เจย์แสดงความคิดเห็นของเขาในปัญหานี้แทนตระกูลอาเรส "ผมจะสอบสวนเรื่องนี้ คุณเบล ผมสัญญาว่าจะหาคำอธิบายมาให้คุณ"เขามองที่โรสอย่างต้องการคำตอบแล้วกัดฟัน "ผมจะจัดการกับโรสเช่นกัน"หัวหน้าตระกูลเบลกล่าว "ได้โปรดทำ นายท่านอาเรส! แค่มอบบทลงโทษเล็กน้อยเป็นการเตือนเธอก็พอ ผมไม่ต้องการให้ใครถูกฆ่า" เขาหายไปทันทีที่พูดจบด้วยความกลัว โรสตะโกนไปที่ตระกูลเบลที่กำลังจากไป "นายท่านชราแห่งเบล ฉันยอมรับการลงโทษจากคุณ ฉันจะคุกเข่าให้คุณ ฉันขอร้อง อย่าปล่อยฉันไว้กับเจย์ เจ้าราชาปีศาจนี่!"สายตาของเจย์จ้องที่โรส เขากล่าวอย่างน่าขนลุก "มากับฉัน"โรสกอดเสาไม้สไตล์ยุโรปถัดจากเธออย่างแน่นหนาเหมือนเธอพยายามจะซึมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของมันหลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เจย์ก็หันกลับมาแล้วเห็นว่าโรสยังอยู่ในจุดเดิม ความเย็นยะเยือกก่อขึ้นในดวงตาของเขาทันที"โรส?" เสียงของเขาบรรจุไว้ด้วยแรงกดดันรุนแรงของภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิดโรสจ้องเจย์อย่างน่าสงสาร "ท่านอาเรส นายไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้สักหน่อย นายไม่จำเป็นต้องสร้างปัญหาให้ตัวเอง ฉันจะไปที่เขตพื้นที่ของตระกูลเบลแล้วขอความเมตตาให้พวกเขาลงโทษฉันเอง"หากเธอตกอยู่
ความคิดของโรสเหมือนจมโคลน เธอไม่สามารถคิดอย่างใจเย็นและมีเหตุผลได้เมื่อเธออยู่ต่อหน้าท่านอาเรส เธอเริ่มพูดอย่างไม่เป็นธรรมชาติ "ใบหน้า จมูก และปากของเธอใหญ่กว่าของนาย ท่านอาเรส..." ใบหน้าของเจย์นั้นใหญ่เท่ากับฝ่ามือ มันเหมือนผลงานชิ้นเอกที่สลักจากสวรรค์ ไม่มีส่วนใดที่เกินความจำเป็นเลยด้วยความหมดความอดทน เจย์ผุดขึ้นมาจากเก้าอี้ กวักมือเรียกโรสด้วยการงอนิ้วโรสสับเท้าด้วยความงุนงง เจย์บีบปากของเธอให้ปิดด้วยมือที่เหมือนคีมของเขา และมืออีกข้างก็คว้าเทปยางที่อยู่ถัดจากเขา เขาปิดปากของเธอทั้งหมด"ในเมื่อเธอขาดความสามารถในการแสดงคำพูดของเธอ งั้นเธอก็ควรใช้มือแทน!" เขาอุทานด้วยท่าทางที่สะกดข่ม, หยาบกระด้าง, และโหดร้าย"อื้อ… อื้ออ..." โรสจ้องเจย์ในขณะที่สาปแช่งเขาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ "เจย์ ไอ้สารเลว นายมันชั่ว..."เจย์กลับไปที่เก้าอี้ เขาเลิกคิ้วอย่างเรียบเฉย เขานำกระดาษออกมาแผ่นหนึ่งและปากกาสำหรับวาด เขาส่งมันให้โรส "วาดเธอออกมา"โรสส่ายหัวไม่หยุด นี่มันเป็นอะไรที่เธอสามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนในไม่กี่คำ ทำไมเธอถึงให้เขาวาดแทน?การวาดมันมีปัญหามากไป ไม่ใช่รึไง?อีกอย่าง เขาก็เป็นคนที่
