม

โรสสวมหน้ากากอนามัยบนหน้าของเขาใหม่ “ที่นี่มันอันตราย” เธอกล่าวเสียงเบา “ค่อยคุยทีหลัง เราต้องรีบไปจากที่นี่กันก่อน”

“ได้เลยฮะ!” ร็อบบี้น้อยตอบสนองด้วยความเชื่อฟัง

แต่ก่อนที่เธอจะไป โรสก็พลันนึกขึ้นได้ “เดี๋ยวก่อน” เธอกล่าว “เราต้องหาวิธีลบข้อมูลที่กล้องวงจรปิดบันทึกไว้ก่อน เราจะให้พวกคนไม่ดีรู้ตัวตนลูกไม่ได้เด็ดขาด”

“ง่ายมากฮะ ให้ผมจัดการเอง”

ผ่านไปไม่นาน ภาพที่ถูกบันทึกจากกล้องวงจรปิดของทั้งตึกก็ถูกลบหายไป

หมู่บ้านหรูในเซาธ์ซิตี้แทบดูเหมือนจะหลอมรวมไปกับเส้นขอบฟ้า บริเวณนี้เป็นที่โด่งดังและรู้กันดีว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์สุดหรูที่มีมูลค่าสูงที่สุดในเมือง

คฤหาสน์ตากอากาศของที่นี่ใหญ่โตด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว แต่สวนของที่นี่กลับใหญ่ยิ่งกว่า

หมู่บ้านแถบนี้มีเปอร์เซ็นความหนาแน่นของประชากรในเมืองที่ต่ำ—น้อยกว่า 0.5 เปอร์เซ็นของประชากรอาศัยอยู่ที่นี่ แน่นอน มีเพียงแค่คนที่ร่ำรวยที่สุดและทรงอำนาจที่สุดเท่านั้นที่จะสามารถอาศัยอยู่ในที่ๆเหมือนเป็นส่วนนึงของสวรรค์นี้ได้

เจย์ขับรถหรูยี่ห้อลินคอล์นเข้าไปเก็บในโรงรถใต้ดินอย่างรวดเร็วและบรรจง เขาโฉบเข้าไปที่จุดจอดรถ และจอดลงอย่างงดงาม

เจย์รีบลงจากรถและพุ่งเข้าบ้านไป

เขาเปิดประตูนิรภัยออก กลิ่นหอมพลันลอยเตะจมูกทันที เจย์ถึงกับผงะเล็กน้อยแล้วกวาดสายตาไปรอบๆห้อง

“เจย์ นายกลับมาตอนไหนน่ะ?” โจเซฟินกำลังถือถาดซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวานและกล่าวทักทายเจย์ที่เข้ามา

แม่ของเจย์กำลังจัดโต๊ะสำหรับมื้ออาหาร

พ่อของเจย์กำลังอยู่ในพื้นที่พักผ่อนในห้องนั่งเล่นด้วยกันกับหลานชายของเขา พวกเขากำลังต่อหุ่นเลโก้ตัวใหญ่ด้วยกันอยู่

หรือถ้าจะให้เจาะจงไปมากกว่านั้น คุณปู่ผู้ชราเพียงแค่นั่งอยู่ข้าง ๆ เจนสัน มองดูหลานของเขาอย่างภูมิใจ

อีกด้านหนึ่ง เจนสันไม่สนใจการมีตัวตนของคุณปู่เลยสักนิด

เจย์เปลี่ยนไปใส่รองเท้าสำหรับเดินในบ้านแล้วเดินไปหาเจนสัน และกล่าวอย่างผ่อนคลาย “ถ้าคุณปู่กับคุณย่าอยู่ที่นี่ ทำไมต้องให้คุณพ่อกลับบ้านมาด้วยล่ะ? วันนี้คุณพ่อน่ะยุ่งมาก—”

‘ยุ่งกับผีสิ!’ เจนสันสบประมาทในใจ

เจนสันทำเป็นหูทวนลมต่อคำพูดของพ่อของเขา เขาเริ่มสร้างหุ่นเลโก้ที่ตอนนี้สูงกว่าตัวเขาอย่างมีความสุข

“พูดอะไรบ้างสิ!” เจย์หมดความอดทน

“คุณพ่อกลับมาเองต่างหาก” เจนสันตอบอย่างเฉยชา

ความหมายที่เขาจะสื่อก็คือ ในเมื่อคุณพ่อของเขามีความคิดของตัวเองและมีขาของตัวเอง การกลับบ้านมานั้นเป็นสิ่งที่เขาเลือกเอง ไม่ใช่เจนสัน จริง ๆ นะ ทำไมเขาถึงได้ไม่พอใจขนาดนั้นถ้าเขาเลือกมันด้วยตัวเอง?

