นั่นเป็นเรื่องที่น่าตกใจทีเดียวเจย์มัดเธอไว้โรสลืมตาขึ้นและจ้องมองเขาด้วยความตกใจ“ถ้าเธอต้องการให้ฉันปล่อยเขาไป เราจะต้องมาดูว่าเธอจะแสดงอย่างไร” เจย์กล่าวโรสรู้สึกสับสน เธอจ้องมองไปที่ฌอนซึ่งนอนอยู่บนพื้นคอนกรีตอย่างงุนงง จากนั้นเธอก็มองกลับไปที่เจย์เธอลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ แต่เธอก็ทรุดตัวลงกลับไปหาเจย์อย่างรวดเร็วเพราะเธอไม่มีแรงเหลืออีกแล้วเธออยากจะลุกขึ้นยืนขึ้นมาอีกเมื่อได้ยินเสียงที่พึงพอใจของเจย์ “อืม ตอนนี้ดูมีแนวโน้มแล้วนะ”โรสรู้สึกหายใจลึก ๆ เข้าใจกลางของเธอไอ้โรคจิตคนนี้ต้องการให้เธอทำให้เขาพอใจที่นี่และตอนนี้งั้นเหรอ?ลามก อนาจารเธอเงยหน้าขึ้นและเจย์ก็จับด้านหลังศีรษะเพื่อมุ่งไปใกล้ริมฝีปากของเธอนอกจากนี้ เขายังหันหัวของเธอไปอีกด้านหนึ่งอย่างไร้ความปราณีเพื่อให้ฌอนได้เห็นภาพที่พวกเขาจูบกันโรสรู้สึกอึดอัดมาก…จูบของเจย์มีนัยยะของการลงโทษอยู่ในตัว มันทำให้เธอแทบหมดลมหายใจเมื่อเธอกำลังจะสติแตก ในที่สุดเขาก็หยุดเขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน เดินไปที่ประตู และพูดกับสตอร์มและเทมเพสว่า “ปล่อยยัยเปี๊ยกไปก่อน เราจะจัดการกับเขาต่อจากนั้น”นั่นเป็นช่วงเวลาที่ชะตาก
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันไม่ต้องการ?” โรสจ้องมองเขาด้วยความไม่แยแสมือของเขาจับผมปลอมที่ต่อสีดำสนิทของเธอ ทุกปอยผมด้วยความตั้งใจราวกับว่ามันเป็นอัญมณีหายากโรสนึกถึงเวลาที่เขาดึงผมและทำให้หนังศีรษะของเธอชา มันทำให้เธอกังวลเจย์ดึงผมของเธอเล็กน้อยและแกนผมของเธอก็หลุดออกมาอย่างง่ายดายจากนั้น เขาทำตัวเหมือนเด็ก เขาถอนผมออกทีละเส้นโรสตื่นตระหนกเพราะความเจ็บปวด “ท่านอาเรส พวกนี้มันแพงนะ…”เจย์ตอบอย่างขบขันว่า “เธอไม่เบื่อที่จะแต่งหน้าทุกวันในขณะที่อยู่กับเขาเหรอ?”“ฉันเต็มใจ” โรสให้คำตอบที่ชัดเจน“เธอชอบเขาขนาดนั้นเลยเหรอ?”เธอกลายเป็นคนเงียบในใจของเธอ เขาสามารถเติมเต็มเธอได้ตลอดสองชั่วอายุคนเมื่อก่อน เธอเหมือนสุนัขพันธุ์ปั๊ก ตราบใดที่เขายิ้มและโบกมือให้เธอ เธอก็จะเชื่อฟังกับเขาเธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเกียรติยศและชีวิตของผู้หญิงมีค่ามากกว่าความรักโชคดีที่ความไม่แยแสของเขาและความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับเธอทำให้เธอมีสติขึ้นมาเธออยากจะกลายเป็นคนใหม่“หืม?” เขารออยู่นานและในลำคอของเขาก็เปล่งเสียงออกมาด้วยความไม่พอใจเธอจ้องมองเขาด้วยความโกรธ “ใครก็ตามที่ฉันชอบ มันไม่ใช่ธุระอะไรของน