เจย์ฝืนย้ายสายตาของเขาไปที่รูปวาด...นอกจากฝีมือการตวัดปากกาที่ดี มันก็ไม่มีอะไรดีอีกเลยในภาพร่างของเธอ เมื่อมองแยกกัน เครื่องหน้าของคนนี้นั้นเหมือนผลงานชิ้นเองของพระเจ้า แต่เมื่อจับพวกมันมารวมกัน ผลลัพธ์นั้นเรียกได้ว่าเหมือนภาพเหตุการรถชนนี่มันไม่ได้สะท้อนมาตรฐานของแองเจลีนเลยสักนิดเจย์ส่ายหัว เขาริบคืนคำชมของเธอในใจช่างเพ้อเจ้อ ผู้หญิงไร้ยางอายและหยาบกระด้างแบบโรสจะไปเป็นคนที่ไร้ที่ติและงดงามแบบแองเจลีนแบบที่เขาคิดได้ยังไง?แม้แต่นักเรียนศิลปะระดับมืออาชีพยังต้องรู้สึกอับอายอย่างมากเมื่อมองผลงานศิลป์ของแองเจลีนเมื่อมองภาพวาดของโรสอีกครั้ง มันเหมือนเธอพยายามจะวาดนกอินทรีที่โผบินด้วยปีกที่สยาย แต่กลับจบที่วาดออกมาเป็นไก่จิกข้าวสารแทนเจย์คิดว่าเขาต้องหัวกระแทกอะไรมาไม่ก็ตาบอด รึไม่ เขาก็คิดถึงแองเจลีนมากไป บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลที่เขามักจะเห็นภาพลวงตาไร้สาระแปลกประหลาดนั่น"ไปซะ!" ในหัวของเจย์วุ่นวายไปหมด เขาต้องการสงบมันลงโรสได้พักเสียที เธอรู้สึกเหมือนได้รับการยกโทษกลังจากงานเลี้ยง โจเซฟินก็พากลุ่มก้อนความสุขทั้งสามมาให้เจย์แล้วกล่าวอย่างมั่นใจ "เจย์ เจ้าก้อนน่ารักทั้
เธอพยายามอย่างที่สุดเพื่อจะทำตัวดีกับพ่อของเธอตลอดหลายวันมานี้ แต่ดูเหมือนว่าคุณพ่อของเธอก็ยังไม่ชอบเธอเหมือนเดิมเมื่อเจย์เข้าบ้านไปพร้อมอุ้มร็อบบี้น้อย โรสก็นั่งอย่างกระสับกระส่ายอยู่บนโซฟารอลูก ๆ ของเธอ เมื่อเธอเห็นเจย์อุ้มร็อบบี้น้อยผู้หลับไหลมาในมือ ในขณะที่เจนสันจับมือเซ็ตตี้น้อยที่ดูง่วงเหงาหาวนอนมา หัวใจของโรสก็จมดิ่งลงเล็กน้อยโรสรู้จักกันดีในด้านการบังคับ แต่เมื่อเห็นว่าเขาแม้แต่เลือกปฏิบัติกับเด็ก ๆ ด้วย เธอจึงมองเขาในแง่ร้ายมากในตอนนี้"คุณแม่" เมื่อเซ็ตตี้น้อยเห็นแม่ของเธอ เธอก็โยนตัวเองในอ้อมแขนของแม่เธออย่างน่าสงสารโรสลูบหัวน้อย ๆ ของเธออย่างนุ่มนวล เสียงของเซ็ตตี้น้อยแฝงไว้ด้วยร่องรอยของความเสียใจที่แทบสังเกตไม่ได้ มันชัดเจนว่าเธอใจสลายกับการปฏิบัติที่ไม่ยุติธรรมของพ่อเธอโรสอุ้มเซ็ตตี้น้อยขึ้น จับมือของเจนสัน แล้วเดินขึ้นข้างบน"โรส!"สายตาล้ำลึกและเงียบสงบของเจย์ตกไปที่หลังอันบางแต่ยืดหยุ่นของโรสโรสที่ยืนอยู่บนบันไดขั้นบนสุด หันหัวของเธอกลับมา ดวงตาดั่งฤดูใบไม้ผลิของเธอสั่นไหวและผสมกับร่องรอยความต่อต้านและไม่พอใจต่อเขา"มีอะไรให้ฉันช่วยเหรอ ท่านอาเรส?" เสีย