เจย์พูดไม่ออกไปพักหนึ่ง แต่เขาก็ตั้งสติและพยายามอธิบายเหตุผลแก่ลูกชายของเขา “คุณพ่อรีบกลับบ้านมาเพราะนึกว่าลูกไม่มีอาหารเที่ยงกิน ถ้าลูกบอกคุณพ่อว่าคุณปู่กับคุณย่าอยู่ที่บ้านทางโทรศัพท์ คุณพ่อก็ไม่จำเป็นต้องรีบกลับบ้านมา”

“คุณหมอบอกว่าผมเป็นออทิสติก ทำไมคุณพ่อถึงคาดหวังให้ผมพูดเยอะแบบนั้น? งี่เง่า!” เจนสันกระแทกเลโก้ชิ้นสุดท้ายเข้าที่ดวงตาของหุ่นอย่างแรงก่อนจะลุกขึ้นยืน เขาผลักเจย์ออกไปและเดินขึ้นชั้นบนไปคนเดียว

“แล้วทำไมตอนนี้ลูกดันพูดเยอะขึ้นมาเล่า?” เจย์ตะโกนไล่หลัง

“ไม่รู้สิ ผมคงชนะตัวเองได้แล้วมั้ง!” เจนสันตะโกนสวนกลับ

ใบหน้าของเจย์พลันมืดมนหลังจากเจนสันยอกย้อนใส่เขา

คุณปู่หัวเราะออกมาและพูดอย่างประชดประชัน “พ่อลูกเหมือนกันไม่มีผิด”

เจย์โมโหมากจนเกือบจะฟาดใส่หุ่นเลโก้ของเจนสัน คุณปู่รีบห้ามเขาทันที “อย่าทำมัน นั่นคือแม่ของเจนสัน ถ้าแกแตะต้องแม่ของเขาล่ะก็ ลูกชายของแกบอกว่าเขาจะทำแบบเดียวกันใส่แก”

มันมักจะเป็นแบบนี้เสมอ ทั้งครอบครัวมักจะต้องทุกข์ใจเวลาที่เจนสันอาละวาดใส่การกระทำของเจย์

แล้วก็มักจบลงด้วยน้ำตาของคุณย่าที่เสียใจต่อหลานรักของเธอ
Mga Comments (1)
goodnovel comment avatar
Panchalee Thongsri
สนุกดีค่ะ น่าติดตามและน่าสนใจ
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 9

    เพียงแค่นั้น เขาก็เข้าใจว่าหุ่นเลโก้นั้นถูกสร้างออกมาให้เหมือนหญิงสาวที่งดงาม‘เจ้าหนูนี่คิดถึงแม่ของเขาอีกแล้วเหรอ?’ เขาคิดด้วยความโมโห“เจนสัน ลูกอย่างเจอคุณแม่จริง ๆ เหรอ—” เขาโพล่งอออกไปโดยไม่คิดเจนสันยืนอยู่ที่บันไดด้วยความบูดบึ้ง ร่างเล็กจิ๋วของเขามองดูดื้อรั้นและเปลี่ยวเหงาเป็นพิเศษ เขาหันหลังกลับมามองที่เจย์ก่อนจะพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมเจย์ถึงกับเม้มปากแน่น เขาควรจะเรียกตัวเองว่าเป็นคนโชคดีที่ยังไม่จับโรสโยนลงไปในซ่องซะก่อน ไม่งั้นล่ะก็ ด้วยความเห็นแก่ตัวโดยธรรมชาติของเจนสัน เขาจะไม่มีทางให้อภัยเจย์แน่หากเขาพบว่าพ่อของเขารังแกคุณแม่ยังไงก็ตาม—ที่เจนสันคิดถึงแม่มากขนาดนี้ก็เป็นเพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเจย์เองไม่กี่ปีก่อน เจย์ยังเข้าใจว่าโรสตายไปแล้ว และไม่ต้องการให้เจนสันใช้ชีวิตอยู่ในโลกด้วยความเคียดแค้น เขาจึงสร้างเรื่องโกหกขึ้นมาว่าคุณแม่ยังคงรักเขาในทุก ๆ วันและใช่ เจย์เพิ่งได้รู้ความจริงที่น่าตกใจมาก โรสยังมีชีวิตอยู่และแถมยังสบายดีอีกด้วยในขณะที่เจย์กำลังใคร่ครวญว่าจะพาเจนสันไปหาโรสดีหรือไม่ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นปลายสายที่โทรเข้ามาคือผู้ช่วยของเขา เก

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 10

    หลังจากการอธิบายแผนการและรายละเอียดอันยืดยาว เกรย์สันมองไปที่คุณอาเรสด้วยความภาคภูมิใจและคาดหวังในขณะที่เขากำลังคิดว่าเจย์กำลังจะชมเขาในความฉลาด เจย์กลับจ้องเขาด้วยสายตาคมกริบที่ดูเหมือนมีดมากมาย“ย้ำคิดย้ำทำ? ออทิสติก?” เสียงของเจย์ฟังดูสงบแต่มันกลับมีความโกรธซ่อนอยู่ในน้ำเสียงของเขาหน้าผากของเกรย์สันเริ่มหลั่งเหงื่อออกมาเป็นหยด ๆเกรย์สันกัดลิ้นของเขาเอง แม้ว่าท่านเจนสันจะเรื่องเยอะและเป็นเด็กเจ้าปัญหา แต่เขายังคงเป็นลูกชายสุดรักของคุณอาเรสอยู่ คนเดียวที่จะสามารถวิพากษ์วิจารณ์ท่านเจนสันได้คือตัวคุณอาเรสเองเท่านั้นถ้ามีใครกล้าปากเสียใส่ท่านเจนสันล่ะก็ โดยพื้นฐานแล้ว นั่นคือการขุดหลุมฝังตัวพวกเขาเองแน่อยู่แล้ว เจย์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอันตราย “เกรย์สัน ดูเหมือนนายจะรู้จักเจนสันเป็นอย่างดี ทำไมฉันไม่มอบความรับผิดชอบในการดูแลเจนสันให้นายเลยดีล่ะ?”ทันทีที่เจย์พูดจบ เกรย์สันพลันหน้าเสียและรีบร้องขอความเมตตา“คุณอาเรส ผมมีครอบครัวต้องดูแล ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย ท่านเจนสันเพิ่งจะทำให้คนขับรถสิบเอ็ดคนลาออกไปภายในสิบเจ็ดวันที่ผ่านมา สามคนมีอาการความดันโลหิตกำเริบ สองคนในนั้นได้

