“ฉันขอร้องล่ะ เธอกลับมา ได้ไหม?”สายตาที่ประหลาดใจปรากฏขึ้นภายใต้ดวงตาของเซร่าโรส ลอยล์ คือ แองเจลีน เซเวียร์ งั้นเหรอ?“ที่รัก เธอไม่ต้องการฉันแล้วเหรอ? เธอไม่ต้องการที่จะกลับมาอีกแล้วงั้นเหรอ?“อย่าทิ้งฉันไว้ข้างหลังเลยนะ”เสียงของเขาอ่อนลง และจู่ ๆ ก็มีน้ำตาของเขาไหลหยดออกมาโดนใบหน้าของเซร่าที่แนบชิดเขาอยู่ดวงตาของเซร่าเริ่มแสดงแววตาชั่วร้ายแองเจลีนยังไม่ตายเหรอ?นี่หมายความว่าเธอยังมีโอกาสที่จะได้มีความสุขกับเจย์อีกงั้นเหรอ?เซร่ามองไปที่ชายผู้นั้นอย่างนิ่งเฉย เมื่อเธอเห็นใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของเขา เธอรู้สึกอิจฉาขึ้นมาทันทีแท้จริงแล้ว เจย์ อาเรสจะไม่แสดงด้านที่อ่อนโยนของเขาให้คนทั้งโลกเห็นตั้งแต่เธอจำได้ เขาก็เย็นชาและเยือกเย็นอยู่เสมอ เขาเป็นเหมือนพญายมในโลกธุรกิจที่ไม่ชอบการใกล้ชิดกับผู้คนด้วยซ้ำสิ่งที่เธอจำได้ก็คือมือของเขาเปื้อนเลือดมาตลอดทำไมเขาถึงอ่อนโยนต่อแองเจลีนและต้องเป็นแค่แองเจลีนเท่านั้นล่ะ?มือของเธอเอื้อมไปปลดกระดุมบนเสื้อเชิ้ตสีขาวของเจย์ชั้นล่างของบ้าน เจนสันและร็อบบี้น้อยกำลังวิ่งเข้ามาในบ้านเจนสันขมวดคิ้วเมื่อได้กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกกุหลาบ
“แองเจลีน แต่งงานกันเถอะ ฉันไม่อยากรออีกต่อไปแล้ว” เจย์พึมพำด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดเมื่อเจนสันได้ยินเขาก็กลอกตาไปที่ร็อบบี้น้อย “นายได้ยินแล้วหรือยัง ผู้หญิงที่พ่อชอบคือแองเจลีน ก่อนที่แม่จะกลับมา พ่อดูเหมือนคิดถึงแองเจลีนทุกวัน เขาวาดภาพเหมือนของเธอและฟังเพลงของเธอ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขานึกถึงแองเจลีน พ่อก็จะหัวเราะอย่างมีความสุข”ใบหน้าของร็อบบี้น้อยเกิดความผิดหวัง “พ่อของเราชอบแองเจลีนมากขนาดนั้น แล้วแม่ของเราจะดูไม่น่าสงสารไปหน่อยเหรอ…”เจนสันถึงกับพูดไม่ออก “แม่ไม่ได้น่าสงสารเลย อย่างน้อยพ่อก็ซ่อนความรักที่เขามีต่อแองเจลีนเพื่อแม่ อันที่จริงพ่อปฏิบัติต่อแม่ได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวล่ะ”ในขณะนั้น พวกเขาได้ยินเจย์พึมพำอีกครั้ง “ฉันไม่สนหรอกว่าเธอจะเป็น โรส ลอยล์ หรือ แองเจลีน เซเวียร์ สิ่งที่สำคัญก็คือเธอยังเป็นเธอ ต่อให้เธอชื่ออะไรและหน้าตาเป็นยังไงก็ตาม ฉันก็ไม่สนหรอก ฉันแค่คิดถึงช่วงเวลาที่ไม่ต้องกังวลกับอะไรและช่วงที่เราเคยอยู่ด้วยกันอย่างมาก กลับมาได้ไหม ได้โปรด?”ดวงตาของเจนสันเบิกกว้างร็อบบี้น้อยก็รู้สึกสับสน “พ่อชอบผู้หญิงสองคนเลยเหรอ? นี่เป็นคำในตำนานของ 'นอกใจ' หรือเป
