ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้ ในที่สุดน้ำตาของโรสก็ไหลลงมาไม่หยุดราวกับฝนที่ไหลผ่านหลังคารั่วภายใต้หมอนที่เปียกปอนเธอยังเชื่อในตัวเขาได้อีกไหม?สายตาของเธอว่างเปล่าราวกับว่ามีช่องว่างเธอเหม่อมองดูกระเบื้องหินอ่อนสีขาวและดูราวจับบันไดไม้มะฮอกกานีที่แกะสลักบริเวณรอบ ๆราวจับบันไดนำไปสู่ชั้นบนที่เงียบสงบ ซึ่งมันมืดมิดผิดปกติ“ผู้หญิงบ้าคนหนึ่งซ่อนตัวอยู่บนเตียงของพ่อ!”จู่ ๆ เสียงอันสั่นเทาของเจนสันก็ดังขึ้นในหัวของโรสความรู้สึกที่นอนไม่หลับ โรสลุกขึ้นมาแต่งตัว จากนั้น เธอก็ย่ำก้าวเดินขึ้นบันไดเจนสันไม่ใช่คนเดียวที่ตื่นตระหนกเกี่ยวกับความลับเบื้องหลังห้องใต้หลังคา เพราะมันทำให้เธอตื่นเต้นเช่นกันผู้หญิงในห้องใต้หลังคาคือใคร?…เนื่องจากหอท่าเรือหอมหวนถูกสร้างขึ้นตามลักษณะของสถาปัตยกรรมซ้อนทับแบบคลาสสิก ห้องของมันจึงถูกสร้างขึ้นอย่างซับซ้อนและมืดสลัวตามธรรมชาติเอื้อมมือไปผลักเปิดประตูข้างราวจับบันได้นั้น โรสเดินเข้าไปในห้องและปิดประตูข้างหลังเธอเธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ ที่มีห้องนอน ตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีโต๊ะสี่เหลี่ยมพร้อมชุดน้ำชาด้านบนและเก้าอี้แบรนด์ราคาแพ
โรสพุ่งเข้าหาช่องแคบนั้น ตอนห้องถูกเคลื่อนย้าย เพียงเพื่อให้กำแพงรอบ ๆ ช่องขยับได้ในขณะที่เธอเอื้อมมือไปปิดกั้นช่องให้หยุดหมุนจากนั้น ไฟของห้องก็เปิดขึ้นโรสหันกลับมาเห็นเจย์ด้วยสีหน้าเข้มขรึม มือของเขากำลังกดปุ่มบนผนังโรสจ้องไปที่ลูกบิด จากนั้นหันกลับไปจ้องที่ช่องถูกปิดกั้นเขาปิดช่องทางเข้านั้นหรือเปล่า?“ท่านอาเรส ฉัน… ฉันคิดว่าฉันหลงทาง ฉันอยากไปห้องน้ำ…” โรสพูดช้า ๆ ดวงตาของเธอหลบตาแล้วจ้องมองลงไปที่พื้นขณะที่เธอตัดสินใจโดยจิตใต้สำนึกที่ซ่อนเก็บสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นจากเขาเจย์เอื้อมมือออกมา ด้วยท่าทางที่ตกตะลึง โรสวางมือของเธอไว้ในมือที่ใหญ่กว่าของเขา“ออกมา เธอออกมาซะ” รอยย่นระหว่างคิ้วของเขาเมื่อรู้ตัวว่าโรสไม่ได้อยู่ข้าง ๆ เขาขณะที่เขาตื่นขึ้นมาในที่สุดก็ผ่อนคลายลงเมื่อเขาพบเธอแล้วการจ้องมองของโรสจับจ้องไปที่ลูกบิดราวกับว่ามันเป็นหลุมดำขนาดมหึมาที่ขู่ว่าจะกลืนกินเธอทั้งหมดความลับเบื้องหลังสถานที่นี้คืออะไร?เจย์ซ่อนบางอย่างจากเธอหรือเปล่า?“ช่างเป็นห้องที่มืดมิด นายจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ ท่านอาเรส?” โรสกระวนกระวายขณะที่เธอพยายามถามอย่างอยากรู้อยากเห็นเธอแอบมองเจย