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 11

    ทันทีที่เจย์ได้รับแจ้ง เขาก็เปิดหน้าหลักของโรงพยาบาลแกรนด์เอเชียเมื่อเขาเห็นความท้าทายอันน่าเร้าใจ ใบหน้าของเขาดูเหมือนจะฆ่าคนได้เลย“มาสเตอร์ร็อบบี้?” เจย์หรี่ตาและเม้มริมฝีปากของเขาให้บางลงอย่างอันตราย "ฮิฮิ ฉันใจดีเกินไปหรือเปล่า? จึงทำให้คนบางคนไม่กลัวที่จะขุดหลุมฝังศพตัวเองใช่ไหม?"อุณหภูมิในห้องดูเหมือนจะต่ำลงกว่าศูนย์องศาและทุกคนต่างก็กลั้นหายใจ ทุกคนกลัวว่าพวกเขาจะตกเป็นเหยื่อคนต่อไปของความโกรธแค้นของประธาน‘ใจดีเกินไปใช่ไหม? ใคร คุณอาเรสน่ะเหรอ?’ เกรย์สันคิดอยู่ในหัวของเขาคนเดียว ‘ทุกคนยอมรับว่าเขาคือราชาแห่งนรกที่กลับชาติมาเกิด คงไม่มีใครกล้าแตะเส้นผมของเขาแม้แต่เส้นเดียว!’แน่นอนว่ายกเว้นโรสที่อยากรู้อยากเห็นพลังของเจย์ การจ้องมองอันเยือกเย็นที่รู้สึกได้ระหว่างเกรย์สันและจอภาพ "นายหาหรือยังว่ามาสเตอร์ร็อบบี้คนนี้คือใคร?"เกรย์สันก้มศีรษะลง เขากล่าวอย่างขายหน้าว่า "แผนกเครือข่ายของเราได้ส่งแฮกเกอร์ที่ดีที่สุดของเราไป แต่เราไม่สามารถผ่านไฟร์วอลล์ของแฮ็กเกอร์ได้ ขณะนี้เรายังไม่พบข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับมาสเตอร์ร็อบบี้คนนี้ครับ"ใบหน้าหล่อเหลาของเจย์มืดลง เขาพูดอย่างเย็นชา

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 12

    ชุมชนเจิดจรัสเมื่อโรสได้รับสายโทรศัพท์จากโรงพยาบาลแกรนด์เอเชียอย่างกะทันหัน เธอหวาดกลัวทันทีว่าโรงพยาบาลจะปฏิเสธที่จะรักษาแม่ที่ป่วยหนักของเธอ"คุณโรส เรามียินดีที่จะแจ้งให้คุณทราบว่าใบสมัครที่คุณได้ส่งไปยังโรงพยาบาลของเราเมื่อวานนี้ได้รับการยอมรับแล้ว เนื่องจากกรณีของแม่ของคุณมีลักษณะพิเศษทางโรงพยาบาลจึงได้ยกเว้นให้เธอได้รับรักษาตัวในโรงพยาบาลแกรนด์เอเชีย เราได้ย้ายผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลไว้ล่วงหน้าแล้ว กรุณาจ่ายค่ารักษาในโรงพยาบาลสามแสนหยวนภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนี้ค่ะ"โรสนิ่งอึ้งไปเมื่อเธอไปที่แกรนด์เอเชียเพื่อยื่นใบสมัครให้แม่ของเธอเข้ารับการรักษามื่อวานนี้ เธอถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ไม่เข้าใจหลายประการ อย่างไรก็ตามจากนั้นแกรนด์เอเชียได้ย้ายแม่ของเธอไปโรงพยาบาลอย่างน่าอัศจรรย์ในวันนั้นเองโดยไม่ได้แจ้งให้เธอทราบมีเพียงคำอธิบายเดียวเท่านั้น—เจย์มีส่วนร่วม โรสต่อว่าไปที่ปลายสายทันทีด้วยความโกรธ "ใครให้คุณอนุญาตให้ย้ายแม่ของฉันไปโรงพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณควรพาแม่ของฉันกลับไปยังที่ที่เธอย้ายมาดีกว่าไม่อย่างนั้นฉันจะฟ้องร้อง"ทันใดนั้นเสียงเย็นชาก็ดังมาจากปลายสายของอี

