การแสดงออกของ สแตนลีย์ เบล เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง บุคคลเดียวที่มีอำนาจควบคุมหุ้นของบริษัท เบล นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก เจย์ อาเรสหลังจากที่ก้าวช้าเกินไปเขาก็ตระหนักว่าเมื่อนักลงทุนทั้งหมดถอนตัวออกจากโครงการ ไม่ใช่เพราะบริษัทย่อยเป็นผู้ตัดสินใจเอง แต่นั้นคือ พวกเขาได้รับคำสั่งจากเจย์เมื่อเขานึกถึงความสัมพันธ์ล่าสุดที่เขามีกับเจย์ แม้แต่คนโง่ก็สามารถบอกได้ว่าทำไมเจย์ถึงโจมตี“ท่านอาเรส โอ้ ท่านอาเรส คุณจะโหดร้ายต่อบริษัท เบล ได้อย่างไรเพียงเพราะแค่ผู้หญิงคนหนึ่งอย่างนั้นเหรอ? คุณไม่รู้หรือว่าผู้หญิงคือต้นตอของปัญหาทั้งหมด”แนนซี่หน้าซีดเมื่อได้ยินสิ่งที่พ่อของเธอคร่ำครวญ เธอรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม ‘นั่นคือ โรส ลอยล์ ที่คุณสมบัติไม่ตรงกับฉันในทุกด้าน ไม่ต้องพูดถึงเลย ถ้าเปรียบกับที่เธอมาจากภูมิหลังที่ต่ำต้อยกว่าฉันอีก ทำไมท่านอาเรสถึงปฏิบัติกับเธออย่างดีและทำให้บริษัทเบลเป็นศัตรูของเขาได้?‘ฉันทุ่มเทให้เขาด้วยความรักใคร่ของฉันมาหลายปีแล้ว แต่ทำไมกัน ฉันไม่สามารถเอาชนะพวกที่เป็นต้นไม้ป่าทึบได้งั้นเหรอ?’“พ่อคะ เป็นความจริงเหรอคะ ที่ท่านอาเรสต้องการแก้แค้นบริษัท เบล เป็นเพราะ โรส ลอย
ท่านปู่อาเรสจะเข้าข้างหลานชายของเขาอย่างแน่นอนหากใครก็ตามที่ต่อต้านเจย์ในทางกลับกันเมื่อประธานเบลได้รับคำตอบจากท่านปู่อาเรส เขาก็หมดความหวังอย่างสิ้นเชิงเขาถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และจ้องมองไปที่แนนซี่ “แนนซี่ คนที่ผูกปมเรื่องนี้ต้องแก้มัน ปัญหานี้เริ่มต้นขึ้นเพราะลูก บางทีลูกควรไปหาท่านอาเรสและขอโทษเขาซะนะ”แนนซี่พึมพำแล้วตอบกลับ “โอเค เข้าใจแล้วค่ะ”ตราบใดที่เธอไม่จำเป็นต้องขอโทษ โรส ลอยล์ เธอก็จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยบริษัท เบลแนนซี่บรรจงแต่งหน้าตัวเองอย่างตั้งใจจนพอใจกับรูปลักษณ์ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังแกรนด์ เอเซียแนนซี่เดินตรงไปที่ห้องทำงานท่านอาเรสตามปกติโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม คราวนี้ เมื่อออกจากลิฟต์ที่ชั้นเก้า เธอเห็นเกรย์สันยืนพิงกำแพงหินอย่างสบาย ๆ โดยยืนกอดอกอยู่ เขามีรอยยิ้มปริศนาบนใบหน้า“คุณเบล ผมกลัวที่จะแจ้งให้คุณทราบว่าวันนี้ประธานของผมจะไม่ขอพบแขกคนใดเลยนะครับ”การแสดงออกของแนนซี่ดูอึดอัดขณะที่เธอมองไปยังทิศทางของห้องทำงานท่านประธานที่ในครั้งหนึ่งเป็นสถานที่ที่เธอสามารถเข้ามาแวะเยี่ยมได้อย่างอิสระ แต่แล้ว ตอนนี้เธอถูกห้ามไม่ให้เข้าพบ“เกรย์สัน