เจย์สังเกตได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา เขามองดูลูกชายทั้งสองด้วยความสงสัยและถามว่า “ลูกทั้งสองมาทำอะไรที่นี่?”ร็อบบี้น้อยตอบอย่างตรงไปตรงมาและตอบทันทีว่า “คุณพ่อครับ ถ้าเราไม่อยู่ที่นี่ คุณอาจจะ...”เจนสันรีบเหยียบเท้าของร็อบบี้น้อย ดังนั้นทำให้เขาหยุดนิ่งเงียบไปทันทีเจนสันกล่าวเองว่า “คุณพ่อ ร็อบบี้น้อยและผมรู้สึกหิวน้ำมาก เมื่อเราเห็นเซร่าเอาผลไม้มาให้คุณ เราก็เลยเดินตามมาเพราะเราอยากจะกินด้วยเหมือกัน”“เซร่า?” ดวงตาของเจย์เย็นชาเธออีกแล้วเหรอ?ทั้งสองครั้งที่เขาฝันถึงความฝันเช่นนั้น มันล้วนเกี่ยวข้องกับเซร่าทุกครั้งแม้ว่าเขาจะเป็นคนไม่ฉลาดมากนัก เขาก็พอจะเดาได้ว่าเซร่ากำลังหลอกเขาอยู่“ลูก ๆ ไปเล่นกันเถอะ” เขาพูดเสียงเรียบเฉยเจนสันสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกในดวงตาของพ่อ ดังนั้นเขาจึงเดาว่าคำใบ้ของเขาได้ผลเจนสันดึงมือของร็อบบี้น้อย “เราไปกันเถอะ เราควรให้คุณพ่อได้พักผ่อน”หลังจากที่เด็ก ๆ เดินออกไป เจย์ก็ลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปที่ห้องน้ำ เขาแช่ตัวในอ่างน้ำเย็นและรู้สึกว่าเรี่ยวแรงของเขาได้กลับมาอีกครั้ง“เซร่า เซเวียร์!”เจย์มีแววตาที่ชั่วร้ายในขณะที่มือของเขาจ
ชายหนุ่มรูปงามมีเสน่ห์สวมเสื้อกาวน์หมอและแว่นตากรอบทองเดินเข้ามาในห้องอย่างจริงจังใบหน้าของเขาดูสะอาดสะอ้านในขณะที่ลักษณะของเขาเฉียบคมและดูลึกล้ำ รอยยิ้มของเขาช่วยเยียวยาได้เลย เขาดูน่าเชื่อถือและดูเป็นเด็กเก่งที่ตั้งใจเรียนเจมส์ถามว่า “คุณชื่ออะไร?”“ผมชื่อ สตอร์ม!” สตอร์มตอบอย่างสุภาพ“คุณท่านอาเรส ต่อจากนี้ไป ผมจะเป็นนักกายภาพบำบัดส่วนตัวของคุณครับ ในอีกสามเดือนข้างหน้า ผมจะช่วยคุณขจัดจากการพยุงด้วยไม้เท้านั่นและให้คุณยืนด้วยสองเท้าของคุณเองได้อีกครั้ง” น้ำเสียงของสตอร์มเป็นจังหวะที่ดี น้ำเสียงของเขาดูปานกลางไม่รุนแรงมากนัก แต่ก็ปนไปด้วยความรู้สึกมั่นใจและภาคภูมิใจเจมส์พยักหน้า “งั้นฉันหวังว่าคุณจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ”หัวหน้าแพทย์ได้จัดการเรื่องย้ายออกจากโรงพยาบาลของเจมส์ให้เรียบร้อยต่อจากนั้นสตอร์มและเจมส์กลับไปที่คฤหาสน์กุหลาบของเขาที่อยู่ในอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนเมื่อพวกเขาเดินทางมาถึง ในคฤหาสน์ดอกกุหลาบ ซึ่งครั้งหนึ่งสถานที่แห่งนี้เคยคึกคักไปด้วยกิจกรรม แต่ตอนนี้กลับดูเงียบสงบและว่างเปล่าเจมส์พยุงตัวเองด้วยไม้เท้าขณะยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นที่ว่างเปล่า เขาตะโกนอย