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 13

    ในขณะที่เขาพูดประตูก็ถูกผลักเปิดออกและเลขาสาวสวยผู้น่าดึงดูดก็โผล่หน้าเข้ามาเลขากล่าวด้วยความเคารพว่า "ท่านอาเรส มีผู้หญิงหน้าตาสวยมาหาคุณที่นี่ค่ะ" เธอดูเหมือนตื่นเต้นและซุบซิบเกรย์สันบอกเธอว่า "คุณไม่รู้หรือไงว่าที่ทำงานของทานอาเรสห้ามผู้หญิงเข้าโดยพลการ ส่งเธอออกไป"เจย์สงสัยอยู่ชั่วขณะว่านั่นเป็นผู้หญิงที่ถูกสาป โรส หรือเปล่า อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้ยินเลขาอธิบายว่าผู้หญิงคนนี้สวยเขาก็เลิกคิดธรรมดาไร้รูปร่าง โรสกับสไตล์อันล้าสมัยของเธอไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคำนั้นเลขาปิดประตูและกลับไปที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ เธอพูดอย่างเคร่งขรึม "ต้องขอโทษด้วยค่ะ ท่านอาเรสไม่รับแขกตอนนี้"โรสม้วนผมหยิกสีน้ำตาลของเธอและหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับความโกรธ จากนั้นเธอก็พูดแบบขำ ๆ ว่า "ท่านประธานของคุณเชิญฉันมาเอง หมายความว่ายังไงจะให้ฉันกลับไป? ฉันได้ทำหน้าที่ของฉันไปแล้วและยอมจำนนทำไมเขาถึงปฏิบัติกับฉันเหมือนฉันไม่ใช่มนุษย์?"เลขาตกตะลึง ตลอดหลายปีที่ทำงานในแกรนด์เอเชียมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินคนดูถูกท่านอาเรสอย่างกล้าหาญเจย์และเกรย์สันเดินออกจากห้องทำงานและมุ่งหน้าไปที่ลิฟต์ ระหว่างทางพวกเข

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 14

    ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม โรสคงไม่กล้าระบุตัวตนกับเจนสัน การได้เห็นเขานั้นเป็นพรที่เธอรู้สึกขอบคุณ"ฉันยอมรับ!" โรสกล่าวอย่างแน่วแน่เสียงดังและชัดเจนขณะที่เธอจ้องเข้าไปในดวงตาที่เป็นปฏิปักษ์ของเจย์สายตาของเธอจ้องมองไปที่ปากกาในมือของเจย์ แต่เจย์ก็จับมันแน่นราวกับว่าเขาไม่อยากจะให้เธอยืมมันเลยโรสเปิดกระเป๋าถือหนังที่ละเอียดละออของเธอเพื่อหาปากกาเซ็นสัญญาเจย์เฝ้าดูอย่างใกล้ชิดขณะที่โรสหยิบของในกระเป๋าออกมาทีละชิ้นแล้ววางไว้บนโต๊ะทำงาน ทันใดนั้นสายตาของเขาก็ตกลงไปที่ขวดเครื่องสำอางใสและเขาก็ขมวดคิ้วมองของเหลวที่มีฟองผิดปกติอยู่ข้างในนั้น‘สเปรย์พริกไทย?'ในที่สุดโรสก็รู้สึกได้ถึงปากกาที่ก้นกระเป๋าและใส่ของทั้งหมดกลับเข้าไปทีละชิ้น เมื่อเธอหยิบสเปรย์พริกไทยขึ้นมาเธอก็เห็นเจย์เย้ยหยัน“ฉันคิดว่ามีแต่ผู้หญิงที่สวยไร้สมองที่บอบบางเท่านั้นแหล่ะที่พกของแบบนั้น ฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงทุกคนเป็นเจ้าของมัน!” เจย์หัวเราะเยาะโรสไม่โกรธ แต่ยิ้มแทน "ฉันไม่ค่อยได้เอามันออกไป มันขึ้นอยู่กับว่าฉันไปที่ไหนและเจอใคร"รอยแตกปรากฏบนใบหน้าเย็นชาของเจย์ ‘เธอกล้าปากดีกับฉันเหรอ?’"เซ็นสัญญาซะ แล้วออกไปจากที่

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 15

    โรสวางของขวัญเลโก้ลงบนโต๊ะตรงหน้าเจนสันและแกะกล่องออกอย่างคล่องแคล่ว เธอพยายามที่จะทำลายภูเขาน้ำแข็งกับเจนสัน ในขณะที่เธอหยิบชิ้นส่วนข้างในออกมาและเริ่มประกอบชิ้นส่วนเลโก้“เจนสัน มาแข่งกันไหม? ว่าใครจะสร้างได้เร็วกว่ากัน”เจย์เดินขึ้นไปชั้นบนและได้ยินการท้าทายที่มากเกินไปของโรสที่มีต่อเจนสัน เสียงเยาะเย้ยปรากฏบนใบหน้าของเขาเจย์ได้สอนเจนสันถึงวิธีการเขียนโปรแกรมเป็นการส่วนตัว การประกอบโมเดลเลโก้ที่ซับซ้อนที่สุดก็เป็นเเค่เรื่องกล้วย ๆ สำหรับเขา‘ผู้หญิงที่ไร้การศึกษาอย่างโรสอาจไม่เคยได้ยินเรื่องการเขียนโปรแกรมด้วยซ้ำ เธอไร้เดียงสาจริง ๆ หรือที่คิดว่าเธอจะสามารถรวบรวมโมเดลแบทแมนได้?เจนสันไม่ได้ให้คำตอบในทันทีเขาคว้าเลโก้จากมือของโรสอย่างเงียบ ๆ มองไปที่นาฬิกาบนผนังและเริ่มประกอบเข้าด้วยกันโรสดูแปลกใจ ‘เจนสันตกลงแข่งกับฉันหรือเปล่านะ?’สิ่งที่ตามมาคือการสร้างเลโก้อันยาวนาน!เจย์เปลี่ยนชุดทำงานแล้วลงไปชั้นล่าง เขาเห็นทั้งสองคนดูสงบและสามัคคีกันมากเจนสันกำลังประกอบเลโก้ของเขาในขณะที่โรสนั่งข้าง ๆ เขาดูเขาอย่างเงียบ ๆมุมปากของเจย์โค้งลงอย่างเยาะเย้ย เขาแทบจะคาดเดาได้ว่าจะเกิ