แนนซี่ดูเหมือนว่าเธอได้ยินสิ่งที่ไม่อยากทำ “เป็นไปไม่ได้ ฉันขอโทษผู้หญิงที่ไร้การศึกษาคนนั้นไม่ได้”เกรย์สันได้เสนอเรื่องนี้ของเขาแล้ว แต่เมื่อฟังการโต้แย้งจากเธอจึงหมดความอดทน เขาพูดอย่างเย็นชา “ถ้าอย่างนั้น คุณเบล รอดูได้เลยว่า บริษัท เบล จะต่อสู้อย่างไรในน้ำลึก บางที - คงใกล้จะล้มละลายแล้วล่ะครับ บริษัท ลอยล์ ที่ทุกคนเรียกร้องให้เอาชนะและในตอนนี้จะกลายเป็นบริษัทอนาคตของคุณที่จะล้มละลายแทน”แนนซี่มักจะเย้ยหยันที่บริษัทลอยล์ซึ่งใกล้จะล้มละลาย ด้วยเหตุนี้ ความคิดที่ว่าบริษัท เบล ที่โดดเด่นจะถูกลดสถานะเป็นเหมือนบริษัท ลอยล์ ที่กำลังถูกเยาะเย้ยจากผู้คนทั่วเมือง กลับกลายเป็นหัวใจที่เย่อหยิ่ง และความสง่าที่เป็นดั่งเจ้าหญิงของเธอก็เริ่มจมลงในหลุมแห่งความกลัวทีละนิด“ได้โปรดเถอะนะ ให้ฉันพบท่านอาเรส”เกรย์สันมองไปที่คุณนายเบลผู้เย่อหยิ่งราวกับว่าเธอเป็นสุนัขจรจัดและอดไม่ได้ที่จะขบริมฝีปากของเขา เขากล่าวอย่างเสียใจว่า “คุณนายเบล ยกโทษให้ผมด้วยที่ไม่สามารถช่วยคุณได้”จากนั้นแนนซี่ก็ไม่สนใจภาพลักษณ์ส่วนตัวของเธอและตะโกนว่า “ท่านอาเรส ฉันชื่อแนนซี่โปรดออกมาพบฉันหน่อย ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้ว”
เสียงแตรรถดังขึ้น และประตูเหล็กแกะสลักดูเหมือนจะรับรู้ได้ถึงออร่าของเจ้าของบ้านที่กำลังเข้ามาเมื่อมันเปิดออก ต่อจากนั้น รถโรลส์ - รอยซ์ สุดหรูก็ขับเข้าไปข้างในอย่างช้า ๆทันใดนั้น หน้าต่างรถก็เปิดออก และเจย์ อาเรส ก็ชะเง้อหน้าออกไปมองที่ โรส ลอย์แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดหรือทำอะไรเลยนอกจากมองไปที่เธอ แต่ดวงตาที่น่าทึ่งของเขาก็มีชีวิตชีวา ดวงตาคู่นั้นทำให้โรสรู้สึกเคลิบเคลิ้ม“ท่านอาเรส นายกลับมาแล้วเหรอ?”โรสลงจากวงสวิงของชิงช้า เธอรู้สึกประหลาดใจ ท้ายที่สุดแล้ว สถานที่แห่งนี้ก็ค่อนข้างไกลจากที่เขาทำงาน ดังนั้น เธอจึงคิดว่าเขาจะไม่กลับมาเจย์จอดรถไว้ตรงทางเปิดประตูและลงจากรถเขายืนอยู่ตรงหน้าโรสพร้อมกับรอยยิ้มตื้น ๆ แสดงออกถึงดวงตาของเขา เขาพูดด้วยความร่าเริงว่า “เธอรอฉันอยู่เหรอ?”ความหวังในฉากนับไม่ถ้วนที่เขาจินตนาการมาก่อนนั้น รวมถึงแองเจลีนนั่งอยู่บนชิงช้าและรอให้เขากลับบ้านมันจบลงด้วยความเป็นจริงในวันนี้โรสรู้สึกเขินเล็กน้อย เธอยื่นมือไปจัดผมที่หลังหูของเธอและพูดอย่างเชื่องช้า “ท่านอาเรส ฉันมีข้อสงสัยมากมายในใจ ฉันจะคุยกับนายได้ไหม?”เจย์กล่าวว่า “ยังมีเวลาอีกนานมากในการพิ