แม้จะไม่เคยใส่ใจกับรูปลักษณ์ของตัวเอง แต่การยกย่องจากผู้หญิงคนนี้ก็ทำให้เขามีอารมณ์เชิงลบโรสบ่นในใจ “นายไม่รู้เหรอ? หญ้าจะเขียวกว่าที่อีกด้านหนึ่งของรั้วเสมอ”เจย์ยิงสายตาด้วยแสงสะท้อนความตายให้เธอ “ผู้ชายแบบไหนที่เธอต้องการกัน?”โรสปิดปากและส่ายหัวเริ่มมีการสัมผัสแขนจากไหล่ของเธอไปที่เอวของเธอ เจย์บีบตัวเธอแน่นเข้ากับตัวเองจนถึงจุดที่โรสรู้สึกราวกับว่าอากาศจากช่องท้องไปยังปอดของเธอถูกบีบออกในชั่วขณะหนึ่ง เธอรู้สึกหายใจไม่ออก“เนื่องจากเธอได้นอนกับฉันอีกครั้งแล้ว โรส เธอได้เซ็นสัญญาว่าจะใช้ชีวิตเพื่อนอนกับฉันอยู่นะ เธอคงรู้ดีว่าฉันเป็นคนบ้าคลั่งแค่ไหน ใช่ไหม? ฉันจะโยนเธอเข้าไปในเตาเผาถ้าเธอมีความคิดแม้แต่น้อยนิดต่อผู้ชายคนอื่น”โรสพยักหน้าและโค้งคำนับด้วยท่าทางเหมือนลูกหมาน้อย “ไม่มีสักวินาทีที่ฉันจะไม่เตือนตัวเองว่าฉันเป็นของนาย ท่านอาเรส”“ดี” จากนั้น เขาก็พูดว่า “ปู่อยากให้ฉันดูแลแขก รอฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะกลับมาเร็ว ๆ นี้”ราวกับว่ามีน้ำหนักมากที่แน่นถูกยกออกจากโรสในขณะที่เจย์หันจากไปฌอนเดินไปหาโรสอย่างสง่างาม“ออร์คิด!”“ฌอน แผนของเราจบแล้วตอนนี้” โรสถือโอกาสนี้ เพื่
หลังจากที่แนนซี่ถูกจับตัวไป เจย์ก็ฉีกแจ็คเก็ตของฌอนออกจากตัวโรสทันทีจากนั้น เขาก็เอาเสื้อคลุมของตัวเองคลุมเธอไว้“อย่าแตะต้องสิ่งของจากผู้ชายคนอื่นอีกต่อไป มันน่ารังเกียจ” เขาเตือนอย่างร้ายกาจในทันใดนั้นเกิดเสียงหัวเราะเบา ๆ ออกจากริมฝีปากของฌอนหลังจากใช้ทุกวิถีทางบนโลกนี้ทั้งหมดเพื่อหยุดเขาและโรสจากการถูกเผยแพร่ความสัมพันธ์ลับของพวกเขา เจย์ไม่เคยคาดคิดเหตุการณ์นี้มาก่อนและด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้คิดวีธีป้องกันไม่ให้ แนนซี่ เบล เป็นกุญแจดอกสุดท้ายในการบอกโลกเช่นเดียวกัน ตอนนี้สาธารณชนรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของเขาและโรสการแสดงตัวต้องดำเนินต่อไป ฌอนยิ้มให้เจย์อย่างไร้อารมณ์ขัน “ชุดคู่รักที่เข้ากันกับแฟนของผม หมายความว่าไงท่านอาเรส? ความหมายเบื้องหลังสิ่งนี้ที่จะสื่อคืออะไร?”“ก็เธอเป็นภรรยาของผมไง” เจย์ประกาศ ด้วยท่าทีที่เขาจำเป็นต้องพูด“อดีตภรรยาหรอก” ฌอนยิ้มอย่างอ่อนโยน“แต่นั่นยังไงก็ยังเป็นภรรยาของฉันอยู่ดี” เจย์กล่าวพร้อมยืนยันว่าเป็นความจริง…สิ่งที่เข้าใจเกี่ยวกับฌอนและเจย์ต่อสู้กับผู้หญิงต่อหน้าทุกคนทำให้ท่านปู่จมอยู่กับความโกรธ เขาบอกให้คนพาทั้งคู่เข้าไปในห้องโถงด้าน