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 16

    “เด็ก ๆ ไม่ควรสบถ” โรสตำหนิเจนสันอย่างติเตือนเจนสันจ้องมองเธอและเดินขึ้นไปชั้นบนล็อคประตูห้องของเขาข้างหลังเขาโรสจ้องไปที่ประตูที่ปิดอยู่และถอนหายใจอย่างเศร้า ๆ‘ฉันจะทำอย่างไรกับเจนสันดี?’เขาเป็นลูกที่เธอเป็นติดค้างมากที่สุดเธอไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรเพื่อชดเชยความรักของมารดาที่เขาถูกปฏิเสธมาหลายปีเธอเหลือบมองนาฬิกาและตระหนักว่ามันกำลังจะสายแล้วโรสเดินไปที่ห้องครัวและตัดสินใจที่จะปรุงอาหารกลางวันแสนอร่อยให้กับเจนสันตู้เย็นเต็มไปด้วยส่วนผสมต่าง ๆ แต่โรสไม่รู้ว่าเจนสันต้องการอะไร ในขณะนั้นเธอไม่เคยรู้สึกเสียใจกับเจนสันมากขึ้น—เธอล้มเหลวในฐานะแม่ของเขาในตอนสุดท้ายเธอทำอาหารสองสามอย่างที่ร็อบบี้น้อยน่าจะชอบ ‘เนื่องจากร็อบบี้น้อยและเจนสันมียีนที่เหมือนกันพวกเขาอาจมีสัมผัสรสชขาติที่เหมือนกันก็ได้!’ เธอคิดอย่างมีความหวังโรสเตรียมอาหารคาวประกอบด้วยซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวาน เนื้อตุ๋นน้ำแดง“มดไต่ต้นไม้” บะหมี่มันเทศหมูสามชั้นและซุปไข่ใส่สาหร่ายโดยทั่วไปอาหารเหล่านี้ทำในบ้านที่ต่ำต้อยโดยปกติแล้วครัวเรือนที่มีฐานะร่ำรวยเช่นตระกูลอาเรสจะไม่ค่อยมีอาหารประเภทนี้ให้กับพวกเขา

Pinakabagong kabanata

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 1292

    คุณท่านยอร์กหัวเราะดังลั่น “เจ้าหนูอย่าได้เอาเรื่องวันนี้ไปพูดกับใครเชียวล่ะ”“ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ คุณท่านยอร์ก…”คุณท่านยอร์กเอามือไขว้หลังและเดินอย่างสบาย ๆ ไปยังห้องสมุดในห้องสมุดตรงส่วน 48 นั้นดูเละเทะมาก บรรณารักษ์พยายามเก็บกวาดมานานมากและตอนนี้ก็กำลังหอบเพราะความเหนื่อยคุณท่านยอร์กพูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “แค่มาขโมยหนังสือต้องทำให้ที่นี่เละเทะขนาดนี้เลยเหรอ? ดูสิว่าหมอนั่นทำให้ลูกศิษย์ของฉันต้องเหนื่อยแค่ไหน…”หลังจากแสร้งทำท่าเป็นห่วงเป็นใยเสร็จแล้ว คุณท่านยอร์กก็ถาม “มีอะไรหายไปบ้าง?”บรรณารักษ์ตอบอย่างสงบเสงี่ยม “สมุดบันทึกรายชื่อผู้อาศัยหายไปครับคุณท่าน”สีหน้าคุณท่านยอร์กเคร่งเครียดทันที “ดูเหมือนว่าเขาจะมาที่นี่เพราะองค์กรโลกาวินาศ”จากนั้นเขาก็เดินจากไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดขณะเดียวกันเจย์ก็ตามมาอยู่กับเซย์นขณะที่เขากำลังขุดเม็ดต้นชุมเห็ดและรวบรวมดอกสายน้ำผึ้งก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับทันทีที่พวกเขามาถึงสวนสายลมสดชื่น เจย์กับเซย์นก็โดนพวกคอร์เวตต์ของป้อม 48 ล้อมไว้“โคลเป็นคนสั่งเหรอ?” เจย์ถามนิ่ง ๆคาร์สันเดินออกมาจากกลุ่มคอร์เวตต์โดยที่มีมือหนึ่งกุมท้องไว้