หลังจากออกมาจากห้องอาบน้ำ เจย์ก็เหลือบมองไปที่ทางเดินที่มีแสงสลัวบนชั้นสอง เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าประตูห้องนอนทุกบานปิดแน่นเขาบอกโรสและเด็ก ๆ ให้เลือกห้องที่พวกเขาชอบ และดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งหมดจะหลีกเลี่ยงการเลือกห้องนอนใกล้ ๆ จากที่เขาอยู่เขาน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?เจย์เดินลงไปชั้นล่าง มองเห็นคนรับใช้ แม่แซคคารี่ กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารเย็นเมื่อเห็นเจย์ แม่แซคคารี่ก็พูดอย่างใจดีว่า “นายท่าน อาหารเย็นจะพร้อมเสิร์ฟแล้วเร็ว ๆ นี้ ดิฉันจะไปเรียกนายหญิงและเด็ก ๆ ลงมาทานอาหารเย็นนะ”เดิมแล้ว แม่แซคคารี่เป็นซุปเปอร์เชฟในบริษัท อสังหาริมทรัพย์ ทัวร์มาลีน เธอเป็นคนที่อยู่ที่นั่นเป็นเวลานานที่สุด แม่ของเจย์ได้ช่วยเธอแก้ปัญหาครอบครัวของเธอมากมาย ดังนั้นแม่แซคคารี่ผู้แสนกตัญญูจึงใจดีกับภรรยาคนแรกของครอบครัวอาเรสมาโดยตลอด เธอมองว่าเจย์เป็นลูกของเธอเองด้วยซ้ำเจย์ยังไว้วางใจแม่แซคคารี่มาก ดังนั้นเขาจึงพาแม่แซคคารี่ออกไปโดยไม่คำนึงถึงการคัดค้านของภรรยาคนอื่น ๆ เขาอนุญาตให้เธอดูแลโรสและลูก ๆ ของเขาทักษะการทำอาหารและอันดับทางศีลธรรมของแม่แซคคารี่เป็นสิ่งที่ดีที่เขาเชื่อใจ และเป็นสิ่
เธอแค่ไม่ต้องการที่จะย้ายเจย์พูด “แต่แม่แซคคารี่ของฉันแก่เกินไปที่จะเดินขึ้นบันไดแล้ว”โรสทำได้แค่ยอมจำนนดังนั้น หลังอาหารค่ำ โรสจึงขึ้นไปชั้นบนเพื่อย้ายข้าวของของเธอเจย์เรียกเด็กน่ารักทั้งสามคนว่า “ลูก ๆ เลือกห้องไหนก็ได้บนชั้นสองนะ แต่อย่าลืมอยู่ห่างจากคุณพ่อด้วย”เจนสัน อาเรส สอดมือข้างหนึ่งไว้ในกระเป๋ากางเกงและพยักหน้าอย่างเย็นชา “ผมเข้าใจแล้วครับ”ร็อบบี้น้อยรู้สึกสับสนเล็กน้อยและถามเจนสันว่า “เจนส์ ทำไมพ่อไม่ปล่อยให้เราอยู่ข้าง ๆ เขาล่ะ?”เจนสันพูดโดยไม่หันกลับไปมองว่า “นั่นเป็นเพราะนายไม่ใช่แม่”ร็อบบี้น้อยมีความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งทันที “โอ้!”เซ็ตตี้น้อยทำหน้าตาบูดบึ้งใส่เจย์ “ไม่มีใครอยากอยู่ข้าง ๆ คุณลุงหรอก!”เมื่อโรสย้ายเครื่องใช้ในห้องน้ำของเธอลงมาจากชั้นสี่ เธอพบว่าห้องส่วนใหญ่บนชั้นสองถูกเด็กซนทั้งสามเข้าใช้งานจนเต็มเหลือแต่ห้องข้าง ๆ เจย์ห้องทั้งสามห้องที่อยู่ห่างจากห้องคุณพ่อของพวกเขามากที่สุดถูกครอบครองโดยเจนสันซึ่งจะใช้เป็นห้องศึกษา ห้องนอน และห้องของเล่นของเขาสำหรับร็อบบี้น้อย เขาอาศัยอยู่ในห้องสามห้องถัดจากเจนสัน เป็นห้องนอน ห้องเปียโนและห้องออกก