“ย้ายก้นของเธอมานี่” เจย์ตำหนิด้วยน้ำเสียงสั่งการขณะที่เขามองดูเธอยืนอยู่ข้าง ๆ ฌอนโรสตัวสั่นและเดินไปยืนตรงหน้าเขาอย่างเชื่อฟังโดยไม่มีทางเลือกอื่น ปีศาจตนนี้ถืออนาคตของบริษัท เซเวียร์ ไว้ในมือของเขาท่านปู่ถามอย่างหวาดกลัว “โรส ในผู้ชายสองคนนี้เธอรักคนไหนกันแน่?”โรสเหลือบมองเจย์อย่างหวาดกลัว จากนั้นหันไปมองฌอนอย่างสิ้นหวังการเลือกคนใดคนหนึ่งในนั้นหมายความว่าเธอจะทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองอย่างไม่ต้องสงสัยเธอไม่สามารถทำให้เจย์ขุ่นเคืองได้ แต่เธอก็ไม่ต้องการทำให้ฌอนขุ่นเคืองเช่นกัน“ท่านปู่อาเรสคะ ฉันเกรงว่าฉันไม่มีสิทธิ์เลือก” โรสตอบ“ไม่เป็นไรหรอก บอกฉันมาเถอะว่าเธอรักใคร ฉันจะปกป้องการตัดสินใจของเธอตรงนี้” ท่านปู่พูดออกมาอย่างมั่นใจ“เธอควรคิดให้ดีกว่านี้ก่อนที่จะตอบนะ โรส” เจย์กระซิบ เขากำลังจะเตือนเธอเกี่ยวกับสัญญาที่ให้ไว้เกี่ยวกับบทภาพยนตร์เรื่อง นภาเดือนหงาย!ด้วยคติประจำใจที่ว่า 'ไปตามกระแส' มาโดยตลอด โรสจึงตัดสินใจเลือกเจย์ทันทีหลังจากที่เขาถูกคุกคามอย่างโจ่งแจ้ง“ฉันรักท่านอาเรส!” เธอขบกรามแน่นแทนที่จะแสดงอารมณ์ที่ปะทุขึ้น ฌอนกลับยิ้มเบา ๆ“ยินดีด้วย” ฌอนยื่นมื
รอยยิ้มของฌอนจางลงราวกับทรายในนาฬิกาทราย ยิ่งเขาพยายามหวนคิดถึงแต่ตัวเองมากเท่าไหร่ ความบ้าคลั่งของเขาก็แสดงให้เห็นชัดเจนมากขึ้นเป็นอีกครั้งที่ เขาประสบกับความหวาดกลัว นั่นคือ เจย์ อาเรส“เป้าหมายสูงสุดของนายคือทำให้ฉันเกลียดนายเพื่อที่ให้ฉันจะทำลายบริษัท เบล แทนนาย นั่นคือเหตุผลที่นายใช้ โรส ลอยล์ จริงไหม?”เมื่อเจย์ถอดสีหน้าออกมาอย่างไร้ความปรานี ทุกอย่างที่เหลืออยู่ของ ฌอน เบล คือตัวตนที่เปราะบางของเขาหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาซีดเซียวและเหมือนถูกสูบเลือดออกมา! ร่างกายของเขาเริ่มสั่นสะท้านแม้ว่าเขาจะรีบเงยหน้าขึ้นด้วยความสับสนและพูดอย่างสงสัยว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณหมายถึงอะไร ท่านอาเรส”เขาไม่ยอมเชื่อว่าเจย์จะรู้ถึงเจตนาร้ายของเขาไม่มีทางที่เจย์จะค้นพบความตั้งใจที่แท้จริงของเขาที่มีต่อบริษัท เบล ได้อย่างรวดเร็ว มันไม่ควรเป็นแบบนี้เมื่อเขาซุ่มแอบสิ่งที่หลอกลวงนี้มาหลายปีแล้วและถูกจับได้กับเจย์เพียงแค่ไม่นานนี้“งั้นเรามาจัดการกันเถอะ!” เจย์หลับตาลง เมื่อเขาเปิดตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาคู่ทั้งคู่ก็ลุกเป็นไฟด้วยความปรารถนาที่จะควบคุมกับความแข็งแกร่งของเขาฌอนแย้ง “คุณมีจุดประสงค์อะไร?