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 1291

    คาร์สันกลืนน้ำลาย เขารู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในถ้ำสิงโต เขาตอบไปด้วยเสียงสั่นเทา “พูดตามตรงนะครับคุณเซเวียร์ เรื่องโชคร้ายและการล่มสลายของตระกูลอาเรสเมื่อสามปีก่อน คุณเองก็อยู่ในรายชื่อที่ต้องโดนจัดการด้วยเพราะว่าคุณเป็นลูกสะใภ้ของพวกเขา แต่ว่านายน้อยนั้นหลงรักคุณหัวปักหัวปำจนเขายอมสละนิ้วก้อยของตัวเองเพื่อช่วยคุณไว้”“ส่วนลูก ๆ ของคุณนั้น นายน้อยก็ตั้งใจว่าจะหักนิ้วตัวเองสามนิ้วเพื่อช่วยพวกเขาไว้ แต่ต้องขอบคุณที่คุณบอกความจริงมาในตอนท้าย เพราะว่าในตัวของนายน้อยและคุณหนูพวกนั้นมีสายเลือดของยอร์กไหลเวียนอยู่ ทำให้พวกเขาได้รับการถอดชื่อออกจากรายการสังหาร”“ตอนที่นายน้อยจากมา เขาไม่ได้พาใครกลับมากับเขาด้วย”แองเจลีนสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเรื่องที่เขาบอก“ถ้าเป็นแบบนั้น มีคนชื่อปีศาจอยู่ในป้อมตระกูลยอร์กไหม?” แองเจลีนถามอีกครั้งคาร์สันพึมพำ “ปีศาจ” เขาส่ายหน้าอย่างแรง “ไม่มีคนแบบนั้นในป้อมตระกูลยอร์กนะครับ คุณเซเวียร์”มือแองเจลีนที่ซุกอยู่ใต้แขนเสื้อสั่นเทา “ฉันเชื่อนายได้ใช่ไหมคาร์สัน?”คาร์สันสาบาน “ผมไม่มีความกล้าพอที่จะโกหกคุณหรอกครับคุณเซเวียร์ ใครจะรู้ว่าสักวันคุณอาจจะกลายเป็นนาย

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 1290

    หากมีใครต้องการหาหนังสือสักเล่มแบบเฉพาะเจาะจงในนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร โชคดีที่เจย์มีแผนที่ในหัวคอยนำทาง เขารู้ว่าสมุดบันทึกรายชื่อประชากรอยู่ในชั้นหนังสือส่วนของป้อม 48ตอนนั้นมีคนเหมือนตุ๊กแกตัวใหญ่เกาะอยู่ที่ชั้นหนังสือตู้ที่ 48 ขาของเขาเลือดไหลไม่หยุด เขาหยิบชุดปฐมพยาบาลที่พกติดตัวออกมาจากนั้นก็ทายาและพันผ้าพันแผลเพื่อหยุดเลือดเจย์เดินผ่านยามห้องสมุดและแอบเข้ามาด้านในเมื่อเข้ามาถึงตู้หนังสือส่วนของป้อม 48 เจย์ก็เริ่มมองหาสมุดบันทึกรายชื่อประชากรบนชั้นหนังสือ ทันใดนั้นก็มีร่องรอยสีแดงเลือดบนหน้าหนังสือที่สะดุดตาเจย์ เขาแตะรอยสีแดงบนหน้าหนังสือนั้นด้วยนิ้วมือและรู้สึกได้ถึงความชื้น เจย์ตื่นตัวระวังภัยทันใดนักฆ่าที่บาดเจ็บต้องซ่อนอยู่ข้างบนแน่เขาคาดเดาเช่นนั้นทันใดนั้นเจย์ก็มีความคิดดี ๆ แวบเข้ามาในหัว เขารวบรวมกำลังและฟาดมือใส่ชั้นหนังสือทันทีทันใด รังสีสังหารอย่างรุนแรงก็พุ่งตรงเข้ามาใส่เขาเจย์หมุนตัวด้วยความเร็วแสงและหลบพ้นคมมีดของนักฆ่าไปได้เจย์มองนักฆ่าที่ใส่ชุดพรางตัวสีดำพร้อมดึงหมวดฮู้ดขึ้นคลุมศีรษะ ทั้งปาก จมูก และตาต่างก็ปกปิดไว้มิดชิด ความคิดที่ว

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 1289

    จู่ ๆ เซย์นก็ยกมือกุมหน้าผากและบอกว่า “ผมมึนหัว”จากนั้นเขาก็ทรุดลงตรงหน้าเจย์ดังตึงเจย์แหย่ว่า “ชาดีจริง ๆ ตาเฒ่า มันทำคนสลบได้เร็วมากจนผมแปลกใจเลย”ชายชรามองเจย์อย่างพิจารณา ชายหนุ่มคนนี้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับน้ำชาแต่ว่ายังคงคุยกับตาเฒ่าต่อเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอที่คนกล้าเยาะเย้ยเขาอย่างไม่ร้อนรนในอาณาเขตของตระกูลยอร์กเช่นนี้ชายชราชื่นชมความใจเด็ดและกล้าหาญของเจย์“บุคลิกท่าทางของแกถูกใจฉันมากเจ้าหนุ่ม ฉันชื่นชม แกชื่ออะไร?”เจย์ยิ้มออกมาเล็กน้อย “เบ็น”ชายชราถามอย่างงงงวย “ไม่มีนามสกุลเหรอ?”เจย์พยักหน้าและตอบอย่างไม่แยแส “มี”เขาพูดต่อ “ผมนามสกุลยอร์ก”ชายชรามองเจย์อย่างไม่พอใจ “หากว่าแกอยากจะหลอกฉัน อย่างน้อยก็ต้องทำให้มันถูกหน่อย”เจย์เทน้ำชาเย็นชืดทั้งหมดในกาออก จากนั้นก็เติมเองจากนั้นเขาก็ทำท่าเอาอกเอาใจชายชรา “ชาที่ผมชงนี้สดชื่นกว่าของคุณ อยากจะลองชิมสักถ้วยไหม?”ชายชราคว้าใบชามาเต็มกำ ก่อนหยิบส่วนหนึ่งใส่ในกาน้ำชาและบอกว่า “นี่ไง สมบูรณ์แบบแล้ว”เจย์ยกถ้วยชาขึ้นมา “โชคชะตานำพาเรามาพบกันตาเฒ่า ขอชนแก้วให้กับโชคชะตาอันน่าทึ่ง