“ท่านอาเรส ทำไมห้องนี้ถึงได้รับการตกแต่งที่แตกต่างจากห้องอื่น ๆ?” โรส ลอยล์ รู้สึกประหลาดใจคฤหาสน์เน้นความเรียบง่ายและสง่างามโดยรวม เว้นแต่ว่า ห้องนั้นดูคลาสสิกและชวนฝันเหมือนกับห้องส่วนตัวของเด็กผู้หญิงในสมัยโบราณเจย์ อาเรส จ้องไปที่โรสที่มีสีหน้าประหลาดใจบนใบหน้าของเธอ ต่อจากนั้น เขาเม้มริมฝีปากอย่างร่าเริง “เดาสิ?”โรสจ้องมองเขาอย่างว่างเปล่าและความทรงจำของเธอย้อนกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนแองเจลีน เซเวียร์ ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งร้ายแรง และหลังจากดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดเธอก็ได้ยินข่าวที่น่าตกใจว่าเจย์กำลังจะแต่งงาน แต่ว่า เจ้าสาวไม่สามารถปรากฏตัวในฉากแต่งงานได้ด้วยเหตุผลบางประการ -สำหรับเธอตัวตนตอนนี้ เธอใช้กลอุบายบางอย่างเพื่อดึงดูดความสนใจของเขาได้สำเร็จและทำให้เขาเลือกตัวเธอเองเป็นภรรยาของเขาท่ามกลางฝูงชนเธออยากรู้มาตลอดว่าใครคือเจ้าสาวที่ไม่ใช่สำหรับเขา?เธอเป็นผู้หญิงที่เจย์ห่วงใยอยู่ ใช่ไหม?“การออกแบบนี้ออกแบบมาเพื่อผู้หญิงที่คุณชอบ!” เธอไม่สามารถซ่อนความขุ่นมัวของเธอได้ และเสียงของเธอก็ฟังดูต่ำมากเจย์พยักหน้า “ใช่”ห้องนี้ออกแบบมาสำหรับแองเจลีนจริง ๆ! เขาเพีย
เจย์มองไปที่โรสที่งุนงง เขาก้มหน้าลงทันทีทันใด แล้วจูบที่ริมฝีปากของเธออย่างหลงใหลทันใดนั้น โรสก็เหมือนวิญญารออกจากร่างเขาเป็นเหมือนดั่งทะเลเพลิง และเธอกลายเป็นประกายไฟที่ลุกโชนโดยเขา เกือบจะในทันที เธอเหมือนถูกลดขนาดเป็นขี้เถ้าในวินาทีนี้หลังจากได้สติ เธอก็ผลักเขาออกไป ในทางกลับกัน เขาเลียริมฝีปากบาง ๆ ที่เซ็กซี่และมีเสน่ห์ของเขาโรสรู้สึกเขินอายทำให้แก้มของเธอเริ่มแดง“ท่านอาเรส ถ้านายไม่ชอบฉัน อย่ายั่วโมโหฉัน” เธอตำหนิเขาอย่างไม่พอใจเจย์ยกคางของเธอขึ้น “โรส ลอยล์ เรากำลังจะแต่งงานกันอีกไม่นานนะ เธอคิดว่าฉันจะยังคงยอมบริสุทธิ์หลังจากที่เราแต่งงานกันเหรอ?”โรสมองเขาด้วยความประหลาดใจ——ความปรารถนาของเขากำลังเผาไหม้ในร่างกายที่เย็นฉ่ำของเขา“ท่านอาเรส นายไม่รู้สึกผิดเหรอ?”“ฉันดีใจที่ได้อดทนกับความยากลำบากนี้” เขาพูดออกมา“แต่ฉันรู้สึกผิด——” เธอลุกขึ้นยืนและพูดทั้งน้ำตา “ฉันไม่สามารถเผชิญหน้ากับผู้ชายที่เกลียดฉันได้ ในขณะที่ตัวฉันยังคงรักษาท่าทางที่เป็นกุลสตรีของตัวเองเอาไว้ ฉันก็ไม่สามารถ——เผชิญหน้ากับผู้ชายที่ทำร้ายฉันมาก่อน ตั้งแต่ตอนที่ฉันมอบหัวใจให้กับเขาได้”ใครบอก