เจย์สำเร็จในการกระตุ้นโรคกระเพาะของเขาในกลางดึกคืนนั้นท้องของเขาปวดมากและเขาพบว่าเขานอนไม่ลงเลย เขาไม่มีทางเลือกนอกจากเดินลงไปเพื่อหายาของเขา และเขาก็จบที่การสะดุดบันได ทำให้โรสต้องตื่นขึ้นมาเมื่อเธอได้ยินเสียงดังโรสเดินมาด้วยเสื้อโค้ทที่พาดไว้บนไหล่ เธอมองเจย์ที่นั่งอยู่ที่บันไดและกุมท้องของตัวเอง เธอรู้ทันทีว่าโรคของเขากำเริบเธอรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็วแล้วแบกเจย์กลับไปที่ห้องของเขา แต่เจย์สูงหกฟุตสอง และไม่มีแรงพอจะช่วยเหลือตัวเองในตอนนั้น โรสขยับเขาไม่ได้เลยเธอไม่มีทางเลือกนอกจากวิ่งลงบันไดไป หลังจากหายาของเขาเจอ เธอก็เทน้ำอุ่นให้เขาแก้วหนึ่งแล้วกลับมาอยู่ข้างเขา เธอป้อนยาให้เขาด้วยตัวเอง"เธอให้บ้าอะไรกับฉัน?" ถึงแม้เจย์จะเจ็บปวดมากและแทบขยับไม่ได้ แต่ด้วยความมุ่งมั่นแรวกล้าของเขายังช่วยให้เขามีสติครบถ้วนอยู่โรสกล่าวอย่างไม่ลังเล "นี่มันยาสำหรับท้องของนาย! ยาเม็ดแมกนีเซียมอลูมิเนียมคาร์บอเนตและโอเมพราโซล!"ความแปลกใจปรากฏบนดวงตาเหยี่ยวของเขา มันมียาแก้ปวดท้องมากมายในกล่องยา แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าเขาใช้ยาเพียงแค่สองชนิดนี้สำหรับอาการกรดไหลย้อนและเยื่อบุกระเพาะอาหารแทนดอมเพอร
หากเป็นแองเจลีน เธอจะไม่ตื่นต่อให้นาฬิกาปลุกดังหากเธออยู่จนดึกดื่น"ผมจะไปเรียกคุณแม่" ด้วยกังวลว่าคุณแม่ของเขาจะนอนอุตุจนคุณพ่อของเขาสอนบทเรียนให้เธอเมื่อเขารู้เข้า เจนสันผู้ชาญฉลาดจึงตัดสินใจจะขึ้นไปข้างบนเพื่อปลุกแม่ของเขาก่อนที่คุณพ่อจะทำให้เธอลำบาก"ปล่อยให้เธอนอน เจนส์!"เจนสันหันไปมองความเมตตาของพ่อเขาอย่างประหลาดใจ"คุณพ่อ ดูเหมือนคุณพ่อจะไม่ได้เกลียดคุณแม่อีกแล้ว!" เจนสันอุทานหลังจากผ่านไปนาน เขาซ่อนความตื่นเต้นไม่อยู่เจย์นำเบเกิลที่เขาทำออกมา เจนสันมองเบเกิลแล้วถาม "คุณพ่อ คุณพ่อทำมื้อเช้าจริงเหรอเนี่ย?"เจนสันคิดว่าพ่อของเขาดูแปลกไปนิดหน่อยในวันนี้เจย์ขมวดคิ้วใส่เจนสัน "ลูกดูพูดเยอะนะวันนี้"เมื่อถูกกล่าวหาอย่างหนัก เจนสันปฏิเสธทันที "เปล่าสักหน่อย"เมื่อคิดได้ว่านั่นมันไม่เหมาะสมมากที่เขาจะพูดกับลูกชายออทิสติกของเขา เขารีบแก้สถานการณ์ทันที "คุณพ่อหวังว่าลูกจะทำแบบนี้ต่อไป"ในตอนนั้นเอง โรสก็พุ่งลงมาข้างล่างด้วยความตื่นตระหนก เมื่อเธอเห็นว่ามื้อเช้าถูกวางลงบนโต๊ะแล้ว เธอก็ตะลึงและงุนงง"ขอโทษ ฉันตื่นสาย" โรสเกาหัวที่กระเซอะกระเซิงของเธอแล้วมองเจย์ด้วยท่าทางรู้สึ
