เจย์พูดว่า "ไม่ต้องห่วง ฉันเรียกคุณมาที่นี่ เพื่อมาให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วย"โรสถอนหายใจอย่างโล่งอกอย่างไรก็ตาม จากนั้นเธอก็จ้องเขม็งไปที่เจย์ เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เธอพูดตะกุกตะกัก “ให้คำปรึกษาเหรอคะ?”เธอจะให้คำปรึกษาผู้ป่วยได้อย่างไร ในเมื่อเธอไม่เคยเรียนจิตวิทยามาก่อน?เจย์พยักหน้า "มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?"เธอเกรงว่าการละเมิดต่อผู้วิเศษวิโสองค์นี้อาจทำให้เธอถูกไล่ออกได้ โรสไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องมีความกล้าหาญ"ฉันจะลองดูค่ะ"เจย์นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงหัวเตียงและจ้องไปที่เธอด้วยดวงตาที่หรี่ลงในขณะเดียวกัน เซร่าก็นั่งลงที่ปลายเตียงและพร้อมที่จะชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากของเธอจากมุมทั้งสองข้างของเธอ โรสรู้สึกกดดันอย่างมาก เธอมีหลายล้านเรื่องที่จะบอกคุณปู่ของเธอ แต่ไม่รู้ว่าจะพูดออกมาอย่างไรดี“คุณ... ปู่เซเวียร์ คือ... วันนี้เป็นวันที่มีแดดจ้า อากาศอบอุ่น และสายลมอ่อน ๆ เป็นวันที่เหมาะสำหรับการออกไปข้างนอกนะคะ…”เซร่าหน้างอ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร ทั้ง ๆ ที่เธอมีความโกรธเคืองอยู่เจย์ลืมตาขึ้นมองโรส “เธอกำลังอ่านรายงานสภาพอากาศอยู่เหรอ?”โรสจ้องมองเจย์ อย่างหมดคำพูด ผู้ชาย
เจย์โยนหน้ากากของโรสลงในถังขยะดวงตาของเธอพลันเบิกกว้าง เมื่อจ้องมองตามหน้ากากที่ตกลงไป หัวใจของเธอรู้สึกว่างเปล่าอย่างอธิบายไม่ถูกเจย์ไม่ปล่อยให้เธอจมอยู่กับความสมเพชของตัวเอง "มากับฉันสิ""เราจะไปที่ไหนคะ?" เธอเดินตามเขาออกจากห้องพยาบาลมีคนสองสามคนเดินสวนมาเป็นระยะ ๆ ตามทางเดินที่ทอดยาวระหว่างนั้น โรสจะหันหน้าเข้าหากำแพง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนอื่นเห็นใบหน้าที่ผิดปกติของเธอทุกครั้งที่เกิดขึ้น ดวงตาของเจย์ก็ร้อนรนยิ่งนักเขาพาโรส ไปที่สำนักงานของนักบำบัดโรคมืออาชีพโรส จ้องไปที่ประตูอ่านว่า 'จิตวิทยา' ทันใดนั้น การปฏิเสธอย่างแรงก็เกิดขึ้น เธอไม่ต้องการเข้าไปในห้องนั้น“ทำไมคุณถึงพาฉันมาที่นี่คะ ท่านประธาน? ฉัน... ยังสุขภาพจิตดีอยู่นะคะ”เมื่อหันกลับมา เขาตอบว่า "คุณปู่เซเวียร์มีความสำคัญต่อฉันมาก เพื่อประโยชน์สูงสุดของฉัน คุณต้องเรียนรู้เกี่ยวกับจิตวิทยาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"โรสยืนแข็งทื่อเธอมีปฏิกิริยามากเกินไปหรือเปล่า? เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อรับคำปรึกษาเหรอ?โรสค่อย ๆ เดินลากเท้าเมื่อได้พบกับนักบำบัด เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น ร่างกายของเธอสั่นสะท้