ในถังขยะมีกล่องอาหารเสริมราคาแพงที่วางอยู่ข้างเข็มฉีดยาแย่ ๆ นั่นเมื่อโรสคิดว่าเป็นโรคที่น่าอับอายนี้ เธอก็จมอยู่กับความเศร้าเธอเดินกลับไปที่บ้านเช่าของเธอด้วยความตกใจในขณะที่เธอปิดประตู อารมณ์ของเธอก็ระเบิดออกเหมือนเขื่อนแตกเธอนั่งยอง ๆ บนพื้นขณะที่น้ำตาของเธอไหลอย่างควบคุมไม่ได้“นายทำกับฉันได้ยังไง?”โทรศัพท์ของเธอดังขึ้นไม่หยุด โรสดึงมือถือออกจากกระเป๋าและเห็นคำว่า “โจเซฟิน อาเรส” เธอเช็ดน้ำตาและรับสาย“พี่สะใภ้…”“อย่าเรียกฉันอย่างนั้น”น้ำเสียงของเธอราวกับว่าเธอกำลังอ้อนวอน และเสียงที่โกรธมากของเธอทำให้โจเซฟินมึนงง“พี่ชายของฉันทำให้คุณโกรธเคืองหรือเปล่า?”“โจเซฟิน ฉันจะทิ้งลูกทั้งสามคนให้เธอ โปรดช่วยดูแลพวกเขาให้ดี” โรสสะอื้น “แล้วก็ ช่วยบอกพี่ชายของเธอด้วยว่าเซ็ตตี้น้อยเป็นลูกสาวของเขา บอกให้เขาปฏิบัติต่อเธอให้ดี”“โรส ลอยล์ เกิดอะไรขึ้นกับคุณ? คุณจะยอมออกจากความปราถนาของคุณตอนนี้งั้นเหรอ? คุณอยู่ที่ไหน? ฉันจะไปหาเลยตอนนี้” โจเซฟินแทบคลั่งโรสวางสายและเหวี่ยงโทรศัพท์ของเธอลงที่พื้นโจเซฟินรีบโทรหาเจย์ “พี่ นายทำอะไรกับพี่สะใภ้ไปบ้าง?”เสียงแหบแห้งของเจย์ดังขึ
“โรงแรม ปาร์กเกอร์” หลังจากที่เจย์ค้นหาที่ที่โรสอาศัยอยู่ได้แล้ว มันก็เหมือนกับว่าเขาผ่านสงครามมายาวนาน เขาหมดแรง เขาเลยเอนหัวพิงเบาะและพักสายตาไปโจเซฟินแอบมองเจย์ผ่านกระจกหลัง ในขณะนั้น หัวใจของเธอกำลังดิ้นรน พี่สะใภ้ของเธอกล้าที่จะต่อต้านตระกูลอาเรส จากการที่พี่ชายของเธอเคยจัดการกับเรื่องแบบนี้มาก่อน เหตุการณ์ที่เกิดเขาจะทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแน่นอนเธอควรจะอ้อนวอนขอร้องช่วยพี่สะใภ้ดีไหม?“พี่ชาย ในเมื่อพี่สะใภ้ทำงานร่วมกับบริษัท เบล เพื่อแย่งชิงธุรกิจของบริษัท อาเรส ฉันคิดว่าเธอดันไปแตะต้องถึงสิ่งที่มีค่าของจีนส์ พี่สะใภ้คงไม่ตั้งใจที่จะแตะต้องสิ่งของจำเป็นของนาย... ”เจย์ลืมตาขึ้น ทันใดนั้น ม่านตาของเขาก็เปล่งแสงออกมาอีกครั้งเธอคิดแบบนั้นจริง ๆ เหรอ?ท่าทางที่น่าเบื่อของเขาสว่างขึ้นเล็กน้อย“พูดให้มันน้อยลงหน่อยและขับรถเร็ว ๆ เถอะน่า” เจย์กระตุ้น“โอ้”เมื่อรถจอดที่ชั้นล่างของโรงแรม ปาร์คเกอร์ เจย์รีบเปิดประตูรถและวิ่งเข้าจากระยะไกล ๆ เข้าไปในตำแหน่งที่เขาเจอโจเซฟินถูกทิ้งให้ตกตะลึง!เขาจะรีบไปฆ่าหรือช่วยเธอกันแน่?โจเซฟินรีบจอดรถอย่างผิดกฎจราจรที่ริมถนน เธอเป