เจย์เตือนเจนสันด้วยการจ้องเขาอย่างเคร่งขรึม เด็กคนนี้อาศัยอยู่กับเขาในขณะที่ช่วยคนอื่นอย่างลับ ๆ เด็กคนนี้สัญญาแล้วว่าเขาจะไม่ยุ่งกับความสัมพันธ์ของเขา แล้วทำไมเขาถึงไปเข้าข้างร็อบบี้น้อยเพื่อต่อต้านเขาซะแล้ว?โรสเขี่ยเบเกิลของเธอด้วยหัวที่ก้มต่ำ เธอทำเป็นไม่ได้ยินที่ลูกชายของเธอพยายามยุให้เจย์จีบเธอเธอรู้โดยไม่ต้องมองด้วยซ้ำว่าเจย์กำลังดูไม่พอใจอย่างมากตอนนี้"โรส..." เสียงเบา ๆ ของเจย์ดังเหมือนมีมนต์ขลังมือของโรสปล่อยเบเกินในมือลงพื้นโต๊ะดังตุบ เจย์ขมวดคิ้ว นี่เธอกลัวขนาดนั้นเชียว?"เธอมีความบาดหมางอะไรกับสเตฟานี สตีเวนส์?" เจย์ยังไม่อารมณ์เสีย ถึงแม้ว่าเธอจะทำผิดซ้ำซาก ตรงกันข้าม เขาเปลี่ยนหัวข้อคำถามเธอด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงอย่างมากโรสวางช้อนส้อมลงแล้วประท้วงด้วยเสียงกระซิบ "ท่านอาเรส ฉันอาจจะไม่ใช่ธนบัตร 100 ดอลลาร์ ที่ทุกคนชอบ แต่มันก็ไม่ได้มีเหตุผลให้ฉันต้องไปยั่วยุคนอื่นนะ ใช่ไหม? ใครคือสเตฟานี สตีเวนส์? ฉันจะไปล่วงเกินเธอได้ยังไงถ้าฉันไม่แม้แต่จะรู้จักเธอด้วซ้ำ?"เจย์เบิกตาขึ้นและจ้องเธออย่างสงสัย "เธอเป็นผู้หญิงที่พยายามใส่ร้ายเธอกับฌอนเมื่อวาน"โรสเข้าใจทันทีและเริ
เมื่อเขาเร่งมาที่ แกรนด์ เอเซีย เขาก็พบเกรย์สันที่กำลังถือเอกสารหนาเตอะในขณะที่รอเขาอยู่ที่ออฟฟิศประธาน"ให้ฉันดูมัน" เจย์สั่งอย่างกระตือรือร้นทันทีที่เขานั่งลงเกรย์สันเดินมาข้างหน้าแล้วเทเอกสารทุกอย่างลงมันมีรูปถ่ายกองหนึ่งจดหมายบางฉบับรูปวาดหลายรูปและซีดีหลายแผ่น!เมื่อเจย์เห็นรูปวาดสีเอิร์ธโทนที่ดูสร้างสรรค์ของโรส ดวงตาที่ชัดเจนและเป็นประกายของเขาก็พลันแดงฉานทันทีนี่มันรูปภาพของแองเจลีน เธอชอบเขาและมักจะส่งดอกกุหลาบให้เขาเสมอ ต่อมา เมื่อเธอพบว่าดอกไม้มักจะเหี่ยวเสมอ ดังนั้นเธอจึงเริ่มวาดรูปดอกกุหลาบให้เขาแทน ภาพโทนสีเอิร์ธโทนเป็นโทนโปรดของเจย์ ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนสีแดงของกุหลาบแทน"ฉันบอกให้นายไปตรวจเบื้องหลังของโรส ไม่ใช่เหรอ? พวกนี้มันอะไร?" เจย์ถามด้วยแสบแหบแห้งเกรย์สันอธิบาย "สิ่งของพวกนี้เป็นของคุณเซีเวียร์ผู้ล่วงลับ"เจย์กล่าวอย่างเจ็บปวด "ฉันรู้ ฉันถามว่าทำไมพวกมันมาอยู่ที่นี่ตอนนี้?"เกรย์สันตอบ "อย่ากระวนกระวายเลยครับ ท่านอาเรส ได้โปรดใจเย็นแล้วฟังสิ่งที่ผมจะบอกคุณก่อนครับ"เจย์เก็บอารมณ์ที่เดือดพล่านและโหมกระหน่ำไว้ในใจ เขาพยายามสงบใจลงเกรย์สันอธิบาย