เธอถูกบริษัท เบล ไล่ออก?นั่นหมายความว่าเธอไม่มีทางที่จะล้างแค้นให้บริษัท เซเวียร์ หรือกำจัดกำแพงหินของเบลได้อีกต่อไปเจย์เยาะเย้ยพร้อมกับกอดอกจ้องมองไปที่หญิงสาวที่หดหู่ใจ “อะไรกัน? คิดถึงเขาแล้วเหรอ?”โรสจ้องมองไปที่เจย์ “นายบังคับให้เขาไล่ฉันออก ใช่ไหม?”“ฉันไม่ได้คิดถึง” เจย์ตอบตามความเป็นจริงสิ่งที่เขาทำคือให้ฌอนอยู่ห่างจากโรส เขาไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับการเลิกจ้างเลยโรสกำหมัดแน่น ชายคนนี้ไม่เพียงแต่ซับซ้อนและเข้าใจยากแล้ว แต่เขายังเป็นคนสองหน้าและแสดงบทบาทบ้า ๆ นี้ได้สมบูรณ์แบบอีกด้วยเจย์วางมือล้วงลงในกระเป๋ากางเกางอย่างนิ่ง ๆ“ถ้าเธอต้องการหุ้นส่วนเพื่อปฏิวัติล่ะก็ ฉันล่ะเป็นไปได้ไหม? ฌอน เบล ไขว้เขวง่ายเกินไป”“นายไม่สามารถเป็นได้” โรสพูดอย่างขุ่นเคือง“อย่างน้อยฉันก็ภักดีต่อเธอนะ”โรสกลอกตา “พูดราวกับว่าฉันคงโง่พอที่จะเชื่อคำพูดไร้สาระของนายงั้นแหละ”เจย์พูดไม่ออก “ ... ”เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์ที่สุดเท่าที่พวกผู้ชายจะมีได้!“ไปกันเถอะ!” เจย์พูดโรสไม่ยอมขยับเจย์จ้องมองไปที่ผู้หญิงตัวน้อยที่โกรธเกรี้ยวอย่างสิ้นหวัง “การที่ยังนั่งอยู่ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเธอจะอารมณ์เส
ภายใต้การจ้องมองอย่างเฉียบขาดของเจย์ เสียงของเซย์นก็เบาลงในขณะนั้น “แล้วคุณพิสูจน์ให้เราเห็นด้วยไหมล่ะ? ว่าคุณรักโรส จริงหรือเปล่า?”ทั้งโจเซฟินและโรสต่างกล่าวชื่นชมเซย์นในเรื่องความเฉลียวฉลาดเมื่อมองไปที่โรส เจย์ถามว่า “เธอคิดยังไง?”โรสเข้าข้างเซย์น เธอจึงพูดว่า “คนที่เป็นแบบอย่างเท่านั้นที่จะสามารถโน้มน้าวผู้อื่นได้”“แล้วเธอต้องการอะไร?”“ฉันไม่เชื่อว่าท่านอาเรสสามารถให้สิ่งที่ฉันต้องการได้หรอก” โรสพึมพำเบา ๆ“หากเป็นสิ่งที่เธอต้องการ สิ่งนั้นจะเป็นของเธอตราบเท่าที่ฉันสามารถให้ได้”โรสตื่นตระหนก ผู้ชายคนนี้ต้องมีอะไรกระทบอย่างแรงทางจิตใจแน่ ๆ?หลังจากหยุดคิด เธอตอบว่า “ฉันอยากได้รถหรู แล้วก็หุ้นของบริษัท—”ในแง่ที่อยากก่อกวน โรสระบุถึงผลประโยชน์ที่ร่ำรวยเพื่อเป็นการแกล้งเล่นตลกขณะที่เธอจ้องมองไปที่เจย์ รอให้เขาเปลี่ยนใจกับคำพูดของเขา“ไม่มีปัญหา!”เธอตะลึง งั้นลองเพิ่มเงินเดิมพันจากการเล่นตลกของเธอ เธอพูดต่อไปว่า “ฉันต้องการสถานะของนายหญิงอาเรสด้วย”“ไม่มีปัญหา!”โรสขบกรามแน่น “ถ้าอย่างนั้น…นายช่วยเขียนเป็นคำและลงนามในกระดาษเพื่อปิดผนึกข้อตกลงด้วยได้ไหม?”เจย์ยิ้มอย่