โรสจับมือของเจย์แล้ววางบนใบหน้าของเธอเองดวงตาของโจเซฟินขยายใหญ่ขึ้นเมื่อเธอมองไปที่เจย์ด้วยความหวาดกลัวในดวงตาของเธอถ้าพี่ชายของเธอทนได้ถึงขั้นนี้ เธอจะได้กินฝ่าเท้าเป็นมื้ออาหารเช้าแน่เจย์ไม่โกรธ แต่เขากลับให้นิ้วมือทั้งหมดกับเธอเพื่อลูบไล้ใบหน้าที่แดงก่ำเหมือนลูกตำลึงของเธอเขาถามอย่างอ่อนโยนว่า “เธอรู้ไหมว่านี่คือมือของใคร?”“ฉันรู้” โรสพึมพำ“เจย์บี้”โจเซฟินกรีดร้อง “อ่าห์!”เธอปิดปากและจ้องมองไปที่เจย์ อย่างหวาดกลัวนี่คือชื่อเล่นต้องห้ามของเจย์มีผู้หญิงคนหนึ่งโทรหาเขาแบบนั้นในตอนนั้น ท้ายที่สุด ชื่อเสียงของเธอก็ถูกทำลายโดยพี่ชายของเธอและผู้หญิงคนนั้นก็ฆ่าตัวตายโรส ลอยล์ ถึง คราวเคราะห์แล้วแน่ถึงกระนั้น ดวงตาที่เย็นชาของเจย์ก็ค่อย ๆ อบอุ่นขึ้น รอยยิ้มอ่อน ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา“โรส กลับบ้านไปกับฉัน” เจย์พูดด้วยความรักทันใดนั้น โรสก็รู้สึกคลุ้มคลั่ง เธอปล่อยมือของเจย์และดึงผมของเธออย่างบ้าคลั่งขณะที่เธอคร่ำครวญอย่างเสียใจ“ฉันไม่มีบ้าน!“ฉันไม่มีบ้าน“ฉันเป็นยัยบ้า ฉันทิ้งบ้านไปแล้ว”โรสทรุดตัวลงกับพื้น คุกเข่า แล้วตบตัวเอง “คุณปู่ ฉันคิดผิด ฉันผิดไปแล
“เขาฉีดโรคเอชไอวีให้ฉัน รักษาระยะห่างของเธอไว้เพื่อที่ฉันจะได้ไม่ส่งผลต่อเธอ” โรสกล่าวใบหน้าของโจเซฟินซีดลง “พี่สะใภ้ เธอไม่ได้โกหกฉัน ใช่ไหม? เธออ้วกไปทั่วตัวฉันเมื่อวานนี้ แล้วฉันก็นอนกับเธอด้วย”“ทำไมฉันต้องโกหกเธอล่ะ? ไอ้พี่ชายสารเลวของเธอทำเกินกว่าเหตุมากไปแล้ว ถ้าเขาเกลียดฉัน เขาก็สามารถเอามีดแทงฉันจนตายก็ได้ แต่ทำไมเขาถึงใช้วิธีที่ไร้ยางอายเช่นนี้?”ยิ่งโรสพูดถึงเรื่องนี้ เธอก็ยิ่งโกรธและเสียใจมากขึ้น น้ำตาของเธอไหลไม่หยุด “ตอนนี้ฉันเป็นโรคแบบนี้ไปแล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะตายก็ไม่มีใครฝังศพของฉัน ในที่สุดฉันก็ได้เห็นความโหดร้ายและความป่าเถื่อนของเขาแล้ว”โจเซฟินตะลึงเมื่อเธอเห็นโรสเล่าเรื่องราวของเธอด้วยความจริงใจทุกอย่างและได้ยินเสียงครวญครางที่ทำให้หัวใจของเธอฟังดูเหมือนไม่ได้สร้างเรื่องขึ้น ดังนั้น โจเซฟินก็ร้องไห้ออกมาเช่นกัน“นี่คือผลกรรมจากสวรรค์แน่นอน พี่ชายของฉันต้องการแก้แค้นเธอ แต่เขาก็พาฉันเข้าไปในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ตอนนี้ฉันป่วยแล้ว มันก็ไม่เป็นไรถ้าฉันตาย แต่ฉันไม่สามารถกอดหลานชายตัวน้อยที่น่ารักของฉันก่อนที่ฉันจะตายได้... เซ็ตตี้น้อยก็เช่นกัน... ฮือ ฮือ... ”พ