”แม้เวลาจะล่วงเลยมาหลายปี นายหญิงต้องอดทนรับความเย็นชาจากคุณ ไม่มีใครเข้าใจความเจ็บปวดของเธอได้เลย”“ฉันทำผิดกับเธอ” เจมส์พึมพำ“คุณท่านคะ ไปรับนายหญิงกลับมาเถอะค่ะ” เคซี่ย์กล่าวเจมส์มองดูสตอร์มอย่างจริงจังและพูดกับเขาว่า “สตอร์มพาฉันไปที่หอท่าเรือหอมหวนหน่อย”หลังจากที่สตอร์มฟังเรื่องราวความรักอันนองเลือดนั้น เขาก็ยืนอยู่ที่นั่นด้วยความงุนงงในทันใดที่เขาได้ยินเสียงของเจมส์ เขาก็อยากตวาดออกมา ริมฝีปากของเขาขดขึ้น ให้ตายสิ เขาต้องการเตือนคนแก่ชราคนนั้นว่าเขาไม่ใช่คนรับใช้ของเจมส์และเขาอยากจะบอกว่าเขาเป็นแค่เพียงนักกายภาพบำบัดเท่านั้นกระนั้น ด้วยเหตุที่ชายชราคนนี้ต้องการไปที่หอท่าเรือหอมหวน สตอร์มจึงละทิ้งทิฐิเหล่านั้นของเขาออกไปก่อนเขาพยุงเจมส์ไปที่หอท่าเรือหอมหวน“เจย์ อาเรส นายออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” เจมส์ตะคอกเมื่อยืนอยู่ตรงหน้าประตูสตอร์มแสดงรอยยิ้มมุมปากออกมา เขาช่างกล้าตะโกนใส่ท่านประธานได้ขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้แล้วว่าท่านประธานโหดร้ายแค่ไหนเมื่อนึกถึงการล้างแค้นและการแก้แค้นท่านประธานอดทนเจอความแค้นได้ตลอดชีวิตของเขาเจย์เดินออกมาอย่างสง่างาม เขายืนกอดอก จาก
ในเวลาต่อมา สตอร์มก็ได้ผลักเจมส์เข้าไปในห้องโถงจู่ ๆ เวลาผ่านไปไม่นานเจมส์ก็ได้ผล็อยหลับไปในรถเข็นเจย์ยิ้มและพูดว่า “ความสามารถของนายดีมากขึ้นเลยทีเดียว”สตอร์มบ่นว่า “ถ้าผมรู้ว่าเขาจะหยาบคายกับคุณ ผมจะให้ยาที่แรงกว่านี้กับเขาอีก”เจย์ตอบว่า “ถึงแม้ว่ายาจะไม่มีสีหรือรสชาติใด ๆ แต่มันก็ได้ทิ้งร่องรอยของฤทธิ์ยาไว้ได้ดีเมื่อมันผ่านเข้าสู่ร่างกาย การสะกดจิตให้หลับของนายมีประโยชน์จริง ๆ และสิ่งนี้อาจเป็นประโยชน์ในการทดแทนการใช้ยาของนายในครั้งต่อไปด้วย”“ครับ ท่านประธาน”“ฉันเรียกนายมาโดยด่วนเพราะมีเหตุฉุกเฉินอยากให้นายทำ”“บอกมาได้เลยครับ ท่านประธาน”“ตอนที่ภรรยาของฉันประสบอุบัติเหตุในอสังหาริมทรัพย์ ทัวร์มาลีน โจเซฟินก็อยู่ที่นั่นกับเธอ ทว่า มันน่าแปลกที่โจเซฟินได้ลืมเรื่องพวกนี้ไปทั้งหมดหลังจากเจอเหตุการณ์นั้น ฉันเดาว่าเธอคงลืมตอนนั้นไปแล้วจริง ๆ เพราะฉะนั้นฉันต้องการยาสะกดจิตของนายเพื่อช่วยให้เธอจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น”“ได้ครับ ท่านประธาน”“หลังจากที่นายทำเสร็จแล้ว ฉันขอให้นายช่วยพานายน้อยและคุณหนูของนายออกไปจากเมืองด้วย”“ทำไมกันท่านประธาน?” สตอร์มมีแววตากังวลใจเจย