มันเป็นความเจ็บปวดที่ทำให้หายใจยากลำบาก!เมื่อออกจากห้องจิตวิทยา โรสลากร่างที่ไร้ชีวิตชีวาของเธอกลับไปที่หอพักโจเซฟินมองไปที่โรส “เป็นอะไรไป พี่แองเจลีน?”โรสนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงและพึมพำ "ห้ามบอกพี่ชายของเธอเกี่ยวกับใบหน้าของฉันนะ โจซี่"กล้วยในปากของโจเซฟินตกลงบนพื้นขณะที่รู้สึกว่าความผิดไล่ทันเธอแล้วเธอบอกพี่ชายของเธอ เรื่องรูปลักษณ์ที่เสียโฉมของแองเจลีนเมื่อนานมาแล้วไม่เพียงแต่พี่ชายของเธอยังเห็นเท่านั้นแต่เขายังสัมผัสใบหน้านั้นด้วยโจเซฟินถามอย่างฉุนเฉียวว่า “ทำไมล่ะ พี่แองเจลีน?”“เขาคงรับไม่ได้” หยดน้ำตาร่วงหล่นจากดวงตาของโรสโจเซฟินนั่งบนเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน…ในขณะนั้น เธออาจเข้าใจว่าทำไมพี่ชายที่ไม่มีใครแตะต้องได้ของเธอถึงได้หลั่งน้ำตาเพื่อหล่อนมากมาย หลังจากได้มองหน้าพี่สะใภ้หัวใจของเขาจะต้องเจ็บปวดเพราะเธอ!โจเซฟินเปิดแล็ปท็อปและลงชื่อเข้าใช้ในเกมหากความกังวลที่ใหญ่ที่สุดของแองเจลีนคือ พี่ชายของเธอ เธอจะแก้ไขปัญหาที่ต้นตอถึงเวลาแล้วที่จะขุดหาผู้กระทำผิด ที่อยู่เบื้องหลังน้ำตาของแองเจลีนเธอส่งข้อความถึง จักรวรรดิไร้อาทิตย์อัสดง ว่า 'ออนไลน์หน่อยค่ะ'
จักรวรรดิไร้อาทิตย์อัสดงพิมพ์ลงในกล่องแชทว่า 'คุณอยากจะเจอกันสักครั้งไหม?'โรสจ้องที่หน้าจอด้วยความตื่นตระหนกไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีโอกาสที่จะได้พบกับจักรวรรดิไร้อาทิตย์อัสดงแล้ว...เธอออกจากระบบอย่างรวดเร็วและเอาหัวซุกใต้หมอนความโกรธเคืองแวบเข้ามาในดวงตาของจักรวรรดิไร้อาทิตย์อัสดงขณะที่เขาจ้องไปที่ไอคอนโปรไฟล์สีเทาของเธอ'คนขี้ขลาด'…โรสอารมณ์ไม่ดีในฐานะ 'ผู้พิทักษ์' ของเธอ โจเซฟินพยายามอย่างหนักเพื่อให้รอยยิ้มนั้นกลับมาอยู่บนใบหน้าของเธอนอกจากจะไปรับโรสจากที่ทำงานแล้ว เธอยังซื้อและมอบดอกกุหลาบ 999 ดอก ให้กับผู้ป่วยคนอื่น ๆ อีกด้วยโจซี่ผู้น่ามองและสง่างามเมื่ออยู่ในเสื้อผ้าของสตรี แต่เธอก็ดูคมสันและหล่อเหลาในเสื้อผ้าบุรุษ เธอดูมีเสน่ห์จนทำให้ผู้หญิงเห็นแล้วสลบสไลเธอสวมชุดสูทสีขาวเดินไปมาในแผนกการแพทย์ ตามความต้องการของโรส ทำให้คนงานคนอื่น ๆ เชื่อว่าเธอคือแฟนของโรสด้วยเหตุนี้ ข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตรักของโรสจึงเริ่มแพร่สะพัดออกไปเมื่อคิดว่านี่เป็นปัญหาใหญ่ เกรย์สันจึงไม่กล้าปิดบังท่านประธานและบอกความจริงกับเขาอย่างอย่างไม่สบายใจ"ท่านประธานครับ นายหญิง… เธอกำลังนอ