รอยยิ้มปรากฏขึ้นในดวงตาของเจย์เด็ก ๆ วิ่งข้ามถนนด้วยความตื่นเต้นทว่า รถได้เตรียมเลี้ยวหมุนกลับไปอย่างรวดเร็วสีหน้าของเจย์มืดลง...เธอตัดสินใจมาที่ สวนคฤหาสน์ แต่ไม่ลงมาเจอลูก ๆ ของเธอ หมายความว่ายังไง?เจย์เดินไปด้วยสีหน้ามัวหมองเด็ก ๆ กระโจนใส่ข้าง ๆ รถขณะที่พวกเขายืนร้องไห้ออกมา“คุณแม่…”“คุณแม่ ทำไมคุณแม่ไม่ลงมา?”“คุณแม่ หนูคิดถึงคุณแม่…”เซ็ตตี้น้อยและร็อบบี้น้อยเกือบจะหมดลมหายใจจากเสียงโหยหวนและคร่ำครวญอย่างต่อเนื่องเเจ็คสันยืนอยู่ด้านข้าง ในขณะที่ดวงตาคู่สวยของเขาเต็มไปด้วยน้ำตาโรสปิดหน้าและสะอื้น “ฉันเสียใจกับเรื่องนี้ โจเซฟิน ฉันไม่ควรมาที่นี่”โจเซฟินร้องไห้ไปกับเธอ “พี่สาว ไม่ใช่ความผิดของเธอเลย”“โจเซฟิน เราไปกันเถอะ” โรสพูด โดยไม่เต็มใจที่เสียเวลาอยู่ต่อไปแล้วเสียงเด็ก ๆ ของเธอร้องไห้แทบจะทำให้เธอขาดใจโจเซฟินเหยียบเครื่องยนต์รถ กระนั้น เมื่อพวกเขากำลังจะจากไป เจย์ก็มายืนขวางอยู่หน้ารถ ใบหน้าของเขาซีดเซียวทันใดนั้น โจเซฟินก็ดับเครื่องยนต์“พี่ชาย นายมันบ้า!”“ลงมาจากรถซะ!” เจย์คำรามโจเซฟินมองกลับไปที่โรส “พี่คะ เราจะทำยังไงกันดี?”โรสกำลังเกา
โรสม้วนแขนเสื้อขึ้นเผยให้เห็นแขนทั้งสองข้างของเธอที่มีรอยแดงช้ำไปทั่ว เธอตะคอกใส่เขา “นายเห็นสิ่งนี้ไหม? ทั้งหมดนี้เป็นเพราะนาย!”เจย์รู้สึกว่าดวงตาของเขาหดลงขณะที่เขาจับข้อมือของเธอขึ้น “ทั้งหมดนี้เกี่ยวกับอะไร?”เมื่อนิ้วของเขาสัมผัสกับผิวหนังของเธอ โรสก็เห็นความเป็นห่วงและความกังวลในดวงตาของเจย์มันเป็นภาพลวงตาสินะ?เธอไม่ได้ตั้งใจที่อยากจะลงโทษเขา แต่เธอเตะเข้าไปที่เป้าของเขาด้วยกำลังทั้งหมดของเธอเจย์อดไม่ได้ที่จะจุกจนเดินโซเซ—“โจเซฟิน ขับรถออกไปเร็ว” โรสคำรามด้วยอาการจิตตกเสียงแตรรถดังนานและดังขึ้นในทางกลับกัน เด็ก ๆ วิ่งไล่ตามรถพร้อมกับร่ำไห้ “คุณแม่ คุณแม่ กลับมาเถอะ อย่าทิ้งเราไปได้ไหม?”น้ำตาไหลท่วมใบหน้าของโรสขณะที่เธอร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังเจย์มองดูขณะที่รถเร่งความเร็วออกไปในระยะไกล เสียงร้องโหยหวนของลูก ๆ ของเขากระตุ้นความปรารถนาอันแรงกล้าของเขาที่จะเอาชนะให้ได้มันกลับคืนมา“เจนสัน กลับมา ทุกคนเลย กลับมา”เด็ก ๆ มองกลับมาที่เขา โดยที่ทำอะไรไม่ถูก“ทำไมคุณแม่ถึงทิ้งหนูไปอีกคะ?” เซ็ตตี้น้อยถามอย่างเศร้า ๆเจย์เดินไปหาเธอแล้วลูบหัวเธอ “คุณแม่ป่วย และเธอไม่สบ