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 1288

    เพื่อให้แน่ใจว่าโคลจะไม่เข้ามาขวางทาง แองเจลีนก็บอกกับคาร์สันอีกครั้ง “เข้ามาสิคาร์สัน เข้ามาคุยกันหน่อย”คาร์สันมองเจย์และเซย์นที่ตอนนี้เดินจากไปไกล หลังจากใจลอยไปชั่วครู่ เขาก็เดินตามแองเจลีนเข้าไปในบ้าน“โจเซฟิน ช่วยเอาชามาให้คาร์สันหน่อย”โจเซฟินใช้เวลาพักหนึ่งในการรินชาและส่งถ้วยให้คาร์สัน คาร์สันวางถ้วยชาลงบนโต๊ะและบอกว่า “คุณเก่งเรื่องหันเหความสนใจใช่ไหมครับ คุณเซเวียร์?”แองเจลีนไม่ได้รู้สึกร้อนรนอะไรแม้ว่าคาร์สันจะมองแผนเธอออก เธอบอกว่า “ฉันก็แค่อยากจะคุยกับเพื่อนเก่าเท่านั้นคาร์สัน นายวัดหัวใจของคนที่ยอดเยี่ยมด้วยหัวใจแสนทรามได้ยังไงกัน? ฉันเองก็คงไม่ได้คาดหวังกับคนกระจอกอย่างนายไว้สูงหรอก”คาร์สันทำปากง้ำ เขาคงลืมไหว้ขอความโชคดีก่อนออกจากบ้านมาเมื่อเช้าแน่ เพราะพอตื่นขึ้นมา เขาก็เจอแต่เรื่องแย่ ๆ และคำพูดทิ่มแทงของทั้งเบ็นและแองเจลีน“คุณเซเวียร์ ให้ผมบอกความจริงก็คือว่าในป่านั้นมีสัตว์ป่ามากมาย หากว่าไม่มีคนของผมนำทางไป บอดี้การ์ดของคุณก็อาจจะหาทางออกจากป่าไม่ได้เมื่อเข้าไปแล้ว”ในใจของแองเจลีนนั้นตื่นตระหนกไปวูบหนึ่ง แต่เมื่อเธอจำได้ว่าเจย์บี้มีแผนที่ของโคลอี้เป็นตั

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 1287

    เจ้าชั่วโคลนั่นส่งคนมาคอยเฝ้าที่นี่ไว้โดยทำทีว่ามาคอยเฝ้ายามที่สวนสายลมสดชื่นเจย์เริ่มคิดหาหนทางจะหนีออกไปจากสวนสายลมสดชื่นเพื่อที่ว่าเขาจะได้ไปหาทะเบียนรายชื่อของผู้อาศัยในป้อมยอร์กแองเจลีนเรียกเขาเบา ๆ “เบ็น” เสียงเธอนั้นอ่อนโยนและแฝงความรักใคร่เจย์หันหลังมาและเดินเข้าไปหา“แองเจลีน”แองเจลีนจับสังเกตทิศทางจากเสียงและเดินเข้าไปหาเขาเจย์รีบเร่งฝีเท้าและคว้ามือเธอไว้พร้อมกระซิบว่า “จากที่ฉันเห็นตอนนี้ นายท่านยอร์กคงสงสัยว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับนักฆ่าเมื่อคืนนี้ เขาส่งคนมาคอยเฝ้าล้อมสวนสายลมสดชื่นไว้แล้วเช้านี้”แองเจลีนวิเคราะห์สถานการณ์และบอกว่า “นายท่านยอร์กนั้นรับผิดชอบส่วนหน้าของป้อมตระกูลยอร์กแล้วเขาก็ไม่มีเวลามาเฝ้าป้อม 48 หรอก ดังนั้นโคลยังเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ ทำไมเราไม่ล่อเขาไปที่อื่นล่ะ? ฉันจะหาวิธีดึงไว้ให้โคลไม่ว่างมาสนใจตอนที่คุณออกไปทำทีเป็นว่าหาสมุนไพรมาให้ฉัน…”เจย์บีบแก้มแดงปลั่งของแองเจลีนเบา ๆ “เธอนี่มันฉลาดขึ้นทุกวันเลยใช่ไหมเนี่ย?”แม้ในใจเขาจะเห็นว่าเธอเป็นเพียงแกะน้อยไม่รู้เรื่องราวใด ๆ ในโลกนี้แองเจลีนยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณสอนฉันมาดีนี่คะ”

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 1286

    โคลรู้สึกใจคอปั่นป่วนขึ้นมาเมื่อเห็นแววตากระหายเลือดของสเปนเซอร์ “พ่อ แองเจลีนเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ พ่อก็เห็นว่าตอนนี้สายตาเธอมองไม่เห็นด้วยซ้ำ”ตอนที่เขาพูดเรื่อง ‘สายตามองไม่เห็น’ โคลก็อารมณ์ท่วมท้นจนสะอึก “มันเป็นความผิดของผมเอง ผมฆ่าสามีของเธอ แล้วเธอก็ร้องไห้จนตาบอด ผมติดค้างเธอมากเหลือเกิน”สเปนเซอร์พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “แกมันใจอ่อนไป แกเองก็เห็นว่าบอดี้การ์ดของเธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ดูจากทักษะของผู้ชายที่ชื่อเบ็นนั่น เขาสามารถก่อยิ่งกว่าหายนะให้กับป้อมตระกูลยอร์กแน่”โคลอธิบาย “เธอตาบอด เธอก็ต้องมีคนแบบนั้นไว้คอยปกป้องสิ”สเปนเซอร์บอกว่า “ฉันคิดว่าความรักทำให้แกตาบอดแล้ว ลองคิดดูสิ ผู้ชายชื่อเบ็นนั่นด้วยความสามารถของเขาสามารถไปได้ไกลมากแน่ แต่ทำไมเขาถึงเลือกที่จะอยู่ข้างกายผู้หญิงเหมือนพวกขี้ขลาดไร้ประโยชน์ด้วย?”โคลบอกว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด เบ็นอาจจะเป็นบอดี้การ์ดที่หลานชายคนโตของตระกูลอาเรส เจย์ อาเรส มอบไว้ให้แองเจลีน เจย์นั้นเป็นคนก่อตั้งหน่วยภูติผี หลังจากที่เขาตายพวกสมาชิกหน่วยภูตผีก็สาบานว่าจะภักดีและทุ่มเทให้แองเจลีน”สเปนเซอร์นั้นโมโหมากจนเขาคว้ากาน้ำชาปาใส่โคล “แก ไอ

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 1285

    พวกคอร์เวตต์หากันทั้งคืนแต่ว่าก็หานักฆ่าไม่เจอ ราวกับว่าเขาระเหยหายตัวไปในอากาศวันต่อมาสเปนเซอร์ก็มาที่ป้อม 48เขาเรียกโคลไปที่ห้องลับและถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “โคล นักฆ่าเมื่อคืนมันผ่านกับดักหลายชั้นที่เราติดตั้งไว้ในเขามุกเข้ามาได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นนักสู้ที่ฝึกมาเป็นอย่างดี พอมาคิดเรื่องนี้แล้ว นักฆ่าโผล่มาทันทีหลังจากที่แองเจลีนมา เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาร่วมมือกันประสานจากด้านใน?”โคลยังคงนิ่งเงียบ…สเปนเซอร์ดูงงงวย “แองเจลีนก็เป็นแค่นักธุรกิจหญิงเก่งฉกาจจากเมืองอิมพีเรียล แต่ว่าบอดี้การ์ดของเธอก็เก่งพอที่จะคว้ามีดสั้นของฉันได้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงต้องมีคนเก่งกาจขนาดนั้นอยู่ข้างกายด้วย?”โคลก็ยังคงนิ่งเงียบ…เมื่อสเปนเซอร์เห็นว่าโคลไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ดวงตาเขาก็ยิ่งฉายแววสงสัย “นี่แกกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่าโคล?”มีแววอ่อนล้าในน้ำเสียงของโคล “ผมบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว”สเปนเซอร์มองโคลอย่างไม่พอใจ “หมายความว่ายังไงที่ว่าบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว? แกอยู่ที่เมืองอิมพีเรียลตั้งครึ่งปี แล้วพอแกกลับมาบ้านแกก็พูดแค่สามเรื่อง แกบอกว่าทำลายตระกูลอาเรสกับอสังหาริมทร

  • ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!   บทที่ 1284

    เด็กหนุ่มซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอร็อบบี้น้อยก็ทำแบบเดียวกันเวลาที่เขาทำอะไรผิดมา เขามักจะกอดเอวเธอแน่นที่สุดเท่าที่ทำได้และทำท่าเป็นเด็กขี้อ้อนเอาแต่ใจ ‘ผมผิดไปแล้วแม่จ๋า อย่าโกรธผมเลยนะ’ เขาจะพูดแบบนี้จากนั้นเธอก็ตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามโดยการฉีกเสื้อเธอออกเผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่า เธอยื่นแขนออกมานอกผ้าห่มแล้วเธอก็แสร้งทำเป็นร้องถามเสียงงัวเงีย “เกิดอะไรขึ้นเหรอเบ็น?”พอเจย์ได้ยินเสียงแองเจลีน เขาก็เปิดประตูเข้ามาเมื่อได้เห็นหน้าอกและแขนของเธอยื่นออกมานอกผ้าห่อม เจย์ก็ปิดประตูอย่างรวดเร็วแต่ถึงอย่างนั้นโคลก็ยังแอบเห็นภาพน่าตื่นตาภายในห้องอยู่ดีเจย์จ้องโคลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อโคลครุ่นคิดว่าหากแองเจลีนไม่ได้ตาบอด เมื่อกี้เธอจะต้องกรีดร้องออกมาเพราะความอับอายเป็นแน่โคลถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาเธอกันแน่?”“เธอร้องไห้มากจนตาบอด” เจย์ตอบห้วน ๆน้ำเสียงเขาแฝงโทสะและความรู้สึกโทษตัวเองโคลอี้งไปเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าเขาก็ฉายความรู้สึกผิดจังหวะนั้นพวกคอร์เวตต์ที่ค้นหาบริเวณบ้านก็เดินส่ายหน้าออกมา “เราไม่เจออะไรผิดปกติ”โคลสั่ง “ไปหาที่อื่นต่อ”เมื่อพวกคอร์เ

DMCA.com Protection Status