เสน่ห์ที่น่าสนใจของเจย์ได้ดับลงไป“ทุกคน ฉันต้องการโยนดอกไม้เหล่านี้ทิ้งให้หมด” น้ำเสียงของเจย์ช่างน่าขนลุกทันใดนั้น เมื่อได้ยินเสียงของเจย์ โรสก็พลันตกใจชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาสองสามคนในชุดดำ สวมแว่นกันแดดได้หลั่งไหลเข้ามาในห้องและกวาดเอาดอกกุหลาบออกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่เหลือสักดอกโรสยืนนิ่งไม่ขยับ น้ำตาร่วงหล่นจากดวงตาด้วยความรู้สึกผิดของเธอเจย์มองเธออย่างขุ่นเคือง “คุณไม่รู้เหรอว่า ผู้ป่วยบางรายอาจแพ้ดอกไม้ได้?”โรสเปิดปากของเธอ แต่ยังคงนิ่งเงียบทำไมเขาถึงตำหนิเธอ? เขาทราบดีว่าปู่ของเธอไม่แพ้"ค่ะท่าน ฉันเข้าใจแล้ว มันจะไม่เกิดขึ้นอีกค่ะ” โรสพูดพลางคร่ำครวญเมื่อเห็นว่าเขาทำให้เธอน้ำตาไหลอีกครั้ง เจย์ รู้สึกได้ถึงเปลวเพลิงแห่งความหงุดหงิด ที่ไหม้อยู่ในอกของเขา“ใครส่งดอกไม้มาให้?” เขาถามอย่างเย็นชา“เพื่อนค่ะ” โรสตอบ"แฟนเหรอ?"โรสไม่พยักหน้าหรือส่ายหัวจริง ๆ แล้วเป็นผู้หญิง โจซี่ก้าวข้ามปัญหาในการแต่งตัวข้ามเพศ เพื่อรับบทเป็นผู้พิทักษ์ของเธอห้ามพูดถึง นี่ไม่ใช่เวลาที่จะเปิดเผยตัวตนของโจซี่เจย์ใช้ความเงียบของเธอ เป็นคำตอบว่าใช่โกรธแต่ไม่มีวิธีระบายความโกรธ เข
เมื่อตื่นขึ้น โรสก็ตระหนักถึงความจริงที่น่าสยดสยอง เธอเป็นโรคภูมิแพ้"อ๊ากกก!"เสียงเหมือนหมูถูกฆ่า ดังออกมาจากห้องน้ำ ทำให้โจเซฟินตกจากเตียงด้วยความตกใจ"เกิดอะไรขึ้น?"โจซี่รีบไปที่ห้องน้ำเพื่อดู ผิวขาวของโรสที่มีผื่นแดงประปรายใต้คอเสื้อหลวม ๆ ของเธอมันเข้ากับสีผิวหน้าของเธอโจเซฟินจ้องมองด้วยความตกใจ “เธอแพ้เกสรดอกไม้เหรอ?”โรสส่ายหน้าไปมา “ร่างกายของโรส ลอยล์ นั้นอ่อนแอโดยธรรมชาติ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันลืมเรื่องนี้ไปได้น่ะ”โจซี่รีบเดินออกไป เพื่อส่งข้อความหาพี่ชายของเธอ ดวยโทรศัพท์ของโรส ' มาเอาดอกกุหลาบของนายออกไป!' ตอนนี้! เดี๋ยวนี้เลย!ได้รับข้อความดังกล่าวในตอนเช้า ทำให้อารมณ์ของเจย์แย่ลงทันทีเห็นได้ชัดว่าเธอรักดอกไม้ที่คนอื่นส่งให้เธอ แต่ในขณะเดียวกันก็กวาดดอกไม้อันล้ำค่าของเขาออกไปนอกประตูนี่หมายความว่าอย่างไร?เขาตอบอย่างเฉยเมยว่า 'กำจัดเองสิ'หลังจากรับประทานอาหารเช้าแบบเรียบง่าย เจย์ ก็มาถึงบริษัทเกรย์สันจึงเล่าสิ่งที่ค้นพบครั้งสำคัญของเขาต่อท่านประธาน อย่างมืออาชีพ "นายท่านครับ นายหญิงโยนดอกกุหลาบที่นายท่านส่งให้ลงในถังขยะชุมชน เมื่อเช้านี้ครับ”เจ