แววตาของเจย์มืดลง “มันซ่อนอยู่แค่ปลายจมูกของฉัน”“ท่านประธาน ดูเหมือนว่าคน ๆ นั้นจะเข้าใจคุณเป็นอย่างดี” สตอร์มกล่าวเจย์ตอบว่า “นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงเล่นกลได้ทั้ง ๆ ที่อยู่ใกล้แค่ปลายจมูกของฉัน”เสียงของเขาเบา แต่น้ำเสียงของเขาช่างน่าสะพรึงกลัว เขาดูหายใจแรงและเร็วออกมาเมื่อนึกถึงเหยื่อของเขาเองสตอร์มกำหมัดของเขาและพูดตะคอก “ท่านประธาน ผมเอง ผมเองที่จะไปจัดการไอพวกคนใจฝ่อนั่นให้ออกมาจากหลุมพรางของพวกมัน!”เมื่อได้ยินแบบนั้นเจย์อารมณ์เริ่มสงบลง “งั้นไปที่พื้นที่ซีคามอร์ แอนเน็กซ์ซะ เด็ก ๆ อยู่ที่นั่นกับปู่ย่า แล้วพาพวกเขาออกไปจากที่นี่ในคืนนี้”“ท่านประธาน?” สตอร์มไม่เต็มใจที่จะออกจากท่านประธานในช่วงเวลาเช่นนี้ที่เขาต้องการมีใครสักคนอยู่เคียงข้างเขา“มันเป็นทางที่ดีแล้วล่ะ”“ก็ได้ครับ” สตอร์มก้มหน้ายอมรับและเดินออกจากหอท่าเรือหอมหวนอย่างไม่เต็มใจเจย์ยืนอยู่ข้างหน้าต่างแคบ ๆ จ้องมองผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดสนิทราวกับว่าเขากำลังมองหาทางออกในความมืด เขากำลังมองหาแสงสว่างณ ซีคามอร์ แอนเน็กซ์สตอร์มแอบเข้าไปในซีคามอร์ แอนเน็กซ์ตามแผนที่เขาวางไว้ในใจก่อนหน้านี้ คือเ
“ไม่ว่านายต้องการจะขโมยเงินหรือลักพาตัวผู้หญิง ฉันคิดว่านายมาผิดที่แล้ว” เจนสันพูดอย่างเย็นชาสตอร์มได้ยินแบบนั้นถึงกับกลืนน้ำลาย เขาถึงกับสะดุดกับคำพูดของเจนสัน“ฉันไม่ได้จะมาขโมยเงินและไม่ได้จะมาลักพาตัวผู้หญิงอย่างแน่นอน” สตอร์มอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปบีบใบหน้าเล็ก ๆ ของเจนสันเนื่องจากคนในสมาชิกของภูติผียังอายุน้อยและพวกเขารู้สึกว่าท่านประธานเป็นญาติสนิทของพวกเขา แต่ท่านประธานมีท่าทีที่เยือกเย็นอยู่เสมอ จึงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขาดังนั้น เมื่อเขาเห็นหนุ่มน้อยสองคนนี้ที่ดูเหมือนท่านประธาน สตอร์มก็รู้สึกว่าไม่สามารถเข้าใกล้พวกเขาได้มากนักเช่นกันนอกจากนี้ เจนสันยังมีทัศนคติที่เย็นชาเหมือนพ่อของเขาอีกด้วยเขาเบือนหน้าที่เย็นชาหลบออกจากมือคู่นั้น ดังนั้นทำให้สตอร์มไม่สามารถเอามือไปบีบหน้าเขาได้และจับได้แค่อากาศที่ว่างเปล่ายิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้สตอร์มหันกรงเล็บปีศาจของเขาไปทางร็อบบี้น้อย ซึ่งร็อบบี้น้อยปล่อยให้เขากระทำ เมื่อทำเช่นนั้นสตอร์มดูมีความสุข เขาจึงยิ้มปากฉีกไปถึงหูเลย “นายเป็นเด็กดีมาก”“สรุปว่านายมาทำอะไรที่นี่?” โลกของร็อบบี้น้อยนั้นช่างบริสุทธิ์และไร้เดียงสา ในสายตา