เจย์ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างเห็นได้ชัดและเกรย์สันก็รีบไล่ตามเขาไปทันที “ท่านประธานครับ คนพาลคนนั้นได้พานายหญิงไปที่บาร์เมื่อชั่วโมงที่แล้ว”เปลวไฟแห่งความโกรธเกรี้ยวไหลออกมาจากดวงตาที่เย็นชาของเจย์ “ไอ้บ้าเอ้ย!”เขายืนอย่างสง่างาม น้ำค้างแข็งไหลออกมาจากร่างที่อ่อนแรงของเขาด้วยคลื่นที่ซัดเข้ามาจากการแสดงอารมณ์นั้นวินาทีต่อมา ขาเรียวยาวของเขาก็เดินไปที่ประตูเกรย์สันไม่กล้าพูดออกมาขณะที่เขาคิดว่าเขาควรยืนอยู่มุมไหนสักที่อย่างเงียบ ๆ ท้ายที่สุด ในการยุติคนพาลนี้ ท่านประธานคงต้องมีความขัดแย้งกับนายหญิง“ขอโทษที่รบกวนนะคะ เจนิสต้องการพบคุณค่ะ ท่านประธาน” เลขารายงานขณะที่เธอมีน้ำเสียงที่หอบเพราะรีบวิ่งมาผู้หญิงคนนี้คือเจนิส เป็นคนออสเตรเลียที่ติดต่อโครงการใหม่ระหว่างแกรนด์ เอเซียและโครงการในปรเทศออสเตรเลีย“ปล่อยให้เธอรอไปก่อน”เลขารีบตอบกลับว่า “เจนิสบอกว่าเวลาคือสิ่งสำคัญ ท่านประธาน เธอต้องขึ้นเครื่องหลังจากเจรจารายละเอียดกับคุณเสร็จ”“บอกเธอไปว่าตอนนี้สวนหลังบ้านของฉันถูกไฟไหม้”เลขาอ้าปากค้างขณะมองไปที่เขาเกรย์สันโบกมือไล่เธอออกไป “ตามนั้นเลย ไปบอกให้เธอรอสักครู่”แต่ทว่า เจ
“จะพาคนของฉันไปไหน?”โรสเดินเซไปมาขณะที่เธอพยายามเดินตามพวกเขาไป ทว่า ระหว่างทางของเธอได้ถูกขวางไว้โดย เจย์ อาเรส ที่กำลังโกรธเกรี้ยวอยู่“มองหน้าฉันสิ ฉันเป็นใคร?”โรสจ้องมองไปที่เขา เธอกระพริบตาอย่างไร้เดียงสา เธอยกมือขึ้นขยี้ตาที่งัวเงียกับความมึนเมาด้วยท่าทางสับสน “เราไม่เคยเจอกันมาก่อนเลยไม่ใช่เหรอ สุดหล่อ?”เจย์จ้องเธออย่างเย็นชาพลางกดกรามด้วยความโกรธ “ฉันก็ว่างั้น”โรสยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ฉันเป็นคนเปิดเผยมากเมื่อพูดถึงผู้ชายที่หล่อเหลา รู้ไหม ถึงแม้นายจะดูคุ้น ๆ แต่ฉันไม่คิดว่าฉันเคยเจอนายมาก่อนนะ เนื่องจากทุกโชคชะตาของฉันจากชีวิตก่อนหน้าและปัจจุบันของฉันได้สูญเปล่าไปกับ เจย์ อาเรส ไอ้สารเลวที่หล่อเหลาคนนั้นไปหมดแล้ว”รูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งของเจย์เริ่มกระตุกโรสทั้งชมเชยและดุเขาในประโยคเดียวกัน การแสดงออกอย่างเงียบ ๆ ของเขาเปิดเผยว่าเขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเขามองดูโรสวางแขนที่เป็นมิตรบนไหล่ของเขาในลักษณะเปิดเผยออกมา เธอเมาเกินกว่าจะเข้าใจเธอต้องดื่มไปเยอะมากแน่ ๆ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้“นายรู้จักวิธีการต่อสู้ไหม สุดหล่อ?”การแสดงออกของเจย์ยังคงเฉยเมย “รู้”เธ